-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/eadc475ea4e8a8af2c8ba9c4c31a25d6/4119%20-%20Event.jpg)
ระบบศักดินาสวามิภักดิ์ หรือระบบฟิวดัลเกิดในฝรั่งเศสช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 ที่อิตาลีคริสต์ศตวรรษที่ 6 จากนั้นได้นำมาใช้ในอังกฤษและเยอรมัน
ที่ดินคือโครงสร้างของระบบนี้ กษัตริย์จะพระราชทานที่ดินให้กับขุนนาง และขุนนางจะมอบที่ดินไปอีกเป็นทอด
Manor หมายถึงบริเวณที่ดินที่กว้างใหญ่รอบคฤหาสน์ของขุนนาง หรือเจ้านายผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน (Lord)
บริเวณรอบคฤหาสน์จะมีหมู่บ้าน ชาวนาและทาสติดที่ดิน ช่างฝีมือ พ่อค้า แต่ละแมเนอร์จะมีการผลิตอาหารเลี้ยงตัวเอง
แต่บ่อยครั้งที่เกิดการรบพุ่งแย่งชิงดินแดนโดยชาวคริสต์ด้วยกันเอง
และบ่อยยิ่งกว่าคือกองโจรที่มักโจมตีดินแดนซึ่งไม่ขึ้นกับลอร์ดหรือขุนนาง
(http://wudthipan.com/fucko/_images/b0d364eab8e1c55c7ffdd1037343dac6/4118%20-%20Event.jpg)
นอกจากนักรบครูเสดด้วยกันเองแล้วยังมีกองโจรที่คอยรังควานดินแดนต่างๆในราชอาณาจักรเยรูซาเล็มอยู่ตลอดในช่วงหลายเดือนมานี้
กษัตริย์ Raymond ได้มอบที่ดินจำนวนมากให้เหล่าผู้ที่สวามิภักดิ์ต่อเขาและให้บรรดาศักดิ์เป็นขุนนางกันถ้วนหน้าเพื่อต่อสู้กับโจรร้ายและช่วยเหลือในการขยายดินแดน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนลอร์ดทั้งหลายจะไม่ได้สนใจเสียงเรียกร้องของ Raymond พวกเขาส่วนหนึ่งกลับทำสงครามกันเองด้วยซ้ำ
-
(http://i.imgur.com/uZ1ezMs.jpg)
"เจ้านี่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย" องค์หญิงแห่งจักรวรรดิกลั้วเสียงหัวเราะแล้วเดินเข้ามา
"เจ้าจำได้ไหม วันนั้นที่ข้าลั่นวาจา" นางนั่งลงท้าวคางแล้วยิ้ม ดวงตางามคมจ้องมอง Lisette
ใช่ ที่ Lisette บังเอิญได้เป็นขุนนางเจ้าที่ดินขึ้นมาแทนขุนนางเจ้าที่ดินคนเก่าเพราะขุนนางคนนั้นถูกลอบสังหาร
ขุนนางคนนั้นเป็นขุนนางของจักรวรรดิที่ไปเข้ากับ Raymond เขาถูกจักรวรรดิจัดการ
แล้วเหตุการณ์นั้นก็ประจวบเหมาะบังเอิญที่ Lisette ซึ่งมาขอทำงานเป็นชาวนากลับได้รับบรรดาศักดิ์นั้นไปแทนอย่างไร้เหตุผล
"แต่เจ้ายังอยากได้มากกว่านั้น"
([url]http://wudthipan.com/fucko/_images/249f58b833ec582d4842b64c884eb126/4102%20-%20Character.jpg[/url])
"ข้าอยากหลุดจากการเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาทำงานไปวันๆ แม้จะอยากเป็นอัศวิน แต่ข้าไม่มีทักษะในการสู้รบใดเลย"
Lisette บอกว่าเธออยากได้มากกว่านั้น เธอไม่เอาเงิน และไม่เป็นอัศวินได้ไหม เธอยังไม่อยากตายไว เธออยากสบายไปนานๆ
ได้ฟังดังนั้น Anna จึงเอาหล่อนไปฆ่าทิ้ง
