* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [Gaia Ground] Front Desk (ข้อมูลเบื้องต้น และระบบเกมทั่วไป)  (Read 1344 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Thyself

สารบัญข้อมูลในกระทู้ :
  • ข้อมูลเบื้องต้น
    • Gaia Ground คืออะไร ?
    • Roleplay คืออะไร ?
    • หมวดหมู่ของ Roleplay
    • เล่น Roleplay ไปทำไม เล่นแล้วได้อะไร ?
    • Game Master (GM), Role Master (RM) หรือผู้ดูแลควบคุมเกม
    • Player หรือผู้เล่น
  • ระบบพื้นฐาน
    • Status หรือค่าสถานะ
    • Skill หรือสกิล ทักษะต่าง ๆ ของตัวละคร
    • Item หรือไอเทม สิ่งของต่าง ๆ ในเกม
    • Possess หรือที่เก็บ Skill Item ที่ยังไม่ได้สวมใส่
    • Experience Point หรือ Exp
    • Quest หรืองานต่าง ๆ หรือภารกิจ
    • Battle หรือการต่อสู้
  • เรื่องที่อื่น ๆ ที่ควรรู้


« Last Edit: November 26, 2015, 01:00:43 PM by Thyself »

 

Offline Thyself

=== ข้อมูลเบื้องต้น ===

   Gaia Ground คืออะไร ?
Gaia Ground คือเว็บบอร์ดย่อยเว็บบอร์ดหนึ่ง และใช้สำหรับเล่น Roleplay ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
ถ้าเปรียบเทียบ Gaia Ground ก็เป็นเหมือนค่ายเกมค่ายหนึ่ง ที่คอยให้บริการแก่ผู้เล่นตามที่ผู้ดูแลจะทำได้ไหว
และค่ายเกมอื่น ๆ ในเว็บไซต์นี้ก็เช่น Baron's Realm , Chao's Realm , Luca's Realm , Fantasy101 และอื่น ๆ เป็นต้น

ผู้ดูแลของ Gaia Ground มีคนเดียว คือยูสเซอร์ Thyself และผู้ช่วยเหลือด้านข้อมูล 2-3 คนที่ไม่ขอเอ่ยชื่อ


   Roleplay คืออะไร ?
Roleplay (ต่อจะไปเรียกโรลเพลย์ เกม หรือ RP) เป็นเกมการละเล่นสวมบทบาทคล้ายกับเกม RPG (Role Playing Game) ที่ผู้เล่นจะรับบทเป็นตัวละคร
ต่างออกไปคือโรลเพลย์นั้นผู้เล่นจะเลือกปรับแต่งตัวละครของตนเองได้ภายใต้กรอบกติกาที่กำหนดเอาไว้ สามารถควบคุมตัวละคร รวมถึงมีปฏิสัมพันธ์อิสระกว่า
แต่โรลเพลย์มักจะไม่ทำจนจบ เนื่องด้วยผู้จัดทำมิใช่มืออาชีพ ไม่ได้รับค่าจ้างใดในการควบคุมเกม ธรรมชาติสองจุดนี้ถือเป็นข้อดีข้อเสียของตัวเกม
และโดยทั่วไป RP มักเล่นเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ในหมู่เพื่อนฝูง ทำให้ไม่เป็นที่นิยมในวงกว้างและหาไม่ได้ง่าย ๆ นัก

ในประเทศไทย การเล่นโรลเพลย์หาไม่ง่ายจนจัดเข้าขั้นยาก ที่เห็นเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบันจะเป็นกลุ่มใน Dek-D Facebook และ Twitter
นอกจากนั้นก็ยังมีตามเว็บบอร์ดและเว็บไซต์อื่น ๆ ประปรายแต่น้อยมาก เช่น Tirkx Exteen รวมถึงเว็บไซต์ Baron's Bloody Library แห่งนี้ด้วย
(ในอดีตเว็บไซต์ pramool และ pocketonline เคยเป็นแหล่งรวมตัวของคนเล่นโรลเพลย์ จัดเป็นกลุ่มโรลเพลย์แห่งแรก ๆ ในไทย ปัจจุบันเลิกราไปหมดแล้ว)

อย่างไรก็ดี ยังมีโรลเพลย์จำนวนหนึ่งสามารถทำได้จนจบ รวมถึงมีอิสระน้อยกว่าเกม RPG แต่นั่นเป็นส่วนน้อย น้อยมาก

โดยทั่วไปแล้วโรลเพลย์จะแยกด้เป็นสองประเภทใหญ่ นั่นคือ
   1. เน้นการเขียน
   2. เน้นการวาด

