เกมเริ่มขึ้น ชงต๊ะได้จดหมายระบุว่านางโจรสวมชุดสีแดง สิ่งแรกที่ทำคือไปนั่งดูว่าใครเข้าข่าย ...มีคนใส่ชุดสีแดงกว่าครึ่ง
ชงต๊ะเลยมาพิจารณาว่าใครไปคุยกับคนไหน และร่อนจดหมายไปหา 2-3 คน โดยมีเงื่อนไขคือ ให้ทอยเต๋า ใครมากกว่าให้บอกก่อน
การทอยเต๋ามีความหมายเพียงแค่แสดงเจตนาว่าแฟร์พอ แต่ไม่มีผลอะไร เพราะ
1 ถ้าอีกฝ่ายบอกก่อน ชงต๊ะจะบอกว่าได้จดหมายแบบเดียวกับอีกฝ่าย
2 ถ้าชงต๊ะบอกก่อนก็จะมั่วว่าได้จดหมายระบุว่าชุดสีดำ (ชงต๊ะไปคุยกับภูติค้างคาวที่สวมชุดดำ-แดงประกอบ) จากนั้นค่อยเอาคำตอบอีกฝ่ายมาวิเคราะห์และพิจารณา
หลิว - บอกว่าใส่ชุดเหลือง ซึ่งเมื่อไปดูแล้วก็พบว่ามี npc สวมชุดเหลือง-แดง 1 คน นั่นคือไต้ซือ
ไต้ซือสวมชุดแดง สวมชุดเหลือง แล้วอีกคีย์คืออะไรล่ะ
นางโจรปลอมเป็นผู้ชาย ข้อนี้มีเหตุผลที่สุดว่าจะเป็นคีย์ของฝ่ายที่สาม (มีผู้ชายราวครึ่งนึง เหมือนที่มีคนชุดแดงราวครึ่งนึง ชุดเหลืองราวครึ่งนึง)
โดยพื้นฐานหลิวน่าจะตอบตามตรง ชงต๊ะเลยตอบแทนด้วยการบอกคีย์กลับไปว่า นางโจรปลอมเป็นผู้ชาย และจริงๆ ชงต๊ะได้จดหมายที่ระบุว่านางโจรสวมชุดเหลือง
เท่ากับบอกไปถึง 2 คีย์
เซียวจื่อ - บอกว่าใส่ชุดเหลืองเหมือนหลิว
เนื่องจากว่าเซียวจื่อตอบมาก่อน เลยตอบกลับไปว่าได้จดหมายฉบับเดียวกัน
จากนั้นก็บอกไปว่านางโจรปลอมเป็นชาย อันนี้สืบรู้มา
เท่ากับบอกไปถึง 2 คีย์
อู๋หมิง - บอกว่านางโจรปลอมเป็นผู้ชาย
ชงต๊ะก็โมเมมั่วนิ่มขอเป็นศิษย์น้องอู๋หมิงไปเลย ผูกมิตรแต่ต้นเพื่อหวังว่าจะรอดพ้นคมอาวุธของเขาเท่านั้นแหละ
แต่ก็บอกไปเหมือนสองคนแรกเพื่อตอบแทนที่ไม่ลวงกัน
เสี่ยวจู - ชงต๊ะทอยเต๋าแพ้เลยต้องบอกก่อน แต่สังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าอาจจะเป็นพวกเดียวกันเลยบอกไปตรงๆ ว่านางโจรสวมชุดแดง
ปรากฎว่าเสี่ยวจูยืนยันกลับมาว่าได้จดหมายแบบดียวกัน
เดิมทีก็ไม่เชื่อเท่าไหร่ แต่เสี่ยวจูยืนยันและบอกชื่อจริงให้รู้ (ซึ่งตอนนั้นคิดว่ามันสำคัญกับเกมมาก) เลยต้องยอมเชื่อไว้ก่อน เพราะขืนตั้งแง่มากก็ไม่เจอพวกกันพอดี
เมื่อได้ข้อมูลมาดังนี้ก็มานั่งดูแต่ละคนเดินเข้าไปคุยกับ npc จึงเดาออกเกือบหมดว่าใครอยู่ฝ่ายไหน
- อู๋หมิงกับหลิวเป็นสหายกัน ย่อมเจรจาปรึกษากัน ทั้งสองไปคุยกับเป้าหมายที่สวมชุดเหลือง+เป็นชาย
- หลี่อิงไปคุยกับไต้ซือ (แม่นยำมาก ทั้งที่ไม่ได้หาข่าวสารเลยแท้ๆ)
- เซียวจื่อ (ลืม)
- เกี๊ยว... ช่างเถอะ เอาไว้ก่อน เดี๋ยวงง
