* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย  (Read 2779 times)

0 Members and 3 Guests are viewing this topic.

ปฐมบทแห่งการผจญภัย

Theme ผจญภัย แฟนตาซี
Max player  รับสมัครอีก  4 คน 
Ending points     5 คะแนน
Time Limit   24ชั่วโมง
Story Limit  
    - จำนวนบรรทัดขั้นต่ำ/สูงสุด  10/20  (ไม่นับรวมรูปภาพ)
    - เรตของเรื่อง ไม่จำกัด
    - เป็นการเล่นแบบมีรางวัล
* เป็นเกมตัวอย่าง ผู้สมัครและเล่นจนจบจะได้รับรางวัลฟรี โดยไม่ต้องจ่าย role token ก่อน *

Prologue บทนำ
Spoiler for Hiden:

แซนเดรียเป็นหมู่บ้านเล็กๆในทะเลทรายสุดขอบชายแดนของจักวรรดิ
ชาวบ้านที่นี่มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย อาศัยน้ำจากบ่อน้ำเล็กๆในหมู่บ้านหล่อเลี้ยงชีวิตด้วยการปศุสัตว์
โชคดีที่หมู่บ้านตั้งอยู่บนเส้นทางการค้ากับชนเผ่าทะเลทราย จึงเป็นจุดพักแห่งหนึ่งของกองคาราวาน
ทำให้ชาวบ้านสามารถใช้การค้าขายเสบียงอาหารและน้ำให้กับกองคาราวานเป็นแหล่งรายได้อีกทางหนึ่ง
พวกเขาไม่คิดเลยว่าวันดีคืนดีกองทหารของชนเผ่าทะเลทรายจะบุกเข้ามายังหมู่บ้านแห่งนี้
กองร้อยของชนเผ่าทะเลทรายยึดครองหมู่บ้านที่มีเพียงหน่วยรักษาการณ์สิบกว่าคนได้อย่างง่ายดาย
หัวหน้าหมู่บ้านและบุคคลสำคัญถูกจับกุมตัวเอาไว้ จากนั้นการตรวจค้นหมู่บ้านอย่างละเอียดก็เริ่มขึ้น
ชาวบ้านที่ไร้ทางสู้ได้แต่มองดูชนเผ่าทะเลทรายรื้อค้นและยึดสิ่งของมีค่าตามอำเภอใจ
พวกเขาได้แต่หวังว่าจะมีใครสักคนลุกขึ้นมายืนหยัดต่อสู้หรือหาวิธีนำพาพวกเขาผ่านวิกฤติการณ์ครั้งนี้
ในห้วงแห่งความสิ้นหวังนั้นเอง ปฐมบทแห่งการผจญภัย ก็ได้เริ่มขึ้น....

บทที่ 1
Spoiler for Hiden:
"จับมาได้หมดแล้วครับ"   ทหารชนเผ่าทะเลทรายรายงานต่อชายในชุดแปลกประหลาดที่ดูท่าทางจะเป็นผู้นำ

"  หึ ๆ ดี..."  เขามองชาวบ้านที่ถูกจับมาและแยกเป็นสองกลุ่มอย่างพอใจ  กลุ่มหนึ่งคือหัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านที่เป็นผู้ใหญ่   ส่วนอีกกลุ่มคือเด็ก ๆ  ทั้งสองกลุ่มตัวสั่นงันงกเพราะไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ ชนเผ่าทะเลทรายจึงโจมตีหมู่บ้านของพวกเขา

"ขออธิบายครั้งเดียวนะ ชั้นชื่อ Wendel  เป็นผู้นำของเจ้าพวกนี้ และต่อไปนี้ก็จะเป็นผู้นำของพวกเจ้าด้วย  สำหรับผู้ใหญ่ทุกคน พวกเจ้าจะได้เป็นแรงงานสำคัญ   ส่วนลูก ๆ ของพวกเจ้า  ข้าจะมอบอำนาจเหนือมนุษย์ให้พวกเขา เพื่อให้พวกเขาเป็นกองทหารพิเศษของข้า  อำนาจแบบไหนเหรอ ก็เช่นแบบนี้ไงล่ะ"  Wendel หยิบหอกข้างตัวแล้วซัดด้วยกำลังแรง  หอกพุ่งเป็นวงโค้งในอากาศก่อนจะปักลงบนยอดของเนินทรายที่อยู่ไกลกว่า 100 เมตร

"อ๊ากกก"  ส่วนที่ควรเป็นยอดของเนินทรายไหวเยือกแล้วร่างหนึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ทรายก็กลิ้งไถลลงมาทั้ง ๆ ที่ยังมีหอกปักคา  ทหารชนเผ่าทะเลทรายที่อยู่ใกล้ต่างกรูกันเข้าไปหา  ร่างนั้นพยายามลุกขึ้นชักดาบสู้ทั้งที่ยังมีหอกปักคา  ชั่วขณะหนึ่งที่เหล่าผู้รุกรานต้องชะงักด้วยอานุภาพดาบที่เกรี้ยวกราดของเขา  ทว่าเลือดที่ไหลออกจากร่างดูดพลังที่มีอยู่ออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นชายผู้กล้าก็ล้มฟุบลงไปนอนหายใจรวยริน  ดาบคู่มือถูกเตะกระเด็นไปไกล

"ทนดี ถ้ายังไม่ตายก็เก็บมันกลับไปด้วย"   Wendel ยิ้มมุมปาก  แล้วหันมาหากลุ่มเชลยของเขาอีกครั้ง ตอนนี้หลายคนแสดงสีหน้าที่สิ้นหวังกว่าเดิม  วีรบุรุษผู้กล้าของหมู่บ้าน ที่พวกเขาคิดว่าอาจจะช่วยพวกเขาได้ กลับโดนจัดการโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะแลกชีวิตกับทหารเลวสักคน

"ลูก ๆ ของพวกเจ้าจะได้พลังแบบเดียวกับข้า เพียงแต่อาจจะเจ็บปวดบ้าง แต่นั่นแหละนะ ชีวิตมันก็ต้องเจ็บปวดอยู่แล้ว   เอาล่ะ พาพวกมันกลับไป  แล้วทำลายหมู่บ้านนี้ซะ  อย่าให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่"  เขาสั่งก่อนจะนำกองทหารเคลื่อนที่กลับไปในทะเลทราย  ณ ที่ซึ่งสิ่งแปลกปลอมหนึ่งโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวดิน  สิ่งแปลกปลอมซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งซึ่งถูกสร้างด้วยอารยธรรมของยุคสมัยนี้


Spoiler for Hiden:

บทที่ 2
Spoiler for Hiden:
 
ชาวบ้านผู้รอดชีวิตถูกต้อนเข้าไปในวัตถุประหลาดนั่น ไม่มีใครกล้าต่อต้าน ชาวบ้านตัวสั่นงันงกเพราะความกลัว นี่พวกเขาจะถูกจับไปไหนกัน
"ไม่ ข้าไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น ข้ายอมตายที่นี่ดีกว่า" พ่อค้าใจกล้าตะโกนขึ้น เขาฝ่าวงล้อมพุ่งเข้าหา Wendel อย่างไม่กลัวตาย
"รนหาที่เองนะ" Wendel ถอนหายใจ เขากระดิกนิ้วเล็กน้อย หอกคู่ใจก็ลอยหวือมาหา ก่อนจะพุ่งทะลุร่างชายผู้โชคร้ายจนเห็นเป็นรูกว้างน่าสยดสยอง เด็กๆกลัวจนไม่กล้าร้องไห้เสียงดัง
"ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว ไม่พาพวกแกไปดีกว่า" Wendel ว่า เขาสั่งให้ทหารพาพวกผู้ใหญ่ไปขังในหมู่บ้านแล้วพาเด็กๆขึ้นไปบนยาน
วัตถุประหลาดคือพาหนะที่สามารถลอยขึ้นฟ้าได้ดั่งเรือบิน มันลอยสูงขึ้นก่อนจะนิ่งค้างกลางอากาศ และจะปลดปล่อยอาณุภาพเป็นลำแสงสีขาวเผาผลาญหมู่บ้านทั้งหมดให้เผาไหม้สลายเป็นจุลไปในพริบตา ไม่มีผู้กล้ามาช่วยเหลือ ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเหลือรอด
เด็กๆ ทั้งหมดถูกขัง และบังคับให้สวมหมวกใบใหญ่ครอบศีรษะไว้พร้อมให้ดูภาพฉายเกี่ยวกับการนองเลือดซ้ำไปซ้ำมาจนสตีลืมเลือนตัวตนที่แท้จริง ภาพความทรงจำบิดเบือนจนเข้าใจว่าตนเป็นทหารของ Wendel ที่เข้าการฝึกอบรมในการต่อสู้กับมนุษย์ผู้ชั่วร้าย พวกเด็กๆต้องดื่มยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง บางคนกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด บางคนมีพลังพิเศษกลายเป็นผู้มีพลังจิต บางคนมีเวทมนตร์ฝืนกฏธรรมชาติได้
Wendel มองกองทัพน้อย ๆ ของเขาอย่างพึงพอใจ เท่านี้แผนการต่อไปจะได้เริ่มดำเนินการเสียที เขาส่งเด็กกลายพันธุ์ไปตามดินแดนต่างๆ แทรกซึมเข้าไปสังหารบุคคลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ ขุนนาง เจ้าเมือง อัศวิน หัวหน้าเผ่า และใช้ความน่าพรั่นพรึ่งของกองทัพกลายพันธุ์กดดันมนุษย์ที่เหลือให้ยอมจำนน
Spoiler for Hiden:
"ใครขัดขืน ตาย!!!"

อีกด้านหนึ่ง  ณ เมืองแห่งหนึ่งทางตอนใต้ เด็กหญิงในชุดสีโลหิตผู้เคลื่อนที่ราวกับเต้นรำไปตามโถงทางเดินในปราสาท
Spoiler for Hiden:
เดินมาจนหยุดอยู่หน้าประตูบานสวยที่มีการป้องกันแน่นหนา ทว่าเพียงเธอผลักเบาๆ ประตูเหล็กก็ล้มลงอย่างง่ายดาย ภายในห้องนั้นมีพระราชากับองค์ราชินี พร้อมองครักษ์เอกนับสิบที่กรูเข้ามาขัดขวาง เธอหมุนตัวหลบ ก้าวย่างอย่างมีจังหวะขณะใช้ฝ่ามือเล็กๆทะลวงอกทหารในชุดเกราะหนาคนแล้วคนเล่า สาดสีแดงเปรอะเปื้อนทั่วห้อง
"มานาห์ นั่นเจ้าใช่ไหม" มนุษย์ในชุดเกราะผู้หนึ่งเอ่ยกับเธอ เธอไม่รู้จักว่ามันเป็นใครและเรียกชื่อนั้นกับเธอทำไม แต่มันกลับคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดจนฝีเท้าเคลื่อนผิดจังหวะ
"เจ้ารู้จักกับเด็กปีศาจนี่ด้วยเรอะ" พระราชาถาม แต่ราชินีกลับตะโกนแทรก
" เอ้า ตอนนี้มันชะงักแล้ว รีบฆ่ามันเร็วเข้า"
แม้จะกลัวจนตัวสั่น แต่หน้าที่องครักษ์คือปกป้องนายเหนือหัว พวกเขากรูกันเข้าไปโดยไม่สนเสียงห้ามของชายหนุ่ม เด็กหญิงเอี้ยวตัวหลบดาบแรกด้วยการหมุนตัวปลายเท้า สองมือกวาดผ่านลำคออีกฝ่ายตัดเส้นเลือดใหญ่จนเลือดพุ่งเป็นน้ำพุ ก่อนที่เธอจะกระโจนใส่คนที่เหลือและสังหารโหดอย่างรวดเร็ว
"ที่เจ้าหายสาปสูญไปเมื่อปีก่อน ข้าคิดว่าเจ้าตายแล้ว ดีใจจังที่ยังไม่ชี..." นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนสิ้นลมของมนุษย์ผู้หนึ่งที่เด็กหญิงไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ
มานาห์ มันช่างสะกิดใจเด็กหญิงเหลือเกิน
เธอกลับไปที่ยานด้วยความรู้สึกต่างจากเดิม เธอเริ่มมี "ความรู้สึก" และความทรงจำบางอย่างเปิดเผยออกมาจากส่วนลึกของจิตใจที่ถูกปิดล็อค ทำให้เธอรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นใคร เธอกำลังทำอะไรอยู่ ถึงเวลาแล้วที่เธอจะช่วยเพื่อนๆ และจัดการ Wendel ซะ

บทที่ 3

Spoiler for Hiden:
มานาห์คือชื่อของเธอสินะ...เด็กหญิงสรุปกับตัวเองในใจ
เธอพยายามไม่นึกคาดเดาว่าชายในชุดเกราะที่ตายไปมีความสัมพันธ์กับเธออย่างไร เธอกลัวที่จะรู้ความจริงนั้น
เป้าหมายของเธอในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว....กำจัดต้นตอแห่งความชั่วร้าย Wendel ให้สิ้นซาก
"ทำได้ดีนี่ #990000" เสียงทักทายทำให้เด็กหญิงต้องหันไปมอง ผู้มาคือเด็กชายในชุดและหน้ากากสีดำที่บินลงมาจากท้องฟ้า
Spoiler for Hiden:
"#000000..." เด็กหญิงพยายามทักตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
Wendel เรียกเหล่าทหารของเขาว่าเหล่า Children of Revolution และจัดแบ่งแต่ละคนด้วยหมายเลขที่หมายถึงสีต่างๆ
หมายเลข #000000 Pure black เป็นผู้ที่แข็งแกร่งและภักดีต่อ Wendel มากที่สุด ทำหน้าที่เป็นผู้นำสารของเขา
ไม่มีอะไรต้องสื่อสารมากนัก ในเมื่อราชาและประชาชนของอาณาจักรนี้ล้วนแต่ยอมจำนนต่อ Wendel โดยไม่มีเงื่อนไข
#000000 บอกว่าภารกิจของเธอที่อาณาจักรนี้จบลงแล้ว อีกสักครู่ เขาจะพาเธอและตัวประกันกลับไปที่ยานโนอาห์

เด็กชายชุดดำเดินไปท่ามกลางศพของพวกทหารในชุดเกราะที่มานาห์สังหาร ก่อนจะปล่อยหมอกสีดำออกมาครอบคลุมร่างเหล่านั้น
ร่างไร้ชีวิตลุกขึ้นมาราวกับตุ๊กตาที่ถูกเชิด ก่อนจะเดินมาเรียงแถวที่สองฟากข้างของท้องพระโรง
เด็กชายหยิบกระจกสีดำออกมาตั้งบนบัลลังค์ แล้วคุกเข่าลง ภาพของเวนเดลปรากฏขึ้นในกระจกนั้น เด็กหญิงรีบคุกเข่าลงตามสัญชาติญาณเช่นกัน
"พวกเจ้าคิดถูกแล้วที่ยอมจำนน ผู้ที่ขัดขืนจะมีชะตากรรมอย่างไรคงรู้แล้วสินะ ต่อไปนี้จงคอยฟังคำสั่งของข้าให้ดี" เวนเดลประกาศ ตามด้วยการกล่าว
สุนทรพจน์เกี่ยวกับการปกครองโลกของเขา มานาห์สังเกตว่าคนที่ฟังสุนทรพจน์หลายคนเริ่มมีนัยน์ตาเหม่อลอยราวกับถูกสะกดจิต
และเริ่มนึกออกถึงสิ่งที่เวนเดลทำกับพวกเธอ โชคดีที่ดูเหมือนว่าวิธีเดิมๆจะใช้ไม่ได้ผลกับเธออีก

ระหว่างที่ Pure Black พาเธอและพวกเชื้อพระวงศ์บินไปบนหมอกสีดำ เพื่อกลับไปยานของเวนเดล
มานาห์พยายามคิดวางแผนหาวิธีที่จะกำจัดเวนเดล สุดท้ายก็มีเพียงวิธีเดียวที่นึกออก
"#000000 ข้าต้องการพบท่านเวนเดล" มานาห์บอกกับเด็กชายชุดดำหลังจากส่งตัวประกันทั้งหลายเข้าขังในห้องพัก
"....."