ความหมายตรงตามตัวอักษรทุกประการ โรลเพลย์ที่เน้นการเขียนจะมุ่งเน้นไปที่การเขียนบรรยาย คล้ายกับการเขียนนิยายต่อกันหลายคน
ข้อดีคือมันทำได้ง่าย รวดเร็ว เล่นได้ทุกคน ทุกที่ (อาจจะ)ทุกเวลา แต่ข้อเสียคือผู้ดูแลต้องมีความสามารถด้านภาษาระดับหนึ่งจึงจะดึงดูดผู้เล่นได้
ตัวอย่างโรลเพลย์ที่เน้นการเขียนสามารถหาดูได้ทั่วไปในเว็บไซต์บารอนแห่งนี้ ที่แม้จะมีรูปประกอบบ้างประปรายแต่ก็ใส่มาประกอบไม่ให้เกมจืดชืดเท่านั้น

ทางโรลเพลย์ที่เน้นการวาดจะมีโจทย์กำหนดให้โดยผู้คุมเกม (อาจเป็นข้อความหรือรูปวาด) ผู้เล่นจะ "เล่น" ด้วยการวาดโต้ตอบตามสถานการณ์
จุดเด่นของโรลเพลย์ประเภทนี้คืออ่านง่าย น่าอ่าน น่าดู น่าชมมากกว่า แต่จุดด้อยคือผู้เล่นต้องมีฝีมือในการวาดรูประดับหนึ่ง (วาดคนให้ดูเป็นคน)
ประกอบกับที่แม้ผู้เล่นบางคนจะใช้เวลาครู่เดียววาดภาพเพื่อเล่น แต่ผู้เล่นอีกหลายคนก็ยังใช้เวลาไม่น้อย ทำให้เกมไม่รวดเร็วนัก
นอกจากนั้นผู้เล่น (อาจรวมถึงผู้คุมเกม) จำต้องมีอุปกรณ์สำหรับใช้วาดภาพในคอมพิวเตอร์หรือมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่น ๆ ที่เหมาะสมอีกด้วย
ในไทย โรลเพลย์ที่เน้นการวาดมักจะเรียกกันว่า "คอมมู" ที่มาจากคำว่า Community แต่ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าจุดเริ่มต้นมาจากที่ใด

เกมที่ดีนั้นตัดสินได้ยากเพราะมาตรฐานแต่ละคนต่างกัน แต่สิ่งที่ควรมีคือเหตุผลรองรับผลของการกระทำต่าง ๆ ทั้งจากของผู้เล่นและจากตัวเกม
โรลเพลย์มักจะเลี่ยงการสุ่มค่าต่าง ๆ เพื่อให้เกมดูมีน้ำหนักน่าเชื่อถือขึ้น (แต่บางคนก็ชอบการสุ่มเพราะดูตื่นเต้น ได้ลุ้นเหมือนซื้อหวยหรือเล่นไพ่)
การใช้สูตรในโรลเพลย์เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่สูตรก็มีทั้งพื้น ๆ อย่างบวกลบคูณหารธรรมดา ไปจนถึงแทนค่าสมการซับซ้อน ตามความถนัดของผู้คุมเกม
เพราะการใช้สูตรจะทำให้ไม่เกิดความลำเอียงขึ้น ใส่ค่าไปยังไงผลก็ออกมาตามที่ตั้งค่าเอาไว้ ไม่มีการนำอารมณ์ความรู้สึกพิสมัยมาเกี่ยวข้อง

ถามว่าโรลเพลย์คืออะไร ตอบสั้น ๆ โรลเพลย์คือเกมชนิดหนึ่งที่เล่นผ่านตัวอักษร และ/หรือ ภาพวาด


