นาตาชานั้นเก่งกล้าสามารถก็จริง แต่เธอยังไม่รู้ความลับบางอย่างที่จะดึงเอาพลังแห่งปาฏิหาริย์ออกมาใช้
เมื่อได้รู้ถึงข้อนั้นแล้วโยเซฟก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออีก ไม่สิ เธอไม่ได้ต้องการต่อสู้
ภาพอีกด้านคือโยเซฟเสือกดาบแทงเข้าใส่ตัวตลกร้อยหน้าที่กางผ้าคลุมพุ่งเข้าหาและปล่อยมีดโปร่งแสงออกมานับร้อยๆที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุม ทั้งสองค้างอยู่กลางอากาศในโลกที่ถูกย้อมด้วยสีขาวดำ มีเพียงนาตาชาและฟลากี้ที่คุยกันอยู่กลางโลกสีเทา
เวลาเดินต่อ โยเซฟแทงดาบเข้าไปติดใบหน้าตัวตลก เขาพลิกกายหลบคมมีดแล้วเหวี่ยงดาบฟาดคมมีดที่พุ่งมาจากรอบทิศ เจ้าตัวตลกเทเลพอร์ตไปโผล่ด้านหลังของเขา
และเวลาก็หยุดลงอีก
"ฉันรู้ว่าไม่มีพรวิเศษที่บันดาลได้ดังฝัน แต่ฉันอยากแก้ไขทุกอย่าง"
นาตาชามองดูจอมือถือของตัวเองที่มีรูปถ่ายสติ๊กเกอร์รุ่นพี่ดมิทรี จากนั้นก็กดปิดเครื่อง นั่งลงที่เดิม บรรยากาศเงียบเชียบไปครู่หนึ่งจนเครื่องแฟกซ์ทำลายความเงียบนั้น
"มันก็ตั้งนานแล้ว วันนั้นตรงกับวันพุธ เวลาใกล้เคียงกัน" นาตาชาเหยียดกายมองนาฬิกา 18.00 น.
"มีเด็กขี้แยถูกรังแกร้องห่มร้องไห้เดินเข้ามาทั้งที่เปียกน้ำไปหมดทั้งตัว"
"กับเด็กอีกคนที่เพิ่งปาดเหงื่อหลังทำความสะอาดห้องเสร็จ"
นาตาชาไปนั่งข้างโยเซฟแล้วเอียงตัวมองหน้าเขาแบบกระชั้นชิด ส่วนโยเซฟก็นั่งทำงานไปหน้าตาย จิบกาแฟ หยิบคุกกี้เข้าปาก
"แทนคำขอบคุณสำหรับทุกอย่าง และลาก่อน"
เวลาเดินต่อ โยเซฟเปิดหลุมเวลาหนีกรงเล็บของเจ้าตัวตลก ก่อนที่เวลาจะหยุดลงอีก
"หากมีพรสักข้อให้กับผู้ชนะฉันก็อยากจะขอให้มันจบลง ขอให้ทุกอย่างจบลง" นาตาชาเคยมีความคิดอย่างนั้น
แต่ทว่าเมื่อได้รู้ความจริงแล้วความคิดนั้นก็หยุดลง
ไม่ใช่เพราะการต่อสู้ไม่มีประโยชน์ แต่ปลายทางของการต่อสู้ไม่ได้เป็นดังที่นาตาชาต้องการ
"......."
"เธอก็เชื่อในปาฏิหาริย์ใช่ไหม"
เลือกเส้นทาง
- ฉันเชื่อ
- ฉันอยากมีความสุข
- อื่นๆ ระบุ (จะถูกตีความและจับโยง)