Topic: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo (Read 17503 times)

Johan · « **on:** July 20, 2015, 11:32:41 AM »

Dara Level 45

HP 4/4	SP 3/3	Skl 3	Inv 3	Ltc 3
Int 4+2	Str 0	Vit 3	Agi 4	Acc 4
Lds 4	Fth 4	Mrl 0	Eft 4	Chr 3

Skill - Philologist: มีความรู้ความเข้าใจในทุกภาษา Ⓟ [Nature] ۞
Skill - Intelligence: Int +2 Ⓟ [Nature]
Item - Epoch: ยานขนาดเล็ก R.Atk 4 Def +3 HP 5, บินได้เร็ว ขนาดใหญ่ ⇄ [Innovation]
Item - Absolute Defense System: ระบบสร้างสนามพลัง Guard 5 ⓞ [Innovation] [1/3]
Item - Glasses Scan: แว่นมองทะลุสิ่งของที่หนาไม่เกิน 1 เมตร [Innovation] [2/2]

Johan · « **Reply #376 on:** November 08, 2015, 09:49:01 AM »

Quote

Oceana สถานะผู้นำกลุ่มดาว Blue Ocean

เธอเป็นหนึ่งในผู้นำระดับแนวหน้าของกาแล็คซี่ Paix ที่มีทั้งพลังและแสนยานุภาพในมือ
ด้วยอำนาจและพลังบางอย่างยังผลให้เธอมีอายุไขใกล้เคียงกับคำว่า อมตะ นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่เธอมีชีวิตยืนยาวในลักษณะสตาฟอายุขัย
Dara ที่หลุดออกมาจากช่องว่างมิติตกลงมากลางป่าใกล้ลำธารและเศษซากของวิทยาการ เขาได้พบกับคนที่เขาอยากพบเข้าที่นี่ ในป่านี้

เธอยืนอยู่บนซากโลหะที่ปกคลุมด้วยเถาวัลย์เลื้อยและพืชขนาดจิ๋วที่เกาะกันเป็นแผ่นเขียว

"มันดูเหมือนสิ่งแปลกปลอมของธรรมชาติที่ธรรมชาติพยายามจะร่วมประสานมันเข้าเป็นหนึ่งเดียว"
"ธรรมชาติไม่ได้มุ่งหวังทำลายมัน แต่พยายามที่จะดึงมันเข้าสู่สภาพเดิมของธรรมชาติ"

แล้ว Oceana ก็แปรสภาพเป็นรูปลักษณ์ที่ Dara เคยเห็นผ่านมุมมองของ Momo

"ตอบฉันได้ไหมว่าอะไรคือความต้องการที่แท้จริงของพวกเรา... สิ่งมีชีวิตตัวจ้อยแห่งจักรวาลที่ไพศาล"

Spoiler for Hiden:

Star · « **Reply #377 on:** November 08, 2015, 10:52:01 PM »

"..."

ทำไมผมถึงต้องมาตอบคำถามปรัชญากับคนที่เพิ่งเจอกัน (ตัวต่อตัว) เป็นครั้งแรกด้วยเนี่ย?

แม้เด็กชายจะคิดอย่างนั้นก็จริง แต่เขาก็รวบรวมความคิดเท่าที่เด็กคนหนึ่งจะคิดได้...ถึงอย่างไรเขาก็เคยผจญภัยไปตามที่ต่าง ๆ มาหลายต่อหลายครั้ง
บางทีนะ...ประสบการณ์น่าจะช่วยเขาเรื่องนี้ได้บ้าง...ไม่มากก็น้อยละน่า...

"อืม...'อะไรคือความต้องการที่แท้จริงของพวกเรา... สิ่งมีชีวิตตัวจ้อยแห่งจักรวาลที่ไพศาล?' สินะครับ...ถ้าเรื่องนั้นละก็..."

"ไม่มีหรอกครับ ของแบบนั้น"

"จะว่ายังไงดีละ...จากประสบการณ์การเดินทางของผมแล้ว ไม่ว่าใครก็ล้วนแต่มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป...จะว่าไปแล้วเกือบทั้งหมดก็ล้วนแต่มีจุดร่วมประมาณว่า 'ต้องการความคงอยู่' อะนะ...เพราะถ้าไม่คงอยู่ เราจะทำอะไรไม่ได้เลย...อืม...พูดให้มันดูยากทำไมน้า ความจริงก็หมายความว่า 'อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป' นั่นแหละ..."