   หมวดหมู่ของ Roleplay
โรลเพลย์สามารถแยกเป็น 2 ประเภทคือเน้นการวาดและเน้นการเขียน แล้วหมวดหมู่ของโรลเพลย์ล่ะ ?
การจำแนกหมวดหมู่ของโรลเพลย์นั้นใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการจำแนกสื่อบันเทิงอย่างภาพยนตร์ ละคร วรรณกรรม รวมถึงเกม โดยมีดังนี้
   1. Fantasy เป็นแนวที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ ผู้วิเศษ ปิศาจ ทวยเทพ สิ่งมีชีวิตในเทพนิยาย
   2. Action เกมแนวนี้เน้นที่การต่อสู้เป็นหลัก อาจเป็นการเข้าร่วมสงคราม ประลองฝีมือหรือการต่อสู้ในแนวอื่น ๆ ตามเนื้อเรื่องของเกม
   3. Adventure เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ผจญภัย ลงดันเจี้ยน อาจเป็นยุคโบราณหรือในอนาคต บ้างจัดเป็นหมวดย่อยของแนวอื่น ๆ อีกต่อหนึ่ง
   4. Strategy เกมแนวที่เน้นการวางแผนเป็นหลัก มักอยู่คู่กับแนวอื่น ๆ เสมอ (เช่นเดียวกับ Drama) บ้างก็จัดเป็นหมวดหมู่ย่อยอีกต่อหนึ่ง
   5. Historical เป็นการย้อนยุคไปยังสมัยก่อน ส่วนมากมักเป็นช่วงยุคกลาง (Medieval) เนื้อเรื่องจะแตกต่างกันไป
   6. Science Fiction หรือ Sci-Fi ค่อนข้างหายาก เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ อาจเกี่ยวข้องกับสิ่งประดิษฐ์ ทฤษฎีที่มีหลักการรองรับ
       เกมแนวนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องในอนาคตหรือเป็นการเดินทางในอวกาศเสมอไป แต่ส่วนมากมักเป็นแนวนั้น
   7. Futuristic เกี่ยวข้องกับเรื่องในอนาคต อาจเป็นสงคราม ภัยพิบัติหรือเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในอดีตหรือปัจจุบัน
   8. Horror แนวสยองขวัญ เกี่ยวข้องกับสิ่งลี้ลับ เรื่องน่ากลัว แนวนี้แม้จะหาได้ไม่ยากแต่ต้องใช้ความสามารถในการคุมเกมค่อนข้างสูง
   9. Terror แนวระทึกขวัญ เกี่ยวข้องกับเรื่องชวนขนหัวลุกต่าง ๆ อาจไม่มีเรื่องสยองแบบแนว Horror ก็ได้ ต้องใช้ความสามารุในการคุมเกมสูงมาก
   10. Comedy/Humor แนวขำขัน เป็นเกมแนวเบาสมองที่ทำมาเพื่อผ่อนคลายแก่ผู้เล่น
   11. Sims แนวบริหาร อาจบริหารเมือง สิ่งปลูกสร้างหรืออื่น ๆ อะไรก็ได้ แนวนี้มักจะมีสูตรคำนวณและตัวเลขเยอะ แต่ความเที่ยงตรงก็สูงตามด้วย
   12. Slice of life แนวการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นการใช้ชีวิตในช่วงหนึ่ง ๆ ส่วนมากมักเป็นชีวิตในรั้วโรงเรียน เกมแนวโรแมนติคและจีบสาวก็จัดอยู่ในข่ายนี้
   13. Drama เป็นเกมที่เน้นเรื่องความสูญเสีย ความเศร้าโศก ความหดหู่ ตับแตก ตับพัง ม้ามระเบิด (เว่อร์)
   14. Fanfiction เป็นการนำเอาเรื่องที่มีอยู่ก่อนมาสร้างเป็นเกม อาจนำมาจากวรรณกรรม ซีรี่ย์ ภาพยนตร์ เกมหรือแม้แต่การ์ตูนก็ได้
   15. Multi-Genre/Cross-Genre เกมที่ผสมผสานหลาย ๆ แนวเข้าไว้ด้วยกัน โรลเพลย์ส่วนมากมักจะอย่ในประเภทนี้
        เนื่องจากเกมไม่อาจมีโทนเดียวตลอดเวลาได้เพราะผู้เล่นจะรู้สึกเบื่อหน่าย ดังนั้นจึงต้องผสมข้อดีของหลาย ๆ แนวเข้าไว้ด้วยกันเสมอ


   เล่น Roleplay ไปทำไม เล่นแล้วได้อะไร ?
โรลเพลย์จัดเป็นเกมการละเล่นชนิดหนึ่ง ดังนั้นจุดมุ่งหมายหลักคือสร้างคสวามสนุกให้แก่ผู้เล่น มีจุดหมายรองคือเป็นการรวมกลุ่มของคนที่สนใจในเรื่องเดียวกัน
ประโยชน์ของตัวเกมคือจะช่วยเพิ่มทักษะในด้านนั้น ๆ (การวาดหรือการเขียน) ให้แก่ตัวผู้เล่นและผู้คุมเกม ทั้งยังช่วยให้รู้จักการคิดเป็นระบบในระดับหนึ่ง
ทว่าโทษของมันก็มี นั่นคือหากเล่นมากเกินไปอาจทำให้แยกโลกของความเป็นจริงกับโลกของเกมไม่ออก กลายเป็นพวกเพ้อฝัน ไม่เอางานการ

อย่างไรก็ตาม อะไรที่มากเกินไปก็ล้วนแต่ไม่ดี แม้แต่น้ำเปล่าเองหากดื่มมากเกินไปก็เป็นพิษได้
ผู้คุมเกมหวังว่าผู้เล่นจะเล่นแต่พอเหมาะพอควร พักในเวลาที่ควรพัก รวมถึงนำสิ่งที่ได้จากเกมไปใช้ประโยชน์บ้างก็จะดีไม่น้อย


