ความโหดร้ายของ Last Album ทำให้ประกายแสงและตุ๊กตากลอย่าง Tea Time ไม่สามารถจะใช้ปัญญาใด ๆ แก้ไขสถานการณ์ได้มากไปกว่าหาทางหลบเลี่ยงในชั้นแรก ๆ เพื่อเซฟ SP
ทั้งสองหลบหลีกซ่อนเร้นไปตามหลืบมุมที่พอจะให้ที่กำบังได้บ้างคล้ายกับผู้ออกแบบที่นี่ได้สร้างมันมาไว้เพื่อการนี้ สำหรับใครก็ตามที่ตาดีและมีไหวพริบพอสมควรก็ไม่ต้องเหนื่อยแรงอะไร
กระทั่งมาถึงชั้น 5 ก็ราวกับโปรโมชั่นหมดลง
ทั้งสองมองหน้ากันเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่พบช่องที่จะหลบเลี่ยงไปได้ เพราะมันเป็นโถงโล่ง ๆ ที่มีเสาศิลาต้นใหญ่อวบอ้วนวางอยู่ห่าง ๆ กันพร้อมติดตั้งกลไกยิงลำแสงอาคมด้วย
"เห็นได้ชัดเลยน้า" ประกายแสงบอก ดักคอกันชัด ๆ ท่าทางจะไม่ยอมให้พวกแสนกลไปได้ไกลกว่านี้โดยไม่ต้องใช้กำลัง
"ถ้ากระจอกก็อย่าแหยม แน่จริงก็เข้ามา" Tea Time เสริมและขยายความ ก่อนจะบอกต่อว่า "ที่ผ่านมาสนุกมาก"
"อย่ามาสั่งเสียกันตอนนี้สิคะ"
"ฟังอดีตไหม" Tea Time ตั้งโต๊ะชาบริเวณขอบรอบนอกที่อยู่นอกพื้นที่อันตรายและรินชาส่งให้ ซึ่งชามรณะของเธอนั้นประกายแสงไม่ยอมดื่มหรอก
"ไม่ต้องเลยนะคะ! พอระลึกอดีตแล้วก็จะตายใช่มั้ย"
Tea Time ถามไปงั้นแหละ สุดท้ายก็เล่าอยู่ดี แม้ประกายแสงจะพยายามอุดหูแล้วโวยวายว่าอย่าเล่า ๆ ก็เถอะ
ความจริงแล้ว Tea Time ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์ เธอเป็นตุ๊กตากลที่เคลื่อนไหวด้วยแบตเตอรี่ ตอบสนองด้วยเซ็นเซอร์ ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่คิดอ่านได้เอง
(ในยุคนี้มีขายอยู่ แต่ราคาแพงมาก เป็นของเล่นเศรษฐีนั่นเอง)
Tea Time เข้าเกมมาพร้อมกับใครอีกคน คน ๆ นั้นคือ Sayuri คุณหนูที่เป็นเจ้าของเธอ
แม้ว่า Tea Time จะตอบสนองด้วยระบบแพทเทิร์นคำพูดที่คอมพิวเตอร์โปรแกรมมาแต่เธอก็เชื่อว่า Tea Time มีชีวิตจริง ๆ Sayuri รัก Tea Time มาก ไปไหนก็จะพาไปด้วยเสมอ
วันหนึ่ง Sayuri ได้ตลับเกมนี้มา และเธอก็เข้าเกมมาพร้อม Tea Time นี่แหละ เรื่องอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นก็คือ Tea Time กลับมีชีวิตขึ้นมาได้จริง ๆ ในเกมนี้
และนั่นทำให้ Sayuri ดีใจมากจนไม่คิดออกจากเกมนี้ เธอจะไม่ยอมให้ Tea Time กลับไปเป็นตุ๊กตาไขลานอีกแล้ว ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในเกมนั้น Sayuri สนุกสนานกับ Tea Time เพียงสองคน
Tea Time เองแม้จะดีใจและมีความสุขที่ตนเองมีชีวิตขึ้นมาและตอบโต้กับคุณหนูของตนเองได้แต่กลับไม่สบายใจที่ Sayuri ทำอย่างนี้ เธอไม่ควรทอดทิ้งโลกของเธอ
จนกระทั่ง 6 เดือนต่อมา เมื่อ Tea Time เกลี้ยกล่อม Sayuri สำเร็จ ณ จุดเซฟ Sayuri จึงยอมออกจากเกมเป็นครั้งแรก (คนที่ไม่เคยออกเกมไม่รู้ว่าเวลาภายนอกเดินไปช้ามาก)
Tea Time ไม่ได้ออกจากเกมไปด้วย เพราะ Sayuri กลัวว่า Tea Time จะไม่สามารถมีชีวิตได้อีก กระทั่ง 3 เดือนในเกมผ่านไป... Tea Time ที่เฝ้ารออยู่ตลอดกลับไม่พบแม้เงาของ Sayuri
เธอตัดสินใจออกจากเกม ซึ่งเธอเชื่อว่าถ้าออกจากเกมไปแล้วเธอคงจะเสียสติสัมปชัญญะที่มีทั้งหมดไป แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าการมานั่งรอชนิดที่ทำอะไรไม่ได้เลย
ปาฏิหาริย์ครั้งที่สองในชีวิตของ Tea Time ก็คือ แม้ออกจากเกมแล้วแต่เธอกลับยังเคลื่อนไหวและคิดอ่านได้เช่นเดิม มันเหลือเชื่อนัก เธอเคลื่อนไหวได้ด้วยอำนาจจิตของ Telekinesis
Tea Time ได้รู้ว่าเวลาภายนอกนั้นเพิ่งผ่านมาเพียงครึ่งชม.นับแต่เข้าเกมไป ส่วน Sayuri ก็เพิ่งออกจากเกมมาได้แค่ 15 นาที แต่เธอไม่อยู่ที่นี่ ดูเหมือนคุณแม่จะให้เธอไปซื้อของเป็นเพื่อน
จนกระทั่งเย็น สิ่งที่ Tea Time ไม่อยากจะเชื่อก็คือ Sayuri ถูกรถชนเสียชีวิต
และนี่คือเรื่องราวก่อนที่ Sayuri จะกลายเป็นผีมาปรากฎใน MW
"หากพรนั้นสามารถชุบชีวิตให้คุณหนูได้" Tea Time กลับเข้าเกมมาโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเคลียร์เกม เพื่อขอพรให้คุณหนูของตนเองฟื้นขึ้นมา
แต่...