"เพียงแต่ว่า...การคงอยู่แต่เพียงอย่างเดียวมันไร้ความหมายน่ะครับ...ถ้าเป็นตัวคุณที่อาศัยอยู่ในจักรวาลนี้มานานก็น่าจะมีความรู้สึกทำนองว่า 'ชีวิตมันไร้ความหมาย' บ้างแหละน้า ถ้าจะถามผมว่าผมรู้เรื่องนั้นได้ไงละก็...ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะเชื่อผมไหม แต่ผมกับคุณเคยพบกันมาก่อนแล้วเมื่อหนึ่งพันปีก่อน...ถึงตอนนั้นจะพบกันคนละรูปแบบก็เถอะ"

"ถ้าหากว่าการคงอยู่อย่างเดียวมันไร้ความหมาย แล้วทำยังไงถึงจะมีความหมาย...ก็ต้อง 'ค้นหา' ไม่ก็ 'สร้างมันขึ้นมา' แหละครับ...บางคนก็สร้างผลงานศิลปะชิ้นเอก...สร้างตัวตนใหม่ออกมา บางคนก็ออกไปรบแล้วตายในสนามรบอย่างมีเกียรติสำหรับเขา...จารึกตัวตนของตนเอาไว้ในประวัติศาสตร์ แม้ว่าอาจจะเป็นแค่ในฐานะพลทหารที่คนสำคัญเท่านั้นที่จำก็ตาม บางคนก็เคยมีความทุกข์ในการดิ้นรนคงอยู่ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา ต่อมาเมื่อมีความสุขในชีวิตแล้วก็คิดจะสนับสนุนผู้ที่เดือดร้อนในการเอาชีวิตรอดเช่นเดียวกับตนบ้าง บางคนก็พลาดพลั้งหรือถูกบังคับให้เข้าไปอยู่ในวงจรอุบาว์ ทำให้อยากจะเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น บางคนก็รู้สึกว่าชีวิตที่มีเกิดแก่เจ็บตายแบบนี้มันเฮงซวยจึงออกบวชเพื่อหลีกหนีชีวิตแบบนั้น หรือบางคนอาจจะ...ขอแค่มีชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างเรียบง่ายและมีความสุขก็เพียงพอแล้ว"

"พูดง่าย ๆ ก็คือ ผมมองว่าคำถามของคุณมันกว้างเกินไปนะ... 'สิ่งที่ต้องการจริง ๆ ' หรือ? ของแบบนั้นมันก็แค่การเหมารวมนี่ครับ? แม้ว่าทุก ๆ คนจะมีความต้องการพื้นฐานว่า 'ไม่อยากตาย' ก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องการหลังจากความ 'ไม่อยากตาย' นั้นแตกต่างกันออกไป"

"จะว่าไปแล้วก็ขอถามกลับบ้างละครับ ทำไมคุณถึงถามอะไรแบบนี้กับผมล่ะ? เพราะคุณรู้สึกว่าการคงอยู่อันยาวนานของคุณมันไร้ความหมายอย่างนั้นหรือ?"

Johan · « **Reply #378 on:** November 10, 2015, 10:24:27 AM »

Flashback
http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1617.msg164935#msg164935

เราออกมาจากกาแล็คซี่ Rexus ด้วยโครงการ STARLIGHT เพื่อสำรวจอวกาศ
หากเปรียบการสำรวจอวกาศคือการดำรงอยู่ ทุกคนที่ 'เลือกเดินทางออกมา' ก็ย่อมจะถูกเรียกว่า 'เลือกที่จะดำรงอยู่' ถูกต้องไหม

