เป้กระต่ายชุ่มเลือดตกอยู่บนพื้นถนนข้างๆร่างของเด็กสาวผู้เป็นเจ้าของมัน
ความจริงเอลวามีชะตาชีวิตที่จะต้องตายในปีที่ผ่านมาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่เพราะโครนิเคิลบิดเบือนโชคชะตาของเธอ
เอลวาจะจบชีวิตดังโชคชะตาหากเธอเรียนไม่จบ แต่หากเธอเรียนจบนั่นคือโอกาสที่เธอจะได้ชีวิตใหม่จากโครนิเคิล
เช่นกัน นักเรียนทุกคนที่นี่ล้วนมีชะตาชีวิตไม่ต่างจากเธอ แม้บางคนจะยื้อเวลามาได้ 50 ปีอย่างไม่ตั้งใจ แต่คำสาปที่ถูกถอนออกไปจะทำให้พวกเข้าสู่วังวนของโชคชะตา
พวกเขาจะตายหลังก้าวออกไปจากโรงเรียนนี้
.
.
.
...
"ฉันเองก็อยากให้พวกรุ่นพี่ในชมรมมีความสุข
อยากให้ความฝันของอลิซ่าเป็นจริง
อยากให้ทุกคนในโรงเรียนได้เรียนจบ…"
แต่ว่า สิ่งที่เอลวาได้รับรู้และเข้าใจนั้น..
ยากที่จะมองโลกในแง่ดีได้ดังเดิม
มีบางคนที่โชคชะตาลิขิตให้ตาย และบางคนได้ตายไปแล้วแต่ถูกบิดเบือนโชคชะตาให้มีชีวิตรอดแลกกับการถูกดึงเข้าสู่วังวนแห่งโครนิเคิล
นักเรียนทั้งหมดล้วนชะตาถึงฆาต ทุกคนควรจะตายไปตั้งแต่วันที่เข้าเรียน หรืออาจจะตายหลังจากนี้อีกไม่กี่ปี แต่โครนิเคิลได้บิดเบือนโชคชะตาและชักนำคนเหล่านี้มาที่โรงเรียน
โครนิเคิลมอบชีวิตชั่วคราวให้กับพวกเขา ให้พวกเขามีโอกาสต่อสู้ดิ้นรนที่จะมีชีวิตในรูปแบบต่างๆ พวกเขาจะต่อสู้หรือทำอะไรก็ได้เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตา
แต่ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยน โครนิเคิลมอบชีวิตให้นักเรียนได้เพียงครึ่งหนึ่งเป็นอย่างมาก
นั่นหมายความว่าจะต้องมีอีกครึ่งที่สูญเสียโอกาสนี้และต้องตายไปหลังจบการศึกษา
หากมีผู้จบการศึกษามากเกินไป ผู้รอดชีวิตก็จะถูกสุ่มอยู่ดี
แต่ว่า...
เด็กหญิงยอมรับกับอลิซ่า ว่าเธอกลัว..
เธอกลัวว่าถ้าเชื่อมั่นในบางอย่าง หากมันไม่เป็นอย่างที่หวัง
ก็เหมือนการตกลงมาจากที่สูง เธอคงจะรู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว
“ทุกคนถูกดึงมายังโรงเรียนนี้ เพื่อต่อสู้…เพื่อโอกาสในการเปลี่ยนแปลงโชคชะตา”
“มันเป็นโอกาสที่ดี… แต่ฉันกลับรู้สึกเศร้ากับมันค่ะ”
การขอพรไม่ใช่ที่สุด
แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ชะตากรรมเปลี่ยนแปลงได้
“แต่เพราะฉันยังลังเลแบบนี้.. เพราะอยากช่วยทุกคน ฉันจึงมีสิ่งที่ต้องการจะขอมากมาย.."
"และบางทีการมัวแต่คิดเรื่องสิ่งที่อยากขอในตอนนั้น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฉันอาจจะหายไปก็ได้.."
