อาเดียว
ที่กลางตรอก วชิระที่ปลอมเป็นคนเข็นผักกำลังซุ่มดูตึกหลังหนึ่ง มันคือตึกของสมาคมการค้าตรอกมังกร นับตั้งแต่วันที่เขาได้เจอกับวิญญาณของส้มแป้น เขาก็เดินทางมาที่ตรอกแห่งนี้ตามการชักนำของเธอ ระหว่างทางส้มแป้นเล่าให้ฟังว่าพ่อของเธอกำลังวางแผนบางอย่าง เขานำคนมาขนทองที่ปล้นมาเก็บไว้ในอุโมงค์ใต้บ้านปูนทอง จากนั้นก็ไปพบกับคนน่าสงสัยหลายคน น่าเสียดายที่บริเวณอาคารติดยันต์ป้องกันวิญญาณไว้ ทำให้ส้มแป้นไม่อาจเข้าไปแอบฟังได้ว่าพ่อของเธอกับคนอื่น ๆ วางแผนอะไรกัน เธอต้องการให้วชิระลองสืบดู วชิระจึงพยายามปลอมตัวด้วยฐานะต่าง ๆ เพื่อเนียนเข้าไปสืบข่าว แต่เนื่องจากภายในสมคมมีการดูแลเข้มงวด เขาจึงไม่สามารถล่วงลึกเข้าไปถึงตัวอาคารด้านใน วชิระจึงทำได้เพียงเก็บรวบรวมข้อมูลมาหารือกับส้มแป้นซึ่งมายืนค้ำหัวชะโงกลงจ้องหน้าเขาทุกคืนในห้องเช่าเล็ก ๆ หลังตรอก
ข้อมูลที่วชิระและส้มแป้นรวบรวมได้คือ
- ตัวตึกสามคมการค้าแบ่งเป็นส่วนหน้าและส่วนใน ส่วนหน้าคือโถงรับรอง ห้องประชุม และเคาเตอร์ติดต่องานสมาคม พ่อค้าและคนทั่วไปสามารถเข้าออกได้ มีเจ้าหน้าที่ของสมาคมดูแล สำหรับส่วนหลังเป็นที่ทำงานและที่อยู่อาศัยของหัวหน้าสมาคม อาเดียว เหินฟ้า และอาตี๋ พักอยู่ที่นี่
- อาเดียวไม่ใช่หัวหน้าสมาคม แต่ทำหน้าที่แทนเนื่องจากหัวหน้าสมาคมป่วย (ส้มแป้นบอกว่าหัวหน้าสมาคมตายแล้ว ศพถูกแอบนำออกไปเผาเป็นขี้เถ้าที่ชานเมืองหลายวันก่อน
- ทองที่ขโมยมาถูกเก็บไว้ในตัวตึกส่วนหลัง
- มีกลุ่มคนท่าทางมีพิรุธมาพบอาเดียวหลายคน กลุ่มแรกน่าจะเป็นพวกทีไปปล้นทองกลับมา ต่อมาเป็นคนที่ถูกพามาพบครั้งหนึ่งหลังจากนั้นหลายวันจึงกลับมา จากนั้นก็ถูกห่อกลับออกมาจากตึกแล้วไปจบที่ชานเมืองแบบเดียวกับหัวหน้าสมาคม
- วันนี้สมาคมดูคึกคัก คนของอาเดียวถูกเรียกระดมมาที่ตึกสมาคม จากนั้นก็พาพาอาวุธแยกย้ายไปประจำตามจุดต่าง ๆ ทั่วตรอก การรักษาความปลอดภัยของตึกแน่นหนา เหินฟ้ากับอาตี๋ก็ออกไปจากตึกด้วย ส่วนอาเดียวน่าจะยังอยู่ในตึก ตกบ่าย ชายใหญ่ถูกพามาที่ตึกและเดินเข้าไป เขายังไม่ออกมา
วชิระที่ยังอยู่ในสภาพปลอมตัวเป็นคนเข็นผัก นั่งหลบแดดอยู่ข้างตึกจะทำอะไรดี
นายแสงกับบุษบา ไปทางตะวันตก
พระแสงแม้จะบวชแล้ว แต่เมื่อบารอนน้อยมานิมนต์ก็ยินดีติดตามมาด้วยพร้อมกับบุษบา
พระแสงในชุดจีวรสีกรักน่าเลื่อมใส ละวางจากเส้นทางสายนักเลง ไม่อาจร่วมต่อสู้ได้