Anna นึกประหลาดใจ นางไม่เคยเจอใครโลภโมโทสันเท่านี้ เอ้ย ไม่เคยเจอสามัญชนที่ใจกล้าขนาดต่อรองกับนาง
นางรู้สึกพึงพอใจจึงกล่าวว่าเมื่อพิชิตเยรูซาเล็มแล้วดินแดนเล็กๆแห่งหนึ่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นของ Lisette
"ข้าควรเรียกท่านด้วยสรรพนามใหม่ ลอร์ดลิเซ็ต"
-
สามัญชนหลายคนได้รับที่ดินและกลายเป็นเจ้านายหรือลอร์ดผู้ครองที่ดินมากบ้างน้อยบ้าง หรือที่เรียกว่าขุนนางระดับล่าง
ขุนนางที่มียศต่ำกว่า Baron จะไม่มีสิทธิ์เข้าประชุมในสภาขุนนาง แม้ว่าจะเป็นลอร์ดแห่ง... อะไรก็ตามที
แต่ก็ใช่ว่าการเป็นขุนนางจะทำให้ฉลาดเฉลียวหรือรบเก่งขึ้นเสียเมื่อไหร่ บรรดาศักดิ์ก็ไม่ต่างไปจากมงกุฎที่สวมบนศีรษะ
(http://i.imgur.com/Ev1aqoW.jpg)
"มันไม่มีค่าอะไรหากมงกุฏนั้นสวมอยู่บนศีรษะของวานร"
สุลต่านซังกี (Zengi) ผู้รวบรวมเหล่าชาวเติร์กหลากหลายเผ่าพันธุ์จนเป็นอันหนึ่งอันเดียวก่อตั้งจักรวรรดิเติร์กได้สำเร็จยังคงไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น
ดินแดนของจักรวรรดิเติร์กกินอาณาบริเวณกว้างขวางรวมไปถึงดินแดนที่เคยเป็นของจักรวรรดิไบแซนไทน์อีกกว่า 60%
(http://i.imgur.com/YWRICQx.jpg)
สีเขียวคือจักรวรรดิเติร์ก
ภัยคุกคามจากเติร์กที่น่าจะเป็นเพียงกองไฟมอดดับหลังสงครามครูเสดจบลงกลับลุกขึ้นและโหมแรงกว่าเดิม
แม้แต่จักรวรรดิไบแซนไทน์เองยังหยุดที่จะพยายามทวงเมืองคืนจากพวกครูเสดและหันมาเตรียมการต่อต้านจักรวรรดิเติร์ก
-
(http://image.free.in.th/v/2013/iy/160901101936.jpg) (http://picture.in.th/id/424dd662322b16ad251a11bb5c9088b0)
บ่อยครั้งที่กองคาราวานถูกโจมตีโดยกองโจร มันไม่มีอะไรจะง่ายไปกว่าจับอาวุธแล้วขึ้นมาออกปล้นพวกพ่อค้าที่ร่ำรวยซึ่งอ่อนแอกว่าเรา
พวกเขาอาจถูกฆ่า ถูกจับเรียกค่าไถ่ หรือถูกกระทำอย่างเลวร้าย
แต่มันคงไม่มีอะไรจะเลวร้ายไปกว่าการที่โจรเหล่านั้นคืออัศวินผู้รับใช้พระเจ้า
(http://wudthipan.com/fucko/_images/782a08aaafe785327098add4be308923/4121%20-%20Event.jpg)
Knight Templar รวมตัวกันขึ้นมาจากชนชั้นอัศวินและชนชั้นสูง
พวกเขามีอาวุธและชุดเกราะที่ดี ม้าที่แข็งแกร่ง และได้รับการฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจที่สุดในยุโรป
-
Chapter III-IV จะ Role-play ได้ที่นี่ สำหรับคนที่จบ Quest แล้ว
เรื่องราวบางส่วนอาจจะไปเล่นในกระทู้ส่วนตัว
สถานที่
- เมืองเยรูซาเล็ม
- ปราสาทเครัค: ปราสาทของเทมพลาร์และเขตปกครองพิเศษของเทมพลาร์
- เมืองเอเคอร์: เมืองในเขตปกครองของคณะอัศวินฮอสพิทาลเลอร์
- เส้นทางสู่นครรัฐทริโปลี
- เส้นทางสู่ดามัสกัส
-
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
ไดร์เฮมมองไกลและไกลออกไป...