เอลวาหมายถึง เป้าหมายที่มายังที่นี่ในตอนแรก ..ที่หอคอยแห่งนี้
เหตุผลที่เธอมาอยู่ตรงนี้ไม่ใช่การขอพร แต่เพื่อมาตามหาพวกรุ่นพี่กับอลิซ่า
หากเธอมาขวางช้าไป.. จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ
"ยังไงก็ตาม"
"ฉัน..คาดหวังให้ใครสักคนที่ขึ้นไปถึงยอดหอคอยและใช้พรนั้นแทนฉันที่หมดโอกาสไปแล้วอยู่นะคะ"
"...เขาคงจะรู้ว่าผลลัพธ์ไหนที่ดีที่สุด"
"ห้วงเวลาที่วนเวียนซ้ำไปมานี่ ..อาจจะหยุดลงในสักวัน"
"แต่ถึงจะไม่มีพร ฉันก็คิดว่ายังมีสิ่งที่พอทำได้อยู่ค่ะ"
"ถ้าหากได้รู้เรื่องของโครนิเคิลมากกว่านี้.."
เมื่อวันหนึ่งที่ใครก็ตามปลุกเราจากนิทราอันหอมหวาน
เราจะมอบพรนิรันดร์แก่เขาผู้นั้นสักหนึ่งข้อ
โนว์เลจด์บอกว่านั่นคือเจตจำนงที่หลงเหลือเท่านั้น จากความรู้ที่รับมานั้น 'โครนิเคิลตายไปนานแล้ว'
สิ่งที่หลงเหลือนี้เกิดขึ้นจากเจตจำนงที่ทิ้งเอาไว้ก่อเกิดเป็นโครนิเคิลคนใหม่ที่เดินไปตามเจตจำนงเสรี
โครนิเคิลมีอำนาจและพลานุภาพอย่างมาก แต่ก็ไม่ใช่พระเจ้า
"..โครนิเคิล.. ไม่สิ
เจตจำนงของโครนิเคิล ลืมเหตุผลของการคงอยู่ของตัวเองไป.."
เราลืมมันไปแล้ว
นั่นอาจหมายถึงถ้าทำให้โครนิเคิลตื่นขึ้นมาก็จะตอบแทนให้ การตื่นก็คงหมายความว่าจะได้รู้สึกตัว
แต่สิ่งที่อยู่ตรงนี้กลับไม่ใช่โครนิเคิล แม้จะตื่นขึ้นมาก็คงไม่อาจจำเรื่องราวที่ขาดหายไปได้ ทั้งความเป็นมา และเหตุผลของการกระทำ
มันเหมือนกับการที่เด็กคนหนึ่งจำผู้ใหญ่พูดมาพูดต่อแต่จำมาไม่หมด ความหมายนั้นก็จะผิดเพี้ยนไปคนละทิศละทาง
เมื่อมีคนมาปลุกก็ได้รับพรไป แต่โครนิเคิลตรงนี้ก็จะหลับไปอีก ไม่มีวันจบสิ้น
"หลังจากนี้ฉันอยากจะไปถามกับโนวเลจอีกครั้ง.."
"นอกจากแค่การเรียนจบ ถ้าหากฉันได้รู้ทุกอย่างมากกว่านี้ อาจจะทำอะไรได้บ้าง.."
"อาจมีวิธีที่จะช่วยพวกรุ่นพี่ ช่วยทำให้ทุกคนได้มีชีวิตเกินกว่าพลังที่โครนิเคิลจะทำได้"
"ทุกคนจะไม่ต้องตาย.." เด็กหญิงเสียงสั่นเล็กน้อย ก่อนจะสูดหายใจลึกๆ
"ยังไง..ฉันคนเดียวอาจจะทำไม่ได้.."
เด็กหญิงหันไปทางรุ่นพี่ทั้งสองที่ยังถูกเวลาแช่แข็งไว้
เธอยังหวังให้พวกเขาเข้มแข็ง..ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นและเลิกจมอยู่กับอดีต
แม้จะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะถูกกักขังในช่วงเวลา50ปีก็ตาม
แต่ว่า
“ถ้าหากทุกคนร่วมมือกันล่ะก็..”
บางที..
ปาฏิหารย์อาจจะเกิดขึ้นได้มันมีอยู่จริง“ฉันยังพร้อมที่จะเชื่อแบบนั้นอยู่ค่ะ !”
ในที่สุดเธอก็บอกออกไปอย่างมุ่งมั่น
แววตาเปี่ยมไปด้วยความหวังอีกครั้ง...