[STARLIGHT] การเดินทางของ Belphegor

• lostlance: งี้นี่เองงง
  July 21, 2023, 07:09:04 PM
• Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
  August 28, 2023, 10:56:33 PM
• lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
  August 31, 2023, 10:47:07 AM
• Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
  September 29, 2023, 06:48:36 PM
• Bloody Rabbits: รออยุ่ว
  September 29, 2023, 10:01:26 PM
• lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
  October 05, 2023, 02:12:26 PM
• Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
  December 02, 2023, 01:55:59 AM
• Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
  January 01, 2024, 11:30:01 AM
• Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
  January 01, 2024, 11:30:18 AM
• Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
  January 01, 2024, 11:35:44 AM
• lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
  January 01, 2024, 08:58:21 PM
• Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
  June 09, 2024, 12:51:10 PM
• duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
  July 29, 2024, 10:00:23 PM
• Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
  August 01, 2024, 08:35:21 PM
• duek duen: Damn
  August 04, 2024, 04:42:50 PM

[Johan]

Spoiler for Hiden:

Avidya Level 35    HP  3/3         SP  0/4         Skl  3             Inv  3           Ltc  4           Int  4     Str  0     Vit  1     Agi  0     Acc  3     Lds  3     Fth  0     Mrl  0     Eft  4     Chr  3  Skill - Mecha Master: Mecha Summons Status +2, ✪ Mecha/Engineer Ⓟ [Nature] Skill - Engineer: ทักษะวิศวกร Ⓟ [Nature] ۞ Skill - Mechanical Experience: ลดการใช้ SP 1 เมื่อเรียกใช้ Mecha Summons Ⓟ [Nature] Item - Mecha Factory: อุปกรณ์เปิดมิติ เรียกใช้ Mecha Summons ได้, ✪ Engineer [Innovation] Item - ภาพน่าอายของ Kaiser : เป้าหมาย M.Atk -2 100% [Nature] [1/1] Item - Mechanical Tool Belt: ใช้กับกลไก ฟื้นฟู HP 1 [Nature] [2/2]

Canone Level 33    HP  5/5         SP  1/1         Skl  3             Inv  3           Ltc  1           Int  0     Str  3     Vit  4+1     Agi  2+1     Acc  2     Lds  1     Fth  2     Mrl  1     Eft  4     Chr  2  Race - Mecha: สถานะกลไก Ⓟ [Innavation] ۞ Skill - Safeguard: รับอุปสรรคแทนเป้าหมายได้ [Nature] Skill - Particle Shield: ป้องกัน Atk ≤ 5 100% Turn 1, ✪ Mecha Ⓠ [Innovation] Item - Nanomachines: นาโนแมชชีน Def +2 Vit +1, ✪ Mecha Ⓟ [Nature] ۞ Item - Super-Alloy Body: เสริมโครงสร้างและเกราะ M.Atk +1 Def +2, ✪ Mecha Ⓟ [Nature] ۞ Item - Rocket Thrusters: ท่อขับดัน Agi +1 บินได้, ✪ Mecha Ⓟ [Nature] ۞

Knight Magnificent    HP  4/4         SP  0/0         M.Atk  0         R.Atk  0       Def  2           Vit  4  Race - Mecha: สถานะกลไก, ✪ 5 SP Skill - Safeguard: รับอุปสรรคแทนเป้าหมายได้ [Nature] Item - The Royal Queen: ดาบแปรสภาพเป็นโล่ Guard 5 ⓞ [Innovation] [4/4]

Excellent the White Duchess    HP  3/3         SP  0/0         M.Atk  2         R.Atk  0       Def  1           Vit  2     Agi  3     Acc  3  Race - Mecha: สถานะกลไก, Nature Resist, ✪ 4 SP Item - Diamond Dagger: M.Atk +3 Agi +1 Ⓦ [Innovation] [2/3]

[Melin]

เลือก
- อยู่ที่สมรภูมิ

ระบุ NPC ที่ต้องการพบเจอได้ 1 คน
- Bel
- Cure (เห็นคำใบ้บอกมาว่า Vios กับ BB หมดบทบาทไปแล้วแต่ Cure ไม่มีบอกเพราะงั้นเลือกนี้ละ ถึงจะอยากเลือก Nautilus มากกว่าก็ตาม)

