* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย  (Read 3427 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

ปฐมบทแห่งการผจญภัย

Theme ผจญภัย แฟนตาซี
Max player  รับสมัครอีก  4 คน 
Ending points     5 คะแนน
Time Limit   24ชั่วโมง
Story Limit  
    - จำนวนบรรทัดขั้นต่ำ/สูงสุด  10/20  (ไม่นับรวมรูปภาพ)
    - เรตของเรื่อง ไม่จำกัด
    - เป็นการเล่นแบบมีรางวัล
* เป็นเกมตัวอย่าง ผู้สมัครและเล่นจนจบจะได้รับรางวัลฟรี โดยไม่ต้องจ่าย role token ก่อน *

Prologue บทนำ
Spoiler for Hiden:

แซนเดรียเป็นหมู่บ้านเล็กๆในทะเลทรายสุดขอบชายแดนของจักวรรดิ
ชาวบ้านที่นี่มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย อาศัยน้ำจากบ่อน้ำเล็กๆในหมู่บ้านหล่อเลี้ยงชีวิตด้วยการปศุสัตว์
โชคดีที่หมู่บ้านตั้งอยู่บนเส้นทางการค้ากับชนเผ่าทะเลทราย จึงเป็นจุดพักแห่งหนึ่งของกองคาราวาน
ทำให้ชาวบ้านสามารถใช้การค้าขายเสบียงอาหารและน้ำให้กับกองคาราวานเป็นแหล่งรายได้อีกทางหนึ่ง
พวกเขาไม่คิดเลยว่าวันดีคืนดีกองทหารของชนเผ่าทะเลทรายจะบุกเข้ามายังหมู่บ้านแห่งนี้
กองร้อยของชนเผ่าทะเลทรายยึดครองหมู่บ้านที่มีเพียงหน่วยรักษาการณ์สิบกว่าคนได้อย่างง่ายดาย
หัวหน้าหมู่บ้านและบุคคลสำคัญถูกจับกุมตัวเอาไว้ จากนั้นการตรวจค้นหมู่บ้านอย่างละเอียดก็เริ่มขึ้น
ชาวบ้านที่ไร้ทางสู้ได้แต่มองดูชนเผ่าทะเลทรายรื้อค้นและยึดสิ่งของมีค่าตามอำเภอใจ
พวกเขาได้แต่หวังว่าจะมีใครสักคนลุกขึ้นมายืนหยัดต่อสู้หรือหาวิธีนำพาพวกเขาผ่านวิกฤติการณ์ครั้งนี้
ในห้วงแห่งความสิ้นหวังนั้นเอง ปฐมบทแห่งการผจญภัย ก็ได้เริ่มขึ้น....

บทที่ 1
Spoiler for Hiden:
"จับมาได้หมดแล้วครับ"   ทหารชนเผ่าทะเลทรายรายงานต่อชายในชุดแปลกประหลาดที่ดูท่าทางจะเป็นผู้นำ

"  หึ ๆ ดี..."  เขามองชาวบ้านที่ถูกจับมาและแยกเป็นสองกลุ่มอย่างพอใจ  กลุ่มหนึ่งคือหัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านที่เป็นผู้ใหญ่   ส่วนอีกกลุ่มคือเด็ก ๆ  ทั้งสองกลุ่มตัวสั่นงันงกเพราะไม่รู้ว่าเหตุใดจู่ ๆ ชนเผ่าทะเลทรายจึงโจมตีหมู่บ้านของพวกเขา

"ขออธิบายครั้งเดียวนะ ชั้นชื่อ Wendel  เป็นผู้นำของเจ้าพวกนี้ และต่อไปนี้ก็จะเป็นผู้นำของพวกเจ้าด้วย  สำหรับผู้ใหญ่ทุกคน พวกเจ้าจะได้เป็นแรงงานสำคัญ   ส่วนลูก ๆ ของพวกเจ้า  ข้าจะมอบอำนาจเหนือมนุษย์ให้พวกเขา เพื่อให้พวกเขาเป็นกองทหารพิเศษของข้า  อำนาจแบบไหนเหรอ ก็เช่นแบบนี้ไงล่ะ"  Wendel หยิบหอกข้างตัวแล้วซัดด้วยกำลังแรง  หอกพุ่งเป็นวงโค้งในอากาศก่อนจะปักลงบนยอดของเนินทรายที่อยู่ไกลกว่า 100 เมตร

"อ๊ากกก"  ส่วนที่ควรเป็นยอดของเนินทรายไหวเยือกแล้วร่างหนึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ทรายก็กลิ้งไถลลงมาทั้ง ๆ ที่ยังมีหอกปักคา  ทหารชนเผ่าทะเลทรายที่อยู่ใกล้ต่างกรูกันเข้าไปหา  ร่างนั้นพยายามลุกขึ้นชักดาบสู้ทั้งที่ยังมีหอกปักคา  ชั่วขณะหนึ่งที่เหล่าผู้รุกรานต้องชะงักด้วยอานุภาพดาบที่เกรี้ยวกราดของเขา  ทว่าเลือดที่ไหลออกจากร่างดูดพลังที่มีอยู่ออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นชายผู้กล้าก็ล้มฟุบลงไปนอนหายใจรวยริน  ดาบคู่มือถูกเตะกระเด็นไปไกล

"ทนดี ถ้ายังไม่ตายก็เก็บมันกลับไปด้วย"   Wendel ยิ้มมุมปาก  แล้วหันมาหากลุ่มเชลยของเขาอีกครั้ง ตอนนี้หลายคนแสดงสีหน้าที่สิ้นหวังกว่าเดิม  วีรบุรุษผู้กล้าของหมู่บ้าน ที่พวกเขาคิดว่าอาจจะช่วยพวกเขาได้ กลับโดนจัดการโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะแลกชีวิตกับทหารเลวสักคน

"ลูก ๆ ของพวกเจ้าจะได้พลังแบบเดียวกับข้า เพียงแต่อาจจะเจ็บปวดบ้าง แต่นั่นแหละนะ ชีวิตมันก็ต้องเจ็บปวดอยู่แล้ว   เอาล่ะ พาพวกมันกลับไป  แล้วทำลายหมู่บ้านนี้ซะ  อย่าให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่"  เขาสั่งก่อนจะนำกองทหารเคลื่อนที่กลับไปในทะเลทราย  ณ ที่ซึ่งสิ่งแปลกปลอมหนึ่งโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวดิน  สิ่งแปลกปลอมซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งซึ่งถูกสร้างด้วยอารยธรรมของยุคสมัยนี้


Spoiler for Hiden:

บทที่ 2
Spoiler for Hiden:
 
ชาวบ้านผู้รอดชีวิตถูกต้อนเข้าไปในวัตถุประหลาดนั่น ไม่มีใครกล้าต่อต้าน ชาวบ้านตัวสั่นงันงกเพราะความกลัว นี่พวกเขาจะถูกจับไปไหนกัน
"ไม่ ข้าไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น ข้ายอมตายที่นี่ดีกว่า" พ่อค้าใจกล้าตะโกนขึ้น เขาฝ่าวงล้อมพุ่งเข้าหา Wendel อย่างไม่กลัวตาย
"รนหาที่เองนะ" Wendel ถอนหายใจ เขากระดิกนิ้วเล็กน้อย หอกคู่ใจก็ลอยหวือมาหา ก่อนจะพุ่งทะลุร่างชายผู้โชคร้ายจนเห็นเป็นรูกว้างน่าสยดสยอง เด็กๆกลัวจนไม่กล้าร้องไห้เสียงดัง
"ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว ไม่พาพวกแกไปดีกว่า" Wendel ว่า เขาสั่งให้ทหารพาพวกผู้ใหญ่ไปขังในหมู่บ้านแล้วพาเด็กๆขึ้นไปบนยาน
วัตถุประหลาดคือพาหนะที่สามารถลอยขึ้นฟ้าได้ดั่งเรือบิน มันลอยสูงขึ้นก่อนจะนิ่งค้างกลางอากาศ และจะปลดปล่อยอาณุภาพเป็นลำแสงสีขาวเผาผลาญหมู่บ้านทั้งหมดให้เผาไหม้สลายเป็นจุลไปในพริบตา ไม่มีผู้กล้ามาช่วยเหลือ ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเหลือรอด
เด็กๆ ทั้งหมดถูกขัง และบังคับให้สวมหมวกใบใหญ่ครอบศีรษะไว้พร้อมให้ดูภาพฉายเกี่ยวกับการนองเลือดซ้ำไปซ้ำมาจนสตีลืมเลือนตัวตนที่แท้จริง ภาพความทรงจำบิดเบือนจนเข้าใจว่าตนเป็นทหารของ Wendel ที่เข้าการฝึกอบรมในการต่อสู้กับมนุษย์ผู้ชั่วร้าย พวกเด็กๆต้องดื่มยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง บางคนกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด บางคนมีพลังพิเศษกลายเป็นผู้มีพลังจิต บางคนมีเวทมนตร์ฝืนกฏธรรมชาติได้
Wendel มองกองทัพน้อย ๆ ของเขาอย่างพึงพอใจ เท่านี้แผนการต่อไปจะได้เริ่มดำเนินการเสียที เขาส่งเด็กกลายพันธุ์ไปตามดินแดนต่างๆ แทรกซึมเข้าไปสังหารบุคคลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ ขุนนาง เจ้าเมือง อัศวิน หัวหน้าเผ่า และใช้ความน่าพรั่นพรึ่งของกองทัพกลายพันธุ์กดดันมนุษย์ที่เหลือให้ยอมจำนน
Spoiler for Hiden:
"ใครขัดขืน ตาย!!!"

อีกด้านหนึ่ง  ณ เมืองแห่งหนึ่งทางตอนใต้ เด็กหญิงในชุดสีโลหิตผู้เคลื่อนที่ราวกับเต้นรำไปตามโถงทางเดินในปราสาท
Spoiler for Hiden:
เดินมาจนหยุดอยู่หน้าประตูบานสวยที่มีการป้องกันแน่นหนา ทว่าเพียงเธอผลักเบาๆ ประตูเหล็กก็ล้มลงอย่างง่ายดาย ภายในห้องนั้นมีพระราชากับองค์ราชินี พร้อมองครักษ์เอกนับสิบที่กรูเข้ามาขัดขวาง เธอหมุนตัวหลบ ก้าวย่างอย่างมีจังหวะขณะใช้ฝ่ามือเล็กๆทะลวงอกทหารในชุดเกราะหนาคนแล้วคนเล่า สาดสีแดงเปรอะเปื้อนทั่วห้อง
"มานาห์ นั่นเจ้าใช่ไหม" มนุษย์ในชุดเกราะผู้หนึ่งเอ่ยกับเธอ เธอไม่รู้จักว่ามันเป็นใครและเรียกชื่อนั้นกับเธอทำไม แต่มันกลับคุ้นเคยอย่างน่าประหลาดจนฝีเท้าเคลื่อนผิดจังหวะ
"เจ้ารู้จักกับเด็กปีศาจนี่ด้วยเรอะ" พระราชาถาม แต่ราชินีกลับตะโกนแทรก
" เอ้า ตอนนี้มันชะงักแล้ว รีบฆ่ามันเร็วเข้า"
แม้จะกลัวจนตัวสั่น แต่หน้าที่องครักษ์คือปกป้องนายเหนือหัว พวกเขากรูกันเข้าไปโดยไม่สนเสียงห้ามของชายหนุ่ม เด็กหญิงเอี้ยวตัวหลบดาบแรกด้วยการหมุนตัวปลายเท้า สองมือกวาดผ่านลำคออีกฝ่ายตัดเส้นเลือดใหญ่จนเลือดพุ่งเป็นน้ำพุ ก่อนที่เธอจะกระโจนใส่คนที่เหลือและสังหารโหดอย่างรวดเร็ว
"ที่เจ้าหายสาปสูญไปเมื่อปีก่อน ข้าคิดว่าเจ้าตายแล้ว ดีใจจังที่ยังไม่ชี..." นั่นคือประโยคสุดท้ายก่อนสิ้นลมของมนุษย์ผู้หนึ่งที่เด็กหญิงไม่รู้จักแม้แต่ชื่อ
มานาห์ มันช่างสะกิดใจเด็กหญิงเหลือเกิน
เธอกลับไปที่ยานด้วยความรู้สึกต่างจากเดิม เธอเริ่มมี "ความรู้สึก" และความทรงจำบางอย่างเปิดเผยออกมาจากส่วนลึกของจิตใจที่ถูกปิดล็อค ทำให้เธอรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นใคร เธอกำลังทำอะไรอยู่ ถึงเวลาแล้วที่เธอจะช่วยเพื่อนๆ และจัดการ Wendel ซะ

บทที่ 3

Spoiler for Hiden:
มานาห์คือชื่อของเธอสินะ...เด็กหญิงสรุปกับตัวเองในใจ
เธอพยายามไม่นึกคาดเดาว่าชายในชุดเกราะที่ตายไปมีความสัมพันธ์กับเธออย่างไร เธอกลัวที่จะรู้ความจริงนั้น
เป้าหมายของเธอในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียว....กำจัดต้นตอแห่งความชั่วร้าย Wendel ให้สิ้นซาก
"ทำได้ดีนี่ #990000" เสียงทักทายทำให้เด็กหญิงต้องหันไปมอง ผู้มาคือเด็กชายในชุดและหน้ากากสีดำที่บินลงมาจากท้องฟ้า
Spoiler for Hiden:
"#000000..." เด็กหญิงพยายามทักตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
Wendel เรียกเหล่าทหารของเขาว่าเหล่า Children of Revolution และจัดแบ่งแต่ละคนด้วยหมายเลขที่หมายถึงสีต่างๆ
หมายเลข #000000 Pure black เป็นผู้ที่แข็งแกร่งและภักดีต่อ Wendel มากที่สุด ทำหน้าที่เป็นผู้นำสารของเขา
ไม่มีอะไรต้องสื่อสารมากนัก ในเมื่อราชาและประชาชนของอาณาจักรนี้ล้วนแต่ยอมจำนนต่อ Wendel โดยไม่มีเงื่อนไข
#000000 บอกว่าภารกิจของเธอที่อาณาจักรนี้จบลงแล้ว อีกสักครู่ เขาจะพาเธอและตัวประกันกลับไปที่ยานโนอาห์

เด็กชายชุดดำเดินไปท่ามกลางศพของพวกทหารในชุดเกราะที่มานาห์สังหาร ก่อนจะปล่อยหมอกสีดำออกมาครอบคลุมร่างเหล่านั้น
ร่างไร้ชีวิตลุกขึ้นมาราวกับตุ๊กตาที่ถูกเชิด ก่อนจะเดินมาเรียงแถวที่สองฟากข้างของท้องพระโรง
เด็กชายหยิบกระจกสีดำออกมาตั้งบนบัลลังค์ แล้วคุกเข่าลง ภาพของเวนเดลปรากฏขึ้นในกระจกนั้น เด็กหญิงรีบคุกเข่าลงตามสัญชาติญาณเช่นกัน
"พวกเจ้าคิดถูกแล้วที่ยอมจำนน ผู้ที่ขัดขืนจะมีชะตากรรมอย่างไรคงรู้แล้วสินะ ต่อไปนี้จงคอยฟังคำสั่งของข้าให้ดี" เวนเดลประกาศ ตามด้วยการกล่าว
สุนทรพจน์เกี่ยวกับการปกครองโลกของเขา มานาห์สังเกตว่าคนที่ฟังสุนทรพจน์หลายคนเริ่มมีนัยน์ตาเหม่อลอยราวกับถูกสะกดจิต
และเริ่มนึกออกถึงสิ่งที่เวนเดลทำกับพวกเธอ โชคดีที่ดูเหมือนว่าวิธีเดิมๆจะใช้ไม่ได้ผลกับเธออีก

ระหว่างที่ Pure Black พาเธอและพวกเชื้อพระวงศ์บินไปบนหมอกสีดำ เพื่อกลับไปยานของเวนเดล
มานาห์พยายามคิดวางแผนหาวิธีที่จะกำจัดเวนเดล สุดท้ายก็มีเพียงวิธีเดียวที่นึกออก
"#000000 ข้าต้องการพบท่านเวนเดล" มานาห์บอกกับเด็กชายชุดดำหลังจากส่งตัวประกันทั้งหลายเข้าขังในห้องพัก
"....."

