| Camille Level 37
HP 3/3 | SP 3/3 | Skl 3 | Inv 2 | Ltc 2 | Int 4+2 | Str 3 | Vit 0 | Agi 1 | Acc 1 | Lds 2 | Fth 4+1 | Mrl 1 | Eft 4+1 | Chr 4+2
|
|
Skill - Savior: Fth +1 Eft +1 Chr +1 Ⓟ [Nature] ۞ Skill - Aquarius Sign: Chr +1, Burn Resist, Charm Resist Ⓟ [Nature] ۞ Skill - Intelligence: Int +2 Ⓟ [Nature] Item - Lucre's: กรงเล็บปลอกแขนขนาดใหญ่ M.Atk +3 Def +1 Ⓦ [Nature] Item - Cloak: ผ้าคลุม Def +1, ✪ Eft 2 Agi 1 ⓞ [Nature]
|
Camille นั้นแตกต่างจากหลาย ๆ คน เธอมีพรสวรรค์และเป็นอัจฉริยะมาแต่กำเนิด หากแต่เธอยังคงมีพรแสวงด้วย นั่นทำให้เธอยิ่งเก่งกาจ
แต่ไม่มีใครหรอกที่จะเก่งไปเสียทุกอย่าง Camille ไม่ใช่ผู้นำที่ดีนัก ถึงแม้เธอจะมีความสามารถทางด้านนี้อยู่บ้างก็ตามที แต่มันก็ไม่เพียงพอ
ตั้งแต่เด็ก Camille ต้องแต่งงานกับแกรนด์ดยุกแห่ง Lucretia เจ้าของฉายา หมาป่าแห่ง Lucre
เขารักและเอ็นดู Camille มาก อาจจะเพราะในเวลานั้น Camille ยังเด็ก เขามักจะไม่ให้ Camille ห่างกายเลย จนกระทั่งเธออายุได้สัก 15 ปี เขาก็เริ่มที่จะเหินห่าง และไปสนิทสนมกับองครักษ์อายุสัก 12-13 แทน
Camille เข้าใจได้เองว่าเพราะเหตุใด เธอไม่ได้โง่นี่นะ ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าเขาหมดรักเธอ และเธอก็ดันไปหลงรักบารอน Didijie เข้าอีก บางทีทั้งสองอาจจะไม่เหมาะสมกันมาแต่แรกแล้วก็เป็นได้
บารอนเป็นคนมอบความอบอุ่นและเปลี่ยนแนวคิดให้กับ Camille จนเธอเริ่มที่จะได้รับอิทธิพลมาจากเขา นั่นคือการต่อสู้เพื่อบ้านเกิดเมืองนอน และนั่นคงเป็นความผิดพลาดของเขาเองที่ทำให้ Camille มีความคิดเช่นนี้
ในท้ายที่สุด Camille ได้ตัดสินใจออกห่างจากบารอน เธอให้เหตุผลว่าเธอเป็นภรรยาของท่านดยุก และเธอไม่ต้องการให้ความรักระหว่างเรามาทำลายความสัมพันธ์นี้
เพราะในสายตาของ Camille แล้ว ดยุกมีความเป็นผู้นำสูง ซึ่งเกื้อหนุนกับเธอ ต่างจากบารอนที่คล้ายคลึงเธอมากเกินไป บารอนขาดความเป็นผู้นำ หากต้องเลือกเพื่อบ้านเมือง Camille ย่อมต้องเลือกดยุก
ทั้งสองต้องเจ็บปวด แต่บารอนเข้าใจว่าเขาเพียงคนเดียวที่เจ็บปวด และ Camille ได้ทอดทิ้งเขา ยังผลให้เกิดความโกรธแค้น แต่ก็ยังรัก...
Camille ใช้เสน่ห์ของตนเองพยายามดึงให้ดยุกกลับมา จนกระทั่งเธอเปลี่ยนใจเขาให้หันมามองเธอได้ แต่ช่วงเวลานั้นเกิดสงครามขึ้น จักรวรรดิทะเลทรายยกทัพล่วงเข้ามาใน Lucretia หลังป้อมปราการ Freya แตก
มันน่าเจ็บปวดที่ Camille ต้องสูญเสียดยุกไป หลังจากนั้นเธอก็ไม่อาจเจิดจรัสได้อีกเลย
Camille มองเห็นจุดจบของดินแดนที่ไม่มีผู้นำ และเธอก็ไม่อาจเป็นผู้นำของดินแดนกว้างใหญ่ได้
เธอได้สร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ขึ้น เพื่อให้มันถูกทำลายลง โดยใช้เหตุการณ์นั้นเป็นสาส์นส่งต่อให้ผู้ที่ตระหนักถึงมัน แม้ว่าเธอจะไม่มีโอกาสได้เห็นแต่เธอก็คาดเดาเอาไว้แล้ว และเธอพอใจกับผลที่มันควรจะออกมา
ผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่ไม่มีพลังอำนาจอะไรอย่างเธอกลับอ่านใจยอดคนจำนวนมากมายให้เดินตามคำทำนายของเธอได้
ไม่ว่าจะเป็น Morgan Psycho Rishada รัตติกาล Fuco Garnet จิ้งหลิง Moor Laurence Rann Macarine Falco Tania หรือกระทั่ง Pigeon ฯลฯ ทุกคนล้วนเป็นเพียงตัวหมากที่อยู่ภายใต้การทำนายของ Camille
ประวัติศาสตร์ได้บันทึกเอาไว้ว่า Camille เป็นผู้กล้าที่หลอมรวมผู้คนให้ต่อสู้ปกป้องดินแดน Lucretia เอาไว้ ด้วยชีวิตของเธอเอง...