[Johan]

สมรภูมิแนวหน้าเป็นการรบด้วยเทคโนโลยีโลกเก่า มีหุ่นยักษ์ ยานยักษ์ และจักรกลเวทมนตร์หลากหลายประเภทในแนวรบที่มีอยู่นับไม่ถ้วน
Avidya บัญชาการหน่วยรบในบังคับบัญชาให้ต่อสู้ด้วยทุกสิ่งที่มี ดาวเคราะห์ขนาดย่อมเป็นธุลีด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ดวงจันทร์กว่าสิบดวงแหลกเป็นฝุ่นด้วยคลื่นเสียงอาคมอวกาศ
เพลิงอาคมที่แผ่ออกมากลางอวกาศเผาทำลายกองทัพของ Paix ในพื้นที่นี้แทบจะราบคาบ
เขารู้ดีว่าแนวรบนี้และอีกหลายพันที่เป็นวิทยาการโลกเก่าถูกส่งมาหยั่งเชิงเพื่อคำนวณมวลของเอกภพในพื้นที่นี้ก่อนที่การโจมตีที่แท้จริงจากแกนกลางของ Paix จะสาดแสงทะลุมิติมาในอีกไม่กี่อึดใจหลังจากนี้

Avidya รู้ตัวดีว่าเขากำลังจะพลีชีพในสงครามนี้ เพื่อแลกกับชัยชนะของ Paix เบื้องหน้าของเขาปรากฎหมอกเพลิงที่คล้ายจะครอบคลุมกองยานทั้งหมด

แต่แล้วทุกสรรพสิ่งรอบตัวของเขาก็หยุดลง สายตาของเขามองเห็นเพียงภาพขาวดำในโลกที่นิ่งงัน และใครบางคนที่เขาไม่เคยพบเจอปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าเขา

Spoiler for Hiden:

หุ่นรูปร่างเล็กแต่ดูอย่างพินิจแล้วแฝงความน่าสะพรึงกลัวยืนอยู่บนความว่างเปล่าใต้ฝ่าเท้าน้อยๆ
ดวงตาสีแดงเลือดคู่นั้นเบิกกว้างมองมายัง Avidya

"ท่านมาทำอะไรอยู่ที่นี่"

(ตอบกลับไป)

[Melin]

"ปกป้องเจตนารมณ์และต้นไม้แห่ง Paix ที่เหล่าบรรพบุรุษได้เสียสละชีวิตเพื่อปลูก(สร้าง)มันขึ้นมา" Avid พูดขึ้นด้วยสายตาที่แข็งกร้าว และท่าทีที่ไม่เป็นมิตรอย่างที่สุด
เค้าไม่ยอมให้ใครก็ตามมาทำลาย Paix แน่ ๆ ไม่มีทาง ต่อให้ตัวเขาจะพลีชีพในสงครามครั้งนี้ก็ตาม และนั้นก็เป็นคำตอบสำหรับผู้แปลกหน้าที่เค้าไม่เคยแม้แต่จะอยากรู้จัก
แน่นอน ว่าในหัวของเค้าตอบสนองและบอกได้ทันทีว่าผู้ที่เค้าพบอยู่ในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นศัตรูหรือไม่ก็อาจเป็นความสามารถสักอย่างที่ศัตรูกำลังใช้กับเค้าอยู่ก็เป็นได้
หากแสดงท่าทีอ่อนแอให้ศัตรูเห็น มันคงจะหัวเราะกันขบขันแน่ ๆ เพราะงั้นในฐานะที่เค้าเป็นหัวหน้าที่บัญชาการหน่วยรบในครั้งนี้ จึงต้องแสดงท่าทีให้สมกับเป็นผู้นำให้ถึงที่สุด !?

