พิพิทธภัณฑ์แห่งชาติจะมีส่วนที่เป็นอนุสรณ์สถานด้วย และนั่นก็คือพื้นที่ซึ่งจำลองเอาเมืองดามัสกัสในอดีตมาจัดเป็นธีมแบบถาวร
ว่ากันว่าจอมกษัตริย์ชาวเคิร์ดผู้นี้ทรงงานตลอดพระชนม์ชีพ จึงไม่มีเวลาที่จะสั่งสมทรัพย์สมบัติไว้แบ่งปันให้กับทายาทที่แย่งชิงบัลลังก์กันในภายหลัง
ก็ขนาดเงินทองในการจัดการพิธีศพอย่างสมเกียรติยังไม่มีเลย กระทั่งหลายร้อยปีให้หลังจึงมีผู้จงรักภักดีจัดการพิธีศพให้ใหม่
"พระองค์เลือกจะสร้างปัจจุบันให้ดีที่สุดเพื่ออนาคต แต่พระองค์ไม่ใช่พระเจ้าจึงไม่อาจหยั่งรู้อนาคต" Peshmerga บอกระหว่างนำทาง
Peshmerga มีความหมายว่า ผู้กล้าเผชิญความตาย มันช่างบังเอิญนัก เพราะเธอก็กำลังนำทาง White มาที่หลุมศพพอดี
เธอบอกเล่าเหมือนกับเป็นไกด์
เมื่อไกเซอร์ วิลล์เฮล์มที่ 2 กษัตริย์แห่งเยอรมนีเดินทางไปเยือนซีเรียใน ค.ศ. 1898 หนึ่งในสถานที่แห่งแรกที่พระองค์ไปเยือนคือหลุมฝังศพของเศาะลาฮุดดีน
ในเวลานั้น แม้กษัตริย์ไกเซอร์เป็นผู้ทรงอำนาจที่สุดในยุโรป แต่เมื่อมาเยือนดามัสกัส พระองค์รู้สึกจำเป็นที่จะต้องมาแสดงความเคารพต่อสุลต่านผู้เป็นตำนานของนักรบบนหลังม้าผู้กล้าหาญ
และยังได้สร้างครอบหลุมศพใหม่ที่ทำจากหินอ่อนเพื่อเป็นการแสดงความปรารถนาดีอย่างหนึ่ง
กษัตริย์ไกเซอร์ได้วางพวงหรีดที่หลุมฝังศพของเศาะลาฮุดีนและได้มีการจารึกข้อความไว้บนแผ่นหินเพื่อเป็นเกียรติที่ได้มาเยือนอนุสรณ์สถานแห่งนี้
คำจารึกดังกล่าวเป็นสารจากกษัตริย์ยุโรปถึงผู้นำมุสลิมที่ยิ่งใหญ่มีใจความว่า
“อัศวินที่ไร้ความกลัวหรือคำตำหนิที่มักจะสอนคู่ปรับของเขาถึงวิธีการที่ถูกต้องในปฏิบัติการทหารม้า”
จากนั้นใน ค.ศ. 1920 นายพลกูโรต์ แห่งฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย
เขาได้กล่าวที่หลุมฝังศพของเศาะลาฮุดดีนว่า “ซาลาดินเอ๋ย ลุกขึ้นมาสิ เห็นไหม นี่ไงล่ะ ลูกหลานของพวกครูเสดมาที่นี่แล้ว”
จะเห็นได้ว่าในหมู่ครูเสดก็มีความคิดและแนวปฏิบัติต่างกัน จึงไม่ผิดหรอกถ้าเหล่ามุสลิมจะมีความคิดต่างกันออกไป
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ศาสนา หากแต่เป็นมโนคติของเราเอง Peshmerga บอกว่า Salah al-Din เป็นชาวเคิร์ด และผู้นำอาณาจักรมุสลิมในช่วงหนึ่ง พระองค์เป็นมุสลิม แต่ก็อาจไม่ใช่มุสลิม
Salah al-Din มีความจำเป็นต้องนำทัพ มีความจำเป็นต้องยืนอยู่ใต้ร่มเงาของศาสนาอิสลาม แต่ในความเป็นจริงแล้วพระองค์อาจจะไม่ได้มีแนวคิดของศาสนาอิสลาม
การสั่งห้ามมิให้ทหารฆ่าล้างเมืองชาวคริสต์ในเยรูซาเลม การพยายามยับยั้งมิให้เกิดกองทัพญิฮัด การเป็นมิตรสหายกับคริสเตียน เหล่านี้ล้วนขัดต่อหลักปฏิบัติของชาวมุสลิมในเวลานั้น
และนั่นทำให้ชาวเคิร์ดซึ่งเป็นลูกหลานของพระองค์มีศาสนาของตัวเองที่สืบทอดคำสอนมาจาก Salah al-Din เป็นที่มาของการถูกตราหน้าว่านับถือซาตาน (แต่ Salah al-Din ได้รับการยอมรับว่าเป็นมุสลิม)
และที่หลุมศพ White กับ Peshmerga ได้พบกับใครบางคน นั่นทำให้ Peshmerga ยกปืนกลประทับบ่าเล็งปราณีตเตรียมเหนี่ยวไกในพริบตา
"ยังกล้ากลับมาที่นี่ ให้แปดเปื้อนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้" Peshmerga กัดฟันแน่น
อีกฝ่ายนิ่งเงียบในสภาพที่หันหลังและมองดูถ้อยคำสลักของจอมกษัตริย์
แลพวกเจ้าจงมีชีวิตต่อสู้ปกป้องดินแดนศักดิ์สิทธิ์สืบไป เพื่อผู้คนที่ไร้แผ่นดิน"บางทีนะ พวกเราอาจจะผิดทั้งสองฝ่าย" ฝ่ายที่ถูกจ่อด้วยปืนเอ่ยขึ้น
White จะตีความมันว่าอย่างไร (ข้อความสีเหลือง)