ใครบางคนหนึ่งในนั้นควบม้าทะลวงเข้ามา มือหนึ่งถือง้าวที่ดูแปลกตา พกพาธนู โล่ ขวานสั้น หน้าไม้ และดาบโค้ง
(http://i.imgur.com/nEUSRMA.jpg)
ผู้นำกองม้ามัมลูกเป็นแม่ทัพชั้นรองที่มีฝีมือแต่ไม่สามารถเป็นแม่ทัพได้เพราะเขาเป็นเพียงชนชั้นทาส
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png) (http://i.imgur.com/s0DMs8n.png)
ทั้งไดร์เฮมและเฮนริครู้สึกได้... ศัตรูแข็งแกร่งมาก มากจนอาจจะมากกว่าเฮนริคเสียอีก
แต่พวกเขาก็จะสู้ให้ถึงที่สุด
ทั้งสองฝ่ายเข้าประจัญบานกันอย่างไม่กลัวเกรงความตาย Henrik พุ่งเข้าปะทะกับผู้นำของอีกฝ่าย ต่างฝ่ายต่างแทงหอกสวนกันจนตกจากม้าทั้งคู่
ขวานศึกของหัวหน้ากองม้ามัมลูกฟาดเข้าใส่จนดาบของ Henrik หักคามือ
กำปั้นที่เหวี่ยงซัดใบหน้าจนเธอหมุนไปสองรอบนั่นมันช่างคล้ายกันจริงๆ ดวงตาที่มุ่งมั่นภายใต้หมวกเกราะนั้นคือใครกัน
โล่ถูกยกขึ้นมารับขวานแล้วเท้าของ Henrik ก็ถีบอีกฝ่ายผงะถอยไปก่อนที่เขาจะเสือกหอกเข้าใส่ หอกพลาดเป้าไปและถูกสวนมาด้วยดาบโค้ง
ต่างฝ่ายต่างต่อสู้กันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะรู้ผลกระทั่ง Henrik พบว่าทหารของเขาไม่เหลือแม้สักคน...
(http://i.imgur.com/tgZbadG.jpg)
"พวกข้าต่อสู้เพื่ออิสรภาพ แล้วเจ้าล่ะต่อสู้ไปเพื่ออะไร" อัยบัก ยอดนักรบแห่งอียิปต์
([url]http://i.imgur.com/Jwxa6KX.jpg[/url])
"ความฉลาดลำเลิศของเจ้าทำให้ทุกอย่างพัง!" Louis ด่า Eleanor จนนางแทบวิญญาณหลุดจากร่าง
"ข้าเข้าใจแล้ว พระเจ้าไม่ได้ทดสอบเรา แต่มันผิดตั้งแต่พระเจ้าสร้างเจ้าขึ้นมา!"
"เจ้าควรจะไปนอนเอกเขนกในสวนอีเดนและแก้ผ้าวิ่งไล่จับผีเสื้อทั้งวันมันคงจะดีต่อมวลมนุษย์!"