อุปนิสัย ช่างสังเกต ชอบแกล้งหยอก เป็นมิตร อารมณ์ดี เก็บอารมณ์ไว้ใต้รอยยิ้มได้เก่ง มานะพยายาม ไม่ถือตัว ชอบเล่นหมากรุก และชอบเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ลึก ๆ
Camille มีไหวพริบ แต่ก็เจ้าเล่ห์แสนกลด้วย เธอมีความมานะพยายามที่จะกวนประสาทใครก็ได้ที่เธออยากแกล้ง อาจจะเพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำมามากตั้งแต่เยาว์วัยจึงมีพฤติกรรมเช่นนี้
เธอเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างมาก นั่นทำให้หลายคนมักชอบเธอ และอยากเข้าใกล้
ดวงดาวแห่งจักรราศีสมัยทรอย มีเจ้าชายนามว่า Ganymede เป็นเด็กหนุ่มรูปงามแม้แต่สาวงามก็ยังเทียบได้ยาก ซีอุสเกิดถูกใจ Ganymede เข้า จึงมาลักพาตัว Ganymede ไปที่โอลิมปัส
Ganymede ได้รับเกียรติทำหน้าที่เป็นผู้รินเหล้าแก่เหล่าเทพ และเป็นเด็กรับใช้ส่วนตัวของซีอุสด้วย
ซึ่งแต่เดิมเป็นหน้าที่ของ Hebe เทพีแห่งความเยาว์วัยซึ่งเป็นธิดาของเทพีเฮร่า และซีอุส แต่ได้เกษียณตัวเองไปแต่งงานกับเฮอร์คิวลิสที่ถูกยกให้เป็นเทพบนสวรรค์
แต่เมื่อเฮร่าเห็นซีอุสให้ความรักแก่ Ganymede ก็เกิดความหึงหวง ฝ่ายซีอุสก็กลัวเมียเป็นทุนเดิม จึงให้ Ganymede ไปเป็นกลุ่มดาวราศีกุมภ์เพื่อจะได้ไม่ต้องโดนเฮร่ารังควาน
หากซีอุสแต่งงานกับ Ganymede เขาอาจจะร่วมกับซีอุสสร้างยุคสมัยใหม่ขึ้นมา แต่ซีอุสก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น ท้ายที่สุดซีอุสจึงต้องส่งหนุ่มรูปงามไปเป็นดวงดาวบนสรวงสวรรค์
เช่นเดียวกับ Camille ที่ยืนอยู่บนยอดเขาสูงเพียงผู้เดียว เธอไม่อาจอยู่ในสถานที่หนาวเหน็บแห่งนั้นได้ด้วยตัวคนเดียว และไม่มีใครที่จะขึ้นมายืนอยู่ข้างกายของเธอเลยแม้สักคน
| Lalune Level 35
HP 1/1 | SP 3/3 | Skl 3 | Inv 3 | Ltc 2 | Int 4 | Str 2 | Vit 0 | Agi 1 | Acc 2 | Lds 0 | Fth 4+2 | Mrl 3+1 | Eft 4 | Chr 3
|
|
Skill - Gospel: สร้างปาฏิหาริย์ ทำให้ Atk < 10 เป็น 0 Ⓠ [Nature] [1 SP] ۞ Skill - Virgo Sign: Def +1, Curse Resist Ⓟ [Nature] ۞ Skill - Trust: Fth +1 Ⓟ [Nature] Item - Fisherman’s Ring: แหวนของพระสันตะปาปา Fth +1 Mrl +1 ⓞ [Nature] Item - Sceptre: คทาประจำตำแหน่ง M.Atk +3 Acc -2, ✪ Acc 2 Ⓦ [Nature] Item - Pink Chasuble: ชุดคลุมพระสังฆราช Guard 3, ✪ Mrl 2 Agi 1 ⓞ [Nature] [1/1]
|
Frigg เดิมทีแล้วเป็นนักบวชหญิงชั้นสังฆราชที่เลื่อนขั้นขึ้นมาแทนตำแหน่งอัครสังฆราช (มหาสังฆราชเจ้า) ที่ว่างลง อันเกิดมาจากการที่สังฆราช Piel หายสาบสูญไป
แม้จะน่ากังขาว่าเหตุใดต้องเป็น Frigg ที่ไม่ได้มีบทบาทอำนาจใดนัก ทั้งด้านการเมืองและการปกครอง แต่ศาสนจักร (Saintia) ก็มีคำตอบที่ไม่อาจบอกใครได้
ในความจริงแล้ว Frigg นั้นเป็นบุคคลพิเศษที่หาได้ยากยิ่ง เธอมีคุณสมบัติเป็นร่างทรงสถิตย์ Mystica ซึ่งบุคคลที่มีคุณสมบัติเหล่านี้จะมีธาตุที่แข็งแกร่งมาก