   Game Master (GM), Role Master (RM) หรือผู้ดูแลควบคุมเกม
โดยทั่วไปผู้คุมเกมหนึ่ง ๆ จะมีเพียงคนเดียว มากที่สุดไม่เกินสาม เพื่อป้องกันความสับสนในการประสานงานและกระจายข้อมูล
แต่ในบางครั้งหากเกมมีขนาดใหญ่ (ผู้เล่นจำนวนมาก) ก็อาจมีการใช้ผู้ควบคุมเกมหลายคนมากขึ้นกว่าเดิม แต่ละคนจะแบ่งหน้าที่เฉพาะของใครของมัน

ผู้คุมเกมที่ดีควรวางตัวเป็นกลาง เฟ้นหาความสมดุลของระบบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่นำข้อมูลลับของผู้เล่นมาบอกให้ใครอื่นฟัง มีความรับผิดชอบ
แต่ผู้คุมเกมก็เป็นคนธรรมดา หลายครั้งจึงมีการทำผิดพลาด เช่น นินทาผู้เล่นอย่างเสีย ๆ หาย ๆ บอกข้อมูลลับโดยไม่ทันรู้สึกตัว วางระบบได้ไม่สมดุล อู้ เป็นต้น

ส่วนเกมใน Gaia Ground นั้นใช้ผู้ดูแลเพียงคนเดียวอย่างที่กล่าวไปแล้ว


   Player หรือผู้เล่น
หากเปรียบเทียบโรลเพลย์เป็นวิดีโอเกม ผู้ควบคุมเกมเป็นค่ายเกม ผู้เล่นก็คือลูกค้าผู้บริโภค ต่างเพียงแค่ลูกค้าของโรลเพลย์ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อเล่น (เสมอไป)
โดยผู้เล่นก็มีหน้าที่... เล่น ไม่มีอะไรอื่นอีก แต่การเล่นก็ต้องอยู่ในกรอบของกติกา ประกอบกับใช้สามัญสำนึกในการเล่นด้วย
เช่น ถึงแม้เกมไม่ได้ระบุไว้แต่ถ้าเล่นเป็นมนุษย์ก็ไม่สามารถบิน เดินทะลุกำแพงหรือพ่นไฟได้ (อาจมีข้อยกเว้นว่าไปทำเควสมาแล้วปลดล็อค) เป็นต้น

ผู้เล่นที่ดีนั้นต้องการคิด กล้าพูด หากเห็นจุดบกพร่อง ข้อผิดพลาดหรือข้อสงสัยใด ๆ ก็ควรนำมาบอกผู้คุมเกมทันที เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ทัน

อย่างที่บอกไปแล้ว ผู้คุมเกมก็เป็นคนธรรมดา ไม่มีทางไม่ทำอะไรผิดพลาด


ข้อมูลเบื้องต้น : Shira
เรียบเรียงข้อมูล : Thyself


« Last Edit: November 26, 2015, 01:08:04 AM by Thyself »

Offline Thyself

=== ระบบพื้นฐาน ===

   Status หรือค่าสถานะ
Status หรือค่าสถานะ คือค่าที่ใช้บ่งบอกลักษณะ และความสามารถ ของตัวละคร เพื่อให้ผู้เล่นรู้ว่าเก่งอะไร ด้านไหนบ้าง
ค่าสถานะที่จะใช้ จะมีด้วยกันเป็นจำนวนมาก แต่จะไม่ใช้ทั้งหมดในเกม ๆ เดียว ในเกม ๆ หนึ่งจะใช้ไม่เกิน 8 ค่าสถานะ
และค่าสถานะ มีดังนี้
   - HP : ค่าความเสียหายที่ตัวละครจะรับได้ ถ้าเป็น 0 จะไม่ตาย เพียงแต่จะไม่สามารถต่อสู้ หรือทำอะไรอื่น ๆ ได้ ใช้ในทุกเกม (Max 6)

   - Skl : จำนวน Skill ที่ตัวละครสามารถสวมใส่ได้ หาได้จาก (Int + Dex) / 2 ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 8)
   - Inv : จำนวน Item ที่ตัวละครสามารถถือเอาไว้ได้ หาได้จาก (Str + Agi) / 2 ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 8)

   - Atk : พลังโจมตีของตัวละคร มีพื้นฐานที่ 1 ใช้ในทุกเกม (ไม่มี Max)
   - Def : พลังป้องกันของตัวละคร มีพื้นฐานที่ 1 ใช้ในทุกเกม (ไม่มี Max)

