* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [บุกวังค้างคาว] บทที่ 1 นางโจรธัมมะ ซินเจียยู่อี่  (Read 11531 times)

0 Members and 14 Guests are viewing this topic.


วิกาลยามค่ำ
เมืองท่าขนาดใหญ่เฉกเช่นนครซั่งไฮ้แห่งนี้ แม้เป็นยามวิกาลยังมิหลับไหล
ร้านสุรา บ่อนพนัน และหอโคมแดงกลับยิ่งคับคั่งไปด้วยผู้คน นับว่ายังคึกครื้นยิ่งกว่าตอนกลางวันเสียอีก
โรงเตี๊ยมสุขชั่วคราวเป็นโรงเตี๊ยมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นชายทะเลที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุด
ดังนั้นโรงเตี๋ยมสุขชั่วคราวแห่งนี้จึงเป็นโรงเตี๊ยมที่เรียกราคาแพงที่สุดในซั่งไฮ้ เหลาสุราของโรงเตี๊ยมเรียกว่าเหลามองทะเลก็มีราคาสูงสุด
เหลาสุราเช่นนี้ปกติย่อมมีลูกค้าไม่มากนัก ทว่าค่ำคืนนี้กลับผิดแผกไป บนเหลามองทะเล กลับมีผู้คนจับจองจนแทบเต็มทุกโต๊ะ
นอกจากนี้แล้ว แขกเหล่านี้ล้วนแต่ดูมีความเป็นมายิ่งใหญ่ ย่อมเป็นยอดคนผู้คลุกคลีอยู่ในยุทธจักร หาใช่พ่อค้าคหบดีทั่วไปไม่
ในสภาพเช่นนี้อย่าว่าแต่ผู้จัดการร้าน แม้แต่ผู้รับใช้ยังดูออกว่าจะมีเหตุการณ์อันใดเกิดขึ้น แขกทั่วไปยิ่งรีบหลีกลี้หนีหน้าไปโดยเร็ว

นางโจรธรรมมะ ซินเจียยู่อี่กลับเลือกสถานที่เช่นนี้เป็นจุดนัดพบ
ทุกคนล้วนคิดตรงกัน ว่านี่ยังเป็นการนัดพบลับอันใด กลับเอิกเริกจนมิอาจทนทานรับไว้ได้

เมื่อเดินเข้าไปภายในเหลา ผู้รับใช้ที่นั่งอยู่ตรงคอกเสมียนรีบลุกขึ้นมาต้อนรับ
ราวกลับมิได้ถูกขู่ขวัญด้วยบรรยากาศ มันยิ้มแย้มประจบพลางกล่าว


เรียนเชิญนายท่าน วันนี้เหลาของเราคึกคักยิ่ง ไม่ทราบว่านายท่านได้จองโต๊ะเอาไว้หรือไม่ ?
มันทำท่าบอกใบ้ว่าที่แห่งนี้ใกล้จะเกิดเรื่อง หากท่านมิได้เกี่ยวข้องยังคงอย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับปลักน้ำนี้

มองไปภายในร้าน ท่านพบว่ามีแขกเหรื่อดังต่อไปนี้


โต๊ะแรกเป็นบุรุษคลุมหน้า ท่าทางลึกลับยิ่ง มิอาจคาดเดาความเป็นมาของมันได้
คนผู้นั้นยึดครองโต๊ะมุมในสุด เป็นทำเลที่สามารถสังเกตความเคลื่อนไหวของทุกผู้คนในร้าน
มันสั่งเพียงหม่านโถวและน้ำชาป้านหนึ่ง กลับมิได้แตะต้องสิ่งใด


โต๊ะที่สองเป็นชายวัยกลางคนใบหน้าขาวซีด สวมใส่ชุดนักพรตบนหลังสะพายน้ำเต้า
ฟังว่าในยุทธภพมีนักพรตหน้าขาวแห่งซัวไซ มันเป็นบุคคลอมโรคมานาน ต้องคิดค้นวิธีรักษาจนกลายเป็นผู้ชำนาญด้านสมุนไพร
บนโต๊ะของมันมีแต่ขนมเปี๊ยะแห้งแข็งและป้านน้ำชาเย็นชืด