[Johan]

ไม่มีความจำเป็นต้องเสวนากับคนตายและคนที่กำลังจะตาย หากเป็นศัตรูคงไม่ปรากฎตัวขึ้นมาในช่วงเวลาที่เขากำลังจะตาย
ใครบางคนที่เขาเผชิญหน้าอยู่นั้นห่างไกลจากคำว่าศัตรู แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะมองว่าเธอเป็นมิตรเช่นกัน



"ต่อสู้ และตายไป เพื่อปกป้อง เพื่อทำลาย"
"ฟันเฟืองที่หมุนไปอย่างไม่รู้จบก่อให้เกิดสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น"
"หากผู้คนมากมายมีมุมมองเช่นท่าน สงครามจะแผดเผาสันติสุขให้มอดไหม้จนสิ้นซากทุกอนูของเอกภพ"

ใครคนนั้นพูดอะไรสักอย่างที่ไม่ปะติดปะต่อกัน แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีเป็นศัตรูหรือเป็นมิตร

"น่าทึ่ง เราใคร่รู้นักว่านั่นคือเจตจำนงค์ที่แท้จริงของท่านจริงหรือเพียงอารมณ์พาไป"

[Melin]

"เธอกำลังบอกให้เรายอมแพ้เผ่าบ้าสงครามพวกนั้น ทั้งที่ยังไม่ได้สู้และปล่อยให้เผ่าที่บรรพบุรุษสร้างขึ้นถูกทำร้ายหรือไงกัน?" Avid พูดถามขึ้น

[Johan]

ร่างนั้นลอยวูบเข้ามาหยุดตรงหน้าของ Avid เท้าที่ลอยเหนือพื้นสูงขึ้นมาในระดับที่สายตาของทั้งสองบรรจบกันในแนวระนาบ



"ใครกันหรือบรรพบุรุษที่ท่านกล่าวอ้าง" เธอเบิกตาที่กลมโตให้กว้างกว่าเดิมอีกเล็กน้อย ดวงตานั้นเริ่มสว่างแดงจ้าคล้ายจะแผดเผาเขาได้ในพริบตา

และความทรงจำตลอด 4 แสนปี ไม่สิ มากกว่านั้นเสียอีก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ Cure จดจำมันมาตลอดชีวิตที่กำเนิดขึ้นจนถึงปัจจุบันที่เธอกับ Bel รวมร่างกับกาแล็คซี่
ทุกสรรพสิ่งที่เคยเกิดและดำเนินไปได้หลั่งไหลพรั่งพรูเข้าสู่สมองของ Avid ที่ไม่มีทางจะรับได้ไหว พริบตาเดียวนั้นที่เขาเสียชีวิตในทันที

ไม่มีสิ่งใดที่ชนชาว Rex จะทำไม่ได้

และเรายังไม่อนุญาตให้ท่านตาย


ในพริบตาหนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งกว่านั้นเขากลับฟื้นคืนชีพเพื่อมารับเอาความทรงจำนั้นไป ค่อยๆเก็บรวบรวมทีละเล็กทีละน้อยดุจการต่อจิ๊กซอว์
เขาต้องตายและฟื้นนับล้านๆๆครั้งเพื่อรับรู้ซึมซับสิ่งต่างๆที่ Cure ส่งผ่านให้กับเขา

"ท่านมัวมาทำอะไรอยู่ที่นี่"

[Melin]

"...." Avid พยายามประคองสติของเค้า หลังจากที่โดนทรมารด้วยฝีมือยัยซาดิสม์ด้วยการตายและฟื้นมานับล้านๆๆครั้ง

Talent การเจรจา: 1d5 Chr

Rolled 1d5 : 5, total 5

 (ถ้าผ่านก็ปาฏิหาร ถ้าเฟลก็เฟลเพราะตายเกิดเยอะเกินไปนี้แหละ)

[Johan]

"ไม่รู้สิ"

Avidya ตายแล้วฟื้นไปอีกสี่แสนรอบอย่างไม่มีเหตุผล จนกระทั่งรอบสุดท้ายที่เขาไม่ได้ถูกชุบชีวิตขึ้นดังเช่นก่อนหน้านี้
เขาอยู่ในห้วงของภวังค์ที่ว่างเปล่า เลือนลาง แต่ความทรงจำที่ได้รับมานั้นไม่ได้หายไป รวมไปถึงความทรงจำปัจจุบัน

