Baron's Bloody Library
Now Playing => ตำนานบู๊ลิ้ม => Baron's Library => Baron's Realm => ศึกจ้าวยุทธจักร => Topic started by: Game Master on November 08, 2012, 01:18:11 AM
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/1699.JPG)
ชื่อ : หลี่อิง
อายุ : 12
ประวัติ : หมอดูพเนจรและนักเล่านิทาน ชำนาญการดูโชคชะตาราศี การหาฮวงจุ้ยสร้างบ้าน สร้างสุสาน ชมชอบเกี่ยวข้องกับเรื่องไร้สาระ ด้วยร่างกายที่สูงโปร่ง แววตาที่เฉียบแหลม และบุคลิกเปิดเผย จึงดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ
อย่าลืมซ่อนข้อมูลที่ไม่อยากให้ชาวบ้านรู้นะครับ
ข้อมูลปกปิด
-
ข้อมูลปกปิด
-
เหยื่อรายต่อมาที่ถูกทำร้ายคือหลี่อิง
เขาร่ำลาจากมือปราบหวังเพื่อเดินทางกลับห้องพัก มิคาดในเงามืดกลับมีหลายคนซุ่มโจมตีเขาอยู่
อาวุธลับชิ้นหนึ่งพุ่งฝ่าอากาศเข้าไปปักที่หน้าผากของหนูท้องนา อี้หลุน จบชีวิตของมันในครั้งเดียว
หนูท้องร่อง อู่หลันก็ถูกชายชุดดำแทงด้วยหอก เสียชีวิตอย่างงมงาย
ชายชุดดำอีกสองคนยังพุ่งเข้ามากลุ้มรุมเขา ทั้งคู่แยกย้ายเป็นซ้ายขวา
ล้วนจู่โจมด้วยวิชาดัชนีของพรรคอสูร
ดัชนีซ้ายพุ่งเข้าใส่หัวไหล่ของเขา ทำให้รู้สึกแขนปวดชาไม่อาจยกขึ้นได้ (-2AT)
นอกจากนี้กำลังภายในของเขายังถูกลมปราณภูติอุดรอันชั่วร้ายดูดดกลืนไปอีก (-2SP)
ดัชนีซ้ายพุ่งเข้าใส่จุดเตียมชังที่หน้าท้องจนไม่อาจก้าวขาออกได้ (-2DF)
เจ้าของดัชนีซ้ายยังต่อยเขาที่ท้องน้อยอีกหมัดหนึ่ง โชคดีที่เขาเดินลมปราณป้องกันไว้ได้
-
วันที่ 2
หลี่อิงหอบเงินวิ่งออกมาจากห้องลูกเรือ มิคาดกลับพบกับคนชุดดำสามคนยืนรออยู่แล้ว
พวกมันพลัดกันบุกเข้าจู่โจม
คนชุดดำคนแรกย่อตัวเตะเข้าที่บริเวณขา แต่หลี่อิงกระโดดหลบได้
คนชุดดำสะบัดข้อมือคราหนึ่งข้างอาวุธลับเข้าใส่ขาของเขาอีก
หลี่อิงลอยตัวบนอากาศยังสามารถหยิบยืมพลังเตะอาวุธลับกระเด็นออกไป
อาวุธลับสะกิดปลายเท้าของเข้าเลือดที่ออกมากลับเป็นสีดำคล้ำ (2-1=1dmg)
ที่แท้ฉาบพิษหลั่งโลหิตเอาไว้
มิคาดอาวุธลับกลับเป็นกระบวนท่าหลอก ชายชุดดำกลับจี้ดัชนีใส่ขาของเขา