โต๊ะที่สามเป็นดรุณีชุดแดงหน้าตาดุร้าย นางกำลังทุ่มเถียงด่าทอผู้รับใช้ที่ทำน้ำแกงบะหมี่หกบนโต๊ะ
ในมือนางมีเข็มเงินเล่มหนึ่ง กลับคิดซัดใส่ผู้รับใช้ หรือนางคือแมงป่องเพลิง ถังอั้งอั้ง แห่งตระกูลถัง
ที่เชี่ยวชาญวิชาพิษและอาวุธลับ และมีนิสัยรุนแรงจนเป็นที่ร่ำลือในยุทธจักร


โต๊ะที่สี่กลับเป็นหญิงงามล่มเมืองนางหนึ่ง สวมใส่แพรพรรณแพรวพราย ตกแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมล้ำค่า
ในเมืองซั่งไฮ้ย่อมไม่มีผู้ใดงดงามไปกว่า โบตั๋นจรุง แห่งหอกระจายหอมอีกแล้ว บนโต๊ะของนางก็เป็นอาหารและสุราชั้นเลิศ
แต่เก้าอี้ข้างกายนางกลับว่างเปล่า หรือนางมาเพื่อรอคอยคนรัก?


ทว่าอาหารที่เลิศเลอที่สุดกลับตั้งอยู่บนโต๊ะที่ห้า อาหารไม่เพียงโอชารส แต่ยังมีจำนวนมากกว่าสิบชนิด
ไม่ว่า เป๋าฮื้อ หูฉลาม เขากวาง พระกระโดดกำแพง ก็มีทั้งสิ้น และยังมีอาหารที่ไม่ทราบชื่ออีกมากหลาย
อาหารหลายอย่างนี้กลับรับประทานแต่เพียงอย่างละเล็กละน้อยเท่านั้น
มีแต่บุตรีของตระกูลมู่หยงอันรุ่มรวยที่ใช้จ่ายเงินมือเติบปานนี้ นางย่อมเป็น หงสาทองคำ มู่หยงหง เป็นแน่แท้


ชายวัยกลางคนบนโต๊ะที่เจ็ด สะพายกระบี่ที่กลางหลัง รูปร่างหน้าตาการแต่งกายทุกสิ่งทุกอย่างของมันกลับธรรมดาอย่างยิ่ง
คล้ายกับเป็นบุคคลที่พบเห็นได้ทั่วไป สิ่งที่น่าสนใจเพียงอย่างเดียวคือกระบี่ กระบี่กลางหลักของมันกลับสลักคำว่า คุนลุ้นปิงเกี่ยมเอาไว้
กระบี่น้ำแข็งคุนลุ้นเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก หรือมันคือ กระบี่ธรรมดา ต๊กโกวเซี้ย เจ้าสำนักคุนลุ้น


บนโต๊ะที่แปดกลับนั่งด้วยหลวงจีนรูปหนึ่ง เบื้องหน้าท่านมีเพียงอาหารเจที่รับประทานหมดแล้วหนึ่งจานและน้ำชาป้านหนึ่ง
คาดว่าได้รับบิณฑบาตรจากทางร้าน ผู้รับใช้บอกว่าหลวงจีนผู้นี้เมื่อเข้ามาในร้านก็เริ่มนั่งสมาธิ
มิยอมพูดคุยกับผู้ใด หรือท่านคือมหาสมณะไร้คำพูด แห่งวัดเล่งเน้ยยี่ ซึ่งบำเพ็ญเพียรมานาน
มิได้ออกสู่ยุทธจักรมานับสิบปี มิคาดวันนี้ถึงกับรุดมาถึงเมืองซั่งไฮ้


บุรุษโต๊ะที่เก้ากลับตรงกันข้าม นับตั้งแต่เข้ามาในร้านมันยังพูดจาไม่จบสิ้น รั้งตัวผู้รับใช้โชคร้ายคนนึงไว้เป็นเพื่อนร่ำสุรา
ผู้รับใช้บอกว่ามันมีฉายา หน้ากากเหล็กลอยบนน้ำ โล่กลางหลังไร้เทียมทาน กระสุนเดียวปราบพยัคฆ์ ฆ่ามังกร สยบหงสา
นามว่า อาซัส


ไหนเลยมีนางโจรธัมมะอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้? หรือนางปลอมแปลงโฉมเป็นผู้ใด?