บทที่ 4

Spoiler for Hiden:
"ข้าต้องการพบท่านเวนเดล" มานาห์บอกเสียงนิ่งพลางลอบดูท่าทีอีกอีกฝ่าย
 #000000 จ้องหน้ามานาห์ด้วยแววตาไร้อารมณ์ เด็กหญิงรู้สึกหวั่นกลัวสายตานั่น ราวกับว่าความลับที่เธอปกปิดจะถูกความเยือกเย็นนั่นค้นพบ
"หากเจ้าคิดจะวางแผนอะไรบ้าๆ ให้ล้มเลิกซะ" เขาเอ่ยเสียงเรียบ
มานาห์สะดุ้ง
"เจ้าฆ่านายท่าน Wendel ไม่ได้หรอก"  #000000 เอ่ยต่อ
มานาห์ตกใจ ทำไมคนตรงหน้าถึงล่วงรู้ความคิดเธอ
Spoiler for Hiden:
"ข้ารู้ เพราะแววตาของเจ้าไม่เหมือนผู้ที่ตกอยู่ในอำนาจมนต์สะกด" เขาบอก "แล้วข้าก็เคยคิดจะทำเหมือนเจ้าด้วย"
"คิดทำเหมือนข้า? ความทรงจำเจ้ากลับมาแล้วรึ แล้วทำไมถึงยังอยู่ที่นี่ล่ะ ทำไมถึงยังรับใช้ Wendel อยู่" มานาห์ไม่เข้าใจ
"..." อีกฝ่ายเงียบไม่ยอมตอบ แล้วเดินหนีไป
"ความทรงจำเจ้ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่" มานาห์ตะโกนถามไล่หลัง
#000000 ชะงักฝีเท้าแล้วตอบโดยไม่หันกลับมา "ข้าไม่เคยถูกครอบงำตั้งแต่แรกแล้ว"
มานาห์มองชายชุดดำลอยหายไปจนลับสายตา เธอไม่เข้าใจ ทำไม #000000 ถึงยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ มีเหตุผลอะไรถึงยอมรับใช้ Wendel ต่อ ที่เขาบอกว่าเคยคิดสังหารคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และหากเขาทำไม่สำเร็จ เธอเองก็ต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้

ในตอนนั้นเองมานาห์จึงล้มเลิกการลอบสังหารไปก่อน เธอฝืนใช้ชีวิตล่าสังหารอย่างฝืนใจพลางคิดหาวิธีฟื้นความทรงจำตัวเองขณะมองหาโอกาสสังหาร Wendel ด้วย เธอไม่ยอมหนี เพราะการหนีทำให้เธอไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ Wendel อีกแล้ว ส่วน #000000 เองไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอเข้าไปสนทนาด้วยแม้แต่น้อย ราวกับถูกหลบหน้าทุกครา แต่เธอก็ไม่เข้าใจในตัว #000000 เพราะหลายครั้งเธอเกือบพลาดเผยพิรุธออกไปแต่เขามักปรากฏตัวมาช่วยกลบเกลื่อน เรื่องที่เธอหลุดจากมนต์สะกดเขาก็ไม่ได้แพร่งพรายหรือไม่ได้บอกแก่ Wendel ทั้งที่เป็นคนใกล้ชิดที่สุด

วันหนึ่ง มานาห์ได้จังหวะลอบสะกดรอย #000000 ทำให้เธอล่วงรู้ความจริงที่ว่า  #000000 มีน้องสาว น้องสาวของเขาคือหนึ่งในความล้มเหลวของการกลายพันธุ์ น้องสาวของ #000000 กลายเป็นมนุษย์ครึ่งปลาที่ไม่สามารถหายใจในน้ำได้ดังนั้นจึงไม่สามารถอาศัยอยู่ในน้ำ และไม่สามารถดำเนินชีวิตประจำวันอย่างมนุษย์ได้ น้องสาวจะตายหากไม่ได้รับการดูแลจากเขา
Spoiler for Hiden:
"เจ้ารู้ในเรื่องที่ไม่สมควรรู้" #000000 เอ่ยเสียงเหี้ยมพลางย่างสามขุมเข้ามาหาหมายปิดปากเธอเสีย
"เพราะอย่างนี้ใช่ไหม เจ้าถึงยอมรับใช้ Wendel เจ้าไม่สามารถหนีไปโดยทิ้งน้องสาวไว้ที่นี่ได้ เจ้าไม่ใช่คนใจร้าย แต่เจ้าทำไปเพราะความจำเป็น" มานาห์พูดแทงใจ #000000 เข้าอย่างจัง เขาได้แต่ยืนนิ่ง ก้มหน้าไม่แสดงอารมณ์ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงพึมพำว่า
"ไม่มีใครช่วยน้องข้าได้นอกจาก Wendel การยอมรับใช้เขาเป็นหนทางที่ดีที่สุด"
มานาห์สังเกตว่าสรรพนามที่ใช้เรียก Wendel เริ่มเปลี่ยนไป
"ไม่ใช่ ทุกปัญหาล้วนมีทางแก้ ข้าจะช่วยน้องสาวเจ้าเอง ข้าชื่อมานาห์ ถึงแม้ไม่รู้ว่าใช่ชื่อข้าจริง ๆ หรือเปล่า แล้วเจ้าล่ะชื่ออะไร" มานาห์แนะนำตัวหวังทดสอบว่าอีกฝ่ายยอมเปิดใจให้เธอแล้วจริงๆ หรือยัง หากเขายอมบอก เท่ากับว่าเธอได้พรรคพวกเพิ่มถึงสองคน
"ข้า..."

บทที่ 5

Spoiler for Hiden:
"ข้าบอกแล้วว่าไม่มีใครช่วยได้นอกจากนายท่าน Wendel" น้ำเสียงของ #000000 กลับมาเยือกเย็นดังเดิม

ในตอนนั้นเองประตูเลื่อนเปิดออกพร้อมกับมี Children of Revolution สี่คนเข้ามาในห้องด้วยแววตามุ่งร้ายต่อมานาห์ ตามด้วย...
Spoiler for Hiden:
"ในความสมบูรณ์แบบย่อมต้องมีจุดผิดพลาดเล็กน้อยเสมอ การครอบงำจิตใจต้องมีสักวันที่มนต์สะกดคลายออก อันที่จริงคงไม่มีเด็กคนไหนอยากหลุดออกมาจากอำนาจสะกดเพื่อมารับรู้ความจริงว่าตนเป็นผู้สังหารเผ่าพันธ์ตัวเองหรอกมั้ง หึหึ" Wendel เอ่ยพลางแย้มยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่มานาห์รังเกียจและกดดันจนร่างกายเธอสั่นสะท้าน

จากสถานการณ์นี้ทำให้เธอรู้ว่า #000000 ไม่รับความช่วยเหลือ เขารายงาน Wendel สถานะของมานาห์ถูกเปิดโปง เด็กๆ คนอื่นล้อมทางหนีเพียงหนึ่งเดียวของห้องนี้ไว้ มานาห์ตัดสินใจพุ่งเข้าโจมตี Wendel ด้วยโอกาสสุดท้ายอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ Children คนอื่นๆ เข้ามาขวางไว้ แต่เธอก้าวเท้า ย่อ แล้วหมุนตัวหลบได้อย่างสวยงาม รอดช่องหว่างระหว่างคู่ต่อสู้เข้าถึงตัว Wendel อย่างรวดเร็ว มือขวาพุ่งไปข้างหน้าหมายทะลวงอกเป้าหมาย ทว่าในตอนนั้นเองร่างกายของเธอกลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ดังใจ หมอกดำปริศนาบีบรัดร่างกายเธอ เธอรู้สึกราวกับกระดูกทั่วร่างถูกบด เธอหายใจไม่ออก ไม่สามารถดิ้นรนขัดขืนได้ พลังอะไรกัน

"ทำดีมาก #000000 ฆ่ามันซะ" Wendel สั่ง

ควันดำยกร่างเธอขึ้นกลางอากาศ มานาห์ตะเกียกตะกายอ้าปากหาอากาศหายใจ เธอกำลังจะตาย ควันดำจับแขนขาเธอบิดกลางอากาศ เลือดสีแดงสาดกระจาย อวัยวะภายในหลุดกองลงกับพื้นน่าสยดสยอง
มานาห์เสียชีวิต

"โหดร้ายเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ น่าเสียดายถ้าเจ้าลงมือไม่หนัก ข้าจะเก็บร่างยัยหนูนี่ไปดัดแปลงเสียหน่อย ทักษะระบำโลหิตค่อนข้างน่าสนใจแท้ๆ" Wendel ทำหน้าเสียดาย

"ขออภัยนายท่าน ข้าไม่อาจเก็บคนทรยศให้อยู่รกหูรกตาได้" #000000 เอ่ยอย่างเย็นชาพลางมองซากศพด้วยแววตาไร้ชีวิต

"ใช่ นี่แหละคือจุดจบของผู้ทรยศ" Wendel เอ่ยเสียงเหี้ยม เขาเหลือบมอง #000000 ราวกับต้องการสื่อความนัยบางอย่าง
.
...
.....
"!!!" มานาห์ฟื้นตื่นขึ้นบนฟูกนอนเก่าๆ ภายในห้องฝุ่นจับแห่งหนึ่ง เหตุการณ์เมื่อครู่ยังติดอยู่ในความทรงจำ เธอยังไม่ตาย เธอสับสนงุนงงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ลุกขึ้นนั่งก็ยังไม่ค่อยไหวเพราะรู้สึกปวดเมื่อยร่างกายไปหมด ไม่รู้ว่าเธอหลับมากี่ชั่วโมงแล้ว แสงสีแดงของพระอาทิตย์ยามเย็นฉาบทุกอย่างให้เป็นสีเดียวกับชุดของเธอ

หรือว่านี่คือความฝัน หรือว่าเป็นสวรรค์กันแน่

ความสงสัยของเธอถูกไขกระจ่างชัดเมื่อเห็นควันสีดำจับตัวหนาเป็นตัวอักษรลอยอยู่กลางอากาศ มันเรียงไว้ว่า
"หนีไปซะ เจ้าเป็นอิสระแล้ว"

เมื่ออ่านจบควันก็เลือนหายไปราวกับภาพลวงตา #000000 ตบตาทุกคนว่าเธอตายแล้วเพื่อที่จะได้ไม่ถูกตามล่า เขาไม่ได้หักหลังเธอ เขาช่วยเธอไว้ต่างหาก แทนที่มานาห์จะรู้สึกดีใจ แต่เธอกลับรู้สึกโกรธ เธอโมโหที่ถูกกันให้ออกมาราวกับคนไร้ค่า หนีอะไรกัน เธอจะไม่หนี เธอจะหาทางทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของ Wendel ให้ได้!!!!

บทที่ 6

Spoiler for Hiden:
Spoiler for Hiden:
เด็กชายในชุดสีเขียววิ่งไปตามยอดไม้อย่างแผ่วเบาราวกับเดินบนพื้นราบ
หากมีใครสักคนมองขึ้นไปก็จะเห็นว่า กิ่งไม้ต่างหากที่คอยโน้มเอนเข้ามารองรับทุกอย่างก้าวของเขาอย่างพอดีที่สุด
เด็กชายหยุดลงบนยอดต้นสนโบราณที่ใจกลางของป่า เขาหลับตาลงและรู้สึกได้ถึงสัมผัสของต้นไม้ใบหญ้าทุกต้นโดยรอบ
พวกกองกำลังกบฏคิดผิดแล้วที่สร้างฐานลับขึ้นในสถานที่แบบนี้ ด้วยพลังของเขาการค้นหาและทำลายผู้ต่อต้านกลุ่มนี้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ
ถึงแม้ว่าโลกนี้จะยอมจำนนต่อท่านเวนเดลมาเกือบปีแล้ว แต่อยู่ดีๆกลับมีกลุ่มต่อต้านที่ชื่อว่า "หัตถ์สีชาด" เกิดขึ้น
ทั้งๆที่คนอื่นๆในโลกล้วนศรัทธาในตัวท่านเวนเดลอย่างไม่มีข้อแม้ แต่คนกลุ่มนี้กลับเลือกที่จะสู้
หมู่บ้านและเมืองหลายแห่งเอาใจออกห่างจากการปกครองของท่านเวนเดลหลังจากถูกกลุ่มต่อต้านยึดครอง ทำให้ท่านเวนเดลไม่พอใจอย่างยิ่ง
เขาได้รับคำสั่งให้ค้นหาที่ตั้งของกองกำลังนี้ เพื่อที่จะยกกำลังมาปราบปรามต่อไป แต่ไม่หรอก ถ้าเป็นที่นี่พลังของเขาคนเดียวก็เพียงพอแล้ว
เด็กชายสัมผัสได้ถึงสายลับของกลุ่มต่อต้านที่ถูกเขาสะกดรอยมาตั้งแต่หมู่บ้านใกล้ๆ ถ้ำที่สายลับเข้าไปมีคนอื่นๆอยู่อีกสิบกว่าคน
ที่นั่นน่าจะเป็นฐานลับของพวกหัตถ์สีชาดแน่นอน เด็กชายคิดพลางวิ่งไปตามเส้นทางบนยอดไม้ที่เขาสร้างขึ้น
"จงออกมาซะ เจ้าพวกกบฏ ในนามแห่งท่านเวนเดล หากยอมจำนนข้าจะยกเว้นโทษประหารให้ก็ได้" เด็กชายประกาศเมื่อมาถึงหน้าถ้ำ
ทหารของพวกกบฏกรูกันออกมาจากถ้ำพุ่งเข้าหาเด็กชายพร้อมอาวุธครบมือ ทว่าก่อนที่จะเข้าประชิดตัวเด็กชาย
ทหารเหล่านั้นก็ถูกกิ่งไม้และเถาวัลย์โดยรอบพุ่งเข้ามารัดพันตามตัวจนขยับไม่ได้ ทุกอย่าเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้ เด็กชายคิด
"ใครเป็นหัวหน้าของพวกเจ้า ?" สารภาพมาซะ เด็กหนุ่มบังคับให้กิ่งไม้รัดแน่นขึ้น เมื่อไม่ได้ยินคำตอบ
"ฉันเอง" เสียงของเด็กหญิงดังขึ้นจากภายในถ้ำ เด็กหนุ่มหันไปมอง บังคับเถาวัลย์ที่เหลืออยู่ไปดักรอทางปากถ้ำ
"#228B22 สินะ แต่ฉันชอบคำว่า Forest Green มากกว่านะ" เด็กหญิงในชุดแดงปรากฏตัวขึ้น
"#990000 ? เธอน่าจะตายไปแล้วนี่" เด็กชายตะลึงจนชะงักไปชั่วครู่ นั่นนานพอที่เด็กหญิงจะยกมือเป็นสัญญาณ
ทันใดนั้นทหารที่อยู่ใกล้กับเด็กชายที่สุดก็เบ่งพลังจนเถาวัลย์ขาดกระจาย ก่อนจะทุบเข้าไปที่ท้ายทอยของเด็กชายอย่างแรงจนเขาสลบไป
"ทำได้ดีมาก ไบรน์ " เด็กหญิงขอบคุณทหารก่อนจะเดินเข้าไปพูดกับเด็กชายที่สลบอยู่
"ขอโทษนะForest Green พลังในการสืบเสาะของนายเป็นอันตรายต่อพวกเรา จึงต้องวางแผนให้นายมาติดกับ"
"แต่ดีใจเถอะ นายจะเป็น Children of Revolution คนแรกที่ได้ดื่มเลือดของฉัน หวังว่านายจะหลุดพ้นเหมือนกับคนอื่นๆนะ"
มานาห์วางนิ้วชี้ที่ริมฝีปากของเด็กชาย บังคับให้เลือดของเธอหยดลงไปในปากของเขา
"มันจะได้ผลเหมือนกับพวกเราไหมครับ ท่านมานาห์" ทหารที่ชื่อไบรน์ถามเด็กหญิง ในขณะที่ทหารคนอื่นๆจับเด็กชายมัดแล้วอุ้มเข้าไปในถ้ำ
มานาห์มองเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความหวัง "ฉันภาวนาให้มันได้ผลจ๊ะ"

