* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [Dragone] Main Story & Event  (Read 5214 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Johan

[Dragone] Main Story & Event
« on: December 12, 2015, 12:36:41 AM »
เหตุการณ์ความเป็นไปที่เป็นเรื่องราวหลักของเกมจะดำเนินผ่าน Event ซึ่งจะเกิดขึ้นเป็นช่วง Event
โดยปกติตัวละครจะเข้าร่วม Event ได้โดยไม่จำกัดเงื่อนไขของสถานที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร ทุกคนจะส่งตัวละครเข้าสู่ Event ได้
*อาจจะหาทางแถบทเอาว่ามาที่นี่ได้ยังไง

รางวัลใน Event จะมากกว่าช่วง Role-play หรือเรียกได้ว่ามากที่สุด แต่ระดับความยากก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ตัวละครที่ส่งเข้าสู่ Event จะถูกบันทึกด้วย Status ณ ช่วงเวลานั้น ไม่รวมสิ่งที่หยิบยืมมาเป็นกรณีพิเศษ
การหมดสภาพใน Event จะไม่เสีย Exp หรือได้รับการลงโทษ เพียงแค่ไม่ได้รางวัลอย่างที่ควรจะได้ หรืออาจจะไม่ได้อะไรเลย
« Last Edit: December 12, 2015, 12:37:08 AM by Johan »

 

Offline Johan

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #1 on: December 12, 2015, 12:45:36 AM »
Chapter 1



ทางใต้ของอาณาจักร Fatimah ที่เคยเป็นผืนน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาลถูกเรียกว่ามหาสมุทร Nazarea
ในอดีตหลายร้อยปีก่อน และย้อนไปเกือบพันปีก่อน มันเคยลุกเป็นไฟมาแล้วเมื่อเหล่าโจรสลัดเรืองอำนาจ

สงครามโจรสลัดครั้งที่สองจบลงเมื่อราชาแห่งโจรสลัดกว่าครึ่งจบชีวิตลงในสงครามนั้น และความสงบสุขได้ดำเนินมายาวนานกว่า 400 ปี

แต่วันนี้เพลิงสงครามกลับปะทุขึ้นอีกครั้ง เหล่าโจรสลัดเปิดฉากทำสงครามช่วงชิงอำนาจ



และโจรสลัดกลุ่มหนึ่งบุกโจมตีท่าเรือ Rohaan



เลือกบทบาทที่ต้องการ

Spoiler for Hiden:
ประชาชน A
คุณแค่คนที่ผ่านมาและบังเอิญเจอกับเหตุการณ์นี้ คุณพยายามหลบหนีเอาตัวรอด
- กระสุนปืนลูกหลง: 3c Int/Dex/Luk R.Atk 1
- รางวัล: +4Exp +10G

ประชาชน B
คุณมาเจอกับเหตุการณ์นี้ และคุณพยายามจะช่วยเหลือใครก็ตามที่คุณต้องการช่วย
- โจรสลัดคลั่ง: 3c Status-2 M.Atk 1 (3 Turn)
- รางวัล: +5Exp +12G

ประชาชน C
คุณมาเจอกับเหตุการณ์นี้ และคุณมาเจอเข้ากับโจรสลัดมือดี
- โจรสลัดมือดี: 5c Status-2 M.Atk 5
- หากมีคนเลือกข้อนี้มากกว่า 1 คน คนที่ Luk น้อยสุดจะโดนอุปสรรคคนเดียว ถ้ามีหลายคนน้อยที่สุดก็สุ่มเต๋าว่าใครซวย
- รางวัล: +1PP +3 Exp +ปืนคาบศิลา (Common)

ยอดนักรบ
คุณเผชิญหน้ากับโจรสลัดมือดีที่ดูเหมือนรองกัปตัน
- รองกัปตันโจรสลัด: 5c Status-2 R.Atk 5
- หากมีคนเลือกข้อนี้มากกว่า 1 คน หน้าเต๋าจะลดลง 1c/1 คน แต่ถ้าไม่มีคนเลือก 'วีรบุรุษ' ทุกคนที่เลือกข้อนี้ Fail
- รางวัล: +1PP +ปืนคาบศิลา (Common)

วีรบุรุษ
คุณเผชิญหน้ากับกัปตันโจรสลัดที่มีมือขวาเป็นตะขอ
- กัปตันโจรสลัด: 5c Status-2 M.Atk 3 HP 3 (ระบุ Turn)
- หากมีคนเลือกข้อนี้มากกว่า 1 คน คนที่ระบุ Turn มากกว่าจะได้สู้ก่อน หากคนที่สู้ก่อนชนะคนที่เหลือ Fail ถ้ามีหลายคนเท่ากันก็สุ่มเต๋า
- ถ้าใช้ดาบ Cutlass ถึงแม้จะกดหนด Turn ต่ำกว่าแต่ก็ยังได้สู้ (แพ้หรือชนะอีกเรื่อง HP แยกกัน)
- รางวัล: +1PP +ปืนคาบศิลา (Rare)

Quote
Status-2 คือ Int/Str/Vit/Agi/Dex
Status-3 คือ Lds/Fth/Eft/Chr/Luk



ส่ง PM มาที่ Johan ไม่เกินวันที่ 13 เวลา 21.00 น.
« Last Edit: December 12, 2015, 01:47:09 AM by Johan »

Offline Johan

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #2 on: December 14, 2015, 10:43:27 AM »


กลุ่มโจรสลัด Fantasier (แฟนตาซีอีร์ หรือเรียกง่ายๆว่า แฟนตาซี) เป็นโจรสลัดกลุ่มใหญ่ที่มีผู้นำเป็นถึงราชาแห่งโจรสลัด



กัปตัน Fantasier เป็นกัปตันที่รักความงาม สง่า และต้องเนี้ยบเฉียบทุกด้าน ไม่ว่าจะยามรบหรือยามพัก เขาจะงามสง่าอยู่ตลอด
หน้ากากขนนกที่ปิดซ่อนใบหน้าของเขาเอาไว้ตลอดเวลาจนแม้แต่ภริยาที่รักยิ่งก็ยังไม่เคยได้เชยชมใบหน้าที่แท้จริงนั่นมีราคาแพงกว่าดาบประจำกายของชีคผู้ครองแคว้น นั่นคือความจริง
ชุดของเขาประดับเพชรพลอยเล็กๆ และเครื่องประดับที่เป็นแพลตินั่มทุกชิ้นยังขับให้เขาโดดเด่นเป็นสง่ากว่าใคร
กฎของเรือไม่มีอะไรโดดเด่นไปกว่าการห้ามไม่ให้ลูกเรือคนใดมีเครื่องประดับเป็นแพลตินั่ม เพื่อที่เขาจะได้งดงามกว่าใคร



"ต้องให้บอกอีกสักกี่ครั้ง ชื่อของชั้นออกเสียงว่า แฟน-ตา-ซิ-เย่"
เขาจีบปากจีบคอดัดจริตใช้สำเนียงภาษาของคนขาวมาเป็นคำเรียกชื่อตัวเองคล้ายกับมาจากต่างแดน แต่ที่จริงเขาเป็นชาว Faris

การโจมตีของกลุ่มโจรสลัด Fantasier ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดเดานัก แต่แม้จะคาดเดาไว้ล่วงหน้าก็ยังยากที่จะรับมือ ผู้ครองแคว้น Rohaan ตระหนักดีถึงเหตุการณ์นี้ที่ต้องเกิดขึ้น
โจรสลัดที่เดิมทีกริ่งเกรงพระทัยกษัตริย์ Otto ต่างก็ยับยั้งชั่งใจ พวกเขาหยุดเคลื่อนไหวและเฝ้ารอ จนกระทั่งมาถึงวันนี้ที่การรอคอยจบลง

ท่าเทียบเรือกลายเป็นทะเลเพลิง ปืนใหญ่อาคมที่ติดตั้งอยู่บนเรือยิงขึ้นมาบนฝั่งทำลายจุดที่วางกองกำลังพินาศสิ้น
อัศวินมังกรฟาราสโผทะยานขึ้นและเปิดฉากตอบโต้แต่ก็ยากที่จะหยุดการรุกเข้าสู่ฝั่งของกลุ่มสลัดที่แข็งแกร่ง พวกโจรสลัดบุกขึ้นฝั่งอย่างหิวกระหาย
แอปเปิลที่ถูกหยิบมากัดถูกโยนทิ้ง กระด้งกลิ้งกระจัดกระจายไปพร้อมผลไม้บนแผง หญิงสาวที่หนีไม่ทันถูกฉุดคร่า

พลั่ก!!


ประชาชน B เอากำปั้นประเคนใส่โจรสลัดคนดังกล่าวหน้ายุบ



"เฮ้ เธอ เป็นอะไรรึเปล่า" เด็กหนุ่มอีกคนพยายามลากเอาคุณหนู Kaleesha ที่มาช็อปปิ้งแต่โดนการโจมตีจนสลบคาที่เข้าไปยังที่ปลอดภัย
ให้ตายสิ ในมือเธอยังกำตะกร้าไม่ปล่อยเลย เจ้าพวกโจรสลัดชั่วร้ายพวกนี้ เดี๋ยวพวกแกจะโดนลูเกียของฉันจัดการ



และแรงระเบิดที่เกิดขึ้นไม่ไกลจากเด็กหัวแดงก็เกือบจะฉีกร่างของ Megan ที่พยายามจะช่วยคนเจ็บให้มากที่สุดในช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้โดยไม่หนีไปไหน
ชายคนหนึ่งที่อยู่ในชุดอัศวินอุ้มเธอในท่าที่เจ้าชายจะพึงอุ้มเจ้าหญิงแล้วบิดตัวหลบแรงระเบิดนั้น ทั้งสองประสานสายตากันในอึดใจนั้น



"มันเป็นพรมลิขิตไงล่ะ"

Spoiler for Hiden:
ความเป็นจริงคือ แม่ค้าในอ้อมอกของเขาเป็นสาวอวบทวินเทลที่ชื่อมะลิ


"อื้อ มันเป็นพรมลิขิต" ;)

ส่วน Megan โดนระเบิด แต่ไม่เป็นอะไร

Offline Johan

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #3 on: December 14, 2015, 11:15:17 AM »


"นั่นมันอะไรกัน โจรสลัดเหรอ แต่ไม่ใช่ผักนี่นา" ชาวบ้าน A นางหนึ่งที่หลบหลังแผงชายลูกชิ้นปิ้งพยายามหมอบต่ำแล้ววิ่งออกจากที่นี่ โชคดีที่เธออยู่ไกลออกไปจากรัศมีการโจมตี

แต่ก็มีคนที่โชคไม่ดีสักเท่าไรนักอีกสองคนที่หนีไม่ทันและดันไปเจอเข้ากับโจรสลัดคนหนึ่งที่หน้าตาดีเป็นพิเศษ ซ้ำยังมีคัทอินขึ้นมาด้วย



"ข้า... เอ่อ ข้าว่าเจ้าน่าจะเก่งกว่าข้า เจ้าควรออกไปก่อน" ชาวบ้าน C บอกสาวอีกคนที่เป็นชาวบ้าน C เหมือนกัน
มันเป็นเรื่องแปลกและบังเอิญที่สองนักฆ่าผู้ไม่รู้จักกันได้มายืนเคียงกัน Serevena ลำบากใจที่จะแสดงฝีมือ แต่ถ้าเธอไม่เอาจริงเธออาจไม่รอด เจ้าโจรสลัดตรงหน้าก็ดูจะเก่งกาจมาก
หันไปอีกทีเด็กหนุ่มข้างๆก็วิ่งหนีไปแล้ว เธอไม่มีเหตุผลอะไรอีกที่จะโชว์ฝีมือต่อสู้ นักฆ่าสาวดึงตัวหลบคมดาบที่เหวี่ยงสะบัดออกมาแล้วดีดตัวพุ่งเข้าไปประดาบกับอีกฝ่ายด้วยมีดสั้นเป็นพัลวัน


"เดี๋ยวก่อนน ให้ข้าสู้ด้วย!!"
มนุษย์พืชตนหนึ่งถลาลมออกมาช่วยเบียดเสียดต่อสู้ ยาผงวิเศษตราร่มยังชีพสาดออกมาใส่เป้าหมาย เปิดโอกาสให้ Serevena พุ่งเข้าเล่นงานและปลิดชีพในดาบเดียว

แต่อีกด้านหนึ่ง มองไปเห็นใครบางคนกำลังโชคร้าย




เขาคือรองกัปตันที่ดูมีสง่าราศียิ่งกว่าคู่ต่อสู้ของ Serevena มือขวาของเขาไม่มี แต่ดาบในมือซ้ายนั้นสะบัดไปมาอย่างทรงฤทธิ์
โชคร้ายที่เขาเจอเหล่าฮีโร่เกือบสิบคนรุมตื้บหมดสภาพชักแหง่กๆในอึดใจต่อมา

"ทำไมพวกเราไม่มีหน้าตากับบทเลย"
"คนเยอะ หน้ากระดาษไม่พอมั้ง"




"ไม่ได้เรื่องเลยเจ้าไบแซนตี้ ชั้นรึอุตส่าห์อนุญาตให้นายประดับต่างหูแพลตินั่ม" กัปตันผู้งดงามยืนอยู่บนยอดเสากระโดงเชยชมผลลัพท์โดยไม่ลงมาต่อสู้เพราะกลัวชุดเลอะ
มือขวาของเขาเป็นแขนเทียม มีตะขอแพลตินั่มสำหรับสวมที่แขนขวาห้อยเอวเอาไว้เตรียมพร้อม เขาจะถอดแขนเทียมและสวมแขนตะขอทันทีที่เอาจริง ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาจะโชว์ทักษะดาบคู่ก่อน

แต่วูบหนึ่งนั้นเองที่มังกรฟาราสบินโฉบเข้ามา



"นี่แน่ะ~~" องค์หญิง Ziavar ขี่มังกรบินทะยานกลับหัวโฉบใส่อย่างไม่รู้ตัวจนกัปตันหนุ่มลอยละลิ่วตกจากเสากระโดงลงไปกระแทกพื้น

แล้วก็วนกลับมาพ่นไฟซ้ำ



Quote
สงครามนี้ไม่ได้จบลงอย่างง่ายดายและอินดี้อย่างที่เห็น องค์หญิง Ziavar เพียงแค่ทำให้ Fantasier ที่ประมาทเลินเล่ออับอายและได้รับบทเสื่อมๆ แต่เธอสยบเขาไม่ได้
การรบที่ท่าเรือดำเนินไปครึ่งวันจนกระทั่งฝ่ายโจรสลัดล่าถอยออกไปเพราะแคว้น Rafal ส่งกองเรือออกมาช่วยเหลือทาง Rohaan

และนี่คือจุดเริ่มต้นของสงครามบนผืนน้ำ เพลิงสีเงินที่สะท้อนกับแพลตินั่มได้แผ่ขยายลงมาถึงท้องทะเลและมหาสมุทรแล้ว

« Last Edit: December 14, 2015, 03:23:09 PM by Johan »

Offline Johan

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #4 on: January 03, 2016, 11:55:36 PM »
Chapter 2



ความวุ่นวายเริ่มก่อตัวขึ้นในวงกว้าง กลุ่มโจรทะเลทราย Irem ที่เคยบุกยึด Naseeka ครั้งก่อนและแตกพ่ายไปได้ฟื้นตัวกลับมาเป็นกลุ่มก้อนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
พวกมันมีไพร่พลโจรมากมายเหลือคณา ทั้งออกปล้นหมู่บ้านในแถบตะวันออกและทางเหนือของ Neelam แม้กองทหารของ Neelam ก็ยากจะต้านทาน
รวมไปถึงเส้นทางคาราวานต่างๆ ในพื้นที่จาก Naseeka ไปยัง Aziz และ Daria ที่ตกเป็นเป้าในการโจมตี



เลือกบทบาทที่ต้องการ

Spoiler for Hiden:
เมือง Aziz
เมืองใหญ่ของแคว้น Daria ถูกกองโจรทะเลทรายจู่โจม มังกรทะเลทรายถูกอัญเชิญออกมาทำลายกำแพงเมืองเพื่อเปิดทางให้กองโจรกว่าสามหมื่นคนบุกเข้าโจมตี
เป้าหมายของกองโจรคือยึดเมือง Aziz เป็นฐานที่มั่น ผู้ที่เข้าร่วม Event จะอยู่ภายในเมือง (สร้างเรื่องราวว่ามาทำอะไรที่นี่) หลังจบ Event จะถูกดึงไว้ที่นี่
- ต่อสู้กับกองโจร: 7c Status(2)/Status(3)
- หากมีคนเลือกข้อนี้มากกว่า 5 คน จะผ่านเลย
- อาวุธ R.Atk จะลดหน้าเต๋าลงเหลือ 5c
- Luk จะลดหน้าเต๋าลง 1 Luk : 1c
- รางวัล: PP +1, Exp +5, Side Quest

เส้นทางคาราวาน
เส้นทางคาราวานเป็นถนนดินตัดทะเลทรายหรือพื้นที่แห้งแล้ง คาราวานเคราะห์ร้ายถูกโจมตี
ผู้ที่เข้าร่วม Event คือผู้ที่ผ่านมาโดยบังเอิญ
- ต่อสู้กับกองโจร: 7c Status(2) M.Atk 2 (5 Turn)
- อาวุธ R.Atk จะลดหน้าเต๋าลงเหลือ 5c
- รางวัล: PP +1, Exp +3, G +30

ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา
ผู้ที่เข้าร่วม Event จะอยู่ที่เดิม ไม่รู้เรื่องอะไรกับใครเขา
- รางวัล: Exp +3, G +30, Ally +1 (3 ตัวละคร)

Quote
Status(2) คือ Int/Str/Vit/Agi/Dex
Status(3) คือ Lds/Fth/Eft/Chr/Luk


หลังผ่าน Event นี้ หาก เมือง Aziz ถูกเคลียร์ ผู้เล่นจะได้เลือกว่าจะรับสิ่งใด
- Exp +5
- ได้รับ Terra Dragon (Common)
- Ally +1 (1 ตัวละคร) และรักษา Ally เอาไว้ (คนที่ไม่เลือกข้อนี้ ตัวละครทั้งหมดที่มี Ally จะมีโอกาส 50% Ally -1)

ส่ง PM มาที่ falconzero ไม่เกินวันที่ 5 เวลา 21.00 น.

