หลี่อิงเดินขึ้นเหลา เหมื่อกวาดมองจนทั่ว เขาตัดสินใจเดินไปร่วมโต๊ะกับมหาสมณะไร้คำพูด
"นมัสการไต้ซือ พบกันในที่เช่นนี้นับว่ามีวาสนาแล้ว" หลี่อิงประสานมือคารวะก่อนนั่งลง
"ไต้ซือโปรดชี้แนะ" หลี่อิงจุ่มน้ำชาเขียนลงบนโต๊ะให้มหาสมณะเห็น
- เลือกพูดคุยกับมหาสมณะไร้คำพูด
บุรุษคลุมหน้า
ชงต๊ะเดินเข้าไปและคารวะเพื่อขอร่วมโต๊ะหวังว่าเขาจะไม่ถือสาวรยุทธ์เท่าหางอึ่งของตน
"ข้าชงต๊ะ"
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/Lien2.jpg[/url])
"ผู้คนพลุกพล่านนัก"
"ข้าเองก็ไม่ค่อยชอบเข้าสังคมเสียด้วย"
"แต่ว่าแม่นางท่านนั้นแลดูสง่าเตะตาข้าเหลือเกิน"
หลิวล่างเอ้อโหมว พูดถึง หงสาทองคำ มู่หยงหง นั่นเอง
มันไม่รอช้า รีบเดินเข้าไปหาแล้วกล่าวทักทายนางทัันที
"อาหารนั้นมากมายนัก แต่แล้วทำไมแม่นางถึงรับประทานไปเพียงน้อยนิด"
"หรือว่าอาหารพวกนี้ไม่ถูกปากแม่นางกัน ?"
"อา.. ขออภัยที่เสียมารยาท ข้า หลิวล่างเอ้อโหมว ปีศาจเพนจร"
"ช่างเป็นเกียรติของข้านัก"
- หงสาทองคำ มู่หยงหง
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/AVATARRRR.jpg[/url])
อู๋หมิงเดินเข้าไปคารวะนักพรตหน้าขาวแห่งซัวไซ
"ท่านนักพรต เราพบกันอีกแล้ว"
เซียวจื่อเดินไปโต๊ะที่เก้า
"พี่ชายให้ข้าน้อยได้ร่ำสุราเป็นเพื่อนแทนได้รึไม่ "
- สอบถามหลวงจีน มาที่นี่ด้วยธุระอันใด ทราบหรือไม่ เหตุใดมีชาวยุทธมาชุมนุมกันมากเช่นนี้
- เรียกเสี่ยวเอ้อมาสอบถาม โต๊ะ 6 อยู่ที่ใด เหตุใดไม่มีผู้ใดนั่ง หากมี โต๊ะ 6 อยู่ หลี่อิงลองไปสำรวจดูสักครา
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/AVATARRRR.jpg[/url])
"ย่อมไม่มีปัญหา ว่าแต่ท่านมาที่นี่มีธุระอันใด"
- ตกลง
เกี๊ยวกางร่มคู่ใจแล้วเดินนวยนาดไปที่โต๊ะสี่แล้วนั่งลงอย่างถือวิสาสะ เธอทนไม่ได้ที่เห็นใครมาทาบรัศมีความงาม >:(
- ไปที่โต๊ะสี่
"ท่านกล่าวหนักไปแล้ว ข้าหรือจะกล้าชี้แนะท่าน"
"ข้าเพียงใคร่สงสัยว่ากำลังจะเกิดสิ่งใดขึ้นที่นี่ จอมยุทธมากมายมาชุมนุมกันย่อมไม่ปกติ" ไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร ชงต๊ะเนียนตามน้ำไปเลย มือก็เทชาเติมให้
"ไต้ซือ ท่าทางจะมีเรื่อง ข้าขอตัวสักครู่"
/ สำรวจโต๊ะ 6 จากนั้นถามเสี่ยวเอ้อว่ามือปราบทั้งสองพักที่ใด จากนั้นติดตามไปดู
ย่อมได้ ตกลงตามนี้ พี่ท่าน
- ตกลง
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/Lien2.jpg[/url])
"ขอบคุณน้ำใจแม่นางมาก"
"แต่เห็นทีข้าคงรับไว้ไม่ได้"
"ณ เวลานี้ข้าเองก็ยังว่างอยู่ ไม่ทราบว่าแม่นางมีงาน หรือธุระอันใดพอจะให้ช้าช่วยบ้างไหม ?"