บทที่ 7

Spoiler for Hiden:
"อว๊ากกกกกก"  #228B22  แผดร้องโหยหวน ดิ้นทุรนทุรายทั้งที่ยังถูกมัด ร่างของเขาแอ่นเกร็ง ตาขาวแดงก่ำ  เหงื่อไหลชุ่มโชกราวสายน้ำ เขามีสภาพเช่นนี้มาได้เป้นชั่วโมงแล้ว  นับแต่ได้รับเลือดของมานาห์ไป 

"ไม่นะ  มันต้องได้ผลสิ"  มานาห์จิกมือแน่น  เธออยู่เฝ้าเด็กชายไม่ยอมห่าง  สะดุ้งทุกครั้งที่เขาแผดร้อง  หากเป็นไปได้ เธออยากเป็นคนที่เจ็บแทนด้วยซ้ำ

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้"  เธอพูดซ้ำไปซ้ำมาระหว่างที่พยายามกอดรัดเขาเอาไว้แม้จะรู้ว่ามันไม่ช่วยอะไร พูดซ้ำทุก ๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงร้อง  พูดซ้ำทุก ๆ ครั้ง ที่รู้สึกถึงการกระตุก

พูดซ้ำไปเรื่อย ๆ จนถึงเช้า

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้" แม้จะอ่อนเพลียกับการไม่ได้นอนทั้งคืน เธอก็ยังคงกระซิบที่หูของ #228B22 

"...โท" เด็กชายพึมพำ

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้" มานาห์กระซิบกล่อม

"..โทนี่" เด็กชายพึมพำอีกครั้ง

"หือ?" เด็กหญิงชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรผิดไปจากเดิม

"บอกว่าฉันชื่อโทนี่ไงเล่า ยัยบ้า" คราวนี้ Forest Green พยายามบิดคอมามองเธอ  แววตาของเขาถึงจะอ่อนล้า แต่ก็ทำให้รู้สึกถึงชีวิตกว่าเมื่อก่อน  เลือดของมานาห์ได้ผลจริง ๆ
.....
...
..
.
 5 เดือนต่อมา


 หลังจากTony The Forest Green มานาห์ได้ช่วงชิงเด็ก ๆ ของWendel มาอีกหลายคน  บัดนี้ เหล่า Children of Revolution มีจำนวนถึง 18 คน  นั่นทำให้ Wendel โกรธและสับสนมาก  เด็กของเขาหายไปทีละคนสองคน ทุกคนต่างเป้นมือดีที่ไม่น่าจะเสียท่ามนุษย์ธรรมดาได้  และไม่มีเบาะแสใด ๆ เขาพยายามกระจายขอบเขตการค้นหา  แต่นันยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย เด็กของเขาที่แยกตัวจากกลุ่มมักหายไปไม่กลับเสมอ  Wendel รู้สึกถึงอันตราย และมีแผนจะเคลื่อนย้ายยานของเขาไปกบดานจนกว่าจะสืบหาสาเหตุได้รวมทั้งเพื่อสร้างเด็กใหม่ ๆ เพิ่มเพื่อทดแทนคนที่หายไป

แต่ด้วยพลังของAlla The Dream Beige หนึ่งใน Children of Revolution มานาห์จึงรู้ถึงเรื่องนี้ และรู้ว่านี่คือโอกาสสำคัญที่จะจัดการกับ Wendel     

   ดังนั้นในวันที่พายุทรายพัดกระหน่ำ  มานาห์และกองกำลังหัตถ์สีชาดของเธอจึงเข้าจู่โจมยานของ Wendel  ที่ไม่สามารถขึ้นบินได้เพราะถูกกักด้วยพลังของ Chun  The Sand Yellow อีกหนึ่งใน Children of Revolution

   ศึกตัดสินเริ่มขึ้นแล้ว

บทที่ 8

Spoiler for Hiden:
มานาห์แบ่งพวกพ้องออกเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อความคล่องตัวกระจายไปยังจุดต่างๆของยาน พวกเธอทุกคนต่างรู้เส้นทางภายในยานดีอยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ทว่า Wendel เองก็ไม่ประมาท ตั้งแต่วันแรกที่ Children หายไปเขาก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เขาติดตัดกับดักไว้ทั่วยานเพื่อรอให้เหยื่อมาติดกับเอง

มันคือ กับดักเขาวงกต

พวกมานาห์วิ่งไปตามเส้นทางในยานอย่างรู้ทาง กลับไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองวิ่งสู่ทางตัน ทุกกลุ่มวิ่งไปบนทางที่ไม่มีทางแยก กว่าจะรู้สึกตัวก็กลายเป็นว่ามารวมตัวกันที่ห้องโถงกว้างแห่งหนึ่งซึ่งมันสายไปเสียแล้ว

มันเป็นห้องสีขาวที่ไม่มีอะไรเลย กว้างราวสนามโคลอสเซียม สูงเทียมฟ้า เป็นสถานที่ราวกับหลุดมาอีกโลกหนึ่งซึ่งไม่น่ามีอยู่ในยานได้

"ขอต้อนรับกลับบ้าน เด็กๆที่น่ารักของข้า" เสียง Wendel สะท้อนก้องทุกทิศทาง มานาห์ได้แต่มองหน้าเพื่อนๆกันเลิกลักและยืนหัวหลังเข้าหากันระวังภัย

"Wendel เจ้าอยู่ที่ไหน โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้" มานาห์ตะโกนท้า ซึ่งเธอรู้ว่าคนอย่าง Wendel ไม่ปรากฏกายมาง่ายๆ แน่ ทว่าเธอคิดผิด พื้นที่ว่างเปล่าเบื้องหน้าจู่ๆ เกิดแสงสว่างวาบและร่างของชายผู้มีรอยยิ้มชั่วก็ปรากฏขึ้น

Acid Pink หนึ่งในเพื่อนพ้องของมานาห์ สาดน้ำกรดเหนียวหนืดสีชมพูใส่ Wendel ทันที ทว่ามันกลับทะลุร่างของเขาไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ที่แท้ร่างตรงหน้าเป็นเพียงภาพโฮโลแกรมเท่านั้น

"จุ๊ๆ อย่าเพิ่งใจร้อนสิ การแสดงยังไม่เริ่มต้นเลย"  Wendel ยิ้มกริ่มขณะเดินเข้ามาใกล้ พวกมานาห์ได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ ทั้งที่ศัตรูอยู่ตรงหน้าแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย

จากนั้นพื้นกลางห้องก็แยกออก กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งถูกยกขึ้นมาประชันหน้ากับพวกของมานาห์ หนึ่งในกลุ่มคนนั้นเป็นบุคคลที่มานาห์รู้จักเป็นอย่างดี

" #000000!" มานาห์ตะโกนเรียกด้วยความดีใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับยืนนิ่งไม่ตอบรับใดๆ

"ระวังนะ นั่นไม่ใช่คนที่เจ้ารู้จักอีกแล้ว" โทนี่หรือ Forest Green เตือน

นัยน์ตาของ #000000 ขุ่นมัว แผ่รังสีฆ่าฟันอย่างเต็มที่ นั่นไม่ใช่คนที่เธอรู้จักอีกแล้ว แต่เป็น #000000 อีกคนที่ถูกลบล้างความทรงจำออกไป แต่ไม่ใช่แค่นั้น จู่ๆผิวหนังของ #000000 ก็ปริแตกออก ขนาดร่างกายขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นอสูรกายน่าเกลียดน่ากลัว
Spoiler for Hiden:

มันคำรามเสียงดังลั่น ความน่าสยองขวัญของมันทำให้กลุ่มเด็กๆ เผลอก้าวถอยหลังด้วยความสะพรึงกลัว

"Wendel เจ้าทำอะไรกับ  #000000!" เธอตะโกนถามเสียงสั่น

"แค่เห็นก็น่าจะเข้าใจนะ นี่แหละคือบทสรุปของคนที่บังอาจทรยศข้า" Wendel หัวเราะลั่นด้วยความสะใจ "ข้าแค่ดัดแปลงนิดๆหน่อยๆ พวกเจ้ามาก็พอดีเลย อยากทดสอบดูเสียหน่อยว่าร่างทดลองนี้ใช้ได้หรือเปล่า"

ไม่ใช่แค่ #000000 คนเดียว Children คนอื่นๆ ก็กลายร่างเป็นอสูรกายเช่นกัน

มานาห์กำหมัดแน่นตัวสั่นด้วยความโกรธสุดขีด เจ้าบ้านั่นที่อุตส่าห์ช่วยเธอไว้ กลับต้องกลายเป็นแบบนี้
"อภัยให้ไม่ได้!!!" มานาห์ตะโกนลั่นและพุ่งเข้าใส่
จากนั้นทั้งสองฝั่งจึงเปิดฉากการต่อสู้เข้าปะทะกันเต็มกำลังโดยแลกด้วยชีวิต

บทที่ 9

Spoiler for Hiden:
มันน่าจะเป็นการต่อสู้ที่สูสีของทั้งสองฝ่าย ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น

พลันที่ Air Blue ใช้ใบมีดสายลมเรียกเลือดจากอสูรกายตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามา กลิ่นเลือดของมันก็ทำให้อสูรกายตัวข้าง ๆ ต่างคลุ้มคลั่งพุ่งเข้ากัดพวกเดียวกันที่บาดเจ็บ เจ้าตัวที่โดนกัดจึงตอบโต้ สุดท้ายก้กลายเป็นการสู้กันเองของอสูรกายทั้งกลุ่ม  มานาห์ที่ไหวทันจึงให้สัญญาณทุกคนถอยออกจากกลางห้อง ปล่อยให้พวกมันกัดกินกันเองต่อไป


"อ้าว  โธ่เอ้ย  ไม่นึกว่าเจ้าพวกนี้จะงี่เง่าขนาดนั้น"   Wendel บ่นแสดงความผิดหวัง

"ยอมแพ้ซะ เจ้าไม่มีทางชนะแล้ว"  มานาห์พูดกับภาพโฮโลแกรม ตอนนี้พวกอสูรกายส่วนใหญ่ล้มลงหมดแล้ว  เหลือเพียง #000000 กับอสูรกายที่เกาะเขาอยู่อีกไม่กี่ตัว

"หือ?  เจ้าเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า  มันยังไม่จบหรอกนะ"  Wendel ยิ้มเจ้าเล่ห์  ตอนนั้นเองที่มานาห์ได้ยินเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกปนเจ็บปวดจากเพื่อน ๆ  เมื่อเธอหันไปดูก็พบว่าหนวดหลายสิบเส้นจาก #000000 กำลังโจมตีเพื่อน ๆ ของเธออยู่  หลายคนโดนหนวดปัดกระเด็นชนกำแพงแล้วทรุดฮวบแน่นิ่งไป

"เรื่องกัดกันเองเป็นเรื่องเกินคาด  แต่เจ้าพวกนี้มันสามารถดูดซึมสิ่งที่มันกินมาเพิ่มพลังให้ตัวเองได้ พวกเจ้าจะเป็นวัตถุดิบทำให้#000000 กลายเป็นอสูรกายหนึ่งเดียวที่เก่งกาจที่สุด"  Wendel หัวเราะ 

มานาห์หน้าซีด ขณะที่เพื่อน ๆ ของเธอพยายามหลบหนวดและโต้กลับ  แต่เนื้อหนังของ #000000 ที่ดูดซึมพลังของอสูรกายจำนวนมากไว้นั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะโจมตีเข้า  มิหนำซ้ำ เพื่อน ๆ หลายคนก็พลาดท่าโดนจับและค่อย ๆ ถูกดูดพลังไป เธอจึงละความสนใจจากภาพจำลองของ Wendel แล้ววิ่งกลับไปช่วยเพื่อนจากหนวดของ #000000  แต่มันก็ไม่ง่ายเลย เพราะถึงเธอจะตัดหนวดพวกนั้นไปเท่าไหร่ มันก็จะมีหนวดใหม่งอกออกมาเรื่อย ๆ  ส่วนเพื่อนที่ช่วยจากหนวดมาได้ ก็ยังคงลุกไม่ขึ้นเพราะถูกดูดพลัง  หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ก็คงไม่พ้นเป็นไปตามที่ Wendel คิด

เธอจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้  มานาห์ตัดสินใจเด็ดขาด  กระโดดหลบหลีกหนวดแล้วพุ่งเข้าหาปากที่อ้ากว้างของ  #000000

"#000000 นายมันตัวใหญ่ไปนะ แบบนี้แค่ไม่กี่หยดก็ไม่พอน่ะซิ"  มานาห์ใช้สองมือโอบตัวเองแล้วเริ่มหมุนร่าง  เส้นสายสีแดงสลับซับซ้อนเกิดขึ้นบนร่างเธอ จากนั้นละอองเลือดก็พุ่งกระจายคล้ายสายหมอกสีแดงพุ่งหายเข้าไปในปากที่อ้ากว้างของ #000000

"คราวนี้ฉันจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระเอง"

tutorial : นี่เป็นตัวอย่างของกระทู้ set up โดย 1st role player ผู้สนใจจะเล่นสามารถโพสตอบเพื่อลงชื่อเข้าร่วมได้ (สูงสุด 4คน)

ลำดับผู้เล่น   / คะแนน (แต้ม)
1st บารอน   3 คะแนน (18 แต้ม)
2nd chao   3 คะแนน (24 แต้ม)
3rd ลู่         4 คะแนน (25 แต้ม)
4th ดารา     0 คะแนน (15 แต้ม)
« Last Edit: March 01, 2016, 12:57:30 AM by Game Master »

 

