* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [MW] Event 7.0  (Read 18052 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Johan

[MW] Event 7.0
« on: December 18, 2014, 02:44:02 PM »
Another World
« Last Edit: June 29, 2015, 12:57:37 PM by Johan »

 

Re: [MW] Event 7.0
« Reply #196 on: July 06, 2015, 10:19:17 PM »
"อยากได้ท่านลอร์ด ได้ไหม x0x"
"ไม่ดีกว่า ไม่อยากโดนตบเพราะเป็นชู้ชาวบ้าน  ::)"
- วิญญาณขุนนาง: Spirit


"ขอหล่อๆ นะยะ"


"..."

Offline Johan

Re: [MW] Event 7.0
« Reply #197 on: July 06, 2015, 11:01:03 PM »


"อาจารย์ของฮิเมโกะเก่งมากเลยนะคะ อาจารย์น่ะ..." แล้วเธอก็จ้อเรื่องของ Zaragusar อย่างภาคภูมิใจ
Himeko บอกว่าเธอเป็นเด็กดี เชื่อฟังอาจารย์ เธอมาที่นี่ก็เพราะอาจารย์มาที่นี่

Chao นั่งฟังอยู่เป็นชม.สองชม. เอ แล้วทำไมยังไม่กลับมาอีกล่ะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านี่?
แต่ Himeko ก็บอกว่าไม่ต้องห่วง อาจารย์ของเธอเก่งมากนะ ระหว่างที่คุยกันสายตาของ Chao ก็มองไปรอบห้อง
เขานึกแปลกใจอยู่ เขาคิดว่าเขาเห็นความไม่ปกติของห้องนี้...

แต่ Chao ก็ไม่หน้าหนาพอจะขอนอนกับเด็ก เขาขอตัวลากลับที่พักพร้อมเอาคำถามที่ต้องการคำตอบกลับไปนอนคิด

Soul +1
จบ Turn





"พรุ่งนี้เช้าข้าจะเก็บเอาไว้ให้ ขอให้ท่านมาที่ห้องนี้"

เขียวไม่เข้าใจเท่าไรนัก แต่ว่าไงก็ว่างั้นล่ะนะ เธอกลับไปนอนเหยียดยาวจนกระทั่งเช้า
Frund ที่ปลุกเธอปากเปียกปากแฉะบ่นซ้ำอีกที แต่ยัยเขียวก็ไม่ได้สนใจจะฟัง หล่อนรีบแต่งตัวแล้วไปที่ห้องของท่านลอร์ด

และเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ได้พบของที่ท่านลอร์ดเตรียมเอาไว้ให้
เป็นศพของ Lord Moroc ที่โดนตัดหัวนอนอยู่ ส่วนวิญญาณของเขาถูกท่านลอร์ดพันธนาการเอาไว้พร้อมจะให้มรกตเอาไปครอบครองและเก็บเอาไว้ใช้งานได้ทันที

Quote



ได้รับ Spirit
จบ Turn

Offline Johan

Re: [MW] Event 7.0
« Reply #198 on: July 08, 2015, 11:00:58 PM »


1 เดือนต่อมาพายุหิมะพัดผ่านไป เปลี่ยนเป็นแสงแดดที่แผดเผาผืนดินจนแตกระแหง
สำหรับฝ่าย Grisia นั้นอากาศที่ร้อนอบอ้าวในช่วงกลางวันเป็นอุปสรรคขัดขวางการเคลื่อนทัพเข้าโจมตีเมือง Nabi อย่างมาก
แลเมื่อตะวันตกดินเหล่า Necromancer ก็บันดาลให้กองทัพวิญญาณออกมาประจัญบานแทนเหล่าทหารจนฝ่าย Grisia ต้องล่าถอย เป็นอยู่เช่นนี้มาแล้ว 1 สัปดาห์



Lord Sorromon ได้นำทัพด้วยตนเองมาตลอด นั่นยิ่งสร้างขวัญและกำลังใจให้เหล่าทหารอย่างมาก ทั้งที่เดิมทีมีข่าวว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วจากโรคระบาด
อย่างไรก็ตาม กำลังทหารได้ร่อยหรอเหลือไม่ถึง 200 นายแล้ว หากจะบอกว่าที่ผ่านมาเป็นเพราะกองทัพวิญญาณที่คอยปกปักรักษาเมืองก็คงไม่ผิด