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #5 on: January 08, 2016, 07:06:53 PM »
เส้นทางคาราวาน



คาราวานกองใหญ่ค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านทะเลทรายอย่างช้าๆ ทหารรับจ้าอีกหลายสิบนายต่างก็ขี่ม้าคุมเชิงอยู่ตลอดเวลา งานนี้พวกเขาต้องปกป้องกลุ่มพ่อค้าและครอบครัวอีกกว่าสิบชีวิต จึงต้องทุ่มกำลังและเบิกทรัพยากรณ์มากมาย ทั้งเกราะ อาวุธ และมังกรสำหรับขี่บางส่วน เรียกได้ว่าต่อให้โจรทะเลทรายเฮโลกันเข้ามากว่าสามสิบคนก็บ่ยั่น

ฟุ่บ...

เสียงแหวกอากาศดังขึ้น พอดีกับที่นักรบรับจ้างนายหนึ่งอ้าปากหาวด้วยความเบื่อหน่าย ความประมาทเพียงชั่ววูบทำให้ลูกดอกพุ่งปักลำคอ ร่างสูงร่วงจากหลังม้า หัวหน้าคาราวานสั่งหยุดรถทันทีพร้อมกับกองทหารรับจ้างที่ตั้งขบวนคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่นานนักเสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้นอีก พร้อมกับกระสุนหน้าไม้หลายสิบลูกพุ่งทะยานออกมาจากด้านหลังสันทราย ทว่าครั้งนี้เหล่านักรบหาได้ประมาทไม่ พวกเขาพร้อมใจกันยกโล่ตั้งขึ้นเพื่อป้องกันลูกธนูเหล่านั้น ครั้งนี้จึงไม่มีใครบาดเจ็บหรือตายจากไป

เฮ!!

เสียงตะโกนกู่ก้องดังสนั่น พร้อมๆ กับกองโจรทะเลทรายที่ขี่ม้าทะยานตรงมายังเกวียนใหญ่ของพ่อค้า แม้ว่ากองทหารจะเตรียมพร้อมสู้กับพวกโจรกว่าสามสิบคน แต่มากันมืดฟ้ามัวดินเช่นนี้พวกเขาก็อดหวั่นใจไม่ได้ จำนวนอีกฝ่ายน่าจะมากกว่า 5 หรือ 10 เท่าเลยทีเดียว



"...ไม่เป็นไรนะ... นักรบพวกนั้นจะช่วยเรา" พ่อค้าอ้วนหันไปปลอบลูกสาววัยแปดขวบที่นั่งร้องไห้กอดภรรยาของตนอยู่ เสียงโลหะกระทบกันเคล้าเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวด เขาที่ไม่มีทักษะต่อสู้เลยได้แต่ภาวนาแด่ราชินีมังกรให้คอยปกป้องเขากับครอบครัวเอาไว้ เสียงการต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง จนกระทั่งทุกอย่างเงียบลง ไม่มีเสียงอะไรดังขึ้นอีกต่อไป

บางที... โจรพวกนั้น่าจะตายหมดแล้ว

เขาคิดก่อนจะแหวกม่านออกไปดูหน้ารถเพื่อเพิ่มความมั่นใจ

"...ที่รัก ข้างนอกเป็นยังไงบ้างคะ?" ภรรยาสาวถามเมื่อเห็นสามีของตนนิ่งไปนาน แต่แล้วเธอก็ต้องกรีดร้องดังลั่นเมื่อร่างของสามีล้มหงายหลัง ดาบเล่มโตปักแสกกลางหน้าผาก ลูกสาววัยน้อยกอดผู้เป็นแม่อย่างหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทิ้มไปหมด

"โฮ่ เสียงดีนี่นา..." โจรหน้าเหี้ยมนายหนึ่งปีนเข้ามาในรถม้า หน้าตาของมันเหี้ยมเกรียม ดาบยาวในมืออาบไปด้วยของเหลวสีแดงฉาน

"ย... อย่าทำอะไรเรา ได้โปรด" หญิงสาวอ้อนวอนแล้วกอดลูกสาวตัวเองแน่นไม่ยอมปล่อย มือบางยกขึ้นมาปิดตาลูกสาวของตนเอาไว้ อย่างน้อยถ้าเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะไม่เห็นมัน...

"วิ้ว... ไอ้อ้วนนี้มีเมียสวยดีว่ะ..." เจ้าโจรชั่วแสยะยิ้ม ในหัวพลันคิดแผนการชั่วร้ายขึ้นมา



"หัวหน้าครับ" โจรหนุ่มคนหนึ่งเดินมาหาหัวหน้าโจรที่นั่งนับสมบัติอยู่ด้านนอกเกวียน

"มีอะไร?" เขาถามกลับไปอย่างไม่ชอบใจเวลามีคนมาขัดตอนกำลังนับเงิน

"ยัยผู้หญิงนั่นกัดลิ้นตัวเองฆ่าตัวตายครับ" เขารายงาน นั่นทำให้หัวหน้าโจรยิ่งหัวเสียมากกว่าเดิมเสียอีก

"อะไรวะ ตอนแรกยัยเด็กนั่นก็ขาดใจตาย ต่อมายัยนี่ก็กัดลิ้นตัวเองตายอีก" เขาสบถอย่างไม่พอใจ "ตัดหัวพวกมันซะ ส่วนตัวก็โยนทิ้งไว้ให้เป็นอาหารแร้งกลางทะเลทรายเนี่ยแหละ" มันสั่งด้วยความโกรธแค้น ของเล่นใหม่ช่างไม่ทนมือทนเท้าเอาเสียเลย ออกจะงามแท้ๆ

"ได้คร..."

ปัง!

เสียงก้องสนั่นปะทุขึ้นกลางอากาศ ก่อนที่ร่างของโจรหนุ่มคนนั้นจะล้มลงกับพื้น หัวหน้าโจรไหวตัวทันทีก่อนจะหันไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียง บนเนินทรายอันร้อนระอุนั่นเอง เขาได้พบกับชายแก่คนหนึ่งยืนจังก้าอยู่บนเนินทราย มือหนาถือปืนคาบศิลาอันยาวเอาไว้ด้วย

แกรก... ชายคนนั้นชักปืนอีกครั้ง แม้ใบหน้าจะดูแก่และสูงวัย แต่มัดกล้ามและแผลเป็นตามร่างกายก็บ่งบอกได้อย่างดีว่าเขาเป็นคนที่เชี่ยวศึกมากขนาดไหน



"ปล้นฆ่ากันกลางวันแสกๆ ฆ่าแม้แต่เด็กและสตรี... ต่ำทรามเสียจริง" Chao กล่าว สองมือจับปืนในมือเอาไว้มั่น สองเท้าย่ำผ่านผืนทรายสีแดงฉานเข้ามา ความน่าเกรงขามนั้นทำให้โจรร้ายอดสั่นไม่ได้ แต่มันก็หาได้กลัวไม่ กลับยังหัวเราะซ้ำขึ้นมาเสียอีก

"หึๆๆ ฮ่าๆๆ ขอบคุณที่ชม... คำว่าต่ำทรามน่ะเหมาะสำหรับพวกเราที่สุดแล้ว..." หัวหน้าโจรตอบกลับไป ก่อนจะยกมือส่งสัญญาณเรียกลูกน้อง เหล่าโจรไร้นามจำนวนมากเดินแสยะยิ้มกันออกมาจากเกวียน อาวุธในมือยังส่งกลิ่นอายของความตายอยู่ พวกมันเดินข้ามศพนับสิบมารายล้อมโจรสลัดวัยเก๋าที่ยังไม่มีท่าทีเกรงกลัวใดๆ

"นั่นสินะ..." ชายสูงวัยเห็นด้วย ก่อนจะพลิกพานท้ายปืนตั้งขึ้นเพื่อใช้มันแทนอาวุธระยะประชิด

"เช่นนั้นการส่งคนต่ำทรามอย่างพวกแกไปลงนรกก็เป็นหน้าที่ของโจรสลัดเต่าทมิฬสีรุ้งผู้นี้เช่นกัน... เข้ามา!!" เสียงตะโกนกร้าวประกาศฐานะของตนพร้อมกับเหวี่ยงปืนที่ไร้กระสุนฟาดใส่กองโจรตัวคนเดียว พวกมันกระโจนหลบหลีกกันวุ่นวายแล้วหันคมอาวุธใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง

"เหอะ! เป็นโจรสลัดก็ไปอยู่ในทะเลไป คิดจะมาแหยมถิ่นโจรทะเลทราย ใหญ่มาจากไหนไม่ทราบ?" สมุนโจรนายหนึ่งกล่าวแล้วตวัดคมดาบใส่ ทว่ามันก็โดนเพียงแค่อากาศธาตุ ก่อนที่พานท้ายปืนจะฟาดเข้าหน้าเต็มรัก ซี่ฟันร่วงกราว

"ไปแล้วหนึ่ง" Chao กล่าวแล้วฟาดปืนปะทะกับคมอาวุธนับสิบรอบกาย แม้ว่าจะมีพละกำลังที่แข็งแกร่งแต่โดนโจรสิบกว่าคนล้อมเอาไว้แบบนี้ก็ลำบากอยู่

ฟิ่ว... ฉึก!

กระสุนหน้าไม้ปักเข้าที่หัวไหล่ของหัวหน้าโจรสลัดผู้สูงวัย บาดแผลนั้นไม่รุนแรงแต่ก็ทำให้เขาเผลอ จึงโดนคมดาบฟาดใส่หลังไปอีกแผลหนึ่ง ของเหลวสีแดงสาดกระเซ็นลงกับผืนทราย กระนั้นเขาก็ยังไม่ทรุดลงไป

"เป็นอะไรไป คิดว่าข้าไม่มีหน้าไม้หรือไงกัน?" หัวหน้าโจรหัวเราะเมื่อเห็นสภาพของโจรสลัดหนุ่ม มันสั่งให้เหล่าลูกน้องเข้ารุม Chao โดยเฉพาะตรงจุดที่โดนกระสุนหน้าไม้เพื่อความสะใจ



"หึ... แค่นี้น่ะ ไม่ต่างจากถูกลูกแกะชนหรอก" ว่าแล้ว Chao ก็โยนปืนทิ้ง กำหมัดแน่นแล้วฮุคหมัดซ้ายขวากระแทกหน้าเหล่าโจรพวกนั้น ชายแก่ก้มตัวหลบคมดาบ ซัดฮุคขวาเสยเข้าคางไปอีกหนึ่ง ก่อนจะหมุนตัวกลับไปเตะ แล้วจึงกระโจนออกมาจากกลุ่มโจรที่ล้อมเขาอยู่ ทว่า Chao ยังไม่ทันจะชันกายขึ้นก็ต้องกระโจนตัวหลบอีกครั้งเมื่อโจรคนหนึ่งหมายจะเสือกดาบแทงใส่เขา จำนวนที่มากกว่ามากมายทำให้การต่อสู้ยากลำบากมากมาย

ในขณะที่ Chao กำลังง่วนอยู่กับการหลบการจู่โจมและหาช่องว่างสวนกลับนั่นเอง หัวหน้าโจรก็หยิบหน้าไม้ของตนขึ้นมา ประทับบ่า และเล็งใส่โจรสลัดแก่ที่ไม่ได้สนใจมัน...

ปัง! ปัง!!

เสียงแหวกอากาศลั่นขึ้น กระสุนเหล็กเจาะผิวหนังทะลุร่าง สร้างบาดแผลฉกรรจ์ให้กับผู้ถูกจู่โจม หัวหน้าโจรชั่วร้องลั่น อาวุธในมือร่วงหล่นลงกับพื้น นิ้วของมันขาดหายไปบางส่วน

"...ใคร!?" มันคำรามด้วยความโกรธแค้น สายตาเกรี้ยวกราดกวาดตามองไปรอบๆ เพื่อหาคนที่บังอาจลอบจู่โจมมัน แน่นอนว่าการที่หัวหน้าถูกลอบโจมตีนั้น ทำให้เหล่าลูกน้องตกใจจนไม่เป็นอันทำอะไรนัก Chao จึงถือโอกาสรัวหมัดเข้าใส่พวกมันจนล้มไปอีกหนึ่ง จากนั้นมือหนาจึงคว้าหมับเข้าทีศีรษะอันไร้เครื่องป้องกัน แล้วจับมันโขกใส่กันดังสนั่น โจรอีกสองคนจึงสลบเหมือดไปในทันที



"Surprise! Mxthxrfxckxr!!" องหญิงจอมแก่นปรากฎตึวขึ้นพร้อมกับปืนกระบอกเล็กในมือ เธอลั่นไกใส่เจ้าพวกโจรชั่วเรียงคน กระนั้นพวกมันก็ยังหน้าด้านถืออาวุธพุ่งเข้ามาหา ซึ่งเซียวาก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เธอกระโดดหลบแล้วเอาเท้าเหยียบพวกมันก่อนจะลั่นไกใส่ในระยะประชิด โจรอีกคนพุ่งเข้ามาเธอก็ฉีกตัวออกข้างแล้วเตะตัดขาให้ล้ม ก่อนจะทำแบบเดิมอีกครา จึงไม่มีโจรคนไหนเข้าใกล้เธอได้

"...แกเองสินะ! เฮ้ย ฆ่ายัยนี่ก่อน!!" หัวหน้าโจรร้ายคำรามลั่น มือหนากุมนิ้วที่ขาดของตนเอาไว้เพื่อไม่ให้เลือดไหลออกมามากกว่านี้ พวกโจรลูกน้องพากันมองหน้าเลิ่กลั่ก ก่อนจะตัดสินใจแบ่งกำลังจาก Chao พุ่งเข้าไปรุมองค์หญิงบ้าง เธอจึงต้องกลายเป็นฝ่ายหนีแทน

"ให้ตายสิ ไอ้องครักษ์ของชั้นมันหายไปไหนกัน!? สงสัยกลับไปต้องหักเงินเดือนหน่อยแล้ว!!" เซียวาบ่นอุบขณะแอ่นกายหลบคมดาบอย่างฉิวเฉียด พวกมันพยายามรุมหญิงสาวตัวน้อยแต่เธอก็เคลื่อนไหวอย่างชาญฉลาด มือบางตวัดด้ามปืนรับคมดาบแล้วใช้มันพลิกให้อีกฝ่ายอาวุธหลุดมือ ก่อนจะกระโจนถอยฉากออกไปแล้วประทับปืนลั่นไกยิงในระยะประชิด ปลิดชีพพวกโจรไปอีกหนึ่ง ทว่านั่นก็ยังเหลืออีกมากมายที่ไล่ตามเธอมา งานนี้ท่าจะเสียมากกว่าได้แล้วล่ะมั้ง...



"หวา... เยอะจังเลยครับ" Fadil สั่นกึก เขากำลังจะฆ่าคน... กำลังจะฆ่าคนนะ แต่ถ้าไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่า เอายังไงดี...