ชีวิตของเขาตลอด 22 ปีมานี้ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการทำงานและใช้ชีวิตกับหุ่นยนต์รุ่นเก่าที่หลงๆลืมๆ

แม่หุ่นยนต์ที่ชื่อว่า Canone ผู้อ้างตัวว่าเป็นสหายกับ Belphegor ผู้สร้างกาแล็คซี่ Paix
เธอหลงลืมอะไรไปมากมาย ใช้ชีวิตเหมือนเด็ก จนวันหนึ่งก่อนจะออกรบที่เธอดูจริงจังขึ้นมา เธอเดินเข้ามาหาเขาแล้วบอกว่า

Spoiler for Hiden:

"แต่งงานกัน"

"ดีไหม"

เลือก
- มุ่งหน้าไปตามวิถีทางของ Belphegor
- ฉันยังมีคนที่รอคอยฉันอยู่

[Melin]

- ฉันยังมีคนที่รอคอยฉันอยู่ !!

[Johan]

....ลาก่อน

ขอให้สมหวัง

และมีความสุข


Avidya ได้รับพลังจากกาแล็คซี่ แต่เขาจะรอดชีวิตไปจากสงครามกาแล็คซี่ได้หรือไม่นั้นคงไม่มีใครตอบได้

ผมยังมีคนที่รอคอยผมอยู่ ผมจะรอดกลับไปให้ได้: 7c Int Str Agi Acc Lds Fth

ใช้ตัวละครที่มีบนหัวกระทู้ช่วยกันได้ ต้องสำเร็จ 2 ค่าขึ้นไป ถ้าพลาดจบตรงนี้
ใช้ Talent ได้ (ทอย 5c/1 SP)

[Melin]

    ผมยังมีคนที่รอคอยผมอยู่ ผมจะรอดกลับไปให้ได้: 7c Int Str Agi Acc Lds Fth

Avidya Int 4

Rolled 1d7 : 3, total 3

Canone Str 3

Rolled 1d7 : 5, total 5

Excellent the White Duchess Agi 5+1 = 6 (ใช้ Diamond Dagger)

Rolled 1d7 : 1, total 1

Excellent the White Duchess Acc 5

Rolled 1d7 : 3, total 3

Avidya Lds 3

Rolled 1d7 : 1, total 1

Canone Fth 2

Rolled 1d7 : 6, total 6

[Johan]

Canone พุ่งทะลุมิติออกมากางสนามพลังป้องกันกองยานของ Avidya จากเพลิงอวกาศ ก่อนที่เธอจะสาดแสงทำลายกองทัพศัตรูที่แนวหน้าแทบสิ้นซาก
พร้อมกับที่ Avidya อัญเชิญเอาหุ่นรบในตำนานออกมาสกัดกั้นช่วยเหลือกองยานลำอื่นๆในเวลานั้นเพื่อส่งสัญญาณไปยังส่วนกลางว่าไม่จำเป็นต้องใช้ Starlight แล้ว สงครามจบลงแล้ว

และกาแล็คซี่เป้าหมายของ Paix ก็พินาศในเวลาต่อมา

ชีวิตของ Avidya กลับมาเริ่มต้นใหม่ เขามองดู Canone ที่แต่งงานกับเขาเมื่อปีก่อนกำลังจัดแจงแต่งบ้าน เธอไม่มีเซนส์ในการเลือกของแต่งบ้านเลยสักนิด ให้ตายเถอะ
มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรถ้าเขาจะใช้ชีวิตกับเธอและมีความสุขในเมืองเล็กๆ บนดาวเคราะห์ที่ห่างไกลจากศูนย์กลางของกาแล็คซี่แห่งนี้
ทุกวันที่ Avidya กลับมาจากงานที่ร้านเขาจะเห็น Canone ทำโน่นทำนี่ตลอด เธอเล่าให้เขาฟังเรื่องราวที่เขาเคยรับรู้มาจาก Cure ซ้ำไปซ้ำมา โดยเฉพาะเรื่องของ Bel อย่างไม่เบื่อหน่าย
Avidya ได้รู้ว่า Vios และ Ven ไปพบรักกันได้อย่างไร พวกเขาทั้งสองเผชิญกับอะไรมาบ้าง มันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองควรจะพยายามให้มากกว่านี้ พยายามที่รักษาความสุขนี้ที่พวกเขาสร้างเอาไว้

