นานมาแล้ว มีคนๆ หนึ่งใช้นามว่า Talestoy หรือ เจ้าแห่งของเล่น เขาเป็นสุดยอดนักสร้างสรรค์คนหนึ่งที่ชำนาญการประดิษฐ์ของเล่นอย่างยิ่งยวดราวกับเขามีเวทมนตร์บันดาลดั่งใจ
วันหนึ่งขณะที่เขากำลังกลับบ้าน เขาพลันเหลือบไปเห็นตุ๊กตาในร้านขายตุ๊กตา และเด็กหญิงคนหนึ่งเกาะกระจกมอง เขาจึงบังเกิดความคิดสนใจมัน เขาต้องการประดิษฐ์ตุ๊กตาเพื่อสร้างความสุขให้เด็กๆ
เขาซื้อตำราทุกอย่างเกี่ยวกับตุ๊กตากลับไปศึกษา เขาเชื่อว่าพรสวรรค์ในการสร้างของเล่นของเขาจะทำให้เขาประดิษฐ์ตุ๊กตาอันแสนวิเศษขึ้นมาได้
เขาคิดผิด ตุ๊กตาไม่ได้เป็นเพียงแค่ของเล่น แต่เป็นมากกว่านั้น
เขามีพรสวรรค์ แต่พื้นฐานความคิดของเขามันผิดพลาด นั่นจึงทำให้เขาสร้างได้เพียงตุ๊กตากลที่ไร้จิตใจและความคิด
ผ่านไปนานแค่ไหนกันนะ เมื่อมองไปรอบๆ ก็พบว่าคฤหาสน์ของเขาเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่ไม่ได้ความ เขาคิดว่าเขาควรจะเลิกล้มความคิดนี้ เขาชำนาญการสร้างของเล่น ก็น่าจะทำอะไรเกี่ยวกับของเล่นมากกว่าจะมานั่งเล่นตุ๊กตาเป็นเด็กผู้หญิง "ไร้สาระ เหนื่อยเปล่า หลายปีมานี้เราทำอะไรอยู่กันแน่" เขากล่าวกับตัวเองก่อนจะหยิบโค้ทมาสวมแล้วเดินออกไปจากบ้านอย่างไร้จุดหมายจนถึงรางรถไฟ "ยุคสมัยเปลี่ยนไปเร็วจริงๆ โลกเราไปถึงขั้นนี้แล้วหรือ"
พลันเขาก็บังเกิดความคิดขึ้นมา "รถไฟที่แล่นไปตามรางเพื่อมอบความสุขแก่ผู้คนไงล่ะ"
และเขาก็ได้หายตัวไปนับแต่นั้น
เวลาผ่านไป คฤหาสน์ตุ๊กตาที่ไร้เจ้าของยิ่งชวนให้ขนลุกขนพอง ไม่มีใครกล้าเฉียดเข้าใกล้มันจนมันมีสภาพเป็นคฤหาสน์ร้าง
จนคืนวันหนึ่ง วันที่ฝนพรำ ใครบางคนมาที่นี่และเข้าไปในคฤหาสน์โดยพลการ "ฉันจะอยู่ที่นี่ค่ะ ฉันก็จะมาหลบฝนที่นี่ในคืนนี้ค่ะ" เด็กหญิงผู้มาเยือนวางร่ม ถอดเสื้อกันฝนแล้วก้าวเข้าไปพร้อมตะเกียง
"สวัสดีค่ะ ขอรบกวนด้วยค่ะ ฉันถอดรองเท้าเอาไว้แล้วค่ะ" เธอเดินขึ้นบันไดวนไปพร้อมแนะนำตัว ก้มลงเก็บแขนตุ๊กตาที่หักอยู่มาดู จากนั้นก็พูดคนเดียวไปเรื่อย ระหว่างเดินสำรวจห้องโน้นทีห้องนี้ทีจนไปถึงห้องทำงานของ Talestoy
ทั่วห้องสว่างไสวเพราะแร่ประหลาดชิ้นหนึ่งที่วางอยู่กลางห้อง สายตาของเธอกวาดไปรอบๆ และไปสะดุดที่ชั้นวางตุ๊กตาจำนวนหนึ่ง เธอเดินเข้าไปหยิบมาอุ้ม มันเป็นตุ๊กตาไม้ขนาด 50-60 ซม.