Mystica ส่วนใหญ่มักไม่เข้าใกล้บุคคลประเภทนี้ หรืออาจจะบอกว่าพวกมันหวาดกลัวก็ไม่ผิด อันเป็นเพราะพวกเขามีอิทฤทธิ์ในการสะกดและดึงพลังจาก Mystica ออกมาใช้ได้มากกว่าคนทั่วไป
คนปกติถ้าจะใช้พลังเต็มที่ของ Mystica จะต้องตาย เพราะร่างกายไม่อาจรับพลังอำนาจเทียบเคียงพระเจ้าได้ไหว แต่กับร่างทรงสถิตย์อาจจะมีโอกาสรอดมากกว่าครึ่ง
หากได้ครอบครอง Mystica คนเหล่านี้จะทรงอิทธิฤทธิ์อย่างมากมาย แต่สิ่งที่ติดตัวมากลับเป็นคำสาปแห่งภัยพิบัติและบททดสอบที่หนักหนา
พวกเขาเหล่านี้มักต้องผจญอุปสรรคและความยากลำบากแสนสาหัสในชีวิตจนส่วนใหญ่มักเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก คนที่รอดมาได้หากไม่มีดวงชะตาที่แข็งแกร่งก็มักจะมีคุณสมบัติอื่น ๆ ในการรักษาชีวิต
ผู้ที่ค้นพบคุณสมบัติข้างต้นคือเจ้าหน้าที่วิจัยของศาสนจักร ซึ่งมีเพียงศาสนจักรเท่านั้นที่นำคุณสมบัตินี้มาใช้ประโยชน์อย่างลับ ๆ ในฐานะ 'ร่างทรงชีวอาวุธ'
Rebirth Mystica จำลองแม้จะมีพลังไม่เท่าของจริง แต่ก็มีพลังมหาศาล แลกกับคำสาปที่ตีกลับจนทำให้ผู้ถือครองถูกบั่นทอนอายุขัย และมันถูกผนึกเข้ากับ Frigg เป็นคนแรก
Frigg ทำหน้าที่เบื้องหน้าเป็นอัครสังฆราชผู้งามสง่าและเป็นศูนย์รวมใจ แต่เบื้องหลังคือการรักษาพลังอำนาจที่ศาสนจักรสร้างขึ้นมา
นับสิบ ๆ ปีที่ Frigg ทำหน้าที่ได้อย่างดี แม้เธอจะมีดวงชะตาที่อาภัพและถูกโชคชะตาเล่นตลกด้วยอยู่บ่อยครั้งแต่เธอก็เอาตัวรอดมาได้ด้วยสติปัญญา จนกระทั่งวันหนึ่ง
เรือเดินสมุทรของศาสนจักรได้อัปปางลงเพราะฝีมือของโจรสลัด และ Frigg ได้หายสาบสูญไปหลังจากนั้น นั่นคือประวัติศาสตร์ที่เขียนเอาไว้
และเป็นอีกครั้งที่ Rebirth Mystica หายสาบสูญไป ลำบากให้ศาสนจักรต้องสร้างมันขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อสังฆราชองค์ใหม่ Lalune
Lalune เดิมเป็นเพียงนักบวชชั้นบาทหลวงเท่านั้น เธอแทบจะไม่มีใครรู้จักเลยด้วยซ้ำไป
แต่เธอกลับถูกเลือกให้รับตำแหน่งคาร์ดินัลชั้นสังฆราชอย่างปุบปับ และเลื่อนชั้นเป็นราชาคณะ (อัครสังฆณาช/มหาสังฆราช) ในวันถัดมา
ข้ออ้างที่คณะคาร์ดินัลฝ่ายขวาอ้างก็คือ Lalune ทำคะแนนในการสอบวัดผลได้สูงที่สุด ซึ่งฟังไม่ขึ้น แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดมาโต้แย้ง ยิ่งอำนาจของฝ่ายขวาที่มีมากด้วยแล้วการรับตำแหน่งนี้จึงเป็นสิทธิที่ชอบธรรม
อย่างที่เข้าใจ Lalune ก็เหมือน Frigg เธอมีสถานะเป็นเพียงภาชนะเก็บกักพลังอำนาจที่ชื่อว่า Rebirth Mystica
ตลอดที่ผ่านมา Lalune ที่เป็นร่างทรงได้ถูกทดสอบหลายต่อหลายครั้ง แต่เธอก็รอดชีวิตมาได้จนสามารถเจิดจรัสและถูกกล่าวว่าเป็นหนึ่งในนักบุญแห่งจักรราศีเมื่อเธอได้เข้าร่วมสงครามเซนทอร์
หลังจากนั้น Lalune แทบหมดบทบาททางประวัติศาสตร์ แม้ผู้คนจะจดจำ แต่ไม่มีพบเห็นเธอ
"เห็ดจะไม่งอกบนศีรษะของเราจริง ๆ หรือ"