หลี่อิงใช้ลมปราณจนหมดสิ้นจึงมิอาจหลบรอดได้อีก
เขารู้สึกขาชาวูบยามกระทันหันเมื่อลงสู่พื้นไม่สามารถทรงกายได้
ชายชุดดำถือหอกกลับไม่ปล่อยให้หลี่อิงได้พักผ่อน มันแทงหองเข้ามาอย่างหักโหม
เข้าที่ท้องซึ่งเป็นจุดอ่อนของหลี่อิงพอดี โลหิตของหลี่อิงหลั่งไหลจากปากแผลราวทำนบแตก (3dmg)
ชายชุดดำคนที่สามสบโอกาส มันชักมีดสั้นแวววับออกมา แทงเข้าที่แขนของหลี่อิง
หลี่อิงเสียเลือดไปมาก พยายามยกมือขึ้นป้องกันแต่มิอาจต้านทานได้ (2-1=1dmg)
จากนั้นใช้กระบวนท่าติดตามผลักดันมีดจนทะลุซ้ำเข้าที่ท้องของหลี่อิงอีกแผลหนึ่ง (2dmg)
หลี่อิงกระอักโลหิตออกจากปาก นอนสลบอยู่ท่ามกลางกองเลือด
ชายชุดดำที่ใช้มีดล้วงข้าวของจากอกเสื้อของเขา ก่อนจะส่งสัญญาณให้ทุกคนล่าถอย
หลี่อิงสลบ
หลี่อิงโดนพิษหลั่งโลหิต -1HP
หลี่อิงถูกสกัดจุด -2DF
หลี่อิง ลมปราณแตกซ่าน -1SP
หลี่อิง บาดเจ็บที่แขน -1AT
-
หลี่อิงแบกโต๊ะวิ่งออกมาจากห้องลูกเรือ มิคาดคนชุดดำยังตามมาราวี
พวกมันพลัดเปลี่ยนกันบุกเข้ามาจู่โจม
ชายชุดดำถือมีดสั้นกวัดแกว่งเข้ามาทิ่มแทงใส่ขาของเขา หลี่อิงย่อกายลงเตะออกเบี่ยงเบนคมมีดออกไป
มีดของชายชุดดำกลับมีความพลิกแพลง สามารถวกกลับมาแทงเข้าที่แขนของเขาจนโลหิตหลั่งไหล (AT2-1=1dmg)
ชายชุดดำอีกคนอาศัยจังหวะที่หลี่อิงบาดเจ็บกระโดดเข้าร่วมต่อสู้
ใช้ร่างแหสีดำครอบคลุมร่างของหลี่อิงไว้จนเขามิอาจขยับตัวได้ (-1DF all)
ชายชุดดำต่อยหมัดเข้าที่ท้องของหลี่อิงแต่กลับคล้ายใช้มือเปล่าทุบพะเนินเหล็ก ไม่อาจทำอันตรายได้
ชายชุดดำมีโทสะ จึงหยิบอาวุธลับออกมาทิ่มแทงใส่ท้องของเขา (AT2-1=1dmg)
หลี่อิงรู้สึกคันชาที่จุดสำคัญ ที่แท้อาวุธลับกลับอาบยาพิษชาประสาทเอาไว้ (-1DF)
เสียงระเบิดดังขึ้น เรื่อสั่นสะเทือนวูบ หลี่อิงอาศัยจังหวะกลิ้งตัวจนหลุดจากร่างแห หลบหนีไปได้
หลี่อิงบาดเจ็บที่แขน -1AT
หลี่อิงบาดเจ็บที่ท้อง -1SP
หลี่อิงถูกพิษชาประสาท -1DF
-
เมื่อหลี่อิงขึ้นจากน้ำก็พบคนชุดดำรายล้อมเขาเอาไว้
ผู้ใช้หอกร่ายรำเพลงหอกแทงเข้าใส่แขนของเขาแต่ถูกหลี่อิงใช้ฝ่ามือปัดป่ายออกไป