Offline Chao

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #16 on: February 24, 2016, 01:59:58 PM »
ตอนที่ 6

เนื้อเรื่อง A

Spoiler for Hiden:
Spoiler for Hiden:
เด็กชายในชุดสีเขียววิ่งไปตามยอดไม้อย่างแผ่วเบาราวกับเดินบนพื้นราบ
หากมีใครสักคนมองขึ้นไปก็จะเห็นว่า กิ่งไม้ต่างหากที่คอยโน้มเอนเข้ามารองรับทุกอย่างก้าวของเขาอย่างพอดีที่สุด
เด็กชายหยุดลงบนยอดต้นสนโบราณที่ใจกลางของป่า เขาหลับตาลงและรู้สึกได้ถึงสัมผัสของต้นไม้ใบหญ้าทุกต้นโดยรอบ
พวกกองกำลังกบฏคิดผิดแล้วที่สร้างฐานลับขึ้นในสถานที่แบบนี้ ด้วยพลังของเขาการค้นหาและทำลายผู้ต่อต้านกลุ่มนี้ง่ายราวพลิกฝ่ามือ
ถึงแม้ว่าโลกนี้จะยอมจำนนต่อท่านเวนเดลมาเกือบปีแล้ว แต่อยู่ดีๆกลับมีกลุ่มต่อต้านที่ชื่อว่า "หัตถ์สีชาด" เกิดขึ้น
ทั้งๆที่คนอื่นๆในโลกล้วนศรัทธาในตัวท่านเวนเดลอย่างไม่มีข้อแม้ แต่คนกลุ่มนี้กลับเลือกที่จะสู้
หมู่บ้านและเมืองหลายแห่งเอาใจออกห่างจากการปกครองของท่านเวนเดลหลังจากถูกกลุ่มต่อต้านยึดครอง ทำให้ท่านเวนเดลไม่พอใจอย่างยิ่ง
เขาได้รับคำสั่งให้ค้นหาที่ตั้งของกองกำลังนี้ เพื่อที่จะยกกำลังมาปราบปรามต่อไป แต่ไม่หรอก ถ้าเป็นที่นี่พลังของเขาคนเดียวก็เพียงพอแล้ว
เด็กชายสัมผัสได้ถึงสายลับของกลุ่มต่อต้านที่ถูกเขาสะกดรอยมาตั้งแต่หมู่บ้านใกล้ๆ ถ้ำที่สายลับเข้าไปมีคนอื่นๆอยู่อีกสิบกว่าคน
ที่นั่นน่าจะเป็นฐานลับของพวกหัตถ์สีชาดแน่นอน เด็กชายคิดพลางวิ่งไปตามเส้นทางบนยอดไม้ที่เขาสร้างขึ้น
"จงออกมาซะ เจ้าพวกกบฏ ในนามแห่งท่านเวนเดล หากยอมจำนนข้าจะยกเว้นโทษประหารให้ก็ได้" เด็กชายประกาศเมื่อมาถึงหน้าถ้ำ
ทหารของพวกกบฏกรูกันออกมาจากถ้ำพุ่งเข้าหาเด็กชายพร้อมอาวุธครบมือ ทว่าก่อนที่จะเข้าประชิดตัวเด็กชาย
ทหารเหล่านั้นก็ถูกกิ่งไม้และเถาวัลย์โดยรอบพุ่งเข้ามารัดพันตามตัวจนขยับไม่ได้ ทุกอย่าเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้ เด็กชายคิด
"ใครเป็นหัวหน้าของพวกเจ้า ?" สารภาพมาซะ เด็กหนุ่มบังคับให้กิ่งไม้รัดแน่นขึ้น เมื่อไม่ได้ยินคำตอบ
"ฉันเอง" เสียงของเด็กหญิงดังขึ้นจากภายในถ้ำ เด็กหนุ่มหันไปมอง บังคับเถาวัลย์ที่เหลืออยู่ไปดักรอทางปากถ้ำ
"#228B22 สินะ แต่ฉันชอบคำว่า Forest Green มากกว่านะ" เด็กหญิงในชุดแดงปรากฏตัวขึ้น
"#990000 ? เธอน่าจะตายไปแล้วนี่" เด็กชายตะลึงจนชะงักไปชั่วครู่ นั่นนานพอที่เด็กหญิงจะยกมือเป็นสัญญาณ
ทันใดนั้นทหารที่อยู่ใกล้กับเด็กชายที่สุดก็เบ่งพลังจนเถาวัลย์ขาดกระจาย ก่อนจะทุบเข้าไปที่ท้ายทอยของเด็กชายอย่างแรงจนเขาสลบไป
"ทำได้ดีมาก ไบรน์ " เด็กหญิงขอบคุณทหารก่อนจะเดินเข้าไปพูดกับเด็กชายที่สลบอยู่
"ขอโทษนะForest Green พลังในการสืบเสาะของนายเป็นอันตรายต่อพวกเรา จึงต้องวางแผนให้นายมาติดกับ"
"แต่ดีใจเถอะ นายจะเป็น Children of Revolution คนแรกที่ได้ดื่มเลือดของฉัน หวังว่านายจะหลุดพ้นเหมือนกับคนอื่นๆนะ"
มานาห์วางนิ้วชี้ที่ริมฝีปากของเด็กชาย บังคับให้เลือดของเธอหยดลงไปในปากของเขา
"มันจะได้ผลเหมือนกับพวกเราไหมครับ ท่านมานาห์" ทหารที่ชื่อไบรน์ถามเด็กหญิง ในขณะที่ทหารคนอื่นๆจับเด็กชายมัดแล้วอุ้มเข้าไปในถ้ำ
มานาห์มองเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความหวัง "ฉันภาวนาให้มันได้ผลจ๊ะ"

เนื้อเรื่อง B

Spoiler for Hiden:

.
..
...
5 ปีต่อมา
การรุกรานจากชนเผ่าประหลาดที่ส่งเหล่าเด็กๆผู้มีพลังดุจปีศาจออกรุกรานทั่วดินแดนประสบความสำเร็จไปด้วยดี แม้จะมีการต่อต้านบ้างแต่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งความทะเยอทะยานของ Wendel ได้ มนุษย์เกือบทุกคนถูกมนต์สะกดและยอมศิโรราบให้แก่พลังอำนาจของ Wendel

แต่ไม่ใช่กับกลุ่มผู้ต่อต้านแห่งนครใต้พิภพเซกันแซนเดรีย
Spoiler for Hiden:

Wendel ย่ามใจเกินกว่าจะรู้ว่าเหล่ามนุษย์ผู้ไม่ยอมปล่อยให้โลกล่มสลายกำลังรวมพลกันภายใต้เงาของเขาเอง เมืองใต้ดินแห่งนี้อยู่แต่หมู่บ้านแซนเดรียอันเป็นที่ตั้งของยานโนอาห์ฐานที่มั่นของ Wendel โดยมีผู้นำซึ่งเป็นเพียงหญิงสาววัย 17 ปี นามว่า มานาห์
Spoiler for Hiden:

ทรัพยากรบุคคลภายในนครแห่งนี้แม้จะมีไม่เยอะหากเทียบกับสัดส่วนของกองกำลังศัตรู แต่ทว่าที่นี่ล้วนเป็นคนฝีมือเก่งกาจผู้ล้วนแล้วแต่เคยปะทะกับเหล่า Children แล้วทั้งนั้น มีทั้งกลุ่มทหารรับจ้างผู้ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดแห่งอาณาจักรอลันเซีย แม่ทัพผู้ผ่านสงครามครั้งไม่ถ้วน แม่มดแห่งทุ่งร้างผู้มีอายุมานานกว่าสองร้อยปี นักบวชผู้ชุบคนตายให้กลับมามีชีวิตได้ ช่างอาวุธที่สร้างอาวุธเทียบเท่าอาวุธในตำนาน นักเล่นแร่แปรธาตุ นักเลี้ยงมังกร นักฆ่า เสนาบดี และอื่นๆอีกมาก

ตอนนี้ทุกคนรวมตัวกันที่ห้องประชุมเพื่อวางแผนครั้งใหญ่ มานาห์มองทุกคนในห้องประชุมแล้วเลือดในกายพลันสูบฉีดอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่าความพยายามของเธอตลอดห้าปีนี้ใกล้จะประสบความสำเร็จเต็มที เธอสามารถรวบรวมผู้รอดชีวิตได้มากมาย ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอำนาจมนต์สะกดและดึงมาเป็นพวกได้หลายต่อหลายคน และนี่คือเวลาที่เราจะได้โต้กลับมันเสียที

หญิงสาวกางแผนที่ไว้บนกระดานให้ทุกคนได้เห็น
Spoiler for Hiden:

"เย็นวานนี้ข้าสามารถรวบรวมรายละเอียดของยานโนอาห์ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อีกสามวันด้านบนจะเกิดพายุทราย เราต้องชิงความได้เปรียบนี้โดยการลอบบุกเข้าไปในยานและทำลายมันทิ้งซะ ที่ข้าเรียกรวมตัวในวันนี้เพราะต้องการวางแผนและจัดแบ่งกำลังพล" มานาห์พูดด้วยมาดผู้นำ ประสบการณ์ที่สั่งสมมาทำให้เธอเติบโตเกินอายุจนใครๆต่างเคารพเธอ

ทุกคนร่วมกันเสนอความคิดและวางแผนหาเส้นทางที่ดีที่สุด และมีการสำรองแผนไว้หลากหลายณุปแบบ การระดมความคิดนี้เป็นไปอย่างยาวนานเกือบ 30 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

และวันที่เริ่มแผนการก็มาถึง พายุทะเลทรายพัดกระหน่ำ กองกำลังแรกไปก่อจราจลที่เมืองข้างเคียง ล่อให้เหล่า Children แบ่งกำลังคนกันออกไปจัดการ กองกำลังที่สองลอบเร้นเข้าไปในยานเพื่อทำลายระบบตรวจจับไม่ให้ทำงาน กองกำลังที่สามไปยังจุดสำคัญของยาน ตามด้วยกองกำลังฝ่ายรุกที่เหลือและออกโจมตีพร้อมๆ กัน

มานาห์นำทีมพิเศษบุกเข้าส่วนในของยานเพื่อสังหารตัวการอย่าง Wendel ซะ ทว่าระหว่างทางกลับมี Children ฝีมือดีพร้อมหุ่นเชิดมนุษย์จำนวนมากออกขัดขวาง หนึ่งในนั้นมีคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ที่ตลอด 5 ปีนี้เขาไม่เปลี่ยนไปเลย

" #000000!" มานาห์ตะโกนเรียกด้วยความดีใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับแย้มรอยยิ้มหยันมาให้

"#990000 นี่เอง เธอยังไม่ตายจริงๆ ด้วยสินะ" #000000 พูด

มานาห์รู้สึกขยะแขยงรอยยิ้มนั่น มันเหมือนกับ...

"Wendel!"

"โอ้ เก่งนี่ที่รู้ว่าเป็นข้า"

"ทำไมกัน ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ในร่างของ #000000 ได้ #000000ตัวจริงอยู่ที่ไหน" มานาห์ตกใจ ชายในชุดดำผู้มีนามว่า #000000 กลับกลายเป็นเวนเดลที่อยู่ในร่างเขา

"แค่เห็นก็น่าจะเข้าใจนะ ข้าเอาร่างของมันมาใช้ไงล่ะ บทสรุปของคนที่บังอาจทรยศข้า" Wendel หัวเราะลั่นด้วยความสะใจ

มานาห์กำหมัดแน่นตัวสั่นด้วยความโกรธสุดขีด เจ้าบ้านั่นที่อุตส่าห์ช่วยเธอไว้ กลับต้องมาตายเองแบบนี้
"อภัยให้ไม่ได้!!!" มนาห์ตะโกนลั่นและพุ่งเข้าใส่
จากนั้นทั้งสองฝั่งจึงเข้าปะทะกันเต็มกำลังโดยแลกด้วยชีวิต

เนื้อเรื่อง C

Spoiler for Hiden:

มานาห์ตั้งใจจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างของเวนเดลให้จงได้
...แต่ก่อนที่จะทำอะไรใหญ่โตนั้นก็ต้องเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ก่อน
และก้าวเล็ก ๆ นั่นคือการขัดขวางการล่าสังหาร ซึ่งก็หมายความว่ามานาห์จะต้อง "ช่วยเหลือ" แทนที่จะ "เข่นฆ่า" เหมือนที่ผ่าน ๆ มา พอคิดแบบนี้แล้วมานาห์ก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าการปกป้องจะยากกว่าการฆ่ามากก็ตาม
มานาห์ไม่คิดว่าตนจะสามารถช่วยเหลือได้ทุกคนอยู่แล้ว ดังนั้น เธอจะต้องพุ่งเป้าไปที่บุคคลสำคัญ- เป้าหมายหลักของเวนเดล

เอาละ จบการฝันถึงอนาคตแต่เพียงเท่านี้ ถึงเวลามองความจริงที่ปัจจุบันแล้ว มานาห์คิดแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องฝุ่นจับเมื่อสภาพร่างกายดีขึ้นแล้ว เป้าหมายของเธอคือการสำรวจสถานที่ปัจจุบัน
มานาห์พบว่าตัวเองอยู่ในหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง เจ้าบ้านั่น... มานาห์สบถเบา ๆ ที่ให้หนีไปนี่ไม่ใช่แค่หนีเวนเดลแต่ยังหนีจากที่บ้า ๆ แบบนี้อีกเรอะ ถึงจะพอเข้าใจที่เวลาช่วยมีจำกัดก็เถอะ

หืม...? มีเวลาจำกัด?