บุษบา พกไม้พลองเหล็ก หน้าไม้และเป้ใส่อุปกรณ์นักผจญภัยมาด้วย แม้เธอจะต่อยตีไม่เก่ง แต่อย่างน้อยก็ร่ำเรียนทักษะของตระกูลมา
ทั้งสามคนเสียเวลาไปบ้างทำให้มาล่าช้ากว่าสมาชิกในบ้านคนอื่น ๆ
ประตูตะวันตกเป็นเขตของร้านค้าที่มักเปิดช่วงกลางคืน เช่น โรงน้ำชา โรงงิ้ว ร้านอาหารโต้รุ่ง ช่วงนี้เป็นช่วงบ่าย จึงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างเงียบสงบมีเพียงคนที่เดินผ่านไปมานาน ๆ ที ร้านต่าง ๆ ยังไม่เปิดเว้นแต่โรงงิ้วที่เปิดประตูด้านหน้าแล้ว ได้ยินเสียงม้าล่อดังออกมา
ลึกเข้าไปด้านในตรอก มีกลุ่มคนท่าทางอันตรายนับสิบคนยืนเกาะกลุ่มจับตาดูคนที่เดินทาง บางครั้งก็ตรงรี่เข้าหาคนที่จะเดินผ่านแล้วไล่กลับไม่ยอมให้เดินผ่าน เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะไม่ยอม ก็เปิดเสื้อให้เป็นอาวุธที่เหน็บอยู่ตรงเอว เท่านั้นคนที่จะเข้าไปก็ต้องเปลี่ยนใจถอยกลับ
ไม่รู้คนอื่น ๆ ในตระกูลอยู่ไหน ผ่านเข้าไปได้รึเปล่า บารอนน้อยจะทำไงต่อดีล่ะ
จุดสำรวจ
- กลางถนน
- โรงงิ้ว
- โรงน้ำชา
- ร้านอาหารโต้รุ่ง
-กลุ่มคนท่าทางอันตราย
สมหญิงกับตัวประกอบ10คน
ประตูตะวันออก
สมหญิงตัวสั่น แต่ก็ยินดีมา เธอรวมผมยาวเหยียดซ่อนไว้ใต้หมวกใบเล็กอย่างมิดชิด เอาหนวดปลอมเล็ก ๆ มาปิดเหนือริมฝีปาก ดูแล้วเหมือนผู้ชายไม่มีผิด...ซะที่ไหนกันเล่า
สาวใช้ตัวประกอบ 10 คน มีไม้ขนไก่ กะทะ ตะหลิว ไม้กวาด ประมาณนั้นเป็นอาวุธ พวกเธอมีลูกฮึดเป็นหลัก
อนงค์และคณะเสียเวลาระหว่างทางทำให้มาล่าช้ากว่าสมาชิกในบ้านคนอื่น ๆ
เขตประตูตะวันออกเป็นธุรกิจการค้าทั่วไป ร้านรวงทั่วไปจะเปิดอยู่ฝั่งนี้้ มีทั้งตลาด แผงลอยริมทาง ร้านอาหาร ร้านหมอสมุนไพร มีผู้คนเดินกันขวักไขว่ มองลึกเข้าไปผด้านในตรอก มีกลุ่มคนท่าทางอันตรายนับสิบคนยืนเกาะกลุ่มจับตาดูคนที่เดินผ่าน บางครั้งก็ตรงรี่เข้าไปประกบคนที่จะเดินผ่าน แม้จะไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น แต่คนส่วนใหญ่ที่เป็นพ่อค้าธรรมดาก็จะรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้วหันกลับมา ไม่เข้าสู่ส่วนลึกของตรอกไปเอง
ไม่รู้คนอื่น ๆ ในตระกูลอยู่ไหน ผ่านเข้าไปได้รึเปล่า อนงค์จะทำไงต่อดีล่ะ
จุดสำรวจ - กลางถนน
- ตลาด
- ร้านอาหาร
- ร้านหมอสมุนไพร
- กลุ่มคนท่าทางอันตราย