ชายชุดดำสองคนกลับจู่โจมเข้ามาด้วยวิชาดัชนี จี้เข้าใส่ขาของเขาจนไม่อาจขยับได้ (-2DF)
ดัชนีของคนด้านซ้ายกลับแฝงด้วยลมปราณภูติอุดร ดึงดูดกำลังภายในของหลี่อิงออกไป (-2SP)
คนชุดดำหลังจากใช้ลมปราณภูติอุดรจู่โจมสำเร็จก็ชักกระบี่ออกมาแทงใส่ขาของหลี่อิง (AT3-1=2)
โลหิตที่ไหลออกมากลับเป็นสีดำ ที่แท้ตัวกระบี่ยังฉาบพิษมอมวิญญาณ สลายกำลังภายในของเขา (-1SP)
บาดแผลจากกระสุนปืนใหญ่ยังไม่หายดี กลับรับบาดเจ็บเพิ่มเติม หลี่อิงถึงกับล้มลงสลบไป
ชายชุดดำล้วงมือเข้าไปแย่งชิงสิ่งของจากอกเสื้อของหลี่อิง
คนชุดดำที่ถือมีด คนชุดดำที่ถือไม้เท้าและผู้ติดตาม ยังคิดเข้าลงมือ แต่กลับถูกชายชุดดำคนอื่นๆขับไล่ไป
หลี่อิงสลบ
หลี่อิงโดนสกัดจุด -2DF
หลี่อิงถูกดูดกำลังภายใน -2SP
หลี่อิงถูกพิษมอมวิญญาณ -1SP
หลี่อิงบาดเจ็บที่ขา -1DF
-
วันที่ห้า
พอเข้าไปในถ้ำหลี่อิงก็พบกับการลอบสังหาร จะมีวันไหนที่เขาได้นอนหลับสบายๆไหมนะ
หงสาทองคำปรากฏตัวขึ้น ซัดเหรียญทองใส่เขาด้วยวิชาพยุหะทองคำ
ประกายเย็นเยียบพุ่งเข้าใส่ แขน ขา อก ท้อง ของเขา
หลี่อิงทั้งบาดเจ็บต่อเนื่องทั้งติดพิษ มิอาจต้านรับไว้ได้แม้เพียงกระบวนท่าเดียว (2dmg 2dmg 2dmg 2dmg)
หลี่อิงบอบช้ำภายในหนักหน่วง กระอักโลหิตสลบไปทันที
ผู้ใช้หอกที่ร่วมทางกับหงสาทองคำเข้ามารื้อคนสิ่งของในตัวหลี่อิง
ผู้ใช้ฝ่ามือที่หลบในความมืดมาช้าเกินไปได้แต่ล่าถอย
หลี่อิงที่นอนสลบอยู่ยังถูกมารร้ายลอบเข้ามาสูบกำลังภายในด้วยวิชาลมปราณภูติอุดร
หลี่อิง...
สลบ
โดนดูดพลัง -2SP
เสียเลือด -1HP
ลมปราณแตกซ่าน -1SP
แขนเจ็บ -1AT
ขาเจ็บ -1DF
-
วันที่ 6
หลี่อิงในที่สุดก็ได้นอนหลับบ้าง
-
วันสุดท้าย หลี่อิงหลับสนิท
-
หลี่อิง ค่าเกียรติภูมิ = 21
เขามีนามว่า จ้าวฟงฉายา แพทย์ท่องหล้า ฝึกวิชาเปลี่ยนเส้นเอ็นและวิชาฝังเข็มจากเทียนสินไต้สือแห่งเส้าหลินตั้งแต่เยาว์วัย
หลังจากออกเดินทางช่วยเหลือผู้คนในชนบทก็ฝึกฝนจนสามารถใช้แส้อ่อนเส้นหนึ่งเป็นอาวุธประจำกาย
ครั้งนี้บู๊ลิ้มมีเภทภัย เจ้าอาวาสจึงขอร้องให้เขาซึ่งไม่มีผู้ใดรู้จักโฉมหน้าเดินทางมาช่วยเหลือ
-
ได้เป็นจ้าวค้างคาวเชียวรึ
-
???
-
???
