* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย  (Read 3831 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Johan

Quote
"มันยากมาก และไม่ใช่เราเพียงผู้เดียวที่ทำมันได้ แต่เราได้เลือกแล้ว"

"ขอสันติสุข ความเมตตาปรานี และความเป็นสิริมงคลจากพระองค์อัลลอฮฺจงมีแด่ท่าน"

Saladin ให้คำมั่น




การเจรจาจะไม่มีประโยชน์เลยหากมีผู้ไม่เห็นด้วยมากกว่า การที่ Richard สามารถถ่วงเวลาได้ก็เพราะมีแนวร่วม ที่สุดแล้วแม้ผลการเจรจาจะไม่ถูกยอมรับโดยฝรั่งเศสแต่ผลลัพท์ที่ออกมาก็คล้ายกับการบังคับให้ต้องยินยอม และที่สุดแล้วมหาอำนาจทั้งสามอันได้แก่ ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี คงไม่ได้กลับมาร่วมสมรภูมิอีก





สงครามระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษได้เปิดฉากขึ้น และราวกับภาพสะท้อนเดียวกัน สงครามนั้นยังคงสืบเนื่องมาถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์



ชาวคริสต์และเหล่านักรบครูเสดได้แย่งอำนาจและรบพุ่งกันเพื่อสิทธิ์การครอบครองดินแดนในแถบเลแวนต์ อนาโตเลีย รวมไปถึงเปอร์เซีย บางทีพวกเขาอาจไปไกลถึงรัสเซียและอินเดีย
« Last Edit: October 09, 2016, 07:23:38 PM by Johan »

 

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #16 on: October 16, 2016, 01:40:50 PM »
Kyrenia



Steph Spencer เป็นผู้นำนักรบที่เก่งกาจรอบด้าน เธอมีทรัพยากรบุคคลที่มีฝีมือแต่เสียที่ขาดความหลากหลาย ถึงอย่างนั้น Steph ไม่ได้พยายามที่จะหาบุคคลากรเพิ่มสักเท่าไร นางพอใจกับคนที่มีและมุ่งหน้าพัฒนาเมืองอย่างเต็มที่จนช่วงหนึ่งแทบจะไม่เหลือทหารเฝ้าเมือง
Tania เลื่อนขั้นมาจากสามัญชนที่ติดตามมานาน ที่สุดแล้วเธอก็ได้รับการตอบแทนด้วยตำแหน่งภริยา แม้ว่า Steph จะแสนเจ้าชู้เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเธอกลัวโดนตบถ้าไปมีปากเสียงกับใคร
Earl Athela อัศวินที่ติดตาม Steph มาแต่แรกไม่ถูกมองข้าม บรรดาศักดิ์ชั้นเอิร์ลถูกมอบให้เธอที่ทำทุกๆอย่างและอยู่เบื้องหลังความสำเร็จส่วนใหญ่ แม้ว่า Steph จะชอบแย่งหน้าที่ของเธออยู่บ่อยๆก็ตาม
Viscountess Agnes เป็นอัศวินในสังกัดของคณะอัศวินทิวทอนิกที่โดนไล่ออกแล้วมาทำงานกับ Steph ด้วยความที่ติดหรูหราจึงมักหมดเวลาเป็นวันๆกับการขัดสีชุดเกราะและเครื่องเงินข้าวของเครื่องใช้

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #17 on: October 18, 2016, 10:43:19 AM »


กรุงคอนสแตนติโนเปิล จักรวรรดิไบแซนไทน์

จักรพรรดิคอนสแตนตินแห่งจักรวรรดิโรมันได้ย้ายเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันแห่งที่ 2  ไปตั้งที่เมืองใหม่ซึ่งอยู่ตรงรอยต่อของทวีปเอเชียและยุโรป เปลี่ยนชื่อเป็นกรุงโรมใหม่ (Nova Roma) แต่คนส่วนมากนิยมเรียกว่า "คอนสแตนติโนเปิล" ตามชื่อจักรพรรดิ เมืองคอนสแตนติโนเปิลจึงเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันตะวันออกที่เรียกว่า "จักรวรรดิไบแซนไทน์" เป็นเมืองใหญ่ที่รุ่งเรืองในทุกด้าน เพราะสืบสานอารยธรรมของจักรวรรดิโรมันที่เคยขึ้นสู่จุดสูงสุดมาก่อน ประชากรในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในยูโรปแห่งนี้เคยมีมากกว่า 500000 คน แต่ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 50000 คน




วันๆจักรพรรดินี Anna ก็ได้แต่เศร้าเหงาใจที่ประชาชนพาเหรดกันออกจากเมืองไปเรื่อยจนเมืองจะร้างอยู่แล้ว นับแต่เซลจุกเติร์กบุกเข้ายึดดินแดนในอนาโตเลีย การสูญเสียดินแดนเป็นจำนวนมากส่งผลกระทบในเรื่องการเก็บภาษี เมื่อไม่มีเงินทุนการพัฒนาก็ไม่อาจเดินหน้า ซ้ำยังถอยหลังลงเรื่อยๆ ประชากรย้ายถิ่นฐานออกอย่างต่อเนื่อง เงินคงคลังที่ไม่มีวันหมดก็ร่อยหรอลงจนแทบหมดสิ้น

"อยากได้สามีจัง..."