Spoiler for Hiden:
Zabrina และ Frey ร่วมแรงกันออกประชาสัมพันธ์แก้ไขความเข้าใจผิดของผู้คนที่กำลังหวาดกลัว ทั้งสองป่าวประกาศว่าพวกเราจะปกป้องดินแดนนี้ และจะต่อสู้จะกว่าจะสิ้นชีพ
ในขณะที่ Tania กับ Lalune สืบค้นจนถึงต้นตอของข่าวลือ ซึ่งก็คือ Cute ที่มาแอบซ่อนอยู่ในโรงแรมของเมืองนั่นเอง
ทันทีที่ทั้งสองได้ข้อมูลก็สั่งการทหารให้จู่โจมทันที แต่ Cute ก็ราวกับมีอำนาจหยั่งรู้ล่วงหน้า โรงแรมถล่มลงมาฝังทั้งทหารและ Tania
ขณะที่ Cute กำลังจะเดินออกนอกเมืองก็ได้พบกับ Lalune ที่ยืนอยู่เพียงคนเดียว Lalune ได้ถามคำถามกับ Cute หนึ่งข้อ
"ท่านทราบหรือไม่ว่าเห็ดนั้นเติบโตได้ทุกที่"
"แต่เราไม่คิดว่าเห็ดจะไปงอกอยู่บนหัวเธอได้" Cute ตอบแล้วขอทางผ่านไป
ความนัยน์ที่ Cute เคยถามทิ้งเอาไว้นั้นติดคาในใจของเธอมานาน ซึ่งคำกล่าวของ Cute นั้นเป็นการบอกใบ้ให้ Lalune อย่าได้กลัวไปเลย
จักรวรรดิไม่มีเหตุผลใดให้ต้องเข้าไปยึดครองดินแดน Lucretia เช่นเดียวกับเห็ดไม่มีความจำเป็นต้องพยายามไปงอกบนหัวของ Lalune แม้มันจะงอกได้ทุกที่ก็ตาม
อุปนิสัย แสดงอารมณ์ไม่เก่ง ยิ้มยาก แต่อารมณ์ดีอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี(เกินไป) เธอมีความสามารถหลายอย่าง แต่มีงานอดิเรกแค่ไม่กี่อย่าง
Lalune เป็นคนเงียบ ๆ แต่ขยัน และรักการอ่าน เพราะเธอช่างสงสัย อยากรู้อยากเห็น บางครั้งดูเธอจะคิดอะไรที่ไม่เข้าสถานการณ์ เพราะเธอสงสัยมันขึ้นมาพอดี
ในยามว่าง Lalune มักจะเพาะเห็ด และดูแลเห็ดที่เพาะ บ้างก็พยายามไปเก็บเห็ดที่ขึ้นตามโคนต้นไม้มาเพาะพันธุ์ต่อ
เธอไม่ได้สนใจจะเอาไปขาย หรือเอาไปรับประทาน ก็แค่เธออยากเลี้ยงดูมัน เพราะมันก็เหมือนกับเธอนี่แหละ สปอร์เห็ดที่ล่องลอยมาแห่งใดก็ไม่รู้กลับงอกเงยได้ทุกที่
ดวงดาวแห่งจักรราศีสาวพรหมจรรย์ (Virgo) ตำนานกล่าวถึงเทพีผู้งดงามทั้งกายและใจที่ปกป้องคุ้มครองผู้คน คอยหว่านเมล็ดพันธุ์ให้งอกงาม จนวันหนึ่งผู้คนตกอยู่ในกิเลศ เทพีผู้งดงามจึงขึ้นสวรรค์ไป
เปรียบได้กับ Lalune ที่เธอคงจะคอยช่วยเหลือดูแลผู้คนจนวันที่เธอกายของเธอดับสูญ และวิญญาณของเธอจะถูกโอบกอดโดยพระเป็นเจ้า
นอกจากนี้เธอยังเพาะพันธุ์เห็ดให้เติบโตได้ทุกที่เหมือนกับที่เทพีผู้งดงามคอยหว่านเมล็ดพันธุ์เพื่อผู้คนเลยล่ะ
| Ayumi Level 36
HP 3/3 | SP 4/4 | Skl 3 | Inv 3 | Ltc 3 | Int 4 | Str 0 | Vit 0 | Agi 4+1 | Acc 4+2 | Lds 0 | Fth 2 | Mrl 2 | Eft 3 | Chr 1
|
|
Skill - Capricorn Sign: Acc +1, Water Resist, Charm Resist Ⓟ [Nature] ۞ Skill - Ninjutsu: Agi +1 Acc +1 Ⓟ [Nature] Skill - Mirage: หลบหลีก 100% [Magic] [2 SP] Item - Omamori: ตุ๊กตาฟางตัวแทน Guard 3, ✪ Mrl 2 Agi 1 ⓞ [Nature] [1/1] Item - Dagger: กริช M.Atk +1 Ⓦ [Nature] Item - Shuriken: ดาวกระจาย R.Atk 2 Ⓦ [Nature]
|