- เกี้ยวต่อ ถามด้วยว่ามีธุระวานให้ช่วยทำไหม ?
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/AVATARRRR.jpg[/url])
"เช่นนั้นรึ แล้วคนที่จะมารับสารลับนี้เป็นศิษย์ท่านหรือผู้ใด"
"อ้อ เช่นนั้นก็ช่างเถอะ" หลี่อิงกลับไปนั่งสนทนากับมหาสมณะไร้คำพูดต่อ
เขียนสอบถามหลวงจีนว่าต้องการเลี้ยงอาหารเจอีก ไม่ทราบว่าอิ่มแล้วหรือไม่
เขียนสอบถามหลวงจีนว่า โต๊ะที่เหลืออีก 7 โต๊ะ รู้จักใครเป็นการส่วนตัวหรือไม่ ทั้ง 7 คนมีพิรุธใดหรือไม่
"พานพบถือว่ามีวาสนา ยุทธภพมากเภทภัยพวกเราสมควรช่วยเหลือกันให้มากไว้ เยี่ยงนี้เถอะ ไต้ซือร่วมเดินทางกับผู้น้อย หากมีอะไรเกิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือกัน"
/หลี่อิงชวนหลวงจีนเข้าตี้
"ดื่มๆ เอิ้ก พี่ท่านข้าว่าท่านเมาแล้วหล้ะ เอิ้ก"
([url]http://baron.wudthipan.com/forum/Themes/default/images/dice_warn.gif[/url]) This dice roll has been tampered with!
Rolled 10d10 : 5, 7, 4, 5, 5, 9, 2, 9, 5, 2, total 53
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/Lien2.jpg[/url])
"แถวนี้มีโจรชุกชุมนัก"
"แม่นางตัวคนเดียว ดูจะอันตรายยิ่ง"
"ถ้าไม่รังเกียจ ข้ายินดีเป็นองครักษณ์ให้แม่นางได้จนกว่าจะถึงจุดหมาย"
- อื่นๆ
- ลองหว่านล้อมด้วยเรื่องโจรชุกชุม แล้วอาสาขอเป็นองครักษณ์ตามไปด้วย
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/AVATARRRR.jpg[/url])
"เช่นนั้นเองรึ"
- ขอติดไว้ก่อน
"ข้าช่างเขลานัก เป็นเช่นนี้เองหรือนี่" (คิดว่ามีแค่ 3 สำนักที่ส่งคนมาเสียอีก)
ว่าแล้วก็ชวนภูติค้างคาวคุยเรื่องวรยุทธ์สูงส่งของเขา ถามว่าเขาเป็นมือดีที่สุดของเจ้าค้างคาวแล้วใช่ไหม
ที่นี่มีใครที่มาส่งสารเป็นประจำบ้าง ดูเหมือนจะมีหน้าใหม่ไม่ใช่น้อย แต่ก็น่าจะมีหน้าเก่า
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/Lien2.jpg[/url])
"ในเมื่อแม่นางต้องการเช่นนั้นข้าก็ไม่อยากขัด"
"เพราะมีแต่เรื่องนี้เท่านั้นที่ข้าชำนาญที่สุด"
"หึหึหึหึึหึ"
หลิวล่างเอ้อโหมว ตรงปรีเข้าหา ถังอั้งอั้ง ทันที พร้อมกับขอท้าประลอง
"ข้าได้ยินชื่อเสียงของแม่นางมาก็มาก"
"กรุณาเป็นคู่มือให้ข้าได้แสดงฝีมือสักนิดเถิด"
- ไปท้าสู้กับแมงป่องแดง
เสี่ยวจูเดินเข้ามาในร้าน เห็นคนเยอะแยะคึกคักก็รู้สึกตื่นเต้น นัยน์ตาเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งท่าทางธรรมดาที่สุดในหมู่มวลคนประหลาดจึงเดินเข้าไปทัก
-ชายวัยกลางคนบนโต๊ะที่เจ็ด
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/Lien2.jpg[/url])
"ขอบคุณที่รับข้าไว้พิจารณา"
"ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ"