เพราะพระนาง Eleanor ที่ออกคำสั่งให้คณะอัศวินเทมพลาร์เข้าโจมตีนครดามัสกัส นั่นทำให้ดามัสกัสที่เป็นกลางมาตลอดหันเข้าหาฝ่ายมุสลิม
Louis ที่โกรธจนผมชี้ฟูสั่งจำคุกพระนาง Eleanor ทันที
"มันยากมาก และไม่ใช่เราเพียงผู้เดียวที่ทำมันได้ แต่เราได้เลือกแล้ว"
"ขอสันติสุข ความเมตตาปรานี และความเป็นสิริมงคลจากพระองค์อัลลอฮฺจงมีแด่ท่าน" Saladin ให้คำมั่น
([url]http://wudthipan.com/fucko/_images/249f58b833ec582d4842b64c884eb126/4102%20-%20Character.jpg[/url])
"ไม่ เราอยากสบาย เราปรารถนาเพียงได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายและปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว" Lisette นั่งๆนอนๆอยู่ในปราสาทที่ตกแต่งอย่างงดงาม
"ท่านดูเรา เรานี่ว่ายน้ำไปทั่วทั้งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มันสนุกมากเลย เรายังอยากว่ายน้ำเล่น และได้กินขนมเค้กทุกวัน"
"นี่ เคียฟ รูปปั้นของเราจะเสร็จหรือยัง ต้องสวยเหมือนตัวจริงด้วยล่ะ ชาวเมืองทุกคนจะต้องได้เห็นความงดงามในทุกมุมของลิเซ็ตเมื่อเข้าไปยังจตุรัส"
Lisette ยังมีโครงการจะสร้างรูปปั้นของตัวเองที่มีความสูง 20 เมตรไว้กลางเมืองด้วย
([url]http://wudthipan.com/fucko/_images/b7004ac4e26f71092db07e5a93b3faa0/4101%20-%20Character.jpg[/url])
"เอ่อ... ก. ไก่..." ([url]http://i.imgur.com/FbHzHTe.png[/url])
วันนี้ก็อีกวันที่ Schatz นั่งอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์ เธอมีความสุขอย่างมากแล้วกับตำแหน่งเคานท์
เธอมาจากชาวนา เพียงแค่นี้เธอก็รู้สึกว่าชีวิตได้สุขสบายอย่างที่สุดแล้ว เธอไม่เห็นความจำเป็นต้องไปแย่งชิงเพื่อเป็นใหญ่
เธอจะเป็นขุนนางที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งและภักดี
อ้อ และต้องฉลาดด้วย "ข.. ควาย....?" ([url]http://i.imgur.com/YXmtVcw.png[/url])
([url]http://i.imgur.com/KCKtTqSm.jpg[/url])
"ข้ามีบรรดาศักดิ์เทียมกับท่านแล้ว ข้าหวังว่าท่านจะให้เกียรติข้ามากขึ้น" Lulou ตะลอนไปท้าทายหัวหน้าอัศวินเทมพลาร์เช่นเคย
สำหรับเธอที่มีชีวิตอยู่เพื่อสนองตัณหาส่วนตัว อาทิ ความสนุก การอยากรู้อยากเห็น และการได้ต่อสู้ บรรดาศักดิ์สูงส่งหรือยศฐาใดไม่สำคัญนัก
ตำแหน่งมาควิสมอบให้กับ Lulou เพราะเธอต้องการเพียงเท่านี้ เธอไม่อยากเข้าสู่การเมือง เธอรักอิสระ และที่สำคัญคือ
เธอได้เป้าหมายใหม่แล้ว นั่นคือการหาสามี
([url]http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/1022.jpg[/url]) ([url]http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/439.JPG[/url])
ดยุกแห่งเยอรมนียืนอยู่หน้าหลุมฝังศพของ Kay ที่พลีชีพเพื่อเขาโดยมี Brian ที่ยังบาดเจ็บจากการสู้รบมายืนเคียงกาย
มันไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ รากฐานของเขา บุคลากร และประชาชนได้สนับสนุนและผลักดัน กระนั้นก็ยังต้องสูญเสีย
Baron จำได้ดี วันนั้นที่เขาถูกปองร้ายหลังเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ เจ้ามือสังหารนั่นเก่งกาจมาก มันทิ้งตัวลงมาเสียบดาบแทงกาเวนและฟันแลนซลอตเสียชีวิตในทันที