-
เรื่องของเรื่อง
การเลือกอุปกรณ์ติดตัว
เพราะตั้งใจจะเป็นสายสนับสนุน เลยไม่เน้นอุปกรณ์และวิชาต่อสู้เลย ทั้งลมปราณเปลี่ยนเส้นเอ็นและวิชาฝังเข็ม กะจะซัพพอร์ตเต็มที่ ส่วนอุปกรณ์ติดตัวทั้งเงินแท่ง บัวหิมะ และอาวุธลับก็เป็นอุปกรณ์ที่เตรียมไว้ใช้เพื่อต่อสู้กับEvent ต่างๆมากกว่าจะใช้สู้กับคน
ส่วนแส้นั้น ห้ามใจไม่ได้จริงๆ ปรกติต้องมีคนคิดว่า ใครมันจะบ้าเอาของที่เป็นเครื่องหมายการค้าแบบนี้มาไม่ใช่รึ
ในการเลือกปริศนายู่อี่บทแรก พอได้ว่า เป็นชาย บอกตามตรงว่าไม่แน่ใจเหมือนกันว่า อีกสองคำใบ้ที่เหลือจะเป็นอะไร เพราะอาจไม่ใช่แค่รูป แต่เป็นอากัปกริยาที่บรรยายไว้ก็ได้ เลยใช้ตรรกะแบบสมจริงคือ แม้จะปลอมเป็นชาย แต่หากส่งเสียงก็น่าจะเผยพิรุธง่าย ไต้ซือไม่พูด ก็ยากที่จะเกิดพิรุธ เลยตัดสินใจเลือกคุยกับไต้ซือ และพอเห็นบทสนทนาของคนอื่นๆแล้ว ก็ทำให้คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงสุด (จริงๆส่วนหนึ่งคือลางสังหรณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้น่ะ)
ทีนี้ก็มาถึงการเลือกโจมตีของวันนั้น เนื่องจากผมไม่ทราบว่าใครอยู่ฝ่ายไหน แต่มั่นใจมากๆว่าคนที่ได้คำใบ้เหมือนกันก็น่าจะไปคุยกับคนที่ตนเองสงสัย ดังนั้น จึงจำกัดคนที่ผมสามารถโจมตีได้โดยไม่กลายเป็นพวกเดียวกันแค่ 2 คนคือ หลิวกับเกี๊ยว สุดท้ายก็ใช้ลางสังหรณืว่าหลิวน่าจะมีคนเลือกยำเยอะ เลือกหลิว
(แต่เกี๊ยวอยู่เส้าหลินเนี่ยนะ แล้วเธอจะไปคุยกับยัยสาวนั่นทำไมย่ะ)
ปรากฏว่าฟลุ๊คได้สารมาซะงั้น
เช้าวันต่อมา ได้เฉลยเรื่อง ชาย เหลือง แดง เมื่อรู้จากสารว่าหลิวอยู่อสูร ก็แสดงว่าอสูรคือเหลือง บู๊ตึ้งคือแดง ผมก็เอาตารางการเลือกคุยกับNPC มาเทียบ และพบว่า เสี่ยวจือคุยกับเอซัสซึ่งเป็นชายที่ไม่มีแดงและเหลือง จึงชัวร์มากว่าเขาคือพวกเดียวกัน และเริ่มจดหมายติดต่อ
(แต่ปรากฏภายหลังว่าหมอนี่เป็นอสูร มันอะไรกันว้อยยยยยยยยย แล้วนายจะคุยกับหน้ากากนกแก้วนี่ทำม้ายยยยยยย โคนันบวกคินดะอิจิเจอแบบนี้ยังจบเห่เลย)
หลังจากนั้นคงเรียกได้ว่าความผิดพลาด เพราะแทนที่ผมจะใช้ความสัมพันธ์กับมือปราบหลิวเรียกลิ่วล้อมาตายแทน แต่ดันสั่งให้มือปราบไปไล่ซัดชาวบ้าน เป็นเหตุให้โดนยำจนสลบ (เพราะกะช่วยเสี่ยวจือรุมเป้าแท้ๆเชียว /ตอนนั้นยังโดนหลอกอยู่)