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #18 on: October 18, 2016, 10:52:27 AM »


"ข้ายังไม่อาจแน่ใจในตัวท่าน ขออภัย" นอกจาก Anna แล้วสภาขุนนางก็ไม่เห็นด้วยที่จะยอมรับพันธมิตรอังกฤษ ชนชาติของผู้แพ้ ทั้งถูกโรมันเข้ายึด ยอมจำนนต่อชาวนอร์มัน และตกเป็นเบี้ยล่างของฝรั่งเศส (ปัจจุบันอังกฤษเปิดฉากทำสงครามร้อยปีกับฝรั่งเศส และในที่สุดอำนาจของฝรั่งเศสก็จะหมดลงหลังการปราชัยหลายสมรภูมิ ในช่วงท้ายของสงครามร้อยปีปรากฎวีรสตรี ชานออฟอาร์ค ผู้กอบกู้ฝรั่งเศสที่เกือบจะล่มสลาย - แต่เรื่องราวเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น ตอนนี้สงครามร้อยปีเพิ่งเริ่ม)

นั่นคือ Steph ที่เพิ่งถูกปฏิเสธไป แต่พอเห็นบรรณาการข้าวปลาอาหารที่ Chao เอามาถวาย Anna ก็ยิ้มออกมา

"ข้าเชื่อว่าท่านมีความจริงใจและศรัทธาอย่างเปี่ยมล้นที่จะร่วมแรงกับเรา" ;)

Quote
"ดีจริง ๆ คราวนี้ข้าต้องลบข่าวลือผิด ๆ เรื่องโลลิได้แน่ ๆ"


กษัตริย์ Chao เข้าถวายบรรณาการด้วยตนเองและหวังว่าการเชื่อมสัมพันธไมตรีนี้จะส่งผลให้เขาเข้าใกล้ตำแหน่งจักรพรรดิแห่งไบแซนไทน์ เพราะหากว่าได้อถิเษกสมรสกับ Anna แล้วข้อข้องใจเรื่องที่พระองค์ทรงเป็นโลลิค่อนก็จะถูกแก้ไข



"นับแต่ครั้งแรกจนบัดนี้พระองค์ก็ยังคงงามสง่าและเข้มแข็งไม่เปลี่ยน" Chao ชวนเสวนาถึงเรื่องราวครั้งก่อนและเจตจำนงค์ของตนระหว่างร่วมเสวยพระกระยาหาร และได้พักที่นี่อยู่หลายวัน

กระทั่งวันรุ่งขึ้นม้าเร็วก็มาแจ้งข่าวถึงภัยคุกคาม
« Last Edit: October 18, 2016, 11:28:29 AM by Johan »

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #19 on: October 18, 2016, 12:19:31 PM »
Quote



กษัตริย์ Chao เรียกระดมพลด้วยกำลังรบที่ดีที่สุดของเขาอันประกอบไปด้วยราชินี Annie นักบวชสาว หมอ และนักฆ่า Milah
พวกเขาขึ้นไปบนกำแพงที่สูงตระหง่านของกรุงคอนสแตนติโนเปิลแล้วมองไกลไปยังผู้มาเยือนที่ขนเอาทัพอัศวินที่เก่งกล้าที่สุดมาเต็มอัตรา





Henrik เป็นผู้นำ โดยมีกษัตริย์ Diethelm ที่ยังไม่หายจากการบาดเจ็บสั่งการที่แนวหลัง
Diethelm มั่นใจเสียยิ่งกว่าอะไรว่า Henrik เพียงคนเดียวก็เก่งกว่าขุนพลทุกคนของ Chao รวมพลังกันเสียอีก
แต่มันก็ไม่แปลกหรอกนะ เพราะ Chao ก็รู้ดีว่าเขาต้องนำทัพเองเท่านั้นจึงจะต่อกรกับ Henrik ได้




"เข้ามาเลย พวกเจ้าจะได้รู้ซึ้งถึงแสนยานุภาพของจักรวรรดิโรมัน" จักรพรรดินี Anna โบกพัดขนหางนกยูงไปมาแล้วหัวเราะโฮะโฮะ


สงครามเปิดฉากขึ้นด้วยคาตาพัลต์(ประกอบฉาก)ของฝ่ายรับที่โจมตีจากหอรบบนแนวกำแพงและธนูเพลิงจากพลธนูที่กล้าหาญของ Chao เขาประเมินแล้วว่าอีกฝ่ายต้องสูญเสียเป็นจำนวนมากก่อนจะเข้ามาประชิดกำแพง ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าปะทะด้วยแต่เขาก็ประเมินพลาดไป ทหารราบหนักที่ใช้ดาบสองมือเป็นอัศวินชั้นยอดที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่เยอรมนีจะมีได้ พวกเขาป้องกันธนูได้ระดับหนึ่งและเข้าประชิดกำแพงได้อย่างรวดเร็ว

Henrik ขว้างดาบเสียบคอทหารบนเชิงเทินแล้วชักดาบอีกเล่มออกมาพร้อมร้องสั่งทหารให้บุกขึ้นกำแพง Chao เหวี่ยงขวานศึกฟันตัดคอทหารคนแรกที่ขึ้นไปได้แต่ก็สุดกำลังเกินที่จะทานเมื่อข้าศึกมีจำนวนมาก พลธนูบนแนวกำแพงต่อสู้ต้านทานล้มตายเป็นใบไม้ร่วงก่อนจะยึดกำแพงและเข้าสู่มหานครหลังจาก Diethelm ควบม้านำกองหนุนตามมา


ท่ามกลางความโกลาหนบนถนนในเมือง กองอัศวินม้าหนักไบแซนไทน์ชาร์จเข้าหาผู้รุกรานและเกิดการรบตะลุมบอนกันอย่างหนักหน่วง



Milah ก้มหลบแล้วยกกริชปัดเบี่ยงดาบเล่มที่สองของ Henrik แล้วผละออกจากการเข้าปะทะ ทั้งสองจดจ้องกันพักหนึ่งจน Henrik พลิกหลบคมดาบของทหารที่ฟันเข้ามาแล้วแทงสวน เปิดโอกาสให้นักฆ่าสาวโจนเข้าใส่แต่ก็ยังพลาดเป้าไปอีก ต่อสู้กันจนเริ่มหอบก็ไม่รู้ผล Henrik เชื่อว่าหากเธอคนนี้ได้เป็นอัศวินคงโด่งดังมีชื่อเสียงไม่แพ้กัน และในการเข้าปะทะสุดท้าย Henrik ใช้วิชามือเปล่าจับล็อคพยายามหักแขนของ Milah แต่โดนแก้ได้และถูกถีบออก

"ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของท่าน" ขาดคำนักฆ่าสาวก็เหวี่ยงดาบใส่และปามีดซัดบินตามไป

Henrik ที่หันกลับมาหลังหลบและป้องกันการโจมตีได้แต่ก็ไม่พบนางเสียแล้ว กระทั่งการรบดำเนินไปได้อีกไม่กี่นาที Henrik ก็รู้สึกเสียวแปลบที่อก


กองทัพ Latrun ได้ถอนทัพออกจากกรุงคอนสแตนติโนเปิลหลัง Diethelm ถูกธนูอาบยาพิษยิงเข้าที่หัวใจ
ผลการรบนี้จึงจบลงด้วยความปราชัยของฝ่าย Latrun ในมุมมองของฝ่ายไบแซนไทน์ที่โห่ร้องดังสนั่นลั่นเมือง




"พวกเราล้วนปราชัย" ราชินี Annie มองกองทัพที่ย่อยยับของทั้งสองฝ่ายแล้วกล่าวออกมา

Quote
Draw

« Last Edit: October 18, 2016, 12:23:44 PM by Johan »

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #20 on: October 18, 2016, 06:04:20 PM »


อนาโตเลีย

ตะวันออกของกรุงคอนสแตนติโนเปิลคือดินแดนที่เรียกว่า 'อนาโตเลีย' เรารู้กันดีว่าอนาโตเลีย (เอเชียไมเนอร์ หรือประเทศตุรกีปัจจุบัน) คือจุดกำเนิดของอารยธรรมมนุษย์ มันเปลี่ยนมือมาตลอดจนมาถึงยุคของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชที่ได้ครอบครองดินแดนแถบนี้ และมาถึงยุคของจักรวรรดิโรมัน กระทั่งโรมันแบ่งเป็นตะวันออกและตะวันตก โรมันตะวันออกคือจักรวรรดิไบแซนไทน์

แต่ที่สุดแล้วเซลจุกเติร์กก็รุกรานเข้ามายึดเอาดินแดนเหล่านี้ไป เกิดเป็นสงครามครูเสดที่แย่งชิงดินแดนทางใต้ของอนาโตเลีย แต่ดินแดนส่วนใหญ่ยังเป็นของเซลจุกเติร์ก และเมื่อจักรวรรดิเติร์กล่มสลายลงไปก็ประจวบเหมาะกับการโจมตีของจักรวรรดิมองโกลที่เข้ามากวาดล้างไล่ล่าชนชาติเติร์กที่ยังคงอยู่ในดินแดนแถบนี้

พวกมองโกลนั้นแปลก พวกเขาโจมตี กวาดล้าง เข่นฆ่า แต่กลับไม่ยึดครอง พวกเขาทำลายเมืองและทิ้งมันเอาไว้เสียมากมาย พวกเขาไม่นำเอาวัฒนธรรมและความเป็นมองโกลมาเผยแพร่ไม่พอ ซ้ำพวกเขาเองกลับถูกดูดกลืนไปกับวัฒนธรรมต่างแดน พวกมองโกลในแถบอนาโตเลียกลายเป็นมุสลิม ส่วนพวกมองโกลที่ไปโจมตีแถบฮังการีก็แต่งงานกับสตรีชาวคริสต์นับถือคริสตศาสนา




"พวกข้ามีชีวิตอย่างอิสระบนทุ่งหญ้า ใช้ชีวิตอย่างเสรีภายใต้กฎเกณฑ์ของเผ่า พวกข้าไม่มีสิ่งที่พวกเจ้ามี และพวกเจ้าก็ไม่มีในสิ่งที่ข้ามีเช่นกัน"

"เกียรติภูมิ? มันคืออะไร"

จอมทัพสุโบไตเป็นหนึ่งในสองจอมทัพผู้กล้าที่ได้รับตำแหน่ง 'ต้าร์ข่าน' เพียงสองคนเท่านั้น พวกเขามีอิสระในการสั่งการทุกสิ่งอย่างราวกับเป็นคำสั่งของเจงกีสข่าน ละเว้นโทษประหารในทุกกรณี และเข้าพบเจงกีสข่านได้ทุกเวลาโดยไม่ต้องนัดหมาย นั่นคือสถานะของต้าร์ข่านที่มีอำนาจอยู่เหนือโอรสของเจงกีสข่าน (ข่านทั้งหลาย) เสียอีก

สุโบไตไม่สนใจว่าข่านคนใดก็ตามจะไปตั้งรกรากอาณาจักรที่ใด แต่เขาจะนำพาพวกพ้องออกเดินทางเพื่อค้นหาดินแดนใหม่ ทั้งที่ได้สถานที่พักพิง ได้ศาสนายึดเหนี่ยวแล้วแต่กลับถูกขับไล่... มันก็มีแต่ต้องสู้เท่านั้นแหละ!



การรุกรานอย่างหนักของกองทัพอาณาจักร Ceacarea ส่งผลให้พวกมองโกลที่กระจายกันอยู่ในแถบอนาโตเลียถูกเข่นฆ่าและต้องหนีตายไปรวมกันที่แทรบซอน โดยหัวหน้าเผ่าต่างๆได้ไปขอความช่วยเหลือจากสุโบไตที่กุมอำนาจและยังมีกองทหารนับหมื่นในพื้นที่เล็กๆทางเหนือของอินเดีย แต่ระหว่างการอพยพไปบนถนนดินที่เป็นเส้นทางสายไหมชาวมองโกลก็ถูกโจมตีโดยกองทหาร Ceacarea อีกครั้ง




"พวกเจ้าจะหนีไปซบอิงขุนศึกผู้แพ้นั่น แต่ข้าพนันได้ว่าพวกเจ้าหนีไปพ้น" อย่างที่ Gabrielle ลั่นเสียง สุโบไตเคยพลั้งพลาดเสียท่าให้กับ Gertraud พี่สาวของเธอ

