* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [Det's Charactor Profile I] รวม แนะนำตัวละครต่างๆในจักรวาลของ Det  (Read 8288 times)

0 Members and 5 Guests are viewing this topic.

ในกระทู้นี้คงไม่มีอะไรมากครับ จะเป็นแค่การแนะนำตัว ของตัวละครต่างๆในจังวาลของผมเท่านั้น
ตัวละครแต่ละตัวเชื่อมโยงกันยังไง มีนิสัยแบบไหน จะได้รู้กันในนี้หละครับ

ก่อนอ่านเปิดเพลงนี้ฟังไปด้วยเพิ่มบรรยากาศ ;D มันจะ Repeat ของมันเองครับ


1. จักวาลของ Det และ Concierto



ชื่อ : Det หรือ Detestar ชื่อเต็มคือ Detestar Concierto
เพศ : ชาย
อายุ : ภาพลักษณ์จะเป็นชายหนุ่มช่วงกำลังโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่แก่หรือเด็กจนเกินไป อายุไม่แน่นอน
อุปนิสัย : เงียบขรึม พูดเฉพาะในสิ่งที่เขาสงสัย ไม่มีอารมณ์ขัน ไม่เคยหัวเราะ
ลักษณะภายนอก : ถ้าไม่ใช่ภาพของนักรบ ก็จะเป็นพ่อมดที่ปิดบังใบหน้าตัวเองเล็กน้อย
ประวัติความเป็นมา
     
Spoiler for Hiden:
Det เป็นลูกของผู้หญิงมนุษย์ที่พบรักกับปิศาจร้ายที่มีพลังเวทมนต์อันแข็งแกร่ง แต่ปิศาจตนนั้นจริงๆแล้วได้หนีออกมาจากเผ่าของมันเพื่อจะมาใช้ชีวิตสันโดษ (ในโลกของ Det นั้นปิศาจมีอยู่ทั่วไป มีทั้งธรรมดาๆและแบบดุร้าย แต่จริงๆแล้วก็ไม่ต่างจากมนุษย์เท่าไร) ทั้งคู่รักกันมาก จนกระทั่งฝ่ายหญิงตั้งท้อง คนในหมู่บ้านเห็นว่ามีพิรุษ จึงได้ติดตามไปดูจนพบความจริงเข้า คนในหมู่บ้านไม่พอใจอย่างมาก ทุกคนรวมตัวกันมาเพื่อจะมาฆ่าทั้ง 2 ทิ้งเสีย เพราะทั้งคู่ทำผิดกฏของในหมู่บ้าน แล้วจะนำพาความเลวร้ายมาสู่คนในหมู่บ้านด้วย และในวันนั้น หญิงสาวคนนั้นก็ได้ให้กำเนิด Det และ Concierto แต่ไม่ทันที่จะได้ดีใจกับลูกของตน ผู้คนที่ไม่พอใจก็บุกเข้ามาได้จนถึงที่บ้านพักของพวกเขา พ่อของ Det เสียสละตัวเองออกไปปกป้อง ญาติที่พา Det และ Concierto หนี เขาจบชีวิตอันแสนสงบของตัวเองลงที่นั้นเคียงข้างกับหญิงสาวอันเป็นที่รัก

     Det และ Concierto ถูกพาหนีแยกออกจากกันไปคนละทิศตามคำสั่งเสียของพ่อและแม่ของพวกเขา เพราะตามตำนานได้บอกไว้ว่า เมื่อใดที่มนุษย์มีัรักต้องห้ามกับเผ่าปิศาจแล้วถือกำเนิดฝาแฝด ชายหญิง วันนั้นจะเป็นวันสิ้นโลกของเผ่าพันธุ์มนุษย์ พ่อแม่ของพวกเขา อยากให้ลูกๆของตนสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข จึงได้สั่งเสียญาติของเขาไว้ว่า ถ้าพวกเขาเกิดมา ให้แยกเขาออกจากกันก่อนที่พวกเขาจะมีความทรงจำ แล้วไปเริ่มชีวิตให้พวกเขาใหม่ ในคนละมุมโลก

     ญาติฝั่งที่พา Det หนีนั้นเป็นพ่อมดเพื่อนสนิทกับพ่อของเขา Det อยู่อาศัยกับพ่อบุญธรรมคนนี้มาโดยที่ทุกคนในระแวกนั้น เข้าใจว่าเป็นเด็กที่เก็บมาได้จากในป่า Det ไม่มีเพื่อน และไม่มีใครอยากคุยกับเขาเลย เพราะตัวของเขานั้นร้อนผิดปกติ ใครที่เข้าไปจับตัวเขาจะรู้สึกเหมือนกับโดนไฟไหม้ทำให้ Det ค่อนข้างจะเป็นที่รังเกียจของคนในระแวกนั้นพอสมควร พ่อบุญธรรมของเขาพยายามปกปิด พลังภายในตัวของ Det มาโดยตลอด แต่เขาก็ตระหนักดีว่า การให้ Det ใช้ชีวิตโดยที่ต้องแบกรับเอาความลับของตัวเองไปตลอดนั้น ไม่ดีแน่ และแล้วก็เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ มีคนปล่อยข่าวในระแวกนั้นกันว่า Det เป็นลูกของปิศาจ และถูกพาตัวหลบหนีมาอยู่ที่นี้ เหตุการณ์เดียวกันกับตอนที่ Det ถือกำเนิดได้เกิดซ้ำขึ้นอีกครั้ง พ่อบุญธรรมปกป้องเขาไว้ด้วยชีวิต ภาพสุดท้ายที่ Det จำได้จากหมู่บ้านนั้นก็คือ ภาพของพ่อบุญธรรมที่ล้มลงตรงหน้า แล้วทุกอย่างก็หายไป เหลือไว้เพียงเถ้าถ่าน

     ไม่นานนัก ข่าวเพลิงไหม้ประหลาดในหมู่บ้านนั้นก็แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว บ้างก็ลือกันว่าเป็นฝีมือของปิศาจ บ้างก็ว่า เป็นเพราะพ่อมดคนนั้น ทดลองบางสิ่งผิดพลาด เรื่องนี้มี Det คนเดียวเท่านั้นที่รู้ ในที่สุด Det ก็ได้ออกเดินทางไปเรื่อยๆโดยใช้ชื่อ Detestar ชื่อที่ไม่มีใครตั้งให้ ชื่อที่ใครๆ ต่างก็ว่ามันเป็นชื่อต้องคำสาป ชื่อที่มีความหมายให้เกลียดชัง เขาออกเดินทางไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายโดยแบกเอาคำสาปนั้นติดตัวเขาไปด้วย
บทบาทของ Det ในเกมต่างๆ
     ตัว Det เองสำหรับความคิดของผมเขาคือตัวลุยแนวหน้า ที่พร้อมจะสละทุกอย่างเพราะตัวเขานั้นไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว ผมจะใช้ Det เป็นตัวละครในเกมที่พร้อมสละทุกอย่างเพื่อทีม หรือเป็นตัวลุยแนวหน้าฆ่าแหลกนั่นเอง
     อิมเมจหลักๆ ของ Det เลยคือ เขาจะเป็นคล้ายๆพ่อมด หรือ นักรบจอมลุยก็ได้ การกระทำของเขานั้นยกทีมเป็นสำคัญ(แต่ปกติผมก็ชอบเล่นเป็นทีมอยู่แล้วนะ) เขาจะไม่ทำร้ายใครก่อน และเขาก็จะไม่ให้อภัยคนที่หักหลักพวกพ้องของเขาด้วยเหมือนกัน


ชื่อ : Concierto Concerto หรือ Detestar Concierto
เพศ : หญิง
อายุ : จะอยู่ในเกณสาวน้อยกำลังโต ช่วง 16 - 28
อุปนิสัย : น่ารัก ร่าเริง เป็นมิตรกับทุกคน
ลักษณะภายนอก : เป็นสาวน้อยตัวเล็กๆ ผมสีเขียว ถ้าจะเปรียบเทียบอยากให้เปรียบ Concierto กับดอกไม้สีเขียวๆ
ประวัติความเป็นมา
   
Spoiler for Hiden:
ประวัติส่วนหนึ่งเหมือนของ Det แต่ Concierto ถูกแยกออกมาอยู่ในสังคมที่ต่างออกไป ลุงและป้าของเธอ พาเธอมาอาศัยอยู่ในบ้านนอก ค่อนข้างห่างไกลความเจริญพอสมควร ผู้คนในหมู่บ้านก็สงสัยในตัวเธอนิดหน่อย เพราะความเป็นมาก่อนที่เธอจะมาอยู่อาศัยที่นี่นั้นไม่ค่อยชัดเจนนัก บ้างก็ว่าเธอเป็นลูกสาวครอบครัวชาวไร่ชาวนาบ้านนอกจากทางตะวันออก บ้างก็ว่าเธอเป็นลูกสาวเศรษฐีร่ำรวยจากทางเหนือ บ้างก็ว่าเป็นลูกสาวแม่มดจากเกาะร้างที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่ว่าอดีตของเธอจะเป็นเช่นไร ในปัจจุบันนี้ ลุงและป้าก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี เสมือนเป็นลูกแท้ๆของพวกเขา

     เธอถูกเลี้ยงให้โตมากับการต่อเรือและการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆจากไม้ เธอเรียนรู้ได้รวดเร็วกว่าช่างต่อเรือคนอื่นๆนัก เธอชอบที่จะเห็นใบเรือได้โบกสะบัดไปตามแรงลม พาเรือลำน้อยใหญ่เดินทางออกไปสู่ท้องทะเลอันแสนกว้าง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงมีนิสัยรักการผจญภัยอยู่ในตัวด้วย แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่เธอยังเก็บเงียบไม่บอกใครนั่นก็คือพลังเวทย์มนต์น้อยๆในตัวของเธอ เธอรับรู้และรู้สึกถึงพลังนั้นอยู่เสมอ แต่มันก็ไม่ได้กล้าแข็งอะไรนัก

     ค่ำคืนเงียบสงัดคืนหนึ่ง ระหว่างที่เธอกำลังนั่งประดิษฐ์ตุ๊กตาไม้เล่นอยู่ในห้องของเธอ ก็มีลมประหลาดพัดเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงที่ไม่รู้ที่มาที่ไปดังก้องวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ มันทำให้เธอปวดหัวมากจนต้องกรีดร้องออกมาสุดเสียง ลุงและป้าของเธอเมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของหลานจึงรีบวิ่งขึ้นมาดู หลังจากเปิดประตู ก็เห็นร่างของเธอร่วงหล่นจากเก้าอี้ หมดสติไป

    เธอหลับอยู่หลายวัน ไม่มีการตอบสนองใดๆ และแล้วในวันที่เงียบสงัดเหมือนเมื่อครั้งนั้นวนกลับมาถึง ลมประหลาดพัดเข้ามาอีกครั้ง แล้วเธอก็ลืมตาตื่นขึ้น ลุงและป้าที่คอยดูแลอยู่ไม่ห่างต่างก็ดีใจโผเข้ากอด แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้พูดอะไร เธอก็พูดขึ้นมาว่า

" Detestar พี่ชายหนูอยู่ไหนคะ ? "

ลุงกับป้าเมื่อได้ยินคำถามของเธอสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปราวหน้ามือเป็นหลังมือ พวกเขาทั้ง 3 คนนั่งนิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง จน Concierto ถามซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง ลุงหันไปสบตากับป้าแวปหนึ่ง ก่อนที่จะหันกลับมาตอบคำถามของเธอ

" ฟังให้ดีนะหลาน เรื่องหลังจากนี้จะเปลี่ยนชีวิตของหลานไปเลยตลอดกาล "
" หลานตั้งใจจะให้เป็นเช่นนั้นหรือ ? "

Concierto พยักหน้ารับแทนที่จะตอบด้วยคำพูด

" ...ถ้าหลานยืนยันอย่างนั้น ลุงก็ไม่รู้จะห้ามยังไงหละนะ "
" Detestar คือพี่ชายฝาแฝดของหลาน ที่แยกจากกันนานแล้วตั้งแต่หลานยังเล็กนั่นแหละ "
" ใครๆเขาก็ว่า เขาหนะเป็นเด็กต้องสาป เป็นลูกระหว่างมนุษย์กับปิศาจ "
" หลานถูกแยกออกมาทันทีหลังจากคลอด แล้วก็ถูกพาตัวมาอยู่กับลุง และป้าที่นี่ "

ลุงของเธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดต่อ

" มันเป็นคำสาปที่ทำให้หลานกับเขาไม่มีทางเจอกันได้แน่นอน "
" ลุงไม่รู้จะห้ามหลานยังไงแต่อย่าออกเดินทางตามหาเขาเลยนะ "

แล้วก็กลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง

" ไม่ค่ะ "
" หนูจะไปหาพี่ ...พี่เรียกหาหนู ยังไงหนูก็จะไปหาให้ได้ "

แล้วการเดินทางที่ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะต้องเจออะไรบ้างของเธอก็ได้ดำเนินขึ้น....

(อันนี้เป็นเนื้อเรื่องของ Concierto ที่อยู่ที่อีกบอร์ดนึง ผมขอยกมาทั้งหมดเลยแล้วกัน)

บทบาทของ Concierto ในเกมต่างๆ
    ตัวละครตัวนี้คือน้องสาวของผมเอง ถ้าเห็นเธอมาเล่นก็คือมาเป็นแนวหลัง 100% ไม่ต้องกังขา หรือสงสัยอะไรเลยนะครับ เพราะเธอไม่คิดจะทำอะไรอย่างอื่น นอกจากสนับสนุนทุกคนเท่าที่จะทำได้อย่างแน่นอน


ชื่อ : Flor De La Muerte คือชื่อเต็ม ส่วน Flores เป็นชื่อสั้นๆ ที่คนใช้เรียกเธอ ส่วน Lady Flores เป็นยศที่เธอตั้งให้ตัวเอง ตอนอายุครบ 3000 ปี
เพศ : หญิง
อายุ : Flores เป็นอมตะ ภาพลักษณ์ที่ออกมาให้เห็นส่วนใหญ่จะเป็น ผู้หญิงที่โตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว
อุปนิสัย : ขี้เล่น ขี้โวยวาย ขี้โมโห โกรธง่าย หายเร็ว ขี้อาย ปากจัด พูดมาก แต่จริงๆเป็นคนที่นิสัยดีคนนึงเลย
ลักษณะภายนอก : ตามปกติแล้ว Flores จะต้องเป็นผู้หญิงตัวซีดๆ ขาวๆ แต่จะมีเลือดออกตลอด ไม่ทางตา ก็ปาก หรือจมูก ที่ผมลองเอารูปที่ผมสีๆมาใช้บ้าง ก็แค่จะเปลี่ยน look ดูสักหน่อยเท่านั้น
ประวัติความเป็นมา
     