Kay เข้าต่อสู้เพื่อเปิดโอกาสให้ Baron ถอยหนีไป ซึ่งเขาก็ไม่อาจตามไปรับใช้ Baron ได้อีก
([url]http://upic.me/i/x9/gertrude.png[/url]) ([url]http://i.imgur.com/Lk1qXLE.jpg[/url])
ใช่ว่าทุกอย่างจะสวยงามและโรยไปด้วยกลีบกุลาบ การเบิกบานของดอกลิลลี่ในทุ่งกว้างมาพร้อมกับความสูญเสีย
Gertraud และ Eugene ที่เข้าสู่สงครามขยายดินแดนกลับไม่ประสบผลที่น่าพึงพอใจ
ในสงครามที่อินเดีย Gertraud นำทหารออกรบเพื่อสร้างอาณาจักรถึงแดนไกล แต่เธอกลับไปเจอเข้ากับกองทัพมองโกลของโอเดไกข่าน
และโชคร้ายอย่างยิ่งที่ชีเปย์ ยอดนักรบมองโกลผู้เป็นอาจารย์ของก๊วยเจ๋งก็อยู่ที่นั่น
ศรที่ถูกยิงออกมาอย่างแม่นยำปักเข้าที่หน้าผากของ Gertraud ที่กำลังเหวี่ยงดาบกลางวงล้อมราวกับจะแก้แค้นแทนสุโบไต จอมทัพอันดับสองที่ถูกฆ่าตายไป([url]http://i.imgur.com/bgoq6ic.jpg[/url])([url]http://upic.me/i/us/gabriella.jpg[/url])
"ข้ายังไม่ตาย!" ([url]http://i.imgur.com/HcG55lQ.png[/url])
ใครอันดับสองฟะ อย่ามาขี้ตู่
Gabrielle เป็นน้องสาวของ Gertruad นางงามสง่าและมีฝีมือ
แต่การเข้ามาของนางก็เกิดปัญหากับคนของ Gertraud เดิมที่ไม่ยอมรับนาง
([url]http://i.imgur.com/KyjvuWo.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/dphbJTA.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/x3num22.jpg[/url])
"ข้าเกลียดท่านนน" ทุกคนหนีไปเมื่อความเห็นไม่ลงรอย
ราชรัฐ La Tour Rouge
([url]http://i.imgur.com/CZXtFV4t.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/rDvU8but.jpg[/url])
ลา ตูร์ รูจ เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยมีผู้ปกครองคือ Lulou หรือ Count of La Tour Rouge ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
เมืองนี้อยู่บนที่ราบลุ่มซึ่งสัญจรเข้าออกได้สะดวก มีเส้นทางการค้า แต่ Lulou ก็ไม่ได้สนใจจะสร้างเมืองให้เป็นนครการค้า เธอไม่ได้สนใจจะสร้างอะไรมากมายนัก
ในทุกวัน Lulou จะใช้เวลาเดินดูชาวนาทำไร่ซึ่งเธอก็สนใจพัฒนามันระดับหนึ่งเพราะมันไม่ซับซ้อน และยังมีโรงเตี๊ยมที่เธอคิดว่าสร้างเอาไว้ก็ไม่เสียหาย
ในสงครามบนผืนทราย Lulou นำกองทหารเพียงพันกว่าคนต่อต้านข้าศึกที่มีถึง 5000 คนได้อย่างกล้าหาญ แม้ว่าเธอจะต้องเสียทหารไปทั้งหมดก็ตาม
แม้จะเข้าร่วมสงครามครูเสดครั้งแรกและต่อสู้จนเกือบถึงที่สุดแต่ Lulou ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก เธอใช้ชีวิตอย่างที่อยากเป็นมากกว่าจะคาดหวังอยากได้อยากดี
"พวกเจ้าต่อสู้ไปเพื่ออะไรกัน ชีวิตคนเรามันก็มีแค่นี้ ข้าได้มาหมดทุกอย่างแล้ว เมือง ปราสาท ข้ารับใช้ ชีวิตที่มีความสุข แล้วก็ได้ต่อสู้ ยังมีอะไรอีกล่ะ พวกเจ้านั่นแหละ พวกเจ้ามีอะไรกันบ้าง"
"พวกเจ้าที่เอาแต่สวดมนตร์ รบราราฆ่าฟันเพื่ออะไรที่จับต้องไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ตายไปพร้อมกับความว่างเปล่านั่นซะเถอะ"
ศรัทธา ความหวัง ความฝัน อุดมการณ์ ทุกอย่างเหล่านี้ไร้ความหมายและไม่มีค่าอะไรกับ Lulou
ราชรัฐ Kolossi
([url]http://i.imgur.com/CZXtFV4t.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/rDvU8but.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/cDepM2Ft.jpg[/url])