ชาวมองโกลส่วนใหญ่ไม่มีผู้นำที่เก่งกล้าซ้ำยังเป็นชนเผ่าหลายเผ่ากระจัดกระจายจึงง่ายดายที่กองทัพ Ceacarea จะกวาดล้างให้สิ้นซาก ณ ดินแดนอันเป็นต้นกำเนิดอารยธรรม
หากแต่ Gabrielle ประมาทเกินไป เธอไม่คิดว่าชาวคริสต์จะเข้าร่วมและเป็นพันธมิตรกับพวกมองโกล ข่าวไปถึงสุโบไตอย่างรวดเร็ว และเป็นอาณาจักร Versöhnung Hilarion ที่เข้าร่วมรบในครั้งนี้ด้วย

ธนูดอกหนึ่งยิงทะลวงฝ่าสายลมปักเข้าที่หัวหน้าอัศวินคนหนึ่งกลางหมวกเกราะตกไปจากหลังม้า
ดาบเล่มโตเหวี่ยงพาดบ่าพร้อมใครบางคนที่ควบม้าเซ็กเทาว์ออกมานำหน้าชาวมองโกลที่กำลังหนีตาย



"เข้ามา! แน่จริงเข้ามา!" จอมทัพสุโบไตแห่งมองโกลโห่ร้องแล้วใช้สองมือทุบอกราวกับบรรพบุรุษมีชาติกำเนิดเป็นกอริลล่า

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #21 on: October 18, 2016, 06:28:31 PM »
Quote



Schneidend แห่งอาณาจักร Versöhnung Hilarion ขออาสานำทัพรบเองเพราะกองม้าของสุโบไตยังมาไม่ถึง มีทั้งพระ นักบวช และแม่มดในกองทัพ
แต่สุโบไตตบบ่าเธอแล้วบอกว่า "พระเจ้าคงร่ำไห้หากพวกเจ้าชาวคริสต์รบกันเอง"
มันสร้างความประหลาดใจให้กับ Schneidend ที่มองว่าพวกมองโกลนั้นป่าเถื่อนและไม่สนใจพระเจ้า และสุโบไตก็ไม่รีรอฟังความเห็น นางควบม้านำพลหอกเข้าต่อสู้ทันที





ด้าน Ceacarea นำทัพโดยผู้นำสูงสุด เคานท์ Gabrielle พร้อมอัศวินคู่ใจ มาพร้อมกองทหารม้าหนักจำนวนมาก และทหารราบหอกที่ไม่น้อย


Gabrielle ดูจะโกรธเคืองที่ชาวคริสต์ด้วยกันไปช่วยเหลือพวกมองโกล แต่มากกว่านั้นคือนางมั่นใจในกองอัศวินของตนมากเกินไป การเข้าชาร์จสร้างความเสียหายยับเยินเมื่ออีกฝ่ายรู้จักยุทธวิธีนี้อย่างดี

สุโบไตสั่งพลหอกยาวตั้งแถวรับการชาร์จส่วนตนเองก็นั่งบนหลังม้าแล้วทุบอกราวกับเป็นกอริลล่า เสียงแผดร้องและเสียงคำรามนั้นราวกับเทพสงครามกระหายเลือด มันสร้างความอกสั่นขวัยแขวนให้ทั้งศัตรูและนักรบชาวคริสต์ด้วย



"เข้ามาเจ้าคนเถื่อน" Gabrielle มั่นใจในฝีมือ นางกระชับหอกแล้วควบม้าเข้าใส่สุโบไตที่ควบม้าสีแดงเข้าหาเช่นกัน

เพียงการปะทะกันครั้งแรก Gabrielle ก็ลอยออกจากหลังม้าและหมุนกลางอากาศอีกหลายรอบก่อนจะตกกระแทกพื้น นางพลิกตัวหลบปลายทวนอย่างหวุดหวิด ก่อนจะกลิ้งหลบการกระทืบของม้าเซ็กเทาว์
การตะลุมบอนของทหารสองฝ่ายดำเนินไปพร้อมกับการดวลของผู้นำทั้งสองฝ่าย โดยมี Schneidend รองผู้นำคอยสั่งทหารอยู่อีกด้านหนึ่ง



"เจ้าชื่ออะไร" สุโบไตยักไหล่แล้วเหวี่ยงตัวลงจากหลังม้า มองดูนักรบหญิงที่พยายามยันกายขึ้น

"เจ้าไม่มีค่าพอที่จะรู้นามของข้า" แต่นั่นคือคำตอบของ Gabrielle ผู้เย่อหยิ่ง

"ดี เจ้ากล้าหาญดี" พลันดาบในมือของสุโบไตก็เหวี่ยงเป็นวงอย่างดุร้ายฟันศีรษะของนักรบสาวขาดสะบั้น


"เจ้าหยุดข้าทำไม ชอลิ้วเฮียง" (Schneidend = ชอลิ้วเฮียง)
« Last Edit: October 18, 2016, 06:31:25 PM by Johan »

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #22 on: October 19, 2016, 01:44:16 PM »


ราชอาณาจักรอาร์มีเนียแห่งซิลิเชีย

ในอดีตกาลก่อนคริสตศักราช ราชอาณาจักรอาร์มีเนียเคยตั้งอยู่บนอนาโตเลียกินอาณาบริเวณกว้างใหญ่และค่อยๆเสื่อมไปตามกาลเวลากระทั่งล่มสลายลง จนหลายร้อยปีต่อมาหลังการเข้ารุกรานของเซลจุกเติร์ก ชาวอาร์มีเนียที่ยังตั้งรกรากอยู่ในอนาโตเลียได้หนีการรุกรานลงไปทางใต้ซึ่งเป็นดินแดนเล็กๆ และราชอาณาจักรซิลิเชียได้ก่อตั้งขึ้นโดยราชวงศ์รูเบเนียน (อาณาจักรนิวอาร์มีเนีย) เป็นอาณาจักรที่อยู่ทางตะวันตกของอันติออก ทางใต้ติดทะเลเมดิเตอร์เนียน