Spoiler for Hiden:
ถ้าจะพูดถึง Flores ต้องท้าวความไปในช่วงที่แม่เธอยังมีชีวิตอยู่ ในช่วงนั้นมีข่าวลือเกี่ยวกับแม่มดที่จะเดินทางไปตามหมู่บ้านต่างๆเพื่อขายดอกไม้สีขาวๆซีดๆ และในวันรุ่งขึ้นผู้คนในหมู่บ้านที่เธอไปถึงจะหายไปหมดอย่างประหลาด เหลือไว้เพียงแค่ดอกไม้สีขาวๆซีดๆ โตขึ้นเต็มหมู่บ้านเท่านั้น คืนหนึ่ง แม่ของ Flores ฝันว่าเห็นดอกไม้สีขาวๆดอกหนึ่ง เธอเห็นว่ามันประหลาดดีจึงลองสัมผัสดู เมื่อสัมผัส ดอกไม้นั่นก็จิกติดกับนิ้วของเธอแล้วดูดเลือดเข้าไปเลี้ยงจนดอกไม้เป็นสีแดงฉาน แม่ของเธอประหลาดใจมาก แต่เพราะดอกไม้นั้นกัดจิกเจ็บมากและด้วยความโมโห เธอจึงเด็ดดอกไม้นั้นทิ้ง พอดอกไม้ันั้นฉีกออกจากกัน เลือดก็พุ่งทะลักออกมาเหมือนกับเป็นน้ำพุ พร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างทุขทรมานแสนสาหัส วันรุ่งขึ้น คนในหมู่บ้านต่างแตกตื่น เมื่อเห็นศพ หญิงปริศนา นอนตาย ตัวขาดออกจากกันเป็น 2 ท่อน ทุกคนไม่รู้ว่าเธอมาจากไหน และไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมาตายที่นี่ แต่ศพของเธอก็ได้รับการทำพิธีอย่างดี ไม่นานนักแม่ของ Flores ก็ตั้งท้อง

     เมื่อถึงกำหนดวันคลอด แม่ของ Flores สภาพดูแย่มาก ผิวหนังซีดเซียวจนเห็นเส้นเลือดได้ชัดเจน หมอที่ทำคลอดเองก็บอกว่า สภาพแบบนี้เป็นอันตรายทั้งตัวแม่ และลูกในท้องด้วย ในที่สุดหมอก็ทำคลอดสำเร็จ แต่แม่ของเธอก็เสียชีวิตลงตอนนั้น เด็กทารกคนนี้มีร่างกายที่ขาวซีดจนน่ากลัว ในมือถือดอกไม้สีขาวติดออกมาด้วย และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อ Flor de la Muerte

     Flores เหมือนป่วยเป็นโรคประหลาด เธอจะมีเลือดไหลออกตามตัวตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นน้ำตา เลือดกำเดา หรือแม่แต่ตอนไอ จาม เลือด ก็จะไหลออกมาตลอด เธอมีอาการของคนขาดเลือดอย่างรุนแรง แต่กลับไม่เสียชีวิจ พ่อของเธอตัดสินใจมอบเธอให้ทางหมอเลี้ยงดู เพราะเห็นว่ามีสภาพที่พิการ ไม่เหมือนคนทั่วไป บวกกับที่เขารับไม่ได้กับการจากไปของคนรักของเขา Flores เติบโตมาโดยที่ขาดความอบอุ่นของพ่อและแม่อย่างสิ้นเชิง ความประหลาดของโรคทำให้คนยิ่งไม่อยากเข้าใกล้เธอ มากเข้าไปอีก ชีวิตที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตายของเธอต้องดำเนินต่อไปอย่างโดดเดี่ยววันแล้ววันเล่า จนกระทั่ง ....

     Flores จะไปนั่งอยู่หน้าหลุมศพของแม่เป็นประจำทุกวัน แต่วันนี้เธอตัดสินใจที่จะเอาดอกไม้สีขาวที่ขึ้นอยู่ทั่วหลุมศพแม่ของเธอ ติดตัวกลับไปที่โรงพยาบาลด้วย เพื่อที่เธอจะมอบให้หมอ และพยาบาลที่ดูแลเธอมาตลอด เพื่อเป็นการขอบคุณ และเพื่อเป็นการขอร้องให้มาเป็นเพื่อนกับเธอ แต่เธอคิดผิด ทุกๆคนในโรงพยาบาลไม่มีใครรับดอกไม้จาก Flores เลย ไม่ แม้แต่คนเดียว เธอร้องไห้วิ่งมาที่หลุมศพแม่ของเธอ Flores โยนดอกไม้พวกนั้นลงด้วยความเสียใจพร้อมกับเหยียบย่ำมันด้วยความโกรธ ไม่นานนัก ดอกไม้่สีขาวซีดเหล่านั้นก็มีเหลือดไหลนองออกมา เต็มบริเวณ วันรุ่งขึ้น เมื่อมีคนไข้คนหนึ่งไปโรงพยาบาล เขาก็ตกใจแทบเสียสติ โรงพยาลเต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉาน สาดกระเซ็นไปทั้วทุกบริเวณ สภาพศพ หมอและพยาบาล เละเทะ จนดูไม่ได้ พร้อมกับดอกไม้สีขาวซีดที่ออกดอกบานสะพรั่งอยู่ทั่วบริเวณ แล้วก็ไม่มีใครพบ Flores อีกเลย

บทบาทของ Flores ในเกมต่างๆ
     Flores หรือ Lady Flores นั้น จะเป็นตัวสร้างสีสันต์ให้กับเนื้อเรื่องอันมืดมิดในโลกของ Detestar ได้เป็นอย่างดี ถึงตัวเธอจะมีประวัติที่ดำมิด แต่การที่เธอเลือกที่จะไม่จมปรักอยู่กับมันนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ Flores เป็น Flores ถ้าให้พูดง่ายๆ ในการเล่นเกม ถ้า Flores เป็นผู้เล่น เธอจะเล่นเอาสนุก ไม่คิดอะไรให้มากนัก แต่ถ้าเธอจะเอาจริง เธอก็ไม่ยอมแพ้ใครเหมือนกัน ดังนั้น Flores จะเป็นคนที่พร้อมจะลุยไปได้ทุกสถานการณ์ แต่จะดียิ่งกว่า ถ้าเธอมีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วย

ความสัมพันกันระหว่าง Flores กับคนอื่นๆ
     อย่างที่เห็นในเกม Billionaire Tycoon Concierto เรียก Flores ว่าอาเจ๊ ตามเนื้อเรื่องจริงๆแล้ว Flores คือคนที่คอยให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำต่างๆกับ Concierto ตลอดการเดินทางของเธอ Flores สอนหลายๆอย่างให้กับ Concierto และ Concierto ก็สอนหลายๆสิ่งกลับคืนให้ Flores ด้วยเช่นกัน เพราะเหตุนี้ จึงทำให้ Concierto ติด Flores แจ แล้ว Flores เองก็ไม่ปล่อยให้ Concierto ห่างตัวเธอด้วยเช่นกัน
     ตามเนื้อเรื่องหลัก Flores ยังไม่ได้พบกับ Det แต่ถ้าพบกัน Flores จะไม่ค่อยชอบหน้า Det เท่าไร เพราะ Det ไม่ยอมก้มหัวให้เธอ แถมยังหัวรั้น ไม่มีอารมณ์ขัน



ชื่อ : Llorar Bestia
เพศ : หญิง
อายุ : ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูเหมือนสาวใหญ่อายุประมาณ 28+ แต่อายุจริงๆตามอายุขัยของพวกปิศาจจริงๆแล้วจะสูงกว่านั้น
อุปนิสัย : ขี้กังวล ไม่ค่อยชอบพูดเพราะจะเกรงใจคนอื่น ค่อนข้างจริงจังมากในบางเรื่องโดยเฉพาะความรัก รักพวกพ้องมาก
ลักษณะภายนอก : ตัวสูงใหญ่ มีผมสีแดงฉาน มีเขางอกออกมาจากศรีษะ ลักษณะส่่วนใหญ่จะออกไปทางแนวนักรบ
ประวัติความเป็นมา



ชื่อ : Maid Maleen
เพศ : หญิง
อายุ : 18 - 25 ปี
อุปนิสัย : น่ารัก สุภาพ เรียบร้อย เป็นเจ้าหญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แถมยังมีความกล้าหาญ แล้วฝีมือในการต่อสู้สูงพอสมควรด้วย
ลักษณะภายนอก : เป็นหญิงสาวน่ารัก ผิวขาวสดใส กำลังอยู่ในช่วงพ้นวัยวัยรุ่นหมาดๆ มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ยังคงมีความคิดแบบเด็กๆอยู่บ้าง
ประวัติความเป็นมา

[รูป]

ชื่อ : Ire เจ้าตัวออกเสียง ไอ-เระ แต่จริงๆแล้วชื่อของเธอคือ ไอร์ ที่แปลว่า ความโกรธ ความแค้น
เพศ : จริงๆ ไม่น่าจะมีเพศ แต่เจ้าตัวชอบเพศหญิงมากที่สุด เลยทำให้ตัวเองเป็น ผู้หญิงไปด้วย
อายุ : 2 - 3000 ปี เทียบเท่ากับ Flores หรืออาจจะมากกว่า
อุปนิสัย : บ้าบอแบบไร้เหตุผลสุด ๆ ทะลึ่ง ชอบแกล้งคนอื่น (โดยเฉพาะ Flores) ไม่ค่อยแคร์สายตาหรือความรู้สึกคนรอบข้างเท่าไร (ยกเว้น Flores) รัก Flores มาก
ลักษณะภายนอก : ปัจจุบันจะใช้ร่างของหญิงสาวสุดเปรี้ยว ผมยาวสีดำ หรือแล้วแต่สไตล์แฟชั่นที่เธอชอบในช่วงนั้น
ประวัติความเป็นมา



ชื่อ : Tristeza เรียกสั้นๆว่า Tris หรือจะเรียก ราชินีก็ได้
เพศ : หญิง
อายุ : 3000 ปี เศษๆ กำลังจะหมดอายุขัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ ถ้าจะเอาไปใช้นอกเนื้อเรื่องก็น่าจะเป็นหญิงสาว อายุ 23+
อุปนิสัย : หยิ่ง ทรนงในเผ่าพันธุ์ของตนเองมาก พูดจาเสียงดังรุนแรง ไม่ค่อยไว้หน้าใคร ดุร้ายในหลายๆเวลา แต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ใจดี อ่อนโยนฝังใน(ลึกมาก) และไม่คิดจะแสดงความรู้สึกด้านนี้ออกมาให้ใครได้เห็นง่ายๆนอกจากจะอยู่คนเดียว หรือเมื่ออยู่กับครอบครัวเท่านั้น
ลักษณะภายนอก : ถ้าไม่ใช่ร่างแมงมุม Tris จะเป็นหญิงสาวสูงศักดิ์ ดูสง่าและน่าหย่ำเกรง แค่อยู่ใกล้ๆก็รู้สึกถึงแรงกดดันจนต้่องคุกเข่า ปกติจะมีผมยาวสีออกทอง - เหลืองอ่อน แต่จะม้วนเก็บไว้ ตัวสูงโปร่ง ผิวขาวใส หน้าตาใจดี(มั้ง)
ประวัติความเป็นมา
« Last Edit: May 29, 2013, 08:11:38 PM by Det »
With Hate , All things are Possible ...

 

Offline Lu

  • แกละพุงกาง แผ่พุงแล้วเหินบิน หน้าหลังเสมอกัน ความสมมาตรทางสรีระที่ใครก็ใฝ่หา
  • *
  • $1963Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To Lu
  • หมาหมีหมูแมวม้า
    • View Profile
ว่ากันว่า ตัวละครมักจะมีนิสัยส่วนหนึ่งเหมือนคนสร้างน่ะ (เหมือนที่เรามีนิสัยคล้ายตัวละครตระกูลลู่..)

ถ้าDet Flores และConcierto อยู่ในเกมแอคชั่นล่ะก็ เป็นทีมที่โอเคเลยล่ะ คนนึงบู๊หน้าคนนึงซัพพอร์ทคนที่บู๊ คนนึงซัพพอร์ทนอกการต่อสู้

ว่าแต่ฟรอเรสเกี่ยวข้องอะไรกับสองคนนี้ไหม?

"ส่วนตัวผมชอบ Flores มากเลยนะ"
"พอได้เล่นเป็น Flores แล้วสนุก ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน"

"ตัวละครอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อยู่ในคณะเดินทางของ Concierto ครับ"
"Reaper นั้นเป็นคู่หู(?)ของ Flores ที่ถูกเรียกมาให้ช่วยในการเดินทางนั่นเองหละครับ"
With Hate , All things are Possible ...

Offline Lu

  • แกละพุงกาง แผ่พุงแล้วเหินบิน หน้าหลังเสมอกัน ความสมมาตรทางสรีระที่ใครก็ใฝ่หา
  • *
  • $1963Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To Lu
  • หมาหมีหมูแมวม้า
    • View Profile
ขี้โวยวาย ปาก จัด ขี้โมโห หรอคะเนี่ย ดูไม่ค่อยออกเลยแฮะ เวลาลูลู่คุยกับฟรอเรส เราว่านิสัยฟรอเรสดูใจดี ยิ้มง่ายด้วยซ้ำนะคะ -..-

ขี้โวยวาย ปาก จัด ขี้โมโห หรอคะเนี่ย ดูไม่ค่อยออกเลยแฮะ เวลาลูลู่คุยกับฟรอเรส เราว่านิสัยฟรอเรสดูใจดี ยิ้มง่ายด้วยซ้ำนะคะ -..-


"ลองไปดูในกระทู้ บริษัทสิครับ Flores โวยลูกน้องบ่อยจะตาย"
"Flores ขี้เล่นครับ"
« Last Edit: February 16, 2012, 04:46:58 PM by Det »
With Hate , All things are Possible ...

Offline Flores

รายละเอียดความสามารถ และทักษะของ Flores

     ด้วยคำสาปที่ได้รับมาตั้งแต่เกิดทำให้ Flores เป็นอมตะไม่มีวันตาย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความทรมานแสนสาหัสที่ไม่มีวันหนีพ้นได้ และด้วยคำสาปในตัวของ Flores ทำให้เธอมีพลังอำนาจมากมายจนไม่อาจรู้ได้ว่ามีมากมายขนาดไหน ดังนั้นการแสวงหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นทางทรัพสมบัติ หรือพลังอำนาจในการปกครองทั้งหลายทั้งแหล่นั้น ไม่เคยอยู่ในหัวของเธอเลย และด้วยการใช้ชีวิตที่ยาวนานของเธอทำให้ Flores มีความรอบรู้ทั้งทางโลกมนุษย์ โลกปิศาจ และเรื่องลี้ลับต่างๆมากมาย
     ช่วงต้นอายุของเธอ (20-100 ปีแรก) เป็นช่วงที่ Flores พยายามค้นหาพลังในตัวของเธออย่างมาก ค้นพบอย่างนึ่ง ก็จะเจอปริศนาอีกอย่างนึ่ง เธอพยายามไล่ตามคำสาปของตัวเธอเองอยู่นาน จนสุดท้ายก็ไร้ผล มันมากมายเสียจนเธอไม่อาจไล่ตามทัน และด้วยเหตุนี้เองทำให้ Flores มีความรู้ในเวทย์มนต์แขนงต่างๆมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่แขนงเท่านั้นที่เธอหลงไหลเป็นพิเศษนั่นคือ เวทย์มนต์เลือด และ ความมืด

