วันนี้คือวันสุดท้ายแล้ว แต่เด็กชายโซตะจะได้อยู่ในรั้วโรงเรียนประถมแห่งนี้
เขาตกใจในเวลา1ปีที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีการสอบปลายภาคก็ผ่านไปเสียแล้ว
เขายังรู้สึกเหมือนยังไม่ได้รู้จักเพื่อนๆในห้องเรียนดีพอเลย ...แถมบางคนก็ยังไม่มีโอกาสให้ทำความรู้จักอีก
เขาพยายามอย่างหนักที่จะพูดให้มากขึ้น แสดงออกให้มากขึ้น เขาตอบคำถามของเพื่อนๆและคุณครู
ผลการเรียนของเขาดีขึ้นด้วยนะ! ไม่ใช่ว่าเขาเรียนแย่หรอก แต่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้ตั้งใจทำข้อสอบจริงๆต่างหาก
เขาเริ่มมีความมั่นใจเมื่อมองหน้ามนุษย์คนอื่น และสามารถทักทายใครก่อนได้แล้ว
จริงๆแล้วเขายังโดนบ่นใส่ว่าหน้าตายอยู่ เขายังไม่ชินนักกับเรื่องนี้ อีกนานแค่ไหนเขาถึงแก้มันได้กันนะ
แต่ ในตอนนี้ เขาต้องเดินหน้าต่อไป... โซตะคิดแบบนั้น ในระหว่างที่นั่งฟังอบรบปัจฉิมนิเทศในช่วงเช้า
ตั้งแต่วันนั้น บางอย่างเปลี่ยนไปมาก บางอย่างก็ไม่เปลี่ยนเลย.... เขารู้ดียิ่งกว่าใครๆ
ทั้งเขา วาโย เรแกน เมย์ และยูมิ ไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นกันอีก คงเพราะไม่อยากนึกถึงมันเท่าใดนัก
อีกอย่างนึงคือ คงเพราะมันเป็นเรื่องที่ใครฟังก็คงไม่มีทางเข้าใจ (ไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอก เขาคิดแบบนั้น)
กว่าจะรู้ตัวอีกที การอบรมปัจฉิมนิเทศก็จบลง ช่วงสายเป็นฟรีไทม์ เด็กๆป.6หลายคนไปสร้างความทรงจำกันก่อนจากลา
โซตะไม่แน่ใจว่าเขาจะทำอะไรดี เขาก็แค่นั่งใต้ต้นไม้มองภาพของอาคารเรียนจากระยะไกล
ในตอนนั้นเองที่ยูมิเดินเข้ามาหาเขา นั่งลงข้างๆอย่างเงียบๆ แล้วก็เริ่มถามบางอย่างออกมา
"นี่โซตะ รถที่มารับส่งประจำไปไหนแล้ว?" เธอสังเกตเห็นได้ ไม่สิ ทุกคนสังเกตเห็นได้
โซตะก็รู้เช่นกันว่าทุกคนคงรู้ แต่เขาก็ยังไม่เคยถูกถามตรงๆแบบนี้
"อ่อ.... มันเป็นของคุณพ่อน่ะ แล้วไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว" เขาตอบ พร้อมกับการแสดงสีหน้าที่น้อยเอามากๆ
"....คุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกันเหรอ" ยูมิถามไปตรงๆเลยเพราะที่บ้านตัวเองก็เป็นอย่างนั้น
"อืม..." ดูเหมือนโซตะไม่ได้แปลกใจมากที่โดนถาม หรือเพราะหน้านิ่งๆแบบนี้อยู่แล้วก็ไม่รู้
เขาเงียบไปอยู่พักนึงก่อนจะตัดสินใจพูดบางอย่างออกมา "...บางทีมันอาจควรเป็นแบบนี้มานานแล้วก็ได้"
"แล้ว...โซตะไม่เป็นไรใช่ไหม" เธอถามให้แน่ใจเพราะเด็กคนนี้แทบไม่แสดงสีหน้าอะไรให้เห็นเลย ก็เป็นห่วงอยู่หน่อยๆจากประสบการณ์ของตัวเอง
"อืม มันไม่เป็นไรหรอก" จะว่าพูดความจริงก็ได้ โกหกก็ได้ มันไม่มีอะไรแน่นอนซักเท่าไหร่ แต่เขาเห็นความเป็นห่วงของยูมิจากสายตาเลยพยายามยิ้มเล็กๆตอบแต่ก็แค่แปปเดียว
"อื้อ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว...ฉันก็คิดว่าเธอดูต่างจากเมื่อก่อนนิดหน่อย" ถึงปกติจะไม่ค่อยได้คุยกันอยู่แล้ว แต่เวลาเรียนหรือทำงานมันก็ต้องมีคุยกันบ้าง และโซตะก็ดูเข้าถึงยากกว่านี้ พูดจาไม่ฉะฉานแบบนี้
"...ตั้งแต่เรื่องนั้นนั่นแหละ"