บทที่ 4

Spoiler for Hiden:
"ข้าต้องการพบท่านเวนเดล" มานาห์บอกเสียงนิ่งพลางลอบดูท่าทีอีกอีกฝ่าย
 #000000 จ้องหน้ามานาห์ด้วยแววตาไร้อารมณ์ เด็กหญิงรู้สึกหวั่นกลัวสายตานั่น ราวกับว่าความลับที่เธอปกปิดจะถูกความเยือกเย็นนั่นค้นพบ
"หากเจ้าคิดจะวางแผนอะไรบ้าๆ ให้ล้มเลิกซะ" เขาเอ่ยเสียงเรียบ
มานาห์สะดุ้ง
"เจ้าฆ่านายท่าน Wendel ไม่ได้หรอก"  #000000 เอ่ยต่อ
มานาห์ตกใจ ทำไมคนตรงหน้าถึงล่วงรู้ความคิดเธอ
Spoiler for Hiden:
"ข้ารู้ เพราะแววตาของเจ้าไม่เหมือนผู้ที่ตกอยู่ในอำนาจมนต์สะกด" เขาบอก "แล้วข้าก็เคยคิดจะทำเหมือนเจ้าด้วย"
"คิดทำเหมือนข้า? ความทรงจำเจ้ากลับมาแล้วรึ แล้วทำไมถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ ทำไมถึงยังรับใช้ Wendel อยู่" มานาห์ไม่เข้าใจ
"..." อีกฝ่ายเงียบไม่ยอมตอบ แล้วเดินหนีไป
"ความทรงจำเจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" มานาห์ตะโกนถามไล่หลัง
#000000 ชะงักฝีเท้าแล้วตอบโดยไม่หันกลับมา "ข้าไม่เคยถูกครอบงำตั้งแต่แรกแล้ว"
มานาห์มองชายชุดดำลอยหายไปจนลับสายตา เธอไม่เข้าใจ ทำไม #000000 ถึงยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ มีเหตุผลอะไรถึงยอมรับใช้ Wendel ต่อ ที่เขาบอกว่าเคยคิดสังหารคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และหากเขาทำไม่สำเร็จ เธอเองก็ต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้

ในตอนนั้นเองมานาห์จึงล้มเลิกการลอบสังหารไปก่อน เธอฝืนใช้ชีวิตล่าสังหารอย่างฝืนใจพลางคิดหาวิธีฟื้นความทรงจำตัวเองขณะมองหาโอกาสสังหาร Wendel ด้วย เธอไม่ยอมหนี เพราะการหนีทำให้เธอไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ Wendel อีกแล้ว ส่วน #000000 เองไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอเข้าไปสนทนาด้วยแม้แต่น้อย ราวกับถูกหลบหน้าทุกครา แต่เธอก็ไม่เข้าใจในตัว #000000 เพราะหลายครั้งเธอเกือบพลาดเผยพิรุธออกไปแต่เขามักปรากฏตัวมาช่วยกลบเกลื่อน เรื่องที่เธอหลุดจากมนต์สะกดเขาก็ไม่ได้แพร่งพรายหรือไม่ได้บอกแก่ Wendel ทั้งที่เป็นคนใกล้ชิดที่สุด

วันหนึ่ง มานาห์ได้จังหวะลอบสะกดรอย #000000 ทำให้เธอล่วงรู้ความจริงที่ว่า  #000000 มีน้องสาว น้องสาวของเขาคือหนึ่งในความล้มเหลวของการกลายพันธุ์ น้องสาวของ #000000 กลายเป็นมนุษย์ครึ่งปลาที่ไม่สามารถหายใจในน้ำได้ดังนั้นจึงไม่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำ และไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมนุษย์ได้ น้องสาวจะตายหากไม่ได้รับการดูแลจากเขา
Spoiler for Hiden:
"เจ้ารู้ในเรื่องที่ไม่สมควรรู้" #000000 เอ่ยเสียงเหี้ยมพลางย่างสามขุมเข้ามาหาหมายปิดปากเธอเสีย
"เพราะอย่างนี้ใช่ไหม เจ้าถึงยอมรับใช้ Wendel เจ้าไม่สามารถหนีไปโดยทิ้งน้องสาวไว้ที่นี่ได้ เจ้าไม่ใช่คนใจร้าย แต่เจ้าทำไปเพราะความจำเป็น" มานาห์พูดแทงใจ #000000 เข้าอย่างจัง เขาได้แต่ยืนนิ่ง ก้มหน้าไม่แสดงอารมณ์ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพึมพำว่า
"ไม่มีใครช่วยน้องข้าได้นอกจาก Wendel การยอมรับใช้เขาเป็นหนทางที่ดีที่สุด"
มานาห์สังเกตว่าสรรพนามที่ใช้เรียก Wendel เริ่มเปลี่ยนไป
"ไม่ใช่ ทุกปัญหาล้วนมีทางแก้ ข้าจะช่วยน้องสาวเจ้าเอง ข้าชื่อมานาห์ ถึงแม้ไม่รู้ว่าใช่ชื่อข้าจริง ๆ หรือเปล่า แล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร" มานาห์แนะนำตัวหวังทดสอบว่าอีกฝ่ายยอมเปิดใจให้เธอแล้วจริงๆ หรือยัง หากเขายอมบอก เท่ากับว่าเธอได้พรรคพวกเพิ่มถึงสองคน
"ข้า..."

บทที่ 5

Spoiler for Hiden:
"ข้าบอกแล้วว่าไม่มีใครช่วยได้นอกจากนายท่าน Wendel" น้ำเสียงของ #000000 กลับมาเยือกเย็นดังเดิม

ในตอนนั้นเองประตูเลื่อนเปิดออกพร้อมกับมี Children of Revolution สี่คนเข้ามาในห้องด้วยแววตามุ่งร้ายต่อมานาห์ ตามด้วย...
Spoiler for Hiden:
"ในความสมบูรณ์แบบย่อมต้องมีจุดผิดพลาดเล็กน้อยเสมอ การครอบงำจิตใจต้องมีสักวันที่มนต์สะกดคลายออก อันที่จริงคงไม่มีเด็กคนไหนอยากหลุดออกมาจากอำนาจสะกดเพื่อมารับรู้ความจริงว่าตนเป็นผู้สังหารเผ่าพันธ์ตัวเองหรอกมั้ง หึหึ" Wendel เอ่ยพลางแย้มยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่มานาห์รังเกียจและกดดันจนร่างกายเธอสั่นสะท้าน

จากสถานการณ์นี้ทำให้เธอรู้ว่า #000000 ไม่รับความช่วยเหลือ เขารายงาน Wendel สถานะของมานาห์ถูกเปิดโปง เด็กๆ คนอื่นล้อมทางหนีเพียงหนึ่งเดียวของห้องนี้ไว้ มานาห์ตัดสินใจพุ่งเข้าโจมตี Wendel ด้วยโอกาสสุดท้ายอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ Children คนอื่นๆ เข้ามาขวางไว้ แต่เธอก้าวเท้า ย่อ แล้วหมุนตัวหลบได้อย่างสวยงาม รอดช่องหว่างระหว่างคู่ต่อสู้เข้าถึงตัว Wendel อย่างรวดเร็ว มือขวาพุ่งไปข้างหน้าหมายทะลวงอกเป้าหมาย ทว่าในตอนนั้นเองร่างกายของเธอกลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ดังใจ หมอกดำปริศนาบีบรัดร่างกายเธอ เธอรู้สึกราวกับกระดูกทั่วร่างถูกบด เธอหายใจไม่ออก ไม่สามารถดิ้นรนขัดขืนได้ พลังอะไรกัน

"ทำดีมาก #000000 ฆ่ามันซะ" Wendel สั่ง

ควันดำยกร่างเธอขึ้นกลางอากาศ มานาห์ตะเกียกตะกายอ้าปากหาอากาศหายใจ เธอกำลังจะตาย ควันดำจับแขนขาเธอบิดกลางอากาศ เลือดสีแดงสาดกระจาย อวัยวะภายในหลุดกองลงกับพื้นน่าสยดสยอง
มานาห์เสียชีวิต

"โหดร้ายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ น่าเสียดายถ้าเจ้าลงมือไม่หนัก ข้าจะเก็บร่างยัยหนูนี่ไปดัดแปลงเสียหน่อย ทักษะระบำโลหิตค่อนข้างน่าสนใจแท้ๆ" Wendel ทำหน้าเสียดาย

"ขออภัยนายท่าน ข้าไม่อาจเก็บคนทรยศให้อยู่รกหูรกตาได้" #000000 เอ่ยอย่างเย็นชาพลางมองซากศพด้วยแววตาไร้ชีวิต

"ใช่ นี่แหละคือจุดจบของผู้ทรยศ" Wendel เอ่ยเสียงเหี้ยม เขาเหลือบมอง #000000 ราวกับต้องการสื่อความนัยบางอย่าง
.
...
.....
"!!!" มานาห์ฟื้นตื่นขึ้นบนฟูกนอนเก่าๆ ภายในห้องฝุ่นจับแห่งหนึ่ง เหตุการณ์เมื่อครู่ยังติดอยู่ในความทรงจำ เธอยังไม่ตาย เธอสับสนงุนงงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ลุกขึ้นนั่งก็ยังไม่ค่อยไหวเพราะรู้สึกปวดเมื่อยร่างกายไปหมด ไม่รู้ว่าเธอหลับมากี่ชั่วโมงแล้ว แสงสีแดงของพระอาทิตย์ยามเย็นฉาบทุกอย่างให้เป็นสีเดียวกับชุดของเธอ

หรือว่านี่คือความฝัน หรือว่าเป็นสวรรค์กันแน่

ความสงสัยของเธอถูกไขกระจ่างชัดเมื่อเห็นควันสีดำจับตัวหนาเป็นตัวอักษรลอยอยู่กลางอากาศ มันเรียงไว้ว่า
"หนีไปซะ เจ้าเป็นอิสระแล้ว"

เมื่ออ่านจบควันก็เลือนหายไปราวกับภาพลวงตา #000000 ตบตาทุกคนว่าเธอตายแล้วเพื่อที่จะได้ไม่ถูกตามล่า เขาไม่ได้หักหลังเธอ เขาช่วยเธอไว้ต่างหาก แทนที่มานาห์จะรู้สึกดีใจ แต่เธอกลับรู้สึกโกรธ เธอโมโหที่ถูกกันให้ออกมาราวกับคนไร้ค่า หนีอะไรกัน เธอจะไม่หนี เธอจะหาทางทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของ Wendel ให้ได้!!!!

บทที่ 6

Spoiler for Hiden:
Spoiler for Hiden:
เด็กชายในชุดสีเขียววิ่งไปตามยอดไม้อย่างแผ่วเบาราวกับเดินบนพื้นราบ
หากมีใครสักคนมองขึ้นไปก็จะเห็นว่า กิ่งไม้ต่างหากที่คอยโน้มเอนเข้ามารองรับทุกอย่างก้าวของเขาอย่างพอดีที่สุด
เด็กชายหยุดลงบนยอดต้นสนโบราณที่ใจกลางของป่า เขาหลับตาลงและรู้สึกได้ถึงสัมผัสของต้นไม้ใบหญ้าทุกต้นโดยรอบ
พวกกองกำลังกบฏคิดผิดแล้วที่สร้างฐานลับขึ้นในสถานที่แบบนี้ ด้วยพลังของเขาการค้นหาและทำลายผู้ต่อต้านกลุ่มนี้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ
ถึงแม้ว่าโลกนี้จะยอมจำนนต่อท่านเวนเดลมาเกือบปีแล้ว แต่อยู่ดีๆกลับมีกลุ่มต่อต้านที่ชื่อว่า "หัตถ์สีชาด" เกิดขึ้น
ทั้งๆที่คนอื่นๆในโลกล้วนศรัทธาในตัวท่านเวนเดลอย่างไม่มีข้อแม้ แต่คนกลุ่มนี้กลับเลือกที่จะสู้
หมู่บ้านและเมืองหลายแห่งเอาใจออกห่างจากการปกครองของท่านเวนเดลหลังจากถูกกลุ่มต่อต้านยึดครอง ทำให้ท่านเวนเดลไม่พอใจอย่างยิ่ง
เขาได้รับคำสั่งให้ค้นหาที่ตั้งของกองกำลังนี้ เพื่อที่จะยกกำลังมาปราบปรามต่อไป แต่ไม่หรอก ถ้าเป็นที่นี่พลังของเขาคนเดียวก็เพียงพอแล้ว
เด็กชายสัมผัสได้ถึงสายลับของกลุ่มต่อต้านที่ถูกเขาสะกดรอยมาตั้งแต่หมู่บ้านใกล้ๆ ถ้ำที่สายลับเข้าไปมีคนอื่นๆอยู่อีกสิบกว่าคน
ที่นั่นน่าจะเป็นฐานลับของพวกหัตถ์สีชาดแน่นอน เด็กชายคิดพลางวิ่งไปตามเส้นทางบนยอดไม้ที่เขาสร้างขึ้น
"จงออกมาซะ เจ้าพวกกบฏ ในนามแห่งท่านเวนเดล หากยอมจำนนข้าจะยกเว้นโทษประหารให้ก็ได้" เด็กชายประกาศเมื่อมาถึงหน้าถ้ำ
ทหารของพวกกบฏกรูกันออกมาจากถ้ำพุ่งเข้าหาเด็กชายพร้อมอาวุธครบมือ ทว่าก่อนที่จะเข้าประชิดตัวเด็กชาย
ทหารเหล่านั้นก็ถูกกิ่งไม้และเถาวัลย์โดยรอบพุ่งเข้ามารัดพันตามตัวจนขยับไม่ได้ ทุกอย่าเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้ เด็กชายคิด
"ใครเป็นหัวหน้าของพวกเจ้า ?" สารภาพมาซะ เด็กหนุ่มบังคับให้กิ่งไม้รัดแน่นขึ้น เมื่อไม่ได้ยินคำตอบ
"ฉันเอง" เสียงของเด็กหญิงดังขึ้นจากภายในถ้ำ เด็กหนุ่มหันไปมอง บังคับเถาวัลย์ที่เหลืออยู่ไปดักรอทางปากถ้ำ
"#228B22 สินะ แต่ฉันชอบคำว่า Forest Green มากกว่านะ" เด็กหญิงในชุดแดงปรากฏตัวขึ้น
"#990000 ? เธอน่าจะตายไปแล้วนี่" เด็กชายตะลึงจนชะงักไปชั่วครู่ นั่นนานพอที่เด็กหญิงจะยกมือเป็นสัญญาณ
ทันใดนั้นทหารที่อยู่ใกล้กับเด็กชายที่สุดก็เบ่งพลังจนเถาวัลย์ขาดกระจาย ก่อนจะทุบเข้าไปที่ท้ายทอยของเด็กชายอย่างแรงจนเขาสลบไป
"ทำได้ดีมาก ไบรน์ " เด็กหญิงขอบคุณทหารก่อนจะเดินเข้าไปพูดกับเด็กชายที่สลบอยู่
"ขอโทษนะForest Green พลังในการสืบเสาะของนายเป็นอันตรายต่อพวกเรา จึงต้องวางแผนให้นายมาติดกับ"
"แต่ดีใจเถอะ นายจะเป็น Children of Revolution คนแรกที่ได้ดื่มเลือดของฉัน หวังว่านายจะหลุดพ้นเหมือนกับคนอื่นๆนะ"
มานาห์วางนิ้วชี้ที่ริมฝีปากของเด็กชาย บังคับให้เลือดของเธอหยดลงไปในปากของเขา
"มันจะได้ผลเหมือนกับพวกเราไหมครับ ท่านมานาห์" ทหารที่ชื่อไบรน์ถามเด็กหญิง ในขณะที่ทหารคนอื่นๆจับเด็กชายมัดแล้วอุ้มเข้าไปในถ้ำ
มานาห์มองเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความหวัง "ฉันภาวนาให้มันได้ผลจ๊ะ"