"อย่ามาท้าทายกันนะ" นินจาสาวไม่ชอบใจเลยยามที่เห็นอะไรสักอย่างที่ยั่วยวนใจให้ค้นหา เธอเดินฉิว ๆ เข้าไปในดันเจี้ยน และหมดเวลาไปกับมันถึงครึ่งเดือน
เธอเก่งกาจจริง ๆ ดันเจี้ยนทั่วไปฆ่าเธอไม่ได้หรอก แต่จะดีกว่าถ้าเธอไม่มาเจออะไรแบบนี้
"ไม่ ๆ ๆ ๆ ทุกทีเลย ทำไมข้าถึงเป็นแบบนี้ทุกทีเลย"
ภายหลังสงครามแบ่งแยกดินแดนทำให้อาณาจักร Manamia แตกเป็น 3 ส่วน
ดินแดนส่วนใหญ่ของ Manamia เดิมถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Manasia ปกครองโดยพันแสง กษัตริย์พระองค์แรก
ดินแดนข้างเคียงอีกหนึ่งดินแดนที่ชื่อว่า Mena ถูกปกครองโดย Duo กษัตริย์พ่อค้า ส่วน Ayumi นั้นเกิดและเติบที่อาณาจักร Ayuyu
ทั้งสามอาณาจักรนี้เป็นเหมือนมิตรสหายกัน จึงมักเรียกรวมสามอาณาจักรนี้ด้วยชื่ออาณาจักรเดิม Manamia 'ดินแดนต้นกำเนิดของสายธารมานา'
เนื่องจากความสงบสุขของบ้านเกิดทำให้ Ayumi ไม่สามารถหางานที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ถ้าจะมีก็แค่งานเล็ก ๆ เช่นสืบข่าวเมียมีชู้ สามีตีตรา อะไรพวกนั้น ซึ่งมันไม่ใช่งานที่เหมาะสมกับเธอเลย
เธอเดินทางอย่างไรจุดหมายมาถึงที่นี่เหรอ ไม่ใช่หรอก เธอมีเป้าหมายในใจอยู่แล้ว นั่นคือการขึ้นเหนือ มุ่งสู่ดินแดนที่ไฟสงครามกำลังโหมกระหน่ำ ที่นั่นคือกระดานสำหรับตัวหมากเช่นเธอ
Ayumi เป็นนินจาชั้นแนวหน้า ฝีมืออันดับต้น ๆ ของดินแดน Manamia ไม่ว่าจะการสืบ การลอบฆ่า หรือแม้แต่การวางแผน เธอทำได้หมด แล้วเธอยังวิ่งไว ปีนป่ายเก่งด้วย
ราวกับเธอมีหูทิพย์ ตาทิพย์สอดส่องรอบเมือง ดูเหมือนล่องหนหายตัวได้ ไม่ว่าใครก็แตะต้องตัวเธอได้ยากยิ่ง
เธอเป็นคนแรกด้วยซ้ำที่รอดชีวิตจาก Dark Mystica ของรัตติกาลไปได้ (รัตติกาลยืนยันว่า ครั้งใดที่เธอใช้มัน ไม่เคยมีใครรอด) เธออาจจะไม่ได้เก่งกาจเรื่องการต่อสู้เป็นที่หนึ่ง แต่ถ้าเรื่องการหลบหนีเอาตัวรอดล่ะก็ขอให้บอก
Ayumi ทำงานเพื่อเงิน ไม่รู้ว่าเธอจะเก็บเงินไปทำไม แต่เธอก็ไม่ใช่คนละโมภอะไร นั่นคือสิ่งที่แม้นายจ้างของเธออย่าง Falco ก็ยังไม่รู้ และคงไม่มีใครรู้
"ข้าทำงานย่อมต้องการผลตอบแทน ข้าก็แค่รับมันมา เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ตัวข้า ความสามารถของข้าไม่ให้ใครเปล่า ๆ หรอกนะ"
ส่วนเงินที่ได้มาดูเหมือนเธอจะส่งกลับไปยัง Ayuyu ให้กับหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เธอเติบโตขึ้นมา ซึ่งเรียกว่าหมู่บ้านนินจา
Ayumi คือฟันเฟืองตัวสำคัญหนึ่งในสองที่คอยขับเคลื่อนสิ่งต่าง ๆ ภายใต้การควบคุมของ Falco ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือ Pigeon
หลังสงครามและการต่อสู้กับ Last Day จบลง Ayumi ได้หายไป ว่ากันว่าเธอเดินทางไปยังจักรวรรดิ Zoa เพื่อเข้าร่วมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
และเช่นเคย เธอไม่ลืมที่จะส่งเงินกลับไปยังหมู่บ้านของเธอ เพื่อให้พี่น้องได้กินอยู่หลับนอนอย่างเต็มอิ่ม ในฐานะพี่ใหญ่ของบ้าน
