เสียงย่ำเท้าของหญิงสาวผู้หนึ่งในชุดนักรบชาวตะวันออก ดังไปทั่วตลาดเมืองท่า เธอวิ่งไปเรื่อยมองหาใครบางคนก่อนจะชะงัก
"อ่ะ.."
“แม่หญิงเมแกน ! ท่านอยู่นี่เองหรือขอรับ”
นาเกียร้องเรียกขณะเร่งฝีเท้าเข้าไปหาหญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลเข้มซึ่งยืนไม่ห่างจากบริเวณท่าเทียบเรือ
เมแกนหันไปตามเสียงเรียก เธอถอนหายใจก่อนจะเอ็ดอีกฝ่ายเบาๆ
“ข้าบอกแล้วไง.. เรียกแค่ชื่อข้าก็พอ”
นาเกียสะดุ้งอย่างลืมตัวและหัวเราะแหะๆ
“งั้นเมแกน.. ท่านมาทำอะไรที่นี่อีกแล้วน่ะขอรับ ?” เธอถามพลางมองรอบๆอย่างสงสัย
หลังจากเหตุการณ์มหาเวทดาวตกครั้งนั้น ตลอดช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา บ้านเมืองใน Rohaan ที่เสียหายได้รับการซ่อมแซม
ทั้งตลาดและร้านค้าต่างๆก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ส่วนทางร้าน Aban'Jamiil ก็เปิดให้บริการตามปกติ หลังการปรับปรุงและขยายร้านครั้งใหญ่
แถมในตอนนี้ก็มีลัตเตอร์ลิเย่ มาทำงานที่ร้านเต็มตัว งานขนย้ายและแรงงานในร้านจึงไม่ต้องห่วง
เรียกได้ว่าบรรยากาศในตอนนี้เริ่มเข้าสู่ความสงบสุขอย่างที่เคยเป็น..
แต่ทว่า ก็ยังมีคนคนหนึ่งที่ยังทำตัวแปลกๆอยู่...
นับจากเหตุการณ์วันนั้นนาเกียมักจะเห็นเมแกนหายตัวมาที่ท่าเรืออยู่บ่อยครั้ง
บางทีก็เหม่อมองไปที่ทะเลบ้าง ขึ้นเรือประมงไปกับพวกพ่อค้าแม่ค้าแล้วกลับมาแบบซึมๆบ้าง
เหมือนกับกำลังรอ และตามหาอะไรบางอย่างไปพร้อมๆกัน
ด้วยความสงสัยที่สะสมมานานนาเกียก็ได้ถามออกไป
และคำตอบที่ได้กลับมาไม่ได้สร้างความแปลกใจให้นักรบสาวเท่าใดนัก
“...ข้าคิดว่า ถ้ามองหาดีๆ อาจจะพบเด็กสองคนนั้นอีกครั้งก็ได้” เมแกนตอบอย่างไว้ท่าและมีมาด
แม้ในใจจะรู้สึกผิดหวังที่สุดท้ายเธอก็ยังไม่เจอพวกเขาก็ตาม
...ฟาดิลกับซูไลก้า...
ตั้งแต่วันนั้น เมแกนก็ไม่เคยพบทั้งสองคนอีกเลย
ราวกับฟาดิลและซูไลก้าหายตัวไปเสียเฉยๆ
“… หรือข้าจะทุบแรงไป..”
เมแกนทำสีหน้าคิดหนักจนคิ้วขมวดกันแทบจะเป็นโบว์ จนนาเกียนึกขันในใจ นักรบสาวพูดขึ้น
“บางที พวกเขาอาจจะไปท่องเที่ยวอยู่ก็ได้ขอรับ”
นาเกียหัวเราะให้อีกฝ่ายคลายความกังวล และเอ่ยต่ออย่างนุ่มนวล
“….แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าจะนานแค่ไหน ข้าก็เชื่อว่าท่านจะได้พบพวกเขาอีกครั้ง...”
เมแกนนิ่งฟังพลางแตะคางครุ่นคิด แล้วยิ้มออกมาในที่สุด
“นั่นสินะ… ข้าก็หวังไว้อย่างนั้น”
เมื่อได้เห็นสีหน้าที่หายซึมของลูกพี่ลูกน้องแล้ว นาเกียก็เบาใจ
“เพราะงั้นเรากลับกันเถอะขอรับ ! ท่านลุงท่านป้ากำลังรอท่านอยู่”
“หืม.. รอข้าทำไมน่ะ” เมแกนเลิกคิ้วสงสัย
“ก็เรื่องนั้นไงขอรับ เรื่องนั้นน่ะ อย่านึกว่าข้าไม่รู้…” นาเกียยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางเอานิ้วจิ้มไหล่อีกฝ่ายราวกับจะแซว
“ความรู้สึกที่แม่หญิงมีต่อพ่อหนุ่มลัตเต…”
ผลัวะ!!!พูดไม่ทันจบนาเกียก็ถูกฟาดท้ายทอยทันที
แม่ค้าสาวที่ในตอนนี้มีสีหน้าติดจะแดงนิดๆ กอดอกพลางจ้องนาเกียอย่างคาดโทษ
“ข้าบอกแล้วไง ว่าไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด”
“เอ้ะ … แต่ว่า ข้าเห็นคุ้กกี้..” เมื่อทำท่าจะทุบอีก นาเกียก็ร้องเหวอพลางยกมือห้ามไว้
“เรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ..” เมแกนถอนหายใจ
เมื่อเดาได้ว่าพ่อกับแม่ของเธอจะทำอะไรอีกแล้ว
“งั้นรีบกลับ! ก่อนที่พ่อแม่ของข้าจะทำเรื่องยุ่ง” เธอเร่งดันหลังนาเกียให้ออกเดิน แบบจี้หลังสุดๆ
“เข้าใจแล้วขอรับ! แม่หญิงอย่าเร่งข้าสิ!” นาเกียร้องบอกให้ญาติของเธอใจเย็น
เสียงเซ็งแซ่ของสองสาว ดังจนคนรอบข้างมองความวุ่นวายนี้อย่างขำๆ
แต่จู่ๆเมแกนก็หยุดเดินแล้วหันกลับมามองท่าเรืออีกครั้ง
คำพูดของนาเกียผุดขึ้นมาในใจ
….
คงมีสักวันที่ข้าจะได้พบพวกเจ้าอีก..
ไม่หรอก..
เราจะได้พบกัน ข้าเชื่ออย่างนั้น
...
“เมแกน..?” นาเกียหันมามองเมื่ออีกฝ่ายไม่เดินต่อ
“อืม ไม่มีอะไร”
เมแกนส่ายหน้าพลางยิ้มจางๆเปลี่ยนอารมณ์
ทั้งคู่ไปตามถนนที่เต็มไปด้วยผู้คน
สู่ทางกลับบ้านที่แสนคุ้นเคย...
- TBC -