มาริยะตัดสินใจอุ้มหญิงเล็กขึ้นรถโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของเธอ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงบริษัทและตรงไปที่ห้องประชุม ซึ่งในขณะนั้น ชายน้อยกำลังโดนบรรดากรรมการผู้ถือหุ้นต้อนจนมุม แม้จะมีราตรีคอยช่วยอยู่ก็ตาม
"บอกสิว่าเธอจะแก้ปัญหาราคาสินค้าตกต่ำยังไง"
"โรงงานของเรามีปัญหาเรื่องการบาดเจ็บเนื่องจากการทำงาน เธอจะจัดการยังไง"
"ไตรมาสหน้าจะถึงกำหนดปรับดอกเบี้ยธนาคาร เราจะเจรจากับธนาคารเมื่อไหร่"
"คู่สัญญาของเราอยากปรับแก้สัญญา บอกมาสิว่าจะตกลงดีไหม"
"นี่เธอจบอะไรมากันแน่ ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะ"
"จะนั่งตรงนั้นก็คิดให้ดี ถ้าเธอพลาด มันเสียหายเป็นล้านนะ รับผิดชอบไหวไหม"
"กลับไปเถอะ ให้พวกเราจัดการกันเองดีกว่า"
"ใช่ กลับไปเถอะ"
ชายน้อยหน้าซีดปากสั่น พูดอะไรไม่ออก เขาหันมาเห็นมาริยะกับหญิงเล็กที่ประตู
"พี่หญิงเล็ก มาริยะ ช่วยชายน้อยด้วย"
เด็กหนุ่มเบะปากร้องขอความช่วยเหลือแบบหมดฟอร์ม เรียกเสียงหัวเราะแค่น ๆ จากรอบโต๊ะประชุม
"แกนี่มันไม่ได้เรื่องจริง ๆ " หญิงเล็กบ่นแล้วเดินนวยนาดเข้ามาในห้อง ทักบรรดาผู้เข้าร่วมประชุมเป็นรายหัวพร้อมกับจิกกัดเจ้าพวกนั้นทีละคน ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว เรื่องฉาวโฉ่ ไม่รู้เธอไปขุดมาจากไหน คนที่หัวเราะตอนคนอื่นโดนกัด ไม่นานก็ต้องนิ่งเงียบเมื่อถึงคิวตัว และสุดท้ายทั้งห้องก็ได้แต่นั่งกริบกันทั่วหน้า
ต่อจากนั้น หญิงเล็กก็ไล่เคลียร์หัวข้อปัญหาต่าง ๆ แน่นอนว่าเธอไม่ได้แก้ปัญหาเหล่านั้น แต่เธอยัดงานนั้นให้คนร่วมห้องประชุมที่เหมาะสมไปทำ
"มันหน้าที่ของพวกคุณ อย่ามาโยนให้พวกชั้นทำนะ ชั้นไม่ได้ใจดีแบบพี่ชายใหญ่ ใครคิดว่ายุ่งยากนักก็เชิญไปหางานใหม่ได้" หญิงเล็กชี้นิ้วสั่งพวกระดับผู้จัดการที่ร่วมประชุมจากนั้นหันกลับไปดูทางฝั่งผู้ถือหุ้น
"ส่วนพวกคุณ คิดว่าที่เครือของเรารุ่งเรืองมีผลประโยชน์ให้พวกคุณเก็บเกี่ยวถึงทุกวันนี้เพราะใครมิทราบ อย่างน้อยก็น่าจะรู้จักบุญคุณกันบ้าง อย่าลืมสิว่าใครคือผู้ถือหุ่นรายใหญ่ ถ้าไม่พอใจเราจะรับซื้อหุ้นคืนทั้งหมด" หญิงเล็กปากจัดมาก แต่ถึงจะมีคนไม่พอใจจนหน้าเขียว แต่ก็ไม่ยักมีใครลุกขึ้นโต้เธอสักคน
การประชุมจึงจบลงด้วยดี กรรมการและพนักงานทุกคนกลับไปแล้ว ในห้องประชุมเหลือแค่กลุ่มของชายน้อยและหญิงเล็ก
"สุดท้ายก็มีแต่พวกหน้าซ้ำ ๆ ชั้นโดนหลอกด้วยเรื่องเพ้อ ๆ ของนายได้ไงนะ แกก็เลิกขี้แยเสียทีสิ โตแล้วนะ ฮึ้ย หงุดหงิดจริง" หญิงเล็กวีนมาริยะแล้วหันไปแว้ดใส่ชายน้อยที่ซุกอกราตรีร้องไห้อยู่ จากนั้นก็เดินสะบัด ๆ ออกนอกห้องไป ท่าทางจะโกรธมาก สมควรต้องไปง้อ
"ฮือ ขอโทษคับ ผมมันไม่เอาไหน ผมไม่มีทางเป็นอย่างที่ชายใหญ่ได้ แฮ่ก ๆ" ชายน้อยร้องกระซิกแล้วเริ่มหอบทำให้ราตรีเริ่มลนลาน
มาริยะจะเอาไงดี
- ตามหญิงเล็กไป
- อยู่ปลอบชายน้อย
- พุ่งเข้าช่องแตก
ทะยานไปเลยตัวชั้น
บารอนน้อยพุ่งทะยานเข้าไปในช่องแตก เขาหนีรอดจากเพดานถล่มได้หวุดหวิด แต่รอบข้างก็มืดมาก คลำ ๆ ดูก็พบว่ามันเหมือนทางเดินแคบ ๆ ทีทอดยาวไปไหนไม่รู้ในความมืด
งั้นไม่เอาแบบแปลนกลับไปก็ได้... แต่เอาสมุดไปแทน!
เมื่อหมดแล้วก็ปีนลงไปสำรวจชั้นล่างของกระท่อมนี้แทน ใช้ตะเกียงช่วยส่อง ระวังเชือกสีดำด้วย เดี๋ยวสะดุดล้มตกลงไป!
อนงค์ได้รับสมุดโน้ตดนตรี "ม"
เธอเดินลงบันได มันพาเธอไปถึงห้องโถงกว้าง ๆ ที่กลางห้องมีโพรงขนาดใหญ่ กลางโพรงมีเสาขนาดใหญ่ที่พุ่งจากความมืดในโพรงขึ้นมายึดอยู่กับเพดานห้อง รอบ ๆ เสามีกลไกลักษณะคล้ายฟันเฟืองขนาดใหญ่เกาะกันรอบ และฟังเฟืองกลไกเหล่านี้เองที่บังโพรงเอาไว้ทำให้อนงค์เห็นสภาพในโพรงได้ไม่ค่อยถนัด อย่างไรก็ตาม ฟากหนึ่งของกลไกกลางห้องนี้ มีแท่นสูงประมาณเอวที่มีคันโยกติดตั้งไว้
มันจะยากอะไรกัน ห้องของส้มแป้นต้องมีมีดแน่ๆ เธอเป็นลูกสาวโจรนะ หาของมีคมมาตัดด้วยสองมือที่ไพร่หลังนี่แหละ ใช้วิชาลูกเสือช่วยด้วย
เขาพบมีดตัดกระดาษจริง ๆ ตอนนี้มือของเขาเป็นอิสระแล้ว พร้อม ๆ กับที่เกินฟ้าเริ่มกระดุกกระดิกทำท่าจะยันตัวลุกขึ้นมา