บทที่ 1 เพราะไม่ต้องการให้บางคนที่คิดลึกเดาได้ ชงต๊ะจึงเลือกไปคุยกับภูติค้างคาวน่ะ (เพราะมั่นใจว่าหาพวกเองดีกว่าให้คนอื่นมาหา)
ที่คุยกับภูติค้างคาวก็เพื่อใช้ยืนยันตัวในการหลอกคน แต่ดันไม่มีใครสนใจเลยมั้ง เสียดายจริง ดูเหมือนจะไม่ได้อะไรจากเจ้านี่เลยด้วย
สาเหตุที่ชงต๊ะต้องยืนยันเพราะหลี่อิงมีลับลมคมใน อาจจะเกิดเหตุผลว่า "มาแก้คำสั่งไม่ทัน" แล้วกลายเป็นชงต๊ะตีไปคนเดียว ยิ่งไม่ตอบยิ่งสงสัย หลี่อิงมีลักษณะที่จะหลอกใช้คนอย่างชัดเจนด้วย
และเดิมทีชงต๊ะก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการทำลายมิตรภาพกับเซียวจื่อ (จริงๆ ไม่อยากตีหรอก) แต่คิดว่าเดินตามเกมหลี่อิงสักหน่อยคงน่าสนุกดี สร้างความเชื่อใจกับหลี่อิงแล้วแทงทีหลัง
ถ้าหลี่อิงยืนยันกลับนั่นจะเป็นหลักฐาน เพราะถ้าหลี่อิงตุกติกชงต๊ะจะอ้างสิทธิ์ที่ชอบธรรมเล่นงานหลี่อิงกลับได้อย่างเต็มที่ อันนี้แค่นิสัยส่วนตัวที่ชอบความชัดเจน
ตอนหลังรู้ว่าหลี่อิงเดินเกมยุแยง ตอนนั้นคิดว่ารุมตีมาเลยก็ไม่กลัว ชงต๊ะยามปกติไม่เคยจะใช้ sp เอา sp มาลง df 3 เกือบตลอด ยิ่งถ้าป้องกันเต็มที่จะได้ 4 4 3 3 ด้วย
ในขณะที่ทุกคนรุมตีชงต๊ะ เสี่ยวจูจะแทงคนอื่นอย่างสบายใจ
พอเห็นว่าหลี่อิงฝึกวิชาค้างคาวแล้วเลยเลิกคิดโจมตีเข้าไปเลย เพราะคิดว่าต้องหลบได้แน่ๆ เผลอๆ สวนกลับได้อีกต่างหาก
ช่วงท้ายตีอู๋หมิงเพื่อชิง 1 จดหมายของเกี๊ยวที่อู๋หมิงไปแย่งมา 2 ตั๋วที่อู๋หมิงไปแย่งหลี่อิงมา
ปล. จริงๆ แล้วถ้าคาดเดานิสัยคนได้ก็อ่านไม่ยากนะ ผมไม่ได้หลอกลู่เพราะส่วนหนึ่งคิดว่าถ้าหลอกไปไม่เนียนอาจโดนหลอกกลับและเป็นศัตรูกันเลย
ปล.2 ลู่เป็นตัวอันตรายมากในทุกเกม สามารถมองระบบเกมและวิเคราะห์ว่าจะเล่นในรูปแบบไหนถึงจะดีที่สุด หลายคนประมาทลู่ คิดว่าแค่เกรียนไปงั้นๆ