ลูลู่ย่องและเข้าไปหลบหลังลังไม้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างเงียบเชียบและเธอมั่นใจว่าไม่มีใครจับได้ ลูนาติคดูล่อกแล่กพอตัว แต่เธอก็ถามออกไป
"สัญลักษณ์นั่นเป็นสัญลักษณ์ของรูกซ์ ออร์คตาเดียว ผู้นำของฝ่ายตรงข้ามของเรา" ฟาริเอลอธิบาย "เมื่อก่อนออร์คกับคนแคระอยู่ในพื้นที่เดียวกัน และอยู่ด้วยกันตามปรกติ และออร์คในเวลานั้นก็ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ป่าเถื่อนอย่างทุกวันนี้ ในตอนนั้นเอล์ฟเป็นเพียงกลุ่มเร่ร่อนเล็กๆ บางคนก็ปักหลักกับอาณาจักรคนแคระ อย่างเช่นข้า"
"รูกซ์เริ่มมีบทบาททางการเมือง ข้ามีโอกาสได้รู้จักเขาในกองทัพ เขาเป็นคนที่มีอุดมการณ์และไหวพริบ คงจะดีไม่น้อยถ้าเขาได้ขึ้นเป็นผู้นำ รูกซ์ทำงานให้กับหน่วยวิจัยเวทมนตร์ และเป็นดาวดวงใหม่ในแถบนี้" เขานิ่งไปพักหนึ่ง "ข้าไม่เคยคิดเสียดายคนอย่างเขาไปมากกว่านี้เลย"
"ท่านพูดเหมือนท่านเสียเขาไป? เกิดอะไรขึ้น?"ไทด์หยอดคำถามไป แต่ในใจของเขาก็คิดว่าได้รับคำตอบอยู่แล้ว
"รูกซ์ฉลาดและเก่งในด้านการวิจัยอย่างมาก เขาไขความลับของเหล่าเทพและค้นคว้าเกี่ยวกับพลังเหล่านั้น เขา.. หมกหมุ่นอยู่กับมัน นานมาก นานจนข้าลืมไปว่าเขากับข้าเคยทำงานร่วมกัน"ฟาริเอลพูด "จนวันหนึ่งรูกซ์ก็เปลี่ยนไป เขาเอาแต่พร่ำบ่นเรื่องเผ่าพันธุ์ที่ถูกเลือก เขาปลุกระดมชาวออร์คด้วยความเชื่อที่ว่าออร์คเหนือกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ ในเวลานั้นออร์คเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีอำนาจในแทบทุกด้าน เอล์ฟกับคนแคระไม่พอใจ จึงเกิดการปะทะกัน"
"ข้าคิดว่าข้าพลาดเหตการณ์สำคัญนะ รู้อย่างนี้มาในแถบนี้เร็วกว่านี้สักหน่อยน่าจะดี"วินด์เอ่ยขึ้นขำๆ
"การปะทะกันเริ่มจากหมัดและไม้ ต่อจากนั้นก็เป็นก้อนหิน และลงท้ายด้วยอาวุธ ทุกคนห่ำหั่นกัน และในเวลานั้นข้าและสหายอีกจำนวนหนึ่งก็รวมตัวกันเป็นภาคีพิเศษขึ้นมา เพื่อหยุดรูกซ์"
"ฮิฮิ.. พ่อเขาเท่เนอะ" ลูลู่สะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียง เธอเกือบจะหลุดร้องออกมาแต่เจ้าของเสียงปิดปากเธอเอาไว้ได้ก่อน แม่ของเธอนั่นเอง