อุปนิสัย ค่อนข้างแอคทีฟ รักการผจญภัยและกิจการใด ๆ ก็ตามที่ได้ใช้ฝีมือของตนเอง ชอบการค้นหาและไขความลับ ชอบสอดรู้สอดเห็นและยุ่งเรื่องชาวบ้าน
Ayumi ถือหลัก บุญคุณต้องทดแทน แค้นไม่ต้องไปสนใจ เธอไม่ยึดติดอะไร และใช้ชีวิตอย่างอิสระนับแต่ก้าวออกจากหมู่บ้านนินจา
ดวงดาวแห่งจักรราศีตามตำนาน เมื่อปิศาจไต้ฝุ่นปรากฎตัว เหล่าเทพเทวาที่มากินเลี้ยงพากันแปลงกายหนี เทพสององค์แปลงกายเป็นปลาว่ายหนีรอดไปได้
แต่มีเทพอยู่องค์หนึ่งแทนที่จะหนี กลับแปลงกายเป็นแพะที่มีท่อนล่างเป็นปลา เพื่อลอยคอเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้น (ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแพะ)
ซึ่งก็ตรงตามบุคลิกและสถานะของ Ayumi ที่เป็นสายลับคอยสอดส่องสิ่งต่าง ๆ และนิสัยที่อยากรู้อยากเห็น จุ้นจ้านไปเสียหมดของเธอ
| Fencer Level 33
HP 3/3 | SP 3/3 | Skl 3 | Inv 2 | Ltc 3 | Int 4 | Str 1 | Vit 3+1 | Agi 1 | Acc 1 | Lds 1 | Fth 4+1 | Mrl 1 | Eft 2 | Chr 1
|
|
Skill - Bodyguard: Vit +1 Fth +1 Ⓟ [Nature] Skill - Magic Wall: ป้องกัน Atk 100% [Magic] [1 SP] Skill - Protect: รับอุปสรรคแทนเป้าหมายได้ [Nature] Item - Sabre: ดาบโค้งมือเดียว M.Atk +2 Ⓦ [Nature] Item - Hood: ผ้าคลุมศีรษะ Def +1, ✪ Eft 2 Agi 1 ⓞ [Nature]
|
Fencer ถูกเลี้ยงดูโดยสังฆราชแห่ง Odil จนเติบโตมาเป็นอัศวินพิทักษ์สังฆราชที่เก่งกาจรอบด้าน ตำแหน่งสุดท้ายของเธอคือหัวหน้าอัศวินราชองครักษ์
การทำงานตามหน้าที่อย่างเถรตรงบางครั้งก็ไม่ส่งผลดีกับตนเอง เมื่อ Fencer ที่ทำงานตามคำสั่งนายเหนือหัวกลับต้องเสียนายเหนือหัวและยังมีความผิดด้วย
ภายหลังถูกปลดทำให้เธอไม่อาจรับตำแหน่งอัศวินได้อีก จนเธอเกือบจะหันหน้าเข้าสู่ศาสตร์แห่งมือสังหารเสียแล้วหากไม่ใช่ Eugeo ที่หยิบยื่นไมตรีให้กับเธอ (ในความคิดของ Eugeo)
Fencer ไม่เคยคิดจะไปเป็นมือสังหาร มันต่างกันก็แค่เธอไม่ได้ออกเดินทางเป็นนักดาบเร่ร่อน แต่ได้กลับมาทำงานเชิดหน้าชูตาในสังคมชนชั้นสูงเช่นเดิม
Fencer ไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้เพียงอย่างเดียวกลับยังมีความสามารถในการวิเคราะห์ คาดการณ์ และวางกลยุทธ์ต่าง ๆ อีกด้วย
เธอพอใจที่จะมีชีวิตอย่างอิสระในอีกฐานะหนึ่งที่ไม่ต้องออกหน้าฟาดฟันศัตรูบนหลังมังกรตัวโปรด ซึ่งนั่นก็คือนักยุทธศาสตร์
Fencer อาจจะไม่ใช่ยอดนักยุทธศาสตร์เรืองปัญญา (จะเห็นว่า strategy 9 ไม่ใช่ 10) แต่เธอเป็นมากกว่านั้น
ทั้งหน้าที่คุ้มกัน ลอบสังหาร สืบข่าว หรือต่อสู้ เธอทำมันได้หมด มากกว่าที่นักยุทธศาสตร์ธรรมดาจะทำได้ นั่นคือศักยภาพของเธอ
เมื่อกล่าวถึงฟันเฟืองจำนวนมากที่ขับเคลื่อนกันและกัน Fencer อาจจะไม่ใช่ศูนย์กลาง แต่ปฏิเสธไมไ่ด้เลยว่าเธอเป็นฟันเฟืองที่ตัวใหญ่ที่สุดที่คอยขับเคลื่อนและผลักดัน Eugeo ให้ก้าวต่อไป