   - Str : กำลังกาย ส่งผลต่อการใช้แรง การใช้อาวุธระยะประชิด และการใช้มือเปล่าต่อสู้ ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 7)
   - Agi : ความว่องไว ส่งผลต่อการเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหว การหลบหลีก ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 7)
   - Int : ความฉลาด ส่งผลต่อการใช้เวทมนตร์ การไขปริศนาต่าง ๆ และการขบคิด ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 7)
   - Dex : ความแม่นยำ การรับรู้ ส่งผลต่อการมองเห็น และการใช้อาวุธระยะไกล เช่น ธนู หน้าไม้ ปาก้อนหิน เป็นต้น ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 7)

   - Lds : ความเป็นผู้นำ ส่งผลต่อการควบคุม การดูแล และการออกคำสั่งต่อตัวละครอื่น ๆ และการดูแลพื้นที่ของตนเอง ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 7)
   - Apl : เสน่ห์ ใช้ในการเจรจา และการพูดคุย มีผลต่อการพูดคุย การหว่านล้อม การหาข้อมูลข่าวสาร ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 7)
   - Mrl : ศีลธรรมคุณธรรม ทำให้ตัวละครอื่น ๆ มองเราในแง่ที่ดีขึ้น ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น หรืออาจจะแย่ลงก็ได้  ไม่ได้ใช้ในทุกเกม (Max 7)

ระดับของค่าสถานะ :
   - ค่าสถานะ 0 แต้ม : ระดับพิกลพิการ เช่น Str 0 ก็เป็นง่อย , Int 0 ก็ปัญญาอ่อน พูดไม่เป็น ไม่เข้าใจภาษา , Dex 0 ก็ตาบอด หูหนวก
   - ค่าสถานะ 1-2 แต้ม : ระดับต่ำ เช่น Str 1 ก็ร่างกายอ่อนแอมาก เหมือนผู้หญิงอายุ 10-12 ปี , Int 1 ก็พูดได้ แต่อ่านเขียนไม่ได้
   - ค่าสถานะ 3-4 แต้ม : ระดับปานกลาง เป็นระดับที่คนปรกติจะมีกัน ทำอะไรได้เหมือนคนปรกติทั่วไป
   - ค่าสถานะ 5-6 แต้ม : ระดับสูง เช่น Str 5 ก็ยกของได้มากกว่าคนทั่วไป , Int 5 ก็คิดค้น และคิดคำนวณสูตรต่าง ๆ ได้
   - ค่าสถานะ 7 แต้ม : ระดับอัจฉริยะในรอบ 10 ปี มีพรวรรค์ตั้งแต่กำเนิด เช่น Str 7 ก็ต่อยคนกระดูกหักได้ด้วยมือเปล่า , Int 7 ก็พูดได้ตั้งแต่อายุครึ่งขวบ


   Skill หรือสกิล ทักษะต่าง ๆ ของตัวละคร
Skill หรือสกิล หรือทักษะ คือความสามารถของตัวละครที่แสดงออกให้เห็นได้ชัด และตายตัวกว่า Status

Skill จะมี 2 รูปแบบ คือสกิที่ต้องเรียกใช้งานถึงจะทำงาน และแบบที่ไม่ต้องเรียกใช้งาน ก็ทำงานได้ด้วยตัวเอง
และสกิลจะไม่ใช้ MP หรือ SP ในการเรียกใช้ แต่จะมีจำนวนครั้งที่เรียกใช้ได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน
จำนวนครั้งที่ใช้ได้จะมีสูงสุดอยู่ที่ 9 และต่ำสุดอยู่ที่ 1 จำนวนที่ใช้ได้จะบอกได้ว่า สกิลนั้น ๆ มีระดับสูงมากน้อยเท่าไร
นอกจากนั้น จำนวนครั้งที่ใช้ได้ของสกิลจะฟื้นขึ้นมาเต็มทุกครั้ง หลังจากจบอีเวนต์ หรือมีการใช้ไอเทมฟื้นฟู

Skill สามารถนำไปขาย หรือแลกเปลี่ยนกับของอื่น ๆ ในเกมได้ แต่แลกได้แต่กับของในระดับเดียวกันเท่านั้น แต่อาจจะถูก NPC หลอกเอาก็ได้

ตัวอย่างสกิล :
   ✦ Steel Body : Def +4 [Passive]
คือสกิลจะเพิ่ม Def หรือพลังป้องกันให้ตัวละคร ไม่จำเป็นต้องเรียกใช้งาน จะแสดงผลตลอดเวลา ยกเว้นแต่ว่าจะถอดออก
ตัวละครจะมีสกิลนี้จะมีพลังป้องกันทั้งหมดเท่ากับ 1 (พลังป้องกันพื้นฐาน) + 4 (ผลจากสกิล) = Def 5