ปริศนาฉากที่ 1 : ให้ตอบว่าใครคือนางโจรธัมมะปลอมตัวมา ?
แต่ละสำนักจะได้รับจดหมายลับบ่งบอกถึงวิถีระบุตัวนางโจรธัมมะ
แต่ผู้ส่งสารล้วนถูกลอบทำร้ายกลางทางทำให้สารที่ได้ขาดหาย มีแต่ต้องนำสารของสามสำนักมารวมกันจึงจะสามารถระบุตัวบุคคลได้แน่นอน
มิเช่นนั้นก็ต้องใช้วิธีการคาดเดาแล้ว

ใครตอบถูกได้รับ 3VP

อย่าลืมส่งว่าจะใช้ทักษะหรือไอเทมใดหรือไม่ โจมตีใครหรือไม่ ป้องกันตัวอย่างไร
ทุกอย่างให้ส่งมาเป็น PM ส่งก่อนได้ก่อน ถ้าส่งผิดหรือแก้จะถือว่าเวลาสุดท้ายคือเวลาที่ส่ง

มีเวลาถึง 20.00 น. พรุ่งนี้

RPmode ประจำวันนี้ เล่นที่นี่ ให้เลือกคุยกับใครก็ได้ 1 คน

« Last Edit: November 10, 2012, 04:56:08 PM by Game Master »

 

Offline PaoJu

เสี่ยวจูเดินเข้ามาในร้าน เห็นคนเยอะแยะคึกคักก็รู้สึกตื่นเต้น นัยน์ตาเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งท่าทางธรรมดาที่สุดในหมู่มวลคนประหลาดจึงเดินเข้าไปทัก

-ชายวัยกลางคนบนโต๊ะที่เจ็ด

Offline TUMMAN

  • หนุ่มคิ้ว เฟี้ยวเงาะ เฉาะมะพร้าว
  • *
  • $903Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To TUMMAN
  • สวัสดีขอรับ
    • View Profile

"ขอบคุณที่รับข้าไว้พิจารณา"

"ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ"

- รับมือ
Rolled 1d10 : 4, total 4
Words are cheap .. Blood is costly ...
Live a life of risk .. Leave a trail of bodies ...

Offline อู๋หมิง



"ช้าก่อนท่านนักพรต ท่านเข้าใจผิดแล้ว"

- อื่นๆ
- ใช้ต๋วแลกเงิน แลกเงินมาจ่ายค่าอาหาร

Offline ชงต๊ะ

"ข้าชงต๊ะเลื่อมใสนัก"
ชงต๊ะชื่นชมในวรยุทธ์ของภูติค้างคาวแล้วจึงถามว่าประสงค์จะดื่มสุราด้วยกันไหม

ชวนคุยเรื่องต่างๆ ทั่วไประหว่างนี้เพื่อดูว่าภูติค้างคาวมีอากัปกริยาสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษไหม

เสี่ยวจูเดินเข้ามาในร้าน เห็นคนเยอะแยะคึกคักก็รู้สึกตื่นเต้น นัยน์ตาเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งท่าทางธรรมดาที่สุดในหมู่มวลคนประหลาดจึงเดินเข้าไปทัก

-ชายวัยกลางคนบนโต๊ะที่เจ็ด



ชายวัยกลางคนมองเสี่ยวจูอย่างหวาดระแวง
"โกวเนี้ย เป็นยอดคนสารทิศใด ไฉนจึงมาทักทายเราผู้เฒ่า"


"ขอบคุณที่รับข้าไว้พิจารณา"

"ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ"

- รับมือ
4



ถังอั้งอั้งลงมือไม่ไว้ไมตรี ถึงกับลอบจู่โจมทำร้าย
โชคดีที่มีเหรืยญทองสองเหรียญพุ่งมาจากทิศทางของหงสาทองคำ ปัดป่ายเข็มเงินออกไป
มิเช่นนั้น หลิวหลันเอ้อโหมว ไม่ทันระมัดระวัง แทบจะถูกทำร้ายสาหัส

ได้ยินหงสาทองคำบอกว่า เหรียญทองสองเหรียญนั้นมอบให้เป็นของขวัญพบหน้า
แต่เรื่องเป็นองค์รักษ์นั้นยังมิกล้ารับ วันนี้ขอลา
จากนั้นนางก็ซัดทองแท่งชำระบัญชีค่าอาหาร สองพันตำลึง แล้วพริ้วกายกลับเข้าห้องไป
เนื่องจากไม่ต้องการเผชิญหน้ากับแมงป่องอัคคี


