นารุไม่ใช่คนโง่ ถึงปรกติเธอจะเอาแต่แกล้งคนอื่นอย่างสนุกสนาน(และฟ้าไม่เป็นใจ)แต่เธอก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรเป็นอย่างดี
การจะควบคุมหุ่นยนต์ได้นั้น จำเป็นต้องมีการส่งคำสั่งมาจากแม่ข่าย โดยนารุเข้าใจว่าแม่ข่ายนั้นคือควีน
คิดได้ดังนั้นแล้วนารุจึงคิดจะเข้าพบขออนุญาตเข้าพบควีนทันที แต่เธอก็รู้ว่าควีนนั้นพังหรือ เสียชีวิต ไปแล้ว
แต่เธอไม่เชื่ออย่างนั้นหรอก เพราะหากควีนเสียชีวิตไปจริง ๆ แล้วใครจะเป็นคนสั่งการณ์หุ่นพวกนี้ ? เธอไม่เชื่อว่าหุ่นจักรกลอายุเป็นร้อยปีจะยังสามารถคิดได้เองโดยไม่มีคนสั่ง
บางทีอาจจะมีคนพื้นเมืองรู้เห็นเรื่องนี้...แต่พวกเขาก็หนีหายไปหมดแล้ว ดังนั้นนารุจึงลองตรวจสอบสถานที่รอบ ๆ เมืองใต้ดินเพื่อหาร่องรอยผู้อยู่อาศัยดู
ถ้าหากโชคดี นารุอาจเจอควีนที่ไปหลบซ่อนอยู่สักแห่งบนโลกใบนี้ และผู้ให้ความร่วมมืออย่างลับ ๆ ที่พาควีนไปหลบซ่อน...
- ออกตามหาควีนเพื่อหาความจริง โดยสำรวจรอบ ๆ เมืองใต้ดินก่อน นารุเป็น Explorer ไม่น่าจะเกินความสามารถ
Queen ที่ว่าก็ยืนอยู่ในห้องนี่แหละ มี Dotto ควงแขนข้างหนึ่งเอาไว้อย่างหวงแหนแบบไหล่เบียดไหล่
แต่ตอนนี้เธอเป็นจักรกลรุ่นใหม่ ซึ่ง Dotto ที่สร้างขึ้นมาถือเป็นเจ้าของสิทธิ์ในตัวเธอ
และเพราะไม่มีใครเหลียวแลเธออีกเธอจึงใช้ชีวิตอย่างเงียบ ๆ มาตลอด 2 ปีที่ผ่านมานี้
"มนุษย์ควรถูกกำหนดขอบเขต เฉกเช่นเดียวกับตอนที่พวกเขาอยู่ในยาน"Dotto พูดขึ้นพร้อมจ้องมองไปที่บลังค์และพูดต่อว่า"ถึงฉันจะไม่อยากพูดแบบนี้ แต่เธอเหมาะสมกับชื่อเก่าของเธอจริง ๆ นะ .. บลังค์"เธอหลับตาลงก่อนที่จะพูดสิ่งที่ไม่เคยมีใครคาดคิดขึ้น"เธอควรจะกลับไปอยู่ในฐานะเดิมของเธอนะ บลังค์.."
"เป็นควีนผู้ที่ทุกคนเชื่อถือและไว้ใจในการตัดสินใจทุกสิ่งทุกอย่าง"
"เป็นควีนที่สามารถสั่งและสามารถหยุดความละโมภของมนุษย์พวกนั้นได้ .. "
"ฉันรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากในการทำให้ทุกคนเชื่อฟังเหมือนอย่างเคย ..."
"แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะไม่มีวิธีทำให้พวกเขาเชื่อฟังนิน่า .."
"พวกเราจะเข้าคัดขวางรัฐบาลโลกใหม่และเข้าร่วมกับจักร์กลของที่นี้"เธอมองไปที่ภายในดวงตาของบลังค์ ก่อนจะบอกแผนการที่ว่า"ฉันจะหาวิธีใดวิธีหนึ่งทำให้หุ่นยนต์พลาสม่าที่มีหน้าที่ปกป้องดวงดาวใบนี้นั้นยอมเป็นพวกด้วย"
"ก่อนที่จะไปข่มขู่รัฐบาลโลกใหม่ว่าพวกเราได้แหล่งพลังงานที่ทรงพลานุภาพที่รัฐบาลพูดถึงนั้นมาครอบครองไว้แล้ว"
"ถ้าหากแผนนี้สำเร็จแล้วละก็ .. การทำให้บลังค์กลับคืนสู่ตำแหน่งควีนของพวกมนุษย์อีกครั้งก็คงจะไม่ใช่ปัญหา ..."