บทที่ 7

Spoiler for Hiden:
"อว๊ากกกกกก"  #228B22  แผดร้องโหยหวน ดิ้นทุรนทุรายทั้งที่ยังถูกมัด ร่างของเขาแอ่นเกร็ง ตาขาวแดงก่ำ  เหงื่อไหลชุ่มโชกราวสายน้ำ เขามีสภาพเช่นนี้มาได้เป้นชั่วโมงแล้ว  นับแต่ได้รับเลือดของมานาห์ไป 

"ไม่นะ  มันต้องได้ผลสิ"  มานาห์จิกมือแน่น  เธออยู่เฝ้าเด็กชายไม่ยอมห่าง  สะดุ้งทุกครั้งที่เขาแผดร้อง  หากเป็นไปได้ เธออยากเป็นคนที่เจ็บแทนด้วยซ้ำ

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้"  เธอพูดซ้ำไปซ้ำมาระหว่างที่พยายามกอดรัดเขาเอาไว้แม้จะรู้ว่ามันไม่ช่วยอะไร พูดซ้ำทุก ๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงร้อง  พูดซ้ำทุก ๆ ครั้ง ที่รู้สึกถึงการกระตุก

พูดซ้ำไปเรื่อย ๆ จนถึงเช้า

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้" แม้จะอ่อนเพลียกับการไม่ได้นอนทั้งคืน เธอก็ยังคงกระซิบที่หูของ #228B22 

"...โท" เด็กชายพึมพำ

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้" มานาห์กระซิบกล่อม

"..โทนี่" เด็กชายพึมพำอีกครั้ง

"หือ?" เด็กหญิงชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรผิดไปจากเดิม

"บอกว่าฉันชื่อโทนี่ไงเล่า ยัยบ้า" คราวนี้ Forest Green พยายามบิดคอมามองเธอ  แววตาของเขาถึงจะอ่อนล้า แต่ก็ทำให้รู้สึกถึงชีวิตกว่าเมื่อก่อน  เลือดของมานาห์ได้ผลจริง ๆ
.....
...
..
.
 5 เดือนต่อมา


 หลังจากTony The Forest Green มานาห์ได้ช่วงชิงเด็ก ๆ ของWendel มาอีกหลายคน  บัดนี้ เหล่า Children of Revolution มีจำนวนถึง 18 คน  นั่นทำให้ Wendel โกรธและสับสนมาก  เด็กของเขาหายไปทีละคนสองคน ทุกคนต่างเป้นมือดีที่ไม่น่าจะเสียท่ามนุษย์ธรรมดาได้  และไม่มีเบาะแสใด ๆ เขาพยายามกระจายขอบเขตการค้นหา  แต่นันยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย เด็กของเขาที่แยกตัวจากกลุ่มมักหายไปไม่กลับเสมอ  Wendel รู้สึกถึงอันตราย และมีแผนจะเคลื่อนย้ายยานของเขาไปกบดานจนกว่าจะสืบหาสาเหตุได้รวมทั้งเพื่อสร้างเด็กใหม่ ๆ เพิ่มเพื่อทดแทนคนที่หายไป

แต่ด้วยพลังของAlla The Dream Beige หนึ่งใน Children of Revolution มานาห์จึงรู้ถึงเรื่องนี้ และรู้ว่านี่คือโอกาสสำคัญที่จะจัดการกับ Wendel     

   ดังนั้นในวันที่พายุทรายพัดกระหน่ำ  มานาห์และกองกำลังหัตถ์สีชาดของเธอจึงเข้าจู่โจมยานของ Wendel  ที่ไม่สามารถขึ้นบินได้เพราะถูกกักด้วยพลังของ Chun  The Sand Yellow อีกหนึ่งใน Children of Revolution

   ศึกตัดสินเริ่มขึ้นแล้ว

บทที่ 8

Spoiler for Hiden:
มานาห์แบ่งพวกพ้องออกเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อความคล่องตัวกระจายไปยังจุดต่างๆของยาน พวกเธอทุกคนต่างรู้เส้นทางภายในยานดีอยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ทว่า Wendel เองก็ไม่ประมาท ตั้งแต่วันแรกที่ Children หายไปเขาก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เขาติดตัดกับดักไว้ทั่วยานเพื่อรอให้เหยื่อมาติดกับเอง

มันคือ กับดักเขาวงกต

พวกมานาห์วิ่งไปตามเส้นทางในยานอย่างรู้ทาง กลับไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองวิ่งสู่ทางตัน ทุกกลุ่มวิ่งไปบนทางที่ไม่มีทางแยก กว่าจะรู้สึกตัวก็กลายเป็นว่ามารวมตัวกันที่ห้องโถงกว้างแห่งหนึ่งซึ่งมันสายไปเสียแล้ว

มันเป็นห้องสีขาวที่ไม่มีอะไรเลย กว้างราวสนามโคลอสเซียม สูงเทียมฟ้า เป็นสถานที่ราวกับหลุดมาอีกโลกหนึ่งซึ่งไม่น่ามีอยู่ในยานได้

"ขอต้อนรับกลับบ้าน เด็กๆที่น่ารักของข้า" เสียง Wendel สะท้อนก้องทุกทิศทาง มานาห์ได้แต่มองหน้าเพื่อนๆกันเลิกลักและยืนหัวหลังเข้าหากันระวังภัย

"Wendel เจ้าอยู่ที่ไหน โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้" มานาห์ตะโกนท้า ซึ่งเธอรู้ว่าคนอย่าง Wendel ไม่ปรากฏกายมาง่ายๆ แน่ ทว่าเธอคิดผิด พื้นที่ว่างเปล่าเบื้องหน้าจู่ๆ เกิดแสงสว่างวาบและร่างของชายผู้มีรอยยิ้มชั่วก็ปรากฏขึ้น

Acid Pink หนึ่งในเพื่อนพ้องของมานาห์ สาดน้ำกรดเหนียวหนืดสีชมพูใส่ Wendel ทันที ทว่ามันกลับทะลุร่างของเขาไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ที่แท้ร่างตรงหน้าเป็นเพียงภาพโฮโลแกรมเท่านั้น

"จุ๊ๆ อย่าเพิ่งใจร้อนสิ การแสดงยังไม่เริ่มต้นเลย"  Wendel ยิ้มกริ่มขณะเดินเข้ามาใกล้ พวกมานาห์ได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ ทั้งที่ศัตรูอยู่ตรงหน้าแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย

จากนั้นพื้นกลางห้องก็แยกออก กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งถูกยกขึ้นมาประชันหน้ากับพวกของมานาห์ หนึ่งในกลุ่มคนนั้นเป็นบุคคลที่มานาห์รู้จักเป็นอย่างดี

" #000000!" มานาห์ตะโกนเรียกด้วยความดีใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับยืนนิ่งไม่ตอบรับใดๆ

"ระวังนะ นั่นไม่ใช่คนที่เจ้ารู้จักอีกแล้ว" โทนี่หรือ Forest Green เตือน

นัยน์ตาของ #000000 ขุ่นมัว แผ่รังสีฆ่าฟันอย่างเต็มที่ นั่นไม่ใช่คนที่เธอรู้จักอีกแล้ว แต่เป็น #000000 อีกคนที่ถูกลบล้างความทรงจำออกไป แต่ไม่ใช่แค่นั้น จู่ๆผิวหนังของ #000000 ก็ปริแตกออก ขนาดร่างกายขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นอสูรกายน่าเกลียดน่ากลัว
Spoiler for Hiden:

มันคำรามเสียงดังลั่น ความน่าสยองขวัญของมันทำให้กลุ่มเด็กๆ เผลอก้าวถอยหลังด้วยความสะพรึงกลัว

"Wendel เจ้าทำอะไรกับ  #000000!" เธอตะโกนถามเสียงสั่น

"แค่เห็นก็น่าจะเข้าใจนะ นี่แหละคือบทสรุปของคนที่บังอาจทรยศข้า" Wendel หัวเราะลั่นด้วยความสะใจ "ข้าแค่ดัดแปลงนิดๆหน่อยๆ พวกเจ้ามาก็พอดีเลย อยากทดสอบดูเสียหน่อยว่าร่างทดลองนี้ใช้ได้หรือเปล่า"

ไม่ใช่แค่ #000000 คนเดียว Children คนอื่นๆ ก็กลายร่างเป็นอสูรกายเช่นกัน

มานาห์กำหมัดแน่นตัวสั่นด้วยความโกรธสุดขีด เจ้าบ้านั่นที่อุตส่าห์ช่วยเธอไว้ กลับต้องกลายเป็นแบบนี้
"อภัยให้ไม่ได้!!!" มานาห์ตะโกนลั่นและพุ่งเข้าใส่
จากนั้นทั้งสองฝั่งจึงเปิดฉากการต่อสู้เข้าปะทะกันเต็มกำลังโดยแลกด้วยชีวิต

บทที่ 9

Spoiler for Hiden:
มันน่าจะเป็นการต่อสู้ที่สูสีของทั้งสองฝ่าย ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น

พลันที่ Air Blue ใช้ใบมีดสายลมเรียกเลือดจากอสูรกายตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามา กลิ่นเลือดของมันก็ทำให้อสูรกายตัวข้าง ๆ ต่างคลุ้มคลั่งพุ่งเข้ากัดพวกเดียวกันที่บาดเจ็บ เจ้าตัวที่โดนกัดจึงตอบโต้ สุดท้ายก้กลายเป็นการสู้กันเองของอสูรกายทั้งกลุ่ม  มานาห์ที่ไหวทันจึงให้สัญญาณทุกคนถอยออกจากกลางห้อง ปล่อยให้พวกมันกัดกินกันเองต่อไป


"อ้าว  โธ่เอ้ย  ไม่นึกว่าเจ้าพวกนี้จะงี่เง่าขนาดนั้น"   Wendel บ่นแสดงความผิดหวัง

"ยอมแพ้ซะ เจ้าไม่มีทางชนะแล้ว"  มานาห์พูดกับภาพโฮโลแกรม ตอนนี้พวกอสูรกายส่วนใหญ่ล้มลงหมดแล้ว  เหลือเพียง #000000 กับอสูรกายที่เกาะเขาอยู่อีกไม่กี่ตัว

"หือ?  เจ้าเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า  มันยังไม่จบหรอกนะ"  Wendel ยิ้มเจ้าเล่ห์  ตอนนั้นเองที่มานาห์ได้ยินเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกปนเจ็บปวดจากเพื่อน ๆ  เมื่อเธอหันไปดูก็พบว่าหนวดหลายสิบเส้นจาก #000000 กำลังโจมตีเพื่อน ๆ ของเธออยู่  หลายคนโดนหนวดปัดกระเด็นชนกำแพงแล้วทรุดฮวบแน่นิ่งไป

"เรื่องกัดกันเองเป็นเรื่องเกินคาด  แต่เจ้าพวกนี้มันสามารถดูดซึมสิ่งที่มันกินมาเพิ่มพลังให้ตัวเองได้ พวกเจ้าจะเป็นวัตถุดิบทำให้#000000 กลายเป็นอสูรกายหนึ่งเดียวที่เก่งกาจที่สุด"  Wendel หัวเราะ 

มานาห์หน้าซีด ขณะที่เพื่อน ๆ ของเธอพยายามหลบหนวดและโต้กลับ  แต่เนื้อหนังของ #000000 ที่ดูดซึมพลังของอสูรกายจำนวนมากไว้นั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะโจมตีเข้า  มิหนำซ้ำ เพื่อน ๆ หลายคนก็พลาดท่าโดนจับและค่อย ๆ ถูกดูดพลังไป เธอจึงละความสนใจจากภาพจำลองของ Wendel แล้ววิ่งกลับไปช่วยเพื่อนจากหนวดของ #000000  แต่มันก็ไม่ง่ายเลย เพราะถึงเธอจะตัดหนวดพวกนั้นไปเท่าไหร่ มันก็จะมีหนวดใหม่งอกออกมาเรื่อย ๆ  ส่วนเพื่อนที่ช่วยจากหนวดมาได้ ก็ยังคงลุกไม่ขึ้นเพราะถูกดูดพลัง  หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ก็คงไม่พ้นเป็นไปตามที่ Wendel คิด

เธอจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้  มานาห์ตัดสินใจเด็ดขาด  กระโดดหลบหลีกหนวดแล้วพุ่งเข้าหาปากที่อ้ากว้างของ  #000000

"#000000 นายมันตัวใหญ่ไปนะ แบบนี้แค่ไม่กี่หยดก็ไม่พอน่ะซิ"  มานาห์ใช้สองมือโอบตัวเองแล้วเริ่มหมุนร่าง  เส้นสายสีแดงสลับซับซ้อนเกิดขึ้นบนร่างเธอ จากนั้นละอองเลือดก็พุ่งกระจายคล้ายสายหมอกสีแดงพุ่งหายเข้าไปในปากที่อ้ากว้างของ #000000

"คราวนี้ฉันจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระเอง"

tutorial : นี่เป็นตัวอย่างของกระทู้ set up โดย 1st role player ผู้สนใจจะเล่นสามารถโพสตอบเพื่อลงชื่อเข้าร่วมได้ (สูงสุด 4คน)

ลำดับผู้เล่น   / คะแนน (แต้ม)
1st บารอน   3 คะแนน (18 แต้ม)
2nd chao   3 คะแนน (24 แต้ม)
3rd ลู่         4 คะแนน (25 แต้ม)
4th ดารา     0 คะแนน (15 แต้ม)
« Last Edit: March 01, 2016, 12:57:30 AM by Game Master »

 

Offline Chao

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #1 on: February 16, 2016, 09:20:00 PM »
เข้าร่วม