ได้รับ เหรียญทอง(100ตำลึง) x2 เข็มเงิน(อาวุธลับ) x1
จบเควสต์




"ช้าก่อนท่านนักพรต ท่านเข้าใจผิดแล้ว"

- อื่นๆ
- ใช้ต๋วแลกเงิน แลกเงินมาจ่ายค่าอาหาร




ค่าอาหาร 50ตำลึง ได้รับทอนมา 900 ตำลึง
อีก 50 ตำลึง อู๋หมิงบริจาคให้นักพรตหน้าขาว เป็นค่าเดินทาง
นักพรตหน้าขาวยินดียิ่งนัก บอกเขาว่ามีอะไรก็มาขอความช่วยเหลือได้

+1 ความสัมพันธ์กับนักพรตหน้าขาว
เสียตั๋วแลกเงิน ได้รับเงินแท่ง x9
จบเควสต์


"ข้าชงต๊ะเลื่อมใสนัก"
ชงต๊ะชื่นชมในวรยุทธ์ของภูติค้างคาวแล้วจึงถามว่าประสงค์จะดื่มสุราด้วยกันไหม

ชวนคุยเรื่องต่างๆ ทั่วไประหว่างนี้เพื่อดูว่าภูติค้างคาวมีอากัปกริยาสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษไหม




ภูติค้างคาวบอกว่าระหว่างปฏิบัติงานเขามิอาจดื่มสุรา จ้าวค้างคาวบอกว่าเขานั้นปกติก็ปากมากอยู่แล้ว
เมื่อดื่มสุราจะมิอาจเก็บความลับใดๆได้ ตอนนี้เขากำลังสืบเรื่องที่สามสำนักใหญ่วางแผนจะโค่นล้มวังค้างคาว

Offline ชงต๊ะ

ชงต๊ะตกใจแทบพลัดตกจากเก้าอี้ นี่มันเรื่องจริงหรือนี่ "ท่านหมายถึงสำนักใดกันที่อาจหาญ" เขายังแกล้งถามต่อ

"หรือบางทีข้าอาจจะช่วยท่านได้"

ชงต๊ะเห็นว่าภูติค้างคาวหลุดมาแล้วจึงถามและเสนอตัวช่วยงานนี้หวังความดีความชอบ

ชงต๊ะตกใจแทบพลัดตกจากเก้าอี้ นี่มันเรื่องจริงหรือนี่ "ท่านหมายถึงสำนักใดกันที่อาจหาญ" เขายังแกล้งถามต่อ

"หรือบางทีข้าอาจจะช่วยท่านได้"

ชงต๊ะเห็นว่าภูติค้างคาวหลุดมาแล้วจึงถามและเสนอตัวช่วยงานนี้หวังความดีความชอบ



สามสำนักใหญ่ครั้งนี้กลับส่งเบี้ยที่ไร้นามมาเป็นผู้ส่งสาร คาดว่าล้วนแต่เป็นบุคคลที่ปลอมแปลงชื่อแซ่
เรากำลังตรวจสอบบุคคลที่ไม่มีที่มาที่ไปอยู่ ท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น...

- สารภาพทุกอย่าง ขอให้ภูติค้างคาวช่วยเหลือ
- ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
- อื่นๆ

Offline Chao

หลี่อิงยิ้มมุมปากกระซิบบอกมหาสมณะ

"ไต้ซือคอยชมเรื่องสนุกสนาน"

เขาลุกขึ้นยืนแล้วประกาศเสียงดัง

 "วันนี้ฤกษ์งามยามดี ข้าหลี่อิง หมอดูพเนจรและนักเล่านิทาน เดินทางมายังเมืองใหญ่เช่นซั่งไฮ่เป็นครั้งแรก ขอแสดงความทุเรศเล่านิทานสนุกสนานให้พวกท่านได้ฟัง หากไม่ชมชอบต้องขออภัย หากชมชอบโปรดหยิบยื่นค่าเดินทาง"

จากนั้นจึงเล่าเรื่องราวภรรยาเจ้าเมืองคบชู้กับหัวหน้ามือปราบ  ถูกพบเห็นโดยสองมุสิก  เพียงปกปิดชื่อและสถานที่เกิดเหตุไว้  บุกคคลทั่วไปฟังย่อมคิดว่าเป้นนิทานที่เกิดขึ้นในเมืองห่างไกล  มีเพียงผู้อยู่ในเหตุการณ์คบชู้จึงทราบว่าเป็นเรื่องจริง