"แล้วเธอละ คิดยังไงกับแผนการนี้ .. บลังค์ ..."
"เราทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก ขอโทษด้วยนะ" Blanc ส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะบอกว่าเธอไม่มีอำนาจสิทธิ์อะไรเลยเมื่อออกมาจากยานแม่
ตลอดการเดินทาง เธอทำได้ทุกอย่างเพียงเพราะมนุษย์ถูกกักขังอยู่ในยาน และมนุษย์ไม่อาจจะออกไปจากยานได้จนกว่าจะถึงที่หมาย
มนุษย์ได้มอบอำนาจให้เธอใช้มันปกป้องพวกตน และเมื่อบรรลุเป้าหมายก็ถอดถอนสิทธิ์นั้นคือ นี่คือมุมมองของมนุษย์
ปัจจุบันยานแม่ที่ใช้เดินทางมายังดาวดวงนี้ถูกแยกชิ้นส่วนไปหมดแล้ว นั่นหมายความว่าไม่มีกรงที่เคยใช้กักขังพวกเขาอีก
"สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์นั้นทรงอานุภาพยิ่งกว่าจักรกลเสียอีก เธอคิดอย่างนั้นหรือไม่"
"ใครจะเป็นจะตายก็ไม่ใช่ธุระของข้า"
"ยังไงข้าก็ไม่ไว้ใจยัยเลเวล 3 นั่นอยู่ดี"
"แล้วถ้าระบบป้องกันมันดีอย่างโม้จริง"
"จะไปตื่นตูมทำไม ?"
"ปล่อยให้พวกทหารนั่นเดินทัพไปลงนรกของพวกมันเองดีกว่ามั้ง"
Tris เสนอความเห็นเกี่ยวกับระบบป้องกัน Mesa ที่บอก
เธอสงสัยในความแน่นอนของระบบป้องกันนั้น
"แกคืออะไรกันแน่ Mesa"
- เข้าหา Mesa
"เราแน่ใจไม่ได้หรอกนะว่าระบบป้องกันที่สร้างขึ้นมาเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะป้องกันกองทหารเป็นหมื่นได้" Shuka บอก
"แล้วก็นะ ฉันคิดว่า Burkzon ไม่โง่พอจะนำทหารเกือบทั้งหมดลงไปตายในรูดิน" เธอหมายถึงประธานสมาพันธ์โลกใหม่
Tris เดินไปยังจักรกลสีชมพู หรือ Mesa
"จักรกลมีชีวิต" Mesa บอก
Tris สังเกตว่าเธอพูดได้แล้ว นั่นหมายความว่าเธอพัฒนาการได้
จะบอกว่ายังไงดีล่ะ หุ่นยนต์ที่วิวัฒนาการได้เองโดยไม่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนหรืออัพเกรดอย่างนั้นหรือ
"ดีจัง มีตั้ง 16 ตัว พังไปแค่ตัวสองตัวคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ" Frolicia โล่งใจที่พวกเธอไม่ได้พังเงื่อนไขเคลียร์เกมแห่งความสุข
/สอบถาม Shuka ว่าทำอีท่าไหนถึงเอา Mesa มาเป็นพวกได้ แถมรู้อะไรดี ๆ เยอะเลย แล้ว Mesa ตัวที่เหลือล่ะ
/ Mesa เข้าใจไหมว่าเราเป็นพวกเดียวกัน เธอแยกความแตกต่างระหว่างชาวต่างดาวกับชนพื้นเมืองยังไง หรือต้องแก้ผ้า ถ้าพวกเราแก้ผ้าเดินลงเมืองใต้ดินจะโดนโจมตีไหม
/Shuka มีแผนแบบไหนในการปิดผนึกฝังเมืองใต้ดินให้พวกเมืองหลวงตัดใจกลับไปเสีย
/ ทำไมเราต้องลงไปก่อนด้วย ถล่มทางเข้าจากด้านบนไม่ได้เหรอ
/ สอบถาม Mesa หรือล่ามว่า อะไรที่ควรระวัง และอะไรที่จำเป็นกับเส้นทางใต้ดิน จะได้เตรียมไป
ไม่ใช่หรอกนะ มี 16 ตัว พังไปแล้ว 15 ตัว เหลือตัวสุดท้ายคือ TMB-16 ที่ยังยืนอยู่ในห้องนี้
.........