Offline Lu

  • แกละพุงกาง แผ่พุงแล้วเหินบิน หน้าหลังเสมอกัน ความสมมาตรทางสรีระที่ใครก็ใฝ่หา
  • *
  • $1963Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To Lu
  • หมาหมีหมูแมวม้า
    • View Profile
Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #2 on: February 17, 2016, 12:10:58 AM »
ค่าาาา /ชูมือ

Offline Star

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #3 on: February 17, 2016, 04:10:32 AM »
ซู้ด เกมมา

ลองสักหน่อย

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #4 on: February 17, 2016, 03:32:07 PM »
มีสี่คนก็พอเล่นได้อยู่นะ เอาเป็นว่าเริ่มกันเลยดีกว่าเนอะ
ถ้ามีคนสนใจเป็น 5th player ก็ลงชื่อแล้วส่งเรื่องมาเลยครับ

ลำดับผู้เล่น
1st บารอน
2nd chao
3rd ลู่
4th ดารา

หมดเขตส่งงานรอบนี้ 18 กพ 23.59


Tutorial : เมื่อมีผู้สมัครเต็มหรือครบเวลาที่กำหนด 1st player ในฐานะ judgeของรอบแรก
จะสรุปลำดับการเล่นและเส้นตายของการส่งงานในรอบนั้น
และให้ผู้เล่นแต่ละคนส่งเรื่องของตนไปให้ Judge ภายในเวลาที่กำหนดเรียกว่าช่วง submit phase
« Last Edit: February 18, 2016, 10:42:10 PM by Game Master »

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #5 on: February 18, 2016, 11:51:40 PM »
tutorial  : ใน vote phase ผู้เล่นแต่ละคนที่ไม่ใช่ Judge ให้คะแนนเนื้อเรื่องสามลำดับที่คิดว่าดีที่สุด 3/2/1 แต้ม ตามลำดับ
               (ห้ามให้แต้ม เรื่องตัวเอง) ส่ง PM ให้ Judge ภายในเวลาที่กำหนด


* เนื่องจากเล่นแค่สามคนให้ส่งคะแนนเป็น 2/1 แทน *
ส่งคะแนนโหวตได้ที่ GM หมดเขต 19/02/59 23.59 หรือเมื่อส่งครบ


เนื้อเรื่องบทที่ 1

เนื้อเรื่อง A
Spoiler for Hiden:
"จับมาได้หมดแล้วครับ"   ทหารชนเผ่าทะเลทรายรายงานต่อชายในชุดแปลกประหลาดที่ดูท่าทางจะเป็นผู้นำ


"  หึ ๆ ดี..."  เขามองชาวบ้านที่ถูกจับมาและแยกเป็นสองกลุ่มอย่างพอใจ  กลุ่มหนึ่งคือหัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านที่เป็นผู้ใหญ่   ส่วนอีกกลุ่มคือเด็ก ๆ  ทั้งสองกลุ่มตัวสั่นงันงกเพราะไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ ชนเผ่าทะเลทรายจึงโจมตีหมู่บ้านของพวกเขา

"ขออธิบายครั้งเดียวนะ ชั้นชื่อ Wendel  เป็นผู้นำของเจ้าพวกนี้ และต่อไปนี้ก็จะเป็นผู้นำของพวกเจ้าด้วย  สำหรับผู้ใหญ่ทุกคน พวกเจ้าจะได้เป็นแรงงานสำคัญ   ส่วนลูก ๆ ของพวกเจ้า  ข้าจะมอบอำนาจเหนือมนุษย์ให้พวกเขา เพื่อให้พวกเขาเป็นกองทหารพิเศษของข้า  อำนาจแบบไหนเหรอ ก็เช่นแบบนี้ไงล่ะ"  Wendel หยิบหอกข้างตัวแล้วซัดด้วยกำลังแรง  หอกพุ่งเป็นวงโค้งในอากาศก่อนจะปักลงบนยอดของเนินทรายที่อยู่ไกลกว่า 100 เมตร

"อ๊ากกก"  ส่วนที่ควรเป็นยอดของเนินทรายไหวเยือกแล้วร่างหนึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ทรายก็กลิ้งไถลลงมาทั้ง ๆ ที่ยังมีหอกปักคา  ทหารชนเผ่าทะเลทรายที่อยู่ใกล้ต่างกรูกันเข้าไปหา  ร่างนั้นพยายามลุกขึ้นชักดาบสู้ทั้งที่ยังมีหอกปักคา  ชั่วขณะหนึ่งที่เหล่าผู้รุกรานต้องชะงักด้วยอานุภาพดาบที่เกรี้ยวกราดของเขา  ทว่าเลือดที่ไหลออกจากร่างดูดพลังที่มีอยู่ออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นชายผู้กล้าก็ล้มฟุบลงไปนอนหายใจรวยริน  ดาบคู่มือถูกเตะกระเด็นไปไกล

"ทนดี ถ้ายังไม่ตายก็เก็บมันกลับไปด้วย"   Wendel ยิ้มมุมปาก  แล้วหันมาหากลุ่มเชลยของเขาอีกครั้ง ตอนนี้หลายคนแสดงสีหน้าที่สิ้นหวังกว่าเดิม  วีรบุรุษผู้กล้าของหมู่บ้าน ที่พวกเขาคิดว่าอาจจะช่วยพวกเขาได้ กลับโดนจัดการโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะแลกชีวิตกับทหารเลวสักคน

"ลูก ๆ ของพวกเจ้าจะได้พลังแบบเดียวกับข้า เพียงแต่อาจจะเจ็บปวดบ้าง แต่นั่นแหละนะ ชีวิตมันก็ต้องเจ็บปวดอยู่แล้ว   เอาล่ะ พาพวกมันกลับไป  แล้วทำลายหมู่บ้านนี้ซะ  อย่าให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่"  เขาสั่งก่อนจะนำกองทหารเคลื่อนที่กลับไปในทะเลทราย  ณ ที่ซึ่งสิ่งแปลกปลอมหนึ่งโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวดิน  สิ่งแปลกปลอมซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งซึ่งถูกสร้างด้วยอารยธรรมของยุคสมัยนี้


Spoiler for Hiden:

เนื้อเรื่อง B
Spoiler for Hiden:
การค้นหาของมีค่าของพวกชนเผ่าทะเลทรายในหมู่บ้านแซนเดรียยังดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น
ของมีค่าทั้งหลายที่ชาวบ้านแซนเดรียควรจะมีกลับถูกแย่งชิงไปอย่างหน้าด้าน ๆ และไม่มีวี่แววว่าจะมีใครมาช่วยหรือต่อต้านเจ้าพวกเถื่อนที่เข้ามาปล้นหน้าตาเฉยได้เลย

แต่แล้วระหว่างที่พวกชนเผ่าทะเลทรายเข้ามาปล้นสะดม ก็เกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้น!!

...ถึงจะบอกว่าเกิดเรื่องมหัศจรรย์ขึ้น แต่เรื่องมหัศจรรย์นั้นก็ไม่ได้ทำอันตรายกับพวกคนเถื่อน หรือช่วยเหลือพวกชาวบ้านแต่อย่างใด
เพราะเรื่องมหัศจรรย์ที่ว่านี่น่ะ คือการที่หนึ่งในสมาชิกของกองร้อยค้นพบเขาวงกตดันเจี้ยนแสนซับซ้อนหลบซ่อนอยู่ที่ใต้หมู่บ้านต่างหาก
สำหรับพวกชนเผ่าทะเลทรายแล้ว ดันเจี้ยนก็ไม่ต่างไปจากว่าที่ขุมทรัพย์ให้เก็บดี ๆ นี่เอง ในขณะที่สำหรับชาวบ้านแล้วแทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะถึงจะพบดันเจี้ยนสุดเจ๋งยังไง ถ้าทำได้แค่มองมันก็เท่านั้น

เพียงแต่ว่า...หัวหน้าหมู่บ้านคิดแผนการดี ๆ ที่จะช่วยให้ทุก ๆ คนรอดได้แล้ว



"ข้ารู้จักดันเจี้ยนนี้ดี...มันเป็นดันเจี้ยนลับแลในเรื่องเล่าโบราณของหมู่บ้านเรานี่เอง"
"ดันเจี้ยนนี้น่ะมีสุดยอดขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ที่ส่วนลึกสุด มูลค่าของขุมทรัพย์นั่นสูงกว่าทรัพย์สินทั้งหมดในหมู่บ้านรวมกันเสียอีก"
"ทว่า ชาวแซนเดรียที่แท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปในส่วนลึกสุดได้"
"ดังนั้น...ข้าจะให้นักผจญภัยของหมู่บ้านเข้าไปเอาขุมทรัพย์มาให้พวกเจ้า โดยแลกกับที่พวกเจ้าจะต้องคืนทรัพย์สินที่ปล้นมา และถอยไปจากที่นี่แต่โดยดี"

หัวหน้าหมู่บ้านประกาศกับพวกกองร้อยเอาไว้อย่างน่าเกรงขาม แม้จะนั่งคุกเข่าเพราะถูกข่มขู่อยู่ก็ตาม...อนึ่ง ที่หัวหน้าหมู่บ้านพูดมาทั้งหมดนี่คือขี้ฮกทั้งเพ เขาเพิ่งจะรู้เรื่องดันเจี้ยนพร้อม ๆ กับพวกกองร้อยนี่แหละ แต่ถ้าคนที่หัวหน้าหมู่บ้านส่งไปบังเอิญเจอของมีค่ามาก ๆ มาแล้วละก็...

ไม่แน่ว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะหลอกเจ้าพวกนี้สำเร็จก็ได้ หรืออย่างแย่สุดก็เป็นการเตะถ่วงเวลาที่จะมีผู้กล้ามาช่วยปลดปล่อยชาวบ้าน
ไม่ว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นยังไงก็ล้วนแต่มีความหวังมากกว่าอยู่เฉย ๆ ทั้งนั้น...แม้จะเป็นเพียงความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ก็ตามที

แม้ว่าคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านจะดูน่าสงสัยนิดหน่อย แต่พวกชาวทะเลทรายก็ยังตอบรับข้อตกลงของหัวหน้าหมู่บ้านแต่โดยดี



"ดี! ถ้างั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาใด ๆ แล้ว!" หัวหน้าหมู่บ้านลุกขึ้น แล้วชี้ไปที่เด็กหนุ่มหนึ่งในชาวบ้าน "Barley นักผจญภัยที่เก่งที่สุดในหมู่บ้าน (เพราะมีคนเดียว) เอ๋ย...จงไปเบิกทางสู่สุดยอดขุมทรัพย์ซะ!!"



"อะเด๊ะ...?" Barley นักผจญภัยฝึกหัด ได้รับภารกิจให้สำรวจดันเจี้ยนจริง ๆ จัง ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต เพียงแต่เป็นภารกิจที่เดิมพันด้วยชีวิตของชาวบ้านทุกคน

เนื้อเรื่อง C

Spoiler for Hiden:
   เดจา ชายหนุ่มชนเผ่าทะเลทรายใช้กำลังพังประตูบ้านหลังหนึ่งเข้าไป เขาบุกรื้อค้นหาของมีค่าหวังกอบโกยรวยทางลัด แย่ชะมัด ชาวบ้านพวกนี้ช่างยากจนเหลือเกิน แม้แต่กระเบื้องเคลือบก็ไม่มีใช้ เศะเงินพวกนี้คงไม่ทำให้เขารวยได้

   เคร้ง!

   เสียงวัตถุบางอย่างตกกระแทกพื้น มันดังมาจากห้องครัว ดาจาชี้ดาบตรงเข้าไปหมายสังหารเจ้าของบ้านให้ตาย ทว่าที่นั่นไม่มีใครอยู่เลย ชายหนุ่มกวาดตามองรอบด้านกลับไม่พบสิ่งของใด ๆ ล้มอยู่ นัยน์ตาเรียวคมหรี่ลงอย่างพิจารณา และนิ่งฟัง นอกจากเสียงอึกทึกจากข้างนอก กลับมีเสียงหนึ่งแทรกมา เป็นเสียงหายใจถี่กระชั้นอย่างตื่นกลัวมาจาก...

   ดาจาเปิดประตูตู้เก็บของพบหญิงสาวนางหนึ่งขดตัวอยู่ด้านใน เธอยกมือร้องขอชีวิตทั้งน้ำตา

   "ขอร้องล่ะ อย่าทำอะไรข้าเลย ของมีค่าข้ามีเท่าที่เห็น อยากได้อะไรก็หยิบไปเลย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย"  T--T

   "ของในบ้านเจ้าล้วนไร้ค่านำไปขายคงไม่ได้ราคา แต่กับเจ้า..." เดจากกระชากตัวนางออกจากตู้ แล้วยิ้มมุมปากพลางใช้สายตาลวนลามอีกฝ่าย "คงขายได้ราคาดี หน้าตาสะสวยใช้ได้ หุ่นก็ดี หึหึ"  :D

   "ไม่!" หญิงสาวชาวบ้านสะบัดหนี ทว่ามิอาจสู้แรงชายได้ "ทำไมทหารทะเลทรายอย่างพวกเจ้าต้องทำแบบนี้ด้วย พวกเราค้าขายกันมานาน ทำไมจู่ ๆ ถึงบุกทำลายที่นี่"

   "ก็พวกข้าไม่ใช่ทหารน่ะสิ" เดจาตอบ แท้จริงแล้วพวกเขาไม่ใช่ทหารทะเลทรายบ้าบออะไรนั่น แต่เป็นกองโจรงูหางกระดิ่งที่ปลอมมาในคราบทหารเพื่อป้ายความผิด มันทำให้การปล้นเป็นไปอย่างง่ายดาย พวกชาวบ้านยอมเปิดทางให้ปล้นสบายๆ เลยล่ะ

   หญิงสาวคิดว่าตนไม่มีทางรอดแน่จึงร้องตะโกนให้คนช่วย เดจาทำหน้าเบื่อหน่ายตะคอกใส่ "หุบปากน่า ที่นี่เป็นแต่พวกข้า ไม่มีใครมาช่วยหรอก"

   โครม!