"ว้าย น่ารักอ้ะ หุ่นยนต์ของจริงด้วย" Silver ไอดอลสาวเลเวลต่ำเตี้ยเข้ามาดึงแก้ม Tea Time ดู
"น่าจะเป็นตุ๊กตามากกว่านะคะ" ประกายแสงเดินวนสำรวจรอบ ๆ
"หลังจากนั้นก็มีแต่เรื่องสนุกและตื่นเต้น" Tea Time บอกว่าเพราะทั้งสองแท้ ๆ ทำให้เธอลืมเป้าหมายและคุณหนูไป เธอรู้สึกผิดจริง ๆ
ถึงตอนนี้จะเลเวลสูงมากแล้ว แต่ท่าทางการเคลียร์เกมจะห่างไกลออกไปกว่าเดิมเสียอีก เธอคงไม่มีทางขอพรได้ ซึ่ง Tea Time ไม่รู้เงื่อนไขของพรที่จะขอ เธอไม่มีทางชุบชีวิต Sayuri ได้
แต่ถึงเสียใจแต่ก็มีความสุขด้วย ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันในเกมสองปีกว่าเป็นเรื่องที่พิเศษ พูดจบ Tea Time ก็ลุกขึ้นยกโต๊ะชาวิ่งออกไปรับลำแสงที่ยิงเข้าใส่เป็นสายฝน
ประกายแสงร้องกรี๊ดแล้ววิ่งตามให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอตามมาได้ทันก่อนที่โต๊ะชาจะแตกเป็นชิ้นแล้วกอด Tea Time พลิกตัวมารับลำแสงเอง ทำเอา Tea Time ที่ตาปรือต้องเบิกตากว้าง
Tea Time พยายามดันประกายแสงออกแต่ไม่สำเร็จ เธอถามว่าทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย ถ้าเธอตายไปเลเวลและการ์ดของเธอจะหายไปมากมายเลยนะ
"ฉันเรียนรู้ที่จะรักษามิตรภาพเอาไว้มากกว่าจะไขว่คว้าหาความสำเร็จค่ะ" ประกายแสง เธอพูดอะไรแบบนี้ได้ด้วยเหรอ
แล้วทุกอย่างก็เจิดจ้า ส่งให้ทั้งสองกลายเป็นดาวบนฟากฟ้า
เสียงดนตรีไร้คลาสที่บรรเลงขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยและไม่เข้ากับเกมเลยสักนิดจบลง
ที่นี่คือทุ่งสีเขียวที่กว้างขวาง ลมที่เย็นสบาย และกังหันลมที่บ่งบอกถึงยุคสมัยภายในเกมกำลังหมุนอย่างเอื่อย ๆ
มันเป็นความประทับใจแรกเริ่มหลังจากที่ผ่านเข้าไปสัมผัสในเกมนี้ ฟิลด์กว้างใหญ่นี่มันยอดไปเลยนะ มันจะมีมอนสเตอร์ด้วยใช่ไหม อ๊ะ นั่นไง มีคนกำลังตีมันอยู่
"ดาวอะไรอะ ยังไม่ตายค่า"
Tea Time ที่นอนแอ้งแม้งอยู่ข้าง ๆ ได้แต่มองประกายแสงอยู่อย่างเงียบ ๆ แม้การ์ดจะหายไปครึ่งอัลบั้ม แต่เธอก็ไม่เสียใจเลย เพราะอะไรกันนะ
"โต๊ะชาพังแล้ว"
"ปะ ไปซื้อใหม่กัน"
"มีเควสสร้างโต๊ะชาอยู่"
"ห๊ะ มีเควสอะไรแบบนั้นด้วย"
+150 G +25 Card +25 Pointไม่ว่าหนทางข้างหน้าหรืออนาคตจะเป็นเช่นไร แต่พวกเธอก็ได้สร้างความทรงจำที่ดีร่วมกันผ่านทางเกมนี้ตามเป้าประสงค์ของผู้สร้าง
ความคาดหวังที่ดูเพ้อฝันของเธอเป็นจริงขึ้นมาเรื่องหนึ่งแล้วนะ Stephanie