     เลือดเป็นอย่างหนึ่งที่ Flores รู้จักมาตั้งแต่เกิด เธออยู่กับมันมาตลอด(ใครๆก็มีเลือดในตัวแต่ Flores มีเลือดไหลออกจากตัวตลอด ตรงนี้เลยเป็นจุดที่ทำให้ Flores สนใจในเลือดเป็นพิเศษ)ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่เมื่อเธอรู้ตัวว่าเธอสามารถควบคุมเลือดทั้งในตัวของเธอและเป้าหมายได้อย่างอิสระ การระเบิดศัตรูจากภายในด้วยเลือดของเป้าหมายเองก็เป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบอีกสิ่งหนึ่ง ไม่แน่ Flores อาจจะเข้าใจว่าสิ่งนั้นคือศิลปะที่เธอเกิดมาเพื่อมันเพียงคนเดียวก็เป็นได้
     Flores มักจะตื่นตอนกลางคืน และนอนหลับในตอนเช้า สิ่งนี้เองทำให้เธอเกลียดแสงสว่าง เธอเริ่มหลงไหลในความมืดตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกที่เธอหนีออกมาจากโรงพยาบาล แล้วใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในป่าเขา ความเงียบสงัดยามค่ำคืน บวกกับรังสีฆ่าฟันของพวกสัตว์ป่าที่ล่าสัตว์ในยามวิกาลนั้น ทำให้ Flores หลงไหลและหมกมุ่นอยู่กับมันเป็นเวลานาน พวกที่ทนไม่ได้ก็อาจจะเสียสติไปแต่ไม่ใช่กับ Flores การสร้างมิติความมืดเพื่อนกักขังศัตรู หรือเพื่อให้ตัวเธอเองได้พักผ่อนนั้นก็ถือเป็นเรื่องธรรมชาติสำหรับเธอ

     Flores มีความสนใจและต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิต และเรื่องต่างๆบนโลกมาก แต่เพราะอยู่มานานเกินทำให้เธอเบื่อ และเลิกที่จะสนใจมัน การมองดูคนๆหนึ่งดิ้นรนให้มีชีวิตรอดในสภาพการเป็นอยู่ที่สุดแสนสาหัสนั้น ถือเป็นงานอดิเรกของเธอ ในบางครั้ง Flores ก็ยื่นมือเข้าไปช่วยบ้าง แต่ถ้าเห็นว่าช่วยไปก็ไม่ได้อะไรที่น่าสนใจขึ้นมา เธอก็จะปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น เหมือนพวกที่ชอบหว่านเมล็ดพืชในแปลงไปเรื่อยๆ พอเห็นต้นไหนน่าสนใจ ก็จะเลี้ยงดูจนโต แต่พอเบื่อก็ปล่อยทิ้งให้เฉาตายไป Flores มองเห็นชีวิตของคนอื่นเป็นเรื่องน่าสนุกจนกระทั่งเธอได้มาพบกับ Detestar และ Concierto ทั้ง 2 เป็นเหมือนเมล็ดพืชใหม่ที่เธอสนใจ และอยากเห็นการเจริญเติบโต และนี่คือเหตุผลที่ทำไม Flores ถึงคอยติดตามให้คำแนะนำ Concierto อยู่ตลอด (เหมือนจะนอกเรื่องนะ)

     พลังอำนาจของ Flores มีมากถ้าจะให้ยกมาทั้งหมดคงไม่ไหว แต่อีกหนึ่งอำนาจที่สำคัญในตัวเธอก็คือ การข้ามมิติเวลา Flores สามารถเข้าไปในมิติเวลาบางช่วงได้ เทียบเท่าที่ความทรงจำตลอดช่วงชีวิตของเธอ อดีตนั้นเป็นสิ่งที่เธอมักจะเข้าไปดูเพื่อเอามาเป็นตัวอย่างให้คนรุ่นหลัง เธอไม่สามารถเข้าไปแก้ไขเรื่องราวในอดีตได้ แต่เธอสามารถเรียนรู้จากมันได้อย่างดีเยี่ยม และช่วงเวลาในอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนืออำนาจของเธอ แต่เพราะความรู้ที่สั่งสมมานานทำให้ พอที่จะปั้นออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้ ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้สูงแต่ก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย

โดยรวมแล้ว Flores จะมีทักษะประมาณนี้
- เป็นอมตะ
- ใช้เวทย์มนต์ได้แทบทุกแขนง แต่ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ เลือด และความมืด
- เรียนรู้สิ่งต่างๆอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆมานี้จะไม่ค่อยมีอะไรให้เรียนก็เถอะ
- การเดินทางในมิติเวลาถือเป็นการเล่นแก้เบื่ออย่างหนึ่ง
- การดูชีวิตของคนๆนึงจากในมิติของเธอก็คือเรื่องแก้เบื่อของเธอเช่นกัน
- จะสนใจเฉพาะในสิ่งที่น่าสนใจ ถ้าสิ่งไหนเห็นเป็นปกติอยู่แล้วจะเมินอย่างไม่ไยดี
« Last Edit: May 01, 2012, 04:06:45 PM by Flores »
Knowledge illuminates the past , focuses the present , and kindles the future .

รายละเอียดความสามารถ และทักษะของ Detestar

     Detestar มีเชื้อสายมาจากปิศาจเป็นหลักอยู่แล้ว ทำให้ตัวเขามีพลังมากกว่ามนุษย์ค่อนข้างมาก บวกกับที่เขาเป็น 1 ในเด็กต้องคำสาปของตำนานแล้ว ทำให้ Detestar มีพลังค่อนข้างที่จะสูงอยู่พอสมควร ทางด้านสติปัญญา Detestar ก็ได้รับเอาความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ติดมาทางสายเลือดด้วยเล็กน้อย ทำให้เขาเรียนรู้สิ่งต่างๆได้ไว มีไหวพริบดี ไม่สมองทีบคิดอะไรไม่เก่งเหมือนพวกปีศาจแบบปกติ
     ในช่วงอายุการเติบโต เขาถูกเลี้ยงดูมาด้วยพ่อมด ทำให้ทักษะที่เขาชำนาญนั้นเป็นทักษะทางด้านเวทย์มนต์ แต่จะไม่ใช่ในรูปแบบของการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะสิ่งที่เขาใช้นั้น เป็นทักษะจากเลือดปิศาจ ไม่ใช่การฝึกฝนใหม่ พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ Detestar มีพื้นฐานของการใช้เวทย์มนต์อยู่ก่อนแล้ว พอได้รับการเรียนรู้เกี่ยวกับการเล่นแร่แปลธาตุ ทำให้พลังของ Detestar เป็นพลังอำนาจแขนงใหม่ ที่เป็นการผสานกันระหว่างทักษะของสายเลือดปิศาจ และความรู้ของมนุษย์

     พลังที่ Detestar ใช้ส่วนใหญ่จะออกมาในรูปแบบของ ไฟ ไม่ว่าจะเป็น สร้างทะเลเพลิงจากมือทั้งสองข้าง อาบร่างตัวเองด้วยไฟ สร้างไฟให้รวมตัวกันขึ้นเป็นพายุทอนาโด ทั้งหมดนี้เป็นความชอบส่วนตัวของ Detestar ซึ่งอันที่จริงแล้ว ตัวเขายังมีความสามารถจากเลือดปิศาจอย่างอื่นอยู่อีกเช่น การมองเห็นในความมืด การรับรู้ถึงวิญญาณหรือสิ่งเหนือธรรมชาติอื่นๆ (ปกติแล้วมนุษย์ที่ไม่ได้ศึกษาทางด้านนี้จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของภูติผีได้ยากมาก) หรือแม้แต่การรับรู้ถึงความหวาดกลัวของสิ่งที่อยู่รอบข้าง (ความรู้สึกอื่นรับไม่ได้ จะรับได้แต่ความกลัว)

     ยังไงเสีย Detestar ก็ไม่ค่อยชอบ หรืออาจจะไม่อยากสนใจในเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกต่างๆของมนุษย์สักเท่าไร การกระทำบางอย่างของเขามักจะไปทำให้สะเทือนอารมณ์คนรอบข้างอยู่บ่อยๆ โดยที่เจ้าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ยกตัวอย่างเช่น มีคนมาบอกว่าให้ฆ่าเขาให้หน่อย Detestar ก็จะสงเคราะห์ให้โดยที่ไม่ถามถึงเหตุผล และอะไรเลยทั้งนั้น "หรือ" เขาอาจจะปล่อยไปเฉยๆ ไม่สนใจไม่รับรู้ก็ได้ การคาดคั้น ถามถึงความเป็นมาต่างๆที่มากเกินจำเป็น จะทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาได้ง่ายๆ ดังนั้นการอยู่กับคนหมู่มาก แล้วต้องคอยเสนอความคิดถึง ถกเถียงกันต่างๆนาๆ จะไม่ใช่สถานที่ๆเหมาะสำหรับ Detestar สักเท่าไร

โดยรวมแล้ว Detestar จะมีทักษะประมาณนี้
- ใช้ไฟ / เวทย์มนต์ / ร่างกาย เป็นอาวุธ
- มีไหวพริบดี เรียนรู้สิ่งต่างๆได้ไว
- เป็นนักล่าฝีมือดี สามารถใช้ชีวิตในสถานที่เลวร้ายมากๆได้
- ไม่ใช่สัตว์สังคม
« Last Edit: May 01, 2012, 04:07:35 PM by Detestar »
If one must die to push the less of you then so be it !!!

รายละเอียดความสามารถ และทักษะของ Concierto

    สาวน้อยตัวเล็กๆคนนี้เติบโตมาในบ้านของช่างต่อเรือเหาะ ในหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งที่ห่างไกลกับความเจริญมากมายนัก ถ้าจะให้โยง Concierto เข้ากับเรื่องเกี่ยวกับคำสาป หรือเวทย์มนต์นั้น แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย พลังทั้งหมดของพ่อและแม่ของเธอถ่ายทอดไปให้แฝดอีกคนทั้งหมดนั่นก็คือ Detestar เธอเติบโตมาเหมือนกับเด็กผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง ซึ่งไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ นอกจากว่าเธอรักธรรมชาติ ดอกไม้ และเสียงเพลงมากๆเท่าันั้นเอง

    Concierto ไม่มีความสามารถอะไรเลยถ้าเทียบกับทุกๆคนในจักรวาลนี้ สิ่งที่เป็นอาวุธสำคัญของเธอก็คือ จิตใจอันแสนบริสุทธิ และความกล้าหาญที่ใครๆก็ไม่อาจจะเทียบเคียงได้ เหตุผลอาจจะเพราะเธอเติบโตมากลับครอบครับที่อบอุ่น มีทั้งเพื่อนๆ พี่ๆนักต่อเรือมากมาย ที่คอยเป็นเพื่อนให้กำลังใจเธอในการทำสิ่งต่างๆอยู่อย่างเสมอ สิ่งนั้นเลยเป็นเหมือนกระจกสะท้อนกลับเข้าสู่ตัวของ Concierto ทำให้เธอเป็นคนที่ รัก และเชื่อมั่นในพลังความสามัคคี มิตรภาพ และเธอก็ต้องการจะมอบพลังเหล่านั้นให้กับทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของเธอ

    ถ้าพูดถึงการต่อเรือเหาะนั้น Concierto เองก็ไม่ไ้ด้น้อยหน้าไปกว่าใครในหมู่บ้านเหมือนกัน เธอเรียนรู้วิธีการแกะสลักที่แสนละเอียดอ่อน การประดิษฐ์กลไกอันซับซ้อน ไปจนถึงการสานใบเรือให้ออกมาแข็งแรง แต่เบาและอ่อนนุ่มได้อย่างน่าอัศจรรย์ ถ้านับสิ่งเหล่านี้เป็นเวทย์มนต์ มันก็คือเวทย์มนต์ที่ Concierto ชำนาญที่สุดก็ว่าได้ งานอดิเรกอีกอย่างของเธอก็คือ การต่อหุ่นเชิด มาริโอเน็ต และความสามารถลับๆของเธอก็คือ การทำให้หุ่นพวกนั้นมีชีวิต ความเป็นมาของพลังนั้นยังคงเป็นปริศนา ไม่ใช่เพราะคำสาป ไม่ใช่เพราะเวทย์มนต์ และก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไปอยู่ที่ตัวของ Concierto ได้

    Concierto เป็นเพียงสาวน้อยตัวเล็กๆแต่หัวใจของเธอนั้นกว้างใหญ่และหนักแน่น เธอไม่มีความกลัวต่อสิ่งใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเธอไม่มีพลัง หรือความสามารถใดๆ ในการจะไปต่อกรกับสิ่งชั่วร้ายพวกนั้น พวกพ้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางของเธอมาก และเพราะหัวใจอันบริสุทธิและแสนกว้างใหญ่นี้ ทำให้คณะเดินทางของ Concierto มีเพื่อนร่วมเดินทางมากขึ้นเรื่อยๆโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่า เธอมีพลังในการรวบรวมผู้คนมากมายแค่ไหน

โดยรวมแล้ว Concierto จะมีทักษะประมาณนี้
- เย็บปักทักร้อย งานประดิษฐ์
- ความสามารถในการเชิดหุ่นมาริโอเน็ต
- ร้องเพลงเก่ง
- มีภาวะความเป็นผู้นำสูง สามารถผูกมัดใจผู้คนรอบข้างได้
- ไม่มีความารถในการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
« Last Edit: July 08, 2012, 10:12:36 PM by Concierto »
Listen past the melody to learn the harmonies ~

การเดินทางของ Concierto จะขาดสีสันต์ทันทีถ้าไม่มีตัวละครอื่นๆที่รวมเดินทางไปด้วย อาทิเช่น

- Llorar Bestia : อสูรกายร่ำไห้ สาวปิศาจที่ไม่สมหวังกับความรัก เธอร้องไห้อยู่บนยอดเขาเป็นเวลานานหลายสิบปี จนกระทั้ง Concierto เดินทางไปเจอ
- Maid Maleen : เจ้าหญิงนักสู้ เธอเป็นเจ้าหญิงของมหานครแห่งหนึ่งซึ่งถูกพระราชาขังตัวไว้ในห้องกับสาวใช้นานถึง 7 ปี จนมารู้ตัวเอาทีหลังว่านครของเธอนั้น ได้ล่มสลายไปนานแล้ว
- Ire : แม่มดลวงตา ตัวตนของเธอจริงๆนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร อาจจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก็ได้
- Reaper : ยมฑูตรับใช้ส่วนตัวของ Flores ถูกส่งตัวมาให้คอยดูแล Concierto ห่างๆ ความสัมพันระหว่างเขากับ Flores นั้นลึกซึ้งมากกว่าที่คิด

และอีกหลายๆตัวที่ผมจำไม่ได้แล้ว ต้องไปลื้อค้นหาของเก่ามาดู
With Hate , All things are Possible ...