- เส้นทางสู่ดามัสกัส
-
- เส้นทางสู่นครรัฐทริโปลี
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/db1107e1a1171127272fc5320257f3e5/4123%20-%20Background.jpg)
นครดามัสกัส (Damascus) ตั้งอยู่บนที่ราบสูงหุบเขาซึ่งยากแก่การบุกเข้าตีชิงเป็นอย่างยิ่ง
และเมื่อประกอบกับกำแพงเมืองสองชั้นที่แข็งแกร่งจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหักเอาเมืองนี้ด้วยกำลังรบที่น้อยกว่าครึ่งแสน
นานกว่า 2 เดือนหลังปิดล้อมที่สุดแล้วซังกีก็บัญชาการให้บุกเข้าตีหักเอาเมืองมาให้ได้ในอีกครา
ข่าวนี้ระบือไกลไปทั่วจนฝ่ายครูเสดยกทัพมาช่วยเหลือดามัสกัสและตลบหลังทัพของจักรวรรดิเติร์ก
ถนนดินที่เส้นใหญ่พอเกวียนหลายเล่มจะลากผ่านสวนกันดูแคบไปถนัดตาเมื่อนักรบครูเสดใช้มันเป็นเส้นทางระดมพล
เป้าหมายของนักรบครูเสดคือตีตลบหลังกองทัพเติร์กที่หมายจะหักเอาดามัสกัสให้ได้
(http://i.imgur.com/s091T84.jpg)
ถนนสู่ทริโปลีพังเสียหายเพราะกองทัพครูเสดที่ลากเอาเครื่องไม้เครื่องมือตีเมืองผ่านมาจนมันยุบและทรุดตัวลงหลายจุดเมื่อเกือบสองปีก่อน
มีคาราวานและผู้คนหลากหลายใช้มันเป็นเส้นทางมุ่งสู่เยรูซาเล็มและเดินสวนกลับเพื่อไปยังยุโรป
การมี Road จะนำไปสู่การพัฒนา Market ได้
- เดินทางไปยังทริโปลี
- เลือกที่อื่น
-
- เมืองเยรูซาเล็ม
-
Chao มาสืบหาข้อมูลที่ปราสาทเครัค
-
- เดินทางไปยังทริโปลี
-
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
ไดร์เฮมเดินทางตามเกวียนและคาราวานของเหล่าพ่อค้า แม้ทางจะคับแคบด้วยกองทหาร แต่เขาก็อยากเห็นเมืองดามัสกัสที่ร่ำลือ
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/b729432fd13fcd95080f74eccddc9c2d/4114%20-%20Background.jpg)
กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองที่พระยาห์เวห์ทรงเลือกสรรไว้ให้เป็นป้อมแห่งความเชื่อถึงพระเป็นเจ้าแต่เพียงองค์เดียว
จากเนินเขาที่โล่งแจ้งนี้ บรรดาผู้เผยพระวจนะและพระเยซูเองทรงประกาศคำสั่งสอนของพระเป็นเจ้าและบทบัญญัติแห่งความรัก
จากดินแดนนี้ความเชื่อได้แพร่ไปพร้อมกับมุ่งขจัดความมืดมนแห่งการหลงผิดและการนับถือพระเทียมเท็จต่าง ๆ ให้หมดสิ้นไป
เยรูซาเลมตั้งอยู่บนที่ราบสูงทางตอนใต้ของเทือกเขาจูเดียน มีอาณาเขตติดกับทะเลเดดซี (Dead Sea)
ทางด้านตะวันออก และข้างฝั่งแม่น้ำจอร์แดนเป็นเทือกเขาโมอาบ (Moab) ที่แห้งแล้ง
ทางตะวันตกติดกับที่ราบชายฝั่งและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Sea) ห่างจากชายฝั่ง 58 กิโลเมตร
ถนนหลวงเป็นเส้นทางสู่เมืองเยริโค (Jericho) ห่างประมาณ 57.6 กิโลเมตร และไปทางตะวันออกทางเหนือมุ่ง ทะเลสาบกาลิลี
มองไปเห็นคาราวานที่เริ่มเดินทางเข้าสู่เมืองประปราย