เสี่ยวจือpmมาสารภาพกับผมว่าเขาไม่อยู่เส้าหลิน นาทีนั้นผมก็แน่ใจแล้วว่า ถ้างั้นเขาก็คือพรรคอสูรที่ตีผมอยู่ทุกเทิร์นแน่นอน และแน่ใจแล้วว่า เกมนี้ใช้ตรรกะธรรมดาไม่ได้แน่ แบบนี้ใครอยู่พรรคเดียวกันก็ดูจากพฤติการณ์ในฉากหนึ่งไม่ได้เสียแล้ว ที่ทำได้คือดูจากอาวุธ แต่เกี๊ยวก็ดันไปช่วยเสี่ยวจูที่เป็นเพื่อนคนละสำนักเบี่ยงเบนความสงสัยอีก
(อย่างนึงที่ผมคาดไม่ถึงคือ มีคนยอมแลกความลับกับชงต๊ะในบทแรกเยอะมาก ทั้งๆที่มันคือจุดชี้เป็นตาย ความลับเล็กน้อยที่ได้จากชงต๊ะ เทียบไม่ได้เลยกับความลับของทุกคนที่เขารวบรวมได้)
ถึงจุดนั้น ผมเริ่มเห็นฉากจบที่ชงต๊ะเป็นผู้ชนะ แต่ในเมื่อยังหาพวกไม่เจอ ประกอบกับยังคงโดนรุมสกรัมอยุ่ทุกวัน (และยังคงคิดว่าเกี๊ยวอยู่พรรคอื่น) สุดท้ายเลยได้แต่ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ (เป็นความผิดพลาดมาก) ในบทที่โดนปืนใหญ่ ผมคิดว่าบัวหิมะจะฟื้นพลังได้ แต่มันดันไม่ใช่ เลยเน่าสนิทอีกรอบ
แต่ไม่เป็นไร ของหมดแบบนี้ก็เป็นโอกาสให้ผมเริ่มลงมือตีโต้บ้างล่ะ
ที่ไหนได้ ทั้งที่โดนควักล้วงสารลับไปสองรอบ ก็ยังอุตส่าห์มีคนโจมตีผมอีก แถมไม่โจมตีธรรมดา กลับซัดมาเสียเต็มเหนี่ยว ที่เจ็บใจที่สุดคือ คนที่ลงมือคืออู๋หมิง คนร่วมสำนักผมนี่แหละ (ควักตั๋วแลกเงินทีเขาไม่น่ารู้ว่าผมมีไป ประมาณว่าของแถม)
อ้อ ช่วงนี้ผมติดต่อชงต๊ะเพื่อโจมตีฝ่ายพรรคอสูรด้วยกะยุให้ตีกัน ส่งโจมตีไปตามที่ว่ากัน แต่ไม่มีคนตามเลย ชงต๊ะมาบอกว่าผมไม่ยืนยันไปเลยไม่โจมตี แต่ผมว่าผมส่งไป เขาส่งมา แล้วผมต้องส่งไปหาเขาอีกรอบทำไม ก็โจมตีเลยสิ เพราะชงต๊ะไม่ทำตามสัญญาครั้งนี้ แผนยุให้ตีกันของผมเลยพลาด และผมก็ไม่เชื่อเขาอีก
ตอนนี้ผมเริ่มแพร่ข่าวลือว่าชงต๊ะคือคนที่ไม่น่าไว้ใจไปแล้ว แต่เหมือนพรรคอสูรจะหน้ามืดตามัว ไม่คิดจะเสียบชงต๊ะสักนิด นัยว่าชงต๊ะอำว่าเป็นพรรคอสูรด้วยกันหรืออย่างไรสักอย่าง (ผมก็ทะแม่งๆว่าเขาเป็นพรรคอสูรเหมือนกัน แต่มันดูไม่ลงตัวยังไงอยู่) ผมเองก็โดนเสียบทุกวันจนไม่เหลือแรงจะทำอะไรแล้ว
ยุใครก็ไม่ขึ้น เลยพูดถึงแผนกระต่ายตายฆ่าสุนัขล่าเนื้อ ดูสิว่าพรรคอสูรสองคนจะได้คิดขึ้นมาบ้างไหม และเนื่องจากโอกาสให้ เลยพยายามใช้แผนเก่าแก่ของเอซัส ล่อลวงว่าชงต๊ะเป็นศัตรูของทั้งหมด แล้วรุมเล่นงานชงต๊ะ แต่ผมก็คาดแล้วว่าฝ่ายอสูรน่าจะยื้อเสี่ยวจูไม่เลิก เลยบอกให้ฝ่ายอสูรซัดเสี่ยวจูที่เจ็บจากตอนก่อน ผมกับคนที่เหลือจะรุมชงต๊ะในบทที่ 6
