[Arc1 Quest1] Something out there

• lostlance: งี้นี่เองงง
  July 21, 2023, 07:09:04 PM
• Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
  August 28, 2023, 10:56:33 PM
• lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
  August 31, 2023, 10:47:07 AM
• Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
  September 29, 2023, 06:48:36 PM
• Bloody Rabbits: รออยุ่ว
  September 29, 2023, 10:01:26 PM
• lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
  October 05, 2023, 02:12:26 PM
• Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
  December 02, 2023, 01:55:59 AM
• Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
  January 01, 2024, 11:30:01 AM
• Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
  January 01, 2024, 11:30:18 AM
• Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
  January 01, 2024, 11:35:44 AM
• lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
  January 01, 2024, 08:58:21 PM
• Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
  June 09, 2024, 12:51:10 PM
• duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
  July 29, 2024, 10:00:23 PM
• Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
  August 01, 2024, 08:35:21 PM
• duek duen: Damn
  August 04, 2024, 04:42:50 PM

[Observer]

Port Strongcoast - Anni Humanus 20

เป็นอีกหนึ่งวันที่บรรยากาศเฉื่อยชากลืนกินหาดสตรองโคสต์และท่าเรือของมัน แสงแดดยามสายที่ไม่ร้อนเกินไปนักสายลงบนผืนน้ำสะท้อนประกายระยับ เรือประมงจอดเทียบฝั่ง ไกลออกไปชาวเมืองสามารถมองเห็นซากเรือปรักหักพังอยู่ที่ปลายหาด เจน แมรี่ พี่สาวผู้ซื่อสัตย์และองอาจของชาวมนุษย์ หกปีสำหรับการเดินทางผ่านโพ้นทะเลและยี่สิบปีที่เธอนอนเกยหาดอยู่เช่นนั้น เจน แมรี่ เรือสำเภาที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ประวัติศาสตร์มนุษย์เคยสร้างขึ้นมา หรืออย่างน้อยก็ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เมื่อ 20 ปีก่อน ครั้งหนึ่งเธอพาผู้คนที่สิ้นหวังและลูกเรือนักโทษเดนตายออกจากดินแดนเก่าที่ไร้ชีวิตเพราะสงครามเวทมนตร์ และนั้นคือครั้งแรก และครั้งเดียวที่เธอได้ออกเดินทาง...

สตรองโคสต์คือที่มั่นหลักของมนุษย์มาตลอด 20 ปี มันไม่เคยหยุดพัฒนาและไม่มีทีท่าว่าจะทำเช่นนั้น แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็มีทุกอย่างที่นักผจญภัยต้องการสำหรับการเริ่มต้นผจญภัย เศรษฐกิจหลักของสตรองโคสต์คือการผจญภัย หลังจากที่มนุษย์พยายามค้าขายกับชาวเอล์ฟเร่ร่อนซึ่งไม่ได้ต้องการอะไรเป็นพิเศษเนื่องจากพวกเขาสามารถแสวงหาสิ่งที่ตนต้องการได้เอง และอาณาจักรคนแคระ... ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันใครในเมืองนี้มันริเริ่มคิดจะขายปลาให้กับคนแคระที่กินอาหารอย่างสำราญในถ้ำของพวกเขา หลังจากที่ความพยายามทำในสิ่งที่มนุษย์ทำได้ดีมาตลอดประวัติศาสตร์ หรืออย่างน้อยก็ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์เมื่อ 20 ปีก่อน ล้มเหลวไม่เป็นท่า พวกเขา ทำอีกสิ่งที่มนุษย์ทำได้ดีมาตลอดประวัติศาสตร์อีกอย่างหนึ่ง สงคราม มนุษย์เริ่มสะสมกำลังและวางแผนบุกเบิกขยายดินแดนใหม่ ด้วยความช่วยเหลือจากเอล์ฟพเนจรบางกลุ่มในด้านความรู้เกี่ยวกับดินแดนที่พวกเขายืนอยู่ และการสนับสนุนเล็กๆน้อยๆจากอาณาจักรคนแคระ(ซึ่งดูจะยินดีเป็นพิเศษที่มนุษย์ต้องการจะทำสงครามกับเผ่าพันธุ์บนผิวดิน) มนุษย์และสตรองโคสต์กลายเป็นศูนย์กลางกำลังพลของสามเผ่าพันธุ์ที่มีศัตรูเดียวกัน กอบลินและออร์ค พวกเขาก่อตั้งพันธมิตรอย่างไม่เป็นทางการขึ้น และหวังว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด

แต่บางสิ่งบางอย่างก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แม้จะพยายามมากเพียงใด

และนี่... คือจุดเริ่มต้น ของเรื่องราวทั้งหมดต่อจากนี้...