ระบบกษัตริย์ที่เข้มแข็งของซิลิเชียเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ไม่ใช่ศักดินาสวามิภักดิ์ที่นิยมอย่างกว้างขวาง (ฟิวดัล) พวกเขามีอำนาจจากศูนย์กลางที่เข้มแข็งซึ่งกษัตริย์จะออกคำสั่งกับขุนนางในพื้นที่ได้ จุดเด่นของซิลิเชียคือกองทหารม้าอาชีพซึ่งถูกฝึกฝนอย่างเป็นระบบ แตกต่างจากทหารม้าฟิลดัลทั้งหลายในยุโรปที่มาจากชนชั้นสูงและผู้มั่งมีซึ่งไม่มีระเบียบวินัยเช่นทหารอาชีพ

อาณาจักรซิลิเชียเป็นพันธมิตรสำคัญของนักรบครูเสด แม้จะไม่ใช่อาณาจักรครูเสดแต่ก็ถือตนเองว่าเป็นที่มั่นของคริสต์ศาสนจักรในตะวันออก มีเพื่อนบ้านอย่างอันติออกที่เข้มแข็งคอยสนับสนุนกันและกัน กระทั่งศาสนจักรระดมลี้พลไปรบในสงครามที่รัสเซีย อันติออกได้ขอให้ซิลิเชียเข้าร่วมรบด้วย ซึ่งผลที่ตามมาก็คือกำลังทหารกว่า 80% ที่ซิลเชียและอันติออกมีต้องละลายหายไปในสมรภูมินั้น
*การรบที่รัสเซีย http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=2110.msg189826#msg189826





ราชินี Cilicia แห่งราชอาณาจักรซิลิเชียเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ไม่นานกษัตริย์แห่งซิลิเชียก็สิ้นพระชมน์ ด้วยความที่อาณาจักรซิลิเชียก็ไม่ได้ใหญ่โตและแข็งแกร่งอะไรนักจึงตกเป็นเป้าหมายในการรุกรานทั้งจากชาวคริสต์และมุสลิมในแถบนี้

พระนางดูจะดีพระทัยมากทีเดียวเมื่อเห็นว่ามีผู้เข้าร่วมสนับสนุนและต้องการเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกันมากมาย แต่ก็อดหวั่นไม่ได้เลยกับกองทัพข้าศึกที่เข้าโจมตีอันติออกแล้วยกทหารเข้าประชิดป้อมปราการเมื่อเช้าวานนี้




"ร ร รบ เราต้องรบด้วยรึ" L0L
ราชินี Cilicia แม้จะมีการศึกษา เล่าเรียนมาอย่างดีถึงพิชัยสงคราม แต่นางออกจะมีนิสัยที่รักสันติเป็นอย่างมาก หรือขี้ขลาดนั่นเอง



"ถ้ากลัวนักก็ถอยไปซะ" Diethelm กษัตริย์อมตะถึกทะลุโลกที่โดนลอบสังหารมาหลายต่อหลายครั้งก็ยังหน้าด้านหน้าทนรอดมาได้จนบัดนี้กระเผลกออกมา
« Last Edit: October 19, 2016, 01:52:45 PM by Johan »

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #23 on: October 19, 2016, 02:36:44 PM »
Quote


เพราะเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บจากครั้งก่อนที่โดนธนูอาบยาพิษยิงเข้าที่หัวใจ Henrik จึงเป็นผู้นำ โดยมี Diethelm สั่งการที่แนวหลัง
กษัตริย์ Diethelm ทรงมั่นใจเสียยิ่งกว่าอะไรว่า Henrik เพียงคนเดียวก็เก่งกว่าขุนพลทุกคนของ Mary รวมพลังกันเสียอีก

"ข้าคนเดียวก็เก่งกว่าอลิสสักสิบคน" Henrik โม้จมูกยาวบ้าง





ได้ข่าวว่าแม่ทัพคนใหม่ของ Kolossi เก่งกล้าสามารถ ใช้เวลาเพียงวันเดียวก็ยึดอันติออกได้
กษัตริย์ Mary ดูจะไว้วางพระทัยมากถึงขนาดให้พระมเหสี Scarletta ขุนพลคนสำคัญ Jean และมือสังหาร Hassan ติดตามมาช่วยเหลือ


ป้อมปราการตะวันออกของซิลิเชียนั้นใหญ่โตและแข็งแกร่ง Diethelm ยืนอยู่บนแนวกำแพงมองไปไกลถึงแนวรบที่ขยายออกของข้าศึก ส่วน Henrik ลงไปขึ้นม้ารอคำสั่งที่หน้าประตูด้านนอก



"ที่นี่ไม่มีนาเลยสักผืน ข้าอยากรู้นักว่าพวกเจ้าขนเอาชาวนามาทำอะไรแถวนี้" Diethelm มองอีกฝ่ายที่มีแต่ทหารราบชาวนาอย่างไม่เข้าใจนัก
เขาพยายามคิดหาคำตอบของกลศึกต่างๆในการตีป้อมปราการนี้ที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เลย ต่อให้เจ้าหมวกเกราะนั่นเป็นอคิลลีสก็เถอะ เขาคงไม่บ้าจี้ลากเอาม้าไม้ประหลาดเข้าเมืองแน่

แต่แล้วเสียงที่ดังสนั่นจากแนวหลังของบังเกอร์ก็ระเบิดเอาหอรบด้านหนึ่งพังถล่ม



ตามด้วยเสียงคล้ายระเบิดอีกหลายครั้งที่ส่งเอาลูกเหล็กสีดำพุ่งเข้าใส่แนวกำแพง บ้างก็ลอยเข้าไปในป้อมปราการตกใส่หลังคาบ้านเรือน ทหารต่างแตกตื่นตกใจอลหม่านไม่แพ้เหล่าผู้นำในป้อม

Quote


ปืนใหญ่ ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดยผู้คิดค้นก็คือยอดนักฆ่า Hassan ที่ดัดแปลงมาจากปืนไฟกรีกผสมผสานกับเทคโนโลยีดินปืนของมองโกล




