เรื่องราวตำนาน 12 ผู้กล้าก่อนที่อาณาจักรอิวาลิคจะรวมเป็นหนึ่ง
อาณาจักรอิวาลิคเดิมแบ่งออกเป็น 7 อาณาจักร แต่ละอาณาจักรต่างต่อสู้แย่งชิงดินแดนของตัวเองนานถึง 50 ปี
กระทั่งราชาองค์ใหม่ได้กำเนิดขึ้นที่อาณาจักรมูรอนด์ เขาได้รวบรวมกองทัพอันยิ่งใหญ่เข้าร่วมสงคราม 50 ปี แต่ก็ยังไม่ได้รับชัยชนะในการต่อสู้
พระราชาได้ค้นพบวิธีที่จะปลุกเทพแห่งเวทมนต์ขึ้นมาจากใต้พิภพให้ทำลายล้างศัตรูให้หมดสิ้น แต่ว่าเทพแห่งเวทมนต์ได้ฆ่าพระราชาและพยายามที่จะทำลายล้างมนุษย์...
วิญญาณผู้กล้าทั้ง 12 ที่คอยปกป้องโลกใบนี้จึงได้ออกมาจัดการกับปีศาจที่เทพแห่งเวทมนต์ได้สร้างขึ้นมา และผนึกปีศาจทั้งหลายเอาไว้ในตราประจำราศีของผู้กล้าทั้ง 12
ผู้กล้าทั้ง 12 ได้ส่งเทพแห่งเวทมนต์กลับไปสู่ใต้พิภพตามเดิม นับตั้งแต่นั้นมาผู้คนจึงขนานนาม เรื่องเล่านี้ว่า
Zodiac Braveอิวาลิคเดิมเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ แต่หลังจากสงคราม 50 ปี พระราชาที่ป่วยเรื้อรังมานานได้สิ้นพระชนม์ลง
สาเหตุการตายนั้นยังหาข้อสรุปไม่ได้ อาจจะถูกลอบสังหาร หรือสิ้นพระชนม์ด้วยโรคร้าย ซึ่งในขณะนั้นพระโอรสก็อายุเพียง 2 ปีเท่านั้น
เจ้าชายลาร์ค ซึ่งเป็นพี่ชายของกษัตริย์ต้องการสถาปนาตนเอง แต่ถูกขุนนางขับไล่และแต่งตั้งเจ้าชายโกลทาน่าขึ้นมาปกครองแทน จึงเป็นเหตุให้เกิดการแตกฝ่าย
ฝ่ายเจ้าชายโกลทาน่าได้กำหนดสัญลักษณ์รูปสิงห์สีดำ ส่วนฝ่ายเจ้าชายลาร์คก็ได้กำหนดสัญลักษณ์รูปสิงห์สีขาว และทั้งหมดนี้ก็เป็นต้นเหตุให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า
The Lion War
ตัวละคร
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้น ณ วิหารอบอนเน่
องค์หญิงโอเวเลีย กำลังภาวนาขอพรจากพระเจ้า ทหารติดตามในเวลานั้นขององค์หญิงมีทั้งหมด 8 คน ในนั้นมีแรมซา, อาเกรียส องครักษ์เอก, กัฟกาเลี่ยน นักรบเกราะดำ และทหารอื่นๆ
องค์หญิงทำพิธีขอพรจากพระเจ้าได้ไม่นานกลุ่มทหารไม่ทราบฝ่ายก็บุกเข้ามายังวิหารแห่งนี้
ทหารทั้งหมดได้ออกไปต่อสู้ และหลังการต่อสู้จบลง เดลิต้าก็ฉวยโอกาสลอบเข้าไปพาองค์หญิงขึ้นโจโกโบะหนีไปต่อหน้าอาเกรียส
ทุกคนต่างตกใจและเป็นห่วงความปลอดภัยขององค์หญิง แรมซาซึ่งรู้จักเดลิต้าเป็นอย่างดีจึงเล่าเรื่องราวในสมัยอดีตให้ทุกคนในที่นั้นได้ฟัง
