Mysterious Tower
Floor: 107thที่นี่คือสวนสาธารณะที่ตอนนี้อุณหภูมิสูงถึง 35 องศาเซลเซียส ซึ่งแค่ตัวเลขก็บ่งบอกถึงความร้อนแล้ว หนำซ้ำบรรยากาศรอบข้างของสวนแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยสีแดงที่เป็นสีโทนร้อน ทำให้ที่แห่งนี้ดูร้อนมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าที่นี่มันนรกบนดินของคนเกลียดความร้อนชัดๆ
ถึงกระนั้น ก็ยังมีคนอยู่ในที่ที่ร้อนบัดซบแบบนี้อยู่ถึงสองคน ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นผู้วิเศษที่ไม่รู้สึกรู้สาต่อความร้อน หากแต่ว่าพวกเขาทั้งสองเป็นคนบ้าต่างหาก
"...ร้อนจังเลยนะครับ" คนบ้าหมายเลขหนึ่งกล่าวขึ้นมาขณะนั่งอยู่ที่ชิงช้าของสวนสาธารณะ เจ้าหมอนี่เป็นเด็กชายที่มีทรงผมพิลึกึกกือจนดูคล้ายดาว เสื้อกาวน์ทับเสื้อโปโลสีดำและกางเกงขายาวสีแดงที่เด็กชายสวมใส่อยู่ชุ่มไปด้วยเหงื่อที่มาจากอากาศร้อนตับแล่บ "ร้อนขนาดนี้ทำคนเป็นลมแดดได้เลยนะครับเนี่ย..."
"ไอ้คนที่มาเลือกมาอยู่ในที่ร้อนๆเองอย่างแกอะอย่าบ่น" คนบ้าหมายเลขสองที่นั่งที่ชิงข้าตัวข้างๆกล่าวขัดคำพูดของเด็กชาย หล่อนเป็นหญิงสาวผมแดงในเสื้อที่ดูคล้ายชุดนักเรียนกะลาสี ซึ่งก็แน่นอนว่าชุ่มไปด้วยเหงื่อเช่นเดียวกันกับเด็กชาย
"อ๋า....นั่นสิน้า...แล้ว ที่เรียกมานี่มีธุระอะไรเหรอครับ? เด็กชายเอ่ยถามหญิงสาว "เห็นเมื่อสองสามวันก่อนส่งข้อความมาว่ามีเรื่องอยากจะคุยกันสองต่อสอง แล้วให้เลือกวันเวลาและสถานที่นี่นา...?"
"จริงอยู่ ที่เรื่องเวลาและสถานที่ฉันให้แกจัดการเอง หญิงสาวกล่าว "แต่ไม่ได้แปลว่าจะต้องเลือกสวนสาธารณะร้อนตับแตกแบบนี้เลยนี่หว่า" จากนั้นก็ยื่นเอกสารปึกหนึ่งให้เด็กชาย
"...? นี่มัน...อะไรน่ะครับ" เด็กชายรับเอกสารเป็นปึกๆหนึ่งแล้วเอ่ยถาม
"อ่านเอาเองสิ"
"................................" เด็กชายทำตามคำบอกของหญิงสาวอย่างว่าง่าย และก็ได้พบว่าเนื้อหาของเอกสารนั้นคือเรื่องของจักรวาลต่างๆ ที่เด็กชายไม่เคยสัมผัสมาก่อน
"แอคเทซ...? เวิลด์ไอเท็ม...? 1000LP...? ไททัน...? คฤหาสน์ร้าง...? ดันเจี้ยน...? นี่มันอะไรน่ะครับ? เนื้อเรื่องเกมเหรอ...?"
"เรื่องราวของจักรวาลรอบข้างตัวแก" หญิงสาวลุกขึ้นแล้วชี้หน้าเด็กชาย "ระหว่างที่แกนอนทั้งปีทั้งชาติ ผู้เป็นเจ้าของจักรวาลคนอื่นๆกลับก้าวหน้าไปไกล ขวนขวายไขว่คว้าสิ่งที่แกไม่มีมาแล้วมากมาย แม้แต่คนที่เคยตามหลังแก ตอนนี้กลับแซงหน้าแกไปแล้ว ในฐานะผู้นำจักรวาลแล้วแกไม่รู้สึกอับอายเลยรึไง?"