โคลอสซี เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยมีผู้ปกครองคือ Mary หรือ Count of Kolossi ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
เมืองนี้อยู่บนที่ราบลุ่มซึ่งสัญจรเข้าออกได้สะดวก มีเส้นทางการค้า แต่ Mary ก็ไม่ได้สนใจจะสร้างเมืองให้เป็นนครการค้า กลับมีระบบระวังภัยและป้องกันมากมาย
Mary มีความวิตกจริตในระดับวิกลจริต เขาสั่งให้สร้างกำแพง หอสังเกตการณ์ และทุกอย่างที่จะช่วยปกป้องเมืองจากอริร้าย ซ้ำยังจ้างนักฆ่าและสายลับอีกมากมายราวกับคนบ้า
ในทุกวัน Mary ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าสวมเกราะเดินไปมาในเมืองที่ปลอดภัยและใช้งานบุคลากรที่ยอดเยี่ยมของเขาต่างมือเท้าและมันสมองของตน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สร้างเอาไว้ได้งอกเงยออกผล ข้าศึกชาวอียิปต์ที่บุกเข้ามาต้องปราชัยราบคาบเมื่อเผชิญหอรบและกำแพงสูง
มีเสียงเล่าลือว่า Mary นั้นตายไปแล้วเมื่อครั้งที่ต่อสู้กับสุลต่านซังกีเขาก็ถูกสังหาร ณ วันที่กรุงเยรูซาเล็มแตก Mary คนนี้อาจจะเป็นแค่หุ่นเชิด เพราะไม่เคยมีใครเห็นเขาแสดงฝีมืออีกเลย
เล่าลือว่า Mary ได้ช่วยเหลือพวกมุสลิมอยู่หลายครั้ง และเขายังมีสายเลือดยิว! หากนั่นเป็นเรื่องจริงเขาอาจถูกขับออกจากศาสนาได้
แมนเนอร์ Pilgrim
([url]http://i.imgur.com/1EpjC9Ft.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/rDvU8but.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/PFTGBMct.jpg[/url])
พิลกริม เป็นแมนเนอร์ขนาดใหญ่ มีผู้ปกครองคือ Le'Pla หรือ Sir of Pilgrim ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
แมนเนอร์นี้อยู่ติดกับชายฝั่ง เป็นนครการค้าที่มีเส้นทางการค้า โรงแรม ที่พักต่างๆ และตลาดใหญ่ แต่ Le'Pla ก็ไม่ค่อยได้สนใจพัฒนาแมนเนอร์เพื่อขยายเป็นเมือง
อาจจะเพราะต้องการความสงบเงียบแบบธรรมชาติ Le'Pla เลือกที่จะพัฒนาฟาร์มขนาดย่อม และเอาเงินที่มีมากเกินไปไปจ้างบุคลากรชั้นดีมานอนกินเงินเดือนเล่น
แม้ว่า Le'Pla จะมีแค่แมนเนอร์ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกไม่กี่สิบครัวเรือน แต่เชื่อเถอะว่าศักยภาพทางการเงินได้อุดช่องว่างอื่นได้หมดจด
กองทหารของ Le'Pla บดขยี้เอาชนะกองทัพอียิปต์ได้อย่างง่ายดายในศึกที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ก็ด้วยกำลังเงินที่ใช้จ่ายในค่าปฏิกรรมสงครามและการจ้างวานบุคลากรชั้นยอด
ว่ากันว่า Le'Pla สนับสนุนเทมพลาร์อย่างลับๆ ในฐานะผู้สนับสนุนลำดับต้นๆ
ราชรัฐ Servantikar
([url]http://i.imgur.com/RmUHmw1t.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/kH2eV9Xt.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/cDepM2Ft.jpg[/url])
ซาวันดะการ์ คือฐานที่มั่นที่เข้มแข็งของ Jason หรือ Viscount of Servantikar ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
เมืองนี้อยู่ในเขตบึงที่ไม่น่าอยู่สักเท่าไรนัก แต่ก็มีเส้นทางการค้า กำแพงที่แข็งแกร่ง และโบสถ์ที่งดงามซึ่ง Jason ผู้ศรัทธาได้ใช้เม็ดเงินมากมายในการก่อสร้าง
ว่ากันว่าโบสถ์นี้มูลค่าสูงกว่าปราสาทที่พักของ Jason ถึง 5 เท่า!