เมื่อเลือกที่จะดำรงอยู่ แต่ละคนก็จะมีความคิดที่จะสร้างความหมายให้กับตัวตนต่างกันออกไปอย่างที่ Dara ยกตัวอย่างมา
Oceana บอกว่าเธอมองภาพทุกอย่างเหมือนกับวิดีโอที่ฉายซ้ำ เมื่อเราพยายามที่จะดำรงอยู่ เรากลับต้องทำลายสิ่งต่างๆ เบียดเบียนสิ่งต่างๆ

เราเลี้ยงวัวเพื่อให้มันเล็มกินหญ้าในทุ่ง
เรากินเนื้อสัตว์และมีสัตว์ที่ต้องตายไป
เราต่อสู้ปกป้องไปพร้อมกับทำลายอีกฝ่าย
การยืนอยู่บนเกียรติยศของเราต้องการหมอนที่เรียกว่าซากศพมารองรับใต้เท้าที่เราเหยียบย่าง

เพียงเพื่อการพยายามจะดำรงอยู่ของ Paix กลับยังผลให้เราต้องทำลายล้างผู้อื่น
หากความต้องการที่แท้จริงของพวกเราคือการดำรงอยู่ พวกเราคงไม่อาจหลีกเลี่ยงการทำลาย ใช่ไหม?

"เกิด แก่ เจ็บ ตาย เราไม่อาจหนีพ้นวังวนนี้หากเรายังคงดำรงอยู่ในเอกภพ ฉันได้ตระหนักถึงมัน และฉันอยากรู้คำตอบของเธอ"

Oceana เงียบไป และบอกต่อว่าเธอใช้ชีวิตที่ว่างเปล่ามาหลายร้อยปีแล้วเพื่อศึกษาและค้นหาทางออก

"การดำรงอยู่ที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีสงคราม ไม่มีความตาย มีเพียงสันติสุขที่เป็นนิรันดร์"

"ฉันพบมันแล้ว แล้วเธอล่ะอยากเห็นมันไหม"

Star · « **Reply #379 on:** November 11, 2015, 11:10:52 PM »

"..."

"ผมคิดว่านั่นน่าจะเป็นหนึ่งในตัวอย่างนะ"

Quote

บางคนก็รู้สึกว่าชีวิตที่มีเกิดแก่เจ็บตายแบบนี้มันเฮงซวยจึงออกบวชเพื่อหลีกหนีชีวิตแบบนั้น

"เท่าที่ผมรู้มา วิธีเดียวที่จะไม่เบียดเบียนผู้อื่นก็คือการไม่มีตัวตนอยู่"

"แต่ถ้า...คุณจะบอกว่ามีการคงอยู่ที่แสนจะอุดมคติขนาดนั้นละก็..."

"นำเสนอให้ผมดูหน่อยสิ!"

Johan · « **Reply #380 on:** November 12, 2015, 04:07:16 PM »

ต่อให้ออกบวช แต่ก็ต้องกิน ต้องสร้างมลพิษ ทั้งลมหายใจ กระทั่งการขับถ่าย
สิ่งมีชีวิตที่ยังคงอยู่ใต้กฎเกณฑ์ของเอกภพล้วนแต่ไม่มีวันหลุดพ้นจากวังวนของการเบียดเบียนสิ่งใดๆ

"และอย่างที่เธอเข้าใจ แต่ก็ไม่ถูกนัก เราจะมีตัวตน แต่เราจะไม่อยู่ใต้กฎเกณฑ์ของเอกภพ ใต้กฎของจักรวาล"
"เราจะเป็นตัวตนของทุกสิ่งทุกอย่าง เราจะเป็น... จักรวาล"

Spoiler for Hiden:

Quote from: Johan on November 10, 2015, 04:33:08 PM

พระองค์ทรงประทานพรวิเศษให้แก่ผู้หมั่นกระทำความดี และยึดมั่นในศีลธรรม
หากผู้ใดประพฤติเพื่ออุทิศถวายแก่พระองค์แลปรารถนาสิ่งวิเศษใด พระองค์จะประทานพรนั้น
เมื่อได้พรสมปรารถนาแล้ว ภายภาคหน้าหากกระทำผิดไปจากความดีงาม ผู้นั้นจะเกิดวิบัติในชีวิต