Chapter 1 เรื่องราวของเดลิต้าครั้งอดีตแรมซาอยู่ในตระกูลเบโอลูฟ ส่วนเดลิต้าเป็นสามัญชนที่พ่อของแรมซาเก็บมาเลี้ยง ทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันและยังเป็นทหารฝึกหัดในสังกัดของเจ้าชายลาร์ค หน้าที่ของพวกเขาคือรักษาความสงบในอาณาจักรลาร์ค
เมื่อครั้งบุกทะลายรังโจรที่นครเวทย์มนต์แห่งการี่แลนด์ พวกเขาได้พบเพื่อนพ้องอีกหนึ่งคนโดยบังเอิญ ณ ที่ราบเมนดาเรีย เขาคือ อัลกัส
อัลกัสถูกช่วยไว้ก่อนจะถูกกลุ่มโจรจับเป็นเชลย เขาได้มาเป็นพวกพ้องอีกคนหนึ่งของกลุ่มแรมซา และทั้งสามก็ได้เข้าเป็นกองทหารของตระกูลเบโอลูฟภายใต้การบังคับบัญชาของเจ้าชายลาร์ค
เจ้าชายลาร์คมีแม่ทัพคือไดซ์ดาร์กที่เป็นพี่ชายคนโตสุดของตระกูลเบโอลูฟ (ตระกูลนี้มีพี่น้อง 4 คน ไดซ์ดาร์ก ซัลแบ็ก แรมซา และอัลม่า)
วันหนึ่งพวกของแรมซาได้บุกสลัมแห่งนครดอร์เตอร์ ทำให้ทราบแผนการโค่นล้มตระกูลเบโอลูฟของวิกราฟจากมิลูด้าที่เป็นน้องสาว
แผนการดำเนินไป พวกโจรบุกปราสาทอิกรอสของตระกูลเบโอลูฟและพยายามจับตัวอัลม่า น้องสาวแรมซา แต่ซัลแบ็กเข้ามาช่วยทัน
ถึงกระนั้นโจรอีกคนก็จับตัวน้องสาวของเดลิต้าไปได้ เธอชื่อเทต้า
กลุ่มโจรยังได้ลอบทำร้ายไดซ์ดาร์กจนปางตาย สร้างความแค้นให้กับตระกูลเบโอลูฟมาก
ต่อมาแรมซา เดลิต้า และอัลกัสทะเลาะกัน เนื่องจากอัลกัสต้องการให้ดูแลพวกพ้องของทหารและวางแผนก่อนที่จะไปช่วยน้องสาวของเดลิต้า ทั้งสองชกต่อยกัน อัลกัสจึงไปจากกลุ่มของแรมซา
เดลิต้ารีบร้อนไปช่วยน้องสาวของเขาโดยมีแรมซาตามไปเพราะไม่อาจปล่อยเดลิต้าไปเพียงลำพังได้ ทั้งสองไปจนพบวิกราฟแต่ไม่พบเทต้าเพราะเธอถูกจับตัวไปอยู่กับที่ป้อมซีกเดนแล้ว
ทางด้านอัลกัสได้รับคำสั่งจากตระกูลเบโอลูฟให้ฆ่าพวกโจรให้หมด เขาบุกไปจัดการพวกโจรที่ป้อมซีกเดน
โจรคนสุดท้ายเอาเทต้ามาเป็นตัวประกัน แต่อัลกัสไม่ได้สนใจ เขายิงเทต้าและยิงโจรทิ้งอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งแรมซากับเดลิต้ามาเห็นเหตุการณ์พอดี
อัลกัสบอกว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ มันเป็นเป็นเรื่องสุดวิสัย เขาทำตามหน้าที่
เดลิต้าโกรธแค้นมาก เขาเข้าต่อสู้กับพวกของอัลกัส การต่อสู้จบลงหลังจากที่เดลิต้าสังหารอัลกัสก่อนจะไปยังศพของน้องสาวเขา