ถ้าคิดอีกแง่หนึ่งก็คือ ยานของเวนเดลยังอยู่ไม่ไกลจากที่นี่นัก เป้าหมายต่อไปของเวนเดลจะต้องเป็น "เมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุด" แน่

ว่าแล้ว มานาห์ก็เดินไปดูที่ป้ายแผนที่ของหมู่บ้านเพื่อค้นหา "เมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุด"


เชิญโหวต ภายใน 14.00 25/02/59


Offline Chao

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #17 on: February 24, 2016, 06:33:19 PM »
 ผลโหวต

เนื้อเรื่อง A (Baron) 2+2
เนื้อเรื่อง B (Lu) 2+1
เนื้อเรื่อง C (Dara) 1+1

 เนื้อเรื่อง A ได้ไปต่อ

ตอนต่อไปส่งที่ Lu ภายใน 25 กพ 59 19.00
« Last Edit: February 24, 2016, 06:49:53 PM by Chao »

Offline Lu

  • แกละพุงกาง แผ่พุงแล้วเหินบิน หน้าหลังเสมอกัน ความสมมาตรทางสรีระที่ใครก็ใฝ่หา
  • *
  • $1963Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To Lu
  • หมาหมีหมูแมวม้า
    • View Profile
Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #18 on: February 25, 2016, 06:06:04 PM »
ตอนที่ 7

เส้นทาง A
Spoiler for Hiden:
ยานโนอาห์ลอยลำอยู่เหนือผืนป่าใกล้กับถ้ำที่มานาห์และกลุ่มหัตถ์สีชาดใช้เป็นฐานลับชั่วคราว
เวนเดลจ้องมองผืนป่าเบื้องล่างจากจอมอนิเตอร์ของห้องควบคุม เขายิ้มหยันตามแบบฉบับของตนเอง
ก่อนจะหันไปถามเด็กชายชุดสีฟ้าที่คุกเข่าอยู่ใกล้ๆ "ที่นี่สินะ?"
"ครับ ท่านเวนเดล" เด็กชายตอบ "สัญญาณจิตของ #228B22 หายไปจากเรดาห์ของผมที่จุดนี้"
วันนี้สินะ ที่จะเป็นวันสุดท้ายของพวกกบฏที่น่ารำคาญเหล่านี้ เวนเดลคิด
ดีที่เขาให้ #6698FF ใช้พลังจิต คอยตรวจจับสัญญาณของ #228B22 เอาไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน
ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกมันใช้วิธีอะไรในการทำให้เมืองต่างๆหลุดพ้นจากอำนาจของเขา อาจจะเป็นยาอะไรสักอย่าง
แต่นั่นไม่สำคัญอีกต่อไป เขาตัดสินใจที่จะใช้อาวุธหนักเผาพลาญป่าแห่งนี้ให้เป็นจุล
มันเสี่ยงเกินไปที่จะปล่อยศัตรูที่สามารถจัดการกับ Children of Revolution ได้ แม้จะแค่คนเดียวก็ตามให้มีโอกาสรอด
ถึงจะเสียดายนิดๆก็เถอะ แต่อีกไม่นานเขาก็คงจะสามารถผลิตระเบิดโปรตรอนเพิ่มได้ หากไร้ซึ่งการก่อกวนของพวกมัน
"เตรียมยิงระเบิดโปรตรอน" เวนเดลสั่งการเครื่องควบคุมยานด้วยเสียง หน้าจอเล็งเป้าและปุ่มยืนยันการยิงปรากฏขึ้นด้านหน้าเขา
"ลาก่อนกองทัพกบฏ" เวนเดลกล่าวพลางบังคับหน้าจอล็อคเป้าไปที่ป่าเบื้องล่าง
ในขณะที่เขากำลังจะกดปุ่มยืนยันการยิง ยานโนอาห์กลับเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
"เกิดอะไรขึ้น ? เปิดหน้าจอแสกน 360 องศา" เวนเดลสั่งการ สิ่งที่เขาเห็นจากหน้าจอคือเถาวัลย์จำนวนมากที่พุ่งขึ้นมารัดพันยานโนอาห์เอาไว้
"เดินเครื่องบินขึ้นเต็มกำลัง" เวนเดลตะโกน แต่ช้าไปแล้ว ยานโนอาห์ถูกดึงเข้าไปชนกับต้นสนใหญ่ที่กลางป่า
แรงกระแทกทำให้ยานพลิกเอียงราวกับนกปีกหัก การสั่งเดินเครื่องเต็มกำลังกลับกลายเป็นการพุ่งเข้าชนต้นสนใหญ่แทน
แรงประทะทำให้ต้นสนใหญ่หักโค่นลง ส่วนยานโนอาห์ก็หมุนกระเด็นไปอีกทาง ก่อนจะตกลงบนพื้นเกิดเป็นเสียงดังสนั่นไปทั้งป่า

เส้นทาง B
Spoiler for Hiden:
"อว๊ากกกกกก"  #228B22  แผดร้องโหยหวน ดิ้นทุรนทุรายทั้งที่ยังถูกมัด ร่างของเขาแอ่นเกร็ง ตาขาวแดงก่ำ  เหงื่อไหลชุ่มโชกราวสายน้ำ เขามีสภาพเช่นนี้มาได้เป้นชั่วโมงแล้ว  นับแต่ได้รับเลือดของมานาห์ไป 

"ไม่นะ  มันต้องได้ผลสิ"  มานาห์จิกมือแน่น  เธออยู่เฝ้าเด็กชายไม่ยอมห่าง  สะดุ้งทุกครั้งที่เขาแผดร้อง  หากเป็นไปได้ เธออยากเป็นคนที่เจ็บแทนด้วยซ้ำ

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้"  เธอพูดซ้ำไปซ้ำมาระหว่างที่พยายามกอดรัดเขาเอาไว้แม้จะรู้ว่ามันไม่ช่วยอะไร พูดซ้ำทุก ๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงร้อง  พูดซ้ำทุก ๆ ครั้ง ที่รู้สึกถึงการกระตุก

พูดซ้ำไปเรื่อย ๆ จนถึงเช้า

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้" แม้จะอ่อนเพลียกับการไม่ได้นอนทั้งคืน เธอก็ยังคงกระซิบที่หูของ #228B22 

"...โท" เด็กชายพึมพำ

"อดทนไว้นะ Forest Green อดทนไว้" มานาห์กระซิบกล่อม

"..โทนี่" เด็กชายพึมพำอีกครั้ง

"หือ?" เด็กหญิงชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรผิดไปจากเดิม

"บอกว่าฉันชื่อโทนี่ไงเล่า ยัยบ้า" คราวนี้ Forest Green พยายามบิดคอมามองเธอ  แววตาของเขาถึงจะอ่อนล้า แต่ก็ทำให้รู้สึกถึงชีวิตกว่าเมื่อก่อน  เลือดของมานาห์ได้ผลจริง ๆ
.....
...
..
.
 5 เดือนต่อมา


 หลังจากTony The Forest Green มานาห์ได้ช่วงชิงเด็ก ๆ ของWendel มาอีกหลายคน  บัดนี้ เหล่า Children of Revolution มีจำนวนถึง 18 คน  นั่นทำให้ Wendel โกรธและสับสนมาก  เด็กของเขาหายไปทีละคนสองคน ทุกคนต่างเป้นมือดีที่ไม่น่าจะเสียท่ามนุษย์ธรรมดาได้  และไม่มีเบาะแสใด ๆ เขาพยายามกระจายขอบเขตการค้นหา  แต่นันยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย เด็กของเขาที่แยกตัวจากกลุ่มมักหายไปไม่กลับเสมอ  Wendel รู้สึกถึงอันตราย และมีแผนจะเคลื่อนย้ายยานของเขาไปกบดานจนกว่าจะสืบหาสาเหตุได้รวมทั้งเพื่อสร้างเด็กใหม่ ๆ เพิ่มเพื่อทดแทนคนที่หายไป

แต่ด้วยพลังของAlla The Dream Beige หนึ่งใน Children of Revolution มานาห์จึงรู้ถึงเรื่องนี้ และรู้ว่านี่คือโอกาสสำคัญที่จะจัดการกับ Wendel     

   ดังนั้นในวันที่พายุทรายพัดกระหน่ำ  มานาห์และกองกำลังหัตถ์สีชาดของเธอจึงเข้าจู่โจมยานของ Wendel  ที่ไม่สามารถขึ้นบินได้เพราะถูกกักด้วยพลังของ Chun  The Sand Yellow อีกหนึ่งใน Children of Revolution

   ศึกตัดสินเริ่มขึ้นแล้ว

เส้นทาง C
Spoiler for Hiden:
หนึ่งในพลังของมานาห์คือการควบคุมสิ่งต่าง ๆ ด้วยเลือดของตัวเอง
และ "สิ่งต่าง ๆ" ที่ว่านั้นก็รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตด้วยเช่นกัน พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มานาห์สามารถใช้เลือดของเธอล้างสมองสิ่งมีชีวิตให้ทำตามที่เธอต้องการได้
ใช่แล้ว ที่มาของกลุ่มต่อต้าน "หัตถ์สีชาด" เกิดมาจากการที่มานาห์ใช้เลือดล้างสมองคนบางส่วนที่มีความสามารถพอที่จะต่อสู้นั่นเอง พูดตามตรง สิ่งที่เธอทำก็คือการล้างสมองผู้คนเพื่อสร้างกองกำลังเป็นของตัวเอง...ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเวนเดลเลย

แต่ถ้าจะต่อกรกับเวนเดลแล้วละก็ มานาห์ไม่มีทางเลือกอื่น

การ "ปลดปล่อย" Forest  Green สำเร็จไปได้ด้วยดี และการที่ Forest Green เข้ามาพวกเดียวกับเธอก็นับว่ามีประโยชน์มาก มานาห์สามารถชักถามข้อมูลเรื่องสมาชิกในกองกำลังของเวนเดลได้อย่างละเอียด หนำซ้ำข้อมูลที่มานาห์ได้ทำให้เธอสามารถคาดคะเนได้ว่าต่อไปเวนเดลจะทำอะไรต่อ นอกจากนี้แล้ว ความสามารถของ Forest Green ยังเป็นประโยชน์ต่อเธออย่างมากอีกด้วย

ที่สำคัญ ความสำเร็จของการปลดปล่อย Children of Revolution จากเงื้อมมือของเวนเดล ก็ได้ทำให้แผนการปลดปล่อย Children of Revolution คนอื่น ๆ เริ่มขึ้น

แผนการนั้นง่ายมาก

การที่ Forest Green ใช้เวลาปฏิบัติภารกิจนานกว่าปกติจะทำให้เวนเดลตัดสินใจเรียกตัวด้วยโทรจิต แน่นอนว่า Forest Green ไม่ทำตามแน่ และนั่นจะทำให้เวนเดลรู้สึกตัวว่า Forest Green ถูกกำจัดในฐานะหมากของตนแล้ว ไม่ว่าจะเพราะถูกฆ่าตายหรือถูกปลดปล่อยก็ตาม

พร้อมกันนั้นก็ทำให้เวนเดลรู้แน่ชัดว่าสถานที่ของกองกำลังกบฎอยู่ที่ใด

เวนเดลจะต้องส่งเหล่า Children of Revolution และตุ๊กตามาถล่มฐานแน่ แต่นั่นแหละที่มานาห์ต้องการ เธอจะฉวยโอกาสนี้ล้างสมองทับพวก Children of Revolution ที่ถูกส่งมาให้หมด แล้วยิ่งเธอมี Forest Green เป็นพรรคพวกอยู่ด้วยแล้วละก็ เธอจะต้องทำได้แน่

แผนการปลดปล่อย Children of Revolution ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเกินคาด Children of Revolution ทุกคนถูกมานาห์ "ปลดปล่อย" ในขณะที่ศัตรูที่ไม่ใช่มนุษย์ก็ถูกกำจัดซะจนไม่เหลือซาก แม้ว่าจำนวนของตุ๊กตาไร้ชีวิตจะถูกส่งมามากเกินคาด และ Children of Revolution ที่ถูกส่งมาจะมีน้อยเกินคาดก็ตาม นั่นอาจจะเป็นเพราะเวนเดลคิดเผื่อไว้ว่า Children of Revolution ถูกล้างสมองกระมัง

มานาห์มองเหล่า Children of Revolution ที่ถูก "ปลดปล่อย" แล้ว เธอชี้นิ้วนับจำนวนพวกเขาดู
1 2 3 4... 5 คนเท่านั้น
แต่มานาห์คิดว่าพวกพ้องเท่านี้ก็เหลือเฟือแล้ว ไอ้ครั้นจะรอให้เวนเดลส่งลูกน้องมาอีกก็คงจะไม่เข้าที เวนเดลไม่ได้โง่ขนาดนั้น

ถึงเวลาประกาศสงครามอย่างจริงจังเสียที

โหวตได้เลยค่ะ   x0x

Offline Lu

  • แกละพุงกาง แผ่พุงแล้วเหินบิน หน้าหลังเสมอกัน ความสมมาตรทางสรีระที่ใครก็ใฝ่หา
  • *
  • $1963Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To Lu
  • หมาหมีหมูแมวม้า
    • View Profile
Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #19 on: February 26, 2016, 12:09:07 AM »
ผลโหวตค่า

A(ฺBaron) 1+2
B(Chao) 2+2
C(Dara) 1+1

เนื้อเรื่อง B เข้ารอบ!
ตอนต่อไปส่งที่ Dara ภายใน 26 กพ 59 23.30 น.


« Last Edit: February 26, 2016, 01:11:57 AM by Lu »

Offline Star

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #20 on: February 26, 2016, 11:33:16 PM »
8th Chapter Story

Route A
Spoiler for Hiden:
มานาห์นำเหล่า Children of Revolution ที่ได้รับการปลดปล่อยบุกเข้าไปในยานโนอาห์
ทว่าพวกเธอกลับไม่พบการต่อต้านใดๆ หรือมันจะเป็นกับดัก เด็กสาวคิด แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่น
มาถึงขนาดนี้มีแต่ต้องมุ่งหน้าต่อไปเท่านั้น พลังทำนายของอัลลา ไม่น่าจะผิดพลาด...นอกเสียจากว่า..
เวนเดลก็รู้คำทำนายนี้เช่นกัน ใช่แล้ว เวนเดลคงให้อัลลาทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้า และรู้เรื่องการโจมตีครั้งนี้อยู่ก่อน
ดังนั้นเขาจะต้องฉวยโอกาสล่อพวกเธอมาจัดการในคราวเดียว "ทุกคน นี่เป็นกับดัก ยกเลิกภารกิจ" มานาห์บอกคนอื่นๆ
แต่ช้าไปแล้ว เด็กหญิงได้ยินคลื่นเสียงแหลมเล็กเสียดแก้วหูดังขึ้นจากลำโพงในยาน มันทำให้เธอไม่อาจตั้งสติใช้พลังใดๆได้เลย
Children of Revolution คนอื่นๆก็มีสภาพไม่ต่างกัน บ้างก็คุกเข่าลงบิดตัวอย่างเจ็บปวด บ้างก็ถึงกับสลบ
หน้าจอใกล้ๆปรากฏภาพของเวนเดลขึ้น เขายิ้มเย้ยหยันตามแบบฉบับก่อนจะพูดกับมานาห์
"นี่คืออาวุธลับที่ใช้จัดการกับพวกเธอไงล่ะ คลื่นเสียงทำลายประสาทมีผลต่อในการรบกวนการใช้พลัง"
"ต้องขอชมเชยนะที่สามารถต่อต้านฉันมาได้ถึงขนาดนี้ แต่เสียใจด้วยนี่เป็นจุดจบที่แท้จริงของเธอ"
"ดีใจเถอะ เธอและเพื่อนๆคงจะไม่เหงาหรอก เพราะเจ้าคนทรยศ #000000 รอเธออยู่ในนรกแล้ว"
มานาห์มองเห็นพายุทรายรอบๆค่อยๆสงบลง พร้อมกับการที่ Children of Revolution คนอื่นๆพากันล้มพับลงไปจนหมด
เธอเองแม้จะมีพลังรักษาเหนือกว่าคนอื่นเป็นพื้นฐาน แต่ตอนนี้หัวของเธอปวดไปหมด
ไม่นะ มันต้องไม่จบลงแบบนี้ มานาห์กรีดร้องอยู่ภายในใจก่อนจะสิ้นสติไป

Route B
Spoiler for Hiden:
มานาห์แบ่งพวกพ้องออกเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อความคล่องตัวกระจายไปยังจุดต่างๆของยาน พวกเธอทุกคนต่างรู้เส้นทางภายในยานดีอยู่แล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ทว่า Wendel เองก็ไม่ประมาท ตั้งแต่วันแรกที่ Children หายไปเขาก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เขาติดตัดกับดักไว้ทั่วยานเพื่อรอให้เหยื่อมาติดกับเอง

มันคือ กับดักเขาวงกต

พวกมานาห์วิ่งไปตามเส้นทางในยานอย่างรู้ทาง กลับไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองวิ่งสู่ทางตัน ทุกกลุ่มวิ่งไปบนทางที่ไม่มีทางแยก กว่าจะรู้สึกตัวก็กลายเป็นว่ามารวมตัวกันที่ห้องโถงกว้างแห่งหนึ่งซึ่งมันสายไปเสียแล้ว

