ณ ดินแดนรกร้างอันไพศาลที่แสนจะทุรกันดาร ต้นไม้ไม่อาจยืนต้นได้นานเพราะดินไม่ดี แม่น้ำเหือดแห้งเพราะความร้อน
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างทุกข์ทรมานกับการขาดอาหาร แม้จะมีฝนตกลงมาบ้างประปรายแต่ก็ไม่อาจเติมเต็มความกระหายได้ ทุกสิ่งกำลังจะตายลงไม่เว้นแม้แต่ผืนดิน
ปาฎิหาริย์บังเกิดขึ้น เมื่อบางสิ่งจากฟากฟ้าทิ้งตัวลงมาเหนือพสุธาของดินแดนแห่งนี้... มังกรยักษ์ขนาดมหึมาที่แผ่ปีกทั้งสองกางโอบได้ทั้งทวีป หรือนามนั้นคือ ราชินีมังกร
ราชินีมังกรเห็นสภาพความเป็นอยู่อันน่าอดสูนั้นแล้วก็ไม่อาจทนได้ ท่านจึงสะบัดปีกของท่าน
ครั้งแรก สายน้ำไหลทะลักเข้ามาเติมเต็มดินแดนอันแห้งแล้ง
ครั้งสอง ผืนดินกลับมาอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้งอกเงยจนกลายเป็นป่าเขียวขจี
ครั้งสาม สิ่งมีชีวิตกลับฟื้นคืนกำลัง แม้ตายไปแล้วก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ราชินีมังกรคืนชีพให้กับผืนแผ่นดินของเรา ทำให้ดินแดนแห่งนี้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทว่านั่นยังไม่เพียงพอสำหรับดินแดนนี้
"แผ่นดินนี้ต้องการผู้ดูแล" ราชินีมังกรกล่าวก่อนจะเป่าลมหายใจใส่ผืนดิน พลันรูปปั้นดินก็ก่อตัวขึ้นเป็นจำนวนมาก ท่านเป่าลมอีกครั้ง รูปปั้นเหล่านั้นก็กลายมาเป็นมนุษย์
มนุษย์มีชีวิต มีระเบียบ และมีสติปัญญา แต่มนุษย์นั้นอ่อนแอเกินกว่าจะอยู่ในธรรมชาติได้ด้วยตัวพวกเขาเอง ราชินีมังกรจึงตัดสินใจนำเล็บและเขี้ยวของตนฝังลงในผืนดิน
ก่อนจะเป่าลมหายใจใส่อีกครั้ง พริบตานั้นผืนดินมหาศาลก็ก่อตัวขึ้นเป็นรูปปั้นอันหลากหลายก่อนจะผันเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตอันงดงามและทรงพลัง... มังกรนั่นเอง
"พวกเจ้าทั้งสองเผ่าจงช่วยเหลือเกื้อกูลกัน คอยปกปักษ์รักษาดินแดนนี้ให้สงบสุขเรื่อยไป" ราชินีมังกรสั่งก่อนจะบินจากไป
.
.
.