"โซโรมอนเอ๋ย แกถึงกับต้องพึ่งมนตร์คาถาปลุกศพเชียวหรือนี่ ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ ใบหน้าหล่อเหลาใต้หน้ากากของแกในตอนนี้มันจะเป็นยังไงกันนะ"
Baros ระเบิดเสียงหัวเราะใส่หน้าของ Sorromon แล้วกระแทกคมอาวุธเข้าใส่เป็นพัลวันในการดวลกันระหว่างทั้งสองกลางสนามรบ
ทั้งสองรู้จักกันเนื่องจากเคยปะทะกันมาหลายครั้ง และทุกครั้งจะเป็น Baros ที่พ่ายแพ้เสมอจนกระทั่งครั้งนี้ที่ Baros เสริมพลังมาด้วยอาคมวูดูทำให้เขาแข็งแกร่งเหนือมนุษย์

"บรรพบุรุษของพวกเราชาวไกรซียาคือผู้ครองแผ่นดินทั้งหมดในไลซาส มันไม่ใช่ที่อยู่ของพวกแกไอ้ลิงเผือก!! ไสหัวออกไปซะ"

* Lyzas คือชื่อเรียกดินแดนของ 2 อาณาจักร Mamluc และ Grisia (ชาวมามลุคเรียกไกรสิอา/ไกรเซีย แต่สำนวนการออกเสียงพื้นบ้านคือ ไกรซียา)

กำปั้นเหล็กของ Baros ฟาดหน้า Sorromon จนแทบจะหงายหลังล้มลงไป หน้ากากของเขาแตกไปส่วนหนึ่ง
และก่อนที่คมดาบของ Baros จะบั่นคอท่านลอร์ดอันเดดกลับมีนางแม่มดแดงปรากฎกายออกมาหยุดดาบนั้นอย่างน่าขัดใจ



"สายันต์สวัสดิ์ สหายที่รักยิ่ง..." Milune ปรากฎตัวขึ้นพร้อมวิญญาณบริวารที่แข็งแกร่งซึ่งยกเคียวขึ้นมารับคมดาบของ Baros และยื้อยุดเอาไว้ชั่วครู่หนึ่ง
"...สหาย ที่เคยรักยิ่ง" เธอกล่าวแก้ใหม่อีกครั้ง แต่ก่อนที่ Baros จะถูกคำสาปหินคมอาวุธของขุนพลเอกคนหนึ่งก็ถาโถมเข้าใส่

วิญญาณที่เชื่อว่าร้ายกาจอันดับต้น ๆ เท่าที่หมอผีคนหนึ่งจะมีมันได้ถูกบั่นคอขาดกระเด็นในเวลาไม่นานนักในการปะทะกัน
ด้วยฝีมือของขุนพลที่คล้ายจะก้าวข้ามความเป็นมนุษย์ไปแล้ว



"ได้โปรดทำให้ข้าสนุกยิ่งกว่านี้ มิล" เธอเรียก Milune ด้วยชื่อที่สนิทสนม




"โธ่เอ๊ย ไหนผีไหนคนเนี่ย!" Magga หันไปมองรอบ ๆ หลังขว้างลูกตุ้มฟาดขุนศึกคนหนึ่งด่าวดิ้น
เธอดูจะมีปัญหาในการแยกแยะพวกเดียวกันกับข้าศึก แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเธอเป็นอีกหนึ่งกำลังหลักที่ฆ่าฟันศัตรูไปมากมาย



"เคยปั้นวัวปั้นควายหรือเปล่า" ดาบยาวฉาบอาคมของ Reriel สะบั้นแขนและตัดคอนายกองไปอีกสองคน
แม้ว่า Reriel จะไม่ค่อยได้ออกรบแนวหน้าเพราะมีหน้าที่เป็นองครักษ์เสียมากกว่า แต่ฝีมือของเธอก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า Magga เลย

อย่างไรก็ตาม การที่ทั้งสองแข็งแกร่งขึ้นมาได้ขนาดนี้ก็เพราะยาชูกำลังชนิดพิเศษของคุณหมอ Laliel นี่แหละ