ภายในร้านเหล้าสตรองโคสต์ สถานที่รวมตัวยอดนิยมของนักผจญภัย ได้รับความนิยมมากจนถึงขนาดที่ว่าเมนูสุราบนกระดานถูกคลุมทับด้วย ประกาศค้นหากลุ่มเดินทาง, ประกาศว่าจ้าง, ประกาศรับจ้าง หรือแม้กระทั้งประกาศตามหาแมวที่หายไป(ชื่อของมันคือคุณหมูกระเป๋าปุกปุย เป็นแมวพันธุ์พื้นเมืองขนสีแดง ตาสีเหลือง เจาะหูข้างเดียว) พักนี้ดูเหมือนจะมีข่าวลือว่าช่างตีเหล็กได้หยุดผลิตอาวุธและชุดเกราะชั่วคราว เนื่องจากกองขนส่งแร่จากเหมืองที่คนแคระและมนุษย์ร่วมแรงลงทุนไม่สามารถขนสินค้ากลับมายังสตรองโคสต์ได้เนื่องจากมีปัญหาระหว่างทาง เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ถกกันอย่างเผ็ดร้อนในวงเหล้า บางก็สัญนิษฐานว่าเป็นเพราะแผ่นดินไหวเมื่อสองสัปดาห์ก่อนทำให้เกิดหินถล่มที่ช่องเขาและปิดเส้นทางเอาไว้ หลังจากที่คนงานจัดการเรื่องเส้นทางเรียบร้อยทุกอย่างจะเป็นปรกติ บางคนก็ให้ข้อเสนอว่าอาจจะเพราะมีการดักปล้นระหว่างการเดินทางทำให้การขนส่งทั้งหมดถูกเลื่อนออกไปก่อน คนที่มองโลกในแง่ร้ายหน่อยก็อาจจะคิดว่ามีสัตว์ยักษ์ออกอาละวาดระหว่างการขุดเหมือง ทุกคนตายหมด และจะไม่มีใครแตะเหมือนนั้นได้อีก

ไม่ว่าข้อสรุปของสาเหตุจะเป็นอย่างไร ผลที่แน่นอนก็คือ สายการผลิตอาวุธและชุดเกราะได้หยุดลงและหากเป็นอย่างนี้ต่อไป นักผจญภัยทุกคนอาจจะต้องเสียเวลาทั้งวันในการขุดหากุ้งดินออกไปตกปลาหรือเหวี่ยงแหกลางทะเลเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ หรือรอให้สักวันหนึ่งพวกเขาจะพบเหมืองแห่งใหม่และภาวนาว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดเหมือนครั้งนี้อีก

แต่ก็ยังไม่มีใคร คิดจะหาทางออก...

[Lu]

Spoiler for Hiden:

"แง ทำไมเยอะแบบนี้" ลูลู่ง้างคันศรยิงอย่างต่อเนื่อง คอยยิงใส่กอบลินตัวที่ใกล้ที่สุด

Attack Roll

Rolled 1d20+2 : 8 + 2, total 10

Damage Roll

Rolled 1d4+2 : 4 + 2, total 6

"ลูลู่ขอโทษ ไปสู่สุจคติเถอะนะ" 

[Pooto Dio Guerrero]

Spoiler for Hiden:

"เข้ามาเลยยย"

โบเวนไม่รอช้าวิ่งไปเข้าฟัน กอบลินตัวต่อไปด้วยดาบสั้น

Attack Roll

Rolled 1d20+2 : 3 + 2, total 5

Damage Roll

Rolled 1d4+3 : 4 + 3, total 7

[Flaky]

Role Playing [ Flaky ]

Spoiler for Hiden:

' ใช้ Animated Rope จับกอบลินสักตัว '