   "สาวคนไหนต้องการความช่วยเหลือจากข้า"

   ในตอนนั้นเอง ประตูหน้าบ้านก็มีชายอีกคนบุกเข้ามาพร้อมตะโกนลั่น หญิงชาวบ้านแย้มกว้าง แต่ต้องหุบยิ้มลงทันควันเมื่อผู้มาใหม่สวมชุดทหารทะเลทรายเช่นเดียวกัน และเป็นคนที่เดจารู้จักด้วย

   "ว้าว สาวชาวบ้านท่าทางใสซื่อดีนะ เดจาเจ้าโชคดีจริงๆ ที่หาพบ คงไม่ปฏิเสธใช่ไหมถ้าข้าจะขอ" ผู้มาใหม่เป็นชายร่างสูง ถือดาบเล่มโต ท่าทางกร่างวางอำนาจ เขาชื่อ ไมฮีม   :))

   เดจาจิ๊ปากไม่พอใจ ไมฮีมเป็นคนอันตรายและโหดเหี้ยม มันมักจับผู้หญิงไปสนองความใคร่ด้วยวิถีการรุนแรง ระหว่างส่งผู้หญิงไปให้เจ้านี่ กับส่งไปขาย ส่งไปขายยังจะมีอนาคตที่ดีกว่าเผื่อมีเศรษฐีดีๆรับไปดูแล แต่กับเจ้านี่คงโดนทรมานจนตาย

   "ข้าไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว" ชายหนุ่มบอก ก่อนจะหันไปกระซิบกับหญิงสาวผู้โชคร้าย "...เมื่อข้าให้สัญญาณ เจ้าวิ่งเลยนะ"

   "??" หญิงสาวงุนงง

   ไม่ทันที่เธอจะเข้าใจ ทันใดนั้นเกิดระเบิดขนาดย่อมเหนือศีรษะพวกเขา เพดานไม้ถล่มลงมา เดจากระชากหญิงสาววิ่งหนีออกทางหลังบ้าน

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #6 on: February 19, 2016, 12:45:45 AM »
สรุปคะแนนและเจ้าของเรื่อง

เนื้อเรื่อง A (chao) ได้ 2+2
เนื้อเรื่อง B (dara)  ได้ 1+1
เนื้อเรื่อง C (Lu)     ได้ 1+2

เนื้อเรื่อง A ได้ไปต่อ

tutorial  : Judge ทำการรวมคะแนนและนำไปสรุปที่โพสแรก
               เนื่องจากยังไม่มีใครคะแนนพอจะประกาศจบ จึงเล่นต่อโดยให้ผู้เล่นคนถัดไปเป็น Judge แทน
               ส่งเรื่องต่อได้ที่ Chao  ( 2nd player ) มีเวลาถึง 01.00  20/กพ/59


Offline Chao

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #7 on: February 20, 2016, 01:01:26 AM »
 

 

เนื้อเรื่องบทที่ 2

เนื้อเรื่อง A
Spoiler for Hiden:
Brine ฟื้นขึ้นมาในตอนค่ำ เขาไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนหลังจากที่ถูกพวกชนเผ่าทะเลทรายจับตัวมา
บาดแผลถูกหอกแทงที่ท้องของเขายังปวดแปลบแต่เลือดนั้นหยุดไหลไปนานแล้ว
ความทรหดอดทนของร่างกายที่ได้จากการต่อสู้ในฐานะนักรบแห่งแซนเดรียมานานปีคงเป็นสิ่งเดียวที่เขาพึ่งได้ในยามนี้
Brine ลองพยายามขยับแขนขาที่หนักอึ้งและพบว่าตนเองถูกพันธนาการมือเท้าเอาไว้แต่ไม่มีกระดูกส่วนไหนหักแต่อย่างใด
เขามองไปรอบๆห้องที่สร้างด้วยวัสดุแปลกประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แผ่นโลหะรัดข้อมือข้อเท้าของเขาไว้กับเตียงมีสายและท่อระโยงระยางเชื่อมต่อร่างกายเขากับขวดแก้วที่ใส่น้ำยาหลากสีสัน
หน้าต่างกระจกใสที่มองเห็นทิวทัศน์ยามค่ำของทะเลทรายเป็นสิ่งเดียวที่ยังทำให้เขารู้ว่าที่นี่คือโลกมนุษย์ไม่ใช่นรกหรือโลกหลังความตายที่ไหน
เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี? เขาจะสู้กับเจ้าคนในชุดประหลาดนั่นได้อย่างไร? การขว้างหอกในระยะไกลขนาดนั้นแม้แต่อัศวินมังกรยังทำไม่ได้
อย่าว่าแต่เจ้านั่นแทบจะไม่ได้เล็งเป้ามาด้วยซ้ำ หอกนั่นถูกซัดมาโดยไม่มีวี่แววล่วงหน้าจนไม่เขาไม่มีโอกาสจะหลบเลี่ยงได้เลย
เสียงประตูห้องที่เปิดออกเองโดยอัตโนมัติ ปลุกBrineให้ตื่นจากภวังค์ ชายในชุดประหลาดเดินเข้ามาโดยมีรอยยิ้มเย้ยหยันประดับอยู่บนใบหน้า
"แกเป็นใคร ต้องการอะไรกันแน่" นักรบแห่งแซนเดรีย ถามด้วยเสียงอันแหบแห้ง
"Wendel" ชายหนุ่มในชุดประหลาดตอบพลางมองดูข้อมูลในหน้าจอที่ข้างเตียงอย่างพึงพอใจ "สิ่งที่ต้องการก็คือโลกใบนี้ไงล่ะ"
"โลกใบนี้ ?" Brine ทวนคำตอบก่อนจะพูดออกมาอย่างตื่นตระหนก "มีโลกใบอื่นด้วยเหรอ ? ... แกมาจากโลกอื่น ? "
"เข้าใจอะไรง่ายดี" Wendel ป้อนข้อมูลโดยการกดลงบนหน้าจอจนเสร็จ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับเชลยของเขา
"ความสามารถของเจ้าจำเป็น เพื่อแผนการขั้นต่อไปข้าคงไม่มีเวลาทำเรื่องไร้สาระอย่างการนำทัพมากนักหรอก"
"แล้วมันก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าพวกเด็กๆจะกลายเป็นนักรบที่จงรักภักดีต่อข้าอย่างแท้จริง"
ชายหนุ่มหยุดมองดูสีหน้าที่สับสนของ Brine ก่อนจะพูดต่อ "ในระหว่างนั้นความจงรักภักดีที่สร้างขึ้นก็พอจะทดแทนได้ละนะ"
Wendel ยิ้มให้นักรบผู้ถูกพันธนาการแล้วกดปุ่มเพื่อเริ่มต้นการทำงานของอุปกรณ์บางอย่าง Brine รู้สึกถึงกระแสพลังงานที่ค่อยๆไหลผ่านสายไฟที่เชื่อมโยงกับ
ศีรษะของเขา เริ่มแรกมันมีเพียงความรู้สึกร้อนเท่านั้นก่อนจะค่อยๆรุนแรงขึ้นราวกับถูกฟาดด้วยกระบองยักษ์ ร่างของ Brine ชักกระตุกอยู่บนเตียง
เสียงร้องของเขาดังไปทั่วห้อง เขารู้สึกเหมือนกับโลกทั้งใบพังทลายไปต่อหน้า เขาสลบไปอีกครั้ง ก่อนจะฟื้นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นราวกับเกิดใหม่
เขามองดูชายหนุ่มในชุดประหลาดที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาอันเคารพรักก่อนจะกล่าวว่า "สวัสดีนายท่านWendel...."


เนื้อเรื่อง B
Spoiler for Hiden:
เวลาผ่านไป เทคโนโลยีก็พัฒนา การกระจายข่าวก็ง่ายและลึกขึ้น ทำให้วันหนึ่ง ตัวตนของสิ่งแปลกปลอมลึกลับก็ถูกล่วงรู้และเผยแพร่ลงอินเทอร์เน็ต แม้จะมีแค่ภาพก็ตาม
ข่าวคราวเรื่องสิ่งแปลกปลอมลึกลับกลางทะเลทรายจึงถูกกระจายไปอย่างรวดเร็วและกว้างไกลราวกับผิวน้ำที่ถูกกระทบ
ทำให้มีผู้คนที่สนใจมันและออกตามหาสิ่งแปลกปลอมนั่นมากมาย แม้ว่าตอนนี้จะยังรู้เพียงแค่ที่อยู่ของมันก็ตาม
ทว่า ผู้ที่ค้นพบมันไม่เคยได้กลับมาเลย... ข้อมูลที่ปรากฏจนถึงตอนนี้จึงยังมีเพียงภาพถ่ายท่านั้น

"เหวย...ในที่สุดก็ได้เห็นของจริง...ยิ่งใหญ่กว่าในภาพถ่ายอีกแฮะ" ร็อบบี้ นักศึกษาหนุ่มกล่าวขณะที่มองสิ่งแปลกปลอมนั่น นับว่าคุ้มค่าสำหรับเขาที่อุตส่าห์ลาเรียนมาเดินทางสำรวจสถานที่ลี้ลับกับคณะสำรวจมือสมัครเล่น

ชายหนุ่มมีความหวังว่าจะตัวเองได้เป็นคนแรกที่เปิดเผยความลับของสถานที่ลี้ลับแห่งนี้ หรืออย่างน้อย ๆ ก็เป็นหนึ่งในผู้ช่วยของผู้เปิดเผยความจริงก็ยังดี...

แต่แล้ว ความหวังนั้นก็ถูกบดขยี้โดยไม่รู้ตัว



"กลับ...ไป...ซะ..."

จู่ ๆ ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าเหล่าคณะสำรวจ ไม่มีใครรู้ว่าเขาคนนี้คือผู้กล้าผู้ล้มเหลวเมื่อนานมาแล้ว
และทันทีที่เด็กหนุ่มพูดจบ เด็กหนุ่มก็ซัดกำปั้นเข้าใส่พวกร็อบบี้โดยที่ไม่ปล่อยโอกาสให้ได้ "กลับไป" ตามที่เขาพูด
กำปั้นนั้นไม่ได้อัดโดนใคร เพราะเด็กหนุ่มเสียอากาศขึ้น...แต่กำปั้นนั้นทรงพลังพอที่จะสร้างสายลมแรงมหาศาลพัดพาร่างของคณะสำรวจทุกคนขึ้นไปบนฟ้า
ทุกร่างที่ถูกพัดพาปลิวขึ้นไป แล้วก็ลงมากระแทกกับพื้นอย่างอนาถา คนที่โชคร้ายก็ตายคาที่ ส่วนคนที่โชคดีหน่อยก็ถูกซัดปลิวไปไกลจนอยู่นอกสายตาของเด็กหนุ่มลึกลับแต่ก็ยังรอด

ร็อบบี้เป็นเพียงคนเดียวที่ "โชคดีหน่อย" ถึงจะบอกว่าโชคดีหน่อย แต่ก็กระดูกหักไปหลายท่อน เขาพยายามคลานกลับไปดูคนอื่น ๆ ที่เหลืออย่างทุลักทุเล แต่ก็พบว่าเด็กหนุ่ม "ลบ" เพื่อนร่วมเดินทางของเขาด้วยอุปกรณ์อะไรสักอย่างที่คล้ายปืน

ภาพนั้นน่ากลัวเหลือเกิน...ถึงจะผิดกับเพื่อนร่วมเดินทางไปบ้าง แต่เขาก็ไม่อยากหายไป

ถ้าจะหนีละก็...ต้องตอนนี้เท่านั้น!!


เนื้อเรื่อง C

Spoiler for Hiden:
 

ชาวบ้านผู้รอดชีวิตถูกต้อนเข้าไปในวัตถุประหลาดนั่น ไม่มีใครกล้าต่อต้าน ชาวบ้านตัวสั่นงันงกเพราะความกลัว นี่พวกเขาจะถูกจับไปไหนกัน

"ไม่ ข้าไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น ข้ายอมตายที่นี่ดีกว่า" พ่อค้าใจกล้าตะโกนขึ้น เขาฝ่าวงล้อมพุ่งเข้าหา Wendel อย่างไม่กลัวตาย

"รนหาที่เองนะ" Wendel ถอนหายใจ เขากระดิกนิ้วเล็กน้อย หอกคู่ใจก็ลอยหวือมาหา ก่อนจะพุ่งทะลุร่างชายผู้โชคร้ายจนเห็นเป็นรูกว้างน่าสยดสยอง เด็กๆกลัวจนไม่กล้าร้องไห้เสียงดัง

"ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว ไม่พาพวกแกไปดีกว่า" Wendel ว่า เขาสั่งให้ทหารพาพวกผู้ใหญ่ไปขังในหมู่บ้านแล้วพาเด็กๆขึ้นไปบนยาน

วัตถุประหลาดคือพาหนะที่สามารถลอยขึ้นฟ้าได้ดั่งเรือบิน มันลอยสูงขึ้นก่อนจะนิ่งค้างกลางอากาศ และจะปลดปล่อยอาณุภาพเป็นลำแสงสีขาวเผาผลาญหมู่บ้านทั้งหมดให้เผาไหม้สลายเป็นจุลไปในพริบตา ไม่มีผู้กล้ามาช่วยเหลือ ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเหลือรอด

เด็กๆ ทั้งหมดถูกขัง และบังคับให้สวมหมวกใบใหญ่ครอบศีรษะไว้พร้อมให้ดูภาพฉายเกี่ยวกับการนองเลือดซ้ำไปซ้ำมาจนสตีลืมเลือนตัวตนที่แท้จริง ภาพความทรงจำบิดเบือนจนเข้าใจว่าตนเป็นทหารของ Wendel ที่เข้าการฝึกอบรมในการต่อสู้กับมนุษย์ผู้ชั่วร้าย พวกเด็กๆต้องดื่มยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง บางคนกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด บางคนมีพลังพิเศษกลายเป็นผู้มีพลังจิต บางคนมีเวทมนตร์ฝืนกฏธรรมชาติได้

Wendel มองกองทัพน้อย ๆ ของเขาอย่างพึงพอใจ เท่านี้แผนการต่อไปจะได้เริ่มดำเนินการเสียที เขาส่งเด็กกลายพันธุ์ไปตามดินแดนต่างๆ แทรกซึมเข้าไปสังหารบุคคลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ ขุนนาง เจ้าเมือง อัศวิน หัวหน้าเผ่า และใช้ความน่าพรั่นพรึ่งของกองทัพกลายพันธุ์กดดันมนุษย์ที่เหลือให้ยอมจำนน
Spoiler for Hiden:
"ใครขัดขืน ตาย!!!"