มันเป็นห้องสีขาวที่ไม่มีอะไรเลย กว้างราวสนามโคลอสเซียม สูงเทียมฟ้า เป็นสถานที่ราวกับหลุดมาอีกโลกหนึ่งซึ่งไม่น่ามีอยู่ในยานได้

"ขอต้อนรับกลับบ้าน เด็กๆที่น่ารักของข้า" เสียง Wendel สะท้อนก้องทุกทิศทาง มานาห์ได้แต่มองหน้าเพื่อนๆกันเลิกลักและยืนหัวหลังเข้าหากันระวังภัย

"Wendel เจ้าอยู่ที่ไหน โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้" มานาห์ตะโกนท้า ซึ่งเธอรู้ว่าคนอย่าง Wendel ไม่ปรากฏกายมาง่ายๆ แน่ ทว่าเธอคิดผิด พื้นที่ว่างเปล่าเบื้องหน้าจู่ๆ เกิดแสงสว่างวาบและร่างของชายผู้มีรอยยิ้มชั่วก็ปรากฏขึ้น

Acid Pink หนึ่งในเพื่อนพ้องของมานาห์ สาดน้ำกรดเหนียวหนืดสีชมพูใส่ Wendel ทันที ทว่ามันกลับทะลุร่างของเขาไปอย่างน่าเหลือเชื่อ ที่แท้ร่างตรงหน้าเป็นเพียงภาพโฮโลแกรมเท่านั้น

"จุ๊ๆ อย่าเพิ่งใจร้อนสิ การแสดงยังไม่เริ่มต้นเลย"  Wendel ยิ้มกริ่มขณะเดินเข้ามาใกล้ พวกมานาห์ได้แต่กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ ทั้งที่ศัตรูอยู่ตรงหน้าแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย

จากนั้นพื้นกลางห้องก็แยกออก กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งถูกยกขึ้นมาประชันหน้ากับพวกของมานาห์ หนึ่งในกลุ่มคนนั้นเป็นบุคคลที่มานาห์รู้จักเป็นอย่างดี

" #000000!" มานาห์ตะโกนเรียกด้วยความดีใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับยืนนิ่งไม่ตอบรับใดๆ

"ระวังนะ นั่นไม่ใช่คนที่เจ้ารู้จักอีกแล้ว" โทนี่หรือ Forest Green เตือน

นัยน์ตาของ #000000 ขุ่นมัว แผ่รังสีฆ่าฟันอย่างเต็มที่ นั่นไม่ใช่คนที่เธอรู้จักอีกแล้ว แต่เป็น #000000 อีกคนที่ถูกลบล้างความทรงจำออกไป แต่ไม่ใช่แค่นั้น จู่ๆผิวหนังของ #000000 ก็ปริแตกออก ขนาดร่างกายขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นอสูรกายน่าเกลียดน่ากลัว
Spoiler for Hiden:

มันคำรามเสียงดังลั่น ความน่าสยองขวัญของมันทำให้กลุ่มเด็กๆ เผลอก้าวถอยหลังด้วยความสะพรึงกลัว

"Wendel เจ้าทำอะไรกับ  #000000!" เธอตะโกนถามเสียงสั่น

"แค่เห็นก็น่าจะเข้าใจนะ นี่แหละคือบทสรุปของคนที่บังอาจทรยศข้า" Wendel หัวเราะลั่นด้วยความสะใจ "ข้าแค่ดัดแปลงนิดๆหน่อยๆ พวกเจ้ามาก็พอดีเลย อยากทดสอบดูเสียหน่อยว่าร่างทดลองนี้ใช้ได้หรือเปล่า"

ไม่ใช่แค่ #000000 คนเดียว Children คนอื่นๆ ก็กลายร่างเป็นอสูรกายเช่นกัน

มานาห์กำหมัดแน่นตัวสั่นด้วยความโกรธสุดขีด เจ้าบ้านั่นที่อุตส่าห์ช่วยเธอไว้ กลับต้องกลายเป็นแบบนี้
"อภัยให้ไม่ได้!!!" มานาห์ตะโกนลั่นและพุ่งเข้าใส่
จากนั้นทั้งสองฝั่งจึงเปิดฉากการต่อสู้เข้าปะทะกันเต็มกำลังโดยแลกด้วยชีวิต

Route C
Spoiler for Hiden:
มานาห์กระโดดซิกแซกไปมาตามช่องทางเดิน  หลบสารพัดอาวุธของฝ่ายป้องกันที่มุ่งหมายเอาชีวิตเธอให้ได้   แต่แม้ว่าเธอจะเก่งกาจเหนือมนุษย์ แต่อีกฝ่ายก็คือทหารของ Wendel ที่มีอาวุธทันสมัย และเหล่าเด็กที่ได้รับการดัดแปลงเช่นเดียวกันกับเธอ  จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอและเหล่าหัตถ์สีชาดจะไม่พบการสูญเสีย  พวกพ้อง Children of Revolution ทั้ง 18  หลายคนจากไปตั้งแต่การปะทะครั้งแรก  จากนั้นเพราะการต่อสู้ระยะประชิดและผังทางเดินในยานที่ซับซ้อน  ฝ่ายบุกทั้งหมดจึงถูกบังคับให้แยกย้ายกันไปตามทางเดินส่วนต่าง ๆ  มานาห์ไม่มีทางเลือกนอกจากคุมทหารติดตามของเธอบุกต่อไปและหวังว่าคนอื่น ๆ จะสามารถหาทางไปรวมกันที่สะพานเดินเรือสำเร็จ   

"หยุดนะ! ราห์   รู้สึกตัวเสียทีสิ  โจนาห์  " มานาห์ตะโกนบอกอดีตเพื่อนร่วมหมู่บ้านของเธอที่ยังคงระดมโจมตีเธอโดยไม่มีการยั้งมือ  หนึ่งในนั้นพุ่งเข้าแทงมานาห์ด้วยหอกด้ามใหญ่ยักษ์  อานุภาพที่เกรี้ยวกราดนั้นทำให้มานาห์ต้องกลิ้งตัวหลบ เป็นเหตุให้โดนมีดบินจากผู้ไล่ล่าอีกคนปักเข้ากลางหลัง

"อึ้ก" มานาห์ข่มความเจ็บปวด  เธอยอมรับแล้วว่าเปล่าประโยชน์ที่จะพูดกับพวกเขาในตอนนี้  ทุกคนยังคงตกอยู่ในอำนาจล้างสมองของ Wendel   ความทรงจำที่คินมามากขึ้นเรื่อย ๆ ตามวันเวลาทำให้เธอไม่อาจลงมือกับศัตรูได้เฉัยบขาดเหมือนเก่า 

"ขอโทษนะ  แต่เพื่อช่วยพวกเธอ  ฉันจะตายที่นี่ไม่ได้" มานาห์กระซิบ ขณะข่มความเจ็บปวดพลิกตัวหลบมือหอกที่พุ่งแทงเข้ามาอีกครั้ง  หนึ่งมือและหนึ่งขาของเธอกรีดวาดแผ่วเบาผ่านต้นแขนและต้นขาของคู่ต่อสู้เกิดเป็นเส้นสีแดงชั่วแวบหนึ่งก่อนที่ฝนเลือดจะกระฉูดออกมาปากแผล ส่งผลให้เด็กจากหน่วยป้องกันหมดสภาพไปหนึ่งคน 

แต่ก็ยังมีอีก


การต่อสู้ดำเนินต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง  มานาห์และพรรคพวกค่อย ๆ รุกคืบเข้าใกล้ห้้องสะพานเดินเรือของยานมากขึ้นเรื่อย ๆ  หน่วยไล่ล่าถูกโค่นไปอีกสองคน  แม้ปฏิกริยาตอบสนองเหนือมนุษย์จะทำให้เธอหลบการโจมตีส่วนใหญ่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด  เธอได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ เลือดที่เสียไปเริ่มทำให้ฝีเท้าสับสน   ราห์และโจนาห์ สองหน่วยป้องกันที่ฝีมือดีที่สุดและสู้พลางถอยพลางมาตลอดไม่ปล่อยโอกาศนี้ไป  มีดบินของราห์ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงแร่ธาตุรอบตัวเพิ่มจำนวนมากขึ้น  ส่วนโจนาห์ที่มี่ร่างเหล็กไหลก็เริ่มเปลี่ยนเป็นฝ่ายวิ่งเข้าใส่มานาห์และหวุดหวิดจะคว้าตัวเธอได้หลายครั้ง และทุกครั้งที่เธอหลบได้  ก็จะกลายเป็นทหารฝ่ายหัตถ์สีชาดที่โชคร้ายถูกจับและขยี้จนร่างแหลกเหลวแทน ตอนนี้มานาห์ถูกต้อนให้พลัดออกมาไกลจากพวกเดียวกันเสียแล้ว

"อึ้ก อุ๊บ"  มานาห์หอบหายใจกลิ้งหลบโจนาห์ที่พุ่งเข้ามาอีกครั้ง  ด้านหลังคือราห์ที่กำลังหาจังหวะปามีดโจมตี

"ตาย"  โจนาห์พูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์กับมานาห์ที่จนมุมหน้าห้องที่ปิดล็อค   ร่างเหล็กของเขาส่องประกายวาววับ  มันยังคงไร้ริ้วรอยแม้จะถูกมือเท้าของมานาห์กรีดใส่นับครั้งไม่ถ้วนตลอดการต่อสู้  พลังป้องกันทางกายภาพของเขาถือเป็นอันดับหนึ่งในจำนวนเด็กที่ Wendel ดัดแปลง

"ไม่นะ ฉันไม่ยอมจบแค่นี้หรอก"  มานาห์กันฟันยืนหยัด สมองพยายามคิดหาวิธีสุดชีวิต  แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะมาถึงทางตัน เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสู้ตายกับโจนาห์ที่กำลังพุ่งเข้ามา

"จะตายตอนนี้ยังเร็วไปนะ" เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากประตูที่ปิดล็อคด้านหลัง  ไอสีดำลอยแทรงออกมาจากช่องประตู ผ่านมานาห์ พุ่งเข้าใส่โจนาห์ที่ชะงักไป และทำท่าเหมือนพยายามดิ้นหนีการพัวพันของไอสีดำ แต่ก็ไม่อาจทำได้  ราห์ที่อยู่ไกลออกไปรู้ถึงสถานการณืที่เปลี่ยนไป  เธอหันกลับแล้ววิ่งหนีไปโดยไม่แม้แต่พยายามช่วยโจนาห์  เพราะเธอรู้ว่า เจ้าของไอสีดำนั้นไม่ใช่คนที่เธอจะต่อกรได้

"ขอบคุณนะ Pure black"  มานาห์ร้องขอบคุณคนที่ช่วยเธออีกครั้ง

"อย่ามัวเสียเวลา  ช่วยฉันออกไปจากห้องนี้ก่อน"  เสียงเบาๆ แต่ชัดเจนดังจากห้องที่ถูกปิดล็อค

เอ้า โหวตได้
« Last Edit: February 27, 2016, 12:44:08 AM by Dara »

Offline Star

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #21 on: February 28, 2016, 01:39:45 PM »
8th Chapter Result

Route B WIN

Route A (Baron) 1+1=2
Route B (Lu) 2+2=4
Route C (Chao) 1+2=3

เนื้อเรื่องส่งต่อที่ Baron (1st Player)

เวลาจำกัดถึง 29/2/2016 14.00น.

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #22 on: February 29, 2016, 08:47:02 PM »
ตอน 9

A
Spoiler for Hiden:
มันน่าจะเป็นการต่อสู้ที่สูสีของทั้งสองฝ่าย ทว่ากลับไม่เป็นเช่นนั้น

พลันที่ Air Blue ใช้ใบมีดสายลมเรียกเลือดจากอสูรกายตัวหนึ่งที่พุ่งเข้ามา กลิ่นเลือดของมันก็ทำให้อสูรกายตัวข้าง ๆ ต่างคลุ้มคลั่งพุ่งเข้ากัดพวกเดียวกันที่บาดเจ็บ เจ้าตัวที่โดนกัดจึงตอบโต้ สุดท้ายก้กลายเป็นการสู้กันเองของอสูรกายทั้งกลุ่ม  มานาห์ที่ไหวทันจึงให้สัญญาณทุกคนถอยออกจากกลางห้อง ปล่อยให้พวกมันกัดกินกันเองต่อไป


"อ้าว  โธ่เอ้ย  ไม่นึกว่าเจ้าพวกนี้จะงี่เง่าขนาดนั้น"   Wendel บ่นแสดงความผิดหวัง

"ยอมแพ้ซะ เจ้าไม่มีทางชนะแล้ว"  มานาห์พูดกับภาพโฮโลแกรม ตอนนี้พวกอสูรกายส่วนใหญ่ล้มลงหมดแล้ว  เหลือเพียง #000000 กับอสูรกายที่เกาะเขาอยู่อีกไม่กี่ตัว

"หือ?  เจ้าเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า  มันยังไม่จบหรอกนะ"  Wendel ยิ้มเจ้าเล่ห์  ตอนนั้นเองที่มานาห์ได้ยินเสียงร้องด้วยความตื่นตระหนกปนเจ็บปวดจากเพื่อน ๆ  เมื่อเธอหันไปดูก็พบว่าหนวดหลายสิบเส้นจาก #000000 กำลังโจมตีเพื่อน ๆ ของเธออยู่  หลายคนโดนหนวดปัดกระเด็นชนกำแพงแล้วทรุดฮวบแน่นิ่งไป

"เรื่องกัดกันเองเป็นเรื่องเกินคาด  แต่เจ้าพวกนี้มันสามารถดูดซึมสิ่งที่มันกินมาเพิ่มพลังให้ตัวเองได้ พวกเจ้าจะเป็นวัตถุดิบทำให้#000000 กลายเป็นอสูรกายหนึ่งเดียวที่เก่งกาจที่สุด"  Wendel หัวเราะ 

มานาห์หน้าซีด ขณะที่เพื่อน ๆ ของเธอพยายามหลบหนวดและโต้กลับ  แต่เนื้อหนังของ #000000 ที่ดูดซึมพลังของอสูรกายจำนวนมากไว้นั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะโจมตีเข้า  มิหนำซ้ำ เพื่อน ๆ หลายคนก็พลาดท่าโดนจับและค่อย ๆ ถูกดูดพลังไป เธอจึงละความสนใจจากภาพจำลองของ Wendel แล้ววิ่งกลับไปช่วยเพื่อนจากหนวดของ #000000  แต่มันก็ไม่ง่ายเลย เพราะถึงเธอจะตัดหนวดพวกนั้นไปเท่าไหร่ มันก็จะมีหนวดใหม่งอกออกมาเรื่อย ๆ  ส่วนเพื่อนที่ช่วยจากหนวดมาได้ ก็ยังคงลุกไม่ขึ้นเพราะถูกดูดพลัง  หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ก็คงไม่พ้นเป็นไปตามที่ Wendel คิด

เธอจะยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้  มานาห์ตัดสินใจเด็ดขาด  กระโดดหลบหลีกหนวดแล้วพุ่งเข้าหาปากที่อ้ากว้างของ  #000000