"สามมุสิก ไม่สิ ตอนนี้นับว่าเพียงสองมุสิกกลับเผชิญชะตากรรมเยี่ยงนี้ นายท่านทั้งหลายว่า โลกนี้ยังมีความยุติธรรมหรือไม่ คนชั่วที่ใช้ตำแหน่งทำเรื่องผิดศีลธรรมเยี่ยงนี้สมควรได้รับการผลกรรมหรือไม่"  หลี่อิงสรุปความ

Offline ชงต๊ะ

- อื่นๆ (ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ)

"ตัวข้าไร้ญาติขาดมิตร ข้ามโพ้นทะเลมาจากแดนไกล ความทรงจำยิ่งลางเลือน มีบุญได้ท่านจ้าวสำนักอุปการะอยู่เกือบปีจนพอมีฝีมือ ได้ทำงานสำคัญนี้เพื่อจารึกนามให้ปรากฎบนยุทธภพ"

บอกกล่าวความเท็จว่าตัวเองเป็นแค่จอมยุทธไร้ชื่อเสียงเรียงนาม จึงมิแปลกนักที่จะไม่มีผู้ใดรู้จัก
แต่ก็พร้อมจะให้ตรวจสอบและช่วยตรวจสอบด้วย โดยอ้างว่าอยากแสดงผลงานเพื่อจ้าวค้างคาว

- พูดพลางสั่งสุราเผื่อภูติค้างคาวจะอดใจไม่ไหว
- ถามต่อว่าได้ข่าวมาอย่างไร หากเป็นแผนลับคงไม่รู้ได้โดยง่าย คงมีสายใช่ไหม
- หากจ้าวค้างคาวถูกสังหารแต่วังยังอยู่ ใครจะขึ้นเป็นรุ่นที่สอง ภูติค้างคาวใช่ไหม สังเกตว่าภูติค้างคาวมีทีท่าหื่นกระหายในตำแหน่งไหม

มือปราบหวังคร่ำหวอดในยุทธจักรย่อมฟังออกว่าหลี่อิงคิดขู่ขวัญคุกคามตน
หรือที่แท้เขาคือจ้าวค้างคาวที่ใช้ความลับเป็นอาวุธ?
มือปราบหวังคิดพลางเดินเข้ามายกมือคารวะ

ข้าพเจ้า หวังเทียน เป็นหัวหน้ามือปราบซังไฮ้ ท่านที่นับถือไม่ทราบเป็นยอดคนสารทิศใด?
นิทานของท่านฟังดูสนุกสนานน่าสนใจยิ่ง ทว่าสถานที่นี้เต็มไปด้วยสตรีและมือปราบ
ท่านเล่าเรื่องเช่นนี้ออกจะไม่ถูกกาละเทศะอยู่บ้าง นี่เป็นน้ำใจเล็กน้อย เพียงพอให้ท่านดื่มกินตลอดทั้งเดือน
ไม่จำเป็นต้องเล่านิทานแลกเงินอีก ได้โปรดรับไว้เถอะ

มือปราบหวังล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบเงินแท่งขาวเปล่งปลั่งห่อหนึ่งมอบให้หลี่อิง

- รับเอาไว้ (เงินแท่งx5) แล้วรีบจากไป
- อื่นๆ

- อื่นๆ (ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ)

"ตัวข้าไร้ญาติขาดมิตร ข้ามโพ้นทะเลมาจากแดนไกล ความทรงจำยิ่งลางเลือน มีบุญได้ท่านจ้าวสำนักอุปการะอยู่เกือบปีจนพอมีฝีมือ ได้ทำงานสำคัญนี้เพื่อจารึกนามให้ปรากฎบนยุทธภพ"

บอกกล่าวความเท็จว่าตัวเองเป็นแค่จอมยุทธไร้ชื่อเสียงเรียงนาม จึงมิแปลกนักที่จะไม่มีผู้ใดรู้จัก
แต่ก็พร้อมจะให้ตรวจสอบและช่วยตรวจสอบด้วย โดยอ้างว่าอยากแสดงผลงานเพื่อจ้าวค้างคาว