มีความเชื่อกันว่าพระศิวะนั้น สามารถช่วยปัดเป่ารักษาเยียวยาอากาศเจ็บไข้ได้ป่วยต่าง ๆ ได้อย่างมหัศจรรย์นัก หากผู้ใดที่เจ็บป่วยหรือต้องการขอพรให้คนในครอบครัวหายเจ็บไข้ได้ป่วย
ถ้ากระทำการบวงสรวงบูชาและขอพรจากพระศิวะ ก็มักปรากฏว่าความเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นถูกปัดเป่าให้หายไปได้โดยสิ้นในเร็ววัน
พระองค์เป็นเทพที่จะคอยขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้ห่างไกล และทำให้เกิดความดีงามเป็นศิริมงคลเกิดขึ้น ผู้ที่มีความทุกข์ไม่ว่าจะเป็นในทางใด
หากบวงสรวงบูชา ขอพรให้พ้นทุกข์ พระศิวะก็จะประทานพรให้ผู้นั้นได้พ้นจากห้วงแห่งความทุกข์ด้วยเช่นกัน

พระศิวะนั้นเป็นเทพที่จะอำนวยพรประทานความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้ที่มีอาชีพเลี้ยงวัว เลี้ยงม้า หรือเลี้ยงแกะ
และอาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรทั้งปวงก็จะมีความสำเร็จและมีความสมบูรณ์พูนสุข หากบวงสรวงบชาพระศิวะ

พระศิวะ ผู้เป็นพระเป็นเจ้าแห่งการทำลายล้าง พระองค์เปี่ยมไปด้วยอำนาจ พระพักตร์ของพระองค์แสดงให้เห็นว่าเป็นทั้งชาย เป็นทั้งหญิง เป็นทั้งผู้ใจดี เป็นทั้งผู้ดุร้าย
จากชิ้นฝุ่นธุลี ไปจนถึงภูเขาหิมาลัย จากมดตัวเล็ก ๆ ไปจนถึงช้างตัวใหญ่ จากมนุษย์ไปจนถึงพระเป็นเจ้า อะไรก็ตามที่เราสามารถเห็นได้นั้น เป็นรูปแบบของพระศิวะทั้งหมด

บุคคลผู้มีสติปัญญาทุก ๆ คนควรพิจารณาถึงตัวเอง และสิ่งทั้งหลายของสากลโลกเป็นรูปแบบของพระศิวะทั้งสิ้น
เมื่อคิดระลึกได้อย่างนี้แล้วผู้นั้นก็จะเข้าถึงความสุขความสงบ

ณ สถานที่อันห่างไกล...

"หากตอบตกลงก็คงไม่แคล้วกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง หรือก็คือทุกคนกลายเป็นพระศิวะ และพระศิวะก็คือทุกคน"
"โลกที่สงบสุข ไม่มีสงคราม ไม่มีความตาย ก็คือโลกที่ทุกคนเป็นสิ่งเดียวกัน เป็นคนคนเดียวกัน เป็นเหมือนๆ กันหมด ไม่มีสิ่งใดแตกต่าง"
"ในเมือไม่แตกต่าง ก็ไม่ต้องแตกแยก ไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องการสิ่งใดเลยเพราะตัวเองคือทุกสิ่งอยู่แล้ว"

"ผู้ที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์แห่งจักรวาลจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากจักรวาลแห่งนั้น หรือ... Ruler"

"Ruler คือตัวตนของจักรวาล ทุกสิ่งทุกอย่าง Ruler จะกำหนดขึ้น"
"พวกเขากำลังจะเป็นพระเจ้าของจักรวาลนั้น แต่พวกเขาไม่มีวันทำมันได้ ไม่มีใครที่จะมีอำนาจเหนือกฎแห่งจักรวาล"

Johan · « **Reply #381 on:** November 14, 2015, 02:00:28 PM »

บอกกล่าวสิ่งที่ต้องการในเวลานี้ ภายใต้เงื่อนไขของพลังแห่งจินตนาการที่อยู่เหนือเหตุผลและความรู้ใดๆ ~~= เพ้อเจ้อ~~

Star · « **Reply #382 on:** November 14, 2015, 02:10:43 PM »

องค์ความรู้ทั้งปวงของจักรวาลนี้ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดจบ

Johan · « **Reply #383 on:** November 15, 2015, 05:49:23 PM »

การเชื่อมต่อกับกาแล็คซี่และรวมร่างกับกาแล็คซี่เพื่อกลายเป็นแสงสว่างที่เจิดจ้าไม่ใช่สิ่งที่เกินกำลังของชาว Rex ที่ถูกพระเจ้าแห่งเอกภพกำหนดให้พวกเขามีพลังอำนาจที่อยู่เหนือเหตุและผล
ชาว Rex คือที่สุดของสิ่งมีชีวิตที่จะพัฒนาไปเป็นผู้ครอบอวกาศ ไม่มีว่าอวกาศจะกว้างใหญ่สักเพียงใด จะมีชนเผ่าใดกำเนิดขึ้นมาอีกสักเท่าไร หรือจะผ่านไปอีกสักกี่ล้านๆปีก็ตาม

ไม่มีสิ่งใดจะมาหักล้างกฎข้อนี้ กฎที่ถูกเขียน และกำหนดขึ้นมาโดยจักรวาล

พิสูจน์มันให้ฉันเห็นถึงความมุ่งมั่นนั้นสิ

เสียงนั้นดังก้องอยู่ในหัวของคุณ มันเป็นเสียงที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด

'ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีกฏตายตัวของมันอยู่ อยู่ที่ว่าพวกเราจะเข้าใจและรับรู้ ถึงกฏตายตัวที่ว่านั้นมากน้อยเพียงใด' นั้นเป็นสิ่งแรกที่แม่ของเธอ ได้สอนให้เธอรู้
ทานตะวันหันหน้าไปตามแสงของดวงอาทิตย์, ความฉลาดชนะกำลัง, กำลังชนะความอึด, ความอึดชนะความว่องไว, ความว่องไวชนะไหวพริบ, และไหวพริบชนะความฉลาด
พวกนั้นคือกฏของโลกที่ไม่มีใครจะสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ นอกจากพระเจ้าที่สร้างอวกาศแห่งนี้ขึ้นมา ... แล้วพระเจ้าที่สร้างอวกาศแห่งนี้ขึ้นมา เกิดมาจากอะไรกันล่ะ?
คำถามที่แสนชวนมึนหัวผุดขึ้นมาภายในห้องของเด็กน้อยขี้สงสัย แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่เคยหยิบยืมมือของคนอื่นให้ช่วยเลยสักครั้ง ใช่ .. ครั้งนี้ก็เช่นกันที่เธอเลือกที่จะหาความรู้ด้วยตัวเอง
เธอพยายามหาข้อมูลต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วทั้งกาแล็คซี่ที่กำลังเกิดสงครามอย่างบ้าคลั่งและยืดเยื้อมาตั้งแต่ก่อนที่เธอจะเกิดเสียอีก แต่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับตัวของเธอ
ข้อมูลที่เธอรวบรวมมาได้นั้นล้วนแล้วมีแต่เพียงแค่ความเชื่อที่ไม่มีหลักเกณฑ์ข้อเท็จจริงอะไรทั้งนั้น แต่ทำไมกันละ? ทั้งที่ไม่มีหลักเกณฑ์ข้อเท็จจริงอะไร แต่ทำไมคนก็ยังคงเชื่อกันอยู่
และนั้นก็เป็นอีกคำถามที่ผุดออกมาภายในหัวเด็กน้อย หลังจากที่เธอได้คำตอบแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมันก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดคำถามที่เธอหาพวกนั้นก็กลายเป็นพลังให้แก่เธอ
ยังมีคำถามอีกมากมายที่เธอยังหาคำตอบไม่ได้จากมัน และแต่ละครั้งที่เธอหาคำตอบได้ก็ใช่ว่าคำถามที่ผุดขึ้นมาถามต่อนั้น มันจะมีเพียงแค่คำถามเดียว
และนั้นก็เป็นทั้งสาเหตุและคำตอบที่ว่า ทำไมภายในหัวของเธอถึงมีคำถามมากมายนับไม่ถ้วนนั้นเอง คงจะดีถ้าหากมีวันใดที่เธอจะละทิ้งคำถามเหล่านั้นแล้วกลับไปเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดา

"ฉันพยายามค้นหาคำตอบนั้น ในความมืด ที่ไร้แสงและสี"

"ทำไม ทำไมล่ะ ทำไมเหรอ"

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม

"กระทั่งฉันได้พบมัน"

มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ตอบได้

พระเจ้าของเอกภพแห่งนี้

ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง

ผู้บันดาลได้ทุกสิ่ง

Johan · « **Reply #384 on:** November 15, 2015, 06:13:21 PM »

Quote

ฉากจบระดับกาแล็คซี่ เลือก

เป็นแสงสว่าง และฉายแสงที่สว่างไสวยิ่งกว่าแสงสว่างตรงหน้า:
ทอยเต๋าหน้า Ally ทั้งหมดที่มี (บวกกันให้หมดแล้วทอย) ให้ผลรวมออกมา 20+
ใช้ตัวละครบนหัวกระทู้ทอย 1 คน/เต๋า เอาคนที่ทอยเยอะสุด

เอาชนะ Belphegor:
5c (Status-2/Status-3) Spirit Atk 5 (Violent) HP 10 (3 Turn)
ใช้ตัวละครที่มีบนหัวกระทู้ช่วยกันได้ใน 1 อุปสรรค

Star · « **Reply #385 on:** November 15, 2015, 08:02:13 PM »

"..." เด็กชายเห็นบุคคลตรงหน้าแล้วพลันอาวุธรูปดาบผสมกุญแจก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา

Spoiler for Hiden:

"นั่นสิน้า....ถ้าเป็นพระเจ้าละก็ อยากจะได้อะไรก็ย่อมได้อยู่แล้วนี่นา..."
"จะว่าไปแล้ว...สัจธรรมอย่างหนึ่งที่คุณอยากรู้อย่างหนึ่งเนี่ย ผมว่าผมน่าจะตอบได้นะ..."

Quote

ความฉลาดชนะกำลัง, กำลังชนะความอึด, ความอึดชนะความว่องไว, ความว่องไวชนะไหวพริบ, และไหวพริบชนะความฉลาด
พวกนั้นคือกฏของโลกที่ไม่มีใครจะสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ นอกจากพระเจ้าที่สร้างอวกาศแห่งนี้ขึ้นมา ... แล้วพระเจ้าที่สร้างอวกาศแห่งนี้ขึ้นมา เกิดมาจากอะไรกันล่ะ?

"คำตอบของคำถามนี้...มาจาก GM Luca ครับ"
"แต่ผมไม่ได้พูดถึงชายใส่หมวกสีดำผมทองที่สุดจะลี้ลับหรอกนะ"
"ผมกำลังพูดถึงบุคคลที่สร้างเกมโรลเพลย์ในเว็บบอร์ดต่างหากล่ะ บางทีเขาอาจจะกำลังอ่านข้อความนี้อยู่ก็ได้นา..."

""มะ เอาเถอะ ถ้าคุณจะคิดว่าคำตอบนี้เป็นเรื่องไร้สาระก็ไม่แปลกใจอะไร แต่เอาเป็นว่า...ถ้าคุณเป็นพระเจ้าแล้ว ก็น่าจะรู้น้า..."

"ว่าพระเจ้าน่ะ...ไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว"

"อืม...แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะยอมรับไม่ลง แต่ผมก็เป็นพระเจ้าคนหนึ่ง....คิดว่านะ?"

"แต่ที่จะต่อกรกับคุณนี่ก็ไม่ได้คิดจะทำตัวหยิ่งยะโสว่าฉันแน่กว่าเธอหรอก..."

"เพราะสิ่งที่ผมทำต่อจากนี้...ก็แค่การรับคำท้าเท่านั้นเอง"

เมื่อพูดจบแล้ว เด็กชายก็กระโดดขึ้นมาเหยียบบนยานซึ่งพุ่งมาจากประตูมิติที่ปรากฏขึ้นที่เบื้องหลังของเด็กชาย

"Ready?"
"Set..."
"Go!"