"ข้าคงไม่ต้องเสี่ยงตายกับเรื่องที่เป็นไปไม่ได้" Hassan เงยหน้ามองผลงานจากแนวหลังไกลลิบๆ
เธอไม่ใช่เทพเทวาที่จะแอบย่องเข้าไปฆ่าคนในป้อมได้ แต่เธอยังเล่นงานจากนอกป้อมได้

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #24 on: October 19, 2016, 02:53:16 PM »
Quote
การย้อนความของ Henrik: http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=2114.msg189063#msg189063



ท่ามกลางเสียงระเบิดและกำแพงที่พังถล่ม ทั้งสองฝ่ายเข้าประจัญบานกันอย่างไม่กลัวเกรงความตาย

Henrik พุ่งเข้าปะทะกับผู้นำของอีกฝ่าย ต่างฝ่ายต่างแทงหอกสวนกันจนตกจากม้าทั้งคู่ ขวานศึกของหัวหน้ากองม้ามัมลูกฟาดเข้าใส่จนดาบของ Henrik หักคามือ กำปั้นที่เหวี่ยงซัดใบหน้าจนเธอหมุนไปสองรอบนั่นมันช่างคล้ายกันจริงๆ ดวงตาที่มุ่งมั่นภายใต้หมวกเกราะนั้นคือใครกัน

โล่ถูกยกขึ้นมารับขวานแล้วเท้าของ Henrik ก็ถีบอีกฝ่ายผงะถอยไปก่อนที่เขาจะเสือกหอกเข้าใส่ หอกพลาดเป้าไปและถูกสวนมาด้วยดาบโค้ง ต่างฝ่ายต่างต่อสู้กันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะรู้ผล กระทั่ง Henrik ถูกฟันดาบหลุดจากมือจึงพลิกตัวล็อคแขนอีกฝ่ายแล้วทุ่มลงพื้นจนหมวกเกราะหลุดออกจากศีรษะ



"พวกข้าต่อสู้เพื่ออิสรภาพ แล้วเจ้าในเวลานี้ล่ะต่อสู้ไปเพื่ออะไร" อัยบัก ยอดนักรบแห่งอียิปต์ได้เข้ามาช่วย Mary ในสงครามนี้ที่ต้องการทดสอบแสนยานุภาพของปืนใหญ่



"ข้าน่ะ..." Henrik ยังไม่ทันจะได้ให้คำตอบพลันกระสุนปืนใหญ่ก็ลอยมาตกใส่ร่างของเธอ




ผลการรบไม่ปรากฎปาฏิหาริย์แก่ฝ่ายผู้มาเยือน ชัยชนะตกเป็นของ Latrun ในขณะที่ฝ่าย Kolossi ก็สูญเสียความลับเรื่องปืนใหญ่ไป

ได้ยินว่า Henrik ใช้ลมหายใจสุดท้ายขอร้องอย่ายิงธนูใส่อัยบัคที่กำลังหลบหนี เป็นเหตุให้อัยบัครอดกลับไปได้

Quote
Latrun Win


Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #25 on: October 19, 2016, 05:50:05 PM »


ราชรัฐไซปรัส

เดิมไซปรัสเป็นเกาะในดินแดนของจักรวรรดิไบแซนไทน์ อยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางใต้ของอนาโตเลีย และทางตะวันตกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์

หลังการรุกรานของเซลจุกเติร์กส่งผลให้จักรวรรดิไบแซนไทน์เสียดินแดนไปมากมาย ไซปรัสยิ่งอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางจึงพยายามตั้งตนเป็นอิสระหลายครั้ง คณะอัศวินฮอสพิทัลเลอร์ก็เคยเข้ามาที่นี่ พวกเขาต้องการไซปรัสเป็นฐานที่มั่นแต่ก็จำต้องย้ายออกไปเมื่อไม่ลงรอยกับข้าหลวงผู้ปกครองเดิม แต่คณะก็ได้สร้างป้อมปราการและสถานพยาบาลไว้มากมายที่นี่ จนกระทั่งข้าหลวงแห่งไซปรัสประกาศตนเป็นจักรพรรดิแห่งไบแซนไทน์พระองค์ใหม่ เปิดโอกาสให้กษัตริย์ Louis แห่งฝรั่งเศสประกาศล้มล้างจักรพรรดิกำมะลอ นำกองเรือเข้าบุกโจมตีและยึดเอาไซปรัสเป็นฐานที่มั่นของครูเสดทันที

มีป้อมปราการเพิ่มมากขึ้นเมื่อฝรั่งเศสเข้าครอบครองดินแดนนี้ แต่ที่สุดแล้ว Louis ก็ขายมันให้ Richard ก่อนที่ Richard จะขายมันให้คณะอัสวินเทมพลาร์ เมื่อเทมพลาร์ถูกยุบเกาะจึงตกเป็นของคณะอัศวินฮอสพิทัลเลอร์ หรือในชื่อใหม่คือคณะอัศวินแห่งมอลต้าที่ไม่ค่อยสนใจเกาะนี้เท่าไรนักอันเนื่องมาจากเป็นยุทธศาสตร์ที่ห่างไกลเกินกว่าจะดูแลรักษาได้โดยง่าย เพราะศูนย์กลางของอัศวินแห่งมอลต้าอยู่ถึงเกาะมอลต้า



เคาน์เตส Rosane หรือ Master of Knight Malta คือผู้ปกครองของที่นี่ นางเป็นสตรีที่งดงามแต่ก็ดูเย็นชาและน่าขนลุกกับพฤติกรรมแปลกๆที่ผิดศีลธรรม เล่าลือว่านางนับถือซาตาน และมีลัทธิซึ่งก่อตั้งขึ้นอย่างลับๆ

