ยินดีต้อนรับสู่หอสมุดเลือด : Play by Post Forum ที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทย
0 Members and 2 Guests are viewing this topic.
Ally : Lenne 10(Lock), Raa 7, Aigos 5, Meki 2, Ral 1, Mihad 5, Nisia -1, Er 2, Maguru 6, Karol 5
ทั้งสองแอบซ่อนอยู่ใกล้ๆนี้ ซึ่ง Er บอกว่าสองคนนี้เป็นยอดฝีมือที่ทำงานรับใช้กษัตริย์แห่ง Rosaria แต่ Karol ได้ขอยืมมา จึงวางใจได้เลยว่าเก่งกาจไม่ธรรมดา
Milen คิดว่าคงติดต่อ Mihad ไม่ได้ เขาไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ส่วน Aigos คงไม่มีเงินให้กู้มากพอหรอก Lenne แม่ของเธอก็เช่นกัน ถ้ามีคงไม่ต้องทำเควสกู้ Nisia เหรอ? เป็นความคิดที่ดีนะ แต่เธอยังคิดว่าจะหลอกแม่นั่นได้อยู่อีกหรือไงกัน
การที่จะเดินทางข้ามเมืองเพื่อไปกู้ Nisia มันคงจะเกินกำลังของเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง แต่ถ้าหากไม่มีทางเลือกอื่นการเดินทางไปกับ Er ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดและในระหว่างที่เดินทางไปเธอก็คงจะให้ Raa กับ Maguru ตามหาข่าวของทั้ง 3 เรื่องที่พยายามหากันอยู่ก่อนหน้านี้นั้นเอง (ซึ่งในแง่ระบบไม่สามารถทำได้ ; w;)เพราะงั้นเธอจึงเลิกคิดที่จะไปกู้จาก Nisia ที่อยู่ต่างเมือง และหันมาหาข่าวของงานที่คนใหญ่คนโตในเมืองนี้จะจ้างให้ทำน่าจะเป็นทางเลือกที่น่าจะดูดีกว่าแล้วเธอจะหาข้อมูลคนใหญ่คนโตที่มีเงินจากไหนงั้นหรอ ? มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคนที่มีชื่อเสียงด้านความร่ำรวยภายในเมืองแห่งนี้อยู่แล้วบางทีเธออาจจะลองเปลี่ยนแนวคิดใหม่จาก ทำยังไงเธอถึงจะกู้เงิน 300 เพื่อมาเลื่อนขั้นให้ Ral เป็น ทำยังไงคนใหญ่คนโตถึงจะเลื่อนขั้นให้ Ral โดยไม่ต้องจ่ายเงิน 300 !?และอย่างที่ว่า Aigos คงไม่มีเงินให้เธอกู้ก็จริง แต่เค้าน่าจะพอมีหนทางหรือคนรู้จักที่พอจะสามารถยกระดับของ Ral ทำให้มีสถานะเดียวกันกับพวกเธอได้ จริงไหม ? ดังนั้นก่อนที่จะทำอะไรไปมากกว่านี้ เธอจึงเลือกที่จะจัดของต่าง ๆ ภายในกลุ่มของเธอให้เรียบร้อยก่อนโดยเธอคิดว่าบางทีทักษะ Steal ที่ Meki ได้สอนเธอมานั้น อาจเหมาะกับ Maguru มากกว่าตัวของเธอเพราะงั้นเธอจึงให้ Maguru เป็นผู้ถือ Dragon Shield และ Mysterious Coffin แทนตัวของเธอเองส่วนตัวเธอ (Milen) จะเป็นผู้ถือ World of Spell แทน Maguru เพราะเธอคิดว่าภายในหนังสือเล่มนี้นั้นน่าจะมีภาษาอื่นที่นอกเหนือจากภาษาที่ใช้ในปัจจุบัน และ Maguru คงไม่สามารถอ่านและบอกพวกเธอได้ทั้งหมดเป็นแน่เพราะงั้นเธอจึงตกลงกันตามนี้ ก่อนที่จะ Maguru ถือ Great Mana Potion ของเธอ ก่อนที่จะเริ่มต้นฝึกฝนทักษะ Steal*รอการยืนยันเรื่องเงื่อนไขและการใช้ Steal ก่อนเพราะงั้นโรลแค่นี้ก่อนแล้วกัน