"#000000 นายมันตัวใหญ่ไปนะ แบบนี้แค่ไม่กี่หยดก็ไม่พอน่ะซิ"  มานาห์ใช้สองมือโอบตัวเองแล้วเริ่มหมุนร่าง  เส้นสายสีแดงสลับซับซ้อนเกิดขึ้นบนร่างเธอ จากนั้นละอองเลือดก็พุ่งกระจายคล้ายสายหมอกสีแดงพุ่งหายเข้าไปในปากที่อ้ากว้างของ #000000

"คราวนี้ฉันจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระเอง"
B
Spoiler for Hiden:
ฝ่ายมานาห์แม้จะมีพลังที่หลากหลายพร้อมรับมือทุกสถานการณ์แต่ก็ไม่ได้มีพละกำลังและร่างกายทนทรหดดั่งเช่นฝ่ายอสูรกลายพันธุ์ พวกมันพุ่งเข้าใส่ด้วยความคลั่งบ้าไม่กลัวเจ็บกลัวตาย มีเพียงความกระหายเลือดไร้ความปราณี ดังนั้นแม้เหล่าเด็กๆ จะสังหารอสูรได้ทั้งหมดแต่ฝ่ายเธอก็บาดเจ็บแทบสิ้นเรี่ยวแรง

มานาห์มองอสูรอดีตเคยเป็นผู้ช่วยชีวิตเธอด้วยความรู้สึกเสียใจ "ขอโทษนะ #000000 ที่ข้าไม่ได้ตอบแทนอะไรเจ้าเลย"

"อสูรที่มีสมรรถนะทุกอย่างเหนือกว่ายังไม่อาจล้มพวก Children ที่ใช้สติปัญญาในการต่อสู้เป็นทีมเหรอเนี่ย" ภาพโฮโลแกรมของ Wendel พึมพำกับตัวเอง "แสดงว่าพละกำลังไม่ใช่ทุกอย่างสินะ สงสัยวิธีนี้จะไม่ได้เรื่อง แล้วทีนี้จะทำยังไงกับอสูรกลายพันธุ์ที่เหลือดีล่ะ จับมาดัดแปลงซะเยอะเลย เสียดายเด็กๆชะมัด"

"แก!" มานาห์โมโหและเข้าโจมตีใส่ร่างปลอมนั่นแม้จะรู้ว่าไร้ประโยชน์ก็ตาม

"ไหนๆ ก็มีอสูรอีกเยอะ ส่งมันมาเล่นกับพวกเจ้าอีกแล้วกัน" Wendel ยิ้มกว้าง เขาเรียก Children ที่กลายร่างเป็นอสูรอีกสิบคนออกมาท่ามกลางความหวาดหวั่นของพวกเธอเพราะสู้แทบไม่ไหวแล้ว

ทว่าทันใดนั้นเองไฟทั้งหมดก็ดับพรึบ มือสนิทมองไม่เห็นแม้แต่มือตัวเอง สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตมนุษย์อย่างเธอต้องใช้ดวงตาให้การมองเห็นแต่ไม่ใช่กับพวกมันที่ใช้ประสาทสัมผัสอื่นทดแทนกันได้ บ้าจริง พวกเธอจะตายอยู่ตรงนี้ไม่ได้นะ

"อย่าแตกตื่นนะ" เสียงกระซิบอันคุ้นหูดังพอที่จะให้พวกมานาห์ได้ยิน จากนั้นใครบางคนก็จับมือเธอก่อนความรู้สึกถูกกระชากอย่างแรงด้วยแรงกดมหาศาลราวกับจะฉีกร่างกายเป็นชิ้นๆ มานาห์กรีดร้อง ร่างกายหมุนกลางอากาศในม่ายแสงสว่างจ้าก่อนจะถูกแรงโน้มถ่วงกระฉากให้ลงไปกองกับพื้นอย่างหมดท่า

มานาห์ลืมตาอีกครั้งพบว่าตัวเองอยู่บนทางเดินภายในยาน เบื้องหน้าของเธอคือเด็กหญิงสวมแว่นตากันแดดคนหนึ่งในชุดรัดรูปสีเหลือง
"ข้าพาเจ้ามาส่งได้แค่นี้ ให้เจ้าวิ่งย้อนกลับไปรวมตัวกับพรรคพวกคนอื่นๆที่สุดทางเดิน" พูดจบก็หายวับไปกลางอากาศไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ถามอะไร

พรรคพวก?? ในใจมานาห์เต็มไปด้วยคำถาม แต่เธอไม่รีรอออกวิ่งไปบนทางเดินซึ่งเป็นทิศทางออกยานจนพบกับกลุ่ม Children หลายคนยืนปิดทางเดินอยู่ รอบๆมีซากศพสดๆเกลื่อนกลาดราวกับเมื่อนาทีก่อนเพิ่งเกิดการต่อสู้ขึ้นที่นี่ ในตอนแรกมานาห์คิดว่าศัตรูแต่เมื่อหนึ่งในกลุ่มนั้นสังเกตเห็นเธอแล้วตะโกนเรียก

"มานาห์มาแล้ว!" เด็กหญิงผู้มีหางเป็นเงือกโบกมือเรียก เธอคือน้องสาวของ #000000 นั่นเอง บัดนี้ขาที่เป็นปลาของเธอกลับเป็นสองขาของมนุษย์ตามปกติแล้ว เงือกสาววิ่งเข้ามาหาเธอและใช้พลังรักษาบาดแผลให้

"นี่มันเกิดอะไรขึ้น" มานาห์งุนงงถึงขีดสุด เงือกสาวพยักเพยิดให้เด็กหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาหามานาห์

"ข้าจะถ่ายทอดเฟตุการณ์ให้เอง" เขาใช้นิ้วแตะหน้าผากของมานาห์

พลันภาพมากมายหลั่งใหล้เข้ามาให้หัวของเธอ เป็นภาพของเงือกสาวที่ขากลายเป็นดังเดิมด้วยกำลังใจของตัวเอง และใช้พลังคืนสติให้ Children คนอื่นๆ โดยมี #000000 คอยปกปิดความลับนี้ด้วยหมอกลวงตาของเขา เป็นความสามารถเสริมที่แม้แต่ Wendel ยังไม่รู้ ทำให้หลอกว่าตัวเองถูกจับไปทดลองได้โดยส่งตัวตายตัวแทนคนอื่นไปแทน จากนั้นก็รวมตัวกันวางแผนส่ง Children ออกไปหลอกให้มานาห์จับตัวไปทำให้มีคนมาพอจะบุกเข้ามาในยาน
เนื่องจาก #000000 ต้องการใช้พวกมานาห์ดึงความสนใจจาก Wendel โดยที่พวกตนแบ่งกองกำลังออกไปทำลายยานอย่างเงียบเชียบ จากแผนบริเวณที่มานาห์อยู่คือจุดรวมตัวของผู้ที่ต้องการหลบหนีและผู้บาดเจ็บ อีกจุดคือหน้าห้องของ Wendel !

"ข้าต้องไปแล้ว" มานาห์ได้รู้ความจริง ก็รีบวิ่งออกไปโดยไม่ฟังคำทัดทานจากเงือกสาวเลย ทำไมเจ้านั่นชอบกันตัวเธอให้ห่างจากจุดต่อสู้ทุกครั้งทั้งๆที่เธอไม่ได้อ่อนแอ!
C
Spoiler for Hiden:
การต่อสู้ระหว่างเหล่าสัตว์ประหลาดและมานาห์ดำเนินต่อไปอย่างยาวนาน
แม้จะระบุเอาไว้อย่างนั้น แต่ความจริงแล้วการต่อสู้ไม่ได้ดำเนินไปอย่างสูสี หากแต่มานาห์เสียเปรียบไปทีละเล็กทีละน้อย
แม้ว่ามานาห์จะพัฒนาความสามารถจนสูงเกิดกว่าที่เวนเดลคาดการณ์ไว้มาก แต่สุดท้ายแล้วเมื่อเจอศัตรูที่มากไปด้วยทั้งปริมาณและคุณภาพ ลำพังแค่การยื้อเอาไว้ก็ลำบากจะแย่อยู่แล้ว
มานาห์ใช้พลังของเธอจู่โจมศัตรูครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เมื่อศัตรูของเธอล้มไปหนึ่งตัว ก็จะมีอีกตัวมาเสริมกำลังทันที และเมื่อล้มอีกตัวสำเร็จ ก็จะมีสัตว์ประหลาดอีกตัวมาเสริมทันที ต่อให้มานาห์โค่นได้ครบทุกตัวแล้ว ตัวที่ล้มไปเมื่อตอนแรกสุดก็จะฟื้นฟูและลุกกลับมาปะทะกับเธอต่อ แล้วก็จะเข้าวงจรเดิม

วงจรอุบาทว์แห่งการต่อสู้ดำเนินต่อไปครั้งแล้วครั้งเล่า

พลังกายและพลังใจของมานาห์ถูกบั่นทอนต่อไป ต่อไป แล้วก็ต่อไป จริงอยู่ที่มานาห์โค่นศัตรูเร็วขึ้นทุกครั้งเพราะศัตรูที่สู้มันก็เป็นตัวเดิม ๆ แต่การทำอะไรซ้ำไปซ้ำมาแล้วยังไม่สำเร็จนั้นทำลายกำลังใจของเธออย่างแรงกล้า

แต่ถ้าไม่สู้...โลกจะถูกเวนเดลยึดครอง เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวนี้เท่านั้นที่คอยฉุดไม่ให้เธอสูญสิ้นความหวัง
แม้ว่าเธอจะต้องเผชิญหน้ากับอดีตมิตรด้วยความยากลำบากก็ตาม...

จิตใจของมานาห์จึงไม่ยอมแพ้โดยเด็ดขาด แม้ว่าจะถูกบั่นทอนเพียงใดก็ตาม

ตุบ

ร่างของมานาห์ทรุดลงในขณะที่จะโจมตีด้วยท่าต่อไป
เหตุผลนั้นง่ายนิดเดียว ถึงแม้ว่าจิตใจของมานาห์จะไม่ยอมแพ้ แต่ร่างกายของเธอรับไม่ไหวแล้ว
หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปแล้วละก็ เธอจะต้องถูกฆ่าแน่...

เว้นแต่ว่า...จะมีใครสักคนมาช่วย

จู่ ๆ ห่าแท่งน้ำแข็งก็พุ่งตรงมาลงเสียบเหล่าสัตว์ประหลาดตัวแล้วตัวเล่า เหล่าอดีต Children of Revolution ถูกพิฆาตภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว เหตุการณ์นั้นไม่เพียงแต่สร้างความประหลาดใจให้มานาห์ หากแต่เวนเดลเองก็ไม่ได้คาดคิดเลยแม้แต่น้อย

ใครกัน...? มานาห์เงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะพบว่าบุคคลที่มาช่วยเธอนั้น...

มีรูปร่างเหมือนครึ่งคนครึ่งปลา...เช่นเดียวกับน้องสาวของ #000000



"ว่ากันว่าความรักทำให้คนมีพลังนะ..."

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #23 on: March 01, 2016, 12:34:29 AM »
ผลโหวต

A (Chao) 2+2=4
B (Lu) 2+1=3
C (Dara) 1+1=2

A (Chao) ได้แต้ม

ถัดไปเป็นรอบสุดท้ายแล้ว ส่งได้ที่ chao ภายใน 2 มีค 59 00.30
ปล. ฉากสุดท้าย จัดจ์ส่งงานและโหวตได้ด้วย
« Last Edit: March 01, 2016, 01:43:11 AM by Game Master »

Offline Chao

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #24 on: March 03, 2016, 10:19:55 PM »
 
ตอน 10

A
Spoiler for Hiden:

 เมื่อเลือดของมานาห์หลั่งไหลเข้าไปในปากของมัน #000000ในร่างอสูรร้ายก็หยุดชะงักไปพักหนึ่ง
เด็กหณิงรอคอยด้วยความหวัง เลือดที่หลั่งไหลทำให้เรี่ยวแรงของเธอเสื่อมถอย
ทว่า เมื่ออสูรร้ายเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง หนวดของมันกลับพุ่งเข้ามารัดร่างของมีนาห์และเด็กคนอื่นๆไว้แน่น
เด็กหญิงพยายามดิ้นรน ก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก เพระสูญเสียพลังไปมาก
อสูรร้ายเริ่มทุบทำลายบริเวณรอบๆจนยานเกิดรูรั่ว
"ฆ่าพวกมันซะ" เวนเดลสั่งการ ทันใดนั้น อสูรร้ายกรีดร้องและอาละวาดอย่างบ้าคลั่ง
ร่างของมานาห์และเด็กคนอื่นๆถูกมันเหวี่ยงลอยละลิ่วออกจากยานโนอาห์
ภาพต่อมาที่เด็กสาวเห็นคือ ร่างของอสูรร้ายที่เบ่งพองขึ้นหลายเท่าและส่องประกายแสงสีแดงและสีเหลืองทอง
จากนั้นคลื่นจากแรงระเบิดอย่างรุนแรงที่เกิดขี้นตามมาก็ส่งมานาห์และพวกปลิวไปไกลกว่าเดิม
เด็กสาวมั่นใจว่ามองเห็นหมอกสีดำเรียงเป็นคำว่า "ลาก่อน" อยู่ท่ามกลางควันไฟและเศษซากจากการระเบิด
ที่ทำให้ทุกสิ่งในบริเวณนั้นแหลกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ในที่สุดยุคสมัยอันมืดมิดของเวนเดลก็จบลง
มานาห์วิ่งเข้าไปที่ใจกลางของแรงระเบิดด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่
เธอภาวนาต่อทวยเทพทั้งปวง ขอให้หมอกควันสีดำที่ลอยอย่างอ้อยอิ่ง ณ ที่แห่งนั้น รวมร่างกลับมาเป็นมนุย์อีกครั้ง
และครั้งนี้เธอจะขออยู่กับเขาตลอดไป ไม่มีสิ่งใดจะมาพรากพวกเขาออกจากกันได้อีก
อวสาน


B
Spoiler for Hiden:

ในที่สุด #000000 ก็ถูก "ปลดปล่อย"

ร่างของสัตว์ประหลาดยักษ์ค่อย ๆ สลายไปและกลายเป็นเด็กหนุ่มธรรมดา พร้อม ๆ กันนั้นเอง สัตว์ประหลาดที่เคยถูก #000000 กลืนกินก็กลับกลายเป็นเด็ก ๆ ที่หลุดพ้นจากการควบคุมของเวนเดล หนำซ้ำ พรรคพวกของมานาห์ที่ถูกควบคุมก็ถูกปลดปล่อยด้วย เพราะไม่มีสัตว์ประหลาดอีกต่อไปแล้ว

ทว่า

ร่างของมานาห์กลับทรุดลงไปนอนอยู่ในสภาพกึ่งเป็นกึ่งตาย เพร่าะเธอใช้พลังมากเกินไป

"..."