- พูดพลางสั่งสุราเผื่อภูติค้างคาวจะอดใจไม่ไหว
- ถามต่อว่าได้ข่าวมาอย่างไร หากเป็นแผนลับคงไม่รู้ได้โดยง่าย คงมีสายใช่ไหม
- หากจ้าวค้างคาวถูกสังหารแต่วังยังอยู่ ใครจะขึ้นเป็นรุ่นที่สอง ภูติค้างคาวใช่ไหม สังเกตว่าภูติค้างคาวมีทีท่าหื่นกระหายในตำแหน่งไหม




มีคนต้องการให้ข่าวพวกเรามากมาย เพราะต้องการปกปิดความลับของตนเองได้แต่ขายความลับของผู้อื่น
ท่านจ้าวเป็นผู้มีพระคุณ ที่ท่านจ้าวให้ข้าทำงานก็เพราะไว้ใจในความจงรักภักดี
หากท่านจ้าวมีอันเป็นไป คงไม่มีผู้ใดทดแทนท่านได้ วังค้างคาวคงจบสิ้นกัน

เสี่ยวเอ้อยกสุรามาไหหนึ่ง จะกินไหม ถ้ากินก็ทอย 10d10 เกิน50เมา

Offline Qiao

  • อิสตรีแห่งแดนอาทิตย์อุทัยผู้งดงามกว่าใครในโลกหล้า โฮ๊ะๆ
  • Novice Lv.5
  • $393Cr.
  • View Inventory
  • Send Money To Qiao
  • You found me beautiful one.
    • View Profile
โบตั๋นจรุง ประสานมือคารวะให้เกี๊ยว ก่อนจะแย้มยิ้มกล่าวด้วยเสียงอันไพเราะ
"ขออภัยท่านที่นับถือ เก้าอี้ตัวนี้เป็นของหัวหน้ามือปราบหวัง ท่านโปรดไปนั่งที่โต๊ะอื่นเถิด"

- อื่นๆ
เกี๊ยวสั่งให้เฒ่าแก่ไปยกเก้าอี้มาตัวหนึ่งแล้วนั่งลงที่โต๊ะโบตั๋นจรุง
"เท่านี้ก็มิเป็นปัญหาแล้วนะคะ" หล่อนกลั๊วหัวเราะด้วยน้ำเสียงกังวาน เธอสำรวจใบหน้าและอาภรณ์ของโบตั๋นจรุงอย่างละเอียดด้วยอารมณ์ชื่นชมแกมหมั่นไส้ที่คนตรงหน้าสวยและ(ดูเหมือน -- แค่ตอนนี้ล่ะนะ)รวยกว่า...

ทันใดนั้นเกี๊ยวก็ปั้นสีหน้าเคร่งจนคนตรงหน้าสะดุ้งด้วยความตกใจ เกี๊ยวยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้โบตั๋นจรุงก่อนจะกระซิบถ้อยคำบางอย่างโดยที่ฝีปากแทบไม่ขยับเลย

...ราวกับถ้อยคำเหล่านั้นเป็นความลับสำคัญที่ไม่อยากให้ใครรู้

.
.
.
.
.
.
.
"มิทราบว่าแม่นางมีเคล็ดลับในการบำรุงผิวพรรณเยี่ยงไร ดิฉันใคร่รู้เสียจริง"
...แล้วโต๊ะสี่ก็แปรสภาพเป็นเวทีเสวนาความงาม
I hate to getting my hands dirty.

Offline ชงต๊ะ

แสบนัก ทุกสำนักต่างขายข่าวของอีกฝ่าย แบบนี้ก็ถูกรู้หมดแล้วน่ะสิ

(ดื่มนี่คือดื่มทั้งคู่มั้ยอะ ถ้าดื่มคนเดียวเมาคนเดียวไม่ดื่มนะ)

Offline PaoJu

"ข้ามิใช่ยอดคนอันใด แต่เห็นท่านนั่งเหงาอยู่ผู้เดียวข้าเลยเข้ามาทักทาย ข้ามีนามว่าเสี่ยวจู ออกเดินทางท่องยุทธจักรเพื่อชมความงามของธรรมชาติ และทิวทัศน์ทั่วทิศ แล้วท่านมีนามว่าอันใดหรือ" เสี่ยวจูทักทายยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรเพื่อลดความหวาดระัแวงของชายตรงหน้า ในเมื่อเธอเข้ามาทักโดยไม่ได้คิดร้ายอันใด จักมีสิ่งใดต้องกลัวระแวง