- เข้าเมือง
- ไม่เข้าเมือง
- อื่นๆ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/9a764bb84c27d6cda0d838d78447b543/4124%20-%20Background.jpg)
ปราสาทเครัค (Kerak) อยู่ที่เมืองอัลเครัค บริเวณยอดเขา ห่างออกไปทางตะวันออกของนครเยรูซาเล็ม เป็นหน้าด่านแรกที่คอยปกป้องเยรูซาเล็ม
ด้วยความที่ตั้งมั่นบนเนินเขาสูงชันและเป็นเส้นทางเดียวในการเข้าถึงเยรูซาเล็มทางฝั่งตะวันออกทำให้เป็นยุทธศาสตร์ที่น่าครั่นคร้าม
เงินทุนจำนวนมากเร่งระดมจนมันสร้างเสร็จในเวลาไม่นานมานี้และกล่าวขานว่ามันจะไม่มีวันแตกแม้ว่าข้าศึกจะมีนับแสน
- เข้าเมือง
- ไปที่ป้อมปราการ
- อื่นๆ
เส้นทางไปยังทริโปลีค่อนข้างคึกคักจนกระทั่งถึงเวลานี้ที่มีกำลังทหารจำนวนหนึ่งใช้มันมุ่งหน้าไปยังทริโปลีและเข้าปะทะกับนักรบครูเสดระหว่างเส้นทางไปยังทริโปลี
เกิดการรบกันขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ลูกดอกหน้าไม้และลูกธนูบินสวนกันไปมาจนผู้สัญจรแทบหลบไม่ทัน ระวังบาดเจ็บได้หากจะไปทางนี้
อีกด้านหนึ่งเป็นถนนใหญ่มุ่งสู่ดามัสกัสนครที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ต้นกำเนิดของดาบดามัสกัสและมีดดามัสกัสที่เชื่อว่าเป็นอาวุธใบมีดอันยอดเยี่ยมที่สุดในโลก
(http://image.free.in.th/v/2013/ib/160903054911.jpg) (http://picture.in.th/id/b162a4b0d1cbcd3f79196bb0e824a6ff)
เหล็กดามัสกัสเกิดจากตีทบซ้ำไปมาเหมือนดาบญี่ปุ่น แต่ส่วนผสมที่ไม่มีใครรู้ทำให้เกิดลวดลายดังนี้
คุณสมบัติที่เหนียวและแข็งประกอบกับลวดลายนี้ทำให้มันฉาบยาพิษได้ดีกว่าอาวุธทั่วไป
เพราะพิษจะไปเกาะอยู่ตามร่องเหล็กเล็กๆได้ดีกว่าใบมีดเรียบๆ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับมือสังหาร
ระหว่างที่เดินทางไปยังดามัสกัส ลอร์ดหนุ่มถามไถ่ทหารที่เดินทางไปและได้ความว่าเจ้าผู้ครองดามัสกัสขอความช่วยเหลือมายังพวกครูเสด
แต่ทว่าพวกครูเสดที่ได้ข่าวนี้หลายคนก็ไม่ได้สนใจเรื่องช่วยเหลืออะไร พวกเขาต่างคนต่างเดินทางไปเพียงเพื่อจะได้ต่อสู้กับพวกเติร์ก
หรือเพื่อผลตอบแทนต่างๆที่เยรูซาเล็มจะมีให้
(http://image.free.in.th/v/2013/iz/160903055424.jpg) (http://picture.in.th/id/a8361c1bc32a7d30d0cd2355d696b7b0)
"ข้าเชื่อนะว่าข้าจะซื้อชุดเกราะมาสวมใส่ได้หากข้าได้เงินรางวัล" นายคิดว่านายจะรอดกลับเหรอไอ้หนู
ไม่ใช่แค่อัศวิน แต่ชาวบ้านมากมายที่ไม่เคยเห็นสงครามต่างก็เข้าร่วมรบกัน
-
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
ไดร์เฮมตัดสินใจถามไปตรงๆ ทั้งกับชาวบ้านและผู้ที่มาเข้าร่วมสนามรบ
"พวกเจ้าเตรียมพร้อมกับสงครามแล้วจริงๆหรือ? มันไม่ได้ง่ายดายนักหรอกนะ..."