"....สรุปก็คือ 'ขยันหาอะไรใหม่ๆมาให้โลกนี้ซะบ้าง จะได้ไม่อายเขา' สินะครับ...?" เด็กชายสรุปคำพูดของหญิงสาว "ให้ตายสิ...ทั้งๆที่ผมก็ไม่ใช่เจ้าของจักรวาลอะไรนั่นเสียหน่อย...เอาเถอะ" เด็กชายกุมขมับเล็กๆ เพราะเด็กชายไม่พอใจนักที่ถูกเรียกว่าเป็นผู้นำจักรวาล
เด็กชายชื่อดารา เขาคือผู้ใช้คีย์เบลดที่เป็นอาวุธรูปทรงคล้ายดาบผสมกุญแจ โดยที่ความสามารถในการใช้คีย์เบลดของเขาอยู่ในระดับสูงจนถูกขนานนามว่า "คีย์เบลดมาสเตอร์"
คีย์เบลดมาสเตอร์ไม่ใช่เพียงแค่สมญานามของผู้เก่งกาจเท่านั้น แต่เป็นถึงตำแหน่งของผู้ที่ครอบครองและปกป้องโลกของตนจากภยันอันตรายทั้งปวง
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวงนี้ ดาราไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าเป็นเรื่องจริง
ไม่ใช่ว่าดาราไม่เชื่อในเรื่องของคีย์เบลดมาสเตอร์ แต่เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งขนาดนั้น เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองมีตำแหน่งสูงส่งขนาดนั้น เขาไม่เคยสำคัญตนว่าตัวเองมีคุณค่ามากขนาดนั้น
อันที่จริง คีย์เบลดมาสเตอร์เป็นสมญานามที่จะได้รับมาจากคีย์เบลดมาสเตอร์ผู้เป็นอาจารย์ ซึ่งดาราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนให้ตำแหน่งนี้ แล้วเป็นมาได้อย่างไร เรื่องที่พอจะรู้ก็คือเด็กชายไม่เคยถูกเรียกว่า "คีย์เบลดมาสเตอร์" ในช่วงก่อนที่จะอยู่ใน "หอคอยปริศนา" เท่านั้นเอง
หรือก็คือ เด็กชายไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตำแหน่งนี้ และไม่คิดว่าตัวเองคู่ควรกับตำแหน่งนี้เลยแม้แต่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้น...ก็ไม่ได้แปลว่าคนรอบข้างจะคิดแบบเดียวกับตนนี่นะ เด็กหนุ่มได้แต่ปลงเล็กๆ
"ถึงจะตัดเรื่องเจ้าของจักรวาลทิ้งไป แต่แกก็หัดทำนู่นทำนี่บ้างเถอะ ได้ข่าวว่าหมู่นี้ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยไม่ใช่รึไง?"
"ไม่ใช่ 'หมู่นี้' แต่เป็น 'ปกติ' ครับ" ดาราแก้คำพูดของหญิงสาว ซึ่งไม่ได้ช่วยให้ตัวเองดูดีขึ้นมาเลย "ชีวิตของผมตอนนี้มีแต่เดินทางไปวันๆไม่ก็นอนหลับยาวๆข้ามวันเดือนปีเท่านั้นแหละน้า...ไม่เหมือนกับคุณที่มีงานรัดตัวในฐานะประธานบริษัทหรอก"
"ไอ้คำพูดที่ฟังดูเหมือนคนตกงานแดกดันคนมีงานทำนั่นมันอะไร" หญิงสาวลดมือลงแล้วบ่นด้วยความเบื่อหน่าย "ช่างเถอะ ที่ฉันอยากจะพูดก็คือหัดตื่นตัวกับสิ่งรอบข้างและทำอะไรให้ได้เรื่องได้ราวเท่านั้นแหละ นี่ขนาดอุตส่าห์เจียดเวลางานมาคุยกันตัวต่อตัวเลยนะ ถ้าหากว่าไม่ใช่แกฉันไม่ทำแบบนี้หรอก"
"..." เด็กชายเงยหน้ามองหญิงสาวด้วยสีหน้าที่นิ่งสนิท "...ผมมีค่าให้ทำขนาดนั้นเลยเหรอครับ...?"