ชื่อ : Llorar Bestia
เพศ : หญิง
อายุ : ภาพลักษณ์ภายนอกจะดูเหมือนสาวใหญ่อายุประมาณ 28+ แต่อายุจริงๆตามอายุขัยของพวกปิศาจจริงๆแล้วจะสูงกว่านั้น
อุปนิสัย : ขี้กังวล ไม่ค่อยชอบพูดเพราะจะเกรงใจคนอื่น ค่อนข้างจริงจังมากในบางเรื่องโดยเฉพาะความรัก รักพวกพ้องมาก
ลักษณะภายนอก : ตัวสูงใหญ่ มีผมสีแดงฉาน มีเขางอกออกมาจากศรีษะ ลักษณะส่่วนใหญ่จะออกไปทางแนวนักรบ
ประวัติความเป็นมา
     Llorar เป็นปิศาจตัวสูงใหญ่ที่ค่อนข้างจะแปลกแยกจากคนอื่นๆในเผ่าสักหน่อย ทั้งทางด้านความคิด อุปนิสัย รวมถึงร่างกาย ตามปกติแล้วชนเผ่าของเธอจะเป็นพวกที่ค่อนข้างดุร้าย แต่ก็ไม่ได้ชอบการฆ่าฟัน พวกนี้จะค่อนข้างมีความคิดในการใช้ชีวิตให้รอดไปในแต่ละวันเท่านั้น ต่างจาก Llorar ที่เธอมักจะคอยกังวลถึงผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งทางด้านดีและร้าย แต่ส่วนใหญ่ความคิดของเธอจะออกแนวติดลบซะเยอะ ส่วนทางด้านร่างกายนั้น ไม่ได้แตกต่างอะไรมากเพียงแค่เธอค่อนข้างจะตัวใหญ่กว่าหญิงชนเผ่าเดียวกันมากสักหน่อยก็เท่านั้น แต่ตัว Llorar เองก็ไม่ได้โดนกีดกันจากคนในเผ่าเลยแม้แต่น้อย

     ชนเผ่าของเธอจะใช้ชีวิตในแบบที่อพยพไปเรื่อยๆ ที่ไหนปลอดภัยพอจะพักได้ก็พัก ถ้าเกิดว่าถูกรุกรานมากก็จะสู้ ในกรณีที่สู้ไหวพวกเขาก็จะบุกยึดดินแดนนั้นไว้เป็นของตัวเอง แต่ถ้าหากเกิดสู้ไม่ได้ก็จะหนีไปหาที่อยู่ใหม่ และด้วยเหตุนี้เองทำให้ประชากรของชนเผ่านี้ มีไม่ค่อยมาก และค่อนข้างไม่เป็นมิตรกับใคร ชนเผ่าของเธออพยพไปเรื่อยๆ จนมาเจอหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง พวกเขาไม่คิดจะรุกรานจึงตั้งรกรากอยู่ใกล้ๆ จนกระทั่งคนในหมู่บ้านมาเจอเข้า แทนที่จะกลัววิ่งหนี ผู้คนในหมู่บ้านกับต้อนรับพวกเขาอย่างดี สอนสิ่งต่างๆในการดำรงชีวิตให้ นับว่าเป็นครั้งแรกสำหรับพวกเขาที่ได้รับมิตรภาพนอกเหนือจากชนเผ่าของพวกเขาเอง

     ความสัมพันระหว่างชนเผ่าของ Llorar กับคนในหมู่บ้านแน่นแฟ้นมากขึ้น มนุษย์ก็คอยช่วยในด้านความรู้ ส่วนพวกเขาก็ช่วยในด้านของพละกำลัง และแล้ว Llorar ก็ได้ไปพบรักกับหนุ่มชาวบ้านธรรมดาๆคน ที่ครอบครัวของเขาเป็นเพียงแค่ชาวไร่ชาวสวน แต่ตัวเขานั้นฝันอยากเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง มีชื่อเสียงดังไปค่อนโลก Llorar แอบหลบคนในเผ่าของเธอมาพบกับชายคนนี้อยู่บ่อยๆ แต่ด้วยนิสัยขี้กังวลจนเกินไปทำให้เธอคิดว่าชายคนนี้คงไม่อาจรับรักเธอได้รวมถึงความต่างของสายพันธุ์ ความรักของเธอจึงเป็นเพียงความรักที่เกิดขึ้นฝ่ายเดียว

     ความเป็นไปของ Llorar กับชายหนุ่มคนรักของเธอก็ดำเนินไปอย่างเป็นปกติ รวมถึงความสัมพันของคนในหมู่บ้านกับชนเผ่าของเธอด้วย แต่แล้วในวันหนึ่ง กลุ่มนักล่าสัตว์ที่มีแต่ชนเผ่าปิศาจได้เดินทางไปจนพบร่องรอยของชนเผ่าเดียวกัน แต่กลับเป็นกลุ่มของพวกบ้าเลือดที่จะฆ่าทุกอย่างที่พบในเส้นทางทิ้งทั้งหมด และเส้นทางก็มุ่งตรงไปทางหมู่บ้านของพวกมนุษย์เสียด้วย พวกเขาเลือกที่จะทำการเจรจาแต่ก็ไร้ผล กลับกายเป็นว่าพวกนี้ต้องการจะยึดครองมากเข้าไปอีก หัวหน้าเผ่าของ Llorar จึงรีบมาปรึกษากับผู้ใหญ่ของมนุษย์ และทั้งหมดก็ตัดสินใจที่จะอพยพหนีไปด้วยกัน
     แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่คิดนัก การจะอพยพคนทั้งหมู่บ้านให้หนีไปในเวลาอันสั้นนั้นยาก จึงต้องมาแผนถ่วงเวลา โดยจะแบ่งกันออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มที่จะออกไปคอยขัดขวางการเดินทางของพวกดุร้าย 2.กลุ่มในหมู่บ้านที่จะอยู่ปกป้องคนในหมู่บ้านจนกว่าจะอพยพออกไปทั้งหมดแล้วถึงถอยทัพตามไป Llorar ถูกเลือกให้อยู่ในกลุ่มที่ 1 เพราะเธอค่อนข้างจะเป็นนักรบที่เก่ง มีฝีมือในระดับแนวหน้า ก่อนที่เธอจะเดินทัพออกไปนั้น ชายหนุ่มคนรักก็ได้บอกกับเธอว่า เขาจะรอเจอเธออยู่ที่จุดนัดพบประจำวันของเขา เขาจะรอหนีไปพร้อมกับ Llorar ชายหนุ่มพยายามจะพูดบางอย่างกับ Llorar แต่ก็ไม่ทันการ เธอถูกเรียกรวมตัวก่อนเวลาเพราะทัพของพวกดุร้ายเดินทางมาถึงเร็วผิดปกติ "แล้วไว้คุยกันใหม่นะ" เป็นคำพูดทิ้งท้ายของ Llorar ที่พูดกับชายหนุ่มคนรักของเธอ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่านั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะได้ยินจากเธอ....

     ปิศาจกลุ่มนี้ถึงจะบ้าเลือดแต่ก็ไม่ได้โง่ ที่พวกมันเร่งรุดนำทัพมาให้ดูเหมือนว่ารีบร้อนนั้นก็เพื่อการเบนความสนใจ จริงๆแล้วพวกมันมีกลุ่มกองโจรที่ซุ่มรออยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนั้นนักรอคอยอยู่นานแล้ว พอได้จังหวะที่กลุ่ม 1 เดินทางออกไป ก็เข้าโจมตีหมู่บ้านทันที ถึงแผนการจะดูง่ายแต่ก็ได้ผลในระดับนึง พวกมันฆ่าฟันคนในหมู่บ้านล้มตายไปพอสมควร แต่ส่วนใหญ่ก็หลบหนีออกมาได้ทัน
     ทางด้าน Llorar เอง หลังจากที่ไม่ได้สู้รบกับใครมานานทำให้รับมือกับศัตรูที่บ้าระห่ำผิดปกตินี้จึงเป็นเรื่องยาก แต่พวกเขาก็พยายามสู้เพื่อถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด จนสุดท้ายก็ไม่มีการติดต่อกลับมา

     กลุ่มที่อพยพออกมาได้ก่อนเมื่อเห็นว่าไม่มีการติดต่อกลับมาจากกลุ่ม 1 จึงตัดสินใจออกเดินทาง เพราะถ้าหากช้ากว่านี้อาจจะโดนตามมาพบได้ แล้วจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ พวกเขาเดินทางลัดเลาะไปตามภูเขา ลึกเข้าไปเรื่อยๆจนมั่นใจว่าไม่น่าจะถูกตามทันแล้วจึงเริ่มตั้งถิ่นฐานกันที่นี่ เผ่าปิศาจไม่ค่อยจะมีปัญหากับสภาพอากาศแย่ๆมากนัก ผิดกับมนุษย์ที่พากันล้มป่วยจากสภาวะร้อนชื้น และการเดินทางหนัก ถือว่าเป็นการอพยพที่ค่อนข้างลำบากทีเดียว
     วันเวลาผ่านไป สภาวะผู้คนทั้งปิศาจและมนุษย์ก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ ส่วนพวกดุร้ายพอเห็นว่าไม่มีข้าวของอะไรให้ขโมยมากนัก บวกกับพวกนี้ทำไร่ทำสวนไม่เป็นจึงพากันอพยพหาที่ปล้นใหม่ ทำให้หมู่บ้านเก่าถูกทิ้งร้างไว้แบบนั้นแต่ก็ไม่มีใครคิดจะกลับไปที่นั่นอีกแล้ว เพราะถิ่นอาศัยใหม่นี้ก็อุดมสมบูรณ์ดี ไม่มีอันตรายอะไรมากมายนัก จนกระทั่งหน่วยลาดตระเวนไปพบกับร่องรอยของกลุ่มที่แยกตัวออกไป ไม่นานนักก็มีการตั้งกลุ่มออกตามหา และในที่สุด Llorar ก็ได้กลับเข้ามาในเผ่าอีกครั้ง

     เมื่อมาถึง Llorar ก็ไม่รอช้า รีบออกตามหาชายคนรักของเธอทันที แต่ก็ไม่พบ ไม่ว่าจะสอบถามจากใครทุกคนต่างก็ปฏิเสธที่จะให้คำตอบ ด้วยความกังวลและวิตก เธอจึงออกเดินทางกลับไปที่หมู่บ้านเก่า รื้อค้นเศษซากที่พังถลายแห่งแล้วแห่งเล่าก็ไม่พบเบาะแสอะไรเลย จนเธอตั้งสติแล้วนึกได้ว่า เขาได้นัดกับเธอไว้ที่จุดนัดพบประจำ Llorar รีบรุดไปโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แต่ก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับเธอ ไม่มีใครและไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ในที่นั้นอีกต่อไปแล้ว กว่าเธอจะทำใจกลับไปที่เผ่าได้ก็ใช้เวลาอยู่หลายวัน ระหว่างนั้นเธอไม่พูดไม่จากับใคร ไม่กินข้าว ไม่สนใจคนรอบข้าง แถมยังคอยโทษตัวเองอีกว่าเป็นคนผิดสัญญา
     แต่ไม่ว่าจะปิดบังยังไง ความจริงก็จะต้องเปิดเผยออกมาสักวัน และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง หญิงสาวคนนึงที่ Llorar ก็รู้จัก เธอเป็นผู้หญิงชาวมนุษย์ที่ชอบพอกับชายคนรักของเธออยู่ด้วยเหมือนกัน Llorar พยายามเว้นว่างช่องระหว่างตัวเธอกับชายคนรักเอาไว้ก็เพราะเหตุนี้ หญิงสาวเรียก Llorar ออกมาพบโดยที่ตัวของเธอเองก็มีท่าทีวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด ทั้งคู่ยืนเงียบอยู่สักพักใหญ่จนหญิงสาวได้หยิบเอาซองกระดาษซองหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นให้กับ Llorar , Llorar เปิดดูข้างในก็มีแหวนวงเล็กๆตกลงมาพร้อมกับจดหมาย 1 ฉบับ เขียนด้วยลายมือชายคนรักของเขา น้ำตาของ Llorar ค่อยๆไหลออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง หญิงสาวเองก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เช่นกัน เธอเริ่มเล่าเรื่องต่างๆด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เรื่องทั้งหมดที่ถูกปิดบังไว้ เรื่องราวที่ Llorar ไม่เคยได้รับรู้ ความจริงอันแสนเจ็บปวดที่ต้องยอมรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    หลังจากการอพยพที่แสนสาหัสครั้งนั้น ชายคนรักของ Llorar เลือกที่จะไม่หนี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาถูกคนในหมู่บ้านลากตัวกันพาหนีตามไป แล้วยิ่งพอมารู้เรื่องที่ว่าไม่มีการติดต่อกลับมาจากทัพหลัก ทำให้เขายิ่งซึ่มเศร้าหนักขึ้นไปอีก และด้วยการเดินทางที่ค่อนข้างทรหด บวกกับสภาพอากาศ ทำให้ชายหนุ่มป่วยหนักจนเพ้อไม่ได้สติ เหล่าหมอในหมู่บ้านก็พยายามช่วยกันอย่างสุดชีวิตแต่ก็ไร้ผล สภาพของชายหนุ่มย่ำแย่ทั้งทางร่างกายและจิตใจ สุดท้ายก็ได้แต่รอจนกว่าเขาจะพ้นทุกข์ ช่วงชีวิตสุดท้ายของเขามีเพียงแต่ความเศร้า ความเจ็บปวด และโดดเดี่ยว เขาก็โทษตัวเองว่าเป็นคนผิดสัญญาเหมือนอย่างที่ Llorar เป็นอยู่ตอนนี้ หญิงสาวรู้เรื่องนี้ทั้งหมด จดหมายนั้นข้อความส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องที่เขาเขียนถึง Llorar บอกความในใจทั้งหมดที่มี รวมถึงหญิงในดวงใจที่ Llorar เคยกลั้นใจถามเขาไปครั้งหนึ่ง คำตอบที่ไม่เคยได้เอ่ยออกจากปากของเขาเอง คำตอบนั้นก็คือ Llorar
     หญิงสาวสารภาพว่า เธอเองยอมรับไม่ได้ที่ชายหนุ่มตัดสินใจเรื่องปิศาจแทนที่จะเป็นชาวมนุษย์เหมือนกัน เธอจึงสวมลอยโดยการปิดบังความจริงทั้งหมด แล้วยึดเอาแหวนนั่นไว้เป็นของตน เพราะเข้าใจว่า Llorar นั้นได้ตายไปแล้ว แต่ชีวิตในแต่ละวันของเธอก็ไม่ได้มีความสุขเลย เพราะความละอายต่อบาปที่คอยกัดกินจิตใจเธออยู่ทุกวี่ทุกวัน แล้วยิ่งมาเห็นสภาพของ Llorar ที่ไม่ได้รับรู้ความจริงอะไรเลยแบบนี้ เธอยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีก

    หญิงสาวพยายามกล่าวขอโทษ Llorar ทั้งน้ำตา Llorar เองก็เข่าอ่อน ทรุดลงนั่งอยู่ตรงนั้นเธอฉุดหญิงสาวมากอดไว้แล้วร้องไห้เหมือนกับเด็กๆ เสียงร้องไห้ของเธอดังลั่นไปทั่วทั้งหุบเขา มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ความสิ้นหวัง เป็นเสียงร้องแห่งความเศร้าอย่างแสนสาหัสมากกว่าที่สิ่งมีชีวิตจะรู้สึกได้ Llorar กอดหญิงสาวแล้วร้องไห้อยู่นานจนฝนเริ่มตก ไม่นานนักเธอก็ปล่อยตัวหญิงสาว แล้วหยิบเอาแหวนกับจดหมายนั้น เดินร้องไห้หายเข้าไปในป่าลึก Llorar เดินร้องไห้มาตลอดทางจนมาพบกับป้ายหลุมศพชายหนุ่มคนรักของเธอที่หญิงสาวได้บอกเอาไว้ Llorar โผเข้ากอดป้ายหลุมศพนั้นแล้วร้องไห้ไม่หยุด จุดฝังศพนี้เป็นจุดที่ชายหนุ่มอยากให้ Llorar ได้เห็นในวันที่เขาสารภาพความในใจกับเธอ แต่ไม่ใช่ในสภาพเช่นนี้ เธอกอดป้ายหลุมศพแล้วร้องไห้อยู่อย่างงั้น วันแล้ววันเล่า เสียงร้องไห้ของเธอดังออกมาจากหุบเขาทุกวัน ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ถ้่าหากจะเทียบเสียงร้องไห้และความเศร้าของ Llorar เป็นเหมือนกับถนนสายหนึ่ง ถนนสายนี้ก็คงจะเป็นถนนที่ดูเศร้าที่สุด และคงจะเป็นถนนที่ยาวจนไม่มีทางจบสิ้นเสียด้วย
« Last Edit: July 31, 2012, 02:55:17 PM by Det »
With Hate , All things are Possible ...