หลังการถวายบรรณาการขอเป็นพันธมิตรนางก็ตอบรับและส่งจดหมายเชิญร่วมงานเลี้ยง แต่กลับมี Steph เท่านั้นที่มาร่วมงานนี้ นั่นเองที่ทำให้ Steph รู้ความลับของ Rosane ในค่ำคืนที่หนาวเย็นของฤดูหนาวริมเตาผิงถ่าน



"เจ้าว่ากระไร..." Rosane ทวนถาม หลังม้าเร็วเข้ามารายงานถึงกองเรืออาณาจักร Kolossi บุกเข้าโจมตีท่าเรือ
ซึ่งหากบุกเข้ามาก็น่าจะไปถึงป้อมปราการฟามากัสต้าที่นับว่าเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งทีเดียว เคาน์เตสจึงไม่มีทีท่าหวาดหวั่นอะไรนัก

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #26 on: October 20, 2016, 09:32:25 PM »
สุ่มลำดับพันธมิตรใหม่
Spoiler for Hiden:
Jason the King of Servantikar
Rodrigue Chao Brisbois the King of Principauté de Casal
Schneidend von Versöhnung Hilarion : Count of Germany
Steph of Kyrenia : Earl of England
Rolled 4d1000 : 974, 395, 234, 768, total 2371

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #27 on: October 21, 2016, 10:49:43 AM »
Quote

กองทัพ Kyrenia อาสาป้องกันดินแดน นำโดยเอิร์ล Athela ขุนนางคนสนิท เลดี้ Tania และแม่ทัพใหญ่ Agnes มาพร้อมพลธนูที่อังกฤษภาคภูมิใจและพลหอกอีกจำนวนหนึ่ง




Alice Schuberg ไม่ได้เข้าร่วมรบที่สมรภูมิอาร์มีเนียนั่นก็เพราะเธอรับคำสั่งให้มาโจมตีไซปรัส โดยนำปืนใหญ่มาทดสอบที่นี่พร้อมชาวนาเช่นกัน ซึ่งคนในชุดเกราะที่มาด้วยก็ไม่แน่ใจได้เหมือนกันว่าเป็น Mary หรือแค่เงา


Kyrenia เปิดฉากโจมตีก่อนด้วยเครื่องเหวี่ยงหินขนาดใหญ่อย่างเทรบุเชต ทำเอา Mary หายไปจากสนามรบ แต่ Alice Schuberg ก็ไม่ได้ใส่ใจนัก กลับสั่งยิงปืนใหญ่ตอบโต้จนกำแพงป้อมปราการพังถล่ม



"สิ่งที่เจ้ามีใช่ว่าเราจะไม่มี" Tania สั่งการยิงปืนใหญ่สวนมาจากแนวหลังและยิงโต้กัน แต่ไม่เพียงเท่านั้น Agnes ยังสั่งให้พลระเบิดมือพลีชีพยกโล่วิ่งลุยเข้าไปปาระเบิดใส่เป้าหมายในระยะกลาง ทั้งปืนใหญ่ เครื่องเหวี่ยงหิน แล้วยังระเบิดมือ มันทำเอาชาวนาของ Kolossi ล้มตายแตกกระเจิงไปหมดสิ้น Alice Schuberg ทำได้แค่เพียงสั่งถอนทัพออกจากสมภูมิทั้งที่ตนเองยังไม่ได้ฟันข้าศึกเลยสักคนเดียว

Quote
Kyrenia Win


Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #28 on: October 21, 2016, 10:50:30 AM »


"صلاح الدين الأيوبي - رحمه الله."

"นามของเราคือ เศาะลาฮุดดีน อัล อัยยูบีย์ มีชื่อเต็มว่า เศาะลาฮุดดีน ยูซุฟ อิบน์ อัยยูบ"
"บางครั้งก็ถูกเรียกว่า อัลมาลิก อัลนาศิร เศาะลาฮุดดีน ยูซุฟ"

"ท่านจะเรียกขานเราอย่างไรก็ได้ เช่นที่กษัตริย์ริสาเรียกเราว่า ซาลาดิน"

Spoiler for Hiden:

"ถ้าเจ้าไม่พอใจก็บอกข้าสิ บอกข้าดีๆก็ได้"
ผู้นำการเรียกชื่อ เศาะลาฮุดดีน กลายเป็น ซาลาดิน

Richard the Lionheart (ริชาร์ด = ริสา)
ปัจจุบันแม้มุสลิมในดินแดนแถบนี้จะไม่ได้รวมตัวกันเป็นอาณาจักรใหญ่หรือจักรวรรดิ แต่ Saladin ก็ปกครองบ้านเมืองได้อย่างร่มเย็น
ดินแดนมุสลิมในปัจจุบันประกอบไปด้วยอียิปต์ ซีเรีย ปาเลสไตน์ และเปอร์เซีย ที่รวบอำนาจการปกครองไว้ที่สุลต่าน Saladin เพียงผู้เดียว

กล่าวคือ Saladin เป็นกษัตริย์สี่แผ่นดิน

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #29 on: October 21, 2016, 10:51:52 AM »
อันมาจาก Saladin ไม่ได้มุ่งเน้นที่จะป้องกันตนเอง กองกำลังซาราเซ็นจึงไปอยู่ที่อียิปต์เสียเกือบทั้งหมด การประกาศสงครามกับฝ่ายมุสลิมจึงเปิดฉากขึ้นพร้อมกับการเสียเมืองอาเลปโปและดามัสกัสไปในเวลาเดียวกัน โดยสองกษัตริย์ Diethelm และ Mary ที่ต้องการเป็นใหญ่ในดินแดนแถบนี้

อาเลปโปเป็นเมืองใหญ่ และดามัสกัสคือเมืองหลวงของซีเรีย การเสียสองนครแห่งนี้สร้างความตื่นตระหนกและเสียหน้าให้กับชาวมุสลิมในชนชั้นปกครองเป็นอย่างมาก พวกเขาร้องขอให้สุลต่าน Saladin ประกาศสงครามกับพวกคริสต์แทบจะทันที และราวกับพวกเขาในบางกลุ่มเพียงแค่รอผู้จุดเพลิงนี้ พวกเขาโหมกระพือให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วด้วยการส่งอิหม่ามและตัวแทนออกประกาศทั่วทุกหัวเมืองถึง 'ฌิฮาด' หรือ 'สงครามจันทร์เสี้ยว' การรบเพื่อต่อต้านทำลายล้าง 'ผู้ปฏิเสธ'