เด็ก ๆ ทุกคนมองร่างที่จะดับสิ้นชีวิตของมานาห์ไปอย่างเงียบเชียบ
มานาห์ผู้ปกป้อง มานาห์ผู้ปฏิวัติ มานาห์ผู้ลุกขึ้นต่อสู้ มานาห์ผู้ไม่ยอมสูญเสียตัวตนของตัวเอง
วิธีเดียวที่จะตอบแทนในสิ่งที่เธอทำนั้น เด็ก ๆ ทุกคนรู้ดี

ว่าแล้ว
เด็ก ๆ ทุกคนก็ใช้ทุกสิ่งที่มี ถล่มยานของเวนเดลให้สิ้นซาก




ในที่สุดเวนเดลก็ถูกกำจัด
ไม่มีผู้ปกครองโลกจากภายนอกอีกต่อไป
ทุก ๆ รัฐกลายเป็นอิสระ เด็ก ๆ ทุกคนที่เคยถูกเวนเดลปกครองก็ได้บ้านใหม่ที่ดี

เว้นเสียแต่ว่า...ยังมีปัญหาที่ติดค้างอยู่ประการหนึ่ง...

มานาห์กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

 เด็ก ๆ ทุกคนที่ถูกมานาห์ปลดปล่อยตัดสินใจรวมกลุ่มกันเดินทางเพื่อหาวิธีรักษามานาห์ ไม่ว่าวิธีนั้นจะเป็นยาหรือวิชาใด ๆ ก็ตาม โดยที่มีเด็กหนุ่มผมดำเป็นหัวหน้า

และนี่แหละ คือ
ปฐมบทแห่งการปจญภัย




C


Spoiler for Hiden:

อสูรกายยักษ์ได้รับเลือดของเธอพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง มันนิ่งค้างมึนงงสะบัดระยางค์ไปมาอย่างคลุ้มคลั่งสับสน มันทำลายห้องสีขาวนี้จนถล่มเสียหาย เปิดโอกาสให้ผู้บุรุกล่าถอยไป

"บ้าจริง เลือดของมานาห์ไม่ได้ผลรึเนี่ย แต่อสูรนั่นคลั่งต่อก็ดีจะได้ทำลายที่นี่ไปเสียให้พินาศสิ้น" Forest Green มองอสูรคลั่งสลับกับร่างไร้วิญญาณของมานาห์ด้วยความรู้สึกผิดหวัง ตอนนี้พวกเขาทำอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกจากหนีไปตั้งหลัก ทุกคนจึงตัดสินใจหนีออกจากที่นี่

.
..
ในห้วงคำนึงที่ทุกสิ่งอย่างถูกย้อมให้เป็นสีแดง มานาห์ลืมตาตื่นขึ้นบนทะเลเลือดอันว่างเปล่า เธอลุกขึ้นยืนเหนือผืนน้ำนั่นซึ่งน่าแปลกที่เท้ากลับสัมผัสราวกับว่ามันไม่ใช่ของเหลว เมื่อเงยหน้าก็เห็นสายระโยงระยางของเส้นเลือดเต้นตุบๆพันเกี่ยวทั่ว ในกลางของความน่าขยะแขยงนั้นมีเด็กหนุ่มที่เธอคุ้นหน้านอนหลับอยู่โดยที่ทั้งร่างจมไปในเพดานเครื่องในนั่น

"#000000" มานาห์เอ่ยเรียกให้เขาได้สติ ซึ่งได้ผล #000000เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ ท่าทางสะลืมสะลือราวกับอยู่ในห้วงนิทรามาอย่างยาวนาน

"เจ้านี่เอง โง่จริงๆ ข้าอุตส่าห์เปิดโอกาสให้เจ้าหนีแล้วยังจะกลับมาอีก" #000000 ทำเสียงดุ

"ข้าไม่ได้ขอให้เจ้าช่วยเสียหน่อย ข้าจะกลับมาสานต่อความตั้งใจของตัวเองไว้ต่างหากไม่ใช่กลับมาตอบแทนบุญคุณอะไรอย่าสำคัญตัวเองหน่อยเลย เจ้าเองก็ไม่ได้เรื่อง พลาดท่าเจ้า Wendel ได้ยังไง" มานาห์ว่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้

"เอ้าเหรอ แล้วประโยค คราวนี้ฉันจะปล่อยเธอให้เป็นอิสระเอง นี่ไม่ได้พูดกับข้าสินะ" #000000 เอ่ยด้วยสีหน้าเหนือกว่า มานาห์ทำท่าไม่พอใจตีขรึมจริงจังเข้าเรื่อง

"ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาฟังเราล้อเลียนข้านะ เรามาทำเรื่องนี้ให้จบๆกันไปดีกว่า ด้วยพลังของเจ้ากับข้าต้องทำได้แน่ๆ" มานาห์พูด ซึ่งเด็กหนุ่มพยักหน้ารับ เขาสะบัดสายระยางค์ให้พ้นตัวและลอยลงมาช้าๆ จนมายืนอยู่เบื้องหน้าของเธอจากนั้นมือของทั้งคู่ก็ยกมาประสานกัน
..
.

ร่างกายของอสูรกลายเป็นสีแดงดุจเลือด ระยางค์ของอสูรกายยืดยาวขยายอาณาเขตคล้ายกับต้นไม้แตกกิ่งก้านสาขา มันทะลวงกำแพงจนทะลุราวกับแทงเยื่อกระดาษบางๆ และเลื้อยปกคลุมทั่วทั้งยานพร้อมกับดูดกลืนพลังงานชีวิตทุกอย่างที่มันเคลื่อนผ่าน

Wendel ยืนหน้าซีดหน้ามอนิเตอร์จอยักษ์ด้วยความสั่นกลัว เขาเปิดระบบรักษาการณ์ทุกอย่างภายในยาน อีกทั้งส่ง Children เข้าทำลายแต่มิอาจแตะต้องมันได้ ทว่ายืนกลัวได้ไม่นานก็ต้องหัวเราะด้วยความดีใจ ผลงานทดลองของเขาดีเยี่ยมเหลือเกิน ประสบความสำเร็จกว่าครั้งไหนๆ หากมีเจ้านี้สักหนึ่งกองทัพจักรวาลทั้งหมดคงเป็นของเขาได้ไม่ยาก

Wendel ยืนมองหายนะสุดท้ายอย่างมีความสุข เขาหนีไปไหนไม่ได้เพราะจุดอ่อนของเขาคือยานลำนี้ ยานลำนี้คือพลังงานหล่อเลี้ยงชีวิตของเขา แกนพลังงานของยานคือหัวใจของ Wendel แม้ภายนอกยานจะแข็งแกร่งมาก แต่หากถูกทำลายจากภายในเช่นนี้คงไม่อาจต้านทานได้ แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ความจริงนี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าเขาไม่อาจอยู่ไกลจากยานได้

เสียงหัวเราะสุดท้ายดังสะท้อนภายในยานพร้อมกับระยางค์บีบรัดทำลายยานจนบิดเบี้ยว เครื่องยนต์ระเบิดติดต่อกันหลายครั้งเป็นลูกโซ่ดังสนั่นหวั่นไหว ยานทั้งลำถูกทำลายไปพร้อมความทะเยอะทะยานของชายผู้หนึ่ง พร้อมกับอีกสองชีวิตเล็กๆที่สละตัวเองเพื่อทุกคนบนโลกใบนี้

บรึ้มมมมมมม!!!

Spoiler for Hiden:

หลังจากเหตุการณ์นี้ไม่มีใครรู้ว่า Wendel หายไปไหน เขาอาจจะตายหรือไม่ แต่ทันทีที่ยานถูกทำลาย มนุษย์ที่อยู่ภายใต้อำนาจก็คลายมนต์สะกดออกกลับเป็นดังเดิมด้วยความทรงจำที่สับสน ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องจริงแท้ประการใด อีกสิบปีร้อยปีผู้คนก็ลืมเลือน
"ใช่ เดี๋ยวก็ลืม" เด็กหญิงผู้หนึ่งเอ่ย ก่อนที่เธอจะนึกอะไรได้ "ว่าแต่ เจ้ายังไม่ได้บอกชื่อข้าเลยนะ"
"อ้าว ยังไม่ได้บอกอีกเหรอ" เด็กหนุ่มทำท่าตกใจเกินเหตุ ดูก็รู้ว่ากวนประสาท เมื่อเห็นคู่สนทนาอารมณ์เสียจึงยอมแพ้ "บอกก็ได้ ข้าน่ะชื่อ...."

***จบ***


 

D

 
Spoiler for Hiden:

"แล้วเป็นยังไงต่อคับ  เล่าต่อเร็ว ๆ สิคับ"  เด็กชายกระตุกแขนของชายหนุ่มที่เอื้อมไปหยิบขนมมาเคี้ยวอย่างใจเย็น ๆ  เขาหัวเราะเบา ๆ ที่เห็นเด็กชายแสดงท่าทางกระตือรือร้นที่จะรู้ตอนต่อไป ขณะเด็กหญิงคนน้องทำเป็นวาดรูปเล่นไม่สนใจแต่จริง ๆ แอบเหลือบตามองมาเป็นระยะ  มิหนำซ้ำรูปที่กำลังวาดก็เป็นฉากการต่อสู้ของเหล่า Children เสียด้วย

"จะรีบไปไหน  ให้พ่อพักบ้างสิ  เล่าจนเหนื่อยแล้วนา"  เขาทำเป็นค่อย ๆ เคี้ยวขนมช้า ๆ จนหมดชิ้น จากนั้นก็ยกแก้วชาขึ้นจิบตามระหว่างที่ลูกชายโวยวายส่วนลูกสาวค้อนตาคว่ำ

"เด็ก ๆ ดึกแล้วนะ ได้เวลาแปรงฟันก่อนนอนแล้ว"  หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามา คราวนี้เด็กทั้งคู่ต่างก็โอดครวญขึ้นพร้อมกัน  แต่เมื่อถูกผู้เป็นแม่ถลึงตาดุก็รับคำเสียงอ่อยแล้วชวนกันวิ่งไปห้องน้ำ

"เล่าเรื่องตอนนั้นเหรอคะ" หญิงสาวถามคู่ชีวิตขชองเธอขณะเก็บจานขนม

"อื้อ  สักวันเด็ก ๆ ก็ต้องรู้อยุ่ดี  เล่าให้ฟังไว้เลยดีกว่า" เขาตอบขณะที่ไล้มือไปบนท่อนแขนของเธอมียังคงมีริ้วรอยเส้นสีแดงจาง ๆ พาดผ่านเป็นลวดลายซับซ้อน ทั้งเขาและเธอไม่เคยนึกรังเกียจมัน เพราะร่องรอยเหล่านี้คือเครื่องยืนยันสายสัมพันธ์ของทั้งคู่  เขาไม่เคยลืมว่าวันนั้นเธอยอมสละชีวิตเพื่อเขา และนับตั้งแต่วันนั้น ทั้งคู่ก็ผูกชีวิตรและฝ่าฟันอันตรายร่วมกันมาตลอด  เรื่องของ Wendel เป็นเพียงจุดเรื่มใต้นเท่านั้น

"เร็วจัง 15 ปีแล้วเนอะ กิลท์" มานาห์ละจากการเก็บจานแล้วเอนตัวลงนั่งบนตักของผู้เป็นสามี

"อา  นั่นสิ  ไม่ทันรู้สึกตัวเวลาก็ผ่านไปขนาดนี้แล้ว"  เขารวบเอวภรรยา ซุกหน้าลงกับเรือนผมของเธอ  สัมผัสถึงความอบอุ่นที่เขาต่อสู้จนได้มาและสาบานจะรักษามันไว้  มานาห์หัวเราะคิกเหมือนจั๊กจี๊แต่กลับเอนตัวพิงเขา

"คิก  แล้วตกลงยังไงดีล่ะ กิลท์ เราจะไปเยี่ยมกาลาเทียกับโทนี่เมื่อไหร่ดี"  มานาห์ถาม  กาลาเทีย น้องของกิลท์ที่แต่งงานกับโทนี่ หรือที่รู้จักกันในชื่อForest Green เพิ่งคลอดลูกและส่งข่าวมาให้ครอบครัวของพี่ชายทราบเมื่อกลางวันนี้เอง

"น่าจะอาทิตย์หน้านะ   ไหน ๆก็ต้องยืมเรือแล้ว แจ้งแล้วชวน  Children คนอื่น ๆ ไปเยี่ยมด้วยกันเลยก็ดีเหมือนกัน ถือเป็นการเลี้ยงรุ่นไปในตัว ทุกคนคงอยากเจอเธอด้วยกับลูก ๆ ด้วย ไม่ได้เจอกันมานานแล้วนี่"  กิลท์นึกถึงครั้งสุดท้ายที่ Children รวมตัวกัน  นั่นเป้นช่วง 2 ปีก่อน  ตอนที่มังกรโบราณตัวหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วเริ่มคลั่ง  นั่นเป้นการรวมตัวครั้งใหญ่ของ Children ที่สาบานกันว่าจะใช้พลังของตนปกป้องสันติสุขของโลก  หลังจบเหตุการณ์ครั้งนั้น โทนี่และกาลาเทียก็แต่งงานกัน

"ก็ดีนะ อย่าลืมชวนพี่มาซีโอล่ะ เขาต้องอยากไปด้วยแน่ ๆ "  มานาห์พูดถึงพี่ชายของเธอ ผู้กล้าของหมู่บ้าน  หลังจัดการกับWendel ได้  พวกของมานาห์เจอเขาถูกขังลืมอยู่ในคุกบนยานจึงช่วยออกมาได้ทันก่อนที่ยานจะตก  หลังจากนั้นมาซีโอเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการช่วยเหลือเหล่า Children ปรับและแฝงตัวอยู่ในหมู่มนุษย์ธรรมดา  สุดท้ายแล้วเขาได้แต่งงานกับ Chun  The Sand Yellow

"ได้สิ ว่าแต่คืนนี้..."กิลท์ยิ้มกรุ้มกริ่มจ้องตามานาห์ นั่นทำให้เธอถึงกับหน้าแดง 

"เธอช่วยเล่าตอนจบของเรื่อง Wendel ให้ลูก ๆ ฟังด้วยนะ งานวันนี้เหนื่อยมากเลย ขอนอนก่อนล่ะ" กิลท์พูดหน้าตาเฉยจนมานาห์อ้าปากค้าง แต่ยังไม่ทันโต้ตอบอะไร เด็กๆที่แปรงฟันเสร็จแล้วก็วิ่งเข้ามาในห้องรบเร้าขอฟังตอนจบของนิทาน  มานาห์รู้ตัวอีกทีกิลท์ก็เดินตัวปลิวเข้าห้องนอนไปแล้ว

"ตาบ้า ตาคนชอบกวนประสาท"มานาห์พึมพำยิ้ม ๆ  แล้วหันไปสาละวนกับการเตรียมส่งลูก ๆ เข้านอนและเล่าตอนจบของนิทาน

"เอาล่ะ คราวนี้ฟังแม่เล่านะ" 
 
       


« Last Edit: March 03, 2016, 10:21:36 PM by Chao »

Offline Chao

Re: [Role Fight!] ปฐมบทแห่งการผจญภัย
« Reply #25 on: March 04, 2016, 03:23:00 PM »
ผลโหวต

A (Baron) 2 = 2
B (Dara) 1+2 = 3
C (Lu) 1+2+1 = 4
D (Chao) 2 +1= 3

C (Lu) ได้แต้ม

ลำดับผู้เล่น   / คะแนน (แต้ม)

 1st ลู่         5 คะแนน (29 แต้ม)
2nd chao   3 คะแนน (27 แต้ม)
3rd บารอน   3 คะแนน (20 แต้ม)
4th ดารา     0 คะแนน (18 แต้ม)