Offline Chao

Quote
ข้าพเจ้า หวังเทียน เป็นหัวหน้ามือปราบซังไฮ้ ท่านที่นับถือไม่ทราบเป็นยอดคนสารทิศใด?
นิทานของท่านฟังดูสนุกสนานน่าสนใจยิ่ง ทว่าสถานที่นี้เต็มไปด้วยสตรีและมือปราบ
ท่านเล่าเรื่องเช่นนี้ออกจะไม่ถูกกาละเทศะอยู่บ้าง นี่เป็นน้ำใจเล็กน้อย เพียงพอให้ท่านดื่มกินตลอดทั้งเดือน
ไม่จำเป็นต้องเล่านิทานแลกเงินอีก ได้โปรดรับไว้เถอะ

มือปราบหวังล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบเงินแท่งขาวเปล่งปลั่งห่อหนึ่งมอบให้หลี่อิง

- รับเอาไว้ (เงินแท่งx5) แล้วรีบจากไป
- อื่นๆ


- อื่นๆ
หลี่อิงประสานมือคารวะตอบแล้วกล่าว

" ข้าหลี่อิงเป็นเพียงหมอดูเร่ร่อน  บางครั้งเล่านิทานแฝงความลับของฟ้า หวังเพียงว่าผู้รับฟังได้สติพินิจถึงการกระทำของตนว่าฝืนจารีตฟ้า ผิดประเพณีชนหรือไม่  เงินจำนวนนี้ข้ามิกล้ารับ  ขอแค่ท่านมือปราบได้ข้อคิดจากนิทานของข้า นับแต่นี้ดูแลชาวประชาให้อยู่ในศีลธรรม  ผู้ใดกระทำผิดก็ขอให้เลิกเสีย เยี่ยงนั้นแผ่นดินย่อมเป็นสุข มิมีผู้ใดเดือดร้อน ไม่มีผู้ใดถูกไล่เข่นข้า  เยี่ยงนั้นข้าย่อมยินดีแล้ว นิทานเยี่ยงนี้ย่อมไม่ต้องเล่าอีก"   ฟังดูเป็นคำกล่าวถ่อมตัวทั่วไป  แต่แฝงความนัยว่า หากมือปราบเลิกประพฤติผิด  และยุติการไล่ล่าสองมุสิก  หลี่อิงย่อมไม่เปิดเผยความลับของเขาออกไป

โบตั๋นจรุง ประสานมือคารวะให้เกี๊ยว ก่อนจะแย้มยิ้มกล่าวด้วยเสียงอันไพเราะ
"ขออภัยท่านที่นับถือ เก้าอี้ตัวนี้เป็นของหัวหน้ามือปราบหวัง ท่านโปรดไปนั่งที่โต๊ะอื่นเถิด"

- อื่นๆ
เกี๊ยวสั่งให้เฒ่าแก่ไปยกเก้าอี้มาตัวหนึ่งแล้วนั่งลงที่โต๊ะโบตั๋นจรุง
"เท่านี้ก็มิเป็นปัญหาแล้วนะคะ" หล่อนกลั๊วหัวเราะด้วยน้ำเสียงกังวาน เธอสำรวจใบหน้าและอาภรณ์ของโบตั๋นจรุงอย่างละเอียดด้วยอารมณ์ชื่นชมแกมหมั่นไส้ที่คนตรงหน้าสวยและ(ดูเหมือน -- แค่ตอนนี้ล่ะนะ)รวยกว่า...

ทันใดนั้นเกี๊ยวก็ปั้นสีหน้าเคร่งจนคนตรงหน้าสะดุ้งด้วยความตกใจ เกี๊ยวยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้โบตั๋นจรุงก่อนจะกระซิบถ้อยคำบางอย่างโดยที่ฝีปากแทบไม่ขยับเลย

...ราวกับถ้อยคำเหล่านั้นเป็นความลับสำคัญที่ไม่อยากให้ใครรู้

"มิทราบว่าแม่นางมีเคล็ดลับในการบำรุงผิวพรรณเยี่ยงไร ดิฉันใคร่รู้เสียจริง"
...แล้วโต๊ะสี่ก็แปรสภาพเป็นเวทีเสวนาความงาม




ครีมไข่มุกจากเมืองหลวงที่ท่านมือปราบมอบให้ ใช้ได้ดีมาก
หากท่านต้องการ จะมอบให้ทดลองใช้