   ✦ Counter : หลบการโจมตี และสวนกลับไปทันที (100%) | 2
คือสกิลที่จำเป็นต้องสั่งใช้ ถึงจะแสดงผล และเมื่อสั่งใช้ และอีกฝ่ายโจมตีเข้ามา จะสามารถหลบการโจมตีของอีกฝ่ายได้แน่นอน
จากนั้นจะโจมตีกลับไป ด้วยการโจมตีแบบธรรมดา และการโจมตีนั้นจะโดนเป้าหมายอย่างแน่นอน 100%
นอกจากนั้น สกิลนี้สามารถใช้ได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น ถ้าใช้จนหมดก็ทำอะไรไม่ได้ และจัดเป็นสกิลระดับสูงที่หาไม่ได้ง่าย ๆ เลย


   Item หรือไอเทม สิ่งของต่าง ๆ ในเกม
Item คืออุปกรณ์ สิ่งของต่าง ๆ ในเกมที่หาได้ทั่วไป อาจจะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น ตั้งแต่ก้อนหินริมทาง ช้อนส้อม เส้นด้าย
ผู้เล่นสามารถหยิบจับเอามาเป็นของตัวเองได้หมด แต่อาจจะเกิดเรื่องร้าย ๆ ตามมาก็ได้

Item ก็มี 2 รูปแบบเหมือน Skill คือแบบที่ต้องสั่งใช้งาน และแบบที่ไม่ต้องสั่งใช้งาน
แต่ Item จะมีจำนวนครั้งที่สามารถใช้งานได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม
ถ้าผู้เล่นใช้ Item จนถึงจำนวนครั้งที่กำหนด Item นั้น ๆ จะหักพัง หรือหมดสภาพกลายเป็นเศษขยะ ใช้งานไม่ได้

จำนวนครั้งที่ใช้งานได้จะเป็นตัวบ่งบอกระดับของ Item ยิ่งใช้งานได้น้อยครั้งก็ยิ่งเป็นของระดับสูง
จำนวนครั้งที่ใช้ได้จะมีสูงสุดอยู่ที่ 9 และต่ำสุดอยู่ที่ 1 และสามารถนำไปขาย หรือแลกเปลี่ยนได้ เหมือน Skill ทุกอย่าง

ตัวอย่างไอเทม :
   ❖ Leather Armor : เกราะหนัง Def +1 [Passive] | 8
คือไอเทมจะเพิ่ม Def ให้ตัวละคร ไม่จำเป็นต้องเรียกใช้งาน จะแสดงผลตลอดเวลา ยกเว้นแต่ว่าจะถอดออก
ตัวละครจะมีไอเทมนี้จะมีพลังป้องกันทั้งหมดเท่ากับ 1 (พลังป้องกันพื้นฐาน) + 1 (ผลจากไอเทม) = Def 2

   ❖ Flintlock : ปืนคาบศิลา Atk +2 | 6
คือไอเทมที่จำเป็นต้องสั่งใช้ ถึงจะแสดงผล และเมื่อสั่งใช้แล้วพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้น และโจมตีในประเภทที่ตรงกับอาวุธ (ใช้สามัญสำนึกตัดสินจากชื่อเอานะ)
ตัวละครจะมีไอเทมนี้ และสั่งใช้งานจะมีพลังโจมตีทั้งหมดเท่ากับ 1 (พลังป้องกันพื้นฐาน) + 2 (ผลจากไอเทม) = Atk 3 ในตอนที่สั่งใช้เท่านั้น


   Experience Point หรือ Exp
Experience Point หรือ Exp ใช้ในการเพิ่มค่าสถานะต่าง ๆ หรือใช้ลดค่าสถานะต่าง ๆ ของตัวละคร และการเพิ่ม หรือลดแต่ละครั้งก็จะมีค่าใช้จ่ายต่างกันไป
และ Exp สามารถหาได้จากการทำ Quest หรือการต่อสู้กับคนอื่น ๆ ที่อาจจะเป็นผู้เล่นด้วยกันเอง หรือเป็น NPC ในเกมก็ได้

อัตราการใช้ Exp :
   การเพิ่ม : จะเพิ่มได้แค่ครั้งละ +1 , ครั้งแรกจะใช้ 10 Exp และเพิ่มขึ้น 5 ทุก ๆ ครั้งที่ใช้ เช่น ครั้งที่ 2 จะใช้ 15 Exp ครั้งที่ 3 จะใช้ 20 Exp
   การลด : จะลดได้แค่ครั้งละ -1 , ครั้งแรกจะใช้ 5 Exp และเพิ่มขึ้น 5 ทุก ๆ ครั้งที่ใช้ เช่น ครั้งที่ 2 จะใช้ 10 Exp ครั้งที่ 3 จะใช้ 15 Exp