แผนเดิมของกลุ่มโจรคือจับผู้หญิงเป็นตัวประกันและล่อให้ตระกูลเบโอลูฟมายังป้อมซีกเดนเพื่อสังหารด้วยระเบิด แต่แผนผิดพลาดตรงที่อัลกัสสังหารโจรเกือบหมด และแรมซากับเดลิต้ากลับมาต่อสู้กับอัลกัสแทน
เหลือโจรเพียงคนเดียวที่เป็นคนจุดระเบิด และระเบิดลูกแรกก็ระเบิดขึ้น
แรมซาพยายามจะช่วยเดลิต้าออกมา แต่ก็โดนระเบิดจนกระเด็นตกไปยังหลุม พร้อมกับที่ระเบิดลูกใหญ่ก็ดังขึ้นอีก
แรมซาตื่นมาก็พบว่าตนเองเป็นคนสุดท้ายที่รอดชีวิตในเหตุการณ์นี้ กลุ่มของแรมซาจึงแตกกระเจิง อัลกัสตาย ไม่พบศพของเดลิต้ากับเทต้า
Chapter 2 แผนการตามล่าองค์หญิงจากเดลิต้า ความน่ากลัวปีศาจแห่ง Zodiac Stoneหลังจากที่แรมซาได้เล่าเรื่องราวของเดลิต้าให้ทุกคนได้ฟังหมดแล้วจึงเริ่มแผนการตามหาองค์หญิงโดยเริ่มสืบเรื่องราวจากรังโจรที่นครการค้าดอร์เตอร์
หลังการปะทะกับโจรได้พบว่าเดลิต้าพาองค์หญิงหนีไปยังน้ำตกไซเรคีลและกำลังถูกตามล่าโดยกองทหารของเจ้าชายลาร์ค เมื่อพวกแรมซาตามไปถึงจึงช่วยองค์หญิงได้
เดลิต้าเล่าว่าที่ตนต้องลักพาตัวเจ้าหญิงมาก่อนนั้นเนื่องจากต้องการช่วยเจ้าหญิงจากแผนลอบสังหารของเจ้าชายลาร์ค
เจ้าชายลาร์คไม่ต้องการองค์หญิงที่เป็นทายาทคนสุดท้ายของกษัตริย์ออมโดเรียขึ้นครองราชย์ต่อ
เดลิต้าได้เข้ากับฝ่ายโกลทาน่าและยังชักชวนแรมซาให้ไปอยู่พวกโกลทาน่า เพื่อเป็นอิสระจากราชาที่เห็นแก่ตัว ก่อนจะจากไป
ต่อมาพวกแรมซาได้พาองค์หญิงโอเวเลียเดินทางไปถึงนครด่านซาแลนด์ และได้พบกับมุสตาดิโอ วิศวกรที่กำลังถูกตามล่าจากกลุ่มโจรเฝ้าสมบัติ
เขาล่วงรู้ความลับเกี่ยวกับ Zodiac Stone ที่มีความสามารถในการทำลายล้าง หากใครได้ครอบครองจะเป็นผู้ที่มีอำนาจเก่งกาจเหนือใคร
แรมซาตัดสินใจไปช่วยครอบครัวมุสตาดิโอเพราะอยากรู้เกี่ยวกับพลังลึกลับของ Zodiac Stone ส่วนองค์หญิงโอเวเลีย กัฟกาเลี่ยน และอาเกรียสก็แยกตัวกลับวัง
พ่อของมุสตาดิโอถูกจับตัวไป เขาเป็นนักประดิษฐ์ และมี Zodiac Stone ไว้ในครอบครอง
เขาศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพลังของหินเหล่านี้แต่ถูกจับตัวไปเป็นตัวประกันโดยกลุ่มโจรที่ต้องการลูกแก้ว ทำให้พวกแรมซาต้องไปช่วย มุสตราดิโอจึงได้มาเข้ากลุ่มอีกคน
เมื่อจบเรื่องครอบครัวของมุสตาดิโอแล้วพวกแรมซาเดินทางมาถึงหุบเขาบาเรียสและพบอาเกรียสกำลังต่อสู้กับทหารของโกลทาน่า จึงได้รู้ว่ากัฟกาเลี่ยนเป็นสายลับ เขาเป็นทหารของโกลทาน่า และองค์หญิงก็ถูกจับตัวไปที่ปราสาทโกลแลนด์แล้ว
