* ห้องโถงรับแขก

Refresh History
  • lostlance: งี้นี่เองงง
    July 21, 2023, 07:09:04 PM
  • Qiao: อยากเล่นแนว fear and hunger 1-2 ก็ได้
    August 28, 2023, 10:56:33 PM
  • lostlance: ผมว่าเกมมันหลอนไป
    August 31, 2023, 10:47:07 AM
  • Johan: สลัดทั้งงานราษฎร กับงานหลวงไม่ออก น่าจะมาต่อสักใกล้ๆปลายปีนะครับ
    September 29, 2023, 06:48:36 PM
  • Bloody Rabbits: รออยุ่ว
    September 29, 2023, 10:01:26 PM
  • lostlance: ที่โพสใหม่นั้นสแปมหรืออะไรน่ะ
    October 05, 2023, 02:12:26 PM
  • Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ
    December 02, 2023, 01:55:59 AM
  • Johan: สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ทุกคนยุ่งๆงานเยอะๆ
    January 01, 2024, 11:30:01 AM
  • Johan: อยากมาต่อ แต่เคลียรืเวลาไม่ลงตัวเลย
    January 01, 2024, 11:30:18 AM
  • Johan: Chao: ยังแอบมาต่อนะเออ <<< ตอบแล้วๆ (เกมบ้าอะไรฟระ โพสละครึ่งปี)
    January 01, 2024, 11:35:44 AM
  • lostlance: สวัสดีปีใหม่ครับบ
    January 01, 2024, 08:58:21 PM
  • Qiao: มาลักข้อมูลบอร์ดเกม
    June 09, 2024, 12:51:10 PM
  • duek duen: จะยังมีใครใช้เว็บนี้อยู่ไหมนะ —
    July 29, 2024, 10:00:23 PM
  • Game Master: เจ้าของยังไม่ค่อยเข้าเล้ย
    August 01, 2024, 08:35:21 PM
  • duek duen: Damn
    August 04, 2024, 04:42:50 PM

Author Topic: [บุกวังค้างคาว] บทที่ 1 นางโจรธัมมะ ซินเจียยู่อี่  (Read 11509 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.


วิกาลยามค่ำ
เมืองท่าขนาดใหญ่เฉกเช่นนครซั่งไฮ้แห่งนี้ แม้เป็นยามวิกาลยังมิหลับไหล
ร้านสุรา บ่อนพนัน และหอโคมแดงกลับยิ่งคับคั่งไปด้วยผู้คน นับว่ายังคึกครื้นยิ่งกว่าตอนกลางวันเสียอีก
โรงเตี๊ยมสุขชั่วคราวเป็นโรงเตี๊ยมที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นชายทะเลที่มีทิวทัศน์สวยงามที่สุด
ดังนั้นโรงเตี๋ยมสุขชั่วคราวแห่งนี้จึงเป็นโรงเตี๊ยมที่เรียกราคาแพงที่สุดในซั่งไฮ้ เหลาสุราของโรงเตี๊ยมเรียกว่าเหลามองทะเลก็มีราคาสูงสุด
เหลาสุราเช่นนี้ปกติย่อมมีลูกค้าไม่มากนัก ทว่าค่ำคืนนี้กลับผิดแผกไป บนเหลามองทะเล กลับมีผู้คนจับจองจนแทบเต็มทุกโต๊ะ
นอกจากนี้แล้ว แขกเหล่านี้ล้วนแต่ดูมีความเป็นมายิ่งใหญ่ ย่อมเป็นยอดคนผู้คลุกคลีอยู่ในยุทธจักร หาใช่พ่อค้าคหบดีทั่วไปไม่
ในสภาพเช่นนี้อย่าว่าแต่ผู้จัดการร้าน แม้แต่ผู้รับใช้ยังดูออกว่าจะมีเหตุการณ์อันใดเกิดขึ้น แขกทั่วไปยิ่งรีบหลีกลี้หนีหน้าไปโดยเร็ว

นางโจรธรรมมะ ซินเจียยู่อี่กลับเลือกสถานที่เช่นนี้เป็นจุดนัดพบ
ทุกคนล้วนคิดตรงกัน ว่านี่ยังเป็นการนัดพบลับอันใด กลับเอิกเริกจนมิอาจทนทานรับไว้ได้

เมื่อเดินเข้าไปภายในเหลา ผู้รับใช้ที่นั่งอยู่ตรงคอกเสมียนรีบลุกขึ้นมาต้อนรับ
ราวกลับมิได้ถูกขู่ขวัญด้วยบรรยากาศ มันยิ้มแย้มประจบพลางกล่าว


เรียนเชิญนายท่าน วันนี้เหลาของเราคึกคักยิ่ง ไม่ทราบว่านายท่านได้จองโต๊ะเอาไว้หรือไม่ ?
มันทำท่าบอกใบ้ว่าที่แห่งนี้ใกล้จะเกิดเรื่อง หากท่านมิได้เกี่ยวข้องยังคงอย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับปลักน้ำนี้