โบตั๋นจรุงลุกขึ้นควงแขนมือปราบหวัง คล้ายคิดเร่งรัดออกเดินทางแล้ว

- รับไว้ ครีมไข่มุก 2/5 นอกจากบำรุงผิวหน้ายังสามารถสมานแผล (ฟื้นฟู 1HP)
- อื่นๆ

แสบนัก ทุกสำนักต่างขายข่าวของอีกฝ่าย แบบนี้ก็ถูกรู้หมดแล้วน่ะสิ

(ดื่มนี่คือดื่มทั้งคู่มั้ยอะ ถ้าดื่มคนเดียวเมาคนเดียวไม่ดื่มนะ)




ถึงจะมีข่าวมา แต่ที่สำคัญก็คือไม่มีหลักฐาน

ภูติค้างคาวบอกเขา ก่อนจะคิดร่ำลาไปเนื่องจากคิดว่าไม่สามารถหลอกลวงข้อมูลจากชงต๊ะได้

ผู้รับใช้มาเก็บเงิน ร้อยตำลึง แล้วจะทำยังไง

- จ่ายไป
- อื่นๆ

"ข้ามิใช่ยอดคนอันใด แต่เห็นท่านนั่งเหงาอยู่ผู้เดียวข้าเลยเข้ามาทักทาย ข้ามีนามว่าเสี่ยวจู ออกเดินทางท่องยุทธจักรเพื่อชมความงามของธรรมชาติ และทิวทัศน์ทั่วทิศ แล้วท่านมีนามว่าอันใดหรือ" เสี่ยวจูทักทายยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรเพื่อลดความหวาดระัแวงของชายตรงหน้า ในเมื่อเธอเข้ามาทักโดยไม่ได้คิดร้ายอันใด จักมีสิ่งใดต้องกลัวระแวง



แม่นางอายุเยาว์ ทั้งยังโฉมสคราญ กลับออกท่องยุทธภพ คาดว่ามีฝีมือเป็นที่น่าตระหนก
เรามีฉายากระบี่ธรรมดา ต๊กโกวเซียะ มิอาจเทียบเปรียบได้
วันนี้ได้พบหน้านับเป็นวาสนา เชิญแม่นางรับประทานอาหารร่วมกันเป็นไร

อาหารบนโต๊ะแม้มีแต่ของธรรมดา แต่เมื่อหยินหยางผสานรวมกันกลับสามารถบำรุงร่างกายได้อย่างใหญ่หลวง
นับว่าผ่านการคัดเลือกด้วยปัญญาอันลึกล้ำ

- กิน เทิร์นหน้าได้โบนัส +1HP +1SP
- อื่นๆ


- อื่นๆ
หลี่อิงประสานมือคารวะตอบแล้วกล่าว

" ข้าหลี่อิงเป็นเพียงหมอดูเร่ร่อน  บางครั้งเล่านิทานแฝงความลับของฟ้า หวังเพียงว่าผู้รับฟังได้สติพินิจถึงการกระทำของตนว่าฝืนจารีตฟ้า ผิดประเพณีชนหรือไม่  เงินจำนวนนี้ข้ามิกล้ารับ  ขอแค่ท่านมือปราบได้ข้อคิดจากนิทานของข้า นับแต่นี้ดูแลชาวประชาให้อยู่ในศีลธรรม  ผู้ใดกระทำผิดก็ขอให้เลิกเสีย เยี่ยงนั้นแผ่นดินย่อมเป็นสุข มิมีผู้ใดเดือดร้อน ไม่มีผู้ใดถูกไล่เข่นข้า  เยี่ยงนั้นข้าย่อมยินดีแล้ว นิทานเยี่ยงนี้ย่อมไม่ต้องเล่าอีก"   ฟังดูเป็นคำกล่าวถ่อมตัวทั่วไป  แต่แฝงความนัยว่า หากมือปราบเลิกประพฤติผิด  และยุติการไล่ล่าสองมุสิก  หลี่อิงย่อมไม่เปิดเผยความลับของเขาออกไป




มีความหมาย ซินแสหลี่ อายุยังเยาว์ แต่มีภูมิปัญญากว้างขวาง เราหวังเทียนนับถือเลื่อมใสแล้ว

โบตั๋นจรุงลุกจากโต๊ะเดินมาควงแขนของมือปราบหวัง คล้ายคิดจากไปแล้ว

- ร่ำลา
- อื่นๆ