ยินดีต้อนรับสู่หอสมุดเลือด : Play by Post Forum ที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย
0 Members and 2 Guests are viewing this topic.
ไม่มีวิธีอื่น ตราบใดที่คริสตัลยังส่องแสง ก็จะไม่มีเหล่าเทวาตนใดใช้พลังได้ในพื้นที่ของนคร Lore ตัวเกราะป้องกันก็จะป้องกันการโจมตีจากภายนอกเพียงเท่านั้น หากโดนบุกรุกเข้ามาได้ก็จะต้องสู้กันในสภาพมนุษย์"สามีของข้าก็เสียในการต่อสู้ปกป้องเมืองเมื่อ 5 ปีที่แล้ว" Shiv กล่าวแล้วมองแสงจากคริสตัลอย่างเหม่อลอยเช่นเดียวกับสามีของเธอ ประชาชนกว่า 70% ของเมืองนี้ก็ตายหรือสูญหายไปในสงครามเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ยิ่งสภาพเมืองเป็นแบบนี้ด้วย ตอนนี้แทบจะไม่มีใครอยู่อาศัยอีกแล้ว นอกจากพวกที่ไม่มีกำลังพอจะเดินทาง ซึ่งเราก็รับความช่วยเหลือจากพวกเขาไม่ได้หรอกมนุษย์คนอื่นๆ ก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าเทวาปีกดำต้องการอะไร พวกนั้นลี้ภัยออกไปแล้วพยายามเอาชีวิตรอดในธรรมชาติอันโหดร้ายนี่ก็มากเกินพอสำหรับพวกเขาแล้ว กว่าจะลงหลักปักฐานได้ กว่าจะก่อร่างสร้างเมืองขึ้นมาอีกครั้ง เวลาและโอกาสคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่มหานครในตอนนี้ไม่มีสักอย่างที่จะมอบให้พวกเขาได้ พวกเขาจึงต้องออกไปดิ้นรนไขว่คว้าหาสิ่งเหล่านั้นจากโลกภายนอกกันเอง ไม่ว่ามันจะโหดร้ายขนาดไหน ก็คงไม่โหดร้ายเท่าพื้นที่ที่มีสงครามและพร้อมจะถูกโจมตีได้ทุกเมื่อ"ดังนั้นนี่จึงเป็นหน้าที่ของพวกเรา เหล่าเทวาของมัสเทมาที่ยังคงเดินตามประสงค์ของท่าน ให้ความช่วยเหลือเพื่อที่จะทำให้อารยธรรมมนุษย์กลับมาอีกครั้ง"ราอุลเดินมาจนถึงแนวกำแพงนที่สุด เขาหวังว่าแถวนี้จะมีจอมเวทย์ที่รับซื้อคทาเก่าๆ ในมือของเขานี่นะ"เธอมาจากไหน และต่อจากนี้ไปคิดจะทำอะไรบ้างงั้นเหรอ?" "และมีอะไรที่เราสามารถทำได้บ้างไหม?""ฉันก็อยู่เมืองนี้แต่แรกแล้วนั่นแหละ" Laetel หัวเราะออกมา "เพราะงั้นเลยไม่อยากไปจากที่นี่สักเท่าไหร่ยังไงล่ะ แล้วต่อจากนี้ก็คงจะอยู่ช่วยฟื้นฟูเมืองนี้ด้วย ถ้าเป็นไปได้ล่ะนะ""ส่วนเรื่องในตอนนี้ที่เธอทำได้ ก็แค่ลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยให้คนที่ยังทำงานอยู่ในเมืองนั่นแหละ ต่างคนต่างก็มีหน้าที่ของตัวเอง จริงไหม" หรือจะบอกเป็นนัยว่าเลิกอู้ได้แล้วLenne เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มกล่าว"เพราะถูกทรยศน่ะ" เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าก่อนจะเริ่มอธิบายแต่เดิมนครแห่งนี้ก็เป็นเมืองธรรมดา มีกษัตริย์ปกครอง มีประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข โดยอาศัยพลังมาน่าจากหลุมมาน่าขนาดใหญ่ที่พระราชวังตั้งอยู่ ตราบใดที่พลังนี้ยังคงอยู่ เมืองนี้ก็จะอยู่รอดปลอดภัยจากอันตรายภายนอกทว่าพวกเทวาปีกดำกลับร่วมมือกับพวกมารในการเข้าจู่โจมที่นี่ แม้สิ่งที่พิทักษ์เมืองนี้จะแข็งแกร่งสักเท่าไหร่ แต่การโดนโจมตีหักหาญมากแบบนั้นก็มิอาจต้านทานได้"ทุกคนคงเข้าใจแบบนั้น แต่มันไม่ใช่เลย..." แท้จริงแล้วสิ่งที่ทำให้เมืองนี้ล่มสลายคือเหล่าขุนนางภายในเมืองที่แอบมาปิดระบบป้องกัน ทำให้กองทัพมารอาจหาญบุกเข้ามาในเมืองนี้ได้ เหล่าทหารที่ถูกลวงว่าระบบป้องกันจะทำลายศัตรูต่างก็ต้องรับมืออย่างฉุกละหุก แม้จะสามารถต่อกรพวกมารได้ แต่หลังจากนั้นเหล่าเทวาปีกดำก็บุกเข้ามาอีกระลอก เมืองนี้จึงล่มสลายในที่สุด"ส่วนพวกขุนนางเลวนั่นรอดไปกันหมดเพราะได้รับการไว้ชีวิต"จากนั้นจึงหันมามองหญิงสาวที่เพิ่งมาใหม่"ใช่... ด้านในนี้คืออาวุธที่ทรงพลัง เหล่าเทวาปีกดำต่างก็ต้องการมัน พวกเรามีหน้าที่ปกป้องไม่ให้พวกนั้นขโมยอาวุธไปจากที่แห่งนี้ได้"