"พวกท่านดื่มมันเข้าไปกี่ขวดเนี่ย!?" Laliel อุตส่าห์กำชับแล้วว่าอย่าดื่มเกินครั้งละ 2 ขวด ไม่อย่างนั้นจะมีผลข้างเคียง
และดูเหมือนสองคนนั้นกับทหารอีกจำนวนหนึ่งจะดื่มไปมากกว่านั้น ซึ่งพวกเขายอมรับผลข้างเคียงนั้น

Spoiler for Hiden:


"ถ้าเกินสองขวดจะมีชีวิตอยู่ได้จนสิ้นฤทธิ์ยาเหรอ" Reriel อ่านฉลากข้างขวดแล้วถามย้ำกับคุณหมอ ก่อนจะเปิดดื่มขวดที่สาม



"ยิ่งดื่มเยอะยิ่งเก่งใช่มั้ย งั้นข้าขอสี่ขวด" Magga ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ชอบอ่านฉลาก

"เจ้าน่าจะลองปั้นควายดูสักครั้งก่อนตาย" Reriel มีท่าทางพะอืดพะอมหลังดื่มขวดที่ห้า
"เจ้าปั้นไปคนเดียวเหอะ เอิ๊ก..."
Magga ท่าทางจะอาการหนักกว่าเมื่อเปิดดื่มขวดที่เจ็ด ทั้งสองไม่มีห่วงอะไรอีก ชีวิตก็เป็นของตัวเอง ตัดสินใจเองได้ว่าจะอยู่หรือตาย

Ghost General ถูกเรียกออกมา มี Himeko ตามหลังไปคุ้มกัน Ghost General
และมี Chao ที่สั่งการอยู่หลังสุด รายล้อมด้วยวิญญาณผีอีกหลายตน รวมถึง Ryuk และ Ametist

กลุ่มย่อยผู้ควบคุมวิญญาณพบว่าไอแสงที่แผ่ซ่านออกมาวูบวาบด้านหนึ่งสามารถทำลายและปลดปล่อยวิญญาณของเหล่า Necromancer ได้
ไม่พอ มันยังสามารถบังคับให้ภูติผีของ Necromancer หันมาทำร้ายผู้เป็นนายที่อ่อนแอเกินกว่าจะควบคุมมันได้เสียด้วย!



นักบวชที่ว่าสวมหน้ากากอันโตคล้ายกับจะเป็นทั้งหน้ากากและโล่ไปด้วย มันทำจากไม้ที่มีน้ำหนักเบา แต่หนามากพอจะป้องกันได้กระทั่งขวานขนาดเล็ก
ถึงแม้ว่า Himeko จะสังหารไปได้ 2 คน และ Chao จะจัดการไปได้อีกคน แต่พวกมันกลับลุกขึ้นมาได้อีกคล้ายกับเป็นเพียงตุ๊กตาที่ถูกเชิด
ถึงแม้ชาว Grisia จะเรียกว่านักบวช แต่เนื้อแท้แล้ววิชาอาคมที่ใช้ก็คือหมอผีอีกสายหนึ่งที่ชาว Mamluc เรียกว่า Vodun (หมอผีวูดู)

Ghost Soldier ต่อสู้จนสลายหายไปพร้อมนักบวชคนหนึ่ง (อุปสรรคไม่ได้ระบุว่า HP รวม ถือว่าแยก HP ของใครของมัน)
แต่ Ghost General ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี มันฆ่านักบวชไปได้อีกคนทั้งที่มันควรจะอ่อนแอเมื่อต่อสู้กับนักบวช
และในขณะที่หัวหน้านักบวชกำลังตื่นตระหนก Sakuya ก็ไม่พลาดที่จะพุ่งเข้าไปเสียบแทงตัดขั้วหัวใจเพื่อพิชิตเจ้าวายร้ายของสนามรบเสีย ณ เวลานี้




"ข้าลืมบอกเจ้าไป ดาบเล่มนี้ได้รับการปลุกเสกมาให้ฆ่าวิญญาณไร้หลักอย่างแกนี่ไง" Baros ที่เสียบดาบทะลุหลัง Lord Sorromon กล่าวขึ้นก่อนจะดึงมันออก
ปรากฎดวงไฟสีเขียวอมฟ้าพวยพุ่งออกมาจากร่องปากแผลและความเจ็บปวดทรมานที่ทำให้ Sorromon ถึงกับต้องร้องออกมา