เมื่อไปถึงปราสาทโกลแลนด์ก็ได้พบกับองค์หญิงกำลังถูกกัฟกาเลี่ยนประหารชีวิต อาเกรียสรีบเข้าไปช่วยแต่กลับพบว่าองค์หญิงเป็นตัวปลอม (กับดัก)
พอเดินทางกลับไปยังบริเวณหน้าประตูปราสาทไลโอเนลที่เป็นที่ประทับขององค์หญิงโอเวเลีย ก็พบกับกับดักของกัฟกาเลี่ยนอีกครั้ง
แรมซาถูกล่อให้อยู่คนเดียวและต้องต่อสู้ แบบ 1-1 กับอัศวินดำกัฟกาเลี่ยนที่มีฝีมือร้ายกาจ แต่แรมซาก็เอาชนะและสังหารกัฟกาเลี่ยนได้
เมื่อจบการต่อสู้ทั้งหมดเข้าไปยังปราสาทไลโอเนลแต่กลับไม่พบองค์หญิง
ขุนนางแห่งปราสาทไลโอเนลได้ใช้พลังของหิน Zodiac Stone หรือลูกแก้วเปลี่ยนร่างเป็นราชาเชื้อโรคเข้าต่อสู้
เมื่อจบการต่อสู้ทำให้แรมซาได้รู้ถึงพลังอำนาจของ Zodiac Stone หากผู้ใดใช้พลังของหินนี้ในทางชั่วร้ายจะถูกวิญญาณปีศาจกลืนกินร่างกาย เมื่อตายลงก็จะเหลือเพียงลูกแก้ว แรมซาจึงตั้งใจออกเดินทางตามหาลูกแก้วให้ครบและทำการผนึกลูกแก้วไว้มิให้ใครนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือใช้เพื่อประโยชน์ของตน
Chapter 3 กบฏ ช่วงชิง โชคร้าย และพี่น้อง ลูกแก้วแห่งโศกนาฏกรรมเป้าหมายต่อไปคือปราสาทเลซาเรีย แต่เมื่อเดินทางมาถึงนครถ่านหินโกแลนด์ก็ได้พบโอลันถูกโจรไล่ล่า
โอลันมีฝีมือที่เก่งกาจในด้านเวทย์มนต์ที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครจนแรมซาต้องแปลกใจ แรมซาได้ช่วยชีวิตโอลันไว้ได้และทำให้แรมซาได้มิตรภาพใหม่ที่ดีอีกครั้ง
เมื่อเดินทางมาถึงปราสาทเลซาเรีย แรมซาได้พบกับซัลแบ็กและอัลม่า ซัลแบ็กกำลังศึกษาเกี่ยวกับ Zodiac Stone อยู่ แรมซาพยายามคัดค้านเรื่องนี้จึงโดนไล่ออกจากหอสมุด
ระหว่างที่แรมซากำลังทุกข์ใจเรื่องพี่ชายของตน อัลม่าน้องสาวก็ได้เข้ามาปลอบ ระหว่างนี้ฝ่ายโกลทาน่าก็ยกทัพมาโจมตีเมืองเลซาเลีย โดยการนำทัพของซอลโม
แรมซาป้องกันประตูหลังของเมืองไว้ได้ จึงได้ทราบว่าโกลทาน่าต้องการค้นหาความลับของ Zodiac Stone และตำนาน The Zodiac Brave story
เมื่อพวกของแรมซากลับเข้าไปยังตัวปราสาทก็พบว่าพวกทหารโกลทาน่าได้บุกเข้ามาถึงคลังหนังสือชั้นที่ 2 ของปราสาทนี้จึงได้ตามลงไปขับไล่พวกโกลทาน่า โดยฝากลูกแก้วทั้งหมดไว้ที่อัลม่าและให้อัลม่ารออยู่ที่ชั้น 1