อีกด้านหนึ่ง  ณ เมืองแห่งหนึ่งทางตอนใต้ เด็กหญิงในชุดสีโลหิตผู้เคลื่อนที่ราวกับเต้นรำไปตามโถงทางเดินในปราสาท
Spoiler for Hiden:
เดินมาจนหยุดอยู่หน้าประตูบานสวยที่มีการป้องกันแน่นหนา ทว่าเพียงเธอผลักเบาๆ ประตูเหล็กก็ล้มลงอย่างง่ายดาย ภายในห้องนั้นมีพระราชากับองค์ราชินี พร้อมองครักษ์เอกนับสิบที่กรูเข้ามาขัดขวาง เธอหมุนตัวหลบ ก้าวย่างอย่างมีจังหวะขณะใช้ฝ่ามือเล็กๆทะลวงอกทหารในชุดเกราะหนาคนแล้วคนเล่า สาดสีแดงเปรอะเปื้อนทั่วห้อง

"มานาห์ นั่นเจ้าใช่ไหม" มนุษย์ในชุดเกราะผู้หนึ่งเอ่ยกับเธอ เธอไม่รู้จักว่ามันเป็นใครและเรียกชื่อนั้นกับเธอทำไม แต่มันกลับคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดจนฝีเท้าเคลื่อนผิดจังหวะ
"เจ้ารู้จักกับเด็กปีศาจนี่ด้วยเรอะ" พระราชาถาม แต่ราชินีกลับตะโกนแทรก
" เอ้า ตอนนี้มันชะงักแล้ว รีบฆ่ามันเร็วเข้า"
แม้จะกลัวจนตัวสั่น แต่หน้าที่องครักษ์คือปกป้องนายเหนือหัว พวกเขากรูกันเข้าไปโดยไม่สนเสียงห้ามของชายหนุ่ม เด็กหญิงเอี้ยวตัวหลบดาบแรกด้วยการหมุนตัวปลายเท้า สองมือกวาดผ่านลำคออีกฝ่ายตัดเส้นเลือดใหญ่จนเลือดพุ่งเป็นน้ำพุ ก่อนที่เธอจะกระโจนใส่คนที่เหลือและสังหารโหดอย่างรวดเร็ว
"ที่เจ้าหายสาปสูญไปเมื่อปีก่อน ข้าคิดว่าเจ้าตายแล้ว ดีใจจังที่ยังไม่ชี..." นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนสิ้นลมของมนุษย์ผู้หนึ่งที่เด็กหญิงไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ

มานาห์ มันช่างสะกิดใจเด็กหญิงเหลือเกิน
เธอกลับไปที่ยานด้วยความรู้สึกต่างจากเดิม เธอเริ่มมี "ความรู้สึก" และความทรงจำบางอย่างเปิดเผยออกมาจากส่วนลึกของจิตใจที่ถูกปิดล็อค ทำให้เธอรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นใคร เธอกำลังทำอะไรอยู่ ถึงเวลาแล้วที่เธอจะช่วยเพื่อนๆ และจัดการ Wendel ซะ


 


Offline Chao

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #8 on: February 20, 2016, 12:56:02 PM »
 
สรุปคะแนนและเจ้าของเรื่อง

เนื้อเรื่อง A (Baron) ได้ 1+2
เนื้อเรื่อง B (dara)  ได้ 1+1
เนื้อเรื่อง C (Lu)     ได้ 2+2

เนื้อเรื่อง C ได้ไปต่อ

ส่งเรื่องต่อได้ที่ Lu  ( 3nd player ) มีเวลาถึง 13.00  21/กพ/59
 

Offline Lu

  • แกละพุงกาง แผ่พุงแล้วเหินบิน หน้าหลังเสมอกัน ความสมมาตรทางสรีระที่ใครก็ใฝ่หา
  • *
  • $1963Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To Lu
  • หมาหมีหมูแมวม้า
    • View Profile
Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #9 on: February 21, 2016, 08:10:46 PM »
เนื้อเรื่องบทที่ 3

เส้นทาง A
Spoiler for Hiden:
มานาห์คือชื่อของเธอสินะ...เด็กหญิงสรุปกับตัวเองในใจ
เธอพยายามไม่นึกคาดเดาว่าชายในชุดเกราะที่ตายไปมีความสัมพันธ์กับเธออย่างไร เธอกลัวที่จะรู้ความจริงนั้น
เป้าหมายของเธอในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว....กำจัดต้นตอแห่งความชั่วร้าย Wendel ให้สิ้นซาก
"ทำได้ดีนี่ #990000" เสียงทักทายทำให้เด็กหญิงต้องหันไปมอง ผู้มาคือเด็กชายในชุดและหน้ากากสีดำที่บินลงมาจากท้องฟ้า
Spoiler for Hiden:
"#000000..." เด็กหญิงพยายามทักตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
Wendel เรียกเหล่าทหารของเขาว่าเหล่า Children of Revolution และจัดแบ่งแต่ละคนด้วยหมายเลขที่หมายถึงสีต่างๆ
หมายเลข #000000 Pure black เป็นผู้ที่แข็งแกร่งและภักดีต่อ Wendel มากที่สุด ทำหน้าที่เป็นผู้นำสารของเขา
ไม่มีอะไรต้องสื่อสารมากนัก ในเมื่อราชาและประชาชนของอาณาจักรนี้ล้วนแต่ยอมจำนนต่อ Wendel โดยไม่มีเงื่อนไข
#000000 บอกว่าภารกิจของเธอที่อาณาจักรนี้จบลงแล้ว อีกสักครู่ เขาจะพาเธอและตัวประกันกลับไปที่ยานโนอาห์

เด็กชายชุดดำเดินไปท่ามกลางศพของพวกทหารในชุดเกราะที่มานาห์สังหาร ก่อนจะปล่อยหมอกสีดำออกมาครอบคลุมร่างเหล่านั้น
ร่างไร้ชีวิตลุกขึ้นมาราวกับตุ๊กตาที่ถูกเชิด ก่อนจะเดินมาเรียงแถวที่สองฟากข้างของท้องพระโรง
เด็กชายหยิบกระจกสีดำออกมาตั้งบนบัลลังค์ แล้วคุกเข่าลง ภาพของเวนเดลปรากฏขึ้นในกระจกนั้น เด็กหญิงรีบคุกเข่าลงตามสัญชาติญาณเช่นกัน
"พวกเจ้าคิดถูกแล้วที่ยอมจำนน ผู้ที่ขัดขืนจะมีชะตากรรมอย่างไรคงรู้แล้วสินะ ต่อไปนี้จงคอยฟังคำสั่งของข้าให้ดี" เวนเดลประกาศ ตามด้วยการกล่าว
สุนทรพจน์เกี่ยวกับการปกครองโลกของเขา มานาห์สังเกตว่าคนที่ฟังสุนทรพจน์หลายคนเริ่มมีนัยน์ตาเหม่อลอยราวกับถูกสะกดจิต
และเริ่มนึกออกถึงสิ่งที่เวนเดลทำกับพวกเธอ โชคดีที่ดูเหมือนว่าวิธีเดิมๆจะใช้ไม่ได้ผลกับเธออีก

ระหว่างที่ Pure Black พาเธอและพวกเชื้อพระวงศ์บินไปบนหมอกสีดำ เพื่อกลับไปยานของเวนเดล
มานาห์พยายามคิดวางแผนหาวิธีที่จะกำจัดเวนเดล สุดท้ายก็มีเพียงวิธีเดียวที่นึกออก
"#000000 ข้าต้องการพบท่านเวนเดล" มานาห์บอกกับเด็กชายชุดดำหลังจากส่งตัวประกันทั้งหลายเข้าขังในห้องพัก
"....."

เส้นทาง B
Spoiler for Hiden:
Manah ตั้งใจจะโค่นล้ม Wendel ให้จงได้
แต่ว่า...เธอจะทำอย่างไรดีล่ะ? Wendel มีกองทัพเป็นของตัวเองเชียวนะ? หมอนั่นไม่ใช่ศัตรูที่จะต่อต้านได้ง่าย ๆ เลย ต่อให้เธอพยายามเรียกตัวตนของเพื่อน ๆ แล้วให้ทุกคนหันกลับมาต่อต้าน Wendel ก็ใช่ว่าจะมีโอกาสสำเร็จ เพราะใช่ว่าเธอจะรู้จักเด็กทุกคนที่ถูกขัง และเจ้า Wendel ไม่ได้มีดีแค่นี้แน่ Manah ไม่ได้ฉลาดอะไรก็จริง แต่เธอมองออกว่า Wendel มีลูกเล่นซ่อนอยู่ไว้ตลบหลังเด็กดื้อผู้ทรยศอย่างแน่นอน
Manah พยายามขบคิดวิธีที่จะหาทางตลบหลัง Wendel อย่างแทบเป็นแทบตาย แต่ก็ยังคิดวิธีดี ๆ ไม่ออกเลย ถ้าเป็นแบบนี้ เกิดเรื่องที่เธอหายจากการถูกล้างสมองถูกเบื้องบนรู้เข้าละก็....เธอจะต้องถูกล้างสมองซ้ำเป็นแน่ แล้ว Manah จะไม่กลับมาเหมือนเดิมไปตลอดกาลเพราะไม่มีใครรู้ตัวตนของเธออีกต่อไปแล้ว...
ถึงจะหนีแล้วไปหาทางโต้กลับด้วยความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ก็ใช่ว่าจะทำได้ เพราะยานนั่นสามารถทำลายล้างเมืองทั้งเมืองได้เชียวนะ?

...ไม่สิ

ถ้ายานนั่นทำลายเมืองได้ทั้งเมืองจริง แล้วทำไม Wendel ถึงยังเสียเวลาส่งเด็กไปสังหารคนสำคัญล่ะ?

ถ้าไม่ใช่ว่ายานนั่นมีขีดจำกัดอะไรบางอย่าง อย่างระยะยิงจำกัดหรือต้องใช้พลังงานมหาศาลยิง Wendel ก็คงต้องการอะไรบางอย่างจากเมืองที่สภาพสมบูรณ์...
หาก Manah คิดถูก ก็หมายความว่าถึงเธอจะหลบหนีในเมืองใหญ่ ยานอันตรายก็ทำอะไรเธอไม่ได้

ถ้าอย่างนั้นละก็...แผนการของเธอคือการหันหลังให้กับพวก Wendel ในภารกิจถัดไป...
ถ้าเธอโชคดี ได้จับคู่กับคนที่เธอรู้จัก...เธอจะเรียกชื่อเขาหรือเธอที่อยู่ด้วยกัน แล้วหันมา "่ช่วยเหลือ" คนสำคัญที่ถูกมอบหมายให้กำจัดนั่นซะเอง...

มันเป็นแผนการที่เสี่ยงดวงและบ้าบิ่นเกินกว่าจะเป็นแผน แต่นั่นเป็นสิ่งที่เธอจะทำได้ในตอนนี้...

เส้นทาง C
Spoiler for Hiden:
มานาห์กระโดดไปมาตามซอกหิน  หลบสารพัดอาวุธที่บินจู่โจมเธอจากผู้ไล่ล่าที่มีมากกว่า 5 คน  แต่แม้ว่าเธอจะเก่งกาจเหนือมนุษย์ กลุ่มผู้ไล่ล่าเองก็ได้รับการดัดแปลงเช่นเดียวกันกับเธอ  จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะหลบหลีกมาได้จนป่านนี้โดยไม่มีบาดแผล 

"หยุดนะ! ราห์   รู้สึกตัวเสียทีสิ  โจนาห์  " มานาห์ตะโกนบอกอดีตเพื่อนร่วมหมู่บ้านของเธอที่ยังคงระดมโจมตีเธอโดยไม่มีการยั้งมือ  หนึ่งในนั้นพุ่งเข้าแทงมานาห์ด้วยหอกด้ามใหญ่ยักษ์  อานุภาพที่เกรี้ยวกราดนั้นทำให้มานาห์ต้องกลิ้งตัวหลบ เป็นเหตุให้โดนมีดบินจากผู้ไล่ล่าอีกคนปักเข้ากลางหลัง

"อึ้ก" มานาห์ข่มความเจ็บปวด  เธอยอมรับแล้วว่าเปล่าประโยชน์ที่จะพูดกับพวกเขาในตอนนี้  ทุกคนยังคงตกอยู่ในอำนาจล้างสมองของ Wendel   เธอพลาดเองที่คิดว่าจะหาหนทางปลดปล่อยเพื่อนของเธอได้ในยานบินลำนั้น Wendel คงรู้ด้วยวิธีอะไรสักอย่างว่าเธอพ้นจากอำนาจล้างสมองของเขา  จึงสั่งให้เด็กคนอื่น ๆ จับตัวเธอ  โชคดีที่เธอไหวตัวทันและหนีออกไม่ได้  แต่กลุ่มไล่ล่าก็ยังคงติดตามมา   

"ขอโทษนะ  แต่เพื่อช่วยพวกเธอ  ฉันจะตายที่นี่ไม่ได้" มานาห์กระซิบ ขณะข่มความเจ็บปวดพลิกตัวหลบมือหอกที่พุ่งแทงเข้ามาอีกครั้ง  หนึ่งมือและหนึ่งขาของเธอกรีดวาดแผ่วเบาผ่านต้นแขนและต้นขาของคู่ต่อสู้เกิดเป็นเส้นสีแดงชั่วแวบหนึ่งก่อนที่ฝนเลือดจะกระฉูดออกมาปากแผล ส่งผลให้หน่วยไล่ล่าหมดสภาพไปหนึ่งคน 

แต่ก็ยังมีอีกสี่


การต่อสู้ดำเนินต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง  มานาห์สู้พลางหนีพลางไปเรื่อย ๆ หน่วยไล่ล่าถูกโค่นไปอีกสองคน  แม้ปฏิกริยาตอบสนองเหนือมนุษย์จะทำให้เธอหลบการโจมตีส่วนใหญ่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด  เธอได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ เลือดที่เสียไปเริ่มทำให้ฝีเท้าสับสน  ราห์และโจนาห์ สองหน่วยไล่ล่าที่ฝีมือดีที่สุดไม่ปล่อยโอกาศนี้ไป  มีดบินของราห์ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแร่ธาตุรอบตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น  ส่วนโจนาห์ที่มี่ร่างเหล็กไหลก็ยังคงวิ่งเข้าใส่มานาห์และหวุดหวิดจะคว้าตัวเธอได้มากขึ้นเรื่อย ๆ   

"อึ้ก อุ๊บ"  มานาห์หอบหายใจวิ่งโซเซขึ้นบนยอดเขาหินลูกหนึ่ง  โจนาห์กำลังไล่ตามเธอมา ด้านหลังคือราห์ที่กำลังหาจังหวะปามีดโจมตี

"กลับไปกับเรา ไม่งั้นก็ตาย"  โจนาห์พูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์กับมานาห์ที่ยืนหอบพิงหินใหญ่บนยอดเขา   ร่างเหล็กของเขาส่องประกายสีแดงของฟ้ายามเย็น  มันยังคงไร้ริ้วรอยแม้จะถูกมือเท้าของมานาห์กรีดใส่นับครั้งไม่ถ้วนตลอดการต่อสู้  พลังป้องกันทางกายภาพของเขาถือเป็นอันดับหนึ่งในจำนวนเด็กที่ Wendel ดัดแปลง

"ขอโทษ ขอโทษนะ  ราห์ โจนาห์"  มานาห์กระซิบ

"ที่ฉันต้องทำแบบนี้"  เธอหันกลับเข้าหาหินใหญ่ที่เธอพิง บิดเอวแล้วสะบัดแขนไปทางเดียวกัน ใช้พลังของเธอตัดหินใหญ่เป็นสองท่อนในแนวนอน  นั่นทำให้หินที่โดนตัดเลื่อนออกจากฐานและเริ่มกลิ้งลงเนิน  พาให้หินและดินถล่มตามลงไป  ภาพสุดท้ายที่มานาห์เห็นคือ อดีตเพื่อนร่วมหมู่บ้านของเธอโดนหินและดินหนักหลายตันโถมทับจนหายไป

โหวตมาๆ ขอโทษที่มาช้าค่ะ

Offline Lu

  • แกละพุงกาง แผ่พุงแล้วเหินบิน หน้าหลังเสมอกัน ความสมมาตรทางสรีระที่ใครก็ใฝ่หา
  • *
  • $1963Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To Lu
  • หมาหมีหมูแมวม้า
    • View Profile
Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #10 on: February 21, 2016, 10:10:29 PM »
สรุปคะแนนค่ะ


เนื้อเรื่อง A (Baron) ได้ 2+2
เนื้อเรื่อง B (dara)  ได้ 1+1
เนื้อเรื่อง C (Chao) ได้ 1+2

เนื้อเรื่อง A ได้ไปต่อ

ส่งเรื่องต่อได้ที่ Dara  ( 4nd player ) มีเวลาถึง 22.00  22/02/59

Offline Star

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #11 on: February 22, 2016, 01:02:51 PM »
4th Chapter Story

Route A
Spoiler for Hiden:
"ข้าต้องการพบท่านเวนเดล" มานาห์บอกเสียงนิ่งพลางลอบดูท่าทีอีกอีกฝ่าย