ยัยนี่แหละ TMB Series
แต่ขอแค่ Mesa ยังไม่ถูกทำลาย TMB อีก 15 ตัวจะปรากฎออกมาได้ทันทีที่เข้าเงื่อนไข และพวกมันจะทำลายล้างผู้มาเยือนจากต่างดาวทั้งหมด
ส่วน Mesa มีตัวเดียวคือยัยชมพูนั่น Shuka บอกว่ายัยนั่นถึกทรหดมาก พอดีไปเจอเอาทีหลังเลยเก็บมาซ่อม
ตอนนี้ Mesa เชื่อฟัง Shuka ขอเพียงแค่เป็นการทำเพื่อปกป้องแหล่งพลังงานที่อยู่ใต้ดิน เธอไม่ใช่มิตร แต่ก็ไม่ใช่ศัตรู
"ก็ไม่มีหรอกนะแผนอะไรพวกนั้น ถ้าไปถึงคงพอจะหาทางได้" Shuka บอกว่าพวกเราไม่ใช่ทหารนะ เราเป็นนักสำรวจ
สมาคมเรามีสมาชิกแค่พันกว่าคน จะไปสู้กับกองทหารเป็นหมื่น แถมมีทั้งอุปกรณ์สงครามและยานยนต์ไฮเทคครบครันได้ยังไง
เรื่องที่ว่าจะให้ต่อกรกับกองทหารนั้นเลิกคิดไปได้เลย
Frolicia พบว่า Mesa พูดได้แล้ว
"ไม่มี"
"คุณ Rimo คิดอย่างไรคะ?" I-Sc หันไปถามอีกฝ่าย
"กลุ่มรัฐบาลโลกต้องการพลัง แต่ถ้าเราขัดขวางจริงๆ ก็อาจจะกลายเป็นชนวนสงครามสองเมืองขนาดย่อมๆ ได้ด้วยหลากเหตุผล" เธอคิด
"กระนั้นการคงอยู่ของแกนพลังงานด้านล่างก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร และการยึดเอามาเป็นของตัวเองก็คงไม่ใช่เรื่องดี การปิดผนึกมันก็ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ ดังนั้นเราอาจจะเหลือตัวเลือกที่น่าสนใจเพียงตัวเลือกเดียว คือทำลายมันซะ แต่การทำลายจะส่งผลกระทบกับสภาพแวดล้อมอะไรรึเปล่าคงต้องดูอีกที" Mecha สาวสรุปว่าการทำลายมันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดก็เป็นได้
"ว่าแต่หุ่นสีชมพูนั่น... เธอทำงานด้วยระบบอัตโนมัติมาตลอดและปกป้องผู้คนในเมืองนั้น เธอมีข้อมูลไหมคะว่าไอ้แกนพลังนั่นจริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่?"
"ต้องคิดด้วยเหรอ ไม่เอาหรอก ฉันคิดไม่ออกน่ะ ปวดหัว" Rimo ตอบอย่างฉะฉานด้วยคำตอบที่ประเทืองปัญญามาก
Rimo บอกว่าเราไม่ได้ต้องการเปิดฉากปะทะ นี่เป็นภารกิจลับที่เราจะให้อีกฝ่ายรู้ไม่ได้ ถ้าปะทะกันเราแพ้แน่นอน อีกฝ่ายมีอาวุธสงครามครบมือ ทั้งไพร่พลก็มากมาย
จริงที่เรามีศักยภาพสูงกว่าเทียบแบบรายบุคคล แต่อีกฝ่ายมีมากกว่าเป็นสิบเท่าเชียวนะ
กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็คือกลุ่มที่ต้องการให้เราครอบครองเจ้านั่นเอง และกลุ่มที่วางตัวเป็นกลางไม่เสี่ยงยุ่งเรื่องนี้
Rimo บอกต่อว่าเธอก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะดีหรือจะร้าย แต่เธอเลือกที่จะลงมือทำมากกว่าจะเฝ้าดู
"ไม่ใช่อย่างนั้น ไม่มีจักรกลตัวใดผ่านระบบป้องกันเข้าไปในเมืองนั้นได้"
Rimo บอกว่าแม้แต่ Mesa ก็ไม่ได้เข้าไปในเมืองใต้ดิน เธออยู่ข้างนอกในฐานะหัวหน้าหน่วยพิฆาต
"ที่จริงก็ไม่เคยได้ยินนะว่ามีใครเข้าออกที่เมืองนั้นได้ ขนาดจักรกลที่ father สร้างขึ้นมาอย่าง Mesa ยังไม่เคยเข้าไปเลย" Rimo ตั้งข้อสังเกตปิดท้าย