"Jason ผู้ศรัทธา" ได้รับนามนี้ทันทีที่เขาสร้างโบสถ์ใหญ่ขึ้นมา และเขายังวางแผนจะสร้างมหาวิหารที่มีมูลค่าแพงกว่าเมืองของเขาทั้งเมืองเสียอีก!
Jason ไม่ได้เป็นนักปกครอง เขาไม่สนใจเรื่องของเศรษฐกิจ เขาทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองบ่อยครั้ง ทั้งที่เขาเองก็มีบุคลากรที่เก่งกาจรายล้อมมากมาย
อย่างไรก็ตาม Jason แทบไม่มีมีบทบาทในสงครามครูเสดครั้งแรก แต่ชื่อเสียงของเขามาจากการรบที่เพิ่งผ่านมานี้
ข้าศึกชาวอียิปต์ที่บุกเข้ามาต้องปราชัยราบคาบโดยที่เขาไม่ต้องลงแรงหรือจ่ายเงินเพื่อค่าปฏิกรรมสงครามเลยแม้แต่เหรียญเดียว
การรบแบบกองโจรทำลายทัพของข้าศึกหมดสิ้นคาหนองบึงก่อนจะทันเห็นเมืองของเขาเสียอีก
เล่าลือว่า Jason ได้ช่วยเหลือพวกมุสลิมอยู่หลายครั้งเพราะเขาเป็นสหายกับสุลต่านชิกูร์ หากนั่นเป็นเรื่องจริงเขาอาจถูกขับออกจากศาสนาได้
ราชรัฐ Latrun
([url]http://i.imgur.com/T0sjnuBt.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/nyUGYget.jpg[/url])
ป้อมเลอทรัน คือฐานที่มั่นของ Baron Diethelm หรือ Diethelm von Latrun ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
มันตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นป้อมขนาดเล็กที่คับแคบเพราะ Diethelm ไม่ได้สนใจจะพัฒนามันสักเท่าไรนัก เขามุ่งเน้นสร้างสิ่งต่างๆที่พร้อมจะฝึกฝนพัฒนากองทัพของเขามากกว่า
แต่ Diethelm ก็มีงานอดิเรก เขารักการเกษตร เขาไถเปิดหน้าดินทำฟาร์มเสียเกือบเต็มที่ดินของเขา เมื่อว่างเว้นจากงานและการศึกก็จะมาทำไร่ไถนาไปตามเรื่อง
ในสงครามครูเสดครั้งแรกนั้น Diethelm มีบทบาทอยู่มาก เขาต่อสู้จนถึงที่สุดกระทั่งเสียกรุงให้กับข้าศึก และไม่นานมานี้เขาก็สร้างชื่อด้วยการทำศึกกับอียิปต์
ในสงครามบนผืนทราย Diethelm นำกองทหารเพียงพันกว่าคนเอาชนะข้าศึกที่มีถึง 5000 คนได้อย่างราบคาบ แม้ว่าเขาจะต้องเสียทหารไปเกือบทั้งหมดก็ตาม
เล่าลือว่า Diethelm ได้ช่วยเหลือพวกมุสลิมอยู่หลายครั้งเพราะเขาเป็นสหายกับสุลต่านซังกี ชิกูร์ และซาลาดิน หากนั่นเป็นเรื่องจริงเขาอาจถูกขับออกจากศาสนาได้
ในขณะที่ Henrik อัศวินของเขากลับสร้างชื่อได้มากกว่าด้วยการประมือกับสุลต่านซังกี ประจัญบานกับอัยบัคยอดนักรบของอียิปต์ และเข้ารบเผชิญหน้ากับสุโบไตวีรบุรุษแห่งมองโกล
ราชรัฐ Casal
([url]http://i.imgur.com/RmUHmw1t.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/Um9FiyNt.jpg[/url])
คาซาลคือฐานที่มั่นที่เข้มแข็งของ Chao หรือ Viscount de Casal ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
มันตั้งอยู่บนเนินเขา และ Chao เองก็มีนโยบายที่เน้นทางการทหาร เขาสร้างสิ่งต่างๆที่พร้อมจะฝึกฝนพัฒนากองทัพของเขาให้เข้มแข็ง
Chao มีบทบาทพอสมควรในสงครามครูเสดครั้งแรก แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้สร้างชื่อเสียงอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงกองทหารที่แข็งแกร่งของเขาที่ตอบทุกอย่าง