   Quest หรืองานต่าง ๆ หรือภารกิจ
Quest หรือภารกิจต่าง ๆ คืองานที่ผู้เล่นสามารถหาได้จาก NPC และสถานการณ์ต่าง ๆ กัน และเควสมี 2 ประเภท คือ
   1. Story Quest : เควสที่มีผลกับเนื้อเรื่องโดยตรง มีความสำคัญสูง และถ้าทำพลาด เนื้อเรื่องจะดำเนินไปในทิศทางที่แย่กว่าเดิม
   2. Side Quest : เควสที่ไม่มีผลกับเนื้อเรื่องโดยตรง ไม่ค่อยมีความสำคัญมากนัก และถ้าทำพลาดก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก


   Battle หรือการต่อสู้
Battle หรือการต่อสู้ คือการปะทะกันของตัวละครต่างฝ่าย ซึ่งอาจจะเป็นผู้เล่นด้วยกันเอง หรืออาจจะเป็นผู้เล่นกับ NPC ก็ได้
ซึ่งใน 1 การต่อสู้จะมีจำนวนตัวละครที่เข้าร่วมกี่คนก็ได้ แต่จะมีจำนวนรอบที่สั่งการกระทำได้จำกัดเอาไว้
จำนวนรอบที่จำกัดนั้นมีได้สูงสุดอยู่ที่ 9 ครั้ง และต่ำสุดอยู่ที่ 3 ครั้ง ซึ่งจำนวนรอบนี้จะสามารถใช้บ่งบอกระดับของอีกฝ่ายได้ด้วย

การส่งคำสั่งการต่อสู้นั้น ให้ระบุ Skill Item ที่ต้องการจะใช้ พร้อมกับ Status ที่จะใช้ต่อสู้ แต่ในบางเกมไม่ต้องระบุ Status ที่จะใช้ บอกแค่ Skill Item ก็พอ
ซึ่งถ้า Status ที่ระบุมาสอดคล้องกับ Skill Item ที่จะใช้ ก็จะได้โบนัสเพิ่มเติม ฝ่ายใดก็ตามที่มีค่า Status มากกว่า ก็จะเป็นฝ่ายโจมตีเข้าใส่
หรือสั่งใช้ Skill Item ได้สำเร็จ (ต่อให้ Skill มีโอกาสสำเร็จ 100% แต่ถ้า Status แพ้ก็ถือว่าใช้ไม่ได้นะ)

โบนัส Status :
   การชนะทาง : เมื่อ Status ชนะทาง จะได้โบนัส +2 ทันที (เฉพาะแค่ตอนที่ชนะทางเท่านั้น) แต่ฝ่ายที่แพ้ทางก็จะไม่เสียอะไร และการแพ้ชนะทางมี 3 กรณี คือ
      - Str > Agi > Int > Dex > Lds > Apl > Mrl > Str และวนเป็นงูกินหาง (Str ชนะทาง Agi , Agi ชนะทาง Int เป็นต้นไป)
      - Str > Agi > Int > Dex > Str และวนเป็นงูกินหาง
      - Lds > Apl > Mrl > Lds และวนเป็นงูกินหาง

การใช้ Skill Item พร้อมกัน : แบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ
   1. ใช้สกิล 1 สกิลที่ต้องเรียกใช้งาน พร้อมกับไอเทมแบบที่ไม่ต้องเรียกใช้งานกี่อย่างก็ได้ ที่ตัวละครสวมใส่อยู่ (Active Skill พร้อมกับ Passive Item)
   2. ใช้ไอเทม 1 ไอเทมแบบที่ต้องเรียกใช้งาน พร้อมกับสกิลที่ไม่ต้องเรียกใช้งานกี่อย่างก็ได้ ที่ตัวละครสวมใส่อยู่ (Active Item พร้อมกับ Passive Skill)
   3. ใช้สกิล และไอเทมแบบที่ไม่ต้องเรียกใช้งานพร้อม ๆ กัน จะกี่อย่างก็ได้ ขอแค่ให้สวมใส่อยู่ในตัว (Passive Skill พร้อมกับ Passive Item)

ตัวอย่างการส่งคำสั่งต่อสู้ : มี 2 กรณี คือ
   1. กรณีสู้กันตัวต่อตัว : ใช้ Str สู้ พร้อมกับใช้สกิล Counter พร้อมกับไอเทม Leather Armor
   2. กรณีสู้กันเป็นกลุ่ม : ใช้ Dex สู้ และใช้ไอเทม Flint lock ใส่เป้าหมาย A และใช้สกิล Steel Body ไปด้วย


ข้อมูล และเรียบเรียง : Thyself
ตรวจทาน : Shira
ทดสอบระบบ : Poly1800



« Last Edit: December 22, 2015, 12:35:35 PM by Thyself »