ฉับพลัน ยานนั้นก็พุ่งทะยานด้วยความเร็วเหนือใคร โดยมีผู้ส่งคำท้าเป็นเป้าหมาย

Spoiler for Hiden:

Johan · « **Reply #386 on:** November 18, 2015, 08:39:22 AM »

อีกฝ่ายดูเรียบเฉย และกล่าวสิ่งใดตอบกลับมาโดยไม่ได้ออกเสียง
ดาราแม้จะไม่อาจยอมรับ แต่เขาก็คือพระเจ้าของจักรวาลของเขา เพียงแต่กฎที่เขาจำขึ้นใจก็คือ 'จักรวาลจะกำหนดกฎเกณฑ์ทุกสิ่ง'

แม้จะเป็นพระเจ้าของจักรวาลใด แต่เมื่อเข้ามาสู่จักรวาลอื่น คนผู้นั้นจะเหลือเพียงสถานะของประชากรในจักรวาลนั้น พลังอำนาจทุกสิ่งจะถูกจักรวาลนั้นกำหนดให้เป็นไป

Quote

"Ruler คือตัวตนของจักรวาล ทุกสิ่งทุกอย่าง Ruler จะกำหนดขึ้น"
"พวกเขากำลังจะเป็นพระเจ้าของจักรวาลนั้น แต่พวกเขาไม่มีวันทำมันได้ ไม่มีใครที่จะมีอำนาจเหนือกฎแห่งจักรวาล"

ดารานึกสงสัยว่า Belphegor ที่กำลังส่องสว่างและโจมตีเขาด้วยพลังแห่งกาแล็คซี่เช่นเดียวกับเขาคือใครกันแน่

เธอหยิบยืมพลังจากพระเจ้า

หรือเธอเองคือพระเจ้าแห่งจักรวาลนี้

แล้วมันจะเป็นไปได้ยังไงกัน Oceana เธอหมายความว่ายังไงที่ว่าเราจะเป็นพระเจ้าน่ะ
หาก Belphegor เป็นพระเจ้าเราจะไปทำอะไรได้ หรือถ้าไม่ใช่ การต่อสู้นี้จะมีค่าอะไร

กระทั่งยานลำนั้นพุ่งทะลวงผ่านร่างของ Belphegor จนแตกกระจายเป็นละอองแสง

Johan · « **Reply #387 on:** November 18, 2015, 08:40:05 AM »

Quote

ผ่าน Poor End (สงครามอวกาศ)
ผ่าน Normal End (1000 ปีต่อมา)
ผ่าน Good End (ได้รับพลังจากกาแล็คซี่)
จบที่ Best End
+เอาชนะอุปสรรคสุดท้าย (แต้มส่วนตัว)

Johan · « **Reply #388 on:** November 18, 2015, 08:54:37 AM »

องค์ความรู้ทั้งปวงของจักรวาลนี้ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงจุดจบได้ถูกฉายผ่านมุมมองและสายตาของดาราในห้วงอวกาศนั้น
เขาได้บรรลุและเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว...

พระเจ้ามีตัวตนได้ทุกรูปแบบ ดังใจ อย่างที่ต้องการ

ไม่มีใครเข้าใจประสงค์ของพระเจ้า เฉกเช่นที่เราไม่อาจล่วงรู้ถึงการกำเนิดของเอกภพ

อย่าได้พยายามทำความเข้าใจ เพราะเธอจะไม่มีวันเข้าใจ

.
.
.
.
.

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าพระเจ้าของจักรวาลนี้คือใครกันแน่ แต่ที่สุดแล้วนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ไร้ความหมายหรอกนะ

ในจักรวาลนั้นพระเจ้าจะมีได้เพียงหนึ่ง แต่หากมีผู้ที่พยายามยกตนขึ้นมา...