มองไปภายในร้าน ท่านพบว่ามีแขกเหรื่อดังต่อไปนี้


โต๊ะแรกเป็นบุรุษคลุมหน้า ท่าทางลึกลับยิ่ง มิอาจคาดเดาความเป็นมาของมันได้
คนผู้นั้นยึดครองโต๊ะมุมในสุด เป็นทำเลที่สามารถสังเกตความเคลื่อนไหวของทุกผู้คนในร้าน
มันสั่งเพียงหม่านโถวและน้ำชาป้านหนึ่ง กลับมิได้แตะต้องสิ่งใด


โต๊ะที่สองเป็นชายวัยกลางคนใบหน้าขาวซีด สวมใส่ชุดนักพรตบนหลังสะพายน้ำเต้า
ฟังว่าในยุทธภพมีนักพรตหน้าขาวแห่งซัวไซ มันเป็นบุคคลอมโรคมานาน ต้องคิดค้นวิธีรักษาจนกลายเป็นผู้ชำนาญด้านสมุนไพร
บนโต๊ะของมันมีแต่ขนมเปี๊ยะแห้งแข็งและป้านน้ำชาเย็นชืด


โต๊ะที่สามเป็นดรุณีชุดแดงหน้าตาดุร้าย นางกำลังทุ่มเถียงด่าทอผู้รับใช้ที่ทำน้ำแกงบะหมี่หกบนโต๊ะ
ในมือนางมีเข็มเงินเล่มหนึ่ง กลับคิดซัดใส่ผู้รับใช้ หรือนางคือแมงป่องเพลิง ถังอั้งอั้ง แห่งตระกูลถัง
ที่เชี่ยวชาญวิชาพิษและอาวุธลับ และมีนิสัยรุนแรงจนเป็นที่ร่ำลือในยุทธจักร


โต๊ะที่สี่กลับเป็นหญิงงามล่มเมืองนางหนึ่ง สวมใส่แพรพรรณแพรวพราย ตกแต่งด้วยเครื่องประทินโฉมล้ำค่า
ในเมืองซั่งไฮ้ย่อมไม่มีผู้ใดงดงามไปกว่า โบตั๋นจรุง แห่งหอกระจายหอมอีกแล้ว บนโต๊ะของนางก็เป็นอาหารและสุราชั้นเลิศ
แต่เก้าอี้ข้างกายนางกลับว่างเปล่า หรือนางมาเพื่อรอคอยคนรัก?


ทว่าอาหารที่เลิศเลอที่สุดกลับตั้งอยู่บนโต๊ะที่ห้า อาหารไม่เพียงโอชารส แต่ยังมีจำนวนมากกว่าสิบชนิด
ไม่ว่า เป๋าฮื้อ หูฉลาม เขากวาง พระกระโดดกำแพง ก็มีทั้งสิ้น และยังมีอาหารที่ไม่ทราบชื่ออีกมากหลาย
อาหารหลายอย่างนี้กลับรับประทานแต่เพียงอย่างละเล็กละน้อยเท่านั้น
มีแต่บุตรีของตระกูลมู่หยงอันรุ่มรวยที่ใช้จ่ายเงินมือเติบปานนี้ นางย่อมเป็น หงสาทองคำ มู่หยงหง เป็นแน่แท้


ชายวัยกลางคนบนโต๊ะที่เจ็ด สะพายกระบี่ที่กลางหลัง รูปร่างหน้าตาการแต่งกายทุกสิ่งทุกอย่างของมันกลับธรรมดาอย่างยิ่ง
คล้ายกับเป็นบุคคลที่พบเห็นได้ทั่วไป สิ่งที่น่าสนใจเพียงอย่างเดียวคือกระบี่ กระบี่กลางหลักของมันกลับสลักคำว่า คุนลุ้นปิงเกี่ยมเอาไว้
กระบี่น้ำแข็งคุนลุ้นเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนัก หรือมันคือ กระบี่ธรรมดา ต๊กโกวเซี้ย เจ้าสำนักคุนลุ้น


บนโต๊ะที่แปดกลับนั่งด้วยหลวงจีนรูปหนึ่ง เบื้องหน้าท่านมีเพียงอาหารเจที่รับประทานหมดแล้วหนึ่งจานและน้ำชาป้านหนึ่ง
คาดว่าได้รับบิณฑบาตรจากทางร้าน ผู้รับใช้บอกว่าหลวงจีนผู้นี้เมื่อเข้ามาในร้านก็เริ่มนั่งสมาธิ
มิยอมพูดคุยกับผู้ใด หรือท่านคือมหาสมณะไร้คำพูด แห่งวัดเล่งเน้ยยี่ ซึ่งบำเพ็ญเพียรมานาน
มิได้ออกสู่ยุทธจักรมานับสิบปี มิคาดวันนี้ถึงกับรุดมาถึงเมืองซั่งไฮ้


