ความจริงแล้วสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของอันวาร์นั้นไม่ใช่อสูรหรือปิศาจ แม้กระทั่งเทวาก็ไม่ใช่
"โกเลมควีนแห่งไฟ" มาร์ลีนผู้มองทุกสิ่งทุกอย่างออก สปอร์ตไลท์ฉายลงมาที่เธอ
ทุกคนยิ่งงงหนักว่าโกเลมควีนแห่งไฟมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง โดยเฉพาะเจมที่กำลังจะอ้าปากบอกให้คืนลิลิธมา ซึ่งในความจริงลิลิธนั้นดับสูญไปแล้ว
โกเลมควีนเล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบว่าเธอได้สวมรอยเป็นลิลิธที่หมดสิ้นอายุขัยและหลอกทุกคนมาตลอดการเดินทาง แต่เธอก็มีเหตุผลที่ทำอย่างนั้น
ศึกวันพิพากษาจะไม่มีเจ้าอยู่ในกองทัพของข้า
ในโกเลมควีนทั้ง 4 ทำไมจึงมีเพียงราชินีแห่งเพลิงเท่านั้นที่จะไม่ได้ร่วมกองทัพ ทั้งที่อดัมเองได้ชื่นชมว่าโกเลมควีนแห่งเพลิงนั้นมีพลังอำนาจมากที่สุดในราชินีทั้ง 4 ฉลาดเฉลียวและกล้าหาญที่สุด แต่เขากลับกระทำการที่ตรงข้าม ความรักเปลี่ยนเป็นความแค้น รักแรงก็โกรธเกลียดแรง
"เธอจึงคิดทำลายกองทัพของอดัมด้วยการหลอกให้เราไปฆ่าโกเลมควีนทีละตัวๆ"
"ฟังให้จบก่อนสิ"
ความตั้งใจที่จะตามหาอดัมเพื่อถามเหตุผลจากเขา และเผาเขาไปพร้อมกับตนเองได้ถูกสะกดให้หยุดลงเมื่อโกเลมควีนแห่งไฟได้พานพบกับลิลิธที่กำลังจะสิ้นอายุขัย โกเลมควีนแห่งไฟได้รับรู้เรื่องราวและเข้าใจทุกอย่างว่าอดัมเพียงสร้าง 4 ราชินีมาเป็นเครื่องมือให้กับตนเองเท่านั้น คำรักลวงหลอกนั้นถูกใช้กับราชินีทั้ง 4 เช่นเดียวกัน
ลิลิธขอร้องให้โกเลมควีนใช้พลังอำนาจของตนเองรักษาสมดุลของโลก ช่วยเหลือเหล่ามนุษย์ และหยุดยั้งแผนการบางอย่างของอดัม เพราะอย่างน้อยเธอก็ถือกำเนิดจากแผ่นดินเช่นมนุษย์ แต่โกเลมควีนยังคงสงสัยว่าเธอจะต้องช่วยมนุษย์ไปทำไม มนุษย์มีอะไรดี ทั้งหมดทำให้เธอสนใจที่จะเรียนรู้และติดตามเฝ้าสังเกตพวกมนุษย์
"ข้าได้รู้ว่ามนุษย์นั้นมีไมตรีจิตที่พร้อมจะเป็นมิตรกับสิ่งใดก็ได้" เธอพูดถึงใคร เจมเหรอ นั่นมันคนบ้า
"พวกเจ้าผ่านการทดสอบ ตอนนี้พวกเจ้าคงเข้าใจทุกอย่างแล้ว"
"ฉันเข้าใจแล้วว่าโกเลมควีนทั้งหมดจะต้องโป๊"
"เดี๋ยวเผาทิ้งเลย"