ผมคาดว่าอสูรจะทำสำเร็จ และคิดว่าชงต๊ะก็น่าจะปางตายจากการโดนรุม เลยวางยาโดนการดูด AT~ ของหลิวมาเพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเองตีอีกในบทสุดท้าย (ลดความน่ากลัวของอาวุธลับจากหลิวไปในตัว) โดยหลอกว่า นั่นคือพลังของเจ้าค้างคาวที่ชงต๊ะมีความสัมพันธ์ด้วย (ยุแยงอีกรอบ)
แต่ผลคือ รอดกันทั่วหน้า แผนแยกกันตีพลาดไปถนัด (ผมลืมเรื่ององครักษ์ของเสี่ยวจูไปจริงๆนะ)
บทที่ 7 ก็สิ้นหวังแล้ว ชิงมาชิ้นเดียวไงๆก็ไม่ทัน ไม่ได้PM ขอความช่วยเหลือจากอสูรอีก ให้ทำอย่างที่อยากไป แต่แกล้งชงต๊ะทิ้งท้ายหน่อยละกัน
สรุปแล้ว เกมที่ศัตรูเป็นมนุษย์หลายๆคนสำหรับผมมันน่ากลัวและท้าทายกว่าปริศนาเสียอีก เพราะปริศนาอันลึกล้ำไม่สามารถเทียบได้เลยกับอารมณ์ธรรมดาๆของคน เพราะปริศนายังมีคำตอบ ต่างจากอารมณ์ของคนที่ไม่มีอะไรแน่นอนและเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ
-
การเลือกคุยกับ NPC บท 1 เราว่าไม่เห็นเกี่ยวกับคำใบ้เลยนี่ เราเลือกคุยเพราะอยากคุยน่ะ -0- คนอื่นเลือกคุยเพราะคำใบ้หรอกเหรอ
ดีแล้วที่ลืมว่าเรามีองครักษ์ =___,= ฮิๆๆๆ
บรรทัดสุดท้ายดูปรัชญามาก ฮาๆ
-
"ล้ำลึกนัก"
"กระัผมขอคำนับ 1 จอก"
/คำนับ
-
บทที่ 1 เพราะไม่ต้องการให้บางคนที่คิดลึกเดาได้ ชงต๊ะจึงเลือกไปคุยกับภูติค้างคาวน่ะ (เพราะมั่นใจว่าหาพวกเองดีกว่าให้คนอื่นมาหา)
ที่คุยกับภูติค้างคาวก็เพื่อใช้ยืนยันตัวในการหลอกคน แต่ดันไม่มีใครสนใจเลยมั้ง เสียดายจริง ดูเหมือนจะไม่ได้อะไรจากเจ้านี่เลยด้วย
สาเหตุที่ชงต๊ะต้องยืนยันเพราะหลี่อิงมีลับลมคมใน อาจจะเกิดเหตุผลว่า "มาแก้คำสั่งไม่ทัน" แล้วกลายเป็นชงต๊ะตีไปคนเดียว ยิ่งไม่ตอบยิ่งสงสัย หลี่อิงมีลักษณะที่จะหลอกใช้คนอย่างชัดเจนด้วย
และเดิมทีชงต๊ะก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการทำลายมิตรภาพกับเซียวจื่อ (จริงๆ ไม่อยากตีหรอก) แต่คิดว่าเดินตามเกมหลี่อิงสักหน่อยคงน่าสนุกดี สร้างความเชื่อใจกับหลี่อิงแล้วแทงทีหลัง
ถ้าหลี่อิงยืนยันกลับนั่นจะเป็นหลักฐาน เพราะถ้าหลี่อิงตุกติกชงต๊ะจะอ้างสิทธิ์ที่ชอบธรรมเล่นงานหลี่อิงกลับได้อย่างเต็มที่ อันนี้แค่นิสัยส่วนตัวที่ชอบความชัดเจน
