ย้อนไปก่อนหน้าที่ดารา(หญิง)จะไปแข่งรถกับชายปริศนาเล็กน้อย
ชายปริศนาคนเดียวกับคนที่คอยให้กำลังใจดารา(หญิง)จากที่ไกลๆขับรถมาหากราเทียแล้วยื่นโน้ตแผ่นหนึ่งให้เจ้าหล่อน
"ต่อจากนี้ฉันจะไปแข่งรถกับนักแข่งอันดับสองเมื่อสามปีที่แล้ว และการแข่งขันครั้งต่อไปเจ้าหล่อนจะเก่งขึ้นกว่าเดิมไม่รู้กี่ร้อยพี่พันเท่า"
"ถ้าไม่อยากแพ้ง่ายๆละก็ ขับรถด้วยความเร็วแสงให้ได้แล้วไปตามที่อยู่ที่เขียนไว้ในโน้ตนี่ให้ได้ซะ"
"ที่อยู่ในโน้ตคือที่อยู่ของเด็กหนุ่มผู้เป็นอดีตและจุดเริ่มต้นของหญิงสาวคนนั้น"
"ชื่อของเด็กหนุ่มคนนั้นคือดารา!"
"หากพบกับเด็กหนุ่มคนนั้นละก็ เธอจะได้เรียนรู้เรื่องสำคัญอย่างแน่นอน!!"
เมื่อชายปริศนาพูดจบแล้วก็ซิ่งรถหายไปก่อนที่กราเทียจะรู้สึกตัวเสียอีก
กราเทียไม่เข้าใจความหมายของคำพูดที่ชายปริศนาบอกเธอเท่าไรนัก แต่เธอรู้สึกว่าควรจะเชื่อชายปริศนาคนนี้ดูสักครั้ง
กราเทียฝึกเทคนิคความเร็วแสงด้วยความมุ่งมั่นจนเลือดตาแทบกระเด็น แล้วซิ่งทะลุมิติมาจนมาถึงที่อยู่ตามที่เขียนไว้ในโน้ต...
"เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละ" กราเทียกล่าวปิดท้าย ตอนนี้ทุกคนยกพลกันมาคุยกันที่ออฟฟิศของฟุโย โดยที่มีฟุโยนั่งทำงานเอกสารอยู่ที่โต๊ะด้วย
"แล้วทำไมถึงมารวมพลที่ออฟฟิศของฉันไม่ทราบ ฉันไม่ใช่มาเอดะคุงซะหน่อย" ฟุโยกระปอดกระแปด แต่ก็ยอมให้พวกดารายืมใช้ที่
"เอาน่าๆ คิดซะว่าทำบุญให้ก็แล้วกัน ว่าแต่เรื่องของหล่อนนี่โคตรขี้โม้เลย ไม่เห็นว่าขับรถทะลุมิติมานี่นึกว่าหล่อนเป็นพวกเมากาวแล้ว" โซรีพูดไม่คิดไปตามประสาตัวเอง
"เห...คุณดาราคนนั้นเป็นนักแข่งรถแล้วสิน้า...แถมยังใช้รถดาวหางสีชาดอีก..." แต่ดารากลับกอดอกพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบๆเหมือนทุกที ราวกับว่าเรื่องที่กราเทียเล่าไปเมื่อครู่เป็นเรื่องธรรมดา
"...อ้าว ดารา ทำไมท่าทีเฉยงี้ล่ะ เรื่องที่ยัยนี่เล่าน่ะขี้โม้เลยนา"
"อ่า....ตั้งกะหลุดมาในหอคอยนี้ผมก็เจอเรื่องขี้โม้มาเยอะแล้วนา..." ดาราว่า
"แล้วก็...ดาราคนนั้นน่ะเป็น
ลูกหลานของผมเองแหละ"
"!"