กองทัพของเขาต่อกรตอบโต้กับกองทัพอียิปต์ได้อย่างหมดจด เขามีทั้งทหารและเงินทุนที่มากมายพอจะฝึกทหารและละลายเล่นไปกับความสุขของภริยา
ผลการรบที่ชนะอย่างเด็ดขาดโดยที่ข้าศึกไม่อาจสร้างความสูญเสียให้กับกองกำลังของเขาเลยแม้แต่น้อยสร้างชื่อเสียงให้กับเขาเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม มีเสียงเล่าลือว่า Chao ตัดสินใจเข้าเป็นพันธมิตรกับจักรวรรดิไบแซนไทน์เพื่อหวังรวบหัวรวมหางผูกอำนาจกับจักรพรรดินี Anna
ทั้งที่เขาเองก็มีภรรยาโลลิอยู่แล้วแท้ๆ
ราชรัฐ Kyrenia
([url]http://i.imgur.com/CZXtFV4t.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/Um9FiyNt.jpg[/url])
ไคเรเนีย เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยมีผู้ปกครองคือ Steph Spencer หรือ Earl of Kyrenia ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
มันตั้งอยู่บนเนินเขา และ Steph เองก็มีนโยบายที่เน้นหนักทางการทหาร เมืองที่ใหญ่โตนี้มีการฝึกทหารอย่างต่อเนื่อง มีระบบระวังภัยและป้องกันมากมาย
แต่ Steph ไม่ได้โดดเด่นในการรบมากนัก เธอสนใจการเมืองและการสร้างสัมพันธไมตรีกับมิตรสหายมากกว่า นั่นทำให้บางครั้งทหารในเมืองก็ติดนิสัยที่สุขสบาย
อย่างไรก็ตาม ในยามศึกใช่ว่าไคเรเนียจะอ่อนแอ กองทหารของ Steph ที่มีเพียงไม่ถึงสองร้อยกลับเอาชนะกองทัพอียิปต์นับพันได้ในสมรภูมินอกตัวเมือง มันช่างน่าทึ่ง
มีเสียงเล่าลือว่าเธอเป็นไบ และมีสัมพันธ์สวาทกับ Joan ราชินีแห่งอังกฤษ รวมไปถึงการเข้าออกนครอันติออกบ่อยครั้งนั่นก็เพราะ Bohemond ติดใจเธอ
ราชรัฐ Caesarea
([url]http://i.imgur.com/RmUHmw1t.jpg[/url])
ปราสาทซีซาร์เรีย คือฐานที่มั่นที่เข้มแข็งของ Gertraud หรือ Viscount von Caesarea ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
มันตั้งอยู่บนเนินเขา และ Gertraud เองก็มีนโยบายที่เน้นหนักทางการทหาร เธอสร้างสิ่งต่างๆที่พร้อมจะฝึกฝนพัฒนากองทัพของเธอให้เข้มแข็ง
แม้จะไม่มีบทบาทเลยในสงครามครูเสดสองครั้งที่ผ่านมา แต่ Gertraud ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ากองทหารของเธอนั้นเข้มแข็งที่สุดในรัฐครูเสดแห่งอาณาจักรเยรูซาเล็ม
กองทัพของเธอต่อกรตอบโต้กับกองทัพอียิปต์ได้อย่างน่าชม ผลการรบที่ชนะอย่างเด็ดขาดที่พรมแดนซีซาร์เรียคือหลักฐาน มันสร้างชื่อเสียงให้กับเธอเป็นอย่างมาก
มีเสียงเล่าลือว่าเธอพยายามตามหา Godfrey เป็นบ้าเป็นหลัง เพราะเขาคือรักแรก และว่าที่สามีในอนาคต
ราชรัฐ Beaufort
([url]http://i.imgur.com/CZXtFV4t.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/kH2eV9Xt.jpg[/url])
บิวฟอร์ต หรือ เบลฟอร์ต เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยมีผู้ปกครองคือ Baron หรือ Count of Beaufort ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้
เมืองนี้อยู่บนเนินเขา มีเส้นทางการค้า และโบสถ์ที่งดงามซึ่ง Baron ผู้ศรัทธาได้ใช้เม็ดเงินมากมายในการก่อสร้าง ว่ากันว่าโบสถ์นี้มูลค่าสูงกว่าปราสาทที่พักของ Baron ถึง 3 เท่า!