ชื่อ : Maid Maleen
เพศ : หญิง
อายุ : 18 - 25 ปี
อุปนิสัย : น่ารัก สุภาพ เรียบร้อย เป็นเจ้าหญิงที่เพียบพร้อมทุกอย่าง แถมยังมีความกล้าหาญ แล้วฝีมือในการต่อสู้สูงพอสมควรด้วย
ลักษณะภายนอก : เป็นหญิงสาวน่ารัก ผิวขาวสดใส กำลังอยู่ในช่วงพ้นวัยวัยรุ่นหมาดๆ มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ยังคงมีความคิดแบบเด็กๆอยู่บ้าง
ประวัติความเป็นมา
     Maleen เป็นลูกสาวของพระราชาในอาณาจักรแห่งหนึ่ง เธอถูกเลี้ยงดูมาอย่างเพียบพร้อมที่สุด มากเท่าที่เจ้าหญิงองค์หนึ่งจะเรียนรู้ได้ แม่ของเธอเสียชีวิตไปนานแล้ว เหตุนี้เองทำให้เธอเป็นที่หวงแหนของพระราชาเป็นพิเศษ Maleen ถูกจับให้เรียนวิชาการต่อสู้ตั้งแต่ยังเล็ก แล้วเธอก็ถูกจับคู่ให้ประลองกับนักรบชายจากอาณาจักรอื่นบ่อยครั้ง แล้วเธอก็ได้รับชัยชนะมาทุกครั้ง

     Maleen ไม่มีเพื่อนสนิทมากนัก คนที่สนิทกับเธอจริงๆน่าจะเป็นคนใช้คนสนิทที่คอยดูแลเธออยู่ข้างๆไม่เคยห่าง สาวใช้คนนี้ดูแล Maleen ตั้งแต่ตื่นนอน ฝีึกซ้อม เรียน พักผ่อน จนถึงเข้านอน เรียกได้ว่าถ้าเห็น Maleen ที่ไหน ก็จะเห็นสาวใช้คนนี้ติดตามไปด้วยตลอดไม่เคยห่าง จริงๆแล้วทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยยังเล็กมาก แต่ทั้งคู่เกิดในตระกูลที่ต่างชนชั้นกันเกินไป ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองจบลงเพียงแค่ความสัมพันของนายและบ่าว

     วันเวลาผ่านไปตามปกติ แต่ละวันไม่ได้มีอะไรแตกต่างกันมากนัก จนกระทั่งถึงวันครบรอบการจัดการแข่งขันอัศวินฝีมือดี อัศวินจากทั่วทุกสารทิศ บ้างก็มาจากชานเมือง บ้างก็เป็นอัศวินชั้นสูงตระกูลขุนนาง พวกเขา/เธอมาลงแข่งขันกันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับวงตระกูลและบ้านเมืองของตนเอง แน่นอน Maleen ก็ลงแข่งขันด้วย เธอเป็นตัวเต็งทุกการแข่งขัน การแข่งขันครั้งนี้ก็เช่นกัน
     การแข่งขันจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายสิบวัน มีทั้งงานเลี้ยงรื่นเริง ไปจนถึงเวทีพนันมวยมือเปล่า เรียกได้ว่าเป็นงานเทศกาลอย่างหนึ่งก็คงจะไม่ผิดนัก
บนสนามแข่งขัน Maleen แสดงความเหนือชั้นของฝีมือ และทักษะของเธอออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นอัศวินร่างยักษ์สวมเกราะหนาเทอะทะ มีกำลังมากมายขนาดไหน เธอก็สามารถใช้กลยุทธต่างๆแก้ไขปัญหาตรงหน้า แล้วพลิกกลับเป็นฝ่ายชนะมาได้ตลอด จนกระทั่งเธอไปพบเข้ากับอัศวินหนุ่ม ที่ไม่ได้มียศอะไรมากมายนัก เป็นเพียงแค่ผู้ดูแลหมู่บ้านเล็กๆแถบชานเมือง หมู่บ้านของพวกชาวไร่ชาวนา
     อัศวินนุ่มนิรนามคนนี้ สามารถตามติดฝีมือของ Maleen ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ทั้งคู่พลัดกันรุก พลัดกันรับโดยที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ได้รับชัยชนะ ไม่ว่ากี่ครั้งที่ Maleen พยายามจะรุกฆาตเพื่อตัดสินชัยชนะ อัศวินหนุ่มนิรนามคนนี้ก็ต้อนรับขับสู้ แล้วกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่เรื่อยไป การประลองร่วมเข้าชั่วโมงที่ 6 Maleen ไม่เคยต้องปะทะกับใครเป็นเวลานานขนาดนี้มาก่อน ทำให้เธอล้าอย่างเห็นได้ชัด ถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด อัศวินหนุ่มนิรนามเห็นโอกาสจึงรีบรุกกดดันอย่างหนัก สถานการณ์นี้ Maleen ได้แต่เป็นฝ่ายรับอยู่ข้างเดียว แต่เธอไม่ได้ทิ้งลายไว้แค่นั้น Maleen อาศัยจังหวะที่อ่อนล้าของเธอดึงความสนใจให้อีกฝ่ายรุกจนลืมการป้องกันตัว และในที่สุดเธอก็ได้จังหวะ แล้วจู่โจมสวนกลับไป อัศวินนิรนามเสียท่า แต่การโจมตีของเขาก็เล่นงาน Maleen ได้เช่นกัน ผลการแข่งขันจึงออกมาว่าทั้งคู่เสมอกัน

     หลังจากการประลองอันแสนยาวนานจบลง อัศวินทั้งหลายที่ลงแข่งก็แยกย้ายกันกลับบ้านเมืองของตน บ้างก็ได้รับเงินทองมากมาย บ้างก็ได้ผู้หญิงกลับไป บ้างก็ต้องเดินคอตกเพราะแพ้พนัน Maleen ล้ามากจากการประลอง เธอนอนสลบอยู่บนห้องหลายคืน แน่นอนว่าสาวใช้ของเธออยู่ข้างตัวไม่ห่าง อัศวินหนุ่มคนนั้นพยายามมาขอเยี่ยม แต่ก็ถูกห้ามไว้โดยสาวใช้ตลอดทุกครั้ง ในที่สุด Maleen ก็ฟื้น รวมเวลาที่เธอหมดสติไปก็ร่วม 7 วัน สาวใช้ดีใจมาก เธอคิดว่า Maleen จะไม่ตื่นขึ้นมาแล้ว สาวใช้ทั้งกอดทั้งร้องไห้ แล้วเล่าเรื่องของอัศวินหนุ่มให้ฟัง Maleen จึงอนุญาติให้เข้าพบเธอได้ และแล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มขึ้น

     ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเบ่งบานขึ้นเรื่อย เริ่มจากการเป็นคู่แข่ง มาเป็นคนรู้จัก เพื่อนสนิท และคนรู้ใจในที่สุด อัศวินหนุ่มเตร็ดเตร่อยู่ในอาณาจักรของ Maleen อยู่นานสองนาน ไม่ยอมกลับไปหมู่บ้านของตนเสียที ทั้งคู่ไปมาหาสู่กันอย่างเปิดเผย พอถึงเวลาฝึกซ้อม อัศวินหนุ่มก็จะตามมาคอยให้กำลังใจ หรือเป็นคู่ซ้อมให้ พอถึงเวลาเรียนเขาก็วนเวียนเข้ามาทักทายอยู่ตลอด ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้น ๆ จนก่อเกิดขึ้นเป็นความรัก ความรักของหนุ่มสาวแรกรุ่นนั้นช่างน่ารัก สวยงาม ความรักที่มีแต่ให้ และแสนบริสุทธิ Maleen มีความสุขกับช่วงเวลานี้มาก แต่ก็ไม่ได้นานนัก ...

     พระราชาแอบดูการพบเจอของทั้งคู่อย่างไม่ให้คลาดสายตา และในที่สุดพระราชาก็ทนไม่ได้ จึงจัดการเนรเทศอัศวินหนุ่มกลับเมืองของตนไป แล้วจับ Maleen ขังไว้บนยอดหอคอย พร้อมกับสาวใช้และเสบียงที่อยู่กินได้อย่างสบายเป็นเวลา 7 ปี Maleen ไม่สามารถขัดขืนโทษได้ เธอเข้าใจว่านี่เป็นความผิดของตัวเธอเองจริงๆ แล้วยอมเข้าไปอยู่ในห้อง ซึ่งน่าจะเรียกว่าห้องขังบนยอดหอคอยนั้นอย่างเศร้าศร้อย

     จากยอดหอคอยนั้น มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา แต่แปลกที่กลับมองเห็นบ้านเมืองได้เพียงไม่กี่มุมเท่านั้น ตลอดช่วงเวลา 7 ปีเธอมีเพียงสาวใช้ และหน้าต่างบานนี้เท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนคอยปลอบใจเธอในยามเหงา ใจเธอกำลังคิดถึงใครอยู่นั้นก็ไม่อาจทราบได้ เพราะที่เธอต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ก็เพราะการปล่อยใจของเธอให้ไปตามอารมณ์มากเกินไป
     ในที่สุด เวลา 7 ปีอันแสนยาวนานก็มาถึง กลอนประตูปลดล็อคตัวของมันเองเหมือนกับมีเวทย์มนต์ Maleen และสาวใช้ได้ก้าวออกจากห้องขังนั้นเป็นครั้งแรก ณ เวลานี้เธอได้โตเป็นสาวเต็มตัวแล้ว แตกต่างจากเมื่อ 7 ปีก่อนมากนัก ทั้งความสวย ความสง่า และราศีของผู้นำ อยู่ในตัวเธออย่างเปี่ยมล้น สิ่งแรกที่เธอต้องการจะทำคือ เข้าไปหาท่านพ่อ แล้วกล่าวขอโทษ แต่แล้วเรื่องน่าประหลาดก็เกิดขึ้น

     ตลอดทางไปถึงห้องโถงพระราชาเงียบสงัด ไม่มีแม้แต่เงาผู้คนหรือเสียงที่บ่งบอกถึงสิ่งมีชีวิตเลย มีไยแมงมุมจับตามมุมของเสา แต่คบไฟยังคงถูกเปลี่ยนและมีแสงไฟอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าเธอไม่พบพระราชาที่ห้องโถง Maleen และสาวใช้ ช่วยกันค้นหาคนอื่นๆกันทั่วทั้งปราสาท แต่ก็ไม่พบใครเลยแม้แต่หนูสักตัวเธอก็ไม่พบ หลังจากที่เธอตั้งสติได้ เธอก็รู้สึกว่า นอกเมืองนั้นก็ไม่ได้มีเสียงของชาวบ้านเลย ถูกต้อง ชาวบ้านหายไปหมด สภาพบ้านเมืองนั้นเงียบเหงาเหมือนเมืองร้าง แผงลอยขายของก็เปิดอยู่อย่างนั้น มีฝุ่นจับหนาเตอะ ร้านอาหารต่างๆก็เก็บโต๊ะเรียบร้อย เหมือนกับปิดร้านไว้ยังไม่ได้เปิดให้บริการ ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่เหมือนกับว่าจู่ ๆ ผู้คนก็หายไปอย่างน่าประหลาด Maleen ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรวบรวมสติแล้วคิดหาทางที่เธอจะติดต่อกับคนที่รู้จัก แล้วเธอก็คิดถึงอัศวินหนุ่มคนนั้นขึ้นมาได้

     ไม่รอช้า Maleen รีบพาสาวใช้ออกไปถนนใหญ่ที่ไม่ห่างไกลนัก ไม่นานนักเธอก็พบกับคาราวานยิปซี และชาวบ้าน เธอจึงขอติดตามคาราวานไปจนกว่าจะถึงเมืองต่อไป ระหว่างการเดินทางเธอก็ลองสอบถามถึงความเรื่องของอาณาจักรของตน แต่ไม่มีใครตอบได้เลยแม้แต่คนเดียว สิ่งสุดท้ายที่ทุกคนรู้คือ พระราชาขังเจ้าหญิงไว้บนยอดหอคอยเพียงเท่านั้น เมื่อคาราวานมาถึงเมืองถัดไป เธอก็ขอบคุณกองคาราวาน ไปซื้อม้า แล้วเธอก็รีบควบไปหาหมู่บ้านของอัศวินหนุ่มคนนั้นอย่างรีบร้อน ปริศนาที่ค้างคาใจของเธอ เขาจะตอบได้ไหมนะ...
     เมื่อไปถึงจุดหมาย Maleen ก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง เพราะภาพที่เธอคิดไว้คือ หมู่บ้านเล็กๆ บ้านนอกๆ ไม่ใช่อาณาจักรที่แสนยิ่งใหญ่ กำแพงเมืองใหญ่ยักษ์ ยาวสุดลูกหูลูกตา มองข้ามไปข้างหลังจะเห็นยอดปราสาทที่สูงใหญตั้งตระหง่านอยู่ในกำแพงนั้น จะมีอะไรน่าตกใจอีกหละ Maleen คิดว่าถึงจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีกก็ไม่น่าจะต้องแปลกใจแล้ว เธอพยายามจะเข้าเมืองแต่ทหารยามหน้าเมืองปรามไว้ สุดท้ายเธอต้องบอกถึงยศศักดิ์ของตัวเองทหารจึงปล่อยเธอเข้าไป เธอสอบถามชาวบ้านไปตลอดทาง ทั้งเรื่องอาณาจักรของเธอและอาณาจักรนี้ เรื่องของอาณาจักรเธอก็ยังคงไม่มีอะไรคืบหน้า แต่อาณาจักรนี้ค่อยๆพัฒนาหลังจากอัศวินหนุ่ม กลับมาจากการแข่งขัน เขาไปสร้างชื่อเสียงไว้ีอีกหลายพื้นที่ ทุกๆคนยอมรับในความสามารถของเขา แล้วมาขอเป็นพันธมิตร ทำให้อาณาจักรของเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านบอกว่า อีกไม่นานเจ้าชายก็จะแต่งงานกับเจ้าหญิงจากมหานครอื่นแล้ว รู้สึกว่าจะเป็นของขวัญขอบคุณที่เขาไปสร้างชื่อเสียงให็กับมหานครแห่งนั้น ช่างเป็นชายหนุ่มที่โชคดีเหลือเกิน

     Maleen รู้สึกเอะใจบางอย่าง มหานครที่ว่านั้นเจ้าเมืองดูจะแปลกจากคนทั่วไปอยู่นิดหน่อย คือเขาไม่มีความสนใจในตัวผู้หญิงนัก แต่เขาก็มีฮาเรม และนางสนมมาก การจะยกนางสนมพวกนั้นให้กับอาณาจักรอื่นๆเหมือนกับเป็นสินค้าก็ไม่ได้แปลกอะไร แต่เขาอ้างว่ามันเป็นเจ้าหญิงของมหานครนั้น ทำให้รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ Maleen จึงขอพักอาศัยอยู่กับบ้านชาวนาหลังหนึ่ง โดยจ่ายค่าที่พักให้เป็นทองมากมายพอสมควร เธอตั้งใจจะไม่พักในโรงแรมเพราะอยากจะอยู่สืบข้อมูลในอาณาจักรนี้อีกสักพัก