คำแนะนำของ Fencer อาจจะไม่ชี้ผลแพ้ชนะ หรือศักดิ์สิทธิ์ดุจคำทำนาย แต่คำแนะนำและแผนการต่าง ๆ ของ Fencer นั้นไม่เคยผิดพลาด
ตลอดมาเธอทำงานกับ Eugeo ด้วยความว่างเปล่า เธอคิดแค่ว่าเธอน่าจะทำอะไรสักอย่างที่เธอทำได้ และควรที่จะทำมัน เธอมีความตั้งใจที่จะทำเพราะมันคืองาน
แต่หลังจากเธอได้เห็นความพยายามของ Eugeo และ Tania มันกลับทำให้เธอรู้สึกว่าเธอน่าจะลองทุ่มเททำด้วยใจดูสักหน่อย บางทีมันอาจจะเติมเต็มในสิ่งที่เธอตามหามาตลอดก็เป็นได้
หลังสงครามกับ Last Day จบลง Fencer ได้พบคำตอบนั้น เธอเพียงแค่ต้องการหานายที่ตนเองพร้อมจะทำงานให้อย่างถวายชีวิต และเธอก็พบแล้ว
อุปนิสัย สงบเสงี่ยม นิ่งเฉย มักจะไม่เป็นฝ่ายพูดก่อนหากไม่ใช่ธุระ หลายครั้งที่เธอยิ้ม แต่น้อยครั้งที่เธอจะหัวเราะ รอบคอบจนเกือบจะเรียกว่าขี้ระแวง
Fencer อาจจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาคนที่เธอสนใจด้วยตนเอง และเป็นการรุกเข้าใส่อย่างกล้าหาญเลยล่ะ เช่น การขอเข้าไปอาบน้ำด้วย หรือขอเข้ามานอนด้วยอย่างหน้าด้าน ๆ
| Tania Level 26
HP 1/1 | SP 2/2 | Skl 2 | Inv 0 | Ltc 1 | Int 3 | Str 0 | Vit 0 | Agi 1 | Acc 1 | Lds 2 | Fth 4 | Mrl 3 | Eft 3+1 | Chr 3+1
|
|
Skill - Aquarius Sign: Chr +1, Burn Resist, Charm Resist Ⓟ [Nature] ۞ Skill - Effort: Eft +1 Ⓟ [Nature]
|
Tania เป็นราชนิกูลลำดับท้าย ๆ แห่งราชวงศ์ Benir ซึ่งเดิมทีแล้วเธอไม่มีบทบาทใด ๆ เลยแม้แต่น้อย เป็นเหมือนไม้ประดับที่ถูกแขวนอยู่บนหน้าต่างหอคอยเท่านั้น
มารดาของเธอมีความพยายามที่จะผลักดันเธอให้ขึ้นเป็นเจ้าหญิงรัชทายาทเพียงผู้เดียวด้วยการใช้มือสังหาร แต่แผนการก็ล่มไม่เป็นท่า
Tania ที่ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนตุ๊กตาตั้งแต่เด็กแทบจะไม่รู้จักการคิดและตัดสินใจในสิ่งใดนอกจากความรู้พื้นฐานและมารยาททางสังคมที่พึงรู้ นั่นทำให้เธอมีชีวิตในหลืบมุมที่ไม่มีวันจะได้ส่องสว่าง
จนกระทั่งเกิดเหตุการพลิกผันที่ Flanze ส่งผลให้ Tania สูญสิ้นทุกอย่าง และต้องระหกระเหิน เธอได้รับความช่วยเหลือจาก Camille และ Eugeo ในการให้สถานที่พักพิงและอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยและอบอุ่น
ตลอดมา แม้ Tania จะไม่มีโอกาสได้บอกกล่าว แต่เธอรักและเคารพ Camille มากไม่ต่างจาก Eugeo เธอได้สำนึกและรักดินแดน Lucretia ที่ให้ชีวิตกับเธอ และพร้อมที่จะต่อสู้ปกป้องมัน
Tania เป็นอีกคนที่ Camille คิดเอาไว้ว่าเธออาจจะเป็นผู้ถูกเลือก เพราะ Tania ที่ได้พบเห็นสิ่งต่าง ๆ ในโลกกว้างและผ่านชีวิตในหลายรูปแบบคนนี้ต่างจาก Tania ในอดีตอยู่มาก
เป็นที่น่าเสียดายที่การเจิดจรัสของ Tania ผูกอยู่กับ Eugeo และเขาไม่อาจผลักดันเธอให้เจิดจรัสได้ ไม่สิ ควรจะต้องบอกว่าเขาเข้าใจผิดไปถนัดเลยมากกว่า