ยังไม่ทันจะพ้นค่ำคืนดี ก็มีแสงสว่างนับพันส่องประกายจากบนท้องฟ้า ก่อนที่สิ่งเหล่านั้นจะสว่างเจิดจ้า แล้วพุ่งเข้าใส่ตัวเมืองอย่างรุนแรงเปรี้ยง เพล๊ง!แสงสว่างเหล่านั้นกระทบเข้ากับบาเรียร์ของเมืองอย่างรุนแรง เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วทั้งเมืองในพริบตา ฝุ่นบนพื้นตลบขึ้นมาจนเกิดฝุ่นควันมากมาย"ชิ!" Shiv ร้องขึ้นแล้วพา Leel หลบออกมา ก่อนที่ผิวคริสตัลอันใหญ่จะแตกกระจายเป็นชิ้นๆแล้วพุ่งไปทั่วเมืองอีกครั้ง"การจู่โจมทุกเที่ยงคืน... ครั้งนี้ก็ยังป้องกันได้สินะ" เธอยิ้มอย่างอ่อนแรง กระนั้นก็มองเหล่าผลึกที่ตกไปทั่วเมืองที่คงต้องตามเก็บกันใหม่อีกครั้ง เพราะหากไม่ทำแล้วก็เท่ากับนับถอยหลังรอวันตายเท่านั้นแสงที่ถูกยิงออกมานั้นไม่แน่นอนว่ายิงจากแห่งใด แต่จะยิงทุกๆ เที่ยงคืนของทุกคืน เพื่อเป็นการหยั่งเชิงว่าเหล่าเทวาปีกดำจะเข้ามาได้เมื่อไหร่"หากพวกนั้นรู้ว่าบุกเข้ามาได้ ก็คงจะปรากฎตัวทันที นั่นเป็นสาเหตที่พวกเราต้องเฝ้ายามริมกำแพงเสมอ"Laetel ถอนหายใจ โชคดีที่บาเรียร์คุ้มครองเมืองในวันนี้ก็ยังทำงานได้อย่างดี ต้องขอบคุณ Shiv และคนงานของเธอที่ช่วยกันทำงานมาตลอด"เพราะแบบนี้นี่แหละที่นี่ถึงปลอดภัยที่สุด เพราะพวกนั้นไม่อยากจะบุกเข้ามาด้วยตัวเองสักเท่าไหร่นักหากไม่ถึงเวลา การอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดเช่นนี้และมีเวรยามเฝ้าตลอดอย่างที่ควรจะเป็นถึงได้ปลอดภัย" Lenne อธิบายเสริมให้พวกเขาฟังกันอีกรอบ การจู่โจมนั้นสะเทือนไปทั่ว แม้แต่คนที่อยู่ในห้องเก็บสมบัตินี้ก็ยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่ทำให้แผ่นดินไหวจนยืนได้ลำบาก
หากพูดถึงหนทางโต้กลับ ก็ใช่ว่าจะไม่มีเสียทีเดียว เพียงแค่..."ลงไปสำรวจในหลุมมาน่า ที่ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของคริสตัลที่ปกป้องเมือง หากไขปริศนาพลังอันมหาศาลนี้ได้ โอกาสโต้กลับย่อมมีแน่นอน" Shiv กล่าวแผนการที่จะทำให้พวกเราสามารถต่อกรกับอีกฝ่ายได้"แต่ข้าไม่เห็นด้วยกับท่านนะ ท่านแม่" Hares บุตรชายของ Shiv กล่าวห้าม แค่ลงไปสำรวจก็อันตรายแล้ว ไม่รู้จะเจอกับอะไรยังไงบ้าง แล้วจะได้อะไรกลับมาหรือสูญเสียอะไรไปรึเปล่าก็บอกไม่ได้ เรื่องนี้มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียมากเกินไปแม้จะเป็นแม่ลูกกัน แต่ความเห็นของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ลงรอย การประชุมถูกจัดขึ้นเพื่อพูดคุยและหาทางแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นๆ ซึ่งไม่ว่าจะทำอย่างไรพวกเขาก็ไม่อาจหาวิธีที่ดีกว่านี้ได้"คริสตัลเองก็ถูกสร้างขึ้นหลังจากมีการสำรวจในอดีต นั่นหมายความว่ามันเป็นไปได้ที่จะมีโอกาสสำเร็จในการสำรวจนี้ ในฐานะที่เป็นคนคอยคุมโปรเจคทั้งหมด เราจะนำทีมลงไปสำรวจด้วยตนเอง""งั้นข้าก็ขอกล่าวขัดท่านในฐานะหัวหน้าผู้คุ้มกันปราสาทและในฐานะบุตรชายเพียงคนเดียวของท่าน หากเกิดอะไรขึ้นกับตัวท่าน การสูญเสียนั้นไม่อาจประเมินค่าได้" คำพูดของ Hares นั้นมีทั้งหน้าที่และความห่วงใย ไม่ว่าเป็นใครก็คงเข้าใจได้ถึงกรณีนี้ กระนั้นก็ใช่ว่าพวกเขาจะมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้นัก สุดท้ายทางเลือกก็มาจบลงที่การโหวตเพื่อวัดจำนวนเสียงว่าควรจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ดี