ทว่าระหว่างที่คิด โจรทะเลทรายสามคนก็กระโจนเข้าหา ดาบเล่มหนึ่งตวัดใส่ร่างของฟาริลจนเกิดแผลใหญ่ ความกลัวทำให้เขาเผลอลั่นไกปืนใส่เต็มท้องของโจรคนนั้น มันกระอักเลือดแล้วล้มลงกับพื้นทันที

"ว... หวา น่ากลัว น่ากลัวไปแล้ววว ไม่น่ามาแถวนี้เลยยย" Fadil ร้องลั่น เขาพยายามวิ่งหนีวนไปมาสุดชีวิต เหล่าโจรเห็น Fadil ขี้ขลาดก็ได้ใจ พากันไล่ตามหวังจะจัดการเจ้าไก่อ่อนนี่ให้ได้ ทว่ายิ่งแบ่งกำลังออกไป Chao กับเซียวาก็ยิ่งสู้กับพวกมันได้ง่าย กระนั้นทั้งสองก็ยังประมาทไม่ได้ ชายกระโปรงของเซียวามีรอยขาดเป็นทางยาวเพระาหลบคมดาบไม่พ้น ส่วน Chao นั้นเลือดไหลอาบร่างกายพอสมควร แม้แผลจะไม่ลึกแต่ก็ไม่ควรปล่อยไว้นาน เป็นไปได้เขาควรจะจบการต่อสู้ให้เร็วกว่านี้

หมัดลุ่นๆ ซัดเข้าใส่ใบหน้าของโจรคนหนึ่งที่หมายจะลอบจู่โจมทางด้านหลัง ก่อนที่เขาจะกระชากชายเสื้อแล้วเหวี่ยงมันจนลอยไปกระแทกใส่กลุ่มโจรอีกกลุ่มหนึ่งจนล้มกลิ้งไปกับพื้น จากนั้นจึงหยิบดาบที่ตกพื้นขึ้นมาแล้วฟาดฟันปะทะอย่างรวดเร็ว เมื่อมีจังหวะหยิบอาวุธได้แล้วเขาก็สู้สบายขึ้น การถูกรุมสิบต่อหนึ่งเป็นอะไรที่เขาเคยชินจึงพอรับมือได้

ทางด้านเซียวาเองก็วิ่งชุลมุนไปทั่ว เธอกระโจนขึ้นรถม้าแล้วลั่นไกปืนจากด้านบนหลังคา พอพวกโจรพยายามจะปีนขึ้นมาเธอก็เหยียบหน้ามันแล้วตีลังกาลงมายังผืนทราย กระสุนหน้าไม้นัดหนึ่งพุ่งแหวกอากาศมาหมายจะลอบโจมตี แต่องหญิงก็เร็วพอที่จะดึงศพทหารแถวนั้นขึ้นมารับแทน ร่างเล็กม้วนตัวไปบนผืนทรายแล้วยิงกระสุนใส่โจรที่ถือหน้าไม้คนนั้น สองขาเหยียดยันพื้นแล้วพุ่งกระโจนออกจากจุดเดิมในทันที หลบคมหอกที่หมายจะแทงลงมาได้อย่างหวุดหวิด

Fadil ไม่เคยต่อสู้กับพวกโจรมาก่อน ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เขาจึงพยายามวิ่งหนีแล้วหันกลับไปใช้ปืนยิงขวางพวกมันเป็นบางครั้ง โชคดีที่กระสุนพุ่งใส่ขาของพวกมันจนล้มคะมำกันเป็นแถบ ชายหนุ่มจึงพอมีเวลาพักหายใจบ้าง แต่แล้วเขาก็เบิกตากว้างเมื่อเห็นโจรคนหนึ่งเล็งหน้าไม้มาทางเขา กระสุนเหล็กแหวกอากาศออกมาอย่างรวดเร็ว ความหนาวยะเยือกไหลวาบไปตามสันหลัง เขาต้องหลบ หลบมัน!!

ฉึก!

หัวเหล็กปักเข้ากับไหล่บางของ Fadil จนจมลึกเข้าไป สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้กับชายหนุ่มอย่างมาก กระนั้นเขาก็กัดฟันทนความเจ็บปวด แล้วประทับปืนคาบศิลายิงสวนกลับไป นั่นเป็นกระสุนนัดสุดท้ายพอดี และ Fadil ก็โชคดีมากที่มันกำจัดโจรทะเลทรายคนนั้นไปได้ ทว่าเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะดีใจ โจรอีกคนหนึ่งพุ่งหลาวใส่พร้อมหอกยาวในมือ ชายหนุ่มบิดเอวหลบอย่างรวดเร็ว คมหอกถากหน้าท้องสร้างรอยแผลเป็นทางยาว พลาดจุดตายไปอย่างฉิวเฉียด แต่นั่นก็ทำให้เขาล้มลงกับพื้น เปิดโอกาสให้เจ้าโจรร้ายนั่นเปลียนทฺิศคมหอกหมายจะปลิดชีพเขา

ปัง!!

ไกปืนลั่นออกมาอีกครั้ง ส่งโจรร้ายอีกคนลงไปนอนกับพื้นทราย เซียวาหายใจหอบเพราะต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องถนัดของตน กระนั้นเธอก็ยังปลอดภัย ไม่มีบาดแผลใดปรากฎบนร่างกายนอกจากชุดกระโปรงที่ขาดวิ่นไปหลายส่วนเพราะหลบคมอาวุธไม่ทัน แต่หากเธอหยุดพักตอนนี้คงไม่ปลอดภัยอีกต่อไป สองขาจึงพุ่งตัวไปตามจุดต่างๆ เพื่อหาที่กำบังจากคมอาวุธของพวกโจรร้าย มือเรียวเล็กเติมกระสุนอย่างฉับไวก่อนจะหันมาลั่นไกสอยพวกมันทีละคนสองคนไปเรื่อยๆ

โครม!

โจรร้ายคนหนึ่งลอยทะลุเข้าไปในรถม้า มันน็อคสลบเหมือดในทันที กระนั้นเพื่อนของมันอีกหลายคนก็พยายามพุ่งเข้ามาแก้แค้น แน่นอนว่าคนโง่ย่อมไม่เคยเรียนรู้อะไร คมดาบของ Chao ตวัดรับอาวุธของพวกมันให้เบี่ยงออกอย่างง่ายดายก่อนจะพลิกข้อมือเพื่อเปลี่ยนวิถีดาบ ฝากบาดแผลถึงชีวิตเอาไว้บนร่างของพวกมันหลายต่อหลายคน ของเหลวสีแดงฉานอาบร่างของโจรสลัดเฒ่าจนดูน่าสะพรึงกลัว พละกำลังอันแข็งแกร่งและความน่าเกรงขามทำให้พวกโจรเริ่มตาขาว หวาดหวั่นในพลังที่เหนือกว่า



การต่อสู้ของทั้งสามทำให้กลุ่มโจรเหลือน้อยลงมาก พวกมันหลายคนแตกฮือกระจายกันเพราะหวาดกลัวในฝีมือของนักสู้ทั้งสามที่สังหารพรรคพวกของมันเป็นว่าเล่น ส่วนหัวหน้าโจรที่บาดเจ็บก็ได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเคียดแค้น ลูกน้องสิบกว่าคนเกาะกลุ่มกับมันเอาไว้เพราะกลัวตาย



"เหลือแต่พวกแกแล้วล่ะนะ" องค์หญิงเซียวากล่าวแล้วประทับลำกล้องปืนขึ้น มือบางลั่นไกอย่างรวดเร็ว แต่มันกลับมีเพียงแค่เสียงแชะๆ ออกมาเท่านั้น

"ให้ตายสิ กระสุนหมดเหรอเนี่ย?" เซียวาบ่นอุบอย่างไม่พอใจ



"...พร้อมจะลงนรกกันหรือยัง?" Chao เดินออกมารับหน้าแทนคนทั้งสอง เขากำหมัดที่ชุ่มไปด้วยเลือดแน่น ออร่าอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจนพวกโจรถอยห่าง

"เหอะ คนอย่างช้า ไม่ตายหรอกเว้ย!!" หัวหน้าโจรคว้าระเบิดขึ้นมาปาลงพื้น ฝุ่นควันฟุ้งขึ้นเต็มไปหมด ทุกคนยกแขนขึ้นมาป้องตาเพราะกระแสลมแรงพัดควันเหล่านั้นมาทางพวกเขา จนเมื่อควันจางลงแล้วจึงได้เห็นพวกโจรเหล่านั้นขี่ม้าไป



"ชิ... หนีไปจนได้" Fadil แสดงความกล้าออกมา(?) เขากล่าวตัดพ้ออย่างไม่พอใจ แน่นอนว่า Chao เองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน ถึงเขาจะเก่งขนาดไหนแต่ก็วิ่งตามม้าไม่ทันหรอก

ปัง!!

เสียงลั่นไกดังขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ชายหนุ่มทั้งสองหันไปทางองค์หญิงที่กำลังยิ้มอย่างชั่วร้าย



"บังเอิญว่าชั้นโกหกน่ะ กระสุนเหลือ 1 นัดพอดี" เธอว่า จากสายตาของเธอ มันน่าจะโดนหัวหน้าโจรล่ะนะ แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตายไหม แล้วนั่นก็เป็นนัดสุดท้ายจริงๆ แล้ว เธอไม่เสี่ยงตามไปดูผลงานหรอกนะ
« Last Edit: January 11, 2016, 12:22:03 AM by falconzero »

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #6 on: January 09, 2016, 05:39:53 PM »
หมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวชายแดน Aziz





"แม่ไปไหนนะ?" Milen เดินทางมายังหมู่บ้านแห่งนี้ เธอซื้อข่าวในร้านเหล้าแถว Aziz ด้วยเงินทั้งหมดที่มี พวกเขาบอกว่าคนที่หน้าตาเหมือนแม่ของเธอนั้นเดินทางมาแถวนี้ ตอนแรก Milen ก็ลังเลอยู่หรอกว่าจะโดนหลอกรึเปล่า แต่เจ้าของร้านก็ไม่ได้มีชื่อเสียอะไร ออกจะอ้วนท้วมน่าเชื่อถือ เขาคงไม่โกหกเด็กสาวอย่างเธอหรอก คิดได้แบบนั้น Milen ก็ไล่ถามคนในหมู่บ้านทีละคน เผื่อว่าจะมีใครเห็นแม่ของเธอ น่าเสียดายที่ไม่มีใครเห็นผู้หญิงแบบนั้นเลยสักคน

ครืน...

เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้นเบาๆ ทุกคนในหมู่บ้านต่างก็แปลกใจ แม้แต่ Milen ก็เช่นกัน ทั้งหมดหันไปมองที่มาของเสียงนั้น แม้จะอยู่ไกลลิบในทะเลทรายแต่พวกเขาก็เห็นฝุ่นควันที่ฟุ้งเป็นแนวยาวได้อย่างชัดเจน

"อะไรกันน่ะ?" ชาวบ้านหลากหลายต่างก็โผล่มามุงมองมันอย่างสนใจ ทุกคนต่างก็อยากรู้ต้นเหตและที่มาของเหตุการณ์ประหลาดเช่นนี้กันหมด จนกระทั่งนายทหารหน่วยสังเกตการณ์ลั่นระฆังเตือนภัยบนหอคอยเสียงระรัว

"โจรทะเลทรายบุก!!" เสียงตะโกนดังลั่นนั้นทำให้ชาวบ้านต่างก็แตกตื่น ทุกคนทิ้งงานของตนแล้ววิ่งวุ่นวายกันไปหมด บ้างก็เก็บของเก็บทรัพย์สินมีค่า บ้างก็พาลูกหลานของตนหลบเข้าห้องหลบภัยใต้ดิน นายทหารคนหนึ่งขี่ม้าเร็ววิ่งเข้าตัวเมืองไปอย่างเร่งรีบ ผ่าน Milen ที่ยืนเอ๋อทำตัวไม่ถูก ตายล่ะ โจรจะบุก แล้วแม่ล่ะ! แม่อยู่ไหน!?

เด็กสาวมองไปรอบๆ เพื่อหาคนที่เธอต้องการ แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอสักที จนกระทั่งเธอถูกชาวบ้านที่เร่งรีบชนจนล้มหน้าคะมำ กระนั้นเด็กสาวก็ไม่ได้ส่งเสียงร้องใดๆ ออกมา

"โยมเป็นอะไรรึเปล่า?" เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นพร้อมกับมือที่ยื่นมาให้ เด็กสาวกล่าวขอบคุณเบาๆ แล้วยึดมือเขาเป็นหลักก่อนจะยืนขึ้น



"ขอบคุณ เอ่อ..." Milen กล่าวขอบคุณอีกฝ่าย แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าผู้ที่ช่วยเธอนั้นเป็นชายหนุ่มหัวโล้นแต่งตัวประหลาด ดูแล้วน่าจะต่อยหมัดเดียวจอด



"อาตมาเดินทางมาบิณฑบาตแถวนี่น่ะ ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องร้ายๆ เช่นนี้ขึ้น" พระถังซัมจั๋งอธิบายให้เด็กน้อยฟัง

"ชาวบ้านมากมายไม่อยากทิ้งบ้านและทรัพย์สินของตนไป ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งนอกกายซึ่งละได้แท้ๆ ไม่ตายก็หาใหม่ได้ ตายแล้วก็เอาไปไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะห่วงหาไปทำไมกัน" พระรูปนั้นเปรยให้ Milen ฟัง ซึ่งเด็กสาวก็ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะพูดทำไม ไม่ได้ถามสักหน่อย

"แล้วโยมน้อยผู้นี้ล่ะ ใยยังรออยู่ที่นี่อีก ไม่รีบขึ้นม้าหนีกลับเข้าเมืองหรือ?" พระถังซัมจั๋งถาม แน่นอนว่าคำตอบของ Milen  นั้นเหมือนเดิม



"มาตามหาแม่" เธอยืนยันเจตนารมณ์ของตนเองและบอกว่าจะไม่หนีไปไหนจนกว่าจะเจอแม่ จากนั้นค่อยพาแม่หนีไปด้วยกัน ส่วนโจรน่ะเธอไม่กลัวหรอก เพราะเธอเองก็เป็นโจรเหมือนกัน

"มิดีๆ ใยผู้น้อยจึงได้ตัดสินใจเป็นโจรกันเล่า หากมารดาของหนูรู้เข้าล่ะก็คงเสียใจเป็นแน่..." ว่าแล้วพระถังก็เริ่มสวดเทศนา Milen เพื่อให้เด็กน้อยกลับตัวกลับใจ แต่เธอไม่สนใจที่จะฟังแล้วกวาดสายตามองหาคนที่น่าจะเป็นแม่ของเธอ

"อ๊ะ โยมคนนั้นหน้าเหมือนหนูเลย ใช่หรือเปล่านะ?" พระถังพูดทะลุกลางปล้อง Milen จึงหันขวับไปมองทันที ทว่าเด็กสาวก็ไม่อาจระบุได้ว่าใครคนนั้นคือแม่ของเธอหรือไม่ เพราะอีกฝ่ายนั่งบนหลังม้าควบตรงเข้าเมืองไปแล้ว

ครืน...

ผืนดินสั่นสะเทือนมากขึ้น เมื่อหันมองกลับไปยังทะเลทรายก็เริ่มเห็นกลุ่มโจรมหาศาลควบม้ากับอูฐตรงมายังหมู่บ้านแห่งนี้ ฝุ่นทรายตลบอบอวลไปเป็นทาง แม้แต่คนที่นับเลขไม่เป็นก็ยังรู้ว่าจำนวนนั้นมากเกินกว่าร้อยคนเสียอีก แต่สำหรับ Milen ที่ได้เรียนนับเลขมาแล้วนั้น เธอมองปราดเดียวก็ประมาณจำนวนของอีกฝ่ายได้โดยง่าย

"...หมื่น... ไม่สิ สองหมื่นเลยเหรอ?" เด็กสาวตกตะลึงจนยืนค้างไปพักหนึ่ง จนกระทั่งพระถังซัมจั๋งควบม้ามาอยู่ข้างๆ ตนแล้วกล่าวทัก

"หนูน้อยจะตามแม่ไปหรือไม่ อาตมาพอจะขี่ม้าเป็นอยู่บ้าง" พระถังกล่าวแล้วยื่นมือมาให้ Milen ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจยื่นไปรับน้ำใจจากอีกฝ่าย ให้เขาพาเธอขึ้นหลังม้าแล้วขี่ไปด้วยกัน ในใจก็ภาวนาให้หญิงสาวที่หนีไปตอนนั้นเป็นแม่ของเธอจริงๆ หมู่บ้านแห่งนั้นจึงเหลือแค่เพียงเหล่าชาวบ้านที่หวงแหนสมบัติของตนมากกว่าความปลอดภัย

ยิ่งเข้ามาใกล้เท่าไหร่ ความรู้สึกหนาววูบไปจนถึงไขสันหลังก็เพิ่มพูนมากขึ้น เหล่าชาวบ้านที่ไม่ยอมหลบหนีได้แต่สวดภาวนาแด่ราชินีมังกรให้ปกป้องคุ้มครองพวกเขา โดยไม่แม้แต่จะละสมบัติเงินทองออกจากมือของตน ผืนดินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นทุกที เสียงกีบเท้าตะกุยฝ่าดินแดนอันแห้งแล้งตรงมายังหมู่บ้านแถบชายแดนแห่งนี้ จนกระทั่งกลุ่มโจรกว่าสองหมื่นเคลื่อนกำลังมาถึง อาวุธในมือตวัดฟังอาคารบ้านเรือนแล้วเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สมบัติต่างๆ ชาวบ้านที่หวงแหนสมบัติต่างก็ถูกลากออกมาฆ่าทิ้งอย่างทารุณ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กและสตรี บ้านเรือนถูกเผาราบเป็นหน้ากลอง ควันไฟพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า เสียงโห่ร้องอย่างบ้าคลั่งกู่ก้องไปทั่วทุกสารทิศ จำนวนที่มากมายมหาศาลถาโถมกันเข้ามา กลืนกลินหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนั้นจนกลายเป็นผืนดินราบ หลงเหลืออยู่เพียงเศษซากและควันไฟเท่านั้น

เป้าหมายต่อไป... เมือง Aziz

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #7 on: January 10, 2016, 07:36:48 PM »
กำแพงเมือง Aziz



"พวกมันมากันแล้ว" นายทหารยกกล้องส่องทางไกลลง จริงๆ แล้วเขาไม่ต้องใช้กล้องส่องทางไกลก็ได้ เพียงแค่ตาเปล่าก็มองเห็นแนวฝุ่นทรายที่ตลบฟุ้งเป็นทางยาวอย่างชัดเจน แม้แต่หัวหน้าหมู่ทหารเองก็ยังหวั่นเกรงในจำนวนอันมากมายมหาศาลเช่นนี้ กระนั้นจำนวนของพวกเขาก็มีไม่แพ้กัน หากพวกมันมากันสองหมื่น พวกเขาที่จำนวนเท่ากันก็พร้อมจะชิงชัยด้วยจำนวนและทักษะวิชา รวมถึงยุทโธปกรณ์ที่ดีกว่า

หน้ากำแพงเมืองเรียงรายไปด้วยเหล่านักรบมังกร พวกเขาติดอาวุธและขี่มังกรประจำตำแหน่งยืนเรียงกันพร้อมสรรพ ด้านหน้าเป็นกองทหารม้าติดหอก หน่วยทะลวง บนกำแพงเมืองเรียงรายกันด้วยทหารติดอาวุธไกลและปืนใหญ่ประจำเมือง เรียกได้ว่าแนวรับของฝ่าย Aziz นั้นเหนือกว่าในทุกๆ ด้าน กับโจรสองหมื่นที่มีเพียงแค่หน้าไม่กับม้าให้ขี่ จะเอาอะไรมาสู้กับกองกำลังระดับนี้กัน?