มีแค่เกี๊ยวที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย ส่วนหลี่อิงนั้นมีโอกาสเป็นเส้าหลิน 80% และเป็นสำนักอื่นๆ 20-30% โดยสันนิษฐานจากความรู้สึก
ในเทิร์นนี้เสี่ยวจูจะจัดการเซียวจื่อ และเธอก็ทำสำเร็จ ส่วนชงต๊ะไม่ได้เร่งร้อนอะไร เลยจิ้มๆ คนเล่นดูเชิงไปก่อน
พอสรุปผลก็รู้เกือบหมดเลยว่าใครมีทักษะ/อาวุธแบบไหน
- เสี่ยวจูใช้กระบี่จริงๆ ท่าทางจะไม่ได้หลอก เพราะเธอไปสังหารเซียวจื่อตามที่นัดหมาย
- เกี๊ยว ไม่ปรากฎ แต่น่าจะไปพร้อมเสี่ยวจู เพราะทั้งสองรู้จักกันน่าจะคุยกัน
- หลิวใช้ทักษะนิกายอสูร แต่ยังไม่รู้ว่าใช้หมัดเปล่า หรืออาวุธลับ เดาจากที่เล่นงานหลี่อิงแต่ต้น
- เซียวจื่อใช้ทักษะนิกายอสูร แต่ยังไม่รู้ว่าใช้หมัดเปล่า หรืออาวุธลับ เดาจากที่เล่นงานหลี่อิงแต่ต้น
- อู๋หมิงใช้หอก เข้ากับหน้ามากๆ และไปแทงหลี่อิงด้วย คงนัดกับหลิว
- หลี่อิงใช้แส้ด้วยเหตุที่ว่า
1 หลี่อิงไม่ชอบอาวุธบ้าพลัง ถ้ามีพวกอาวุธลูกเล่นเขาน่าจะเลือกใช้ (ชงต๊ะก็กะเอาแส้เหมือนกัน เพราะตีเข้าแน่ๆ 1)
2 มันเป็นแส้ มันคือเครื่องหมายการค้า
3 เขาร้องหามือปราบหวัง
4 ตัดช้อยส์หมดแล้วก็เหลือเขานี่แหละ
จากนั้นลู่ก็ไปถามเกี๊ยวจึงรู้ว่าเกี๊ยวเป็นเส้าหลิน
ถึงตอนนี้ชงต๊ะมั่วนิ่มจับคู่ให้ทุกคนเลย โดยโยนให้หลี่อิงเป็นเส้าหลินอีกคน
เมื่อคาดเดาได้ทั้งฐานะและวิชา อะไรก็ง่ายขึ้นมาก ใครตีใครรู้ได้หมด ตามการเคลื่อนไหวได้ตลอดว่าของสิ่งใดตกไปอยู่กับใคร ใครเล่นงานใคร
บทที่ 2
ชงต๊ะเลือกไปคุยกับอู๋หมิงเพื่อต่อความสัมพันธ์ โดยให้อู๋หมิงหลบหลังตัวเองได้ ส่วนตัวชงต๊ะเสี่ยงตายไปหลบหลังเกี๊ยว
จุดประสงค์คือพลางฐานะตัวเองและฐานะของเกี๊ยว เพื่อให้คนเข้าใจว่าพวกเดียวกัน
บทนี้เล่นงานหลี่อิงก่อนเลย โดยขายข่าวกับฝ่ายหลิวว่าหลี่อิงนี่แหละมือแส้ที่เอาจดหมายไป โดยจะช่วยโจมตีด้วย บังเอิญไปตีมีดสุดท้ายเลยแย่งจดหมายเส้าหลินมาแทน
บทที่ 3
เปิดตัวประกาศว่าจะไปยืนหัวเรือ ขอให้ทุกคนช่วยตามมาด้วย หวังแค่ผ่านได้ชิวๆ และยังไม่ต้องไปหักหาญกับใครให้เกิดอริ
แต่อีกด้านก็ให้แม่นางจูไปที่กลางเรือหวังโกยแต้มคนเดียว (เพื่อแต้มทีม) และเพื่อกันท่าคนที่ไม่เชื่อแล้วมาฉายเดี่ยวให้อดแต้มกันทั้งคู่
บทนี้ชงต๊ะก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ส่งจดหมายไปเจรจากับเซียวจื่อเพื่อหยุดยิง และนั่งดูหลี่อิงโดนรุมฉึกๆ
บทที่ 4
นัดแนะกับเสี่ยวจูและเซียวจื่อ โดยต้องแยกกับเสี่ยวจูเพื่อพลางฐานะ