 #000000 จ้องหน้ามานาห์ด้วยแววตาไร้อารมณ์ เด็กหญิงรู้สึกหวั่นกลัวสายตานั่น ราวกับว่าความลับที่เธอปกปิดจะถูกความเยือกเย็นนั่นค้นพบ
"หากเจ้าคิดจะวางแผนอะไรบ้าๆ ให้ล้มเลิกซะ" เขาเอ่ยเสียงเรียบ

มานาห์สะดุ้ง

"เจ้าฆ่านายท่าน Wendel ไม่ได้หรอก"  #000000 เอ่ยต่อ

มานาห์ตกใจ ทำไมคนตรงหน้าถึงล่วงรู้ความคิดเธอ

Spoiler for Hiden:
"ข้ารู้ เพราะแววตาของเจ้าไม่เหมือนผู้ที่ตกอยู่ในอำนาจมนต์สะกด" เขาบอก "แล้วข้าก็เคยคิดจะทำเหมือนเจ้าด้วย"

"คิดทำเหมือนข้า? ความทรงจำเจ้ากลับมาแล้วรึ แล้วทำไมถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ ทำไมถึงยังรับใช้ Wendel อยู่" มานาห์ไม่เข้าใจ

"..." อีกฝ่ายเงียบไม่ยอมตอบ แล้วเดินหนีไป

"ความทรงจำเจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" มานาห์ตะโกนถามไล่หลัง

#000000 ชะงักฝีเท้าแล้วตอบโดยไม่หันกลับมา "ข้าไม่เคยถูกครอบงำตั้งแต่แรกแล้ว"

มานาห์มองชายชุดดำลอยหายไปจนลับสายตา เธอไม่เข้าใจ ทำไม #000000 ถึงยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ มีเหตุผลอะไรถึงยอมรับใช้ Wendel ต่อ ที่เขาบอกว่าเคยคิดสังหารคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และหากเขาทำไม่สำเร็จ เธอเองก็ต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้

ในตอนนั้นเองมานาห์จึงล้มเลิกการลอบสังหารไปก่อน เธอฝืนใช้ชีวิตล่าสังหารอย่างฝืนใจพลางคิดหาวิธีฟื้นความทรงจำตัวเองขณะมองหาโอกาสสังหาร Wendel ด้วย เธอไม่ยอมหนี เพราะการหนีทำให้เธอไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ Wendel อีกแล้ว ส่วน #000000 เองไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอเข้าไปสนทนาด้วยแม้แต่น้อย ราวกับถูกหลบหน้าทุกครา แต่เธอก็ไม่เข้าใจในตัว #000000 เพราะหลายครั้งเธอเกือบพลาดเผยพิรุธออกไปแต่เขามักปรากฏตัวมาช่วยกลบเกลื่อน เรื่องที่เธอหลุดจากมนต์สะกดเขาก็ไม่ได้แพร่งพรายหรือไม่ได้บอกแก่ Wendel ทั้งที่เป็นคนใกล้ชิดที่สุด

วันหนึ่ง มานาห์ได้จังหวะลอบสะกดรอย #000000 ทำให้เธอล่วงรู้ความจริงที่ว่า  #000000 มีน้องสาว น้องสาวของเขาคือหนึ่งในความล้มเหลวของการกลายพันธุ์ น้องสาวของ #000000 กลายเป็นมนุษย์ครึ่งปลาที่ไม่สามารถหายใจในน้ำได้ดังนั้นจึงไม่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำ และไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมนุษย์ได้ น้องสาวจะตายหากไม่ได้รับการดูแลจากเขา
Spoiler for Hiden:

"เจ้ารู้ในเรื่องที่ไม่สมควรรู้" #000000 เอ่ยเสียงเหี้ยมพลางย่างสามขุมเข้ามาหาหมายปิดปากเธอเสีย

"เพราะอย่างนี้ใช่ไหม เจ้าถึงยอมรับใช้ Wendel เจ้าไม่สามารถหนีไปโดยทิ้งน้องสาวไว้ที่นี่ได้ เจ้าไม่ใช่คนใจร้าย แต่เจ้าทำไปเพราะความจำเป็น" มานาห์พูดแทงใจ #000000 เข้าอย่างจัง เขาได้แต่ยืนนิ่ง ก้มหน้าไม่แสดงอารมณ์ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพึมพำว่า

"ไม่มีใครช่วยน้องข้าได้นอกจาก Wendel การยอมรับใช้เขาเป็นหนทางที่ดีที่สุด"

มานาห์สังเกตว่าสรรพนามที่ใช้เรียก Wendel เริ่มเปลี่ยนไป

"ไม่ใช่ ทุกปัญหาล้วนมีทางแก้ ข้าจะช่วยน้องสาวเจ้าเอง ข้าชื่อมานาห์ ถึงแม้ไม่รู้ว่าใช่ชื่อข้าจริง ๆ หรือเปล่า แล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร" มานาห์แนะนำตัวหวังทดสอบว่าอีกฝ่ายยอมเปิดใจให้เธอแล้วจริงๆ หรือยัง หากเขายอมบอก เท่ากับว่าเธอได้พรรคพวกเพิ่มถึงสองคน

"ข้า..."

Route B
Spoiler for Hiden:
Pure Black มองดูเธอด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความสงสัย มานาห์พยายามทำสีหน้าให้เรียบเฉยที่สุด
แม้ว่าภายในใจจะกังวลสักเพียงไหนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากโดนจับได้
"ต้องการงั้นหรือ ?" เด็กชายทวนคำขอของเธอ "บางทีเจ้าอาจจะสมควรไปพบท่านเวนเดลจริงๆ"
เขานำเธอไปตามเส้นทางสู่ห้องควบคุมบนยานโนอาห์ ระหว่างทางแม้จะพบกับ Children of Revolution คนอื่นๆ
แต่ก็ไม่มีใครคิดจะทักทายกันแต่อย่างใด มานาห์พยายามปลุกปลอบสมาธิซักซ้อมแผนการที่เตรียมไว้ภายในใจ
พวกเขาใช้เวลาอย่างเงียบเชียบบนทางเลื่อนประมาณสิบนาที ก่อนจะมาถึงหน้าห้องของเวนเดล
ไม่มีใครยืนเฝ้าอยู่อย่างที่คิด เวนเดลไม่ต้องการองครักษ์หรือหน่วยรักษาความปลอดภัยใดๆ ในเมื่อตัวเขาเองคือกองทัพขนาดย่อมๆอยู่แล้ว
Pure Black แจ้งความจำนงของเขาต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หน้าห้อง ครู่หนึ่งประตูก็เปิดออกให้พวกเขาเข้าไป
ห้องของเวนเดลมีที่นั่งสำหรับใช้ถ่ายทอดคำสั่งและควบคุมยานอยู่ที่มุมด้านหนึ่ง อีกด้านเป็นโต๊ะสำหรับทำการทดลองบางอย่าง
รอบๆมีจอมอนิเตอร์และอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคที่เธอไม่รู้จัก ประตูด้านในสุดน่าจะต่อเข้ากับที่พักส่วนตัวของเขา
เวนเดลกำลังยุ่งอยู่กับการทดลองของเขา เมื่อพวกเธอคุกเข่าลงคำนับ เขาก็โบกมือเป็นสัญญาณให้ลุกขึ้นตามสบาย
"เธอต้องการพบฉันหรือ#990000 ?" เวนเดลถามเธอระหว่างควบคุมให้แขนกลทำการผสมสารในตู้นิรภัยข้างหน้า
"ค่ะ ท่านเวนเดล ฉันรู้สึกว่าตัวเองแปลกไปหลังจากภารกิจครั้งก่อน มีคนพยายามเข้ามาทักเหมือนกับรู้จัก" เด็กหญิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น
"น่าสนใจดีนี่" เวนเดลยิ้มตามแบบฉบับของเขา ก่อนจะวางอุปกรณ์ต่างๆลง หันมาคุยกับเธออย่างจริงจังกว่าเดิม
"รู้ไหม#990000 ชื่อของเธอคือ Crimson Red เพราะความสามารถของเธอคือการควบคุมเลือดของตัวเอง"
"มันเป็นพลังที่ใช้เพิ่มขีดความสามารถของร่างกายได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว ดูเหมือนจะทำให้ความสามารถในการรักษาตัวก็สูงขึ้นด้วย"
"นั่นเป็นสาเหตุที่เธอหลุดพ้นจากการควบคุมของฉันได้ก่อนใครๆ พวกChildren of Revolution น่ะไม่มีความต้องการหรอกนะ"
"แค่เธอพูดแบบนั้น #000000 ก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วที่ต้องการมาพบฉันเธอมีแผนการอะไรกันแน่ ?"
มานาห์ พบว่าตัวเองแทบจะตกอยู่ภายใต้การสะกดของเวนเดลอีกครั้ง นี่เธอสารภาพทุกอย่างไปหมดแล้วหรือเปล่านะ เด็กหญิงคิด
เธอพยายามสลัดความรู้สึกอื่นๆทิ้งไป หันมาตั้งใจกับการใช้พลังครั้งสุดท้าย
ร่างของเธอเปล่งแสงสีแดงออกมาเมื่อมานาห์บังคับให้เกิดปฏิกริยาฟิสชั่นของเลือดในร่างตนเอง...

Route C
Spoiler for Hiden:
มานาห์กระโดดไปมาตามซอกหิน  หลบสารพัดอาวุธที่บินจู่โจมเธอจากผู้ไล่ล่าที่มีมากกว่า 5 คน  แต่แม้ว่าเธอจะเก่งกาจเหนือมนุษย์ กลุ่มผู้ไล่ล่าเองก็ได้รับการดัดแปลงเช่นเดียวกันกับเธอ  จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะหลบหลีกมาได้จนป่านนี้โดยไม่มีบาดแผล 

"หยุดนะ! ราห์   รู้สึกตัวเสียทีสิ  โจนาห์  " มานาห์ตะโกนบอกอดีตเพื่อนร่วมหมู่บ้านของเธอที่ยังคงระดมโจมตีเธอโดยไม่มีการยั้งมือ  หนึ่งในนั้นพุ่งเข้าแทงมานาห์ด้วยหอกด้ามใหญ่ยักษ์  อานุภาพที่เกรี้ยวกราดนั้นทำให้มานาห์ต้องกลิ้งตัวหลบ เป็นเหตุให้โดนมีดบินจากผู้ไล่ล่าอีกคนปักเข้ากลางหลัง

"อึ้ก" มานาห์ข่มความเจ็บปวด  เธอยอมรับแล้วว่าเปล่าประโยชน์ที่จะพูดกับพวกเขาในตอนนี้  ทุกคนยังคงตกอยู่ในอำนาจล้างสมองของ Wendel   เธอพลาดเองที่บอก Pure black ว่าต้องการพบกับ Wendel  หุ่นกระบอกไม่ควรมีหัวใจ เจ้านั่นอาจจะคาดไว้แล้วว่าอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หรือไม่ก็อาจรู้ได้ด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งว่าเธอพ้นจากอำนาจล้างสมองของเขา  จึงสั่งให้เด็กคนอื่น ๆ จับตัวเธอ  โชคดีที่เธอไหวตัวทันและหนีออกไม่ได้  แต่กลุ่มไล่ล่าก็ยังคงติดตามมา   

"ขอโทษนะ  แต่เพื่อช่วยพวกเธอ  ฉันจะตายที่นี่ไม่ได้" มานาห์กระซิบ ขณะข่มความเจ็บปวดพลิกตัวหลบมือหอกที่พุ่งแทงเข้ามาอีกครั้ง  หนึ่งมือและหนึ่งขาของเธอกรีดวาดแผ่วเบาผ่านต้นแขนและต้นขาของคู่ต่อสู้เกิดเป็นเส้นสีแดงชั่วแวบหนึ่งก่อนที่ฝนเลือดจะกระฉูดออกมาปากแผล ส่งผลให้หน่วยไล่ล่าหมดสภาพไปหนึ่งคน 

แต่ก็ยังมีอีกสี่


การต่อสู้ดำเนินต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง  มานาห์สู้พลางหนีพลางไปเรื่อย ๆ หน่วยไล่ล่าถูกโค่นไปอีกสองคน  แม้ปฏิกริยาตอบสนองเหนือมนุษย์จะทำให้เธอหลบการโจมตีส่วนใหญ่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด  เธอได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ เลือดที่เสียไปเริ่มทำให้ฝีเท้าสับสน  ราห์และโจนาห์ สองหน่วยไล่ล่าที่ฝีมือดีที่สุดไม่ปล่อยโอกาศนี้ไป  มีดบินของราห์ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแร่ธาตุรอบตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น  ส่วนโจนาห์ที่มี่ร่างเหล็กไหลก็ยังคงวิ่งเข้าใส่มานาห์และหวุดหวิดจะคว้าตัวเธอได้มากขึ้นเรื่อย ๆ   

"อึ้ก อุ๊บ"  มานาห์หอบหายใจวิ่งโซเซขึ้นบนยอดเขาหินลูกหนึ่ง  โจนาห์กำลังไล่ตามเธอมา ด้านหลังคือราห์ที่กำลังหาจังหวะปามีดโจมตี

"กลับไปกับเรา ไม่งั้นก็ตาย"  โจนาห์พูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์กับมานาห์ที่ยืนหอบพิงหินใหญ่บนยอดเขา   ร่างเหล็กของเขาส่องประกายสีแดงของฟ้ายามเย็น  มันยังคงไร้ริ้วรอยแม้จะถูกมือเท้าของมานาห์กรีดใส่นับครั้งไม่ถ้วนตลอดการต่อสู้  พลังป้องกันทางกายภาพของเขาถือเป็นอันดับหนึ่งในจำนวนเด็กที่ Wendel ดัดแปลง

"ขอโทษ ขอโทษนะ  ราห์ โจนาห์"  มานาห์กระซิบ

"ที่ฉันต้องทำแบบนี้"  เธอหันกลับเข้าหาหินใหญ่ที่เธอพิง บิดเอวแล้วสะบัดแขนไปทางเดียวกัน ใช้พลังของเธอตัดหินใหญ่เป็นสองท่อนในแนวนอน  นั่นทำให้หินที่โดนตัดเลื่อนออกจากฐานและเริ่มกลิ้งลงเนิน  พาให้หินและดินถล่มตามลงไป  ภาพสุดท้ายที่มานาห์เห็นคือ อดีตเพื่อนร่วมหมู่บ้านของเธอโดนหินและดินหนักหลายตันโถมทับจนหายไป

เอ้า โหวตได้

Offline Star

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #12 on: February 22, 2016, 02:48:39 PM »
4th Chapter Result

Route A WIN

Route A (Lu) 2+2=4
Route B (Baron) 1+1=2
Route C (Chao) 1+2=3

เนื้อเรื่องส่งต่อที่ Baron (1st Player)

เวลาจำกัดถึง 23/2/2016 15.00น.