"ชักธงสัญญาณ! เราจะจู่โจมมันก่อนด้วยอาวุธระยะไกล!!" นายทหารยศสูงสั่งลูกน้อง คันธนูถูกยกขึ้นพาดบ่า ศรคาดเส้นแล้วน้าวสาย เพียงแค่ได้รับสัญญาณถัดไป ฝนธนูก็จะกระจายตัวลงไปสังหารเหล่าโจรร้ายให้สิ้น

อีกเพียงไม่กี่นาที สงครามก็จะเริ่มขึ้น...

ครืน...

ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อยยามที่เหล่าโจรควบม้าเข้ามา เหล่าทหารตั้งมั่นโดยไม่หวั่นเกรงต่อจำนวนอันมากมายมหาศาลที่ค่อยๆ เคลื่อนที่เข้ามาจนแผ่นดินสะเทือน



"...ไม่ใช่ นี่มันผิดธรรมชาติเกินไป" Maimus กล่าวขึ้น ผืนดินที่สั่นไหวนี้ไม่ได้เกิดจากแรงสั่นสะเทือนของจากการเคลื่อนไหวของพวกกองโจร แล้วก็ไม่ใช่แผ่นดินไหวด้วย แล้วถ้าแบบนั้นมันเป็นอะไรกันล่ะ?

และแล้วคำตอบนั้นก็ปรากฎขึ้นแก่สายตาทุกคน...

ผืนทรายสั่นสะเทือน เม็ดทรายหมุนไหลไปมาอย่างบ้าคลั่ง พายุพัดโถมเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราด เหล่าทหารหาญจำนวนมากต้องยกโล่ขึ้นป้องกันฝุ่นทราย ม้าและมังกรต่างแตกตื่นจนขบวนรับพัง บ้างก็สะบัดนายของมันลงจากหลังแล้วพยายามหนีไปจากที่แห่งนี้ พื้นทรายแยกออกเป็นสองส่วน ธารทรายไหลลงไปถมใต้ดินพร้อมๆ กับบางสิ่งที่ค่อยๆ ปรากฎขึ้นจากใต้ผืนทราย



ร่างของสัตว์ร้ายในตำนานผุดขึ้นมาจากผืนทรายพร้อมกับเสียงคำรามลั่น ลำตัวของมันคล้ายกับงู ทว่าเป็นงูที่มีความยาวถึง 400 เมตร ปีกยักษ์แผ่สยายออก แววตาสีโกเมนทอประกายจ้า ลมหายใจเป่ารดผืนทรายจนเกิดฝุ่นฟุ้งตลบ ทหารหาญหลายนายทรุดตัวลงไปอย่างหวาดกลัวเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตเบื้องหน้า ใจสู้ที่เคยมีก่อนหน้านี้หายวับไปจนหมดสิ้น

มังกรยักษ์หันมาทางกำแพงเมือง Aziz มันคำรามในลำคอและสะบัดหัวไปมา จ้องมองเหล่าทหารราบเบื้องหน้าในระยะประชิด ก่อนจะอ้าปาก



"...ท่าไม่ดีแล้ว! อุดหูเร็ว!!" เป็น Hanzel ที่ตะโกนเสียงดังลั่น สองมืออุดหูตัวเองอย่างเร่งด่วน พอดีกับที่มังกรร้ายกู่ร้องคำรามลั่น ผืนทรายสั่นสะเทือนลั่น ข้าวของเครื่องใช้ภายในอาคารบ้านเรือนตกแตกเพราะเสียงคำรามอันน่าหวาดหวั่นนั้น เสียงอันน่าสะพรึงกลัวนั้นดังอยู่ราวสามวินาที ผืนแผ่นดินก็หยุดสั่น ทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง... พร้อมกับนายทหารชั้นแนวหน้าที่กลายเป็นหินไปกว่าครึ่ง



"ไม่ผิดแน่... Horia เจ้าแห่งทะเลทรายทั้งมวล" Maimus ที่อุดหูทันเปรยขึ้นหลังจากเห็นการแสดงแสนยานุภาพนั้น ก่อนจะรีบลาก Hanzel ที่ดูจะตื่นเต้นสุดๆ ที่ได้เห็นมังกรระดับ 7 ออกมาอย่างรวดเร็ว การอยู่แถวนี้ไม่ปลอดภัยเป็นแน่ พวกเธอต้องหาที่หลบภัยอย่างเร่งด่วน ไม่อย่างงั้นอาจจะเผลอโดนลูกหลงได้ทุกเมื่อ

"ย... ยิง!!" นายทหารบนแนวำแพงสั่งให้เหล่าทหารกระหน่ำอาวุธไกลใส่ Horia ไม่ยั้ง ทั้งปืนใหญ่ ปืนเวทย์มนต์ ธนู หน้าไม้ ไม่มีสิ่งใดระคายผิวหนังหนาแข็งของมันได้เลยแม้แต่น้อย Horia ถึงกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างรำคาญใจ มันคำรามเสียงดังลั่นแล้วกระโจนตัวเข้าใส่กำแพงเมือง ร่างกายที่ใหญ่คับฟ้าประกอบกับพละกำลังอันมหาศาล กำแพงหินของ Aziz จึงถล่มลงมาเป็นแนวยาว คร่าชีวิตนายทหารหาญไปเป็นจำนวนมาก

Horia คำรามเสียงดังสนั่น สาปผู้ที่อยู่ใกล้ให้กลายเป็นหินโดยไม่สนมิตรหรือศัตรู กรามของมันอ้ากว้างแล้วพ่นทรายออกมาอย่างมหาศาล ถมพื้นที่เมือง Aziz ราว 1/3 ให้จมอยู่ใต้ผืนทรายในพริบตา จากนั้นมันจึงสะบัดปีกทีหนึ่ง หลุมทรายดูดหลุมใหญ่ก็ปรากฎขึ้น วนดูดชีวิตนับร้อยลงไปสังเวยชีวิตแด่ผืนทรายอันยิ่งใหญ่ พายุทรายสามลูกปรากฎขึ้นรอบตัวมัน ก่อนจะพุ่งเข้าปะทะกับตัวเมือง พัดพาอาคารบ้านเรือนแถบนั้นให้กลับเป็นเศษฝุ่นอย่างที่เคยเป็น



"พวกโจรทะเลทรายเรียกมังกรระดับสูงนี้ได้เยี่ยงไร... มันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ" Sahar พึมพำแล้วควบม้าหนีเข้าไปในตัวเมืองชั้นใน การโจมตีของ Horia ทำลายตัวเมืองเพียงแค่ชั้นนอกเท่านั้น หากเข้าไปถึงด้านในได้ก็จะปลอดภัย จากนั้นค่อยคิดหาวิธีรับมือแล้วต่อต้านมันทีหลัง บางทีอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากเมืองหรือแคว้นอื่นๆ ในเรื่องนี้ด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือน Sahar จะไม่ต้องทำเช่นนั้นแล้ว

มังกรร้ายคำรามลั่นฟ้า ผืนทรายยุบตัวและสั่นสะเทือนเป็นลูกคลื่นใหญ่ สาดกระแทกใส่เมือง Aziz จนพังยับไปครึ่งเมือง กว่าหมื่นชีวิตถูกกลืนหายไปในพริบตา Horia กู่ร้องก้องในชัยชนะของมัน แล้วจึงพุ่งกระโจนลงไปในผืนทราย ไปจากที่แห่งนี้โดยไม่เหลียวกลับมา

เพียง 1 นาทีเท่านั้น... 1 นาทีแห่งความตายที่คร่าผู้คนนับหมื่นของ Aziz อย่างไม่คาดคิด และไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นแบบนี้

"..." หลายชีวิตที่ยังเร้นรอดโผล่ออกมาดูสภาพความเสียหายเหล่านั้น แม้จะไม่ได้พังทั้งเมืองแต่ก็เสียหายเกินกว่าจะซ่อมเสร็จได้ในสองสามปี ชาวบ้านบางคนถึงกับน้ำตาไหลเมื่อได้รับรู้ว่าคนใกล้ชิดพวกเขาถูกกลืนหายไปใต้ผืนทราย

กระนั้นเรื่องราวก็ไม่ได้จบลงแต่อย่างใด...

"Horia กลับไปแล้ว บุก!" ผู้นำกลุ่มโจรทะเลทรายสั่ง เหล่าโจรตะโกนเสียงดังลั่นแล้วควบม้าเข้ารบพุ่งในระยะประชิดทันที เหล่าทหารที่สูญเสียขวัญกำลังใจต่างก็พากันทิ้งอาวุธหนีกันจ้าละหวั่น แม้จะมีผู้ที่จิตใจกล้าแข็งเข้ารบพันกับเหล่าโจรชั่ว แต่ก็ต้องตายด้วยคมอาวุธนับสิบของพวกมัน

แล้วใครเล่าจะปกป้อง Aziz แห่งนี้?

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #8 on: January 11, 2016, 12:21:34 AM »
ภายในตัวเมือง Aziz



"ฆ่ามันให้หมด!!" เหล่าโจรร้ายถาโถมเข้ามาด้วยจำนวนที่มากกว่า เหล่าทหารต่างก็ขวัญเสียเพราะ Horia แถมยังต้องแบ่งกำลังไปช่วยเหลือชาวบ้านคนอื่นๆ ทำให้ตอนนี้กำลังจากสองหมื่นจึงหายไปกว่าครึ่ง ในขณะที่พวกโจรไม่สูญเสียอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นทำให้กำลังใจของพวกเขามอดลงทุกที บางคนก็ไม่เหลือจิตใจจะต่อสู้อีกแล้ว ผู้พิทักษ์เมืองจึงค่อยๆ ร่วงหล่นลงไปทีละคนสองคน ประชาชนจำนวนมากจึงต้องพึ่งตนเองในการเอาตัวรอดจากโจรเหล่านั้น



Megan วิ่งหนีพลางเอามือกุมหัวที่ปูดโน เธอทิ้งรถสินค้าของเธอเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง มังกรเทียมรถถูกสังเวยชีวิตไปแล้ว และตอนนี้คมดาบของพวกโจรก็กำลังไล่กระชั้นชิดเข้ามาเรื่อยๆ ความเย็นวาบสัมผัสที่หลังคอของแม่ค้าสาว เธอจึงยิ่งวิ่ง วิ่ง และวิ่งแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เธอยังมีน้องชายที่ต้องดูแล มีพ่อแม่ที่ต้องกลับไปหา มีร้านค้าที่ต้องบริหาร มีหนี้ที่ต้องใช้ มีเพื่อนสนิท มี มี และมีอะไรอีกหลายๆ อย่าง ที่เธอยังไม่ได้ทำ ดังนั้นเธอต้องรอด รอดจากเงื้อมมือพวกมันให้ได้!

ความกลัวทำให้ Megan วิ่งหน้าตั้ง โดยหารู้ไม่ว่าอะไรหลายๆ อย่างนั้นเธอคิดไปเอง ตั้งแต่ที่พวกโจรไล่ตามมาแล้ว เพราะเพียงแค่หญิงสาวทิ้งเกวียนสินค้า พวกมันก็หันไปสนใจเงินทองในนั้นแทน แม้จะมีบางคนไล่ตาม แต่แข้งทองอย่าง Megan ก็ทิ้งพวกโจรห่างไม่เห็นฝุ่นตั้งแต่ 5 วินาทีแรก จึงไม่มีใครสนใจวิ่งไล่ตามเธอไปสักคน





"ให้ตายสิ นี่มันเกิดอะไรกันขึ้นฟะเนี่ย!?" Red ร้องลั่นแล้วหลบดาบของโจรร้ายพวกนั้นที่หมายปองชีวิตของตน เขาแค่มาเดินเล่นในเมืองเผื่อจะมีอะไรน่าสนใจ แล้วจู่ๆ ก็ประกาศกฎอัยการศึกอย่างกะทันหัน จากนั้นผืนดินก็สั่นไหว Horia ปรากฎตัว แล้วโจรก็บุกเมือง อะไรกันนักหนา!!

"โธ่เว้ย!" Red คว้าท่อนไม้แถวนั้นแล้วจับมันด้วยสองมือ ฟาดลงกลางศีรษะของโจรคนหนึ่งที่หมายปองจะเอาชีวิตของเขาไป ความแม่นยำนั้นทำให้อีกฝ่ายสลบเหมือดไปในทีเดียว

"เป็นไงล่ะ ริอาจมาดูถูก Red ผู้นี้" ชายหนุ่มมัวแต่อวดตน หารู้ไม่ว่าโจรอีกคนหนึ่งกำอาวุธในมือไว้ด้วยความโกรธแค้น มันวิ่งเข้ามาจากทางด้านหลัง คมดาบยกสูงหมายปลิดชีวิตชายหนุ่มในคราเดียว

ฉับ...

คมอาวุธตวัดผ่านลำคออย่างรวดเร็ว ศีรษะของชายหนุ่มจึงหลุดออกจากบ่า ของเหลวสีแดงสดไหลพุ่งออกมาต่างน้ำพุ มันดูน่ากลัวและสยดสยองไปพร้อมๆ กัน

"เหวอ!!" Red ร้องลั่นอย่างตกใจเมื่อพบกับร่างไร้หัวกำลังจะล้มใส่เขา ชายหนุ่มก้าวเท้าออกด้านข้างเพื่อหลบมัน แล้วมองไปยังสาวงามที่ใบหน้าชุ่มไปด้วยเลือดของโจรที่เธอเพิ่งจะสังหารไป



"..." เธอไม่พูดอะไรกับเขาสักคำ มือบางเก็บอาวุธของตนเข้าที่ แล้วถีบตัวออกจากตำแหน่งนั้นทันที ราวกับว่ากำลังรีบร้อนอะไรอยู่อย่างงั้นแหละ



"...ยังไม่ทันได้ขอบคุณเลยแท้ๆ" Red พึมพำ หัวใจแทบจะเต้นหลุดออกจากออก เรื่องพวกนี้มันน่ากลัวไปแล้ว เขาไม่ได้มา Aziz เพราะอยากพบอะไรแบบนี้สักหน่อย คิดได้แบบนั้นจึงหันหลังกลับไป จากนั้นก็หันไปยังทิศทางที่หญิงสาวปริศนาคนนั้นนำไปล่วงหน้า แล้ววิ่งสุดกำลัง!