Rolled 1d20 : 20, total 20

[Observer]

ลูลู่น้าวธนูยิงอีกครั้ง กอบลินอีกตัวล้มลงด้วยฤทธิ์ปลายแหลมของลูกธนู ส่วนชายเปลือยครึ่งท่อนใช้ร่างอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าชนกอบลินสองตัวล้มลงและกวาดดาบสังหารทั้งคู่อย่างดุดัน โบเวนแดงดาบสั้นทะลวงซี่โครงของกอบลินผู้โชคร้ายตัวหนึ่งตายคาที่ ดเวนซ้ำลูกดอกไปที่กอบลินบาดเจ็บหนักตัวเดิมทำให้มันหงายท้องตึง ส่วนเฟลกีก็ร่ายมนตร์ควบคุมเชือกในกระเป๋าออกไปรัดกอบลินตัวหนึ่งเอาไว้เป็นปมแน่นจนมันไม่สามารถขยับตัวได้

กอบลินอีกสองตัวที่เหลือตั้งท่ากำลังจะหนีไป ส่วนเจ้าตัวที่ถูกจับอยู่ก็ดิ้นอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ไม่เป็นผล

[Thyself]

Dwen

Spoiler for Hiden:

"ห้ามหนี..." ดเวนว่าแล้วลูกดอกจกาหน้าไม้ใส่หนึ่งในสองก็อบลินที่กำลังหนีทันที

Attack Roll: Bonus +2

Rolled 1d20+2 : 3 + 2, total 5

Damage Roll: หน้าไม้

Rolled 1d6 : 6, total 6

[Flaky]

Role Playing [ Flaky ]

Spoiler for Hiden:

' ใช้ Mage Hand ผลักไปที่เชือกที่จับกอบลิน '

" ล้มลงไปแล้วมาเป็นตัวทดล.. สัตว์เลี้ยงของฉันซะดี ๆ "

[Pooto Dio Guerrero]

Spoiler for Hiden:

". . . . . ฝากด้วยละกัน"

เขาคิดว่าการสังหารกอบลินที่หลบหนีให้เป็นหน้าที่ของมือธนูดีกว่าและคิดว่าพวกมันคงจะหนีไปยังห้องใต้ดินที่เก็บเหล้าของอัลเบอโต้เพราะเป็นทางที่พวกมันเข้ามา จึงวิ่งไปที่นั่น เพื่อดูให็รู้ว่าพวกกอบลินเข้ามาได้ยังไง

[Lu]

Spoiler for Hiden:

"มันก็หนีไปแล้ว อย่าทำมันเลยค่ะ สงสารมัน"

เด็กหญิงยิงศัตรูที่หันหลังวิ่งหนีไม่ลง เธอปล่อยให้กอบลินวิ่งหนีไป แต่ถ้าโดนคนอื่นฆ่าเธอก็คงโทษชะตาของมันเองที่ทะเล่าทะล่าวิ่งเข้าเมืองมา

เธอหยิบชุดเกราะไปให้ชายเปลือยครึ่งท่อน "ทำไมพรวดพราดออกจากโรงหมอมาโดยไม่ใส่ชุดก่อนล่ะคะ แถมคนตะโกนเค้ายังพูดไม่จบเลยก็คว้าดาบวิ่งออกมาแล้ว ทำอย่างกับรู้ว่ากอบลินบุกแหนะ เก่งจัง ล่วงรู้อนาคตเหรอคะ สอนหนูบ้างสิ"

[Observer]

ดเวนยิงกอบลินตัวหนึ่งที่หันหลังวิ่งหนีเข้าอย่างจังจนมันล้มตึงลง แต่อีกตัวสามารถวิ่งไหนีไปได้ มันคงจะหายไปสักหลืบในเมือง และถ้ามันโชคไม่ดีนักก็อาจจะเจอนักผจญภัยคนหนึ่งตามเก็บเอาได้ง่ายๆ ส่วนลูลู่ที่ทำใจยิงอีกตัวไม่ลงก็ลดอาวุธลงแล้วยกเกราะไปให้ชายเปลือยครึ่งทอน โบเวนตรงลงไปในห้องใต้ดินหวังว่าจะพบเบาะแส ส่วนเฟลกีก็กำลังสนุกกับของเล่นใหม่ของเธอ เจ้ากอบลินสบถออกมาและร้องตะโกนด้วยโทนเสียงประหลาด ดูเหมือนมันจะพูดภาษา Dwarven

"ไอ้พวกโสโครก! ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้! ข้าคือข้ารับใช้ของท่านโกวอนและอีกไม่นานเจ้าจะต้องมาอยู่แทบเท้าข้า!!"