Milune ที่ต้องถอยไปควบคุมวิญญาณต่อสู้อีกด้านหันมาเห็นก็แทบเป็นลมสิ้นสติเสียเดี๋ยวนั้น เธอกรีดร้องแล้วผละตัวออกมาจนแทบจะบินไปหา Sorromon
เพราะนั่นหมายความว่าดวงวิญญาณของ Sorromon จะพ้นพันธนาการของอาคม และจะถูกดึงดูดโดยกฎแห่งธรรมชาติให้กลับสู่ความว่างเปล่า



"ไปอยู่ด้วยกันซะ" Barara ขุนพลเอกของ Baros ไม่ปล่อยโอกาสนั้น
เธอพุ่งฝ่าวิญญาณที่ไร้การควบคุมไล่หลังแล้วเสียบดาบทะลุกายของ Milune ในอึดใจเดียว ก่อนจะดึงดาบออกมาแล้วหมุนสะบัดฟันร่างนั้นจนศีรษะหลุดกระเด็น

ภาพที่ Lord Sorromon เห็นถึงกับทำให้หัวใจของเขาแตกสลายลงในเวลานั้น เขาแผดเสียงอย่างไม่เป็นภาษาก่อนที่ร่างนั้นจะแตกสลายหายไป
และเสียงหัวเราะอย่างสะใจที่ดังลั่นพร้อมการทุบเกราะอกเสียงดังไม่แพ้กันก็คือสัญญาณแห่งชัยชนะของฝ่าย Grisia ที่ Baros เป็นผู้นำมันมาให้กองทัพของเขา
Magga เห็นดังนั้นก็วิ่งเข้าหา Baros โดยมี Reriel ไล่ตามมาติด ๆ สวนทางกับทหารส่วนใหญ่ที่แตกทัพหนีไปพร้อม Necromancer อีกหลายคน


การศึกนี้เป็นกลลวงของฝ่าย Grisia ที่รู้เรื่องราวต่าง ๆ ในเมืองมากพอสมควรจนเตรียมการตั้งรับเอาไว้ได้ แต่ก็ยังแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้เรื่องอะไร
Baros ที่ได้รับอำนาจจากอาคมปลุกเสกนั้นแข็งแกร่งขึ้นมาก ความผิดพลาดของ Lord Sorromon คือการมั่นใจว่าจะชนะศึกนี้อย่างแน่นอนจึงออกมาจากเมือง ซึ่งไม่สมควร
และการพ่ายศึกในครั้งนี้อาจจะนับได้ว่าเป็นครั้งแรกนับแต่ Lord Sorromon เข้ามาครองเมือง Nabi

ไม่เพียงทหารที่แตกทัพหนีไป เหล่า Necromancer ที่เห็นว่าไม่มีผู้ว่าจ้างจะมาจ่ายเงินให้กับพวกเขาแล้วก็พากันหนีไปจากเมืองเช่นกัน
เมือง Nabi จึงแทบจะกลายเป็นเมืองร้างก็ไม่ผิดนัก และอีกไม่นานนักกองทัพ Grisia ก็จะยกทัพที่มีเหลืออยู่ราว 300 คนมายึดเมืองนี้

Offline Johan

Re: [MW] Event 7.0
« Reply #199 on: July 10, 2015, 08:56:44 AM »


"ไปซะ ที่นี่ไม่ใช่สนามรบของเจ้า" Zaragusar บอกกับศิษย์เอกแล้วหันหน้าไปเผชิญกับสายลมที่หอบเอากลิ่นของสรรพวุธมากมายมาด้วย
มันเต็มไปด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่อัดแน่น เสียงฝีเท้าที่ดังระงมไม่อาจกลบเสียงของความกระหายและอารมณ์ที่หลากหลายนับไม่ถ้วน
ทั้งความรู้สึกถึงชัยชนะอันหอมหวาน ความกลัวตายที่ซุกซ่อนไม่มิด ความฝันและความหวังที่สั่งสมมานานนม หรือความคิดถึงคนึงหาครอบครัว

"สงครามไม่ใช่เรื่องของคนเพียงคนเดียว หากเจ้าไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องต่อสู้ก็จงไปเสีย"