การบิดเบือนคำสอนทางศาสนาได้ผล ประชาชนได้หลงเชื่อว่าสงครามจันทร์เสี้ยวคือสิ่งที่ถูกต้องที่จะช่วยให้พวกเขาบริสุทธิ์และชอบธรรม พวกเขาได้รับอนุญาตจากพระองค์อัลลอฮ์ให้ต่อสู้



"โอย พอแล้ว พอๆ เราเข้าใจแล้ว รบก็รบ" สุลต่านแห่งโลกมุสลิมไม่อาจทัดทานแรงกดดันได้ พระองค์แม้ไม่ต้องการแต่ก็จำต้องทำ

ไม่มีใครสั่งกษัตริย์ได้ แต่กษัตริย์ไม่อาจปฏิเสธเสียงเรียกร้องของประชาชน

"เอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเราไปบริจาคเสีย หมวกเกราะนี่ และชุดเกราะด้วย เราไม่จำเป็นต้องใช้มัน"

"ส่วนเจ้าอัสซาลีห์ เราไล่เจ้าออก เจ้าไม่ใช่องครักษ์ของเราอีกแล้ว"


"ห๊ะ" L0L

Offline Johan

Re: [HL] Chapter XIII บทสรุปของยุคสมัย
« Reply #30 on: October 21, 2016, 11:16:06 AM »
Mary แห่งอาณาจักร Kolossi ได้ประกาศจะก่อตั้งจักรวรรดิยิวขึ้นมาบนดินแดนแถบนี้ทั้งหมดหลังยึดเอานครดามัสกัสไปได้ และเปิดฉากโจมตียึดเอาหัวเมืองและดินแดนต่างๆอย่างอหังการ ไพร่พลกว่า 2 แสนของ Kolossi แม้จะเป็นทหารราบและชาวนาจำนวนมากแต่มีผู้นำที่เข้มแข็งและขุนพลที่เก่งกล้าอย่าง Alice และอัยบัค สิ่งที่ Mary ตรัสออกมานั้นไม่ได้ห่างไกลความเป็นจริง

ในขณะเดียวกัน Henrik ก็รับพระบัญชาจากนายหัว Diehelm แห่ง Latrun ให้นำกองทหารกว่า 8 หมื่นบุกเข้ายึดดินแดนโดนรอบอาเลปโปและตรึงกำลังในดินแดนที่ยึดมาได้ซึ่งเป็นดินแดนของซีเรียเกือบทั้งหมด มีการปะทะกับฝ่าย Kolossi ประปราย แต่ที่หนักหนากว่านั้นคือ Henrik ต้องสูญเสียนายหัวอันเป็นที่รักยิ่งในเวลาต่อมาเมื่อมือสังหารของกษัตริย์ Jason แห่งอาณาจักร Servantikar บุกเข้าลอบปลงพระชนม์ถึงห้องบรรทม

Diehelm สิ้นพระชนม์


Henrik ที่โกรธแค้นเป็นอย่างมากได้รวบรวมไพร่พลยกทัพเข้าโจมตี Servantikar ทันที โดยที่กษัตริย์ Jason ก็กล้าหาญพอจะนำทัพออกมารบด้วยพระองค์เอง



"ดูๆไปเจ้าก็น่ารักดี ข้านึกอยากได้เจ้ามาเป็นขุนพลของข้าเหลือเกิน" Jason เหวี่ยงโล่ใส่แล้วถอยออกหลังจากดวลดาบกับ Henrik ได้ไม่กี่ดาบ
สายตาและรอยยิ้มที่กรุ้มกริ่มของ Jason ยิ่งจุดเพลิงแค้นให้กับ Henrik เธอพุ่งฝ่าองครักษ์เข้าไปหมายบั่นคอ Jason ให้ได้แต่ใครบางคนก็โจนเข้าใส่เสียก่อน



"พระเจ้าได้เลือกแล้ว เขามาได้เพียงเท่านี้" Lala มือสังหารเอกของ Jason ควงมีดดามัสกัสสองเล่มในมือ ซึ่ง Henrik คงไม่อาจรู้ว่านั่นคือศาสตราวุธที่ใช้ปลงพระชนม์นายหัวของนาง



"พระเจ้าของเจ้ากับพระเจ้าของข้าคงเป็นคนละคนกัน" พูดจบ Henrik ก็ยกดาบรับดาบของอัศวินที่โถมเข้ามาแล้วพลิกฟันปลิดชีพอัศวินคนนั้นก่อนจะหันไปประมือกับ Lala ที่ฝีมือร้ายกาจไม่ได้เป็นรองเธอเลยสักนิด

ทั้งสองประชันอาวุธและแลกวิชากันอยู่นานก็ไม่รู้ผลกระทั่ง Jason สั่งถอนทัพเมื่อเห็นว่าทั้งสองฝ่ายสูญเสียอย่างหนักและไม่มีเหตุผลที่เขาต้องรบจนวอดวายไปมากกว่านี้
Henrik แม้จะโกรธแค้นแต่ก็หาได้เสียสติสัมปชัญญะ เธอไม่คิดจะนำทหารที่เหลือเพียงน้อยนิดไล่ตามไปในดินแดนที่มีแต่บึงอย่างแน่นอน



Mary แห่งอาณาจักร Kolossi เบิกพระเนตรกว้างเมื่อทราบข่าวบางอย่าง และอึดใจต่อมาก็กดคิ้วลงแล้วคลี่ยิ้ม



"ลองดูก็แล้วกันว่าพระเจ้าจะเลือกใคร"
« Last Edit: October 21, 2016, 11:36:12 AM by Johan »