เมื่อถึงคลังหนังสือชั้นที่ 3 ก็พบกับอิสลูด ทหารเอกแห่งโกลทาน่า ซึ่งเป็นน้องชายของวิกราฟ และวิกราฟที่ยังมีชีวิตอยู่ เขากลายเป็นอัศวินชั้นสูงแล้ว
หลังจากต่อสู้กันวิกราฟและอิสลูดพ่ายแพ้และบาดเจ็บสาหัส วิกราฟหนีออกมาจากปราสาทเลซาเลียแต่มาพบอัลม่าน้องสาวของแรมซา
วิกราฟได้รู้เรื่องของ Zodiac Stone เขาจึงใช้เพื่อรักษาชีวิตของตนเองให้อยู่รอด วิกราฟแพ้แรมซาถึงสองครั้ง เขาเชื่อว่าหากใช้พลังนี้แล้วจะต้องชนะแรมซาได้ แต่เขากลับถูกปีศาจเข้าสิงร่าง
ปิศาจได้จับตัวอัลม่ากลับไปยังเมืองโกลทาน่า ทิ้งอิสลูดไว้อย่างเดียวดาย เมื่อแรมซาตามมาก็พบเพียงอิสลูดเท่านั้น เขาขอให้ช่วยพี่ชายของเขา
แรมซาและพวกบุกไปยังอาณาจักรโกลทาน่า ศัตรูคู่อาฆาตของอาณาจักรลาร์ค
เมื่อเดินทางมาถึงนครด่านยาโดว์ ก็พบเด็กสาวนามว่าราฟากำลังถูกไล่ล่า เธอเป็นอัศวินทูตปิศาจ เมื่อช่วยเธอได้แรมซาจึงรู้ถึงเรื่องกบฎโกลทาน่า
เดิมราฟาเป็นทหารของฝ่ายโกลทาน่าแต่ล่วงรู้ความลับเกี่ยวกับหิน Zodiac Stone และได้ขโมยมา 1 ชิ้น เพื่อที่จะศึกษาเกี่ยวกับพลังที่ซ่อนอยู่ของหินนี้ แต่แรมซาก็ได้ให้เธอรักษาหินนี้ไว้และห้ามนำมาใช้เนื่องจากเชื่อว่าเป็นหินชั่วร้ายหากใครครอบครองจะพบแต่ความโชคร้าย ทำให้ทั้งสองทราบว่าหินนี้มีอันตรายมากเพียงใด
ราฟายังพูดถึงน้องสาวของแรมซาด้วยเหมือนได้ยินว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถูกจับตัวมายังเมืองโกลทาน่า ก่อนที่เธอจะขโมยลูกแก้วแล้วหนีออกมา พวกเขาจึงตัดสินใจบุกเมืองโกลทาน่า
เมื่อมาถึงปราสาทโอวาเนสก็ต้องพบกับอัศวินทูตปิศาจอีกคนนึง ซึ่งเป็นน้องชายของราฟา ชื่อมาลัก เขาเป็นทหารของโกลทาน่าเช่นกัน
มาลักโกรธราฟาที่ทำแบบนั้น และยังไปเข้าพวกกับแรมซาอีกด้วย ทำให้เขาต้องออกมาต่อสู้ แต่หารู้ไม่เขาถูกหลอกมาโดยตลอด
เมื่อเข้ามายังปราสาทริโอวาเนสก็ได้พบกับวิกราฟอีกครั้ง และวิกราฟที้่ใช้พลังของลูกแก้วไปแล้วก็ได้กลายเป็น Velius
แรมซาต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อกำจัดเวลิอุสแต่หารู้ไม่เหตุการณ์ข้างในห้องประชุม วอร์แมฟ พ่อของวิกราฟและอิสลูด ผู้นำกองทัพของโกลทาน่ากำลังก่อกบฏโดยสังหารพระราชาของปราสาทนี้และขุนนางคนอื่นๆ
วอร์แมฟเป็นผู้ครอบครอง Zodiac Stone อีกคนหนึ่งและต้องการแสดงพลังอำนาจให้ทุกคนในที่นั้นได้เห็นถึงพลังอันชั่วร้ายของลูกแก้วนี้