"มันเป็นวันที่ข้ารอมานานแสนนาน กี่ปีแล้วนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" Baros หัวเราะจนเริ่มหอบ เขาหัวเราะมาตลอดทางเลยทีเดียวเชียว
หากถามว่าทำไมเขาต้องรบ ทำไมเขาต้องต่อสู้เสี่ยงตายกับแค่เมืองเล็ก ๆ เมืองนี้คงจะไม่ได้คำตอบที่แท้จริงจากเขา เขาคงจะบอกเพียงแค่ว่ามันเป็นเมืองของพวกเขา

เสียงเฮและกู่ก้องของเหล่าทหารดังระงมไปทั่วทุกซอกมุมของเมือง ดวงตาของ Baros ที่มองลอดช่องหน้ากากออกมาฉายแววที่ปีติยินดียิ่ง
แต่นั่นไม่ใช่ความยินดีที่มาจากตัวของเขาเอง มันเป็นความยินดีที่มาจากผู้คนรอบตัวของเขา ผู้คนที่ติดตามเขาเข้ามาเหยียบเมืองนี้...


เสียงกำปั้นดังแบบตัน ๆ ที่ด้านหนึ่งก่อนจะส่งให้ร่างของเงาคุงเซถลาคล้ายนกปีกหัก



"อะไร ทำไมยังไม่หนีไปอีกล่ะ บ้าไปแล้วรึไง" Barara ที่เก็บดาบแล้วหันไปทาง Gene ซึ่งคงยากที่ GM จะบอกได้ว่าทำไมเธอถึงวิ่งมาสู้กับ Barara

อึดใจต่อมาก็มีทหารวิ่งมารายงานถึงทางลงสุสานแห่ง Nabi ที่ถูกปิดตายไปแล้วหลังมีใครบางคนได้รับ Great Spirit ไป
Barara ยิ้มแล้วหัวเราะออกมา "โอย แย่เลยทีนี้ ข้านึกใบหน้าของเจ้าตอนโกรธไม่ออกเลยจริง ๆ แต่ข้าจำแม่นเลยว่าเจ้าจะต้องกระทืบเท้าซ้ายไม่ต่ำกว่าสี่ครั้งแน่"
เธอดูจะไม่ทุกข์ร้อนกับเรื่องนี้ และดูเหมือนจะไม่มีอารมณ์ฆ่าผีกับหมอผีตรงหน้าทิ้ง เพราะมันไม่มีประโยชน์อันใด

ในเมื่อเธอทำมันสำเร็จแล้ว เมืองนี้ตกเป็นของเธอ ไม่สิ มันตกเป็นของชนเผ่า Grisia แล้ว

"ข้าไม่ได้ต้องการต่อสู้ ข้าไม่ได้ต้องการฆ่าฟัน และข้าไม่ได้ต้องการเมืองนี้"

"แต่พี่น้องของข้าต้องการมัน"
« Last Edit: July 10, 2015, 08:58:24 AM by Johan »

Offline Johan

Re: [MW] Event 7.0
« Reply #200 on: July 10, 2015, 12:31:44 PM »
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ชั่วโมงก่อน

มี Necromancer บางคนที่ล่วงรู้ความลับบางอย่างของเมืองนี้ แม้หลายคนจะพยายามขนเอาสมบัติไปให้มากที่สุดก็ตามที



ใต้ปราสาทคือพื้นที่ของสุสานโบราณที่กว้างขวางกินพื้นที่กว้างกว่าตัวเมืองเสียอีก ใครกันที่สร้างที่นี่ และร่างของใครกันที่ถูกฝังอยู่ ณ ที่แห่งนี้
และที่นี่มันมีอะไรกัน หากต้องการปล้นชิง ในปราสาทก็มีทรัพย์สินเหลืออยู่มากยิ่งกว่าเงินค่าจ้างเสียอีกไม่ใช่หรือไง



"ก็ใช่น่ะสิยะ หล่อนก็รีบมาช่วยกันขนด้วยสิ อย่าอู้" เขียว มรกต เธอมาทำอะไรที่นี่กันนะ
เธอพยายามขนเอาข้าวของในโลงที่มีราคาใส่กระสอบให้มากที่สุดอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่ลืมตาดูด้วยซ้ำว่ามันยัดไม่ลงแล้ว และเธอจะแบกไหวหรือเปล่า