Spoiler for Hiden:

Quote from: Johan on June 14, 2015, 02:51:18 PM

"Alice จะช่วยเธอเอง" ขาดคำ Stephanie ก็ผลัก Rociyu หงายท้องกลิ้งตกลงไปในช่องว่างของประตูมิติ

เสียงดนตรีสุดน่ารักบรรเลงขึ้นมาอย่างอย่างแผ่วเบา ก่อนจะค่อย ๆ คล้อยไปตามบรรยากาศของเกม
ที่นี่คือทุ่งสีเขียวที่กว้างขวาง ลมที่เย็นสบาย และกังหันลมที่บ่งบอกถึงยุคสมัยภายในเกมกำลังหมุนอย่างเอื่อย ๆ

ฟิลด์กว้างใหญ่นี่มันยอดไปเลยนะ อ๊ะ นั่นไง มีคนด้วย เธอกำลังมาทางนี้

"สวัสดีคะ ฉันคือ Alice คะ เป็น NPC ที่จะเพิ่มพูนประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับคุณผู้เล่นคะ" เธอเป็นตัวละครสาวน้อยน่ารักที่คิดว่าตัวเองคือ Alice จากแดนมหัศจรรย์
"ฉันจะเป็นคู่ต่อสู้และฝึกซ้อมให้กับคุณผู้เล่นคะ คุณผู้เล่นจะสนุกสนานเหนือระดับเลยคะ"
"ต้องการประสบการณ์ที่ถูกใจ ประสบการณ์ที่พิเศษไม่เหมือนใคร นึกถึง Alice"

หลังฟังสโลแกนจบ Rociyu ก็รู้สึกอยากเก็บเลเวลขึ้นมาทันที

Johan · « **Reply #389 on:** November 18, 2015, 09:16:23 AM »

Quote

"ถ้าเป็นฉัน ถ้าฉันเป็นจักรวาลแห่งนั้น ฉันจะใส่เอาบอสใหญ่ที่ตัวมหึมา ใหญ่มาก" Stephanie กางแขนออกเมื่อผู้ฟังถามถึงขนาดของมัน
"มันจะตัวใหญ่ ฉันชอบอะไรที่มันใหญ่ๆ ผู้เล่นจะต้องทำลายจุดอ่อนของมันเพื่อให้บาเรียสลายไป จากนั้น..."

"และทุกคนจะสนุกสนาน"

"แต่บางคนอาจจะไม่สนุกก็ได้ ฉันไม่ชอบบอสใหญ่ ฉันอยากให้มันจบเลย เพราะฉันไม่อยากแพ้มัน"
"เกมของเธอไม่มีคอนตินิว ถ้าฉันแพ้ก็เกมโอเวอร์ ฉันต้องชนะเท่านั้น" Blackrain ยัยเด็กเกรียนที่เอาจักรวาลมาหมุนรอบตัวเอง

Stephanie นั่งคิดสักพักแล้วก็ตอบเธอว่า

"ถ้าเธออยากให้ทุกสิ่งหมุนรอบตัวของเธอ เธอก็ต้องเป็นพระเจ้า"

ได้ยินดังนั้น Blackrain ก็คิด โชคดีที่เธอ Int เยอะจึงไม่แกล้งโง่ให้อีกฝ่ายตอบ "จะเป็นไปได้ยังไง พระเจ้ามีได้เพียงหนึ่งเดียว"

"เธอไม่รู้จริงๆเหรอ มันง่ายจะตายไป" Stephanie ถาม พลางมองดู Giulietta ที่อยากเข้ากล้อง

นิ่งไปไม่นาน Blackrain ก็เข้าใจ

หากอยากจะเป็นพระเจ้าผู้บันดาลทุกสิ่งมันก็ไม่ยากอะไร

ไปจากที่นี่ และสร้างโลกใหม่ของตนเอง โลกที่ตนเองต้องการ

Johan · « **Reply #390 on:** November 18, 2015, 09:22:28 AM »

Quote

"Ruler คือตัวตนของจักรวาล ทุกสิ่งทุกอย่าง Ruler จะกำหนดขึ้น"

เสียดายที่จักรวาลนี้มีพระเจ้าอยู่แล้ว และไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์นี้

สงครามจะไม่มีวันจบลง

ทางออกเดียวเท่านั้นที่ทำได้ก็คือ

"สร้างจักรวาลใหม่"

News:

ห้องโถงรับแขก

Author Topic: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo (Read 17503 times)

Johan

[STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Star

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Star

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Star

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Star

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo

Johan

Re: [STARLIGHT] การเดินทางของ Momo