ฝ่ายอัลม่าซึ่งถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินได้ยินเสียงการฆ่าฟันกันของทหารกับปีศาจแห่ง Zodiac Stone มีทหารคนนึงบาดเจ็บเข้ามาพาอัลม่าหนีแต่ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่นั้น อัลม่าจึงหนีออกมาได้และพบกับโศกนาฏกรรมการนองเลือดของทหารโกลทาน่า
หลังจากการก่อกบฏ ไม่เหลือใครรอดตายแม้กระทั่งอิสลูด วอร์แมฟฆ่าแม้กระทั่งลูกชายตนเอง
เมื่อกลับสู่ร่างมนุษย์ก็พบกับอัลม่าที่ออกมาเห็นเหตุการณ์การนองเลือดครั้งใหญ่ เขาได้จับตัวอัลม่าไปเนื่องจากลูกแก้วมีปฎิกริยากับอัลม่าและไม่ทำร้ายเธอ เพราะเธอคือเทพธิดาผู้ครอบครอง Zodiac Stone ที่เรียกว่าผู้คุมกฏ หรือ Altima กลับชาติมาเกิด การที่จะเรียกเทพธิดาแห่ง Zodiac ได้นั้นต้องใช้อัลม่าเป็นร่างทรง
หลังจากที่แรมซากำจัดวิกราฟได้แล้วเขากลับไม่พบอัลม่า มีเพียงลูกแก้วที่อัลม่าทำตกไว้ อิสลูดที่ยังไม่ตายพูดแต่เพียงว่าปิศาจออกมาจากลูกแก้ว และให้ช่วยพี่ชายกับพ่อของเขา
แรมว่าค้นหาอัลม่าทั่วปราสาทจนพบขุนนางคุ้มคลั่งคนหนึ่งที่หลังคาปราสาท ขุนนางคนนั้นชักปืนมายิงราฟาแต่มาลักมาขวางเอาไว้จนเขาถุกยิงเสียชีวิตทันที ราฟาตกใจและร้องไห้ แต่ไม่ทันไร อัศวินแห่งแสงนิรนามได้สังหารขุนนางคนนั้นที่ล่วงรู้เหตุการณ์กบฏครั้งนี้ โดยจับคอและเหวี่ยงตกปราสาทเสียชีวิตทันที แต่เขาก็ไว้ชีวิตแรมซาและราฟาเพราะแรมซาคือลูกชายคนเล็กแห่งตระกูลเบโอลูฟ เดิมพ่อของแรมซาเป็นเพื่อนกับเขา
ราฟานั่งร้องไห้เสียใจกับมาลัก ด้วยความรักของพี่น้องทำให้ลูกแก้วเกิดปฏิกริยาขึ้น ลูกแก้วสามารถชุบชีวิตของมาลักขึ้นมาได้
แรมซาและราฟาดีใจมาก สุดท้ายก็ได้ราฟากับมาลักเข้าร่วมกลุ่ม ทำให้แรมซาได้รู้ว่า Zodiac Stone ก็สามารถนำไปใช้ในทางที่ดีได้เหมือนกัน การมีลูกแก้วอยู่ในครอบครองจะทำให้ความปรารถนาของทุกคนเป็นจริงได้ ไม่ใช่เพียงแต่เป็นอาวุธทำลายล้างเท่านั้น
Chapter 4 ความรักของใครสักคน สิ้นสุดสงครามและการเอาชีวิตรอดราฟากับมาลักเล่าว่าอาณาจักรโกลทาน่ายังมีขุนนางอีกมากมายที่คิดจะแย่งชิง Zodiac Stone นี้ หากจะตามหาอัลม่าต้องไปยังอาณาจักรใหญ่ ทั้งหมดจึงเดินทางมายังนครอิสระเบอร์เวเนีย และพบกับอัศวินเทพพยากรณ์ นามว่าเมเลียดอล