แลช่วงหนึ่งนั้นเสียงกระซิบของพรายรับใช้ที่มาบอกกล่าวที่ข้างหูของ Frund ก็ทำให้เธอต้องลุกขึ้นและหันไปยังทางที่พวกเธอเข้ามา




"วิญญาณมากมายขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย" YuYuko ที่เดินนำหน้า Sakuya เข้ามายังคงไม่หายจากอากัปที่ตื่นตะลึงราวกับมดเห็นน้ำตาลแสนหวาน
เธอหวังจะฮุบเอาวิญญาณที่อยู่ที่นี่เสียทั้งหมดเลยหรืออย่างไรกันนะ แต่เมื่อสายตาของ Sakuya ประชันกับ Frund ทุกอย่างก็เงียบลง

Frund ควงไม้เท้ากะโหลกราวกับรู้ทันทีว่าเธอคงเลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้แน่ เพราะอีกฝ่ายที่มาถึงที่นี่ก็คงไม่ได้หลงทางมา



"Great Spirit อยู่ลึกเข้าไปอีกไม่มากนัก พวกเธอเองก็สามารถไปถึงที่นั่นได้"

"เพียงแค่ผ่านเราไป" ขาดคำหมอผีสาวก็ใช้มายาอาคมโจมตีทันที



Sakuya กระชับดาบอัศวิน ดวงตาส่องประกาย เธอมั่นใจว่าถ้าเธอพุ่งออกไปล่ะก็ เพียงเสี้ยววินาทีไฟชีวิตของแม่นั่นต้องดับลงแน่
แต่นั่นก็แค่เป็นการเปิดฉากเรียกน้ำย่อย เมื่อวิญญาณนักรบปรากฎขึ้นมาขวางการโจมตีนั้น พร้อมกับที่ Yuyuko ส่งสัญญาณให้ Sakuya ถอยออกมา

"ไม่หรอกมั้ง เธอไม่มีความจำเป็นต้องใช้ไม้คทานั่น" Yuyuko ว่า ซึ่งก็จริงอย่างที่คาด ถ้า Sakuya พุ่งเข้าไปล่ะก็




Immoral Prisoner วิญญาณผู้ถูกจองจำแห่งคุก Nabi

มันแผดเสียงใส่ไม่เป็นภาษาราวกับลมพายุม้วนตัวพัดกระหน่ำ



"จะยอมเล่นด้วยสักหน่อยก็ได้" เขียวแผดเสียงคำรามแตกต่างจากทุกครั้ง
เธอเอามงกุฎประดับพลอยมาสวมหัวของตนแล้วใช้อาคมเชิด Immoral Prisoner เข้าโจมตีอีกฝ่ายทันที

Offline Johan

Re: [MW] Event 7.0
« Reply #201 on: July 10, 2015, 04:44:33 PM »
เสาต้นยักษ์และพื้นหินแตกละเอียดเมื่อโซ่ของ Immoral Prisoner เหวี่ยงสะบัดฟาดไปโดน
แต่นั่นก็ไม่ทำให้ Sakuya หนักใจ เธอยังคงหลบหลีกและวนไปรอบโดยให้ Ghost General คอยดึงและล่อเอาไว้



"ชั้นรู้ย่ะ หล่อนเป็นพวกจ้องหาโอกาส คงจะยื้อยุดให้ชั้นหมดแรงล่ะสิ" เขียวมากประสบการณ์และรู้ทัน เธอไม่บ้าไปตามเสียงยั่วยุของ Yuyuko เลย
เขียวถือว่าตนเองมีวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่า แต่ Yuyuko ก็มีคนสนิทที่ไว้ใจได้อย่างดี เธอไม่ลืมหรอกนะว่า Sakuya สังหารนายกองมากี่คน ไม่นับหัวของแม่ทัพที่เธอล่ามาได้



"ถ้าเจ้าคิดว่าวิญญาณตัวโตนั่นมันสูบกินพลังน้อยกว่าวิญญาณแม่ทัพของข้า ข้าก็ไม่มีปัญหา.." Yuyuko ว่าพลางยิ้ม
เธอไม่พลาดที่จะมองไปยังทิศทางอื่นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาของเขียวที่จ้องมองตาไม่กระพริบว่าเธอจะส่งสัญญาณเมื่อไร

ไม่ใช่แค่ Sakuya ที่หลบเร้นรอดสายตาของเขียวไปได้ แต่เป็นเขียวเองที่ฝากให้ Frund เป็นผู้กุมชัยชนะในการต่อสู้นี้



"โอย เจ็บ..."
Frund ผุดลุกขึ้นมาจากซากโบราณสถานที่พังถล่มเพราะเจ้า Immoral Prisoner ที่ยัยเขียวควบคุมดันไล่ตาม Sakuya เข้ามาแล้วฟาดแหลกไม่บันยะบันยังจนเพดานถล่ม

แย่ล่ะ แล้วยัยนักฆ่านั่นล่ะ!




