1 เดือนต่อมา Motto ที่ใช้ชีวิตอย่างเศร้าซึมในแต่ละวันและกำลังข้ามสะพานลอย สายตาของเธอสะกดไปยังใครบางคนที่อยู่บนสะพานลอยและเกาะราวกั้นอยู่
เธอมองไปบนถนน ผมสีทองปลิวไสว Motto จำได้อย่างแน่นอนว่าเธอคือใคร
"ดันเจี้ยนมาสเตอร์อะไรเล่า นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเธอยังไม่ตื่นหรือไง"
เธอยอมรับว่าเธอคือ Stephanie ผู้สร้างเกมนี้ เธอบอกว่าเธอจำได้นะว่า Motto น่ะ สะสมการ์ดได้ 899 ใบ เป็นการ์ดอะไรบ้าง และ Motto เลเวลเท่าไหร่ ออนไลน์มาแล้วกี่วินาที
ทั้งที่ Motto คิดว่าตนเองจะถูกรู้จักอยู่แค่ในเกม แต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น Stephanie ยังอุตส่าห์จำข้อมูลของเธอได้ขนาดนี้ ทั้งที่เธอก็ไม่ใช่ผู้เล่นชั้นยอดอะไรนักหนา
แล้ว Motto ก็จ้อและคุยทุก ๆ อย่างกับ Stephanie อย่างอัดอั้น เพราะเมื่อออกมานอกเกมแล้วเธอไม่สามารถคุยกับใครได้เลย ราวกับเธอพูดคนละภาษากับคนอื่น ๆ
"ฉันคิดว่าถ้าฉันมีพลังเหมือนในเกมฉันคงจะ... อืม มันน่าจะดีนะ" Motto เล่าให้ฟังทั้งเรื่องที่เธอไม่มีเพื่อน ไม่มีใครเลยในโลกนี้
เธอคิดว่าถ้าเธอเก่งเหมือนในเกมก็คงดีนะ เธออยากจะดึงความสามารถในเกมออกมาสักอย่างสองอย่าง
"ฉันนี่เพ้อเจ้อเนอะ แฮะ แฮะ"
ลมหนาวพัดผ่านมา วันนี้อากาศหนาวเป็นพิเศษ Stephanie ที่นั่งฟังเงียบ ๆ ลุกขึ้น ถอดโค้ทออกแล้วเอามาคลุมให้ Motto
"เหรอ ถ้าเธองอช้อนได้คนจะชื่นชมเธอ และถ้าเธอบินได้ เธอคงจะดังไปเลย ใช่ไหม"
"ที่เธอเป็นที่รู้จักและมีคนชื่นชมมันเป็นเพราะของแบบนั้นหรือเปล่า ไม่ใช่ เธอไม่ได้ถูกยอมรับเพราะปืนพลังจิตสุดเห่ยนั่น"
"มันชื่อว่าอะไรนะ กันแท้ง?"
"กันแคนน่อนค่ะ..."
"แล้วก็... ถ้าฉันเป็นเธอนะ ฉันจะไปที่ร้านเปลี่ยนชื่อทักษะอย่างไว เธอรู้ไหมว่าเธอนี่เทสต์การตั้งชื่อห่วยสุด ๆ เลย"
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ Stephanie บอกก่อนจะขอตัวลาไปโดยไม่ได้เอาโค้ทคืน และ Motto ก็กำลังมึนงงกับสิ่งที่ Stephanie ได้พูดเสียยาวยืดก่อนหน้านี้
เธอไม่ได้เล่นเพราะมันสนุกสนานหรอกหรือ