"ก็...ตามนั้นแหละครับ คุณดาราคนนั้นเป็นลูกหลานของผมในอีกหลายร้อยปี...ถึงตอนนั้นมีไทม์แมชชีนใช้แล้ว คุณดาราเลยเคยมาหาผมน่ะ"
"อย่างนี้นี่เอง...ที่หมอนั่นบอกว่านายเป็นอดีตและจุดเริ่มต้นของดาราคนนั้นนี่หมายความว่าอย่างนี้สินะ มองในทางกลับกันแล้วนายก็คือโคตรบรรพบุรุษของยัยนั่น แถมยังเคยเจอกันมาก่อนด้วย"
"บอกตรงๆตอนแรกฉันนึกว่านายเป็นแต๋วและดาราคนนั้นคือนายที่แปลงเพศมาแล้วซะอีก"
"..." ดาราได้แต่นิ่งเงียบด้วยความหงายเงิบเมื่อได้ยินอย่างนี้ ในขณะที่โซรีหัวเราะเต็มที่อย่างไม่ปกปิดอาการ หรือแม้กระทั่งฟุโยที่อาวุโสที่สุดในห้องนี้ก็ทำงานไปกลั้นขำไป
"ว่าแต่ เป้าหมายของคุณที่มาที่นี่ก็คือมาเรียนรู้เกี่ยวกับคุณดาราและเรื่องสำคัญจากผมงั้นสินะ...?" ดาราเปลี่ยนเรื่องก่อนที่จะได้เห็นโซรีหัวเราะแทบบ้ามากกว่าไปนี้
"ใช่" กราเทียตอบกลับด้วยสีหน้าที่จริงจังขนาดโซรีที่KYเป็นเนืองนิตย์ยังหยุดเงียบและฟังอย่างตั้งใจ
"ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เพื่อการแข่งรถ"
"เพราะฉันเป็นรถแข่ง ไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้น" เธอพูดด้วยท่าทีที่เรียบเฉยเฉกเช่นทุกที
"..."
"ผมว่าไม่ใช่แค่นั้นนา"
"!"
"เพราะรถแข่งน่ะ ไม่ได้มีความทะเยอทะยานที่จะมุ่งสู่ตำแหน่งที่สูงยิ่งขึ้นน้า..."
"แล้วรถแข่งน่ะไม่มีคู่แข่งให้ก้าวข้ามหรอกนา" โซรีพูดแทรกขึ้นมาตามประสาคนไม่ดูกาลเทศะ แต่สิ่งที่เธอพูดกลับเหมาะสมอย่างไม่น่าเชื่อ
"...เหนือสิ่งใด รถแข่งน่ะต้องการแค่ผู้ขับมันเท่านั้นแหละ" ฟุโยที่เห็นโซรีพูดต่อแล้วก็พูดขึ้นมาบ้าง "แต่เธอไม่ใช่ใช่มั้ยล่ะ?"
".............." กราเทียหยุดนิ่ง หล่อนพินิจมองทั้งสามด้วยสายตาที่ราวกับหยุดนิ่ง
"เพิ่งมีคนพูดแบบนี้กับฉันเป็นครั้งแรกนี่แหละ" แล้วเธอก็พูดด้วยรอยยิ้ม
"พอได้ยินพวกเธอพูดแบบนี้แล้ว ก็เริ่มจะเข้าใจคำพดของชายคนนั้นแล้วล่ะ...ถึงจะยังไม่ทั้งหมดก็เถอะ"
"ถ้าอย่างนั้น...ดารา...ขอฝากตัวด้วยนะ" กราเทียก้มหัวโค้งให้ดารา "ได้โปรด...สอนสิ่งสำคัญให้กับฉันที"
"................" ดาราหยุดนิ่ง
"ขอผ่านครับ ผมไม่ใช่นักแข่งรถ"
".................................................."
หลังจากนั้น ฟุโยก็สบโอกาส จับกราเทียมาเป็นนักแข่งในสังกัด Lotasia Production และกลายเป็นนักแข่งที่ทำเงินให้กับบริษัทได้มากมายก่ายกอง โดยมีรถของดารา(หญิง)ที่ผ่านการอัพเกรดด้วยฝีมือโซรีเป็นคู่หู
และสักวันหนึ่ง เธอจะกลับไปแข่งและชิงชัยกับดาราคนนั้นที่ Starlight
ในฐานะคู่แข่งของเธอ