[Observer]

ชายเปลือยใช้เวลาไม่นานนักในการสวมชุดเกราะและตอบคำถามของลูลู่

"ไม่หรอก มันก็แค่ความเคยชินในการทำงานน่ะ ถ้าเกิดมีใครกระหืดกระหอบมาถึงโรงหมอแล้วตะโกนชื่ออะไรสักอย่างที่เป็นศัตรูมันก็ต้องเป็นการถูกโจมตีอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ? ข้าทำงานในหน่วยรักษาการจนเรื่องแค่นี้เป็นปฏิกิริยาตอบสนองฉับพลันแล้วล่ะ.."

...

โบเวนเข้าไปในชั้นใต้ดินซึ่งเป็นสถานที่เก็บเหล้าหลากหลายชนิด เขาเห็นรูและร่องรอยบนกำแพงที่ดูเหมือนจะเพิ่งถูกพังออกมา

[Thyself]

Dwen

Spoiler for Hiden:

"โกเวน?" ดเวนพึมพำแล้วเดินไปทางก็อบลินที่ถูกจับตัวไว้ หล่อนยืนมองสิ่งมีชีวิตแคระสีเขียวที่ดิ้นรนเต็มที่และไม่มีท่าทีจะยอมแพ้
จากนั้นจึงชักมีดสั้นออกมาและจ่อเข้าไปที่คอหอยของก็อบลิน โดยไม่สนใจจอมเวทย์เอล์ฟตัวแค... ตัวน้อยแต่อย่างใด
และพูดออกมาด้วยภาษาของคนแคระ "โกเวนเป็นใคร พวกแกมาทำอะไรที่นี่ มาทำไม และเข้ามาได้ยังไง"

ทอยเต๋าข่มขู่ รีดข้อมูล

Rolled 1d20 : 8, total 8

[Flaky]

Role Playing [ Flaky ]

Spoiler for Hiden:

" นี้ .. คิดว่าโกวอนที่แกคารพมาเห็นสภาพแบบนี้จะเป็นยังไงงั้นหรอ ? "

               เด็กสาวเผ่าเอล์ฟพูด

" ไม่คิดงั้นหรอ .. ว่าท่านโกวอนเขาจะคิดว่านายน่ะตายไปแล้ว ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนๆ ของนาย "

               เด็กสาวเผ่าเอล์ฟเริ่มแสยะยิ้มออกก่อนจะพูดต่อ

" งั้นนายไม่ลองบอกข้อมูลที่อยู่ของท่าน โกวอน อะไรนั้นมาให้ฉันฟังล่ะ ? "
" ฉันอาจใจดีพานายกลับไปส่งถึงมือท่าน โกวอน ก็เป็นได้นะ ~ "
" ข้อเสนอดีใช่ไหมละ ? งั้นก็บอกข้อมูลทั้งหมดที่นายรู้มาสิ "

' ใช้คำสั่ง ข่มขู่ '

Rolled 1d20 : 20, total 20

[Lu]

Spoiler for Hiden:

"ไม่เจ็บแผลเหรอคะ" เธอชี้ไปที่ท้องของชายผู้นี้ก่อนจะนึกขึ้นได้

"หนูชื่อ ลูลู่ ค่ะ" ลูลู่แนะนำตัว

[Pooto Dio Guerrero]

Spoiler for Hiden:

"พวกมันขุดรูมาทางนี้สินะ เอาล่ะคงต้องเข้าไปดูให้รู้ว่ามาจากที่ใด . . . แต่ก่อนอื่น"

โบเวนหันมองรอบกายเมื่อไม่เห็นผู้ใดก็หยิบเหล้าที่อัลเบอโต้เก็บไว้มาเปิดดื่มขวดนึง

[Observer]