"ฆ่ามัน!!!" กลุ่มโจรร่วมสิบคนวิ่งไล่ Red หน้าตั้ง พวกมันคิดว่า Red เป็นคนฆ่าพวกพ้องของตน จึงคิดแก้แค้นแล้วพยายามไล่ล่าอย่างบ้าระห่ำ

"โว้ย!! วันนี้มันเป็นวันวิปโยกหรือไงกัน!?" นักฝึกมังกรหนุ่มได้แต่บ่นอุบในใจ ภาวนาให้ขาของเขาไม่หมดแรงหรือสะดุดล้มอะไร ไม่อย่างงั้นเขาอาจจะกลายสภาพเป็นแบบโจรคนเมื่อกี้ก็ได้ และสภาพศพคงดูไม่ดีเท่าไหร่นัก





"ต้านมันไว้!!" Xerxes ออกหน้าบัญชาการด้วยตนเอง คมดาบในมือตวัดรับอาวุธของคู่ต่อสู้เป็นระยะๆ พลางสั่งเหล่าทหารของ Aziz ที่ยังมีใจสู้อยู่ให้ช่วยกันต้านพวกโจรไว้ชั่วคราว ถ่วงเวลาให้ประชาชนหนีเข้ากำแพงเมืองชั้นในไปก่อน แม้จะช่วยไม่ได้หมดแต่ช่วยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็ยังดี

เหล่าทหารเชื่อฟังคำของ Xerxes และพยายามต้านทานเหล่าโจรเอาไว้ พวกเขาเป็นทหารฝีมือดีที่ยังคงใจสู้อยู่ และหวังจะให้ประชาชนปลอดภัยเช่นกัน กระนั้นการที่ต้องมารับมือแบบสามต่อหนึ่งหรือห้าต่อหนึ่งเป็นระยะเวลานานก็ทำให้พวกเขาอ่อนเพลีย นายทหารคนหนึ่งถูกดาบบั่นคอจนหลุด อีกคนถูกรุมแทงเสียชีวิต ขวัญกำลังใจของเหล่าทหารเริ่มเสียไปอีกครั้ง

"ฮ่าห์!!" Xerxes คำรามลั่นพลางเหวี่ยงอาวุธเต็มกำลัง ฟาดเหล่าโจรทีเดียวถึงสามคน ตัดร่างพวกมันในคราเดียว เหล่าโจรถึงกับหวาดผวาในพละกำลังและทักษะของชายหนุ่ม กระนั้นจำนวนที่มากกว่าก็ถูกนำเข้ามาข่ม หากเขาสังหารไปสอง พวกมันก็จะมาเติมเพิ่มอีกสาม ไม่รู้จักหมดสิ้นสักที จนกระทั่งนายทหารที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาเหลือเพียงสองคน ทั้งสองถอยมาอยู่ใกล้ๆ กับ Xerxes แล้วคอยระวังรอบข้างของกันและกัน ในขณะที่โจรชั่วพวกนั้นบีบวงล้อมกันเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ กระนั้นทั้งสามก็หาได้เกรงกลัวไม่ ในฐานะทหาร พวกเขาพร้อมที่จะตายเพื่อประชาชนอยู่แล้ว

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างชุลมุน พวกโจรเหมือนจงใจแกล้งและหยอกล้อพวกเขา ค่อยๆ เข้ามารุมมาตอดสร้างบาดแผลบนร่างกายทีละจุดสองจุด ไม่ยอมฆ่าพวกเขาในทันที มันทำให้ Xerxes รู้สึกคับแค้นใจเป็นอย่างมาก ราวกับโจรเหล่านี้ไม่เห็นค่าของความเป็นนักรบ การฆ่าเป็นเพียงเรื่องสนุกเรื่องหนึ่งเท่านั้น กระนั้นเขากับนายทหารอีกสองคนก็ตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว คมอาวุธของพวกโจรชั่วทิ้งบาดแผลเอาไว้บนร่างพอสมควร แม้จะฝืนสู้กลับแล้วฆ่าพวกมันไปได้ห้าคนแต่พวกมันก็ไม่ได้ดูน้อยลงเลยสักนิด บางทีเขาอาจจะต้องตายอยู่ที่นี่...

ตูม!!

จู่ๆ ก็เกิดการระเบิดขึ้นกลางกลุ่มโจรด้านหนึ่ง ระเบิดนั้นคร่าชีวิตพวกมันไปเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นอีกจุดหนึ่ง รอบนี้มันไม่ได้สังหารใคร แต่ปล่อยควันมหาศาลออกมา บดบังทัศนวิสัยจนขุ่นมัว

"ทางนี้!" Xerxes ได้ยินเสียงของใครบางคนเรียกเขาจากอีกทางหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นมิตรหรือศัตรู ทว่าสัญชาตญาณของนักรบไม่ได้ลั่นเตือนอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นมันน่าจะปลอดภัย ชายหนุ่มจึงกระโจนออกจากควันไปยังทิศทางนั้น พร้อมกับนายทหารหาญอีกสองคนที่ตามออกมาด้วย



"ไม่อยากตายก็วิ่งเข้า! มีเวลาสิบวินาที!!" Elzit บอกแล้ววิ่งนำไปก่อน นายทหารก็วิ่งตาม ส่วน Xerxes นั้นรั้งท้าย เขาไม่เคยคิดว่าจะต้องวิ่งหนีอะไรบางอย่างมาก่อนเลยไม่ได้ฝึกเอาไว้ หากรอดไปได้เขาสาบานกับตัวเองว่าจะฝึกวิ่งเอาไว้บ้างเผื่อยามจำเป็น

จนกระทั่งครบสิบวินาที...

ตูม!!

ซากอาคารตรงแถวนั้นระเบิดออกอย่างรุนแรง ถล่มทับพวกโจรที่ยังสับสนและจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ในดงควัน ซ้ำเศษอิฐหินพวกนั้นยังปิดขวางถนนทำให้โจรคนอื่นตามมาไม่ได้อีกต่างหาก

"เสียดายสินค้าชะมัด" Elzit บ่นอุบ นอกจากอาวุธจำนวนหนึ่งที่เสียไปแล้ว เขาต้องเสียระเบิดอีกหลายลูกเพื่อช่วยคนทั้งสามนี้ แต่ก็อย่างว่า ชายคนนี้น่าจะเป็น Xerxes ที่เป็นแม่ทัพหนุ่มหรือตำแหน่งทางการทหารสักตำแหน่งของ Neelam การช่วยเขาเอาไว้เท่ากับมีโอกาสที่จะได้เส้นสายในอนาคตเพิ่ม แต่นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องรอดไปด้วยกัน

"อย่าหันหลังกลับไปล่ะ ตอนนี้หนีเข้ากำแพงชั้นในให้ได้ก่อน เรื่องอื่นไว้ว่ากันทีหลัง"



ใจกลางเมืองตรงถนนใหญ่ ที่ซึ่งมีความเสียหายหนักที่สุดและมีกำลังทหารกับกองโจรมากที่สุด ณ ที่แห่งนั้น หัวหน้ากองกำลังพิทักษ์เมืองกำลังต่อสู้กับหัวหน้าโจรอย่างเอาเป็นเอาตาย คมดาบตวัดปะทะกันจนเกิดประกายไฟแลบปลาบไปทั่ว รอบข้างเต็มไปด้วยเหล่าทหารหาญที่ยังมีใจสู้ หาญรบกับเหล่าโจรอย่างสุดกำลัง แม้กายบาดเจ็บ ก็จักลากไปหนึ่งชีวิต แม้จะสิ้นชีวิต ก็จะลากตามไปอีกสองชีวิต เพื่อปกป้องประชาชนและเมืองอันเป็นที่รักของพวกเขา

ดาบเล่มยาวตวัดใส่สีข้างของโจรชั่ว แต่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้มีดีแต่ชื่อ กระโจรตัวออกจากวิถีดาบได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะถีบตัวกลับมาประดาบกับหัวหน้ากองกำลังอย่างดุเดือด ทักษะดาบถูกใช้พลิกแพลงอย่างที่สุดเพื่อล้มศัตรู แต่อีกฝ่ายก็ใช้ไหวพริบตอบโต้กลับมาได้ทุกครั้ง ต่างฝ่ายต่างฝากบาดแผลเล็กน้อยเอาไว้บนร่างกายอีกฝ่ายทีละนิดๆ กระนั้นพวกเขาก็ยังไม่หยุดพัก ไม่สิ ไม่มีเวลาแม้แต่จะพักหายใจในเวลาชี้เป็นชี้ตายเช่นนี้

สีหน้าของหัวหน้ากองกำลังตึงเครียดอย่างมาก ต่างกับหัวหน้ากองโจรที่ยิ้มร่าอย่างคึกคัก เต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ได้ต่อกรกับคู่ต่อสู้อันเก่งกาจ ต่างฝ่ายต่างต่อสู้กันด้วยอารมณ์อันตรงกันข้าม กระนั้นก็ไม่มีใครยอมเพลี่ยงพล้ำให้แก่กัน

หัวหน้ากองกำลังถอยฉากออกมาหลังจากการประดาบครั้งล่าสุด ก่อนจะถีบตัวเข้ามาอีกครั้ง การเคลื่อนไหวไม่มีสูญเปล่าและไม่เปิดช่องว่างแม้แต่น้อย หัวหน้าโจรกลับยิ่งสนุก พลิกกายหลบดาบเป็นพัลวันพลางหาช่องว่างเพื่อตอบโต้กลับ ทว่าทหารแก่ประสบการณ์ผู้นี้ก็ไม่เปิดช่องดังกล่างเลยแม้แต่น้อย เขาอยู่ในท่วงท่าที่ระมัดระวังตัวอยู่เสมอ แต่อีกไม่นานเขาก็จะเปิดมันแล้ว... ความเหนื่อยล้าจากการโหมต่อสู้อย่างยาวนานเริ่มปรากฎขึ้นบนสีหน้า ต่างกับหัวหน้าโจรที่ยังดูมีแรงเหลือเฟืออยู่

ดูเหมือนว่าหัวหน้ากองกำลังพิทักษ์ Aziz จะรู้ตัวเองดี ทว่าเขาไม่อาจถอยหนีได้อีกแล้ว เขาจึงหยุดโจมตีแล้วยืนนิ่ง หมายจะปลิดชีพอีกฝ่ายด้วยทักษะที่ตนเองมี ทว่าหัวหน้ากองโจรเห็นเช่นนั้นก็ไม่ยอม เสือกคมดาบเข้าไปขัดขวางทักษะนั้น บีบบังคับให้อีกฝ่ายต้องหันมาสู้ต่อจนหมดแรงหรือจนกว่าจะพลาดพลั้งไปเอง

เคร้ง!!

คมดาบยาวปัดดาบประจำตำแหน่งให้หลุดลอยออกจากมือ ทำให้เกิดช่องว่างเพียงชั่วครู่ หัวหน้ากองกำลังพิทักษ์เร่งถอยห่างออกมาพลางเอื้อมมือไปที่สีข้างหมายจะชักดาบสั้นออกมาสู้ต่อ แต่เขาก็ช้าเกินไป คมดาบของหัวหน้ากองโจรตวัดฟันอย่างแรงจนหัวปลิวหลุดออกจากบ่า ปลิดชีพผู้ยืนหยัดพิทักษ์ Aziz ลงในที่สุด...



ยามเย็นได้มาเยือน Aziz อีกครั้ง เมืองแห่งนี้ไม่ได้สงบสุขอย่างทุกวัน เพราะกว่าครึ่งถูกถล่มกลายเป็นซากปรักหักพังไปเสียแล้ว ประชาชนหนีตายมาหลบอยู่หลังกำแพงชั้นใน ที่ซึ่งเป็นเขตอยู่อาศัยพิเศษเฉพาะคนรวย ขุนนาง และปราสาทของเจ้าผู้ครองแคว้น Aziz ก็อยู่ในนี้เช่นกัน โดยปกติแล้วเขตแดนแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาโดยพลการ แต่เพลานี้ประชาชนต้องการที่หลบภัยจากเหล่าโจรร้ายซึ่งตั้งค่ายบนซากเมือง Aziz ห่างจากกำแพงชั้นในไม่มากนัก เหล่าทหารหลวงจำนวนมากเดินเฝ้าระวังและคุมเชิงในทุกด้านตลอดเวลา หากประมาทแม้เพียงวินาทีเดียว เมืองแห่งนี้อาจจะต้องจบสิ้นลงก็เป็นได้

ประชาชนหลายคนต่างร้องไห้กันระงม ทหารผ่านศึกบางนายยังบาดเจ็บอยู่แต่ก็ต้องออกมาเดินเวรตรวจตราอยู่ตลอด และยังมีอีกหลายคนที่ยังระแวดระวังภัยรอบข้างอยู่เสมอ เวลานี้อะไรๆ ก็ไม่ปลอดภัยทั้งนั้น



Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #9 on: January 12, 2016, 11:50:05 AM »


Farah เดินสำรวจตามสถานที่ต่างๆ ไปเรื่อย ตามหาความทรงจำของตน พบเจอเรื่องราวต่างๆ รวมถึงหลุดเข้าไปในดันเจี้ยนประหลาดบ่อยครั้ง พบพานเรื่องไม่คาดฝันก็มาก แต่ที่ไม่คาดฝันยิ่งกว่าคือ



"ท่านอัศวินมังกร" เธอเรียกเขาว่าเช่นนั้นแล้วเดินตามไปทุกหนทุกแห่ง ร่วมผจญภัยไปกับเขา คอยให้ความช่วยเหลือและแนะนำอะไรต่อมิอะไร

เขาไม่ได้รังเกียจการมีสตรีอยู่ข้างกาย แต่บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่านักทำนายสาวผู้นี้เก่งกาจเกินกว่าจะมาเดินตามเขาต้อยๆ พลางเรียกขานเขาว่าอัศวินทั้งๆ ที่เป็นได้แค่คนเร่ร่อน แต่เหมือนพวกเธอเหล่านี้จะมองเขาว่าเป็นผู้สูงศักดิ์เสียอย่างงั้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม

แต่ก็... ไม่ได้แย่อะไรหรอกนะ





Serevena สะบัดคมมีดเปื้อนเลือดของตน ก่อนจะเก็บมันเข้าฝัก เป้าหมายในงานคราวนี้ถูกจัดการอย่างง่ายดาย ไม่มีใครรู้เรื่อง ไม่มีพยานพบเห็น เป็นงานที่สมบูรณ์แบบ

นักฆ่าสาวเงยหน้าขึ้นมองหมู่มวลดาราเบื้องบน คืนนี้เป็นคืนเดือนมืด จึงไม่มีจันทราฉายแสงสกาวบนท้องนภา แต่ก็เต็มไปด้วยหมู่ดาวมากมายที่ส่องประกายเรืองรอง เรียงตัวกันอย่างงดงามดั่งภาพวาดชั้นสูง แม้เธอจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศิลปะการวาดมากก็ตาม ทว่าความงามเบื้องบนนั้นก็ควรค่าแก่การชื่นชม

ออกจากที่นี่แล้วแวะชมดาวสักหน่อยท่าจะดี หญิงสาวคิดได้เช่นนั้นก็กระโจนตัวหายไปในความมืด เบื้องหลังเป็นศิลปะไร้ชีวิตที่เธอเพิ่งสรรสร้างขึ้นมาด้วยกลิ่นคาวเลือดและการช่วงชิง ซุกซ่อนอยู่ในความมืดของรัตติกาลอันหนาวเหน็บและยาวนาน...





Kaleesha ฝึกฝนการใช้อาวุธอย่างต่อเนื่อง เธอไม่อยากเป็นหญิงสาวผู้อ่อนแอจนเป็นภาระให้กับคนอื่น ไม่ต้องการเป็นคนที่ทำอะไรไม่ได้ในยามคับขัน หญิงสาวจึงตั้งใจฝึกฝนทักษะการต่อสู้และการเอาตัวรอดต่างๆ นาๆ เพื่อให้ตนเองพร้อมสำหรับเรื่องราวต่างๆ ในอนาคต

และแน่นอนว่าแผนการแรกที่เธอคิดจะทำคือหนีออกจากที่นี่... จากพิธีหมั้นหมายที่กำลังจะมีขึ้น มันถูกหยิบยกกลับมาพูดคุยอีกครั้งเมื่อใกล้จะถึงกำหนด โชคดีที่มันถูกเลื่อนออกไปอีกเพราะยังหาวันมงคลอันสมควรไม่ได้ จนกว่าจะถึงเวลานั้น เธอจะต้องลอบหนีออกจากที่นี่ให้สำเร็จให้จงได้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม





Aisha ใช้เวลาฝึกฝนทักษะต่างๆ มากมาย ทั้งวิชาดาบ การควบคุมและขี่มังกร เพื่อที่จะได้เอาตัวรอดในต่อจากนี้ได้ มีหลายสิ่งให้เรียนรู้มากมายในดินแดน Azar แห่งนี้ พวกเขาเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง เป็นผู้พิทักษ์แคว้นจากอริร้าย และยังเป็นผู้สั่งสอนที่ดี องค์หญิงตกอับถือว่าได้รับบทเรียนที่มีค่าแล้ว กระนั้นเธอก็ยังขวนขวายพัฒนาตนต่อไป จนกว่าจะถึงเวลาที่ตนเองพร้อม... พร้อมจะกลับไป Fatimah อีกครั้ง...





"องค์หญิงเซียวา?" เหลียวหยวนหว่อเดินไปมาในเขตราชวัง ออกค้นหาสตรีที่เป็นนายของเขา ถามว่าทำไมต้องค้นหาน่ะเหรอ เพราะงานของเขาคือปกป้องเธอยังไงล่ะ แต่เพียงแค่เขาเผลอหันไปคุยกับเมดสาวโลลิแปปเดียว เธอก็หายตัวไปเสียแล้ว ลำบากเขาต้องออกตามหาเสียอีก แต่ยิ่งหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนกระทั่งได้ข่าวจากสาวเลี้ยงมังกรว่าองค์หญิงเซียวาเบิกมังกรขี่ออกไปข้างนอกตั้งนานแล้ว เหลียวหยวนหว่อจึงตัดสินใจ...

"ไปหาอะไรกินยามเช้าดีกว่า" เดี๋ยว แล้วงานคุ้มครองล่ะเฮ้ย?

แต่เหมือนว่าเขาจะไม่ได้ไปกินอาหารเช้าเงียบๆ เสียแล้ว...



"ท่านเห็นสเด็จพ่อหรือไม่?"