.ผ่านไปหลายพันปี ไม่มีวี่แววของมังกรในตำนาน แต่ผู้คนก็ใช้นามนั้นในการเรียกขานสิ่งมีชีวิตอันทรงพลัง พวกมันมีรูปร่างหลากหลายและแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์
โดยส่วนมากแล้วจะแบ่งตามประเภทของเกล็ดกับปีก บางตัวก็มีอำนาจและพลังมหาศาล ตามเรื่องเล่าเก่าแก่ได้ระบุว่ามังกรถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับมนุษย์ด้วยพลังของท่านดรากอน จนกลายมาเป็นความสัมพันธ์ข้ามเผ่า
เหล่ามนุษย์อาศัยอยู่เคียงข้างเหล่ามังกร คอยเลี้ยงดูและให้อาหารพวกมัน มังกรก็ตอบแทนด้วยการใช้พลังอำนาจของมันในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการให้ขี่ ขนของ ลากรถ เข้าต่อสู้ หรือแม้แต่เป็นพาหนะในการทำสงคราม
จนกระทั่งพวกเขาสามารถรวมดินแดนให้เป็นหนึ่งได้ อาณาจักรของเหล่ามนุษย์และมังกรจึงได้ถือกำเนิดขึ้นในนามอันศักดิ์สิทธิ์ "Fatimah"
อาณาจักร Fatimah เติบโตและขยายใหญ่ออกไปอย่างมากมายจนสุดเขตแดนธรรมชาติ ทิศเหนือ ตะวันออก และตะวันตกจรดกับผืนทะเลทรายขนาดยักษ์ใหญ่ เต็มไปด้วยอันตรายต่างๆ นาๆ มากมาย
แต่ก็ยังมีคนเดินทางและแวะเวียนไปตามจุดต่างๆ เพื่อสืบหาโบราณสถานหรือเมืองลับแลที่อาจจะหลงเหลืออยู่ ส่วนทางตอนใต้นั้นเป็นผืนทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล อุดมไปด้วยทรัพย์สินแห่งธรรมชาติและหมู่เกาะน้อยใหญ่
ความสงบสุขของอาณาจักร Fatimah เกิดขึ้นได้เพราะองค์ราชาที่มีสายเลือดโบราณไหลเวียนอยู่ในตัว ว่ากันว่าพวกเขาได้รับพรจาก "ราชินีมังกร" ทำให้มีอำนาจมากมาย
องค์ราชาได้ชี้นำผู้คนและปกครองให้ชาวเมืองอยู่กันอย่างร่มเย็น สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นนานนับพันปี
แต่แล้วความสงบสุขก็ถูกทำลายลง เมื่อราชาถูกลอบปลงพระชนม์อย่างเป็นปริศนา ทิ้งไว้เพียงแค่ทายาทจำนวนหนึ่ง
และนั่นก่อให้เกิดการแย่งชิงบัลลังก์กันขึ้น ขุนนางต่างแบ่งพรรคแบ่งพวก ผู้ที่เคยเป็นมิตรก็ไม่อาจยิ้มให้กันได้หากไม่ได้อยู่ข้างเดียวกัน
ข่าวการลอบปลงพระชนม์แพร่ออกไปตามแว่นแคว้นต่างๆ อย่างรวดเร็ว ประชาชนต่างแตกตื่นและเสียใจกับการจากไปอย่างกะทัน
ทว่าหัวเมืองบางส่วนก็ฉกฉวยโอกาสนี้แข็งข้อกับ Fatimah เพื่อปกครองตนเอง และแคว้นที่ประกาศเช่นนั้นเป็นแคว้นแรกคือ Neelam
ความขัดแย้งระหว่างสองเมืองใหญ่นั้นกลายเป็นที่จับตามองของประชาชนทุกคน พ่อค้าแม่ค้าพยายามทำกำไรจากเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุดโดยไม่สนใจฝ่าย
เหล่าโจรทะเลทรายออกมาจากที่กบดานแล้วเริ่มจู่โจมปล้นชิงทรัพย์ทั้งในเมืองและนอกเมือง ทางตอนใต้เองก็เกิดการต่อสู้กันขึ้นของเหล่าโจรสลัดหลายฝ่าย
ตัวเมืองเสียหาย เรือสินค้าโดนปล้น เมืองท่าถูกยึดครองจากกลุ่มต่างๆ และกลายเป็นเมืองนอกกฎหมาย ทหารหลวงที่ถูกส่งมาจัดการกับความวุ่นวายต่างๆ ก็ถูกกำราบจนหมดสิ้น ประชาชนต่างตกอยู่ในความหวาดกลัว
ยุคสมัยได้เปลี่ยนไป
Dragone: the Lost Throne