"....นั่นสินะ" ดูเหมือนโซตะจะรับฟังอยู่แล้วไม่ได้ประหลาดใจนัก แต่ในหัวกำลังคิดอยู่ว่าตนเองยังไม่ได้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไป
แค่ทุกคนทำเหมือนมันไม่ได้เกิดขึ้น แล้วไม่เคยเอ่ยถึงมันอีกเลย แต่อีกไม่นานพวกเขาก็จะต้องออกจากรั้วโรงเรียนนี้ไปแล้ว
"แต่ว่า เปลี่ยนไปในทางที่ดีนะ" ยูมิยิ้มให้ครู่หนึ่ง แล้ววกกลับมาเรื่องนึงที่คาใจ เธอช่างสงสัยอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว
"..ขอถามได้ไหม เธอไม่โกรธเลยเหรอที่ถูกราตรีหลอก" ในฐานะคนที่เชื่อสนิทใจเหมือนกัน ต้องยอมรับว่ายูมิผิดหวังอยู่ไม่น้อยเลย
มันเป็นคำถามที่ทำให้สีหน้าของเด็กชายเปลี่ยนเล็กน้อย ซึ่งสำหรับคนที่ไม่แสดงออกบ่อยๆมันอาจจะดูเป็นเรื่องใหญ่ เขาใช้เวลาในการคิด... โกรธมั้ย? มันใช่ความรู้สึกที่เขามีในตอนนั้นรึเปล่า
"ไม่... ผมอาจจะรู้สึกผิดก็จริงที่ทำให้ทุกคนลำบากขึ้นตอนนั้น แต่ผมไม่ได้โกรธราตรีที่หลอกผม" ดูเหมือนเขาจะใข้เวลาคิดต่อ ...อาจจะเป็นเหตุผล?
โซตะนิ่งคิดไปนานจนยูมิพูดขึ้นมาก่อน "เขาอาจจะมีเหตุผลของตัวเอง แต่ฉันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี จะว่าเกลียดก็ไม่ใช่เหมือนกัน..."
"ว่ายังไงดีล่ะ เธอคนนั้นไว้ชีวิตฉันครั้งหนึ่งก็มากพอแล้ว" พูดจบเธอก็หลุบตาลง
เขาฟัง ก่อนที่จะจัดสรรคำพูดของตนเอง "ผมคิดว่า.... ถ้าตอนนั้นราตรีไม่คิดจะหลอกผม ผมอาจจจะไม่ได้มาอยู่ตรงนี้ ในแบบนี้" เป็นการสรุปเหตุผลของเขาสั้นๆ แต่ได้ใจความที่สุด
ใช่แล้ว ตอนนั้น ถ้าราตรีคิดจะฆ่าเขา มันง่ายเหลือเกิน ในตอนที่เขามุทะลุเอากิ่งไม้แสนเปราะบางเข้าจู่โจมเธอ มันอาจจะไม่ใช่แค่กิ่งไม้ที่สามารถหักลงได้...
นี่ทำให้เขานึกถึงคำถามในตอนท้ายที่ราตรีถามเขานิดหน่อย จนทำให้โซตะดูเหม่อๆไป
ยูมิเงียบฟังจนจบ กระทั่งโซตะเงียบไปนานจึงเงยดูและพบว่าเขาเหม่อลอยไปไกลจึงเรียกให้กลับมา "โซตะ?"
"อ่ะ..." หลังจากถูกเรียกเขาก็กลับมามองคู่สนทนา ดูเหมือนความกลัวเขาจะหายไปแล้ว แต่ความคิดมากก็ยังคงอยู่ "...ไม่มีอะไร" เขายิ้มน้อยๆตอบยูมิ
เวลาเห็นเพื่อนคนนี้ยิ้มได้ทีไรก็โล่งใจ ..เขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ แต่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี "ใจหายเหมือนกันเนอะที่จะไม่ได้เจอกันเหมือนทุกวันแล้ว"
"อืม" รอยยิ้มเขาลดลง แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเขาเศร้า มันเป็นเวลาที่สั้นมากที่เขาได้'ทำความรู้จัก'กับเพื่อนๆในห้องจริงๆ มันน่าเสียดาย แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเสียใจ จู่ๆเขาก็พูดออกมาถามสาวน้อย
"...ผมรู้แล้วว่าผมอยากทำอะไรในอนาคต แล้วเธอล่ะ?"
"..ฉัน...ยังหาไม่เจอเลย ความฝันของตัวเองน่ะ แต่ที่อยากทำตอนนี้คือตั้งใจเรียนแล้วค้นหาไปด้วยว่าชอบอะไร แล้วก็.. แล้วก็อยากไปเรียนต่อมหาลัยในเมืองด้วย"
พอพูดเรื่องนี้แล้วดูจะมีประกายความสดใสในดวงตาขึ้นมานิดหน่อย "โซตะอยากทำอะไรเหรอ บอกได้รึเปล่า"
เขาดูดีใจที่ยูมิมีท่าทีตื่นเต้น จริงๆแล้วเรื่องที่เขาอยากทำก็ไม่ใช่ความลับอะไรนักหรอก แต่เขาก็ทำท่ากระซิบกระซาบให้เด็กสาวตรงหน้า
"ผมน่ะนะ อยากจะ...."