ช่วงที่เขียวหลุดจากการควบคุม Immoral Prisoner เพราะเพดานถล่มลงมาทับเธอ Sakuya ที่วางแผนยื้อยุดดึงเกมอยู่นานก็โผล่ออกมาฟาดฟัน Immoral Prisoner อย่างไม่ยั้ง
กระทั่งดาบของเธอหักมันก็ยังไม่ล้มลงไปสักที เธอตัดสินใจฉับพลันเตรียมจะใช้ท่าไม้ตายทำลายมันขั้นเด็ดขาด แต่ทว่าเงาร่างหนึ่งกลับโผล่ขึ้นมาจากด้านหลังของเธอเสียก่อน



"บอกก่อนนะ ฉันไม่ใช่นักสู้" ไม้เท้ากะโหลกเหวี่ยงฟาดเข้าใส่ แต่ Sakuya ก็โล้ตัวหลบได้ทันหวุดหวิด



"ฉันก็ไม่ใช่นักสู้" Sakuya ที่ชำเลืองมองดู Ghost General ที่สลายหายไป และเขียวกำลังวิ่งหนีฝูงวิญญาณที่ Yuyuko เรียกออกมาก็วางใจ

ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดใกล้ ๆ กับ Immoral Prisoner ที่คล้ายกับคนตาบอดอาละวาดทุบฟาดไปทั่ว
มันเป็นการต่อสู้ที่ต้องใช้ทั้งชั้นเชิงและสัญชาตญาณ Sakuya ก้มหลบโซ่ยักษ์แล้วพุ่งเข้าหาหมายทะลวงหัวใจของ Frund แต่ไม้เท้ากะโหลกและรองเท้าส้นสูงสถิตย์วิญญาณเสริมศักยภาพให้กับ Frund อย่างเหลือเชื่อ
ทั้งสองไวเท่ากัน และอึดไม่แพ้กัน แต่มันแย่ตรงที่ Sakuya ใช้เรี่ยวแรงไปมากกว่า เธอโดนส้นสูงกระแทกหน้า เจอไม้คทาหัวกะโหลกตีซ้ำจนลอยละลิ่ว

Spoiler for Hiden:

Immoral Prisoner

  HP  8/8       SP  2/2       M.Atk  2     R.Atk  2     Def  4       
  Str 5   Acc  5

Race: Ghost (Spirit), สภาพวิญญาณ ขนาดใหญ่, Spirit Resist, ✪ 5 SP

Skill - โซ่วิญญาณ: Atk 5 (Ignore Vit) Def +4 [Spirit] [1 HP]


Ghost General

  HP  5/5       SP  2/2       M.Atk  4     R.Atk  2     Def  2       
  Str  5

Race: Ghost (Spirit), สภาพวิญญาณ, Spirit Resist, ✪ 3 SP

Skill - ไอวิญญาณ: Atk 3 100% Turn 1 Ⓠ [Spirit]

ทั้งสองฝ่ายต่อต้านวิญญาณ การโจมตีแบบ Spirit ไม่มีผล

Turn 1
Immoral Prisoner Str 5 โจมตีโดน 1 damage
Ghost General Str 5 โจมตีโดน 1 damage

Turn 2
Immoral Prisoner Acc 5 โจมตีโดน 1 damage
Ghost General Str 5 โจมตีโดน 1 damage

Turn 3
Immoral Prisoner Str 5 โจมตีโดน 1 damage
Ghost General Str 5 โจมตีโดน 1 damage

Turn 4
Immoral Prisoner Acc 5 โจมตีโดน 1 damage
Ghost General Str 5 โจมตีโดน 1 damage