- รับมือ
4
([url]http://i240.photobucket.com/albums/ff261/KingTUMMAN/AVATARRRR.jpg[/url])
"ช้าก่อนท่านนักพรต ท่านเข้าใจผิดแล้ว"
- อื่นๆ
- ใช้ต๋วแลกเงิน แลกเงินมาจ่ายค่าอาหาร
"ข้าชงต๊ะเลื่อมใสนัก"
ชงต๊ะชื่นชมในวรยุทธ์ของภูติค้างคาวแล้วจึงถามว่าประสงค์จะดื่มสุราด้วยกันไหม
ชวนคุยเรื่องต่างๆ ทั่วไประหว่างนี้เพื่อดูว่าภูติค้างคาวมีอากัปกริยาสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษไหม
ชงต๊ะตกใจแทบพลัดตกจากเก้าอี้ นี่มันเรื่องจริงหรือนี่ "ท่านหมายถึงสำนักใดกันที่อาจหาญ" เขายังแกล้งถามต่อ
"หรือบางทีข้าอาจจะช่วยท่านได้"
ชงต๊ะเห็นว่าภูติค้างคาวหลุดมาแล้วจึงถามและเสนอตัวช่วยงานนี้หวังความดีความชอบ
- อื่นๆ (ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ)
"ตัวข้าไร้ญาติขาดมิตร ข้ามโพ้นทะเลมาจากแดนไกล ความทรงจำยิ่งลางเลือน มีบุญได้ท่านจ้าวสำนักอุปการะอยู่เกือบปีจนพอมีฝีมือ ได้ทำงานสำคัญนี้เพื่อจารึกนามให้ปรากฎบนยุทธภพ"
บอกกล่าวความเท็จว่าตัวเองเป็นแค่จอมยุทธไร้ชื่อเสียงเรียงนาม จึงมิแปลกนักที่จะไม่มีผู้ใดรู้จัก
แต่ก็พร้อมจะให้ตรวจสอบและช่วยตรวจสอบด้วย โดยอ้างว่าอยากแสดงผลงานเพื่อจ้าวค้างคาว
- พูดพลางสั่งสุราเผื่อภูติค้างคาวจะอดใจไม่ไหว
- ถามต่อว่าได้ข่าวมาอย่างไร หากเป็นแผนลับคงไม่รู้ได้โดยง่าย คงมีสายใช่ไหม
- หากจ้าวค้างคาวถูกสังหารแต่วังยังอยู่ ใครจะขึ้นเป็นรุ่นที่สอง ภูติค้างคาวใช่ไหม สังเกตว่าภูติค้างคาวมีทีท่าหื่นกระหายในตำแหน่งไหม
ข้าพเจ้า หวังเทียน เป็นหัวหน้ามือปราบซังไฮ้ ท่านที่นับถือไม่ทราบเป็นยอดคนสารทิศใด?
นิทานของท่านฟังดูสนุกสนานน่าสนใจยิ่ง ทว่าสถานที่นี้เต็มไปด้วยสตรีและมือปราบ
ท่านเล่าเรื่องเช่นนี้ออกจะไม่ถูกกาละเทศะอยู่บ้าง นี่เป็นน้ำใจเล็กน้อย เพียงพอให้ท่านดื่มกินตลอดทั้งเดือน
ไม่จำเป็นต้องเล่านิทานแลกเงินอีก ได้โปรดรับไว้เถอะ
มือปราบหวังล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบเงินแท่งขาวเปล่งปลั่งห่อหนึ่งมอบให้หลี่อิง
- รับเอาไว้ (เงินแท่งx5) แล้วรีบจากไป
- อื่นๆ
โบตั๋นจรุง ประสานมือคารวะให้เกี๊ยว ก่อนจะแย้มยิ้มกล่าวด้วยเสียงอันไพเราะ
"ขออภัยท่านที่นับถือ เก้าอี้ตัวนี้เป็นของหัวหน้ามือปราบหวัง ท่านโปรดไปนั่งที่โต๊ะอื่นเถิด"
- อื่นๆ
เกี๊ยวสั่งให้เฒ่าแก่ไปยกเก้าอี้มาตัวหนึ่งแล้วนั่งลงที่โต๊ะโบตั๋นจรุง
"เท่านี้ก็มิเป็นปัญหาแล้วนะคะ" หล่อนกลั๊วหัวเราะด้วยน้ำเสียงกังวาน เธอสำรวจใบหน้าและอาภรณ์ของโบตั๋นจรุงอย่างละเอียดด้วยอารมณ์ชื่นชมแกมหมั่นไส้ที่คนตรงหน้าสวยและ(ดูเหมือน -- แค่ตอนนี้ล่ะนะ)รวยกว่า...
