"ลองเปิดตู้เสื้อผ้าดูสิคะคุณย่า" ผึ้งกระซิบบอกคุณย่ามาลีและเอามือควานหาใต้หมอนเผื่อมีอะไรซ่อนอยู่ข้างใน "ไม่ก็ยิงทะลุประตูตู้ไปเลยค่ะ " ผึ้งเชียร์อีกแรง
ย่ามาลีเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า มันเปิดอยู่
(ยัยตัวแสบนั่น)
วชิระตัดสินใจแอบหลังประตูตู้ที่เข้ามา ถ้าใครเข้ามาเขาจะเอาของใกล้มือฟาดให้สลบซะเลย...
วชิระหลบหลังประตู เขาเห็นเจ้าย่าเดินผ่านเข้ามา เลยฟาดตุ๊บเข้าท้ายทอย
เจ้าย่ามาลีล้มหน้าคว่ำไป เป็นตายไม่รู้
"!!" อนงค์ตกใจกับเสียงแปดหลอดเอามากๆ แต่เธอก็ใช้จังหวะนี้ที่ทั้งสองกำลังวุ่นๆงงๆขยับตัวอ้อมหนีอย่างเงียบๆไปหากระท่อมแถวๆที่ไม่มีคน หาทางเข้าดู
อนงค์คลานต่ำไปที่ประตูกระท่อม เธอพบว่ามันถูกล่ามด้วยโซ่และล็อคไว้ด้วยแม่กุญแจตัวใหญ่
โรสถือโอกาสอีกฝ่ายสตั๊นแย่งปืนมาเก็บไว้เอง
"เธอใช่ไหมต้นตอของเสียงกรี๊ดเมื่อก่อนหน้านี้ เธอถือปืนขู่คนอื่นให้ตกใจไปทั่ว บอกมานะว่าเธอทำร้ายใครไปบ้างแล้ว ไม่วั้นฉันจะฟ้องคุณย่า ฟ้องคุณชายใหญ่ด้วย ชั้นสนิทกับคุณชายใหญ่" เธอยังคงวีนใส่ด้วยความหงุดหงิด อีกทั้งขู่จะฟ้อง หึๆ
โรสฉวยปืนมาได้ แจ๋วตกใจหน้าซีด
"แจ๋วแค่ทำตามคำสั่งเจ้าย่าค่ะ แจ๋วยังไม่ได้ทำร้ายใคร"
เธอตอบสั้น ๆ น้ำตาร่วงเผาะแผะ
ถือโอกาสที่มีเสียงดังวุ่นวาย กระซิบกระซาบกับอาตี๋
เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่รึ ฉันเป็นห่วงนายที่เดินดุ่มๆคนเดียวในป่า
เมื่อกี้ก็จะช่วยพาหนีนะ นายเข้ามาทำอะไรที่นี่หรือ บอกเรามาเถอะ
อาตี๋นิ่งคิดนึงนึงก็ถอนเข่าออกปล่อยบารอนน้อยเป็นอิสระ
"จริง ๆ แล้วผมชื่อคมสัน ผมคือร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา มีภารกิจลับบางอย่างที่ผมคงยังบอกไม่ได้ ผมได้ยินเสียงแบบนี้หลายคืนแล้วแต่เนื่องจากไม่อาจเปิดเผยตัวเลยได้แต่ซุ่มอยู่ในป่านี่ ไม่นึกว่าจะเจอกับคุณ ยังไงช่วยเก็บเรื่องคืนนี้เป็นความลับด้วยนะครับ" อาตี๋พูดเคร่งขรึม สลัดคราบอาตี๋หมี่เกี๊ยวไปเลย
"อ่ะ ค่ะ ..."
รินได้ยินเสียงนายแสง เลยสงบสติอารมณ์ซักครู่ แต่ยังไม่ลดมีดลง
"คือ ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องข้างนอก ... มัน ... เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?"
เธอถามนายแสง
"ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีใครตาย มันเป็นเรื่องของพวกเจ้านาย บ่าวอย่างชั้นยุ่งไม่ได้ เธอเองก้ไปนอนเถอะ" นายแสงบ่ายเบี่ยง