Eugeo พยายามที่จะผลักดัน Tania ให้เจิดจรัสและส่องสว่างเพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด สิ่งที่เขาควรทำก็คือเจิดจรัสร่วมกับ Tania ต่างฝ่ายต่างเกื้อกูลแสงสว่างนั้นจนเป็นแสงที่เจิดจ้า
Tania มีพื้นฐานแนวคิดความคล้ายคลึงกับ Camille ความสามารถของเธอก็ค่อนไปทางด้านเดียวกับ Camille ทำให้จุดอ่อนของเธอไม่ต่างจาก Camille เลย
นั่นคือเธอเพียงคนเดียวไม่อาจเจิดจรัสได้ เธอไม่ใช่ดาวฤกษ์ที่ส่องแสงได้ด้วยตนเอง แต่ต้องการแสงที่มาเกื้อหนุนและส่องสะท้อน จึงจะส่องสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าดาวดวงใด
Camille ก็เช่นกัน ไม่มีใครร่วมแรงส่องสว่างไปกับเธอ ถึงแม้เธอจะมีความสามารถและสติปัญญา แต่เธอส่องสว่างด้วยตนเองไม่ได้
มันอาจจะเป็นไปได้ ถ้าดาวทุกดวงรอบ ๆ กาย Tania หรี่แสงหรืออับแสงลง แต่นั่นไม่ใช่ดาวของ Morgan ที่ส่องสว่างจากการเกื้อหนุนของดาวอีกมากมาย Tania
แม้จะส่องสว่างเพียงใดก็ไม่อาจบดบังแสงของ Morgan ได้ และแม้จะไม่มี Morgan แต่ Tania ก็ยังคงมีอุปสรรคอีกมากมาย
ในท้ายที่สุด Tania ยังคงมีโชคอยู่มากที่ผู้ส่องสว่างคือ Morgan มันทำให้เธอยังคงทำตามความฝันที่วาดหวังเอาไว้ได้สำเร็จ
และหวังว่า Eugeo รวมไปถึงข้าราชบริพานข้างกายของเธอจะไม่คิดเชิดชูเธอให้โดดเดี่ยวอยู่บนฟ้ากว้างเพียงคนเดียวอีก
อุปนิสัย นุ่มนิ่มอ่อนช้อย มีใจอารี มานะพยายาม จริงใจ ไม่ถือตัว เป็นมิตรกับทุกคน ชอบเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ลึก ๆ
Tania มีไหวพริบ เธอจึงไม่ใช่คุณหนูไร้เดียงสา ในความอารียังคงมีสติปัญญา แต่เพราะถูกเลี้ยงดูมาอย่างเก็บกดทำให้มีนิสัยแปลก ๆ อยู่บ้าง เช่น ยิ้มรับยามที่ถูกทำร้าย (ชอบ)
ดวงดาวแห่งจักรราศีสมัยทรอย มีเจ้าชายนามว่า Ganymede เป็นเด็กหนุ่มรูปงามแม้แต่สาวงามก็ยังเทียบได้ยาก ซีอุสเกิดถูกใจ Ganymede เข้า จึงมาลักพาตัว Ganymede ไปที่โอลิมปัส
Ganymede ได้รับเกียรติทำหน้าที่เป็นผู้รินเหล้าแก่เหล่าเทพ และเป็นเด็กรับใช้ส่วนตัวของซีอุสด้วย
ซึ่งแต่เดิมเป็นหน้าที่ของ Hebe เทพีแห่งความเยาว์วัยซึ่งเป็นธิดาของเทพีเฮร่า และซีอุส แต่ได้เกษียณตัวเองไปแต่งงานกับเฮอร์คิวลิสที่ถูกยกให้เป็นเทพบนสวรรค์
แต่เมื่อเฮร่าเห็นซีอุสให้ความรักแก่ Ganymede ก็เกิดความหึงหวง ฝ่ายซีอุสก็กลัวเมียเป็นทุนเดิม จึงให้ Ganymede ไปเป็นกลุ่มดาวราศีกุมภ์เพื่อจะได้ไม่ต้องโดนเฮร่ารังควาน
หากซีอุสแต่งงานกับ Ganymede เขาอาจจะร่วมกับซีอุสสร้างยุคสมัยใหม่ขึ้นมา แต่ซีอุสก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น ท้ายที่สุดซีอุสจึงต้องส่งหนุ่มรูปงามไปเป็นดวงดาวบนสรวงสวรรค์
เช่นเดียวกับ Tania ที่ราวกับถูกผลักดันให้ขึ้นไปยังจุดที่สูงที่สุดเพียงผู้เดียว ซึ่งเธอไม่อาจอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นได้ และไม่มีใครที่จะขึ้นมายืนอยู่ข้างกายของเธอเลยแม้สักคน