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #10 on: January 23, 2016, 10:39:57 PM »
Chapter 3


งานเลี้ยงใหญ่ถูกประกาศและให้จัดขึ้นเพื่อต้อนรับวันสิ้นปีอย่างรวดเร็วตามคำสั่งของมหาอุปราช Mihad ที่ถือครองอำนาจของ Fatimah อยู่ในตอนนี้ งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตและใช้งบประมาณของแคว้นอย่างมากมายมหาศาลเพียงเพื่อปลอบประโลมพระทัยขององค์ราชินี Roxana ที่ยังคงโศกเศร้าเสียใจจากการจากไปของกษัตริย์ Otto Sulaiman อยู่ เหล่าอัศวิน ขุนนาง ข้าราชบริพารต่างๆ วิ่งวุ่นเตรียมงานกันยกใหญ่เพื่อให้ออกมาอย่างเลิศหรูสมฐานะขององค์ราชินีที่สุด จดหมายเชิญถูกส่งออกไปยังบุคคลสำคัญต่างๆ ให้เดินทางมาร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วย โดยเฉพาะกับสายเลือดแห่ง Sulaiman ที่ถูกกำชับลงในจดหมายเป็นพิเศษว่าจำเป็นต้องมาพบหน้าเพื่อให้องค์ราชินี Roxana หายคิดถึง



"รัชทายาททุกคนสมควรจะต้องมาร่วมงานเลี้ยงนี้ นี่เป็นประสงค์ขององค์ราชินี Roxana" มหาอุปราช Mihad กำชับให้เขียนมันลงไปในจดหมายเชิญของผู้มีสายเลือด Sulaiman เป็นพิเศษ พร้อมให้ลงตราประทับของราชวงศ์ Sulaiman ลงไปด้วย มันจึงกลายเป็นคำสั่งแกมกำชับกลายๆ ว่าผู้ได้รับจดหมายเชิญนี้จักต้องมาร่วมงานให้จงได้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

ประชาชนใน Fatimah เตรียมพร้อมกับงานเทศกาลนี้กันอย่างเต็มที่ อาคารบ้านเรือนมากมายตกแต่งและประดับประดาด้วยธงและไม้สลักลายมังกร ซุ้มเกม ซุ้มละครสัตว์ และเครื่องเล่นอื่นๆ เร่งก่อสร้างขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพื่อตอบรับงานเทศกาลอันแสนยิ่งใหญ่นี้ คนจากหลากหลายแว่นแคว้นแห่กันเดินทางเข้า Fatimah กันมอย่างล้นหลามด้วยต่างเหตุผล เหล่าพ่อค้าหัวใสหลายคนดีดลูกคิดคำนวนเพียงคร่าวๆ ก็เดาได้ว่างานนี้มีกำไรมากมายมหาศาลแน่นอนจึงพากันขนสินค้าแลบริการต่างๆ มาตั้งร้านเตรียมเปิดสาขาในงานเทศกาลนี้กันอย่างล้นหลาม ทุกหัวมุมถนนเต็มไปด้วยคบเพลิงคอยให้ความสว่างตลอด 24 ชั่วยาม โดยมีเหล่าอัศวินคอยเดินเวรยามคุมอยู่แทบทุกจุด ขบวนพาเหรดที่เต็มไปด้วยแสงสีและความอลังการ พร้อมกับการแสดงโชว์มังกรผาดโผนของเหล่าอัศวินมังกรระดับชั้นต่างๆ มากมาย เรียกได้ว่างานนี้เกณท์กำลังอัศวินมาแทบจะทั้งหมดเลยทีเดียว

พระราชวังส่วนนอกเองก็เปิดต้อนรับให้เข้าสู่ห้องโถงกว้างซึ่งจัดโต๊ะอาหารรอไว้พร้อมแล้ว มันมีมากพอจะเลี้ยงคนได้หลายพันไปเป็นสัปดาห์ ผู้คนสามารถเข้ามากินเลี้ยงและรับรสอาหารอันแสนโอชานี้ได้ตามสบาย ห้องบอลรูมเองก็อยู่ไม่ไกลนัก เสียงแสงดนตรีจึงล่องลอยมาจนถึงห้องนี้ด้วย แน่นอนว่าเมื่อมีดนตรีแล้วจักต้องมีคู่เต้นรำ ฟลอร์กลางเปิดต้อนรับคู่เต้นรับร้อยที่สนใจจะร่วมงานและเต้นไปตามเสียงเพลงคลาสสิคที่คอยปรอบประโลมหัวใจอันเงียบเหงาไป แม้แต่ประชาชนชั้นล่างก็สามารถมาร่วมงานนี้ได้ง่ายๆ ติดเพียงแค่เงื่อนไขเดียวเท่านั้น นั่นคือทุกคนต้อง "สวมหน้ากากปกปิดตัวตน" เพื่อเข้ามาในงานเลี้ยงนี้ จะเป็นหน้ากากหรูหราหรือหน้ากากธรรมดาก็ได้ ขอเพียงแค่ปกปิดใบหน้าของตนเองได้นั่นก็เพียงพอ

เสียงเพลงบรรเลงยามค่ำคืนคลอไปกับสายลมและแสงจันทร์อันสุกสกาวอยู่บนท้องนภา ทุกคนต่างก็มีความสุขในงานเลี้ยงอันรื่นรมย์แห่งนี้ โดยไม่ได้รับรู้ถึงเงามืดบางอย่างที่ค่อยๆ คลืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ และกำลังจะกลืนกินจันทราให้หายลับไป...



"งานเลี้ยงเป็นอย่างไรกันบ้างทุกท่าน" มหาอุปราช Mihad เดินเข้ามาทักทายเหล่าแขกชนชั้นสูงและรัชทายาทอย่างเป็นกันเอง แน่นอนว่าเขาต้องได้ยินคำตอบที่น่าพึงพอใจอยู่แล้วเพราะคงไม่มีใครกล้าขัดใจหรือตอบอะไรน่าเกลียดในงานเลี้ยงสุดหรูเช่นนี้ ด้านหลังของเขานั้นคือมหาอำมาตย์ Salah ที่มาพร้อมกับองค์รักษ์คู่ใจ Sahad พวกเขาเดินทักทายแขกเหรื่อโดยเฉพาะชนชั้นสูงและเหล่ารัชทายาทผู้มีสายเลือด Sulaiman ทั้งหลาย จนกระทั่งใครบางคนก้าวเข้ามาในงานเลี้ยงนี้ ความสนใจทั้งหมดจึงถูกดึงไปทางนั้นทันที



"งานเลี้ยงปลอบประโลม? ข้าไม่เชื่อหรอก" องค์ราชินี Roxana พึมพำเบาๆ กับตนเองแล้วทรงเดินออกมาเยี่ยมเยือนแขกเหรื่อต่างๆ ในงานเลี้ยงด้วยตนเองโดยมีองครักษ์ฝีมือดีนับสิบรายล้อมรอบกายของเธออยู่แทบทุกมุม เรียกได้ว่าแม้แต่เหลือบไรก็ไม่อาจเข้ามาใกล้ชิดเรือนร่างนี้ได้แน่นอน

องค์ราชินีสบตากับมหาอุปราช Mihad อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะทำท่าไม่พอใจ แล้วเดินแยกไปอีกทางหนึ่งของห้องเพื่อทักทายแขกเหรื่อท่านอื่นๆ ด้วยตนเอง



เลือกบทบาทที่ต้องการ

Spoiler for Hiden:
เข้าร่วมงานที่ Fatimah
งานรื่นเริงที่ไม่ได้สนใจสถานการณ์บ้านเมืองนี้ถูกจัดขึ้นที่เมืองหลวงของแคว้น Fatimah และเมืองหลวงของอาณาจักร Fatimah ภายใต้คำสั่งของมหาอุปราช Mihad
หลายฝ่ายมองว่าเป็นการประจบประแจงองค์ราชินี Roxana แต่เนื้อแท้ของงานนี้กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันดูจะลึกล้ำยิ่งกว่านั้นหากมองถึงองครักษ์เอกนับสิบที่มารายล้อมรอบตัว Roxana
ผู้ที่เข้าร่วม Event จะอยู่ภายในเมือง Fatimah (สร้างเรื่องราวว่ามาทำอะไรที่นี่) หลังจบ Event จะเลือกได้ว่าอยู่ที่นี่ หรือกลับที่เดิม

เลือก NPC บนหัวกระทู้ตนเองมาเข้างานด้วยได้ 1 คน ตัวละครนั้น Ally +1 แต่ถ้าไม่เลือกมาจะได้รับ Exp +1
- เต้นรำ: 7c Chr (3 Turn) *เสีย 30G ซื้อหน้ากากหรู ผ่านทันที
- ชมงาน: 7c Luk (3 Turn) *เสีย 30G ซื้อชุดหรู ผ่านทันที
- แข่งยิงธนู: 7c Dex (3 Turn) *ใช้ได้แค่อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการยิงธนูทั่วไป, หากมีธนู เต๋าเหลือ 3c
- แข่งควบมังกร: 7c Int+Agi+Dex M.Atk 1 (5 Turn) *ใช้ได้แค่อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการควบมังกรทั่วไป, หากมี Terra Dragon เต๋าเหลือ 5c / Petit Dragon เต๋าเหลือ 3c
- แข่งขี่มังกรผาดโผน: 7c Int+Agi+Dex *ใช้ได้แค่อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการควบมังกรทั่วไป, หากมี Faras Dragon เต๋าเหลือ 5c
- ประลองยุทธ์: 7c Str+Agi+Dex M.Atk 2 HP 5 Def 1 Vit 1 (5 Turn) *ใช้ได้แค่ M.Atk และอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการประลองบนสังเวียนทั่วไป
- รางวัล: PP +1, Exp +3, Side Quest
- หากทุกข้อมีคนทำสำเร็จ: Ally +1 ให้กับ NPC ที่พามา และ Exp +3

ทำงานของตนในมุมหนึ่งใต้แสงจันทร์ในวันที่ผู้คนร้องรำทำเพลง
ผู้ที่เข้าร่วม Event จะอยู่ที่เดิม ทำหน้าที่ของตนเองไปโดยไม่ได้สนใจงานเทศกาล
- รางวัล: PP +1, Exp +3

ชมพลุและดอกไม้ไฟจากที่ใดที่หนึ่ง
ผู้ที่เข้าร่วม Event จะอยู่ที่เดิม นั่งดูพลุที่ขอบหน้าต่าง ไม่ได้ไปเที่ยวกับใครเขา
- รางวัล: Exp +3, G +30, Ally +1 (3 ตัวละคร)

Quote
Status(2) คือ Int/Str/Vit/Agi/Dex
Status(3) คือ Lds/Fth/Eft/Chr/Luk



ส่ง PM มาที่ falconzero ไม่เกินวันที่ 25 เวลา 21.00 น.

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #11 on: January 27, 2016, 12:03:26 PM »
งานรื่นเริงภายใน Fatimah ถูกจัดขึ้นอย่างอลังการงานสร้าง ผู้คนจำนวนมากแห่กันมาเที่ยวชมงานนี้อย่างร่าเริง ทว่าพวกเขาก็ได้แต่เที่ยวชมในเขตที่ถูกจัดเอาไว้ให้เท่านั้น ยังมีเขตชั้นในของพระราชวังที่กั้นไม่ให้ใครเข้าไปนอกจากผู้มีสิทธิ์เท่านั้น กระนั้นงานรื่นเริงต่างๆ ก็ถูกจัดขึ้นด้านนอกวังอย่างราบรื่น



งานเลี้ยงเต้นรำ

กลางฟลอร์เต้นรำขนาดใหญ่ในเขตที่จัดสรรเอาไว้ให้สำหรับประชาชนทั่วไป บทเพลงบรรเลงอย่างอ่อนช้อยและนุ่มนวลชักชวนให้คู่หญิงสาวแรกพบต่างพากันจูงมือออกไปเต้นรำกลางเวทีกระนั้นก็ไม่มีใครอาจเทียบรัศมีอันแสนเจิดจรัสของคู่ชายหญิงที่กำลังเต้นรำอยู่ที่ใจกลางฮอลล์ ทั้งสองต่างสวมหน้ากากหรูหราประดับด้วยขนนกสีรุ้งแลเพชรพลอยจำนวนมาก ชุดที่ใส่แต่งกายเข้ามานั้นแม้ของฝ่ายชายจะเรียบง่ายแต่ก็ดูหรูหรา ไม่แพ้ฝ่ายสาวที่ใส่เครื่องประดับแวววาวมาเต็มยศพร้อมผ้าแพรไหมบางที่เปิดโชว์สัดส่วนร่างกายอย่างพองาม จังหวะเต้นรำนั้นปรับไปตามเพลงได้อย่างลื่นไหล ทั้งสองเคลื่อนไหวราวกับเป็นหนึ่งเดียวกัน จนกระทั่งเพลงได้บรรเลงมาจนจบ ชายหนุ่มก็โน้มกายเข้าไปใกล้เช่นเดียวกับหญิงสาวที่เอนตัวลงอย่างอ่อนช้อย เสียงปรบมือดังสนั่นให้กับคู่เต้นทั้งสองมากเป็นพิเศษ หญิงสาวถอนสายบัวขอบคุณคู่เต้นรำอันแสนยอดเยี่ยม ในขณะที่ชายหนุ่มก็คำนับเธออย่างให้ความเคารพก่อนที่จะปลีกตัวออกไปเงียบๆ ทิ้งไว้เพียงความน่าหลงไหลของชายหนุ่มคนดังกล่าวที่ไม่มีใครรู้ใบหน้าที่แท้จริงใต้หน้ากากนั้น



"เหนื่อยชะมัด..." เอลซิทออกมายืนพักที่ระเบียง เขาถอดหน้ากากหรูออกชั่วคราวเพราะรู้สึกหนัก ไม่รู้เจ้าพวกชนชั้นสูงพวกนั้นใส่หน้ากากหนักๆ แบบนี้ตลอดเวลาได้ยังไงกัน ไม่ปวดคอบ้างหรือไง?



เดินชมงาน

ภายในงานรื่นเริงที่จัดขึ้นทั่วทั้งเมือง Fatimah แสงสีต่างๆ ของงานเทศกาลสาดส่องไปทั่วทั้งตัวเมือง ขบวนพาเหรดยาวเหยียดเต็มไปด้วยสิ่งน่าพิศวง แคมป์ละครสัตว์ต่างก็เต็มแน่นไปด้วยผู้คน กระนั้นก็ยังไม่มากเท่ากับผู้คนบนถนนที่พากันสัญจรไปมาเพื่อเยี่ยมชมงานรื่นเริงด้วยหลากหลายเหตุผล



"ไม่ได้กลับมาเสียนาน ดูเหมือนจะไม่ได้เปลี่ยนไปมากนะ" องค์หญิง Issabella หรือที่ถูกเรียกในยามนี้ว่า Aisha เดินไปตามถนนหนทางอย่างคุ้นชิน มือบางกุมฮู้ดคลุมหัวปกปิดตัวตนเอาไว้ ถึงแม้ว่าเธอจะหายไปนาน แต่ก็เกรงว่าจะมีคนจำหน้าตนได้ การป้องกันเอาไว้ก่อนเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทราบว่าองค์หญิง Issabella ทำไมถึงเพิ่งกลับมาในตอนนี้ ในเวลานี้ หรือจะเป็นเพราะบัตรเชิญ... ไม่มีทาง เพราะไม่น่าจะมีใครที่รู้ที่อยู่ของเธอจนยื่นบัตรเชิญมาให้แน่ๆ หรือจริงๆ แล้ว...