มหาอาคมกาลเวลา LaFatumร่างของทั้งหมดถูกสูบเข้าห้วงมิติไปในวินาทีต่อมา สติสัมปชัญญะของเธอแทบจะหลุดลอยหายไปพร้อมกับร่างกายที่ราวกับจะถูกฉีกเป็นชิ้น
ค่ำคืนที่แสงอันสุกสกาวของดวงดาวที่พราวฟ้าถูกบดบังด้วยเมฆดำ เหลือเพียงแสงจันทร์สีเงินยวงที่ลอดผ่านมวลเมฆาและทาทับเมืองทั้งเมืองในราตรีนี้มองไปยังยอดหอระฆังฝั่งตะวันตกที่สูงลิบลิ่ว มันตั้งตระหง่านอวดศักดาอยู่บนเนินสูง แม้จะเต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลาแต่ก็ยังคงห่างไกลจากคำว่าทรุดโทรม มันยังคงใช้การได้ดี และดีพอจะเป็นได้ทั้งหอระฆังและหอสังเกตการณ์ มีทหารรักษาการบนนี้ที่ไม่เคยสัปหงกเลยแม้สักครั้ง เขาทำหน้าที่ได้อย่างดีจนถึงก่อนหน้านี้ แค่ไม่กี่วินาทีไม่ไกลจากร่างในชุดเกราะโซ่ที่นอนนิ่งสองหรืออาจจะสามคนบนพื้นหินเย็นเฉียบ ใครอีกคนยืนอยู่บนขอบหน้าต่างทอดสายตามองตรงไปยังปราสาทเก่าแก่ที่ล้อมด้วยกำแพงสูงเด่น มือขาวสะอ้านข้างหนึ่งยังกำกริชที่ชุ่มเลือดไว้แน่น มืออีกข้างจับกล้องส่องทางไกลขนาดเหมาะมือ ดวงตาที่เรียบเฉยเช่นเดียวกับใบหน้าที่ไม่บ่งบอกอากัปกริยามองผ่านกล้องที่ดัดแปลงมาเป็นพิเศษการรักษาการในพระราชวังยังคงแน่นหนา บางทีแม้แต่หนูสักตัวคงไม่อาจเล็ดลอดเข้าไปได้ ซึ่งเดิมทีมันก็ไม่ได้เข้มงวดถึงขนาดนี้ถ้าไม่ใช่การทำงานของมือสังหารที่ลงมือพลาดเมื่อวันก่อนนั่นไงล่ะ เหนือซุ้มประตูของกำแพงชั้นนอกยังมีศีรษะของพวกเขาถูกเสียบเอาไว้ เหล่าลูกแกะน้อยที่น่าสงสาร เหล่าลูกแกะที่อาจหาญโจนทะยานหมายชีวิตของราชสีห์เหนือกำแพงชั้นนอกที่มีคูน้ำล้อมรอบเห็นทหารรักษาการเดินสวนกันไปมาตลอดเวลา พวกเขามีผมสีดำ หรือน้ำตาล บ้างก็สีแดงเข้ม ร่างกายกำยำ ผิวคล้ำแดดและหยาบกร้านทุกคนมีดาบโค้งห้อยที่เอว ชุดเกราะโซ่ถักถูกสวมทับด้วยชุดเกราะเหล็กแผ่นอีกชั้น ชุดของพวกเขาเป็นสีแดงเพลิงสลับดำบนอกและผ้าคลุมเป็นสัญลักษณ์จันทร์เสี้ยวที่คล้ายกับเขี้ยวของมังกรอันเป็นสัญลักษณ์ของราชอาณาจักรที่ทรงอำนาจอันเลื่องลือนามที่สุด 'Fatimah'และวูบหนึ่งที่ลมกรรโชก ร่างบนหอระฆังก็หายไปราวกับมายาอาคม
- ต้องการมือดีติดตามไป 5 คน- ไปเพียงคนเดียว