มิสะพยักหน้า หยิบนมมาถือประคองเอาไว้ท่ามกลางความเงียบที่ได้ยินเพียงเสียงแมลงนอกห้อง และนาฬิกาที่เดินด้วยเสียงต่อก แต๊ก ตั่ก ต่อก แต๊ก ตั่ก...
เธอเล่าให้ฟังว่าเธอน่ะไม่มีพ่อกับแม่ที่แท้จริง เธอหลงอยู่ในป่าแอฟริกา จนกระทั่งมีคู่สามีภริยาชาวญี่ปุ่นมาตั้งหลักปักฐานที่นี่และพบเธอกำลังขุดมันกินระหว่างออกเที่ยวป่า ตอนนั้นเธออายุได้ 4-5 ขวบ แต่คู่สามีภรรยาก็อยากอุปการะเธอ พวกเขาจึงพยายามวิ่งเต้นเพื่อขอรับเธอมาเลี้ยงดู ที่บ้านของพวกเขามีปู่กับย่าด้วย และเพราะเหตุนี้เองที่เธอได้ชื่อใหม่ว่า มิสะ ส่วนนามสกุลนั้นไม่สามารถใช้นามสกุลเดียวกับปู่หรือพ่อแม่บุญธรรมได้ ปู่จึงตั้งนามสกุลใหม่ให้เธอว่า ยามาชิโระ
เพราะมิสะคุยไม่เก่ง ขี้กลัว เธอจึงไม่มีเพื่อน ปู่เห็นดังนั้นจึงซื้อกล้องถ่ายรูปให้และสอนการถ่ายภาพ แต่อันนั้นคือกล้องฟิล์ม จนกระทั่งปู่เสียไปกล้องนั้นถูกเก็บไว้เพราะหาฟิล์มยาก คุณพ่อจึงซื้อกล้องใหม่ให้เป็นตัวนี้ (กล้องดิจิตอล) มันเป็นของขวัญวันเกิดชิ้นสุดท้ายของคุณพ่อ เพราะหลังจากนั้นไม่นานคุรพ่อก็ประสบอุบัติเหตุและเสียไป นั่นหมายความว่ามิสะจะไม่มีวันได้ของขวัญจากคุณพ่ออีกแล้ว
มิสะเล่าไปก็เอาอัลบั้มภาพมาอวด ซัทสึกิแปลกใจจึงถามว่าทำไมถึงชอบถ่ายขนาดนี้ และเธอก็ได้รู้ว่ามิสะไม่เคยถ่ายภาพของครอบครัวเลย เพราะเขิน จนกระทั่งเสียคุณปู่และคุณพ่อไป เธอเสียใจที่ยามมีโอกาสเธอไม่ได้ทำ ดังนั้นเธอจึงพยายามถ่ายทุกอย่างที่ถ่ายได้เพื่อไม่ให้เสียใจอีก
"นั่นซัทสึกิ" เธอชี้ไปที่โฟโต้บอร์ด อย่างน้อยถ้าซัทสึกิตายไปก็ยังมีรูปเหลือ อะไรแบบนั้นมั้ง
- แนะนำเธอว่าไปซ่อมในเมืองกัน
- เซอร์ไพรส์เธอด้วยกล้องที่ไปซื้อมาให้ (ของขวัญวันเกิดที่จะถึงในอีกไม่กี่วัน)