ทั้งสองมีความสุขตามอัตภาพ ไม่เห็นจำเป็นต้องไปต่อสู้ห้ำหั่น ไม่เห็นจำเป็นจะต้องแสวงหาหนทางใดๆ เราก็มีความสุขได้

"ก็แค่เศษเสี้ยวของพลังอำนาจมันมาฝังอยู่ในตัวของพวกเรา"

อาคารเรียนชั้นสามพังลงมาทับชั้นสอง แต่ชั้นสองไม่ได้พังลงมาด้วย มีคนเจ็บและคนเสียชีวิต แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่ Belphegor ที่ขยับออกมาจากใต้โต๊ะ

แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกอาคารก็พบฝุ่นที่ฟุ้งตลบราวกับคลื่นยักษ์บนผืนดินแห้งผากสูงกว่าสิบเมตรอันเกิดจากแรงระเบิดของขีปนาวุธชนิดหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งมันได้ทำลายบริเวณนั้นราบเรียบในพริบตาไปแล้ว
Belphegor คิดว่าเธอโชคดีที่ไม่กระโดดออกไปจากอาคารในระหว่างที่พิงผนังใต้หน้าต่าง ปล่อยให้ฝุ่นที่ฟุ้งตลบและเศษซากที่ถูกหอบมาปลิวผ่านหัวไปท่ามกลางเสียงกรีดร้อง

ผ่านไปสักกี่ปีแล้วนะ ภาพที่ Avidya เห็นบัดนี้มันต่างออกไปจากทุกวัน บ้านสองชั้นที่ไม่ได้หลังเล็กหรือใหญ่จนเกินไปของเขาพังถล่ม
ไม่ไกลนักเป็นร่างครึ่งบนของ Canone ที่กอดกรอบรูปแต่งงานไว้แน่นโดยไม่ขยับเขยื้อน และไม่มีวันจะเคลื่อนไหวได้อีก

นี่คือสงคราม มันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว และมันจะไม่จบลง ไม่มีวันจบลง สงครามจะไม่มีวันหายไปจากเอกภพตราบที่ยังมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์

Avidya สิ้นหวังถึงขีดสุด เขาไม่ได้ยินสิ่งใดอีกแล้ว
และในห้วงสติที่ดำดิ่งนั้น


มาสิ มาที่ Starlight สู่โลกใหม่ที่ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีสงคราม ไม่มีความตาย มีเพียงสันติสุขที่เป็นนิรันดร์

ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็จะเจออุปสรรคสุดท้าย เพียงแต่บทสรุปในตอนจบจะต่างกัน
- ไป
- ไม่ไป

[Melin]

"จะต้องการโลกที่สงบสุขและชีวิตที่เป็นนิรันไปทำไม? ในเมื่อไม่มีสิ่งใดเหลือให้ผมได้ปกป้องมันอีกแล้ว" Avid พูดขึ้นก่อนจะให้คำตอบ

- ไม่ไป

[Johan]

เช่นนั้นจงใช้พลังของเธอเปลี่ยนแปลงมัน

สร้างความสงบสุขขึ้นมาด้วยพลังของเธอ

สร้างโลกที่เธอต้องการ

และปกป้องมันให้ได้


Canone ฟื้นคืนชีพ

บอกกล่าวสิ่งที่ต้องการในเวลานี้ ภายใต้เงื่อนไขของพลังแห่งจินตนาการที่อยู่เหนือเหตุผลและความรู้ใดๆ

[Melin]

ภายใต้เงื่อนไขของพลังแห่งจินตนาการที่อยู่เหนือเหตุผลและความรู้ใดๆ = ภายใต้เงื่อนไขเพ้อเจ้อไร้สาระ

- จบการเดินทางที่ยาวนานของแสงดาว พร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ที่ค้นหาสิ่งลึกลับ วัตถุโบราณ ฯลฯ เพื่อศึกษาเรียนรู้และพัฒนาขอบเขตในทุก ๆ ด้านให้ก้าวข้ามขีดจำกัด !?