Turn 5
Immoral Prisoner Str 5 โจมตีโดน 1 damage
Sakuya (Acc 5) HP 2/3
- ใช้ Skill - Assassinate: โจมตีด้วย ⓌItem M.Atk +3 Acc +1 [Nature] [3 SP]
- ใช้ Item - Crusader Sword: ดาบนักรบครูเสด M.Atk +2 Ⓦ [Nature]
โจมตีโดน 2 damage

Turn 6
Frund (Agi 5) HP 2/3 - ใช้ Item - Bone Rod: คทาทรงกะโหลก Atk 3 Int +1 Ⓦ [Spirit] โจมตีโดน 1 damage
Sakuya (Agi 5) HP 1/3 - ใช้ Item - Crusader Sword: ดาบนักรบครูเสด M.Atk +2 Ⓦ [Nature] โจมตีโดน 1 damage

Turn 7
Frund (Agi 5) HP 1/3 - ใช้ Item - Bone Rod: คทาทรงกะโหลก Atk 3 Int +1 Ⓦ [Spirit] โจมตีโดน 1 damage
Sakuya (Agi 5) HP 0/3 - ใช้ Item - Crusader Sword: ดาบนักรบครูเสด M.Atk +2 Ⓦ [Nature] โจมตีโดน 1 damage
« Last Edit: July 10, 2015, 04:46:06 PM by Johan »

Offline Johan

Re: [MW] Event 7.0
« Reply #202 on: July 11, 2015, 08:36:33 PM »


เมื่อเข้าไปถึงใจกลางของสุสาน สิ่งที่ปรากฎแก่สายตาของเขียวและ Frund ก็คือวิหารขนาดย่อมที่อบอวลไปด้วยไอวิญญาณที่เวียนว่ายอัดแน่น
วิญญาณทั้งหลายไม่ต่อต้านหรือแข็งขืนที่จะต่อสู้ กลับบอกเล่าเรื่องราวให้กับผู้มาเยือนกลุ่มสุดท้าย

ที่แห่งนี้เรียกว่า Great Spirit เป็นสุสานหลวงนับแต่โบราณเมื่อนานแสนนานมาแล้ว ด้านบนคือพระราชวังที่กษัตริย์ผู้กล้า พระองค์มีนามว่า Nabi
พระองค์ต่อสู้กับชนเผ่าที่พยายามเข้ามายึดครองดินแดนอยู่นานนับสิบ ๆ ปี กระทั่งซากศพล้นสุสาน และเมืองได้ร้างผู้คน
จนกระทั่งในที่สุดพระองค์ได้ใช้อาคมฝังเมืองลงสู่ใต้พิภพ และยกดินแดนแถบนี้ให้กับชนเผ่าผู้รุกราน

ไม่มีใครรู้ว่าพระองค์หายไป ณ ที่แห่งใด แต่มีตำนานกล่าวว่าพระองค์นั้นไปใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนที่สงบสุข กระทั่งลูกหลานของพระองค์นั้นได้แยกย้ายกันไปตามวิถีทางของตน
'มามลุค' ได้ขึ้นเหนือและต่อตั้งเผ่าของตนขึ้นมา ในขณะที่ 'ไกรซียา' ได้ลงใต้และรวบรวมดินแดนก่อตั้งเมืองของตนเอง

นานนับพันปีที่ดินแดนนี้ซึ่งเคยถูกครอบครองเปลี่ยนมือมาหลายต่อหลายครั้ง กระทั่งในที่สุดอาณาจักร Mamluc ก็ได้ตีชิงมันมาได้ ซึ่งกษัตริย์ในเวลานั้นตรัสว่า

"ดูซีพระองค์ท่าน ข้าได้ช่วงชิงเอามันกลับคืนมาได้แล้ว ดินแดนอันเคยเป็นของพวกเราเชื้อสายแห่งจอมกษัตริย์ผู้กล้า"

หลายร้อยปีต่อมา โหรแห่ง Grisia ได้ประกาศว่า
"ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะทวงนาบีกลับคืนมา พี่น้องของเราทั้งมวล พวกท่านจงลุกขึ้นต่อสู้เพื่อบ้านเกิดแห่งแรกของพวกเรา เพื่อพระบิดาของพวกเรา"

และนั่นคือจุดเริ่มของสงครามที่ดำเนินมานานหลายร้อยปีบนดินแดนแห่งนี้
« Last Edit: July 11, 2015, 08:39:27 PM by Johan »