คงคาก็แนะนำตัวชาวบ้านด้วย แต่ละคนมานั่งเล่าอัตประวัติของตน กว่าจะครบก็ 2 ชั่วโมง
แต่อย่างน้อยทุกคนก็ได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่แบบง่ายๆ ของชาวบ้าน
ชาวบ้านส่วนหนึ่งตาโตโอ้โหเมื่อ chao แสดงอภินิหารและโอ้อวด
คงคาเพียงคนเดียวที่รู้ว่าอีกฟากของแผ่นดินมีอาณาจักรโบราณของบรรพบุรุษเรา แต่ไม่มีใครข้ามทะเลน้ำแข็งไปได้หรอก เท่าที่รู้คือ มีคนไปที่นั่นจำนวนมาก แต่ยังไม่เคยมีใครกลับมาได้
หมู่บ้านนี้ไม่มีชื่อ สำหรับชนชั้นแรงงาน ชื่อสถานที่อยู่ไม่สลักสำคัญอะไร
"พวกเราชาว Plutus อาศัยได้ทุกหนแห่ง"
คงคาบอกต่อว่าชนชั้นแรงงานไม่มีสิทธิ์เลือก ชนชั้นผู้ปกครองเท่านั้นที่มีสิทธิ์
แต่พิภพแห่งนี้ปกคลุมด้วยน้ำแข็งและความแห้งแล้งอยู่แล้ว จะที่ไหนก็อาจไม่ต่างกันนัก
ส่วนอาหาร คงคาผายมือให้ดูเนื้อกระต่ายหิมะขาวตากแห้งที่นานๆ ทีจะจับได้สักครั้ง ตัวเดียวแบ่งกันรับประทานทั้งหมู่บ้านให้ได้ลิ้มรสชาติเนื้อสัตว์บ้าง
นอกจากนี้ก็จับกระรอกบ้าง หนูบ้าง มารับประทาน แต่ก็หายากมากเช่นกัน
อาหารหลักเป็นหัวหอม ลุงชราให้ดูหัวหอมลูกใหญ่เท่าส้มโอ ปลูกบนดิน แต่สู้อากาศหนาวเย็นได้ ยังมีแตงกวาผลยาวชมัดยาด และพวกเห็ดที่เก็บตามป่าสน
อาชีพของชาวบ้านไม่มี เพราะแค่หาฟืน หาอาหาร และซ่อมแซมหมู่บ้านก็หมดไปวันนึงๆ ความจริงแล้วที่นี่มีคนอยู่ถึง 30 คน แต่ถูกเกณฑ์ไปรบ
ได้ยินว่ามีคนที่มาจากโลกใหม่ทำสงครามอยู่อีกฟากหนึ่งของอาณาจักรนี้ เมืองที่เห็นก็คือเมืองภัทธะ เป็นเมืองทางตะวันตกของอาณาจักร หากจะเข้าสู่อาณาจักร Plutus ก็ต้องผ่านเมืองนั้น
นอกจากคงคาไม่มีใครเคยเข้าเมือง