"Baron ผู้ศรัทธา" ได้รับนามนี้ทันทีที่เขาสร้างโบสถ์ใหญ่ขึ้นมา และเขายังวางแผนจะสร้างมหาวิหารที่มีมูลค่าแพงกว่าเมืองของเขาทั้งเมืองเสียอีก!
แม้ว่า Baron จะไม่ได้เก่งกาจโดดเด่น แต่เขากลับทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองบ่อยครั้ง ทั้งที่เขาเองก็มีบุคลากรที่เก่งกาจรายล้อมมากมาย
อย่างไรก็ตาม Baron มีบทบาทอย่างมากในสงครามครูเสดครั้งแรก เขาสืบทอดเจตนารมณ์และรับเอาดาบของ Raymond มาครอบครอง
เล่าขานว่านั่นคือดาบของพระอัลลอฮ์ที่ Raymond ค้นพบในโดมทองเมื่อครั้งเข้ายึดกรุงเยรูซาเล็ม
เล่าลือว่า Baron ได้ช่วยเหลือพวกมุสลิมอยู่หลายครั้งเพราะเขาเป็นสหายกับสุลต่านชิกูร์ และซาลาดิน หากนั่นเป็นเรื่องจริงเขาอาจถูกขับออกจากศาสนาได้
และเรื่องที่ชวนสับสนซึ่งทุกคนควรรู้ก็คือ Baron เป็นนามของเขาหาใช่บรรดาศักดิ์ไม่
เพราะเขามาจากชนชั้นชาวนา และบิดามารดาของเขามองเห็นว่าเขาจะได้เป็นใหญ่จึงตั้งนามให้ล่วงหน้าว่า บารอน (แต่ตอนนี้เป็นเคานต์แล้ว)
ราชรัฐ Chastellet
([url]http://i.imgur.com/5fJQ47Ht.jpg[/url]) ([url]http://i.imgur.com/cDepM2Ft.jpg[/url])
ป้อมปราการลิเซ็ต คือความภาคภูมิใจของ Lisette หรือ Count de Chastellet หรือ เคานต์ลิเซ็ต
มันตั้งอยู่บนเนินเขา และ Lisette เองก็ไม่เคยหวั่นเกรงศัตรูของเธอเพราะในเมื่อเธอพัฒนาป้อมปราการนี้อยู่ตลอดเวลาเธอยังจะต้องกลัวสิ่งใดมาคุกคามอีกเล่า
ตลอดเวลาที่ผ่านมา Lisette มีนิสัยที่รักสบายและชื่นชอบความสุขของการใช้ชีวิตโดยไม่ต้องเหนื่อยยาก เธอเคยเป็นชาวนาที่แสนลำเค็ญและเธอจะไม่ยอมเป็นอีก
การใช้ชาวนาจำนวนไม่ถึง 300 คน ปกป้องปราสาทจากกองทัพอียิปต์ที่มีนับพันได้โดยไม่เสียไพร่พลเลยแม้สักคนเดียวสร้างชื่อเสียงให้กับเธอเป็นอย่างมาก
ผู้คนกล่าวขานว่าเธอคือลีโอไนดาสกับทหารสปาตัน หรือในนามใหม่ ลิโซไนดาส