     จนกระทั่งวันมอบตัวเจ้าหญิงก็มาถึง เธอถูกพาเข้าปราสาทไปอย่างหรูหราสมฐานะเจ้าหญิง แต่ว่าเธอกลับไม่อยากพบหน้าเจ้าชายจนกว่าจะถึงเวลาเที่ยงคืน เหตุผลเพราะว่า เธอรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ขอเวลาทำใจให้เธอด้วย Maleen เห็นว่าได้โอกาสจึงแอบลอบไปเข้าพบ โดยอ้างว่าเธอคือสาวใช้ ที่แอบหลงรักเจ้าชายอยู่นานแล้ว เธอจะขออาสาเป็นคนเข้าพิธีแทนเอง หญิงสาวรีบตอบตกลง ท่าทางเธอยังเด็กและดูประหม่าอยู่มาก เรื่องที่ว่าเจ้านครแห่งนั้นมีรสนิยมแปลกๆท่าทางจะเป็นเรื่องจริง ทั้งคู่วางแผนสลับตัวกันที่ห้องแต่งตัวก่อนเข้าห้องหอ แผนการดูราบรื่น Maleen ปลอมตัวเป็นสาวน้อยคนนั้นแล้ว แต่เมื่อเจ้าชายพบเธอ เขาก็รู้ทันทีว่าเธอคือ Maleen เจ้าชายดีใจมาก เขาไม่ิคิดว่า Maleen จะยังรักเขาอยู่ แล้วตามเขามาจนถึงที่นี่ แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ปรับความเข้าใจกัน ก็มีการจู่โจมจากเงามืด กงจักรพุ่งตรงเข้าสู่เจ้าชาย หวังบั่นคอเจ้าชายให้ขาดสะบั้นแต่ Maleen รู้ตัวแล้ว เธอรีบพลักเจ้าชายออก แล้วซัดมีดที่เธอพกติดตัวไว้สวนกลับไป เสียงของผู้หญิงหลุดออกมานิดหนึ่งจากนั้นก็เป็นเสียงของบางสิ่งล้มลง Maleen รีบไปดูหน้าตาของนักฆ่าคนนั้น และแน่นอน การคาดเดาของเธอถูกต้อง สาวน้อยที่ถูกส่งตัวมาคือนักฆ่าจริงๆ ที่เธอไปเสนอตัวทำหน้าที่แทนนี้ก็เพราะว่า ตั้งใจจะทำให้นักฆ่าเห็นว่ามีโอกาสหลบหนีมากขึ้น เพราะเธอสามารถป้ายความผิดให้ Maleen แล้วหนีกลับไปได้ง่ายๆแถมไม่ต้องเสียตัวอีกด้วย

     เจ้าชายคิดว่าที่ Maleen ทำมาทั้งหมดนั้นเพื่อตัวเขา แต่เปล่าเลย... เธอมีความคิดที่เหนือกว่านั้นมาก ความรักในรูปแบบของวัยรุ่นไม่มีอีกแล้ว สิ่งที่เธอทำหลังจากนี้ทั้งหมด เธอจะทำเพื่ออาณาจักรของเธอเท่านั้น เจ้าชายไม่คิดถือโทษโกรธอะไรเธอ แถมยังขอบคุณมากที่มาช่วยเขา เรื่องที่จะให้เธอมาแต่งงานด้วยคงเป็นไปไม่ได้แน่ๆ แต่เรื่องที่ว่าอาณาจักรของเธอทำไมถึงกลายเป็นแบบนั้น เขาพอจะตอบเธอได้ เรื่องมันเริ่มหลังจากที่เธอถูกจับขังอยู่บนหอคอย พระราชาเริ่มเสียสติ เขาติดต่อกับคนแปลกหน้ามากขึ้น มีการทำพิธีกรรมแปลกๆ สิ่งที่เขารู้มีเพียงเท่านี้ เพราะครั้งสุดท้ายที่เขาแอบไปหาเธอก็เมื่อ 6 ปีก่อน อาณาจักรของเธอก็อยู่ในสภาพแบบนั้นเรียบร้อยแล้ว
     Maleen กล่าวขอบคุณเจ้าชาย แล้วจะเริ่มออกเดินทางต่อทันที ไม่มีพิธีการอะไรมากนัก มีเพียงการกล่าวลาของเพื่อนสนิทกันเท่านั้น และไม่นานนัก Maleen ก็พบกับสาวน้อยคนหนึ่ง เธอกำลังช่วยคุณตาที่ขาเจ็บอยู่ข้างถนน สาวน้่อยคนนั้นตัวเล็กน่ารัก มีผมยาวสีเขียว สวมแว่น กระเป๋าของเธอใบใหญ่กว่าตัวเธอมาก เธอคุ้ยหาของต่างๆจากในกระเป๋าของเธอแล้วเอามาบดเป็นยาพอกให้คุณตาคนนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร Maleen รับรู้ได้ว่าเธอคนนี้แหละ จะเป็นผู้ที่พาเธอไปพบกับคำตอบทั้งหมด และจะเป็นคนที่เปิดโลกใหม่ให้กับเธอ ...แน่นอน การคาดเดาของ Maleen ไม่เคยผิดพลาด
« Last Edit: October 20, 2012, 01:26:46 PM by Det »
With Hate , All things are Possible ...

[รูป]

ชื่อ : Ire เจ้าตัวออกเสียง ไอ-เระ แต่จริงๆแล้วชื่อของเธอคือ ไอร์ ที่แปลว่า ความโกรธ ความแค้น
เพศ : จริงๆ ไม่น่าจะมีเพศ แต่เจ้าตัวชอบเพศหญิงมากที่สุด เลยทำให้ตัวเองเป็น ผู้หญิงไปด้วย
อายุ : 2 - 3000 ปี เทียบเท่ากับ Flores หรืออาจจะมากกว่า
อุปนิสัย : บ้าบอแบบไร้เหตุผลสุด ๆ ทะลึ่ง ชอบแกล้งคนอื่น (โดยเฉพาะ Flores) ไม่ค่อยแคร์สายตาหรือความรู้สึกคนรอบข้างเท่าไร (ยกเว้น Flores) รัก Flores มาก
ลักษณะภายนอก : ปัจจุบันจะใช้ร่างของหญิงสาวสุดเปรี้ยว ผมยาวสีดำ หรือแล้วแต่สไตล์แฟชั่นที่เธอชอบในช่วงนั้น
ประวัติความเป็นมา
     Ire เป็นจอมเวทย์สาว รุ่นเดียวกับ Flores เธอได้รับคำสาปมาเหมือนกับ Flores แต่มีหลายอย่างที่แตกต่างกัน ความสามารถที่เธอชำนาญที่สุดคือการลวงตา เธอถนัดการสร้างกระจกเวทย์เืพื่อสะท้อนพลังของศัตรู หรือสร้างร่างปลอมออกไปหลอกล่อ รวมถึงการปลอมตัวเป็นใครก็ได้ เพราะข้อนี้เอง ทำให้ตัวของเธอนั้นไม่มีเพศ(และเจ้าตัวก็ดูจะไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้เท่าไรด้วย) แต่ใครจะไปรู้ว่าตัวตนของ Ire จริงๆแล้ว เธอเป็นคนที่กระหายต่อพลังมากมายขนาดไหน

     ย้อนกลับไปในครั้งอดีต สมัยที่เธอยังเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ Ire เป็นเด็กแก่น ร่าเริงสดใส เป็นที่รักของทุกๆคนในหมู่บ้าน เพราะรอยยิ้มที่สดใส บวกกับความไร้เดียงสา และความอยากรู้อยากเห็นแบบเด็กๆของเธอ ทำให้ไม่มีใครกล้าปฎิเสธความน่ารักน่าเอ็นดูของเธอได้ วันเวลาผ่านไปจนเธอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ความสนใจสิ่งต่างๆในชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เธอเริ่มหันมาสนใจในสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ภูติผีวิญญาณ รวมถึงมนตราต่างๆ ด้วยความกระตือรือร้นมากมายที่ติดตัวมาแต่เด็ก ทำให้เธอหมกมุ่นอย่ากับมันตลอด ไม่เป็นอันกินอันนอน นานจนลืมวันลืมคืน ไม่ออกมาพบหน้าคนในหมู่บ้านเลยแม้่แต่น้อยจนทำให้คนในหมู่บ้านเข้าใจว่าเธอเสียสติแล้วขังตัวเองเอาไว้ในห้องของตน

     วันเวลาร่วงเลยไปหลายสิบปี ก็ยังไม่มีใครพบว่าเธอออกมาจากห้องของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียวจนคนในหมู่บ้านเริ่มไม่ใส่ใจ ค่ำคืนอันเงียบสงัดคืนหนึ่ง ประตูห้องของเธอก็ค่อยๆแง้มเปิดออกมาช้าๆ Ire ที่โตขึ้นกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน ค่อยๆก้าวเท้าออกมาจากห้องช้าๆ เธอมีสีหน้าซีดเซียว ขอบตาคล้ำลึกโบ๋ ตาลอย ผอมแห้ง สวมเพียงแค่ชุดนอนบางๆ กับชั้นในตัวเล็กที่เหมือนจะผิดขนาดเพราะไม่ได้หามาเปลี่ยนใหม่นานแล้ว เธอก้าวออกจากบ้าน เดินตาลอยไปมาอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งมีพวกนักเลงข้างถนนกลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมเธอไว้ หวังจะทำมิดีมิร้ายกับเธอ แต่ทันทีที่พวกนั้นแตะต้องตัวของ Ire พวกมันก็เหมือนถูกสูบพลังชีวิตไปทันที พวกข้างถนนค่อยล้มตายลงทีละคนๆ โดยที่ Ire ยังไม่ได้แม้แต่ชายตามอง

     เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวเรื่องของ Ire กับการตายของพวกข้างถนนกระจายไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว คนในหมู่บ้านเริ่มออกตามหาตัวเธออย่างเร่งด่วน แต่ไม่ว่าจะตามหายังไงก็หาไม่พบ ไม่น่าเชื่อว่า 2 เท้าของหญิงสาวที่กำลังอ่อนแรง จะเดินทางได้ไวกว่าการวิ่งของม้า จู่ๆเธอก็หายตัวไปอีกครั้งอย่างไร้ร่องลอย คนในหมู่บ้านจึงเข้าไปตรวจสอบในห้องของเธอ และสิ่งที่พบก็คือ วงเวทย์มากมายหลายแขนงถูกขีดเขียนทั่วไปเต็มห้องไปหมด จนไม่มีว่างพอที่จะเขียนอะไรลงไปได้อีกแล้ว ผู้ใหญ่บ้านรีบตามหมอผีจากหมู่้บ้านใกล้เคียงให้มาตรวจสอบวงเวทย์เหล่านี้ทันที หมอผีตีความแล้วบอกว่า วงเวทย์พวกนี้เป็นวงเวทย์ของเวทย์มนต์ชั้นสูงไม่ต่ำกว่า 800 แขนง วงเวทย์โบราณที่สาบสูญไปแล้วก็พบได้ในห้องนี้ ใจความสำคัญที่ Ire เขียนไว้เป็นภาษาเวทย์โบราณมีความหมายประมาณว่า "เธอตั้งใจจะเรียนรู้พลังเวทย์มนต์ที่มีทั้งหมดบนโลกนี้ และเอาพลังเหล่านั้นมาครอบครองเอาไว้เพียงคนเดียว" คนในหมู่บ้านตกใจกับสิ่งที่พบมาก ไม่เข้าใจว่าสาวน้อยที่ร่าเริงแจ่มใสแบบนั้นจะมีความคิดอะไรแบบนี้ได้ ระหว่างที่ทุกคนกำลังปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป หมอผีก็จับใจความสำคัญอีกข้อได้ว่า "เธอจะออกตามล่าทุกสิ่งที่มีพลังให้เธอครอบครองได้" และเป้าหมายต่อไปของเธอก็คือ พลังของเทพโบราณที่โบราณสถานไม่ห่างจากหมู่บ้านนี้
     ชาวบ้านรีบรวมตัวแล้วออกตามหาทันที ผู้ใหญ่บ้านเป็นห่วงในความปลอดภัยของ Ire มาก เพราะเทพโบราณองค์นั้นเป็นเทพมารที่สมควรจะไปอยู่ในนรก แต่พลังของมันมีมากจึงทำได้แค่ผนึกมันเอาไว้บนโลก รอวันที่พลังของมันเสื่อมถอย Ire ไม่รู้ตรงจุดนี้ สิ่งที่เธอมีอยู่ในหัวตอนนี้มีเพียงแค่ความกระหายอยากในพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด ในที่สุดผู้ใหญ่บ้านก็เดินทางตามมาทัน แต่ไม่มีใครเข้าใกล้เธอได้เลย เหมือนกับมีกำแพงที่มองไม่เห็นคอยเพิ่มระยะห่างของพวกเขาออกไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่วิ่งเข้าหา เมื่อ Ire ไปถึงโบราณสถาน เธอก็เริ่มเขียนวงเวทย์ แล้วร่ายมนต์ทันที เทพมารถูกปลดผนึกออกมาอย่างง่ายดายด้วยพลังของ Ire ทั้งสอง เริ่มต่อสู้กัน Ire จอมเวทย์มือใหม่เข้าโจมตีอย่างหนักหน่วงรุนแรง เทพมารเสียเปรียบลงเรื่อย แต่มันก็ไม่ทิ้งลาย มันต่อสู้กับ Ire ด้วยพลังที่สูสี เทพมารแปลกใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าเวลาผ่านไปขนาดนี้แล้ว ในยุคสมัยใหม่นี้จะยังมีจอมเวทย์ที่มีพลังเทียบเท่ากับมัน มันจึงยื่นข้อเสนอจะรับ Ire เป็นลูกศิษย์ Ire นิ่งไปสักพัก แต่เหมือนหูซ้าย ทะลุหูขวา เธอโจมตีใส่เทพมารอย่างบ้าคลั่งหวังจะจบชีวิตของมันให้ได้ เมื่อเทพมารเห็นว่าการเจรจานั้นไร้ผล มันจึงจัดการ Ire ด้วยคำสาปโบราณที่มีเพียงมันเท่านั้นที่ปลดคำสาปได้ แล้วปลิดชีวิตตัวมันเองลง พร้อมกับร่างของ Ire ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รวมถึงร่างของ Ire ที่หายไปอย่างไร้ร่องลอย....