ลืมสรุปผลการต่อสู่ - -"
ดเวน, โบเวน, ลูลู่ และเฟลกี ได้รับค่าประสบการณ์ 20!
"โกเวน? โกเวนเป็นใคร พวกแกมาทำอะไรที่นี่ มาทำไม และเข้ามาได้ยังไง"เดวนร้องถามด้วยภาษาคนแคระ เจ้ากอบลินหัวเราะลั่นด้วยความขบขัน
"คิดหรือไงว่าข้าจะบอก ไม่มีทางหรอกโว้ย! ท่านโกวอนยิ่งใหญ่ที่สุด! ท่านโกวอนจงเจริญ!"
"นี้ .. คิดว่าโกวอนที่แกคารพมาเห็นสภาพแบบนี้จะเป็นยังไงงั้นหรอ ?"เฟลกีแทรกขึ้นมาทำเอาเจ้ากอบลินสะอึก "ไม่คิดงั้นหรอ .. ว่าท่านโกวอนเขาจะคิดว่านายน่ะตายไปแล้ว ไม่ต่างอะไรจากเพื่อนๆ ของนาย"
"ท่านโกวอน... ไม่มีทางคิดเช่นนั้น"มันยืนกรานเสียงแข็ง แต่ก็เหมือนจะพยายามปกปิดอะไรบางอย่าง
" งั้นนายไม่ลองบอกข้อมูลที่อยู่ของท่าน โกวอน อะไรนั้นมาให้ฉันฟังล่ะ ? ฉันอาจใจดีพานายกลับไปส่งถึงมือท่าน โกวอน ก็เป็นได้นะ ~ "เฟลกียิ้มแสยะอย่างมีเลศนัย และดูเหมือนเจ้ากอบลินนั้นก็พร้อมจะให้ความร่วมมือเล็กน้อย มันพูดออกมาเป็นภาษาคนแคระ
"ท่านโกวอนเป็นหมอผีผู้นำทางจิตวิญญาณของพวกเราผู้ติดตามแห่งกรู-"

โผละ!

ไม่ทันจะพูดจบ หัวของมันก็ระเบิดออกกระจุยเป็นชิ้นๆ ร่างไร้หัวล้มลงพร้อมกับเชือกที่คลายออก..

"ว่าแต่ คุณไม่เจ็บแผลเหรอคะ?"ลูลู่ถามหลังจากที่ชายแปลกหน้าเปรยขึ้นมาถึงหน้าที่ "อ้อ หนูชื่อลูลู่ ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก"
"อาเรซ นายกองที่สี่หน่วยรักษาการณ์สตรองโคสต์"เขาแนะนำตัว แล้วหันไปมองกอบลินที่หัวระเบิดเมื่อครู่ด้วยความฉงน(เช่นเดียวกับลูลู่ เนื่องจากทั้งสองฟังภาษาคนแคระไม่ออก) "ไม่รู้หรอกนะว่าทำไม แต่พวกเธอทำได้ดีมากเลย ขอขอบคุณในฐานะตัวแทนของชาวเมือง"

อาเรสมองซ้ายมองขวาอีกครั้ง "ว่าแต่นักรบอีกคนเมื่อกี๊หายไปไหนเสียล่ะ?"

...

โบเวนคว้าขวดเหล้าใส่กระเป๋าเอาไว้ ดูเหมือนว่าจุดที่พวกมันพังเข้ามาจะเป็นจุดที่ตั้งของเสาค้ำพอดี โบเวนจึงถึงบางอ้อว่าที่ร้านถล่มลงมาได้ง่ายๆก็เป็นเพราะอุโมงค์ของพวกกอบลินนี่เอง หมายความว่าเจ้ากอบลินทำให้เขาเสียโอกาสดื่มไปถึงสองครั้งด้วยกัน เขาเดินเข้าไปในอุมงค์ ไม่แน่ใจนักว่ายาวเท่าไหร่ แต่มันมืดอยู่พอตัว โบเวนจึงถอยกลับมาก่อน เขาไม่รู้ว่าจะมีพวกมันผ่านเข้ามาทางนี้อีกหรือไม่ หรือมันอาจจะวางกับดักเอาไว้ กาดเดินเข้าไปดุ่มๆในความมืดจึงไม่ใช่เรื่องฉลาดเท่าไรนัก