ความหวาดระแวงกลัวไปหมดทุกอย่างช่วยให้หนุ่มน้อยเลือกเส้นทางอ้อมจากเส้นทางหลักทั้งยังระแวดระวังเต็มที่ ก็แน่ล่ะ ในสลัมแบบนี้อยู่ดี ๆ มีคนวิ่งมาแทงกันตายก็เคยเกิดขึ้น เรื่องถูกวิ่งราวขโมยโทรศัพท์หรือกระเป๋านี่เป็นเรื่องปกติ โน่นไง เสียงกรีดร้องจากหัวมุมถนน ดูเหมือนจะมีคนเคราะห์ร้ายแทนเขาแล้ว
"ปโยวอน ฉันต้องการความช่วยเหลือ"
โทรอยู่พักหนึ่งกว่าจะมารับได้
ปโยวอน : นายโทรมาด้วยเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ... เดี๋ยว หยุดความคิดนั้นซะ มันไม่ใช่เรื่องของเรา
"อะไรไม่ใช่เรื่องของเราเหรอ คนกำลังเดือดร้อนนะจุนปโยวอน จะให้ชั้นทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง
ถ้านายเป็นห่วง ก็รีบตามมาสิ..."
เมื่อเงยหน้ามาก็พบว่าจุนปโยวอนมายืนอยู่แล้วในสภาพเหนื่อยหอบเล็กน้อย
"นายนี่มันหาเรื่องใส่ตัวจริง ๆ ไหนล่ะคนเจ็บ" ถามพลางเหลียวมอง ได้ยินเสียงไซเรนไกล ๆ
ฮานึลยิ้มแป้น "ขอบคุณที่มานะ"
"ตรงนั้นไง ไปกัน ว่าแล้วก็จูงมือลากไปตามเสียงไซเรน"
"ฉันว่านายควรโทรแจ้งเจ้าหน้าที่..." หนุ่มหน้ามนส่ายสายตามองหาทางหนีทีไล่ระหว่างเดินไป สะบัดมือออกแล้วจับมือฮานึลแทน
เบื้องหน้าของพวกเขาราวกับเวลาหยุดลงเพื่อรอให้พวกเขามาถึง หญิงสาวแหกปาก โจร 2 คนกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกระเป๋า
เบื้องหน้าของอลิซราวกับเวลาหยุดลงเพื่อรอให้เธอมาถึง หญิงสาวแหกปาก โจร 2 คนกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกระเป๋า
ฝั่งตรงข้ามถนนมี 2 คนทำท่าจะเข้ามาช่วยเช่นกัน คนหนึ่งเก็บก้อนหินมาถือ
ไม่แพ้กัน ด้านหนึ่งยังมีเงาร่างของจอมยุทธ์หนุ่มยืนจังก้า
"นครแห่งนี้ช่างมีผู้ทรงคุณธรรมเยอะยิ่งนัก"
เห็นเช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจช่วงชิงโอกาสให้แก่อีกสองคน
"พวกเจ้า หยุดมือให้กับเรา"
เขาตะโกนเรียกโจรเพื่อดีงความสนใจมายังตน