บุรุษโต๊ะที่เก้ากลับตรงกันข้าม นับตั้งแต่เข้ามาในร้านมันยังพูดจาไม่จบสิ้น รั้งตัวผู้รับใช้โชคร้ายคนนึงไว้เป็นเพื่อนร่ำสุรา
ผู้รับใช้บอกว่ามันมีฉายา หน้ากากเหล็กลอยบนน้ำ โล่กลางหลังไร้เทียมทาน กระสุนเดียวปราบพยัคฆ์ ฆ่ามังกร สยบหงสา
นามว่า อาซัส


ไหนเลยมีนางโจรธัมมะอยู่ในกลุ่มคนเหล่านี้? หรือนางปลอมแปลงโฉมเป็นผู้ใด?

ปริศนาฉากที่ 1 : ให้ตอบว่าใครคือนางโจรธัมมะปลอมตัวมา ?
แต่ละสำนักจะได้รับจดหมายลับบ่งบอกถึงวิถีระบุตัวนางโจรธัมมะ
แต่ผู้ส่งสารล้วนถูกลอบทำร้ายกลางทางทำให้สารที่ได้ขาดหาย มีแต่ต้องนำสารของสามสำนักมารวมกันจึงจะสามารถระบุตัวบุคคลได้แน่นอน
มิเช่นนั้นก็ต้องใช้วิธีการคาดเดาแล้ว

ใครตอบถูกได้รับ 3VP

อย่าลืมส่งว่าจะใช้ทักษะหรือไอเทมใดหรือไม่ โจมตีใครหรือไม่ ป้องกันตัวอย่างไร
ทุกอย่างให้ส่งมาเป็น PM ส่งก่อนได้ก่อน ถ้าส่งผิดหรือแก้จะถือว่าเวลาสุดท้ายคือเวลาที่ส่ง

มีเวลาถึง 20.00 น. พรุ่งนี้

RPmode ประจำวันนี้ เล่นที่นี่ ให้เลือกคุยกับใครก็ได้ 1 คน

« Last Edit: November 10, 2012, 04:56:08 PM by Game Master »

 

Offline ชงต๊ะ

- จ่ายไป

ถามภูติค้างคาวด้วยว่าต้องการซื้อข่าวจากตนไหม จะให้ราคาเท่าไหร่ แบบไหน (ขอรายละเอียดการซื้อข่าว)

Offline Chao

"วาจามีเพียงเท่านี้ ท่านมือปราบคงมีธุระ เช่นนั้นก็เชิญเถอะ"

ร่ำลา  แอบถามสองมุสิก (ที่ตอนนั้นยังไม่ตาย)  ว่ายัยโบตั๋นนี่ใช่ภริยาเจ้าเมืองท่ทั้งคู่เห็นไหม  ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป  ถ้าใช่ก็รีบพริ้วกายสะกดรอยตาม เป้าหมายคือหาหลักฐานแล้วเอาไปเล่าให้เจ้าเมืองฟัง

- จ่ายไป

ถามภูติค้างคาวด้วยว่าต้องการซื้อข่าวจากตนไหม จะให้ราคาเท่าไหร่ แบบไหน (ขอรายละเอียดการซื้อข่าว)


ภูตค้างคาวพริ้วกายกลับหลังกระโดดออกไปนอกหน้าต่าง มันหัวร่อด้วยคลื่นเสียงดังกังวาน

ฮาๆ ชงต๊ะ เพียงคำพูดที่ว่าท่านสามารถหาข่าวสารได้ ก็เป็นหลักฐานเพียงพอ
คืนนี้นับว่าเราภูติค้างคาวไม่เสียเที่ยวแล้ว

ชงต๊ะจ่ายตั๋วแลกเงิน 1000 ตำลึงออกไป ได้รับทอนเป็นเงินแท่งx9
และสุรา 1 ไห

สุรานารีแดงเผาดาบบนยอดใบไผ่เขียว x1 กินแล้ว +2SP ในเทิร์นนั้น ถ้าค่อยๆกินจะไม่เมา

"วาจามีเพียงเท่านี้ ท่านมือปราบคงมีธุระ เช่นนั้นก็เชิญเถอะ"

ร่ำลา  แอบถามสองมุสิก (ที่ตอนนั้นยังไม่ตาย)  ว่ายัยโบตั๋นนี่ใช่ภริยาเจ้าเมืองท่ทั้งคู่เห็นไหม  ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป  ถ้าใช่ก็รีบพริ้วกายสะกดรอยตาม เป้าหมายคือหาหลักฐานแล้วเอาไปเล่าให้เจ้าเมืองฟัง