"อ๊ะ ตรงนั้นมีขนมด้วย" องค์หญิงวิ่งแจ้นไปต่อคิวแล้วจ่ายเงินซื้อขนมสายไหมมาทานอย่างเอร็ดอร่อย และด้วยความไม่ระมัดระวังทำให้เธอเผลอเดินชนใครบางคนเข้า



"ระวังหน่อยสิ" เด็กสาวในชุดหรูหราฟู่ฟ่าต่อว่าอีกฝ่ายที่เอาแต่ห่วงกินจนลืมมองทาง

"อะ โทษทีนะ พอดีชั้นลืมดูทางน่ะ" Aisha เองก็ยอมขอโทษอีกฝ่ายแต่โดยดี อย่างไรเธอก็ผิดจริงในเรื่องนี้ จึงยอมขอโทษอย่างตรงไปตรงมา พอเป็นแบบนั้นแล้ว Milen จึงพยักหน้ายอมรับและให้อภัยอีกฝ่าย ก่อนจะรู้สึกเอะใจอะไรนิดหน่อย

"หน้าตาคุณนี่คุ้นจัง" อดีตองค์หญิงสะดุ้งโหยงเมื่อโดนเด็กน้อยทัก สองมือรีบจับผ้าคลุมหน้าตนเองให้มิดชิด

"คุ้นใครกันเหรอ?" Aisha แกล้งเนียนกลบเกลื่อนแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น นั่นยิ่งทำให้ Milen สงสัยและจ้องเธอมากขึ้นไปอีก จนสุดท้ายฝายที่โตกว่าก็หนีไปเสียก่อน

"นี่! เดี๋ยว!!" เด็กน้อยพยายามจะวิ่งตามแต่ชุดหรูหราฟู่ฟ่าที่เธอซื้อมามันทำให้วิ่งช้าไม่สะดวก สุดท้ายอีกฝ่ายก็หายไปท่ามกลางกลุ่มคนจนได้



"มีอะไรหรือ?" Aigos เดินมาถามเด็กสาว เขามาร่วมงานนี้ในฐานะผู้ปกครองชั่วคราวของ Milen กระนั้นสายตาของชายแก่ก็หรี่มองไปยังทิศทางที่ร่างสูงของอดีตองค์หญิงวิ่งจากไป ก่อนจะตีหน้านิ่งอย่างรวดเร็วแล้วหันกลับมามองเด็กน้อยตรงหน้า

"คนเมื่อกี้หน้าคุ้นๆ"



แข่งยิงธนู



"คนเยอะจริงเว้ย" Red บ่นอุบขณะเดินชมซุ้มเกมในงานรื่นเริงพร้อมกับมังกรคู่หูของเขา โดยปกติแล้วมันจะไม่พูด แต่เพราะเสียงรอบข้างค่อนข้างดัง มันจึงพอพูดได้บ้างในบางจังหวะ



"เฮ้ไทจินั่นอะไรน่ะ" เจ้ามังกรน้อยตัวไม่น้อยชี้ไปที่ซุ้มเกมซุ้มหนึ่ง มันเป็นซุ้มแข่งยิงธนู เหมือนจะเป็นเกมหรือการแข่งขันอะไรสักอย่างนี่แหละ ตอนแรก Red ก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอก จนกระทั่งเหลือบไปเห็นป้ายที่ติดอยู่ไม่ห่าง มันเป็นป้ายบอกรางวัลต่างๆ และหนึ่งในรางวัลที่ Red ดูจะสนใจสุดๆ เลยก็คือ... อาหารมังกรอย่างดี ให้ฟรีตลอดปีสำหรับผู้ทำได้คะแนนเต็มเป็นคนแรก

"ข้าวฟรีสำหรับมังกรเรอะ จัดไป" ว่าแล้ว Red ก็เดินเข้าไปสมัครเล่นเกม แน่นอนว่าเป้ายิงแบบแรกเป็นเพียงแค่เป้านิ่งง่ายๆ ตั้งอยู่ไม่ไกลมากนัก



"กระจอกมาก" Red ว่าแล้วจับธนูคันใหม่ของตนน้าวสายเล็งไปยังเป้านิ่งที่อยู่ห่างไปหลายเมตร ก่อนจะปล่อยมือ... ฉึก ลูกธนูปักเข้ากลางเป้าอย่างแม่นยำ สร้างเสียงเชียร์จากรอบข้างได้เล็กน้อย กระนั้นเจ้าของซุ้มเกมก็ไม่ได้ให้จบง่ายๆ เลื่อนเป้าให้ห่างออกไปอีกหลายเมตร แต่ Red ที่ยังยืนอยู่ที่เดิมก็ยิงเข้าเป้าได้อย่างแม่นยำ ยิ่งเป้าไกลหรือยิงยากมากเท่าไหร่ เสียงเชียร์ Red ก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงเป้าสุดท้ายที่ยากที่สุด คือเป้ามังกรบิน Red จะต้องยิงเป้าที่ติดอยู่ข้างตัวมังกรบินให้โดน หากยิงเข้าเป้า เขาจะได้อาหารฟรีให้ Flame กินตลอดปี กองเชียร์รอบข้างต่างก็เงียบสนิท รอดูผลการแข่งขันครั้งนี้ของชายหนุ่มนักฝึกมังกรที่ชื่อของเขาจะต้องจารึกเอาไว้ ณ ที่นี้...

ฉึก!

ศรไม้ปักเข้ากลางเป้าอย่างแม่นยำอีกครั้ง Red ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วออกจากโหมดสมาธิของตน ก่อนจะหันกลับไปมองกองเชียร์ด้านหลังที่โห่ร้องอย่างชื่นชม Flame ที่อยู่ในกลุ่มนั้นด้วยยกนิ้วให้กับเขา ชายหนุ่มจึงหันไปยกนิ้วให้กับมังกรของตนและเหล่ากองเชียร์เช่นกัน



แข่งควบมังกร

การแข่งขันควบมังกรเป็นการเผชิญหน้ากันด้วยเทคนิค พลัง และความเร็ว ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากันและพิชิตสนามแข่งนี้ให้จงได้ แน่นอนว่างานนี้มีการแทงพนันกันอย่างล้นหลาม แถมยังมีม้ามืดน่าสนใจมาอีกหลายคนเลยทีเดียว



"ฮะฮ่าโย่ว~ มังกรเต็มไปหมดเลย!!" ผู้เข้าแข่งขัน Hanzel เขาเป็นนักวิจัยมังกรจากศูนย์วิจัยมังกร Neelam ในการแข่งรอบหนึ่งเขาได้โชว์ลีลาการขี่มังกรอย่างสนุกสนานราวกับเล่นโชว์ พร้อมกับคว้าชัยชนะในรอบหนึ่งของการแข่งขันไปอย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าทิ้งคู่แข่งรายอื่นๆ แบบไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว





"ชนะแล้วว!!" Fadil กระโจนร้องลั่นอย่างยินดี เขาควบมังกรเบียดตัวเต็งแล้วพลิกแซงมาชนะตอนทางโค้งได้สำเร็จ ได้เงินรางวัลติดไม้ติดมือกลับมามากมาย อา... ในที่สุดเขาก็จะได้นอนที่พักดีๆ กับคนอื่นบ้างแล้ว...



"ท่านจะซื้อให้เรา" Zuleika ยิ้มให้กับ Fadil แล้วชี้ไปที่ซุ้มขนมหวานราคาแพง ชายหนุ่มที่เพิ่งซิ่งมังกรชนะไปก็มองเงินรางวัลในมือ พลางช่างน้ำหนักในใจถึงที่นอนอุ่นๆ กับร้านขนมหวานตรงหน้า สักพักหนึ่งเด็กสาว(?) ในจินตนาการก็มานั่งบนตาชั่งด้านขนมหวาน ทำให้มันเอียงกะเท่เร่ ดีดห้องนอนสบายๆ ปลิวหายไปจากหัวสมองของเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น...





"กระจอกมาก!" องค์หญิง Ziavarisha ควบมังกรของตนเข้าเส้นชัยอย่างง่ายดายโดยที่ไม่มีใครทำอะไรเธอสักคน อาจจะด้วยตำแหน่งองค์หญิงหรืออะไรก็ตาม กระนั้นการแข่งขันก็ไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้น มันสร้างความสนุกให้กับเธอได้พอสมควรเลยทีเดียว อย่างน้อยก็กับสนามแข่งควบมังกรนี่ล่ะนะ



"องค์หญิงสุดยอดไปเลยค่ะ คู่เข้าแข่งขันคนอื่นทาบรัศมีไม่ได้เลย" Arinnea ที่โดนลากมาเป็นองครักษ์จำเป็นกล่าวชมเธออย่างออกนอกหน้า ซึ่งองค์หญิงเซียวาเองก็ไม่ได้อะไรมากกับคำชมนั้น ยกมือสะบัดผมเดินออกมาอย่างชิวๆ

"มันง่าย... แต่ก็สนุกดีเหมือนกัน" เธอยิ้มแล้วเดินออกมา พลางมองหาอะไรอย่างอื่นเล่นต่อไป





รายการนี้ไม่ได้มีองค์หญิงเพียงคนเดียว แต่ลูกขุนนางจาก Neelam ก็มาร่วมแข่งขันกับเขาด้วย ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมคนอย่าง Xerxes จึงนึกครึ้มอยากจะแข่งควบมังกรในงานรื่นเริงเช่นนี้ กระนั้นเขาก็โชว์ฝีมือด้วยการประลองกำลังกับตัวเก็งที่เบียดแทรกมาตอนทางโค้ง แล้วผลักอีกฝ่ายกระเด็นตกมังกรก่อนจะเข้าเส้นชัยไปแบบฉิวเฉียด สร้างความสนุกสนานและความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้อย่างดี



"ยินดีกับชัยชนะด้วยค่ะ" Safia ที่ตามมาคุ้มกัน Xerxes แบบตัวติดกันกล่าว เหมือนว่าเธอจะได้รับคำสั่งอย่างลับๆ ให้คุ้มครองเขา แต่นั่นเป็นเรื่องที่ชายหนุ่มคิดไปเองแล้วยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจน แม้จะมีมูลเหตจำเป็นก็ตามแต่เขาคิดว่าตนเองไม่น่าจะต้องการองครักษ์ขนาดนั้น

"ไปกันเถอะ" Xerxes กล่าวตอบอัศวินหญิงแล้วเดินออกไปจากสนามแข่งด้วยท่าทีน่าเกรงขาม เหล่าผู้ชมต่างก็หลีกทางให้กับเขา โดยเฉพาะเมื่อสบกับสายตาอาฆาตของ Safia ที่เดินตามไม่ห่างนายของตน...





แม้แต่องค์ชายแห่ง Fatimah เองก็มาร่วมงานนี้ด้วย และด้วยฝีมือระดับองค์ชาย แม้แต่ตัวเต็งที่ใช้มังกรที่ดีที่สุดก็ยังต้องพ่ายให้กับเขา แม้ว่าการแข่งขันจะดุเดือดในช่วงท้ายแต่ฝีมือของ Sahar ในการควบคุมมังกรก็เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เขาควบหลบลูกล่อลูกชนจนอีกฝ่ายพลาดความเร็วตก จากนั้นตัวเขาจึงเร่งความเร็วชิงเข้าเส้นชัยไปเป็นอันดับหนึ่งแทนที่ เสียงเชียร์ของสาวๆ ต่างดังระงมไปทั่ว ซึ่งเขาก็ทำเพียงแค่ยิ้มแล้วโบกมือให้เท่านั้น



แข่งขี่มังกรผาดโผน

ซุ้มขี่มังกรพาดโผนตอนนี้กลายเป็นซุ้มกายกรรมที่สุดยอดยิ่งกว่าละครสัตว์ไหนๆ เสียอีก ด้วยความร่วมมือของคนทั้งสาม(?)ที่ไม่น่าโคจรมาพบกัน แต่ก็มาพบกันได้อย่างไรก็ไม่ทราบ นี่อาจจะเรียกว่าเป็นปาฎิหาริย์ก็ได้...



"ฮึบ!" Maimus ขี่มังกรแล้วกระโจนขึ้นไปกลางอากาศ เธอดีดตัวออกจากหลังมังกรไปลอดห่วงใหญ่ ก่อนจะตีลังกาลงมาบนหลังของมังกรตัวเดิมที่กำลังพาเธอบินสูงขึ้นไปอีก รอบนี้ป้าหนูปล่อยมือจากบังเหียนตอนมังกรกำลังบินตีลังกา ก่อนจะบินควงหมุนตัวเองลอดผ่านห่วงเล็กที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงได้อย่างง่ายดาย

ฟุ่บ



สองแขนของชายหนุ่มอ้ารับร่างของหญิงสาวเข้าสู่อ้อมแขนอย่างง่ายดาย ก่อนจะวางเธอลงบนหลังมังกรของเขา สร้างเสียงเชียร์ให้กับผู้ชมที่มาชมการแข่งขันได้อย่างมากมาย ในขณะเดียวกันนั่นเอง แม้ค้าสาวคอสเพลย์ทหารก็กำลังขี่มังกรตัวเล็กของเธอเดินไต่เชือกเส้นเดียวโดยที่สองมือของหญิงสาวถือไม้พลองกับลูกบอลเอาไว้ด้วย



Megan ยิ้มให้กับผู้ชมแล้วใช้ไม้พลองเลี้ยงลูกบอลให้กลิ้งไปมา มันดูไม่ยากเลยถ้าไม่ใช่ว่ามังกรที่เธอขี่กำลังยืนอยู่บนเชือกเส้นเดียว สองขาของมันตะปบแน่นแล้วค่อยๆ เดินคืบไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ในขณะที่คนขี่ยังนั่งยิ้มใจเย็นอยู่ได้ แต่คนดูเริ่มไม่ใจเย็นแล้วเมื่อเธอยืนบนหลังมังกร แล้วยืนขาเดียวเลี้ยงลูกบอลด้วยไม้พลองต่อ จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง แน่นอนว่าทั้งสามต่างก็ได้คะแนนเต็มในหมวดผาดโผนต่างๆ หลากหลาย กวาดรางวัลกันไปเพียบ

ในขณะเดียวกัน โซนผู้ชม



"ข้าอยากเล่นกับมังกรได้แบบนั้นบ้างจัง" Ibrahim ว่า แต่เขาต้องเก็บคำพูดนั้นเอาไว้ในใจ เพราะแค่ฝึกขี่มังกรตอนนี้ยังลำบากเลย เขาต้องชำนาญให้มากกว่านี้เสียก่อน



"ท่านยอดเยี่ยมเหลือเกิน ท่านแม่ทัพมังกรของข้า" Viola กล่าวชื่นชม Farah เมื่อเธอได้เห็นการแสดงโชว์ของ Farah ที่เข้าคู่กับ Maimus ได้อย่างน่าประหลาด



"ข้าชักไม่คิดแล้วล่ะว่าเธอเป็นแค่แม่ค้า" Lattelier พึมพำกับตนเองหลังเห็นโชว์หวาดเสียวของ Megan บางทีเขาอาจจะแนะนำให้เธอใช้พรสวรรค์ด้านนี้ให้เป็นประโยชน์ท่าจะดี



งานประลองยุทธ์

งานประลองยุทธ์เป็นงานที่เหล่ายอดฝีมือจากทั่วทุกสารทิศจะมาวัดฝีมือกันอย่างสง่าผ่าเผย โดยผู้ที่ชนะจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด การแข่งครั้งนี้นอกจากเงินรางวัลแล้วยังได้ชื่อเสียงกลับมาอีกด้วย ทำให้ผู้คนมากหน้าหลายตาหลากเผ่าพันธุ์แห่กันมาลงสมัครงานแข่งครั้งนี้อย่างล้นหลาม จนต้องจัดรอบคัดเลือกให้กับผู้เข้าแข่งขันเสียก่อน



รอบคัดเลือก Block C



"ไม่นึกเลยว่าจะมาเจอกันในที่แบบนี้" Queen หรือหนึ่งในราชาโจรสลัดกล่าวกับคู่แข่งของตนที่เคยชนะตัวเองมาแล้วรอบหนึ่ง



"นั่นสิ จะแก้มือไหมล่ะ?" Chao กล่าวแล้วตั้งท่าต่อสู้ อาวุธของเขาคือกำปั้นนี่แหละ แต่ก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาเจอกับคู่กัดเก่าตั้งแต่รอบแรกของรอบคัดเลือกเช่นนี้ ว่าแต่เขาไม่เคยเห็นเธอใช้อาวุธอย่างอื่นนอกจากปืนเลยนะ Queen จะใช้อะไรสู้กับเขากัน หรือว่า...

ปัง!

เสียงลั่นไกดังขึ้นพอดีกับที่กับตันโจรสลัดเฒ่าโยกหัวหลบได้อย่างหวุดหวิด Queen ยืนมองชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยพอใจแล้วเตรียมจะยิงต่ออีกนัด คราวนี้แหละเธอมั่นใจว่าจะยิงโดนเขาได้แน่ๆ แต่แล้วราชินีโจรสลัดก็ไม่อาจได้ยิงปืนอีกเป็นนัดที่สอง เพราะเหล่าอัศวินมังกรทุ่มกำลังกันลากเธอออกจากสนามแข่งด้วยเหตุผลที่ว่า "ใช้อาวุธปืนผิดกติกา" ส่วน Chao ก็ชนะบายในรอบนั้นไปอย่างง่ายดาย

ส่วนรอบอื่นน่ะเหรอ... หมัดของเขาก็ซัดเรียบหมดน่ะสิ ไม่มีใครกระดูกแข็งพอจะรับการจู่โจมของเขาได้สักคนเดียว



รอบคัดเลือก Block D



"เหอะ กระดูกอ่อนแบบนี้ ยังกล้าเรียกตัวเองว่านักสู้อีกเหรอ?" Dionel ซัดคู่ต่อสู้จนน็อคด้วยมีดในมือ ทักษะของโจรบวกกับความปราดเปรียวทำให้ไม่มีใครมอบบาดแผลทิ้งไว้บนร่างกายของกึ่งมนุษย์ผู้นี้ได้เลย คู่แข่งรายต่อไปถูกกำหนดอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร Dionel ก็อัดจุดตายจนน็อคสลบหมดรูปทุกคน จนกระทั่งเหลือเขาเพียงคนเดียวที่ยังยืนอยู่บนเวทีนี้ อย่างไร้รอยขีดข่วน...

"หวังว่าในรอบจริงจะเจอพวกกระดูกแข็งสักทีนะ" กึ่งมนุษย์กล่าวก่อนจะลงจากเวทีพร้อมเสียงหัวเราะอันชั่วร้าย ใครจะรู้ว่าหมอนี่วางแผนอะไรไว้หรือเปล่า...



รอบคัดเลือก Block P

เคร๊ง!