     คำสาปที่ Ire ได้รับคือคำสาปไร้ตัวตน ผู้ที่ต้องคำสาปนี้ตัวตนจะหายไป เหลือไว้เพียงแค่ความรู้สึกและอารมณ์ที่จะล่องลอยไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย มันอาจจะดูไม่ร้ายแรงนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงจุดๆหนึ่ง ผู้้ต้องคำสาปจะหลงเหลือแต่ความอยาก ความโกรธแค้น อารมณ์ที่พุ่งพร่านแต่ไม่ได้รับการระบาย ทุกอย่างจะบีบอัดอยู่อย่างงั้นเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี Ire ก็เช่นกัน เธอทรมารกับคำสาปนี้อยู่นานจนเสียสติไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง ทั้งบ้า ทั้งอยากฆ่าตัวตาย แค่จะตะโกนร้องยังไม่สามารถทำได้ ถ้าเทียบความเจ็บปวดนี้กับความเจ็บปวดทางร่างกาย ก็คงเหมือนคนที่ต้องนอนชักเพราะยาพิษแต่ไม่ตายอยู่อย่างงั้นไปตลอดกาล ความรู้สึกนี้ไม่มีใครเข้าใจได้นอกจาก Flores

     ในช่วงเวลาอันแสนทรมานของ Ire นั้นผ่านไปเรื่อยๆเหมือนไร้ที่สิ้นสุด จนกระทั่งวันหนึ่ง วันที่ Flores ศึกษาเกี่ยวกับคำสาปจนมาเจอกับคำสาปบทนี้เข้า Flores สนใจคำสาปนี้มาก(จริงๆก็สนใจทุกคำสาปนั่นแหละ)เธอเริ่มทำการศึกษาอย่างจริงจัง แล้วหาทางใช้กับตนเอง แล้วปลดคำสาปดู ในระหว่างที่เธอล่องลอยอยู่ในโลกของคำสาปนั้น Flores ก็ไปพบกับจิตของ Ire เข้า Flores ประหลาดใจมาก ไม่คิดว่าจะยังมีผู้ที่ติดคำสาปเทพมารจริงๆไม่ใช่คำสาปจำลองเหมือนอย่างที่เธอทำหลงเหลืออยู่บนโลก Flores รีบคว้า Ire ไว้แล้วลากกลับมายังโลกของเธอทันที แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะปลดคำสาปของเทพมารได้ คำสาปของมันนั้นซับซ้อนไม่ต่างกับคำสาปในตัวของ Flores เอง เธอพยายามหาทางแก้ไขอยู่ไม่ต่ำกว่า 100 ปี จนในที่สุดก็ปลดคำสาปออกมาส่วนหนึ่ง
     หลังจากที่ Flores ปลดคำสาปของ Ire ออกได้เสี้ยวหนึ่ง ความโกรธเกรี้ยวของ Ire ที่สั่งสมมานานนับหลายพันปีก็ถาโถมใส่ Flores อย่างรุนแรง Flores พยายามต้านรับไว้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก เธอโดนความเดือดดาลของ Ire อัดกระแทกเข้าอย่างหนักหน่วงรุนแรง และยากที่จะหยุดไ้ด้ ในที่สุดเธอก็อ่อนแรงจนสลบไป ปล่อยให้ความรู้สึกของ Ire อัดกระแทกใส่เธออย่างไร้ซึ่งการต่อต้าน
     เมื่อพายุแห่งความบ้าคลั่งจบลง Ire ไ้ด้รับความรู้สึกของตัวเองกลับคืนมา แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เธอยังไม่ได้รับตัวตนคืนมา มีเพียงแค่ร่างเงาๆกับพลังเท่านั้น และสิ่งที่เธอพบสิ่งแรกก็คือร่างของหญิงสาวตัวซีดที่นอนหายใจรวยริน เลือดไหลทะลักออกทั้ง หู ตา จมูก ปาก ในเสี้ยวเวลานั้น Ire คิดอะไรไม่ออกนอกจากการรักษาหญิงสาวคนนี้ให้ได้ เธอจึงรีบเค้นเอาพลังที่เธอศึกษามา ถ่ายทอดให้กับ Flores ช้าๆ เพราะการถ่ายทอดพลังอย่างช้าๆนี่เอง ทำให้ Ire รับเอาความทรงจำบางส่วนของ Flores ติดเข้ามาด้วย ความทรงจำในช่วงที่ Flores ดูแล และหาทางปลดคำสาปให้ Ire อย่างจริงจัง แถมยังรับเอาความรู้สึกอันบ้าคลั่งของเธอเอาไว้คนเดียว ทั้งๆที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันมาก่อนเลย นับเป็นความรู้สึกของการถูกปกป้องและห่วงใยครั้งแรกนับจากหลายพันปีอันสุดแสนทรมารของเธอ Ire ไม่สามารถปฎิเสธความรู้สึกของตัวเองได้เลย เธอหลงรัก Flores อย่างจริงจังและหมดหัวใจ

     ในที่สุด Flores ก็ได้สติ เธอตื่นมาเห็น Ire ได้รับความรู้สึกของตัวเองคืนมาแล้วก็ดีใจและบอกกับ Ire ว่าจะช่วยเอาร่างของ Ire คืนมาให้ได้ด้วย Ire ไม่ได้ขัดขวางอะไร ได้แต่รู้สึกดีใจและตื้นตันในความห่วงใยของ Flores ทั้งสองค่อยๆ ปะติดปะต่อความทรงจำของ Ire ขึ้นมาเรื่อยๆ แต่เพราะคำสาปที่ยังปลดออกไม่หมด ทำให้มันไม่คืบหน้าไปไหนมากนัก Flores เป็นห่วงว่าถ้าต้องอยู่ในร่างที่ไร้ตัวตนแบบนี้ต่อไปอาจจะทำให้คำสาปกลับมาครอบงำเธออีก เพราะ Ire ยังไม่สามารถระบายอารมณ์ของตัวเองได้ ที่ทำได้ตอนนี้ก็แค่ผ่อนคลายไปบ้างเท่านั้น แล้ว Flores ก็ตัดสินใจว่า เธอจะให้ Ire ยืมร่างของตนเพื่อเอาไว้ระบายอารมณ์ได้ จนกว่า Ire จะหาร่างของตัวเองได้ (จะโดนระบายอารมณ์อะไรบ้างไปคิดกันเอาเองละกันครับ xD)
     การปลดคำสาปดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างช้าๆ ตอนนี้ Ire เริ่มใช้พลังของตัวเองได้คล่องแล้ว เธอจึงบอกกับ Flores ว่าเธอจะสร้างร่างที่เธอต้องการเอง เพราะเวทย์ลวงตาเป็นเวทย์ที่ตนนั้นชำนาญที่สุด แล้วการสร้างร่างก็เริ่มขึ้น Ire ค่อยๆสร้างภาพร่างของตัวเองขึ้นมาช้าๆ อย่างละเอียดอ่อน มันเป็นไปอย่างราบลื่น และในที่สุด Ire ก็ได้ร่างของเธอคืนมา เป็นร่างของหญิงสาวตัวสูงโปร่ง หุ่นดี ผมยาวสีดำสนิท ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเลือกเป็นร่างของหญิงสาว คงเพราะหลงไหลในตัวของ Flores ด้วย แต่ Flores ตัวเล็ก หุ่นไม่ดี แถมตัวซีดผมขาว Ire อาจจะตั้งใจให้ตัวเธอเป็นด้านตรงข้ามของ Flores ก็เป็นได้
     หลังจากที่ได้ร่างคืนแล้ว Flores ก็ตั้งชื่อให้กับ Ire ว่า Ire(ไอร์) เพราะว่าสิ่งที่ Flores รู้จักกับ Ire สิ่งแรกเลยคือความโกรธที่ถาโถมใส่อย่างรุนแรง Ire ตกลง แต่ขอออกเสียงให้มันดูน่ารักกว่านั้นหน่อยนึง จึึงเรียกตัวเองว่า ไอ-เระ ทั้งคู่สนิทสนมกันมาก เดี๋ยว Ire ก็แกล้ง Flores เดี๋ยว Flores ก็งอล Ire นับเป็นมิตรภาพครั้งแรกของทั้งคู่ผู้ที่ไม่เคยได้รับความรักจากใครมาเป็นเวลาหลายร้อยปี

ปล. : อาจจะเหมือน Yuri แต่จริงๆแล้วความรู้สึกของ Ire เป็นความรักที่ชายหนุ่มมีให้หญิงสาว เพราะคำสาปทำให้เธอลืมร่างต้นของตัวเอง มีเพียงแค่ความรู้สึกและอารมณ์ แล้วร่างที่สร้างมาใหม่นี้ก็เป็นร่างที่เจ้าตัวเขาชอบของเขาเอง (อยู่กันแค่ 2 คนไม่มีผู้ชาย เลยสร้างร่างผู้ชายไม่ได้ก็ได้)
ปล.2 : ที่ Flores กระตือรือร้นจะช่วยเพราะช่วงนั้นเธออายุยังน้่อยอยู่ สนใจแต่เรื่องปลดคำสาป กับความคิดแบบเด็กๆ ทำให้ Ire ถูกช่วยไว้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น และอยากมีเพื่อนของ Flores
« Last Edit: October 30, 2012, 09:24:35 PM by Det »
With Hate , All things are Possible ...

« Last Edit: November 24, 2012, 05:18:09 PM by Det »
With Hate , All things are Possible ...



ชื่อ : Tristeza เรียกสั้นๆว่า Tris หรือจะเรียก ราชินีก็ได้
เพศ : หญิง
อายุ : 3000 ปี เศษๆ กำลังจะหมดอายุขัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ ถ้าจะเอาไปใช้นอกเนื้อเรื่องก็น่าจะเป็นหญิงสาว อายุ 23+
อุปนิสัย : หยิ่ง ทรนงในเผ่าพันธุ์ของตนเองมาก พูดจาเสียงดังรุนแรง ไม่ค่อยไว้หน้าใคร ดุร้ายในหลายๆเวลา แต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ใจดี อ่อนโยนฝังใน(ลึกมาก) และไม่คิดจะแสดงความรู้สึกด้านนี้ออกมาให้ใครได้เห็นง่ายๆนอกจากจะอยู่คนเดียว หรือเมื่ออยู่กับครอบครัวเท่านั้น
ลักษณะภายนอก : ถ้าไม่ใช่ร่างแมงมุม Tris จะเป็นหญิงสาวสูงศักดิ์ ดูสง่าและน่าหย่ำเกรง แค่อยู่ใกล้ๆก็รู้สึกถึงแรงกดดันจนต้่องคุกเข่า ปกติจะมีผมยาวสีออกทอง - เหลืองอ่อน แต่จะม้วนเก็บไว้ ตัวสูงโปร่ง ผิวขาวใส หน้าตาใจดี(มั้ง)
ประวัติความเป็นมา
     Tristeza ราชานีแมงมุมองค์สุดท้ายของอาณาจักรแมงมุม บุตรีของราชีนีแมงมุมผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาและโอบอ้อมอารี Valentía ในช่วงต้นสมัยของ Valentía เธอปกครองอาณาจักรของเธออย่างอบอุ่น รวมถึงอาณาจักรของเผ่าพันธุ์อื่นๆรอบข้างด้วย พูดได้ว่าไม่มีใครไม่รู้จัก ราชินี Valentía ผู้ใจดีแห่งอาณาจักรแมงมุมคนนี้ แต่ความสุขมักจะอยู่ไม่คงทน(โดยเฉพาะในเนื้อเรื่องของผม ;)) อาณาจักรรอบข้างเริ่มตั้งตนเป็นใหญ่ ออกไล่ล่า ยึดครองเพื่อขยายอาณาจักรของตนอย่างบ้าคลั่ง หลายอาณาจักรต้องตกเป็นเหยื่อของความกระหายอยากนี้ อาณาจักรของ Valentía ก็เช่นกัน อาณาจักรของเธอถูกพายุความบ้าคลั่งของพวกมนุษย์บุกเข้าทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี จนสุดท้ายระหว่างที่เธอกำลังอุ้มท้องอยู่นั้น เธอก็สละอาณาจักร แล้วหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ใต้ดินลึก ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้ เพื่อหลบซ่อนจากความบ้าคลั่งอันสุดแสนบ้าบอนี้...

     ราชินี Valentía อุ้มท้องแก่หลบหนีไปอยู่ใต้ดินลึก ภายในรังนั้นไม่มีอะไรมากนัก เป็นเพียงแค่ที่พักหลบภัย เพื่อพักท้องเตรียมคลอดเท่านั้น เธอเตรียมอาหารไว้ให้เหล่าลูกๆของเธอส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นพวกซากมนุษย์ซากสัตว์ แต่มันคงยังไม่พอ วันเวลาผ่านไปช้าๆ คืนแล้วคืนเล่า ในที่สุดลูกๆของเธอก็ลืมตาตื่น ทุกคนต่างหิวโหย รีบพุ่งเข้าหาอาหารที่เตรียมไว้ ตัวอ่อนกัดกินเหล่าซากพวกนั้นอย่างเอร็ดอร่อย ร่างกายของตัวอ่อนเติบโตอย่างรวดเร็ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องให้ความสำคัญที่สุด ถ้าหากว่าตัวอ่อนไม่ได้รับอาหารที่เพียงพอ พวกมันก็คงต้องกินกันเอง ไม่ก็หิวตายไป เมื่ออาหารที่เตรียมไว้ไม่พอ เหล่าตัวอ่อนกรีดร้องด้วยความหิวโหย Valentía ตัดสินใจสละร่างของตนเพื่อเป็นอาหารให้กับลูกๆของเธอเอง Valentía โอบกอดลูกของเธอเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมกับตั้งชื่อ และกล่าวลาทิ้งท้ายลูกๆของเธอทีละคนๆ เธอโอบกอดเหล่าตัวอ่อนลูกๆของเธอด้วยความอ่อนโยน โดยที่ร่างกายของเธอค่อยๆถูกกัดกินไปทีละเล็กละน้อย และในที่สุด ราชินี Valentía ก็กลายเป็นแค่ตำนาน

     Valentía มีีลูกๆ ทั้งหมด 22 คน ถือว่าน้อยมากสำหรับเผ่าแมลง ใน 22 คนนี้ จะแบ่งเป็นพี่ใหญ่ 7 คน น้องๆที่พี่ใหญ่เป็นคนดูแลอีกคนละ 2 คนรวมเป็น 14 และอีก 1 ที่นอกเหนือจากทุกคนคือ Tristeza ครอบครัวของ Tristeza ที่ไม่มีแม่เป็นผู้นำนั้นต้องอาศัยคำสั่งจากพี่สาวคนโตสุด Justicia  เธอดุด่า สอนสั่งเหล่าน้องๆของเธอทุกวันตามคำกล่าวลาสุดท้ายของแม่ของเธอ ทุกสิ่งดูราบลื่น ถ้าหากว่าพวกเธอได้อาศัยอยู่บนพื้นดิน
     ภายในถ้ำใต้ดินลึกนี้ ไม่มีสิ่งใดที่พอจะมาเป็นอาหารให้พวกเธอได้เลย ทุกวันๆ ได้แต่ขุดหาไส้เดือน หนอน หรือพวกสัตว์จำศีลเท่านั้น ครอบครัวของ Tristeza เติบโตมาอย่างแร้นแค้น แม้แต่อาหารยังไม่มีจะกิน เพราะพวกเธอต้องหลบซ่อน ไม่เช่นนั้นความหวังสุดท้ายของราชินี  Valentía แม่ของพวกเธอคงต้องสูญสลายลงไป

