ไลท์นิ่งและลูกหมู่จัดการอาหารอย่างรวดเร็ว และรีบเข้าประจำที่ในอาคารชั้นสองทางตอนใต้ เธอใช้เวลาเล็กน้อยเท่านั้นในการจัดตำแหน่งลูกหมู่ ไม่นานนักแขกคนสำคัญก็ทยอยขึ้นมาในปรัมพิธีบนชั้นเดียวกันของอาคารฝั่งตรงข้าม เธอไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่ามีใครมั่ง แต่ดูจากไกล ๆ ก็คงเป็นนายทหารคนสำคัญของทั้งฝ่ายสาธารณรัฐและไลรันเอง
ผู้หญิงท่าทางสง่างามคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบทหารระดับสูงของราชอาณาจักรไลรันยืนขึ้นและมาประจำที่โพเดียม พร้อมกับชายร่างสูงผมดำคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบนายทหารระดับสูงของฝั่งสาธารณรัฐ เมื่อทั้งคู่ประจำที่ก็เริ่มมีเสียงดนตรีทหารที่เป็นการผสมระหว่างเพลงมาร์ชของไลรันและสาธารณรัฐดังขึ้น ก่อนที่ทหารขบวนแรกซึ่งเป็นขบวนพลธงของทั้งสองฝ่ายและทหารดุริยางค์จะเดินนำมาจากตอนใต้ของราชวังเข้ามาในสนามตรงกลาง
ระหว่างนี้ ก็มีกล้องไขขนาดใหญ่ตามจุดต่าง ๆ คอยบันทึกภาพเหตการณ์ลงบนม้วนฟิล์ม ขบวนทหารต่าง ๆ ก็ตามเข้ามาตามจังหวะเพลงสวนสนามและเดินวนรอบหนึ่งที ทำความเขารพให้ประธานในพิธีทางตอนเหนือ และเข้าประจำในตำแหน่งของตน การสวนสนามใช้เวลาราว ๆ 20 นาทีก่อนที่ทหารทุกคนจะเข้าประจำที่และเสียงดนตรีหยุดลง
ชายในเครื่องแบบสาธารณรัฐที่อยู่บนโพเดี้ยมก้าวออกจากตำแหน่งและโค้งให้กับผู้หญิงข้าง ๆ เล็กน้อย ก่อนจะกลับไปนั่งที่เก้าอี้นวมข้างหลัง หญิงสาวคนนั้นเหลือบซ้ายขวาเล็กน้อยพอเป็นพิธี ความเงียบเข้าครอบงำทั้งราชวัง ก่อนที่เธอคนนั้นจะเริ่มพูดขึ้น
"ในวันนี้.. พวกเราทุกคน มาเพื่อเป็นสักขีพยานของสันติภาพ และความรุ่งเรือง..เป็นสักขีพยานในประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของทั้งสองชาติ.." เธอสุนทรพจน์ต่อไปอีกราว ๆ 3 นาทีเกี่ยวกับสันติภาพและการปรองดอง ก่อนที่จะเริ่มให้สัญญาณในการจบบทพูด "และในเวลานี้ แม้เราจะเคยแบ่งฝั่งฝ่ายและห้ำหั่นกันในสมรภูมิมาก่อน วันนี้เราไม่เป็นเช่นนั้น ราชอาณาจักรไลรันและสาธารณรัฐที่หนึ่ง ได้ประดาศสงบศึกอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เวลานี้เป็นต้นไป"
เมื่อเธอพูดจบ ทหารทุกคนในสนามก็ทำความเคารพในท่าวันทยาวุธ เธอค่อย ๆ ก้าวถอยหลัง ประธานชายคนเดิมลุกขึ้นจากเก้าอี้นวม โค้งให้กับเธอ เธอโค้งตอบ ก่อนจะกลับไปนั่งเก้าอี้และให้ฝ่ายผู้ชายคนนั้นเข้ามาที่แท่นโพเดี้ยมแทน
"กระผมคงจะใช้เวลาตรงนี้อีกไม่มาก เพราะสิ่งที่ผมอยากจะพูดส่วนใหญ่ องค์ราชินีได้พูดไปแล้วแทบทั้งสิ้น.." ชายคนนั้นเริ่มกล่าวสุนทรพจน์ของตนเอง เขามีสำเนียงออกต่างชาติเล็กน้อยเมื่อพูดภาษาไลรัน "ก่อนอื่นเลย ผมคงต้องขอชื่นชมทหารของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะทหารของราชอาณาจักรไลรัน ที่ต่อสู้เยี่ยงชาติทหาร ในการปกป้องมาตุภูมิของตน.."
การกล่าวสุนทรพจน์ของเขาดำเนินต่อไป ไลท์นิ่งคอยสังเกตสิ่งผิดปรกติรอบ ๆ ตัว ก่อนที่เธอจะเหลือบไปเห็นช่างกล้องคนหนึ่งในอาคารทางตะวันตกที่ชิ้นไปทางผู้ชายหลังโพเดี้ยม ที่เธอสงสัยเพราะเขาไม่ได้ใช้มือไขฟิล์มกล้องให้หมุนต่อไป แต่ยังคงทำท่าเล็งกล้องไปมาอยู่ ดูเหมือนเซราห์ก็เห็นท่าทีแปลก ๆ เช่นกัน เมื่อหันไปทางตะวันออก ก็ดูเหมือนซิลเวเรียจะมีท่าทีแปลก ๆ เหมือนกำลังจ้องมองอะไรบางอย่างที่เป็นพิรุธอยู่เหมือนกัน..