"พูดไม่ได้นี่คะ แต่ฉันเคยเห็นที่พูดได้ด้วยนะคะ" เธอคุยกับตุ๊กตา หรือบางทีจะบอกว่าคุยอยู่คนเดียวก็ไม่ผิด ตุ๊กตาผมสีชมพูอมแดงตัวนี้ดูจะถูกใจเธอมากทีเดียว เธอคิดว่าต้องตั้งชื่อให้ตุ๊กตาน่ารักตัวนี้ มองไปรอบๆ อุ้มตุ๊กตาเดินไปทั่วทั้งคฤหาสน์จนฝนหยุดตกและรุ่งสาง พอดีกับที่เธอเดินมาถึงหน้าประตูคฤหาสน์ ป้ายชื่อของคฤหาสน์เขียนเอาไว้ว่า "Fantoccini ค่ะ เอาชื่อนี้นะคะ"
Talestoy ทิ้งทุกอย่างในการสร้างตุ๊กตาเอาไว้ ทั้งบันทึก และเครื่องมือพร้อมสรรพ และเด็กหญิงผู้มาเยือนก็ใช้มันในการสร้างชีวิตให้กับตุ๊กตาของเขา
แร่ประหลาดกลางห้องคือแร่สุดพิเศษที่จะมอบชีวิตและความรู้สึกให้กับตุ๊กตา มันเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้สร้างหัวใจให้กับตุ๊กตาซึ่งเปรียบได้กับเพื่อนของมนุษย์
Talestoy ไม่สามารถตระหนักและเข้าใจในข้อนี้ เขาคิดเพียงแค่ตุ๊กตาคือของเล่น เขาจึงไม่อาจมอบชีวิตให้ตุ๊กตาของเขาได้
"เอ๋ อะไรกันล่ะคะเนี่ย" เด็กหญิงก้มลงดูลูกตาของตุ๊กตาตัวโปรดที่เธอใส่กลับข้าง จนต้องแก้ใหม่อีกเป็นวันสองวัน และในที่สุดเธอก็ให้กำเนิดตุ๊กตาตัวแรกขึ้นมาจนได้
เธอบอกให้มาเป็นเพื่อนกัน จากนี้เธอจะสอนเรื่องต่างๆ ให้ ซึ่ง Fantoccini ก็เชื่อฟังเธอและยอมรับเธอ ทั้งสองใช้ชีวิตด้วยกันในบ้านตุ๊กตา Fantoccini เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากเด็กหญิงทั้งหมด โดยที่เด็กหญิงไม่พูดอะไรเกี่ยวกับตุ๊กตาที่เหลือ และเธอก็ไม่ได้สร้างตุ๊กตาตัวใหม่ขึ้นมาอีก
จนวันหนึ่ง Fantoccini ถามเธอว่าจะสร้างเพื่อนขึ้นมาอีกได้หรือไม่ เธอบอกว่าไม่ได้แล้ว
Fantoccini ไม่เข้าใจ ทำไมจึงไม่ได้ ในเมื่อเด็กหญิงสร้างเธอได้ก็ต้องสร้างเพื่อนๆ ของเธอได้เช่นกันสิ
และวันหนึ่ง Fantoccini ที่อยากรู้อยากเห็นเสียเหลือเกินก็ได้แอบเข้าไปในห้องปิดตาย เพื่อสร้างตุ๊กตาที่จะมาเป็นเพื่อนเพิ่มอีก เธอแค่อยากมีเพื่อนเยอะๆ เด็กหญิงเพื่อนรักของเธอจะได้ไม่เหงา
"ฉันจะสร้างเองค่ะ ต้องสร้างได้แน่ๆ เลยค่ะ สร้างได้แน่ค่ะ" น้ำเสียงของเธอเกรียน เอ้ย... มุ่งมั่นมาก ในที่สุดเธอก็ทำสำเร็จ เธอสร้างตุ๊กตาเด็กหญิงขึ้นมาได้ เธอตื่นเต้นเมื่อวินาทีที่ดวงตาสีฟ้าสดของคุณหนูหน้าตาจิ้มลิ้มค่อยๆ เปิดออก
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ตุ๊กตาผมสีทองที่ดูงามสง่าเบิกตาขึ้นแล้วจ้วงมือควักหัวใจของ Fantoccini ออกมา มันคือแร่วิเศษทั้งชิ้น
ตุ๊กตาทั้งหมดนี้ถูก Talestoy สร้างทิ้งไว้ภายใต้แนวคิดของการสร้างของเล่น ตุ๊กตาทุกตัวจึงซึมซับจิตใต้สำนึกที่รักสนุก และเอาแต่ใจของเขาไว้
เด็กหญิงใช้แร่วิเศษทั้งหมดสร้างหัวใจของ Fantoccini เพื่อให้ Fantoccini มีสามัญสำนึกของมนุษย์อย่างเต็มเปี่ยม เธอไม่แบ่งมันไปให้ตุ๊กตาตัวอื่นๆ เพราะมันมีไม่เพียงพอ
และนี่คือสาเหตุที่เธอไม่สร้างตัวอื่นๆ แต่ Fantoccini กลับทำในสิ่งที่เด็กหญิงหลีกเลี่ยงมาตลอด
ตุ๊กตาคุณหนูงามสง่าซ่อม Fantoccini แล้วลบความทรงจำทิ้ง ก่อนจะแบ่งเศษเสี้ยวของแร่วิเศษให้ เพื่อให้ Fantoccini ยังคงมีชีวิตต่อไปในระหว่างนี้ ระหว่างที่ตุ๊กตาทั้งหมดเตรียมการคืนชีพ
Fantoccini กลับกลายเป็นตุ๊กตาที่สงบเสงี่ยม ยิ้มแย้ม แต่ไม่ช่างเจรจาและชอบเล่นหัวอีกต่อไป ไม่นานเด็กหญิงก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่มันสายไปแล้ว คฤหาสน์ทั้งหลังไม่ใช่ของเธอและ Fantoccini อีกแล้ว เธอต้องพา Fantoccini หนีตายจากการไล่ล่า
"คนๆ นั้นต้องอยู่ในรถไฟละครสัตว์แน่ๆ ค่ะ ตามหารถไฟให้เจอนะคะ เอากระเป๋านี่ไปด้วยค่ะ ถ้านอนกลางป่าก็ต้องกางเต๊นท์นะคะ" สิ้นเสียง หน่วยไล่ล่าของกองทัพตุ๊กตาก็มาถึงและเล่นงานทั้งสองจนตกไปจากผา
เหล่าตุ๊กตาที่เหลือก่อตั้งจักรวรรดิตุ๊กตาขึ้นและเริ่มยึดครองเมืองนี้ แต่ก็ถูกสกัดกั้นไว้ได้หลายครั้งโดยนักเชิดหุ่นปริศนาหลายต่อหลายรุ่น
นี่คือสิ่งที่ตุ๊กตาทั้ง 10 ซึ่งอยู่ประจำบ้านมาตลอดได้รู้และได้เห็น
เสียงหัวเราะดังขึ้น ใครบางยืนอยู่บนราวบันไดด้านบนสุด