http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1617.msg164073#msg164073อ่านไปจนจบจะเข้าใจเรื่องราว และอ่านเพิ่มเติมที่กระทู้ Solv
เมื่อสมัยเด็ก ฉันมองไปที่ฟากฟ้ายามค่ำคืน มันเป็นแสงระยิบระยับหลายต่อหลายกระจุก ฉันมองเห็นสิ่งที่พวกเขามองไม่เห็น พวกเขาบอกว่านั่นคือดวงดาว
ฉันได้รู้ว่าผืนดินที่ฉันยืนอยู่นี้คือดาวดวงเล็ก ๆ ดวงหนึ่งในวันที่ฉันได้ถือมัน วัตถุที่ยิงออกไปเป็นแสงที่คล้ายกับดวงดาว แม้ว่ามันจะไม่ได้ส่องประกายระยิบระยับ
เพื่อนของฉัน พี่น้องของฉันล้มตายจนหมดสิ้นด้วยแสงที่พวยพุ่งออกมาเป็นสายคล้ายกับฝนที่พุ่งในแนวระนาบกับผืนดิน
จากเจ้าสัตว์ประหลาดยักษ์ที่พวกเขาเรียกมันว่าอะไรสักอย่าง
ฉันเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ บนก้อนหินก้อนหนึ่งในอวกาศ ก้อนหินที่เรียกว่าดาวเคราะห์
ภายใต้การดำเนินโครงการ STARLIGHT และสนธิสัญญา STARLIGHT
สงครามกาแล็คซี่ที่ดำเนินมายาวนานได้จบลงเมื่อเหล่าขั้วอำนาจในระบบดาวต่าง ๆ ที่เป็นแกนหลักของสงครามตกลงกันได้
มันเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนและละเอียดอ่อนในระดับกาแล็คซี่ ไม่ใช่สิ่งที่จะเข้าใจได้ง่ายนัก และบางทีมันอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณจะต้องสนใจมันอีก
เพราะคุณอาจจะไม่มีวันได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว ไม่สิ คุณอาจจะไม่ต้องการกลับมาอีกแล้วก็เป็นได้
"ก็แค่เศษเสี้ยวของพลังอำนาจมันมาฝังอยู่ในตัวของพวกเรา" นายพล Osy แห่งจักรวรรดิ Noun หนึ่งในเผ่าพันธุ์ Rex ที่เคยเรืองอำนาจเอ่ยขึ้น
ก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นปราการยักษ์ Innocent Tower และอพยพไปจากกาแล็คซี่ Rexus พร้อมกับประชากรชนเผ่า Noun อีกกว่าสิบล้าน
ภายใต้คำสั่งของจักรพรรดินีแห่ง Noun ที่ต้องการหนีจากสงครามเพื่อไปสร้างอาณานิคมใหม่ในที่ ๆ ห่างไกลจากผู้ล่าด้วยกันเอง
ไร้สาระ พวกเขาไม่ได้ต้องการสำรวจอวกาศ พวกเขาไม่ได้คิดอย่างนั้นมาตั้งแต่แรก
ก็แค่กาแลคซี่ Rexus มันคับแคบเกินไปที่ผู้ล่าจะอยู่ร่วมกัน
Episode 5 ไม่ได้มียานลำนี้เพียงลำเดียวที่เข้าโครงการ STARLIGHT แต่ยังมีนับล้านๆๆๆ
ประชากรหลากหลายเผ่าพันธุ์จากกาแลคซี่ Rexus ต่างเป็นผู้ล่า พวกเขาล่าได้ทุกอย่าง ...แม้แต่ผู้ล่าด้วยกัน
แสงสว่างวูบเพียงพริบตาจากลำแสงอาคมของยานยักษ์ที่ไล่หลังมายังผลให้ Rexus ที่ใหญ่โตมีขนาดเท่าดาวโลกแหว่งไปเกือบหนึ่งในสี่
Management Turn 5 (ของ MW) ก่อนเข้าสู่ Episode 5 ช่วง Travel
โพสกระทู้ MW ของตนเอง