ทันใดนั้นเกี๊ยวก็ปั้นสีหน้าเคร่งจนคนตรงหน้าสะดุ้งด้วยความตกใจ เกี๊ยวยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้โบตั๋นจรุงก่อนจะกระซิบถ้อยคำบางอย่างโดยที่ฝีปากแทบไม่ขยับเลย
...ราวกับถ้อยคำเหล่านั้นเป็นความลับสำคัญที่ไม่อยากให้ใครรู้
"มิทราบว่าแม่นางมีเคล็ดลับในการบำรุงผิวพรรณเยี่ยงไร ดิฉันใคร่รู้เสียจริง"
...แล้วโต๊ะสี่ก็แปรสภาพเป็นเวทีเสวนาความงาม
แสบนัก ทุกสำนักต่างขายข่าวของอีกฝ่าย แบบนี้ก็ถูกรู้หมดแล้วน่ะสิ
(ดื่มนี่คือดื่มทั้งคู่มั้ยอะ ถ้าดื่มคนเดียวเมาคนเดียวไม่ดื่มนะ)
"ข้ามิใช่ยอดคนอันใด แต่เห็นท่านนั่งเหงาอยู่ผู้เดียวข้าเลยเข้ามาทักทาย ข้ามีนามว่าเสี่ยวจู ออกเดินทางท่องยุทธจักรเพื่อชมความงามของธรรมชาติ และทิวทัศน์ทั่วทิศ แล้วท่านมีนามว่าอันใดหรือ" เสี่ยวจูทักทายยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรเพื่อลดความหวาดระัแวงของชายตรงหน้า ในเมื่อเธอเข้ามาทักโดยไม่ได้คิดร้ายอันใด จักมีสิ่งใดต้องกลัวระแวง
- อื่นๆ
หลี่อิงประสานมือคารวะตอบแล้วกล่าว
" ข้าหลี่อิงเป็นเพียงหมอดูเร่ร่อน บางครั้งเล่านิทานแฝงความลับของฟ้า หวังเพียงว่าผู้รับฟังได้สติพินิจถึงการกระทำของตนว่าฝืนจารีตฟ้า ผิดประเพณีชนหรือไม่ เงินจำนวนนี้ข้ามิกล้ารับ ขอแค่ท่านมือปราบได้ข้อคิดจากนิทานของข้า นับแต่นี้ดูแลชาวประชาให้อยู่ในศีลธรรม ผู้ใดกระทำผิดก็ขอให้เลิกเสีย เยี่ยงนั้นแผ่นดินย่อมเป็นสุข มิมีผู้ใดเดือดร้อน ไม่มีผู้ใดถูกไล่เข่นข้า เยี่ยงนั้นข้าย่อมยินดีแล้ว นิทานเยี่ยงนี้ย่อมไม่ต้องเล่าอีก" ฟังดูเป็นคำกล่าวถ่อมตัวทั่วไป แต่แฝงความนัยว่า หากมือปราบเลิกประพฤติผิด และยุติการไล่ล่าสองมุสิก หลี่อิงย่อมไม่เปิดเผยความลับของเขาออกไป
- จ่ายไป
ถามภูติค้างคาวด้วยว่าต้องการซื้อข่าวจากตนไหม จะให้ราคาเท่าไหร่ แบบไหน (ขอรายละเอียดการซื้อข่าว)
"วาจามีเพียงเท่านี้ ท่านมือปราบคงมีธุระ เช่นนั้นก็เชิญเถอะ"
ร่ำลา แอบถามสองมุสิก (ที่ตอนนั้นยังไม่ตาย) ว่ายัยโบตั๋นนี่ใช่ภริยาเจ้าเมืองท่ทั้งคู่เห็นไหม ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป ถ้าใช่ก็รีบพริ้วกายสะกดรอยตาม เป้าหมายคือหาหลักฐานแล้วเอาไปเล่าให้เจ้าเมืองฟัง
- กิน เทิร์นหน้าได้โบนัส +1HP +1SP
"ท่านก็ชมข้าเกินไป ข้าเป็นเพียงผู้น้อยมิอาจเทียบท่านผู้มากประสบการณ์ได้" เสี่ยวจูเขิน และร่วมรับประทานอาหารกับต๊กโกวเซียะ
"อาหารที่ท่านเลือกสั่งมาล้วนเป็นอาหารกินแล้วบำรุงกำลัง แสดงว่ามีความรู้ด้านอาหารไม่น้อยเลย" เสี่ยวจูกินอย่างเอร็ดอร่อย :)