.
.
.
“รุ่นพี่คะ ;; จะไปไหนเหรอ”
เอลวาเดินตามโยเซฟที่แยกกลุ่มออกมาหลังจากเขาใช้กุ้งเผาฟาดฮันเซลจนหน้ายุบเพราะแซวเรื่องเอลวา
"...." ชายหนุ่มไม่ตอบแต่นั่งลงที่พื้นบนหาดแทน ยกมือตบพื้นข้างๆให้เอลวานั่งลงข้างๆ
เด็กสาวกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะนั่งลงตามซื่อๆ
"ในที่สุดก็ได้อยู่ตามลำพัง"
โยเซฟว่าเสียงเรียบจนเอลวาก็เดาอารมณ์ของเขาไม่ถูก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดนี้ สีหน้าเด็กสาวขึ้นสีแดงระเรื่อ
บ่งบอกว่าในตอนนี้เธอพอจะรู้แล้วว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอ ....
.
.
.
"ร..รุ่นพี่คะ คือว่า.."เสียงของเอลวาเอ่ยตะกุกตะกัก หัวใจเต้นแรง ในหัวเริ่มหมุนติ้วพยายามนึกถึงคำพูดต่างๆที่ซ้อมมา
เธอถูกพวกรุ่นพี่ฮันเซลแนะนำว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะบอกว่ารู้สึกทั้งหมดออกไป..
เด็กหญิงในตอนนี้ย่างเข้าวัย 17 ปี เอลวาที่โตขึ้นเป็นสาวแรกแย้ม
ความรู้สึกที่เคยสับสนก่อนหน้านี้ได้หายไป เธอเริ่มเข้าใจถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อรุ่นพี่คนสำคัญเข้าแล้ว...
คราวนี้ล่ะ เธอต้องรวบรวมความกล้าบอกเขาออกไปให้ได้ !
โยเซฟนิ่งเงียบเหมือนที่เคย คล้ายกับรอให้เธอเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง
แน่นอนล่ะว่าเขารู้แต่แค่แกล้งทำเป็นไม่รู้..."....(,//A///, ;;;" เอลวามีท่าทางเลิ่กลั่กอยู่นาน จนในที่สุดก็เอ่ยประโยคนั้นออกไป...
"คือ... คือว่า อ้ะ นั่นปูเสฉวน !!?"
เอลวาแทบจะเอาหัวโขกกับพื้นทราย เศร้าใจกับความเขินอายจนประหม่าของตัวเอง
เป็นโยเซฟที่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อนอกจากปรากฏรอยยิ้มบางผุดขึ้นมาบนใบหน้า หันมองออกไปยังทะเลอีกฟาก
ความเงียบโรยตัวเข้ามาทั้งคู่ ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของพวกรุ่นพี่คนอื่นๆและอลิซ่าจากเบื้องหลัง
จนเอลวาหันไปมองและยิ้มออกมาหน่อยๆ
"ฉันดีใจที่เรากลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง"
"เพราะปาฏิหาริย์ที่เหนือปาฏิหาริย์.." โยเซฟเอ่ยต่อ
"เรื่องของรุ่นพี่ฮันเซลกับรุ่นพี่อันโตนิโอ้ก็เพราะแบบนั้นเหรอคะ ?” เด็กสาวถาม
นั่นเป็นเรื่องที่เธอสงสัย เอลวายอมรับว่าทั้งดีใจและตกใจที่พวกเขากลับมาราวกับการเสียชีวิตของทั้งคู่เป็นเรื่องโกหก
“ใช่.. เพราะเธอพวกเขาถึงกลับมา เธอทำสำเร็จเพราะเชื่อในปาฏิหาริย์”
"มะ ไม่หรอกค่ะ.. เพราะทุกคนฉันถึงได้เชื่อแบบนั้น" เอลวาหัวใจพองโต เธอหมายความว่าแบบนั้นจริงๆ
หวนนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น นับจากที่เธอเรียนจบก็ผ่านมาสามปีแล้ว
'ขอให้เชื่อในปาฏิหารย์ ว่ามันมีอยู่จริง'หลังจากเรียนจบเอลวาก็พ้นสภาพของนักเรียน Grande Chronicle
เธอกลับไปยังสถานเลี้ยงเด็กสักพักเพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆที่พบเจอให้ผู้ดูแลฟัง อุปสรรคต่างๆที่เธอก็ผ่านมันมาได้ มันช่างน่าประหลาดสำหรับผู้ดูแล
‘พ่อเชื่อว่าลูกทำได้’
รูกัล อดีตพ่อค้าข่าวจากต่างแดนเอ่ยกับเด็กสาวผู้เป็นเหมือนกับลูกแท้ๆของเขา
หลังจากนั้นเอลวาตัดสินใจเรียนต่อที่เดียวกับโยเซฟและอลิซ่า เธอได้รับอนุญาติเป็นพิเศษให้ต่อมหาวิทยาลัยได้ด้วยวัยเพียง 16 ปี
และเช่นเดียวกับเด็กสาวคนอื่นๆ เอลวายังไม่รู้อนาคตที่แน่ชัดของตัวเองว่าเดินไปในเส้นทางไหน
แต่ทว่าความฝันของเธอยังคงเหมือนเดิม คือการช่วยเหลือและทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นๆ
เธอได้เรียนรู้โลกภายนอกมากขึ้น และได้รับคำแนะนำและการสนับสนุนจากทุกคนจงทำให้ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมรอบข้างได้อย่างรวดเร็ว
บอกได้ว่าตอนนี้เธอมีความสุขดี
แม้โรงเรียนแห่งนั้น ทั้งโครนิเคิลจะยังคงอยู่ก็ตาม...
เธอจะยังคงคิดถึงความทรงจำเหล่านั้นอยู่ และเก็บมันไว้ในใจเสมอ
"...แล้วก็ ...เพราะมีรุ่นพี่โยเซฟคอยช่วยแนะนำด้วย.."
เอลวายกมือขยับหมวก สร้อยร้อยนาฬิกาทรายที่สเตฟาโนมอบให้ขยับกรุ้งกริ้ง
เธอกระชับอ้อมแขนที่กอดกระเป๋าตุ๊กตากระต่ายสีดำใบเดิมไว้ ก่อนจะหันไปยิ้มให้รุ่นพี่คนสำคัญ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะเชื่อปาฏิหาริย์
ตลอดไป.
.
.
รอยยิ้มของเอลวาราวกับปลดสวิตช์บางอย่างของโยเซฟ
ชายหนุ่มค่อยๆโน้มตัวเข้ามาใกล้และเอ่ยประโยคที่เคยถามมาก่อน "ฉันจูบเธอได้ไหม"
“อะ เอ้ะ รุ่นพี่คะ !? ;;; ดะ เดี๋ยวก่อน”
แต่ดูเหมือนคราวนี้เขาจะไม่อยากรออีกแล้วล่ะ