เย็นวันที่ห้า ต้นหนของเหล่าโจรสลัดนำทางมาถึงกลางทะเลแห่งหนึ่ง
มองไปรอบข้างเวิ้งว้างว่างเปล่า ยังมีเกาะแก่งอันใด
ซ่งจ้งกวงกล่าวว่า "เจ้าบอกว่านี่คือเกาะเงาจันทรา เหตุใดเราจึงมองไม่เห็น หรือมันเป็นเกาะล่องหน"
"คิดหรือว่าจะสามารถหลอกลวงคนจำนวนมากได้ เจ้าคงไม่คิดมีชีวิตสืบต่อไปแล้ว"
ต้นหนกล่าวว่า "เกาะเงาจันทราลี้ลับสุดหยั่งคาด ท่านรอจนถึงยามวิกาลจะได้พบเห็นเอง"
เวลานั้นตะวันตกดินพอดีจันทราลอยขึ้นบนฟากฟ้า แสงจันทร์ส่องต้องผิวน้ำสะท้อนสีเงินยวงเป็นทิวทัศน์ที่งดงามเพียงไหน
ไม่ทราบด้วยปรากฏการณ์ใด กลางทะเลว่างเปล่าเบื้องหน้ากลับปรากฏโขดหินรูปจันทร์เสี้ยวขึ้น
คล้ายดั่งเงาจันทร์บนผิวน้ำ ย่อมเป็นเกาะเงาจันทราแล้ว
ต้นหนเรือกล่าวว่า "เกาะเงาจันทรายามตะวันขึ้นจมอยู่ในท้องทะเล ยามวิกาลน้ำลดจึงสามารถมองเห็น ไม่ทราบไฉนจ้าค้างคาวจึงเสาะพบได้"
เหล่าจอมยุทธนั่งเรือเล็กเข้าไปสำรวจเกาะ เสาะพบถ้ำหินแห่งหนึ่ง มีลักษณะเป็นอุโมงค์ลงไปใต้ดิน
คาดว่าเกาะเงาจันทราที่แท้เป็นยอดของภูเขาหินใต้ทะเลเป็นแน่
เมื่อเข้าไปสำรวจภายในถ้ำที่มืดมิด ได้ยินเสียงว่ามีคนคิดจุดชุดไฟเพื่อส่องสว่าง แต่ถูกคุณชายร้องห้ามเอาไว้
ที่นี่มีกลิ่นกำมะถันรุนแรง หากเกิดประกายไฟขึ้นจะลุกไหม้พวกเราทั้งหมดจนเสียชีวิต...
ทุกคนเริ่มได้กลิ่นกำมะถันจริงๆ รู้สึกใจหายวูบ หากมิได้คุณชายฮวยเตือนไว้ผลลัพท์เป็นเช่นใดไม่กล้าคาดคิดแล้ว
คาดว่าผู้ที่ไม่อาจมองเห็นยังมีประสาทสัมผัสด้านอื่นๆดีกว่าคนธรรมดา
ทั้งหมดได้แต่คืบคลานอยู่ในความมืด เพื่อหาทางไปวังค้างคาว
ปริศนาบทที่ 5ในความมืดไม่อาจแยกแยะว่าใครเป็นใคร เจ็ดจอมยุทธมีลักษณะดังนี้
ให้ลองทายมาว่าใครเป็นใคร
ทายถูกจะได้รับ 1VP ต่อ 1 คนที่ทายถูก ยกเว้นตัวเอง
- เงาของคนที่ย่อตัวด้วยท่าพยัคฆ์หมอบ
- เงาของคนที่นั่งกุมหัว
- เงาของคนที่ยืนโบกมือ
- เงาของคนที่ตัวสั่นเพราะความหวาดกลัว
- เงาของคนที่ยืนโบกพัด หัวเราะ
- เงาของคนที่วิดพื้น
- เงาของคนที่หมอบต่ำอยู่นิ่งๆ
ปล. การโจมตีในความมืดให้ระบุว่าจะโจมตีคนใดในเงามืด (ระบุชื่อไม่ได้ ให้ระบุตัวท่าของเงาแทน)