มุสิกท้องนาบอกว่า โบตั๋นจรุงเป็นหญิงงามแห่งหอกระจายหอม ว่ากันว่าขายเพียงศิลปะไม่ขายร่างกาย
รักใคร่ชอบพอกับมือปราบหวังมานาน มือปราบหวังเป็นบุรุษรูปงาม ภรรยาเจ้าเมืองเป็นนางยักษา
ที่ต้องมีความสัมพันธ์กับภรรยาเจ้าเมืองอาจเพราะถูกนางบีบบังคับก็ได้

+2 ความสัมพันธ์กับมือปราบหวัง

Offline PaoJu

- กิน เทิร์นหน้าได้โบนัส +1HP +1SP

"ท่านก็ชมข้าเกินไป ข้าเป็นเพียงผู้น้อยมิอาจเทียบท่านผู้มากประสบการณ์ได้" เสี่ยวจูเขิน และร่วมรับประทานอาหารกับต๊กโกวเซียะ

"อาหารที่ท่านเลือกสั่งมาล้วนเป็นอาหารกินแล้วบำรุงกำลัง แสดงว่ามีความรู้ด้านอาหารไม่น้อยเลย" เสี่ยวจูกินอย่างเอร็ดอร่อย :)

- กิน เทิร์นหน้าได้โบนัส +1HP +1SP
"ท่านก็ชมข้าเกินไป ข้าเป็นเพียงผู้น้อยมิอาจเทียบท่านผู้มากประสบการณ์ได้" เสี่ยวจูเขิน และร่วมรับประทานอาหารกับต๊กโกวเซียะ
"อาหารที่ท่านเลือกสั่งมาล้วนเป็นอาหารกินแล้วบำรุงกำลัง แสดงว่ามีความรู้ด้านอาหารไม่น้อยเลย" เสี่ยวจูกินอย่างเอร็ดอร่อย :)



เพียงอาหารธรรมดา มิคู่ควรกับการชื่นชมของโกวเนี้ย

ทั้งคู่สนทนาไปพลางรับประทานอาหารไปพลาง ไม่นานก็หมดสิ้น
ต๊กโกวเซี้ยเป็นชนชั้นเจ้าสำนัก ย่อมมิอาจให้หญิงสาวคนหนึ่งจ่ายค่าอาหาร
หลังจากกล่าวถ้อยคำเกรงใจอีกหลายคำก็ร่ำลากลับห้องพักไป

จบเควสต์

วิกาลคล้อยดึก แขกเหรื่อหลายคนล้วนจากไป ทว่านางโจรธรรมมะ จนบัดนี้กลับยังมิปรากฏตัว

อู๋หมิง หลิวล่างเอ้อโหมว และเกี๊ยว ต่างพากันไปคำนับนักพรตหน้าขาว
อู๋หมิงที่สนิทสนมกับนักพรตที่สุดกล่าวว่า

ท่านคือนางโจรธัมมะ ได้โปรดเผยตัวด้วย

นักพรตหน้าขาวเงียบงันไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะ ฮาฮา

ข้าย่อมมิใช่นางโจร นี่เป็นเรื่องตลกอันใด ?

ผู้คนที่เหลือกลับนั่งล้อมรอบมหาสมณะไร้คำพูด


หลี่อิงกล่าวว่า  "เมื่อไร้คำพูดย่อมไม่ต้องกล่าวมากความ  เมื่อไม่ต้องกล่าวมากความย่อมไม่แสดงพิรุธ  เยี่ยงนี้จึงเป็นโฉมหน้าที่ง่ายต่อการปลอมแปลง"


เซียวจื่อกล่าวว่า "หลวงจีนไร้คำพูดมิได้ออกสู่ยุทธภพมานาน คิดปลอมแปลงเป็นท่านกลับง่ายดายยิ่ง


เสี่ยวจูกล่าวว่า "หลวงจีนอันใด กลับฉันอาหารในยามวิกาล"


ชงต๊ะกล่าวว่า "จะยอมเผยโฉมดีๆ หรือจะให้กระชากเสื้อผ้าออกมา"


หลวงจีนไร้คำพูดกลับแย้มยิ้มกล่าวว่า "พวกท่านมีสติปัญญาสูงส่ง สมแล้วที่ได้รับการเลือกเฟ้นจากสามสำนักใหญ่"
"เรียกข้าว่ายู่อี่เถอะ พรุ่งนี้พวกเรามีกำหนดนัดกับภูติค้างคาว"
"ค่ำคืนนี้ยังมีเรื่องที่ต้องกระทำอีกมากหลาย พวกเราไปเตรียมตัวกันเถอะ"

หลี่อิง เซียวจื่อ เสี่ยวจู ชงต๊ะ +3VP

จบบทที่1