เธอเป็นอัศวินที่เก่งกาจของโกลทาน่า หลังการต่อสู้เธอได้หนีไปถึงโบสถ์นอกเมือง แล้วก็พบกับเดลิต้าอีกครั้ง
เดลิต้ากล่าวถึงเจ้าชายลาร์คและโกลทาน่า ซึ่งทั้งสองก็เพียงแต่ใช้องค์หญิงโอเวเลียเป็นเครื่องมือเพื่อขึ้นสู่อำนาจ
โกลทาน่ามีออแลนดูเป็นแม่ทัพที่เก่งฉกาจไม่แพ้ใคร เหมือนกับที่ลาร์คมีตระกูลเบโอลูฟอยู่ข้างกาย ขุนนางและราชามีความเป็นอยู่สุขสบาย แต่ประชาชนอดอยากทั่วทุกเมือง ทั้งสองอาณาจักรคิดแต่จะเอาชนะกันไม่เคยเหลียวแลประชาชน
แรมซาจึงเข้าใจได้ว่าทำไมเดลิต้าไปเข้ากับโกลทาน่า เขาหวังเพียงเพื่อต้องการหยุดสงครามและสร้างอาณาจักรใหม่ที่สงบสุขกับองค์หญิงที่เขารักเท่านั้นเอง
เดลิต้ายังพูดถึงตำนาน Zodiac Brave ด้วย แต่ไม่ทันไรซอลโมได้ปรากฏตัวและกลับมาแก้แค้นแรมซา
ที่ยอดของโบสถ์แห่งนี้ เดลิต้ากับแรมซาได้ร่วมสู้กันอีกครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ได้แยกกันเพราะเดลิต้าเชื่อว่าเขาอยู่พวกโกลทาน่าจะดีกว่าอยู่กับแรมซา
แรมซาได้คิดแผนที่จะหยุดสงครามครั้งนี้โดยเปิดประตูน้ำป้อมปราการเบททลา หวังที่จะแยกแผ่นดินออกเป็นสองฝ่ายและชะลอสงครามให้ยาวนานออกไปอีก เนื่องจากปัญหาจากสงครามส่งผลต่อประชาชนคนทั่วไปอย่างมาก
ต่อมากลุ่มของแรมซาได้บุกไปถึงปราสาทลิมเบอร์รี่ และพบกับอัศวินแห่งแสงอีกครั้ง เขามีนามว่าเอล์มเดอร์ เป็นผู้ครอบครอง Zodiac Stone เช่นกัน
เขาแปลงร่างเป็น Zalera ซึ่งตอนนั้นเอง เมเลียดอลได้เข้ามาช่วยเราในการสู้รบด้วย เนื่องจากได้เห็นถึงพลังชั่วร้ายของลูกแก้วที่น่ากลัว
หลังจากกำจัดเอล์มเดอร์ได้แล้ว แรมซาจึงได้เมเลียดอลมาเข้ากลุ่ม และแรมซายังได้พบกับโอลันอีกครั้ง ซึ่งจริงๆ แล้วโอลันเป็นลูกชายของออแลนดู
โอลันเล่าว่าองค์หญิงถูกจับตัวมาอยู่ที่โกลทาน่านี้นานแล้ว พ่อของตนถูกปลดจากตำแหน่งแม่ทัพและถูกจองจำ ส่วนตำแหน่งแม่ทัพตกเป็นของเดลิต้า
เมื่อเอล์มเดอร์ตาย เดลิต้าจึงได้โอกาสช่วงชิงบัลลังก์ของโกลทาน่าทันที เขาสังหารเจ้าชายโกลทาน่าและปลิดชีพออแลนดูตัวปลอม เดลิต้าจึงได้เป็นราชาองค์ใหม่ และราชินีคือโอเวเลีย
แม้ว่าเดิมโอเวเลียไม่ใช่เจ้าหญิงตัวจริง หากเป็นเพียงเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงแทนเจ้าหญิงตัวจริงที่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังเล็ก เดลิต้าก็ยังรับได้ในสิ่งที่โอเวเลียเป็น