Offline Thyself

=== เรื่องอื่น ๆ ที่ควรรู้ ===

   1. ผู้เล่นสามารถซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน Skill Item และ Exp ได้ทุกเมื่อ แต่ขอให้ระวังการถูกหลอกเอาไว้ด้วย GM ไม่ขอรับผิดชอบในการโกงบัตรทรูนะคะ :D
   2. หน่วยเงินในเกมทุกเกมคือ Gold และจะใช้ในการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนในทุก ๆ กรณี แต่ในบางกรณีอาจจะใช้สิ่งอื่น ๆ มาแทนที่ได้ เช่น อัญมณี อาวุธ ตำรา เป็นต้น
   3. ผู้เล่นแต่ละคน จะแยกกันเล่นในกระทู้ส่วนตัวของตัวเอง และจะมาเล่นรวมกันในกระทู้หลัก ก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ Main Quest เกิดขึ้นเท่านั้น
   4. สกิลทุกสกิลจะใช้สัญลักษณ์ ✦ และไอเทมทุกไอเทมจะใช้สัญลักษณ์ ❖ เพื่อลดความยาวลง
   5. ผู้เล่นสามารถพุ่งเข้าไปโจมตีก่อนได้ ต่อให้ยังไม่ตัดเข้าฉากสู้ก็ตาม และใครก็ตามที่เข้าไปโจมตีก่อนจะได้โจมตีฟรี ๆ 1 ครั้ง (ไม่ต้องระบุ Status แต่ระบุ Skill Item ได้เลย)
   6. การตัดสินการแพ้ชนะในการต่อสู้ จะดูที่ HP ว่าใครเหลือมากที่สุด คนที่เหลือมากที่สุดเมื่อจบรอบการต่อสู้ จะถือเป็นผู้ชนะ และจะได้ของรางวัลเพียงคนเดียว
   7. แต่ถ้าเป็นการต่อสู้แบบกลุ่ม , 2 คนแรกที่มี HP มากที่สุด จะเป็นผู้ชนะ และได้ของรางวัล และของรางวัลจะหารสอง
   8. ผู้ที่ชนะการต่อสู้ จะได้ของรางวัลคือ Gold และ Exp จำนวนหนึ่ง และในบางกรณีก็อาจจะได้ Skill Item ด้วย
   9. การใช้ Skill Item จะมีผลต่อการกระทำในระหว่างการต่อสู้ของตัวละคร เช่น ใช้ Skilll Item รักษา ตัวละครก็จะไม่โจมตี แต่จะนั่งรักษาแผลแทน
   10. Gold และ Exp สามารถหาได้ในการเล่นทั่วไป ไม่จำเป็นต้องเข้าทำเควส แต่จะได้ครั้งละน้อยมาก และมีความเสี่ยงมากด้วย เช่น ไปปล้นชาวบ้าน ไปนั่งขอทาน เป็นต้น
   11. การคำนวณค่าทุกอย่าง จะปัดเศษลงเสมอ
   12. เมื่อไม่มีผู้เล่นทำการเล่นติดต่อกันเป็นเวลา 3-5 วัน ระบบจะทำการนับถอยหลัง และถ้ายังไม่มีใครมาโพสเล่นเพิ่มเติม ก่อนการนับถอยหลังเป็น 0 ระบบจะทำการตัดจบเกมทันที
   13. ข้อมูลประเภทเผ่าพันธุ์ (Race) อาชีพ (Class) จะจัดเป็น Skill ทั้งหมด เพื่อลดความยุ่งยากของระบบลง
   14. การตอบเกม ส่วนมากจะตอบแบบวันเว้นวัน แต่บางเกมก็จะใช้ระยะเวลาอื่น
   15. เวลาที่ตอบเกม จะตอบได้เรื่อย ๆ ทั้งวัน แต่ตอบได้เป็นจังหวะมากที่สุด คือหลังจาก 18.00 น. ไปจนถึง 00.00 น.
   16. ถ้าผู้เล่นไม่ตอบเป็นเวลา 4 วัน หรือมากกว่า จะถือว่าผู้เล่นไม่กลับมาเล่นแล้ว ตัวเกมจะตัดจบเนื้อเรื่องของผู้เล่นคนนั้น ๆ ทันที
   17. (ต่อจากข้อ 16.) นอกจากผู้เล่นจะเข้าไปแจ้งไว้ใน Helping Center ว่ามีธุระอื่น ๆ หรือฝากบอทเกมเอาไว้
   18. พูดคุยในแชตของฟอรั่มได้ที่นี่ https://tlk.io/ggchat


ข้อมูล และเรียบเรียง : Thyself


« Last Edit: December 22, 2015, 10:04:58 PM by Thyself »