บทนี้เดิมทีนัดแนะกับหลี่อิง หลี่อิงติดต่อมาว่าให้ช่วยร่วมมือกันกำจัดนิกายอสูรที่อหังกานัก เป้าหมายคือเซียวจื่อ
แต่ติดที่ชงต๊ะจะไม่ลอบทำร้ายเซียวจื่อ หากจะต่อสู้กันต้องประกาศก่อน ดังนั้นจึงต้องส่งจดหมายกลับไปถามยืนยัน แต่หลี่อิงไม่ได้ตอบมาจึงถือว่าโมฆะ
ในรอบนี้ชงต๊ะเลยจิ้มคนเล่น เซียวจื่อรอดพ้นความตายไป
บทที่ 5
ไล่ถามคนไปทั่ว แต่เงาตัวเองประกาศศักดาชัดเจน ใครเล่นงานมาก็ถือว่าประกาศศึกกัน ซึ่งก็ไม่มีใครคิดโจมตีเข้ามา
จากนั้นเอาข้อมูลไปแลกกับเสี่ยวจู เสี่ยวจูบอกเกี๊ยวอีกที เลยมี 3 คนคะแนนเต็ม
หลังจากนั้นแต้มรวมเกินเป้าแล้วเลยเล่นแบบปลอดภัยเอาไว้ก่อน เน้นชิงแต่จดหมาย หวังชนะเกมแบบทีมก็พอ
อื่นๆ- ชงต๊ะกับเสี่ยวจูติดต่อกันตลอด แต่ไม่ได้ลงมือพร้อมเพรียงกัน (2 ตาสุดท้ายไม่มีเวลานัดแนะเลยไปรุมอู๋หมิงแบบใจตรงกัน)
- หลังจากเสี่ยวจูล้มเซียวจื่อ ชงต๊ะเป็นคนเสนอให้ชิงดาบวิเศษจากเซียวจื่อก่อนชิงจดหมาย เพราะดาบอันตรายมาก จดหมายเอาเมื่อไหร่ก็ได้
- เสี่ยวจูติดต่อเกี๊ยวตลอด นั่นทำให้ทางฝ่ายบู๊ตึ๊งเสมือนมี 3 คน ชงต๊ะจึงตอบแทนเกี๊ยวด้วยการไม่เล่นงานเธอ
- ชงต๊ะ ถึงจะเนียนเงียบแทงคนในเงามืด แต่ก็มีกรอบกติกาของตัวเอง เช่น
- ไม่ลอบทำร้ายสหายที่นัดแนะกันในเทิร์นนั้น และไม่หักหลังผู้ร่วมสมคบคิด
- ถ้าบอกความจริงได้จะยอมบอก ถ้าบอกความจริงไม่ได้จะเงียบไว้ หรือเนียนแบบขำๆ อย่างเช่นที่ไปขอเป็นศิษย์น้องของอู๋หมิง หรือตอบคำถามเกี๊ยวแบบคลุมเครือ
- เลี่ยงการหลอกใช้และฆ่าทิ้ง แต่จะใช้วิธีให้ข่าวที่เอื้อประโยชน์กับอีกฝ่ายและตัวเอง (มีหลอกบ้างจริงบ้าง)
- ไม่ทำอะไรเกี๊ยว เพราะเกี๊ยวช่วยเหลือบู๊ตึ๊งมากมายเหลือเกิน
ความสัมพันธ์ที่ทำให้ชงต๊ะไม่เป็นเป้า (มั้ง)
เซียวจื่อนั้นไม่เคยปะทะกันจนเทิร์นสุดท้าย ชงต๊ะได้กล่าวกับเขาว่า เขาไม่คิดต่อสู้กับคนที่หันหลังให้ หากพร้อมจะสู้ค่อยเผชิญหน้ากัน
หลิวก็มีแค่เทิร์นแรกที่ไม่รู้จะจิ้มใครเลยจิ้มหลิวไป นอกนั้นก็ไม่ได้ปะทะกัน ช่วยได้ชงต๊ะก็ช่วย จริงๆ จะช่วยเสียบได้ทุกเทิร์นแหละ แต่ให้เสียบหลี่อิงตลอดก็โหดร้ายไปหน่อย
เกี๊ยว รักสันติ
อู๋หมิง ตลอดเกมจนถึงตอนท้ายไม่เคยแสดงตัวว่าเล่นงานอู๋หมิงเลย น่าจะลำบากใจถ้าจะเล่นงานศิษย์ร่วมสำนัก
เสี่ยวจู แลกข่าวและฝ่าฟันพาบู๊ตึ๊งยิ่งใหญ่ได้ แม้นไม่ได้ร่วมมือกันจู่โจม แต่ข่าวสารและการวิเคราะห์เรื่องต่างๆ ไม่ใช่ชงต๊ะคนเดียวที่จะทำได้
เบื้องหลังแล้วทั้งสองคนจับคู่กันมาแต่แรก