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #13 on: February 23, 2016, 01:13:40 AM »
ตอนที่ 5

เนื้อเรื่อง A

Spoiler for Hiden:
"ข้าบอกแล้วว่าไม่มีใครช่วยได้นอกจากนายท่าน Wendel" น้ำเสียงของ #000000 กลับมาเยือกเย็นดังเดิม

ในตอนนั้นเองประตูเลื่อนเปิดออกพร้อมกับมี Children of Revolution สี่คนเข้ามาในห้องด้วยแววตามุ่งร้ายต่อมานาห์ ตามด้วย...
Spoiler for Hiden:
"ในความสมบูรณ์แบบย่อมต้องมีจุดผิดพลาดเล็กน้อยเสมอ การครอบงำจิตใจต้องมีสักวันที่มนต์สะกดคลายออก อันที่จริงคงไม่มีเด็กคนไหนอยากหลุดออกมาจากอำนาจสะกดเพื่อมารับรู้ความจริงว่าตนเป็นผู้สังหารเผ่าพันธ์ตัวเองหรอกมั้ง หึหึ" Wendel เอ่ยพลางแย้มยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่มานาห์รังเกียจและกดดันจนร่างกายเธอสั่นสะท้าน

จากสถานการณ์นี้ทำให้เธอรู้ว่า #000000 ไม่รับความช่วยเหลือ เขารายงาน Wendel สถานะของมานาห์ถูกเปิดโปง เด็กๆ คนอื่นล้อมทางหนีเพียงหนึ่งเดียวของห้องนี้ไว้ มานาห์ตัดสินใจพุ่งเข้าโจมตี Wendel ด้วยโอกาสสุดท้ายอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ Children คนอื่นๆ เข้ามาขวางไว้ แต่เธอก้าวเท้า ย่อ แล้วหมุนตัวหลบได้อย่างสวยงาม รอดช่องหว่างระหว่างคู่ต่อสู้เข้าถึงตัว Wendel อย่างรวดเร็ว มือขวาพุ่งไปข้างหน้าหมายทะลวงอกเป้าหมาย ทว่าในตอนนั้นเองร่างกายของเธอกลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ดังใจ หมอกดำปริศนาบีบรัดร่างกายเธอ เธอรู้สึกราวกับกระดูกทั่วร่างถูกบด เธอหายใจไม่ออก ไม่สามารถดิ้นรนขัดขืนได้ พลังอะไรกัน

"ทำดีมาก #000000 ฆ่ามันซะ" Wendel สั่ง

ควันดำยกร่างเธอขึ้นกลางอากาศ มานาห์ตะเกียกตะกายอ้าปากหาอากาศหายใจ เธอกำลังจะตาย ควันดำจับแขนขาเธอบิดกลางอากาศ เลือดสีแดงสาดกระจาย อวัยวะภายในหลุดกองลงกับพื้นน่าสยดสยอง
มานาห์เสียชีวิต

"โหดร้ายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ น่าเสียดายถ้าเจ้าลงมือไม่หนัก ข้าจะเก็บร่างยัยหนูนี่ไปดัดแปลงเสียหน่อย ทักษะระบำโลหิตค่อนข้างน่าสนใจแท้ๆ" Wendel ทำหน้าเสียดาย

"ขออภัยนายท่าน ข้าไม่อาจเก็บคนทรยศให้อยู่รกหูรกตาได้" #000000 เอ่ยอย่างเย็นชาพลางมองซากศพด้วยแววตาไร้ชีวิต

"ใช่ นี่แหละคือจุดจบของผู้ทรยศ" Wendel เอ่ยเสียงเหี้ยม เขาเหลือบมอง #000000 ราวกับต้องการสื่อความนัยบางอย่าง
.
...
.....
"!!!" มานาห์ฟื้นตื่นขึ้นบนฟูกนอนเก่าๆ ภายในห้องฝุ่นจับแห่งหนึ่ง เหตุการณ์เมื่อครู่ยังติดอยู่ในความทรงจำ เธอยังไม่ตาย เธอสับสนงุนงงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ลุกขึ้นนั่งก็ยังไม่ค่อยไหวเพราะรู้สึกปวดเมื่อยร่างกายไปหมด ไม่รู้ว่าเธอหลับมากี่ชั่วโมงแล้ว แสงสีแดงของพระอาทิตย์ยามเย็นฉาบทุกอย่างให้เป็นสีเดียวกับชุดของเธอ

หรือว่านี่คือความฝัน หรือว่าเป็นสวรรค์กันแน่

ความสงสัยของเธอถูกไขกระจ่างชัดเมื่อเห็นควันสีดำจับตัวหนาเป็นตัวอักษรลอยอยู่กลางอากาศ มันเรียงไว้ว่า
"หนีไปซะ เจ้าเป็นอิสระแล้ว"

เมื่ออ่านจบควันก็เลือนหายไปราวกับภาพลวงตา #000000 ตบตาทุกคนว่าเธอตายแล้วเพื่อที่จะได้ไม่ถูกตามล่า เขาไม่ได้หักหลังเธอ เขาช่วยเธอไว้ต่างหาก แทนที่มานาห์จะรู้สึกดีใจ แต่เธอกลับรู้สึกโกรธ เธอโมโหที่ถูกกันให้ออกมาราวกับคนไร้ค่า หนีอะไรกัน เธอจะไม่หนี เธอจะหาทางทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของ Wendel ให้ได้!!!!

เนื้อเรื่อง B

Spoiler for Hiden:
"...Gaubert" #000000 ยอมบอกชื่อของเขาและบอกด้วยว่าน้องของเขาชื่อ Galatea

 เขาเล่าว่า  จากการรับใช้ที่ซื่อสัตย์ตลอดมา ทำให้เขารู้ถึงเรื่องของ Wendel  พอสมควร   Wendel  ไม่ใช่มนุษย์บนพิภพนี้  เขามาจากดาวดวงอื่นที่ไกลมาก ๆ  ดูเหมือนว่าจะเกิดสงครามขึ้นที่นั่น  ฝ่ายของ Wendel พ่ายแพ้  และเขาคือคนที่หนีมาได้   เคยอยู่รับใช้ในห้องส่วนตัวของ Wendel ได้เห็นภาพจำลองของจักรวาลและดวงดาว  ภาพการต่อสู้ของกองยานที่แต่ละลำใหญ่กว่ายานสีเงินของ Wendel หลายร้อยหลายพันเท่า  แม้จะไม่เข้าใจความหมายของภาพและเสียงพูดที่ได้ยิน แต่ Gaubert ก็เดาได้จากใบหน้าที่เคียดแค้นและโศกเศร้าขณะจ้องภาพเหล่านั้นของ Wendel 

"เขาคงพยายามยึดพิภพแห่งนี้เพื่อสร้างกองทหารส่วนตัวแล้วกลับไปสู่สงครามอีกครั้ง" Gaubert สรุป

"แต่เจ้าบอกว่าเห็นการรบที่ใช้กองยานที่ใหญ่กว่ายานของ Wendel ไม่รู้กี่เท่าไม่ใช่รึ แล้วเจ้าคิดว่าแค่เด็กอย่างพวกเรา ต่อให้Wendel สร้างขึ้นมาอีกนับพันนับหมื่น จะไปสู้อะไรกับกองทัพที่ใหญ่ขนาดนั้นได้" มานาห์ตั้งคำถาม 

"ข้าไม่รู้  แต่...." Gaubert ส่ายหน้าแล้วพูดต่อ

"ข้าคิดว่าเขาอาจจะใช้พวกเราเพื่องานอื่น ไม่ใช่การสู้กับกองยานมหึมา  แต่เพื่อสู้กับใครสักคนหรือสักฝ่ายบนดาวนี้  เจ้าไม่สังเกตหรือว่า  เขาระวังมากที่จะให้ใครรู้ร่องรอยของยานบินหรือจุดที่พวกเจ้าจะลงไปปฏิบัติภารกิจ  เหมือนกับว่าเขากำลังหลบการแกะรอยของใครสักคน  นอกจากนี้เขายังให้ข้าส่งพวกเจ้าบางคนไปปฏิบัติงานพิเศษในการจับตัวใครหลายคนรวมถึงเข้ายึดหอตำราหลายแห่งเพื่อให้เขารวบรวมข่าวสาร ซึ่งข้าเชื่อว่าน่าจะเป็นข่าวเกี่ยวกับศัตรูของเขาบนพิภพนี้"

"แล้วเจ้าไม่รู้หรือว่าศัตรูของ Wendel คือใคร  เจ้าไม่ได้ลองอ่านหนังสือในหอตำราหรือสอบถามคนที่ Wendel ให้จับตัวมารึ" มานาห์ซัก เธอเริ่มมองเห็นความหวัง  ถ้า Wendel จริงจังกับการหาร่องรอยของใครบางคนจริง  คนคนนั้นหรือกลุ่มนั้นอาจจะช่วยเธอในการจัดการ Wendel ได้

"Wendel ให้เรายึดหอตำรา  จากนั้นเขาก็เข้าไปคนเดียวกับบรรณารักษ์  เมื่อเสร็จงาน หอตำราจะถูกเผาไปพร้อมบรรณารักษ์  ส่วนคนที่ถูกจับมา Wendel ก็จะสอบปากคำด้วยตัวเอง หลังจากนั้น หากไม่ตายก็จะถูกจับคุมตัวไว้ในห้องขังพิเศษ อืม  จริงสิ  ถ้าเป็นเจ้า อาจจะมีทางก็ได้" Gaubert หรี่ตามองมานาห์

"เจ้าหมายความว่าอย่างไร" มานาห์สงสัย

"ข้าจำได้ว่าตอน Wendel ไปที่หมู่บ้านเจ้าแล้วทำลายมันทิ้ง  เขาจับชายคนหนึ่งกลับขึ้นมาด้วย แต่บางทีเขาคงจะลืมไป ข้าเองก็ไม่ได้เตือนเขา ทุกวันนี้ชายคนนั้นยังถูกขังลืมอยู่ในห้องขังพิเศษ บางทีชายคนนั้นอาจจะเคยคุยกับคนที่ Wendel สอบปากคำ และรู้ว่า Wendel กำลังตามหาอะไร  ข้าเคยพยายามคุยกับชายคนนั้น แต่เขาไม่พูดอะไรสักคำ หากเป็นเจ้าที่มาจากหมู่บ้านเดียวกัน เขาอาจจะพูดด้วยก็ได้  ว่าแต่เจ้าจำได้ไหมว่าเขาชื่ออะไร"  Gaubert ถาม

"เขา..ชื่อมาซีโอ" มานาห์พึมพำ  ความจำอีกท่อนของเธอกลับมา มันทะลักทลายราวกับเขื่อนที่แตก  ความจริงที่เธอลืมไปพักใหญ่ เธอปลดปล่อยมันออกมาพร้อมกับน้ำตาเม็ดโต

"เขาเป็นพี่ชายของข้า" 

เนื้อเรื่อง C
Spoiler for Hiden:
โทมัส
นั่นคือชื่อที่แท้จริงของเด็กชาย หาใช่ #000000
ส่วนชื่อของสาวน้อยผู้เป็นมนุษย์ครึ่งปลานั้นโทมัสไม่ยอมบอก เพราะเรื่องตัวตนแบบนี้ให้เจ้าตัวขึ้นมาพูดเองนี่แหละ ถึงจะดีที่สุด
แม้โทมัสจะบอกไว้เช่นนั้น แต่มานาห์ก็พอจะคาดได้ว่าความจริงแล้วเขาไม่ได้ไว้ใจเธอเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์มากกว่า ซึ่งก็สมเหตุสมผลอยู่เหมือนกัน ปัญหาที่ยากจะแก้ไขนี้ลำพังแค่โทมัสยังแก้ไม่ไหว แล้วตัวเธอจะทำอะไรได้ล่ะ? นี่คงเป็นความคิดของโทมัส
ใช่ ทุกปัญหามีทางแก้ แต่ใช่ว่าทุก ๆ คนความสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง แต่ก็เพราะแบบนั้นนั่นแหละ มานาห์จึงต้องตั้งใจหาทางแก้ปัญหาให้จงได้

"มีเวลาอีก 3 วัน กว่าภารกิจล่าสังหารครั้งใหม่จะเริ่มขึ้น..." โทมัสบอกเธอ

"หากหาทางกำจัดเวนเดลภายในช่วงเวลานั้นได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุด" แม้ความจริงจะเป็นเช่นนั้น แต่เวลา 3 วันในยานก็ใช่ว่าจะมีอะไรให้ทำมาก นี่ก็เป็นความจริงเหมือนกัน
จริงอยู่ที่ถึงเวลาผ่านไป 3 วันแล้วจะยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ก็ยังมีเวลาเหลืออยู่อีก...แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใด กองกำลังของเวนเดลก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น และนั่นก็หมายความว่าเวนเดลจะรับมือยากขึ้นกว่าเดิม

ถ้าอย่างนั้น...มานาห์ก็ต้องหาสิ่งที่เธอจะทำได้ภายในช่วง 3 วัน...แต่มันจะมีหรือ? ที่ผ่าน ๆ มาเธอก็ไม่ได้มีอะไรที่เธอพอจะทำได้เลยนะ... ไม่สิ ถ้าเป็นที่ผ่าน ๆ มาก็ไม่ได้มีอะไรที่มานาห์จะทำได้เลย...แต่ตอนนี้เธอมีโทมัส
มานาห์ตัดสินใจถามโทมัสเรื่องที่เขาพยายาม "ทำแบบเดียวกับที่เธอทำ"

"ทันทีที่ข้าบอกว่าจะขอพบเวนเดล คนที่เคยอยู่กับข้าก็หาข้าออกจากห้องไปทันที เพียงแต่ว่าเจ้านั่นไม่ได้พาข้าไปหาเวนเดล แต่พาข้าไปล้างสมอง โชคดีที่การล้างสมองไม่ได้ผล แต่เพื่อความมั่นใจ ข้าจึงต้องแกล้งทำเป็นถูกล้างสมองสำเร็จ..."

โทมัสเล่าเรื่องสิ่งที่เขาเคยพยายามทำเพื่อกำจัดเวนเดลมาโดยตลอด วางยาบ้าง พยายามเรียกสติคนที่เคยรู้จักบ้าง แอบทำให้ตุ๊กตาไร้ชีวิตหันมาทำร้ายเวนเดลบ้าง
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทุกวิธีที่เขาเคยทำจบลงที่ความล้มเหลว

มานาห์ฟังแผนการของโทมัสต่อไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ แล้วก็เรื่อย ๆ เธอค่อย ๆ เรียนรู้วิธีการที่ไม่ได้ผล
เคยมีคำกล่าวว่าความล้มเหลวไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นความประสบความสำเร็จที่ค้นพบว่ามันล้มเหลว
ดังนั้น มานาห์จึงตัดสินใจหลีกเลี่ยงหนทางที่เคยล้มเหลวมาก่อน แล้วไม่ทำมันซ้ำอีก

มานาห์ใช้เวลาพักทั้งหมดฟังเรื่องราวของโทมัสจนหมดเปลือก
เหลือเวลาอีก 2 วัน ภารกิจฆ่ากวาดล้างครั้งใหม่จะเริ่มขึ้น

เชิญโหวต ภายใน 01.00 24/02/59

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #14 on: February 23, 2016, 01:45:10 PM »
ผลโหวต

เนื้อเรื่อง A (Lu) 2+1
เนื้อเรื่อง B (Chao) 2+1
เนื้อเรื่อง C (Dara) 2+1

้สิทธิ์ judge +1 ให้เรื่อง A ไปต่อ

ตอนต่อไปส่งที่ chao ภายใน 24 กพ 59 14.00