"เออสิ" หญิงสาวโต้ตอบอย่างเต็มปากเต็มคำ "ยังไงเสีย แกก็เป็นคนที่ทำให้ฉันได้อะไรดีๆเข้ามาในชีวิตมากมายนะ"
หญิงสาวชื่อฟุโย ในอดีตเธอเคยเป็นนักล่าแม่มดมือฉมัง
หากแต่ว่าในวันหนึ่ง ฟุโยได้รับบัตรเชิญจากเด็กชายคนหนึ่งให้มาอาศัยอยู่ในที่อยู่ของตน
ในสถานที่แห่งนั้น ฟุโยก็ได้เผชิญหน้ากับเรื่องราวหลายอย่างที่ไม่ใช่เพียงแค่การล่าแม่มด
ไหนจะปั้นไอดอล ช่วยเหลือคนที่เผชิญหน้ากับหายนะ ไปงานชุมนุมแม่มดที่ตัวเองเป็นอริ และอีกสารพัดเรื่องราว
ซึ่งนั่นทำให้หญิงสาวได้เติบโตขึ้นมากมาย ทั้งๆที่เดิมทีเธอเคยคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรนอกจากการล่าแม่มดแท้ๆ
โดยที่ผู้ที่มีส่วนทำให้เธอเติบโตได้มากมายนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นผู้ส่งบัตรเชิญให้มาอยู่ในที่ของตนนั้นเอง
และผู้ส่งบัตรเชิญนั้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นเด็กชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ...ดารานั่นเอง
บางทีนี่อาจจะเป็นการตอบแทนบุญคุณในแบบของเธอ ที่ตั้งใจจะให้เด็กชายได้มีความตั้งใจเช่นเดียวกับเธอ
"..." ดาราไม่พูดอะไร หากแต่เริ่มลงมืออ่านเอกสารที่ฟุโยให้มาอีกครั้ง โดยที่คราวนี้เด็กชายตั้งใจอ่านอย่างละเอียดโดยไม่มีการตกหล่นแม้แต่ตัวอักษรตัวเดียว
"...ว่ายังไง มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจมั่ง?" ฟุโยยืนท้าวเอวมองอย่างไม่สนใจหยดเหงื่อที่ไหลรินตามร่างกาย
"เมื่อครู่นี้ผมตกหล่นเรื่องเจ้าของอาณาจักรคนใหม่ที่ปรากฏตัวแน่ะครับ"
"แล้วไงต่อ?"
"แล้ว...มีผู้นำจักรวาลคนหนึ่งที่ผมสนใจอยู่น่ะครับ อยากจะเป็นเพื่อนด้วย"
".....ใคร?"
"...คนนี้น่ะครับ" ดารายื่นเอกสารหน้าหนึ่งให้ฟุโยดู
และนี่คือภาพของ "คนที่อยากจะเป็นเพื่อนด้วย" ที่ว่า
"........................................................"
"ตกลงสิ่งที่แกสนใจมีแต่สาวๆใช่มั้ย" สีหน้าของฟุโยแย่ลงทันตาเห็น "แถมยังสนใจเด็กด้วย โลลิค่อนฟ่ะ..."
"...เดี๋ยวดิครับ ไหงความประทับใจดันดิ่งลงเหวแบบนั้นล่ะ?"
"ไม่ให้แหยงได้ไง คนอุตส่าห์เอาเรื่องราวต่างๆตั้งเยอะตั้งแยะมากระตุ้นความสนใจ แต่อันที่ใช้ได้ผลดีที่สุดดันเป็นสาวน้อยที่เป็นผู้ครองจักรวาลคนใหม่ซะงั้น แถมยังเป็นเด็กสาวแทนที่จะเป็นคุณนางพยาบาลซะอีก คิดแล้วโคตรเซ็ง" หญิงสาวผมแดงหันหลังให้ดารา
"ช่างเถอะ ไปหาสาวเจ้าคนนั้นแล้วจีบให้ติดละกัน" ว่าแล้วฟุโยวิ่งออกจากเด็กชายดารา
"เดี๋ยวสิครับ! ไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อย!" ดาราลุกขึ้นมาจากชิงช้าและวิ่งไล่ตามเพื่อหวังจะพูดด้วย
"ไม่ด๋งไม่เดี๋ยวล่ะ ก็บอกแล้วว่างานยุ่ง" ฟุโยไม่แม้แต่ลดความเร็ว หล่อนเร่งความเร็วและวิ่งฉิวออกไปจากสวนสาธารณะ พุ่งตรงไปยังทางม้าลายเพื่อข้ามถนนที่ติดสวนสาธารณะ
"เดี๋ยวสิครับ! เดี๋ยวสิครับ! เดี๋ยวสิครับ!!
" ดารายังคงวิ่งตามและตะโกนไม่หยุด
ไม่ใช่เพราะว่าการแก้ความเข้าใจผิดสำคัญมาก หากแต่เป็นเพราะว่า...
"ไฟจราจรนั่นกลายเป็นสีแดงแล้วครับ!""ว่าไงน-" พริบตาที่ฟุโยได้ยินคำพูดของดารา เธอก็รู้ตัวว่ามีรถบรรทุกวิ่งมาหาเธอที่อยู่กลางถนน
ปัง!