     วันเวลาอันแสนทรมานค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆ บางคนพอรู้ตัวว่าไปต่อไม่ไหวแล้วก็จะยอมสละตนเองเป็นอาหารให้คนอื่นๆต่อไป ในที่สุดก็เหลือเพียง 2 คนสุดท้าย Justicia และ Tristeza ณ เวลานั้น Tristeza เป็นเหมือนน้องเล็กที่อ่อนแอ และขี้แย ที่สุด ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นผู้ที่เหลือรอดมาได้ ผิดกับ Justicia ที่ทั้งเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว ความหวัง ความฝัน จิตใจ และคำสัญญาของพี่น้องแต่ละคนถูกส่งต่อมาเรื่อยๆจนถึงผู้ถูกเหลือรอด 2 คนสุดท้าย Tristeza ขอเสนอว่าตนจะเป็นฝ่ายสละร่างให้ Justicia เอง แต่ Justicia ปฎิเสธ แล้วบอกว่าให้มาแข่งกัน ใครที่ยังหายใจอยู่เป็นคนสุดท้าย ก็จัดการกับอีกฝ่ายได้เลย Tristeza ไม่อยากแข่ง ไม่อยากให้มีใครตายอีก เธอเอาแต่ร้องไห้งอแง จน Justicia ต้องตะวาด แล้วทำโทษโดยการไล่ให้ไปอยู่ในซอกหินลึกๆคนเดียว แล้วสั่งว่าอีก 1 อาทิตย์ถ้าตัว Justicia ไม่เข้าไปเรียก ให้ออกมาเอง Tristeza เข้าใจความหมายของคำสั่งนี้ดี เธอไม่อยากจากคนที่เธอรักที่สุดที่เหลือเพียงคนเดียวไป เธอร้องไห้สะอื้นแล้วเดินมากอดขา Justicia ไว้เป็นครั้งสุดท้าย แล้วเดินร้องไห้ หายเข้าไปในมุมมืด สะอื้นอยู่คนเดียว รอคอยให้วันนั้นเข้ามาถึง
     1 อาทิตย์ผ่านไป Tristeza ยังไม่หมดลมหายใจ เธอยังคงเคลื่อนไหว และยังมีสติครบถ้วน เธอตื่นมาแล้วรอคอยพี่สาวของเธอเข้ามาเรียก แต่รอแล้วรอเล่า พี่สาวก็ไม่มา แม้แต่เสียงภายนอกก็ยังเงียบสงัดจนน่าขนลุก Tristeza ค่อยๆลุกขึ้นแล้วตะโกนเรียกหาพี่สาวของเธออย่างเป็นกังวัล แต่ไม่ว่าจะเรียกเท่าไรก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา Tristeza ในเวลานั้นเหมือนกำลังหลอกตัวเองอยู่ เพราะเธอไม่อยากรับรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตรงหน้าได้ เธอยังคงเดินร้องเรียกหาพี่เธอต่อไป เหมือนคนบ้า และในที่สุดเธอก็มาพบร่างของ Justicia นอนสงบนิ่งอยู่ มีใยแมงมุมห่อหุ้มอยู่บางๆ สิ่งที่ Tristeza เห็นอยู่ตรงหน้านี้เหมือนกับเป็นเสียงระฆังที่ดังเตือนสติของเธอ Justicia ตัดสินใจสละร่างของตัวเองไว้ให้ Tristeza มันเหมือนการจำศีล แต่ไม่มีการตื่น ที่อยู่ตรงหน้าของ Tristeza ตอนนี้เป็นเพียงแค่ร่างเปล่าๆ ไร้วิญญาณของพี่สาวของเธอ Tristeza เข่าอ่อน ทรุดลงกับพื้น น้ำตาไหลอาบ 2 แก้ม แต่ไม่มีเสียงสะอื้นออกมาแม้แต่น้อย มันจุกอยู่ในอก พูดก็ยังพูดไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลของมันไปเรื่อยๆแบบนั้น Tristeza ค่อยๆขยับเข้าหาร่างไร้วิญญาณของพี่สาวของเธอ ช้าๆ น้ำตาก็ยังคงไหลรินเป็นสายเหมือนไม่มีทางจะหยุดได้ พอเธอมาหยุดอยู่ข้างหน้าร่างไร้วิญญาณของ Justicia เธอก็ค่อยๆยกแขนขึ้นโอบกอดร่างไร้วิญญาณนั้นไว้แล้วก็ร้องไห้ต่อไป

     Tristeza ทำใจอยู่นานกว่าจะตัดสินใจกินร่างของพี่สาวของเธอได้ ในที่สุด ความหวัง ความฝัน ความทรงจำ คำสัญญา ทุกอย่างที่ ราชินี Valentía แม่ของพวกเธอ และเหล่าพี่ๆ น้องๆ ของ Tristeza ได้ช่วยกันปกป้องรักษามา ก็ส่งต่อมาจนถึงเธอ Tristeza รับรู้และเข้าใจถึงภาระหน้าที่นี้เป็นอย่างดี หลังจากเหตุการณ์นั้น Tristeza ก็เก็บตัวเงียบ หลบอยู่ในถ้ำที่เป็นเหมือนบ้านของครอบครัวเธอเงียบๆ ใช้เวลากับตัวเองอยู่นานหลายปี ทำไมทุกคนถึงเลือกให้ Tristeza เป็นคนสุดท้ายงั้นเหรอ ? เพราะว่า Tristeza เป็นคนเดียวในพี่น้องทั้งหมด ที่รู้สึกเศร้าไปพร้อมกับคนอื่น ดีใจเมื่อเห็นพี่ๆน้องๆมีความสุข และกล้าที่จะร้องไห้อย่างไม่อายใคร พี่น้องทั้งหมด 22 คนมีแค่ Tristeza เท่านั้นที่ร้องไห้ทุกครั้งที่มีใครจากไป จุดนี้เองทำให้ Tristeza แตกต่างจากพี่น้องของเธอ

     หมดเวลาเศร้าโศกเสียใจแ้ล้ว Tristeza พูดกับตัวของเธอเอง แววตาที่เคยอ่อนโยนหายไปคงเหลือไว้เพียงแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยควมเคียดแค้น รอยยิ้มแสนน่ารักที่เคยใช้หัวเราะกับพี่ๆน้องๆของเธอไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เสียงเล็กๆที่เป็นเหมือนเสียงลูกแมวเมื่อเทียบกับพี่ๆของเธอก็กลับกลายเป็นเสียงคำรามของปิศาจร้าย Tristeza ถือกำเนิดใหม่ขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวเหมือนแม่และพี่ของเธอ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่เธอจะได้ล้างแค้นให้กับตระกูลของเธอ
     Tristeza แบกเอาความแค้นทั้งหมดยัดใส่เข้าใจของเธอ ความเดือดดาลที่อยากจะฆ่าฟันพุ่งพร่าน ร่างกายของเธอกระหายคาวเลือดของมนุษย์ยิ่งกว่าตอนที่เธออดอยากอยู่ในถ้ำเสียอีก ไม่รอช้า เธอรีบขุดออกมาจากรูนั่น เข้าเข่นฆ่ามนุษย์ทุกคนที่หลงเข้ามาในระยะสายตาของเธอทันที Tristeza อาละวาดฆ่าฟันอย่างบ้าคลั่ง หมู่บ้าน และเมืองใหญ่ หลายแห่งกลายเป็นนครแห่งความตายในเวลาเพียงแค่ไม่กี่คืน จนมีรายงานไปถึงมหานครใหญ่ๆหลายแห่งว่าให้ระวังตัว และเตรียมรับมือให้ดี

     Tristeza ฝึกปรือฝีมือของเธอกับมนุษย์ สัตว์ป่า ตัวแล้วตัวเล่า จนเธอสามารถฝังตัวอ่อนเข้าไปเพื่อควบคุม และทำตามคำสั่งเธอได้ทุกอย่าง เธอค่อยๆใช้แผนการมากขึ้น ใช้วิธีการหลอกล่อมากขึ้น การวางกับดัก การสร้างข่าวลวง การพลางตัว ทุกอย่างที่ใช้ได้ในสนามรบ และที่ใช้ในการใช้ชีวิตรอดในแต่ละวันนั้น ถือว่าเธอชำนาญในระดับสูงที่สุด ไม่นานนัก อาณาจักรใหญ่ๆก็ล่มสลายลงอยู่ในเงื้อมมือแห่งความโหดร้าย ความชาญฉลาด และทักษะพลิกแพลงอันมากมายของ Tristeza

     ตำนานราชินี Valentía ผู้โอบอ้อม ถูกเขียนใหม่ด้วยชื่อของ ราชินี Tristeza ผู้โหดร้าย ทุกครั้งที่เธอปรากฎตัว เธอจะตะโกนชื่อของตัวเองและชื่อของแม่เธอ เสียงที่เธอตะเบงออกมานั้นมีแต่ความโกรธเกรี้ยวและเคียดแค้น ผู้ที่ได้ยินเสียงคำรามนี้เพียงสักครั้งหนึ่งจะต้องถูกความหวาดกลัวกัดกินจิตใจไปจนวันตายเลยทีเดียว แววตาอาฆาตบาดลึก ที่เหมือนแค่ถูกจ้องก็ตายได้ของเธอ และใบหน้าที่ไม่มีซึงความเมตตาใดๆหลงเหลือให้เห็น ทุกอย่างคือเธอ Tristeza ราชินีแมงมุมคนสุดท้ายที่แสนโหดร้าย

     ตำนานนี้ถูกเล่าขานต่อๆกันมาหลายยุคหลายสมัย ตำนานของเธอก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป บ้างก็ถูกลืม บ้างก็ใช้เป็นนิทานที่เอาไว้ใช้หลอกให้เด็กกลัว บ้างก็เชื่อว่าเธอคือเทพเจ้าที่จะมาชำระล้างโลกนี้ ช่างน่าเศร้านัก เพราะผู้ที่เหลือรอดมาเล่าความจริงของตำนานนี้นั้น มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ....
« Last Edit: November 20, 2012, 10:11:44 AM by Det »
With Hate , All things are Possible ...

Offline Tristeza

"ใครมันมาจดบันทึกประวัติของข้า้"

รายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ

รายชื่อ พี่ๆ ทั้ง 7 (เรียงตามความอาวุโสแล้ว)
โดยที่พี่ๆทั้ง 7 นั้นมีหน้าที่ในการสั่งสอนนิสัยที่คู่ควรและต้องมีทั้งหมด 7 ข้อ ตามชื่อของแต่ละคน

Justicia = Justice
พี่สาวคนโต ผู้ดุดันแข็งแรง ขี้เล่น แต่เปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม ดูแลน้องๆอย่างเท่าเทียม

Audaz = Fearless
พี่สาวอันดับที่ 2 ผู้แสนเข้มแข็ง และไม่เคยเกรงกลัวแต่อันตรายใดๆ เงียบขรึม แต่ใจดี

Valiente = Courageous
พี่สาวอันดับที่ 3 ผู้กล้าหาญ คอยเป็นกำลังใจให้น้องๆเสมอ มีอารมณ์ขัน ขี้เล่น หัวเราะเก่ง ใจดี

Nitidez = Sharpness
พี่สาวอันดับที่ 4 ผู้ฉลาดหลักแหลม มีทักษะรอบด้าน แต่ออกจะเปิ่นๆ และซุ่มซ่ามสักหน่อย ขี้อายแบบแปลกๆ

Ternura = Tenderness
พี่สาวอันดับที่ 5 ผู้โอบอ้อมอารี ใจดีมาก ยิ้มตลอดเวลา ดูแลน้องๆอย่างอบอุ่น สุภาพเรียบร้อย ชอบโดนพี่คนอื่นๆแกล้ง

Abio = Wise
พี่สาวอันดับที่ 6 ผู้ชาญฉลาด เงียบขรึม พูดน้อย(แต่มากกว่า Audaz) จัดสรรหน้าืที่ของน้องแต่ละคนอย่างลงตัว

Violencia = Violence
พี่สาวคนสุดท้าย ผู้โหดเหี้ยม พูดจาเสียงดังฟังชัด ถึงจะดุร้ายแต่ก็ไม่เคยทำร้ายน้องๆของตนเอง คอยสั่งสอนให้น้องๆสร้างความโหดเหี้้ยมในตัว

รายชื่อน้องๆทั้ง 14 คน
น้องๆทั้ง 14 จะเป็นความรู้สึกทางอารมณ์ต่างๆ ที่พุ่งพล่านมั่วซั่ว จับต้นชนปลายได้ลำบาก ไม่มีความเป็นระเบียบ
ทุกคนมีนิสัยพื้นฐานเป็นคนที่รักพี่น้องอยู่แล้ว แต่จะมีนิสัยอื่นๆเฉพาะเด่นออกมาเป็นของแต่ละคน
ทั้ง 14 คนจะโกรธกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นความรู้สึกถึงระดับต้องฆ่าฟันทิ้ง เหมือนพี่น้องที่ชอบแกล้ง ชอบหาเรื่องทะเลาะกันเล่นๆมากกว่า

Arroganza = Arrogance
น้องสาวตัวแทนความหยิ่ง จองหอง ชอบว่าร้ายน้องๆคนอื่นตามนิสัย

Pazzia = Madness
น้องสาวตัวแทนความบ้า เสียสติ ไม่ค่อยมีความคิด ทะเลาะกับคนอื่นบ่อยๆ

Sogni = Dream (ความฝัน , ฝัน)
น้องสาวตัวแทนความฝัน ขี้เซา วันๆไม่ค่อยทำอะไร ชอบนอนหลับฝันไปเรื่อยๆ แต่ก็ชอบเล่นกับทุกๆคนเมื่อมีโอกาส

Rabia = Rage
น้องสาวตัวแทนความรุนแรง โหดร้าย ชอบทะเลาะกับคนอื่น และชอบทำอะไรเกินตัว

Lujuria = Lust
น้องสาวตัวแทนความอยาก กระหาย ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้างเท่าไร

Autista = Autistic (เพ้อฝัน)
น้องสาวตัวแทนความคิดเพ้อฝัน ไร้เหตุผล เอ๋อๆไปวันๆ เป็นที่โดนแกล้งของน้องๆคนอื่นประจำ แต่ก็ถูกพี่ๆปกป้องมากที่สุดเช่นกัน

Alegría = Happiness
น้องสาวตัวแทนของความสุข ใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี เป็นคนที่คอยห้ามตอนที่มีคนทะเลาะกัน

Rechazar = Reject
น้องสาวตัวแทนของการปฎิเสธ อคติ ถึงจะมีความคิดด้านลบมาก แต่ก็รักทุกๆคนมากด้วยเช่นกัน เงียบๆ ไม่ค่อยพูด

Celoso = Jealous
น้องสาวตัวแทนความหึงหวง ต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแย่่งชิงสิ่งที่ตนอยากได้บ่อยๆ ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงมาแต่เกิด

Pasión = Passion
น้องสาวตัวแทนความหลุ่มหลง เรียบร้อยผิดกับชื่อตัวเอง แต่นั่นเพราะเธอหลงไหลในความสง่าของตัวเองนั่นแหละ

Molesto = Annoyed
น้องสาวตัวแทนความขี้รำคาญ น่าเบื่อ สติหลุดง่ายมาก ชอบพูดกับตัวเอง

Airado = Angry
น้องสาวตัวแทนความโกรธ โมโห อารมณ์ร้าย รุนแรง แต่ไม่เคยโกหก

Aversión = Hate , Detest
น้องสาวตัวแทนความเกลียดชัง มีความเกลียดชังต่อเผ่าพันธุ์อื่นมากที่สุด เกลียดแม้กระทั่งไส้เดือน หรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆ

Envidia = Envy
น้องสาวตัวแทนความอิจฉาริศยา เก็บตัวเงียบอยู่ในมุมมืดคนเดียวเพราะชอบน้อยใจบ่อยๆ

และคนสุดท้าย นอกเหนือจากคนอื่นๆ

Tristeza = Sorrow
พี่สาวและน้องสาว ตัวแทนของความเศร้าโศกเสียใจ ขี้อาย และขี้แยมาก วันๆไม่ทำอะไร มักจะเดินตามเกาะขาพี่ๆ ไปที่ต่างๆ ไม่ก็อยู่เล่นกับน้องๆให้หายเหงา

Tristeza ซึ่งแปลว่า ความเศร้านั้น เธอคือตัวแทนของทุกคนที่อาจจะลืมตรงจุดนี้ไป
ถึงจะมีความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ ความอ่อนโยนแล้ว ความเศร้าโศกเสียใจในบางเรื่องก็เป็นสิ่งจำเป็น
Tristeza จึงเป็นคนเดียวที่แยกออกมาโดยไม่มีพี่ๆสอน และไม่มีน้องๆให้สอน เพราะตัวเธอเป็นทั้งพี่และน้องของทุกๆคน
« Last Edit: November 20, 2012, 09:57:33 AM by Tristeza »
My name is Tristeza !!
In the name of Spider Queen Valentía !!
I AM HER DAUGHTER !!

Fall on your knees and Lament !!
Because this day shall be the last of your life !!!