อีกด้านหนึ่ง ที่ปราสาทอิกรอส ไดซ์ดาร์กก่อกบฏและสังหารเจ้าชายลาร์ค ก่อนจะตั้งตนเป็นราชาองค์ใหม่
ซัลแบ็กรู้เรื่องเข้าก็ไม่พอใจอย่างมากจึงก่อกบฏซ้ำนำกำลังเข้าปะทะกับพี่ชายของตน
แรมซาที่รีบกลับมากลับต้องพบว่าพี่น้องกำลังห้ำหั่นกัน เมื่อแรมซาเข้ามาช่วยซัลแบ็ก ไดซ์ดาร์กจึงใช้พลังของ Zodiac Stone แปลงร่างเป็นปีศาจ Adramelk
เมื่อจัดการไดซ์ดาร์กในร่างปิศาจลงได้ ปิศาจกลับเข้าสิงซัลแบ็กแทนและหายตัวไป
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เพราะวอร์แมฟให้ลูกแก้วแก่ไดซ์ดาร์กเพื่อแลกกับการเปิดคัมภีร์ Zodiac
แรมซาจึงทราบว่าการอัญเชิญวิญญาณเทพแห่ง Zodiac อยู่ที่วิหารเซนต์มูรอนด์จากจดหมายที่ไดซ์ดาร์กเหลือไว้ จึงได้ตามไปพบกับวอร์แมฟเป็นครั้งแรกและได้ต่อสู้กันไม่นานวอร์แมฟในร่างคนก็หนีไป แต่กลับพบซัลแบ็กอีกครั้งที่ห้องพิธีกรรมมูรอนด์
ซัลแบ็กได้กลายเป็นปีศาจไปแล้วทำให้ต้องต่อสู้กับเขา ซัลแบ็กสูญเสียร่างกายไปเพราะถูกปิศาจกิน เขาบอกให้แรมซาสังหารเขาเสีย
แรมซาเสียใจมากการที่พี่น้องต้องฆ่ากันเองตั้งแต่ พี่ชายคนโต และคนรอง ทำให้ตนไม่เหลือพี่ชายอีกแล้วและน้องสาวยังถูกจับตัวไปอีก สุดท้ายแรมซาต้องกลับไปคลังหนังสือใต้ดินชั้นที่ 4 อีกครั้ง และพบกับลูกน้องของวอร์แมฟคือ โรเฟล เครเชี่ยน และบาล์ค
ทั้งสามแพ้ในการต่อสู้และหนีไปในสภาพบาดเจ็บสาหัส แต่แรมซาและพวกก็พบโรเฟลอีกครั้ง เขาได้ร่ายคาถาเปิดประตูโลกแห่งปีศาจออกมาทำให้แรมซาถูกดูดเข้าไปยังโลกปีศาจ สถานที่คือ สุสานเรือเหาะ ที่จะนำพาวิญญาณไปยังขุมนรก และที่นี่ก็ได้พบวอร์แมฟและอัลม่า
วอร์แมฟใช้ Zodiac Stone กลายร่างเป็นปีศาจ Hashmalum
ในขณะที่ต่อสู้ วอร์แมฟตัดสินใจสังเวยชีวิตตนมอบพลังแก่เทพธิดาแห่งปีศาจ และอัลม่าถูกใช้เป็นร่างทรงเพื่อเรียกปีศาจ Altima (เทพแห่งแสงสว่าง)
การต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เกิดความเสียหายแก่สุสานเรือเหาะพังยับเยิน
ตัดไปที่ภาพหลุมศพของ ออแลนดูและพวกพ้องของแรมซา โดยโอลันเป็นผู้ไว้อาลัยศพ แต่เขากลับพบแรมซากับอัลม่าขี่ Chocobo ตัดหน้าไป
ต้นฉบับแบบยาวที่อ่านให้เข้าใจค่อนข้างยากในช่วงท้ายcredit:
http://jettawate2.blogspot.com/2010/01/12-12-12-zodiac-brave.html