ตอนหลังรู้ว่าหลี่อิงเดินเกมยุแยง ตอนนั้นคิดว่ารุมตีมาเลยก็ไม่กลัว ชงต๊ะยามปกติไม่เคยจะใช้ sp เอา sp มาลง df 3 เกือบตลอด ยิ่งถ้าป้องกันเต็มที่จะได้ 4 4 3 3 ด้วย
ในขณะที่ทุกคนรุมตีชงต๊ะ เสี่ยวจูจะแทงคนอื่นอย่างสบายใจ
พอเห็นว่าหลี่อิงฝึกวิชาค้างคาวแล้วเลยเลิกคิดโจมตีเข้าไปเลย เพราะคิดว่าต้องหลบได้แน่ๆ เผลอๆ สวนกลับได้อีกต่างหาก
ช่วงท้ายตีอู๋หมิงเพื่อชิง 1 จดหมายของเกี๊ยวที่อู๋หมิงไปแย่งมา 2 ตั๋วที่อู๋หมิงไปแย่งหลี่อิงมา
ปล. จริงๆ แล้วถ้าคาดเดานิสัยคนได้ก็อ่านไม่ยากนะ ผมไม่ได้หลอกลู่เพราะส่วนหนึ่งคิดว่าถ้าหลอกไปไม่เนียนอาจโดนหลอกกลับและเป็นศัตรูกันเลย
ปล.2 ลู่เป็นตัวอันตรายมากในทุกเกม สามารถมองระบบเกมและวิเคราะห์ว่าจะเล่นในรูปแบบไหนถึงจะดีที่สุด หลายคนประมาทลู่ คิดว่าแค่เกรียนไปงั้นๆ
-
เห็นด้วยครับที่ว่าประมาทลู่ว แต่แท้จริงแล้วซ่อนอะไรไว้หลายๆอย่างที่คาดไม่ถึง
-
"ยังไงผมก็ว่าเกรียนอยู่ดีหละ"
-
ท่านชงต๊ะชั่วร้ายมาก
ปล. จริงๆ แล้วถ้าคาดเดานิสัยคนได้ก็อ่านไม่ยากนะ ผมไม่ได้หลอกลู่เพราะส่วนหนึ่งคิดว่าถ้าหลอกไปไม่เนียนอาจโดนหลอกกลับและเป็นศัตรูกันเลย
ถ้าหลอกนิดๆหน่อยเราก็ไม่อะไรหรอกค่ะ แต่ถ้าหลอกมาเนียนเป็นพวกแล้วเราเชื่อใจ แต่พอใกล้จบเกมดันมาเฉลยล่ะก็เราจะแค้นเคืองมาก >:( แต่เราไม่หลอกกลับหรอกแค่เป็นศัตรูกันน่ะ แล้วจะตามราวีไปทุกเกม ได้แกล้งกลับนิดๆหน่อยๆก็ยังดี ขัดขวาง ขัดแข้งขัดขาให้ลำบาก ปามะเขือเน่าใส่รัวๆ ไล่ตี @^&(#%_)*@ ฯลฯ
ปล.2 ลู่เป็นตัวอันตรายมากในทุกเกม สามารถมองระบบเกมและวิเคราะห์ว่าจะเล่นในรูปแบบไหนถึงจะดีที่สุด หลายคนประมาทลู่ คิดว่าแค่เกรียนไปงั้นๆ
เอ่อ...ง่า...ท่านลูก้าอย่าพูดแบบนั้นสิ เดี๋ยวคนอื่นระแวงระวังเราหรอกค่ะ (T T) ประมาทเราเถิด เราพลาดออกจะบ่อย (ส่วนใหญ่จะพลาดเพราะความเข้าใจผิดด้วย เป็นมนุษย์ชอบเข้าใจผิด) แล้วเห็นว่าเราวิเคราะห์ไปถึงขั้นไหนเนี่ย คุยด้วยกันตั้งหลายวันดูไม่ออกรึว่าเราไม่ค่อยจะคิดอะไรละเอียดเท่าไหร่เลย แต่เรื่องมองเกมแล้วเล่นรูปแบบไหนถึงดีสุดก็มีทุกเกมแหละ(คนอื่นก็เป็นกันนี่)
เราไม่เกรียน...ก็ไม่ได้สินะ T T เอาเป็นว่าเราเกรียนน้อยกว่าท่านลูก้าอ่ะ
-
น่ากลัวจริงๆ ด้วย ดีนะไม่ปาเข็มนางแอ่นใส่ตอนจบแล้วแย่งจดหมายมาพร้อมทั้งโบกพัดหัวเราะโฮะๆ
ไม่รู้แหละ ใครจะประมาทลู่ก็ได้ แต่ไม่ใช่ลูก้า :D