คมหอกปัดอาวุธของอีกฝ่ายกระเด็นออกจากมืออย่างง่ายดาย ก่อนที่ปลายแหลมจะจี้ไปที่คอของฝ่ายตรงข้าม ส่งผลให้อีกฝ่ายรีบกล่าวถ้อยคำยอมแพ้ออกมาในทันที เสียงเชียร์จากรอบเวทีเฮลั่นให้กับองครักษ์หนุ่มจากวังหลวงที่เพิ่งคว้าชัยชนะจากรอบคัดเลือกไปแบบไม่เสียเหงื่อสักหยด



"ง่ายดายจริงๆ" เหลียวหยวนหว่อกล่าวขึ้นหลังจากเดินกลับเข้ามาในห้องพักของผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านรอบคัดเลือกแล้ว มันเป็นห้องส่วนตัว เขาจึงไม่รู้ว่ามีใครผ่านเข้ารอบมาได้บ้าง กระนั้นคนที่ผ่านเข้ามาก็คงการันตีได้ในระดับหนึ่งว่ามีฝีมือเป็นเลิศแน่นอน



"น้ำค่ะนายท่าน" นันฮะ เด็กสาวที่จอมยุทธ์หนุ่มจ้างมาเพื่อให้เธออยู่กับเขาทั้งคืนเสิร์พน้ำเย็นให้กับชายหนุ่ม เนื่องด้วยค่าตัวของเธอค่อนข้างถูก การเก็บหอมรอมริบเพื่อจ้างตัวเธอทั้งคืนจึงไม่ใช่เรื่องยาก แถมเหมือนจะได้ลดเป็นพิเศษด้วยเพราะ Lala ใจดี หรือเธออาจจะอยากให้นันฮะเรียนรู้โลกภายนอกมากกว่านี้ก็ได้ เหลียวหยวนหว่อเองก็เดาไม่ถูกเช่นกัน เอาเป็นว่าตอนนี้เขามีโลลิข้างกายแล้ว ไม่แพ้ใครแน่นอน

Offline Johan

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #12 on: January 27, 2016, 08:10:10 PM »


"ขอโทษที" แม่ค้าสาวชำเลืองมอง พ่อค้าหนุ่มที่โดนเธอชนจนเซเกือบไปเหมาร้านหน้ากาก



"......." เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะเขามองว่าแม่ค้าคงหาว่าเขาเดินเกะกะไม่ดูทางมากกว่า ก็ดูหน้าเธอสิ

ทั้งสองแยกย้ายกันไปในเวลาเดียวกับที่มีดอกไม้ไฟจุดขึ้น




การประลองมาถึงรอบสุดท้ายแล้ว และของรางวัลสำหรับงานประลองก็คือ 'แหวนเล็บมังกรพันปี'

ต่อที่นี่ http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1838.msg170077#msg170077
« Last Edit: January 27, 2016, 08:31:57 PM by Johan »

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #13 on: January 27, 2016, 08:25:54 PM »


Serevena เดินออกมาจากมุมมืดแห่งหนึ่งในค่ำคืนอันรื่นเริง เสียงดนตรีอันไพเราะล่องลอยไปตามสายลม กระนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกสนุกสนานขึ้นแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะจิตใจของเธอด้านชาไปแล้ว หรือไม่ก็เพราะงานที่เธอเพิ่งทำเสร็จไป แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุไหน Serevena ก็ไม่ได้คิดจะสนใจมัน สำหรับเธอแล้วงานรื่นเริงจะเป็นอย่างไรก็ช่าง จะจัดขึ้นด้วยสาเหตุอะไรก็ช่าง ตราบใดที่มันไม่เกี่ยวกับงานของเธอ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นจะต้องสนใจ

คิดได้เช่นนั้นหญิงสาวก็หันหลังให้กับแสงสีของงานเทศกาล แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง...





วันนี้ Johanes ก็ยังคงเป็นเฉกเช่นทุกที ดอกไฮเดรนเยียอันแสนเย็นชายังคงเบ่งบานท่ามกลางแสงจันทร์ทราอันสุกสกาว ข้างเอวของหญิงสาวมีแส้ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ มันค่อนข้างเข้ามือเธอมากเลยทีเดียว กระนั้นก็ยังใช้ได้ไม่ชินเท่ากับแส้อันเก่า โจรสาวรู้สึกว่าตนเองควรจะฝึกฝนการใช้มันให้มากกว่านี้ ทว่าค่ำคืนนี้คงไม่มีใครหรือสิ่งใดโผล่มาให้ฝึกกระมัง เพราะมันช่างเงียบสงบและไร้ซึ่งสิ่งใดๆ ที่น่าสนใจเลยแม้แต่นิดเดียว ครั้นจะฝึกกับพรรคพวกของตนเองเจ้าพวกนั้นก็รับมือหญิงสาวไม่ไหวเสียแล้ว บางทีเธออาจจะต้องหางานใหญ่อะไรสักงานเพื่อฝึกปรือฝีมือแทน ไม่ก็...

ฟุ่บ...

"ทายซิใครเอ่ย?"





ในค่ำคืนนี้ พระถังเลือกที่จะเข้าฌาณเจริญสมาธิอยู่ ณ มุมหนึ่งของเมือง Daria แม้ว่าภายในตัวเมืองจะจัดงานรื่นเริงเล็กๆ ขึ้นมาแต่เขาก็ไม่คิดจะเข้าร่วมมันแต่อย่างใด เพราะสำหรับนักบวชแล้ว งานรื่นเริงเหล่านี้ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจสำหรับผู้เจริญศีลและผู้ละแล้วซึ่งทางโลก แม้ว่าตนเองอาจจะยังไปไม่ถึงระดับขั้นนั้น แต่หากอยากจะไปให้ถึงนิพพาน นักบวชก็จักต้องละทางโลกให้สิ้นเสียตั้งแต่แรก คิดได้เช่นนั้นพระถังก็นั่งสวดมนต์เงียบๆ อยู่คนเดียว บำเพ็ญตบะของตนให้กล้าแกร่งยิ่งขึ้น ไม่ยอมแพ้ให้กับกิเลศและมารในใจ

Re: [Dragone] Main Story & Event
« Reply #14 on: February 01, 2016, 06:35:38 PM »
งานประลองรอบชิงชนะเลิศ



"หนุ่มน้อยมือไวคนนี้นี่เอง" Maimus กล่าวหลังจากเห็นคู่แข่งขันในรอบชิงชนะเลิศของตน รอบนี้เธอเดินเข้ามาพร้อมกับดาบยักษ์ ไม่ใช้ลูกตุ้มแบบทุกที เพราะการจะตามความเร็วของอีกฝ่ายให้ทัน คงจะต้องใช้อาวุธที่ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว กระนั้นก็ต้องทรงพลังพอจะพิฆาตอีกฝั่งได้ด้วย ดาบใหญ่จึงตอบโจทย์ได้ดีกว่าลูกตุ้มติดโซ่



"ขอความกรุณาด้วย" Fadil โค้งให้กับคู่ต่อสู้ของตน เขาเห็นความเก่งกาจของอีกฝ่ายในการแข่งขันรอบที่ผ่านๆ มาแล้ว กระนั้นหนทางสู้ชัยชนะก็ยังอยู่เบื้องหน้า ดาบใหญ่ในมือกระชับแน่น แววตาคมกริบราวกับนักสู้ที่แท้จริง การต่อสู้ในหลายๆ รอบที่ผ่านมาทำให้เขาพัฒนาตนเองไปมาก และรอบนี้เขาก็ตั้งใจจะคว้าชัยชนะ และนำรางวัลกลับไปฝากเด็กน้อยของเขาให้จงได้

แก๊ง!

สัญญาณการแข่งขันรอบชิงดังขึ้น ผู้ชมทุกคนคาดหวังจะได้เห็นการต่อสู้อันน่าตื่นตาตื่นใจเช่นหลายๆ รอบที่ผ่านมา ทว่าทั้งสองกลับยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่มีใครขยับตัวแม้แต่คนเดียว แม้แต่จะตั้งท่ารับมือก็ไม่มี ไม่มีใครเข้าใจความคิดของทั้งสองเลยแม้แต่น้อย พวกเขาคิดหรือวางแผนอะไรยังไงกันนะ?

แน่นอน ไม่ใช่ว่าไม่อยากขยับ แต่หากขยับตอนนี้จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบต่างหาก... นั่นคือความคิดของ Maimus หลังจากเห็นออร่าความมั่นใจและความเกรงขามจากคนตรงหน้า อีกฝ่ายมีความตั้งใจและมีพลัง พร้อมจะบุกเข้ามาได้ทุกเมื่อ หากเธอไม่ระวังเอาไว้ เธอก็จะเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียทีให้กับเขาเป็นแน่

ตรงกันข้ามกับ Fadil การที่เขาไม่ได้ขยับไม่ใช่เพราะเขาไม่กล้า แต่จากรอบที่ผ่านๆ มานั้น อีกฝ่ายใช้พละกำลังและสติปัญญาหักหาญเอาชนะคู่ต่อสู้มาทุกรอบไป การบุกเข้าไปก่อนโดยไม่คิดอะไรนั้นอาจจะเข้าแผนการของเธอก็เป็นได้ เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจว่าตนเองจะไม่ขยับแม้แต่จะตั้งท่าทางต่อสู้ เพื่อให้เธอเดาทางไม่ออก กระนั้นเมื่อไม่ได้อยู่ในท่วงท่าที่พร้อมจะรับมืออีกฝ่าย นั่นก็ทำให้เด็กหนุ่มบุกเข้าไปลำบากเหมือนกัน

ความเงียบเข้าครอบงำสนามแข่ง ไม่มีใครขยับตัวแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปร่วมนาที จึงได้มีคนทำลายความเงียบนี้ขึ้น

กึก... Maimus ขยับสืบเท้ามาด้านหน้าอีกฝ่ายก้าวหนึ่งเพื่อเปลี่ยนท่วงท่า เช่นเดียวกันกับ Fadil ที่ก้าวเท้ามาด้านหน้าบ้าง จากนั้นจึงเป็นการผลัดกันก้าวทีละก้าวไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง... ทั้งคู่มาประชันหน้ากันในระยะประชิด กลางเวทีการแข่งขัน สายตาของทั้งสองจดจ้องแววตาของอีกฝ่ายอย่างเงียบงัน ราวกับกำลังมองค้นหาอะไรบางอย่างอยู่ จนกระทั่ง...

เคร้ง!

แววตาที่สั่นไหวเพียงชั่วครู่ของ Maimus ทำให้ Fadil ตวัดคมดาบใส่ในทันที กระนั้นนักวิจัยสาวก็ยกอาวุธของตนขึ้นมารับมือได้อย่างรวดเร็ว รอยยิ้มหวานปรากฎขึ้นอีกครั้ง เด็กหนุ่มรู้ตัวแล้วว่าตนเองหลงติดกับดักทางจิตใจของอีกฝ่ายจึงเร่งกระโจนถอยห่างออกมา แต่กลับกลายเป็นว่าหญิงสาวไม่ได้ตามเขามาต่อ ยังคงยืนอยู่กลางสนามด้วยใบหน้านิ่ง มือบางยกขึ้นข้างหนึ่งกวักเรียกอย่างท้าทาย ท่าทีอันมั่นใจนั้นทำให้ชายหนุ่มเกิดอาการลังเลและไม่กล้าเข้าใกล้ ความสับสนเริ่มครอบคลุมความคิดอ่านของเขา ส่งผลให้การ์ดป้องกันตกลงครู่หนึ่ง ทว่าเพียงครู่เดียวนั้นก็เพียงพอแล้ว สำหรับเธอ...

ฟุ่บ!

คมดาบยาวตวัดใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ด้วยระยะที่ไม่ห่างกันมากกับประกอบกับความยาวของอาวุธ ทำให้หญิงสาวโจมตีถึงเป้าหมายได้อย่างฉิวเฉียด ทว่าสัญชาตญาณของ Fadil นั้นถูกลับมาให้คมกริบยิ่งกว่า เขาถอยฉากเพียงครึ่งก้าว หลบคมอาวุธได้อย่างง่ายดาย แล้วอาศัยท่วงท่านั้นพุ่งสวนเข้าไปหาอีกฝ่ายในระยะประชิด สายตาของเขาจดจ้องคู่ต่อสู้ตรงหน้าที่แสยะยิ้มอย่างมีชัย สันหลังเขาสั่นวาบอีกครั้งพร้อมกับร่างกายที่ขยับก้มตัวลงกับพื้น หลบคมดาบใหญ่ที่ปาดกลับมาได้อย่างฉิวเฉียด พอดีกับที่เด็กหนุ่มเข้ามาประชิดร่างของอีกฝ่ายได้ สองมือจับอาวุธแน่นแล้วฟาดใส่อีกฝ่ายทันที เป้าหมายคือ... เท้าของอีกฝ่าย

"!!" Maimus เบิกตากว้างกับการโจมตีที่คาดไม่ถึง หญิงสาวถีบร่างกระโจนตัวขึ้นกลางอากาศเพื่อหลบการโจมตีของอีกฝ่าย พลันฝ่ามือหนาก็พุ่งเข้ามาหมายจะจับร่างของหญิงสาวเอาไว้ ในจังหวะนี้หญิงสาวคงหลบไม่ได้เป็นแน่ เธอจึงตัดสินใจละมือจากอาวุธมารับอีกฝ่าย สองมือสัมผัสยื้อกันอย่างรวดเร็ว และเป็นหนูนาสาวที่อยู่กลางอากาศโดนผลักออกจนเสียหลัก กระนั้นด้วยแรงของเธอก็กระชากชายหนุ่มให้เสียหลักตามมาด้วย หญิงสาวล้มตัวลงนอนกับพื้น รอจังหวะให้อีกฝ่ายลอยลงมาใกล้ แล้วจึงยกสองขาถีบเขาให้กระเด็นออกไปพร้อมกับปล่อยมือที่กุมอีกฝ่ายอยู่อย่างรวดเร็ว แล้วเร่งลุกขึ้นมาตั้งหลักอีกครั้ง

Fadil โดนถีบลอยขึ้นไปกลางอากาศ เขาลอยเคว้งไปมาอยู่ครู่หนึ่ง สายตาเหลือบไปเห็นอีกฝ่ายลุกขึ้นยืนอีกครั้งแล้ว หากลงไปทั้งอย่างนี้ตนเองจะต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่ ต้องทำให้เธอเสียหลักอีกครั้ง คิดได้เช่นนั้นเด็กหนุ่มก็เงื้อดาบกว้าง ก่อนจะขว้างมันใส่อีกฝ่ายที่อยู่ด้านล่างเต็มแรง ส่วนตนเองก็ตีลังกาลงมายืนหยัดบนพื้นอย่างง่ายดาย

เคร้ง! คมดาบยาวถูกตั้งต่างโล่เพื่อป้องกันอาวุธที่พุ่งดิ่งมาหา Maimus ใช้ความคิดตามสัญชาตญาณอีกฝ่ายไม่ทัน จนเธอต้องงัดมันมาใช้บ้าง ซึ่งนั่นกลับเป็นการเข้าทางเด็กเร่ร่อนอย่าง Fadil แทน เด็กหนุ่มพุ่งตัวเข้ามารับอาวุธของตนที่กระเด็นออกมาอย่างว่าง่าย ใบดาบยักษ์ที่ตั้งต่างโล่บดบังทัศนวิสัยของหญิงสาวทำให้เธอไม่เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาราวกับนาฬิกาบอกเวลาให้เร่งตัดสินใจ ความคิดอ่านและแผนการแวบเข้ามาในหัวอย่างรวดเร็ว เธอไม่มีเวลาพิเคราะห์มันว่าจะสำเร็จแล้วไปได้ด้วยดีหรือไม่ ในตอนนี้มีแต่ต้องเสี่ยงทำเท่านั้น!

ใบดาบที่ตั้งขวางทั้งสองพลิกออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถูกเหวี่ยงขึ้นเหนือหัวเพื่อปัดการโจมตีที่กำลังพุ่งเข้ามา ด้วยความเร็วของ Fadil และระยะห่างที่วัดจากเสียงวิ่ง อาวุธของอีกฝ่ายจะถูกปัดกระเด็นอีกครั้งอย่างแน่นอน

ฟุ่บ... คมดาบยาวไม่ได้ถูกปัดออกอย่างที่คิด ซ้ำมันยังพุ่งมาจ่อลำคองามของนักวิจัยสาวแล้วหยุดชะงักได้อย่างพอดิบพอดีอีกต่างหาก สร้างความแปลกใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก

"...ทำไม?" Maimus ปล่อยดาบให้หล่นลงด้านหลัง แล้วยกสองมือเป็นเชิงยอมแพ้



"ข้าก็แค่... ขยับให้ช้าลงสักสองจังหวะเท่านั้น" Fadil ตอบกลับไป เขาคิดไว้แล้วว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะต้องคำนวนจังหวะการต่อสู้ของตนได้ จึงจงใจขยับให้ช้าลงจนอีกฝ่ายจับจังหวะผิดพลาาด แล้วในเสี้ยววินาทีที่เธอพลาดนั้น... เขาก็จะช่วงชิงชัยชนะมาไว้ในมือ

"การใช้ความเร็วน่ะ ไม่ใช่ว่าจะต้องใช้ให้สุดเสมอ แต่จะต้องรู้ว่าตอนไหนควรจะใช้ความเร็วเท่าใดต่างหาก" นั่นเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนที่เสี่ยงเชียร์และเสียงโห่ร้องจะดังก้องไปทั่ว สัญญาณจบการแข่งขันดังขึ้นพร้อมกับที่พิธีกรประกาศผู้ชนะเลิศในการประลองครั้งนี้

Fadil Win!