-
นี่เป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าจะอวยชัยให้เรา และหากตายในสงครามก็จะได้ขึ้นสวรรค์
นั่นคือสิ่งที่ Deithelm ได้ยิน และมันก็ไม่ต่างจากสองปีที่ผ่านมานับแต่สงครามครูเสดเปิดฉากขึ้น
คุยกันได้สักพักก็ได้ยินเสียงโห่ร้องไกลลิบๆ
-
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
ศรัทธาเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะมันสามารถนำพาคนไปตายอย่างมีความสุขได้ยังไงล่ะ
ไดร์เฮมพลางคิดก่อนจะหันหน้าไปทางเสียงโห่ร้อง แน่นอนว่าเขาหันความสนใจและเดินไปดูในทันทีทันใด
-
- เดินทางไปยังทริโปลี
สเตฟพยายามหาทางหลบเลี่ยงอันตรายเพื่อไปทริโปลี
-
- อื่นๆ : สอบถามคาราวานเหล่านั้นว่าเดินทางมาจากที่ไหน บางทีเค้าอาจที่จะสามารถเปิดเส้นทางการค้าระหว่างเมืองหรือจัดตั้งกองทหารคุ้มกันคาราวานขึ้นมาก็เป็นได้
แต่ก่อนที่จะสามารถทำแบบนั้น เค้าก็อยากทราบรายละเอียดของกองคาราวานว่าในส่วนของคาราวานนั้นมีผู้คุ้มกันอยู่แล้วหรือเปล่า
และหากมี พวกเค้ากำหนดเงื่อนไขค่าจ้างในการคุ้มกัน กันอย่างไร ? ระยะทาง จำนวนทหาร ความแข็งแกร่งของผู้คุ้มกัน หรือทั้งหมดที่ว่ามา
ปล. ไหน ๆ ว่างจัดแล้วดูของที่คาราวานขายด้วย (ถึงจะไม่มีเงินก็เถอะ ; w;)
-
Chao อยากดูสภาพทั่ว ๆ ไปของผู้คนก่อน
- เข้าเมือง
-
- เส้นทางสู่นครรัฐทริโปลี
-
Diethelm พบว่าเหล่านักรบครูเสดเร่งฝีเท้าและกึ่งวิ่งกึ่งเดินเร็วขึ้นคล้ายจะรีบไปให้ถึงสมรภูมิ
พวกเขาปะปนกันไม่มีความเป็นระเบียบ อัศวินวิ่งแซงชายร่างท้วมที่เอากระทะมารบแล้วก็โดนเด็กที่เอาหม้อครอบหัววิ่งแซงไปอีกต่อ
เสียงโห่ร้องดังขึ้นเรื่อยจนมองเห็นธงกางเขนโบกสะบัด มีเสียงตะโกนว่าพวกเติร์กพ่ายแพ้แตกทัพหนีไปหมดแล้ว
ทุกคนโห่ร้อง บ้างก็เดินเข้าเมืองดามัสกัสที่เปิดออกต้อนรับมหามิตร
Diethelm มองดูผู้คนและเหล่านักรบครูเสดที่ยินดีปรีดา พวกทหารราบสามัญชนเชื่อว่าพวกเติร์กพ่ายแพ้และถอยหนีไป
แต่ในความเป็นจริงกองกำลังทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้เข้าปะทะกัน เป็นฝ่ายเติร์กที่ล่าถอยไปก่อนหน้านี้
โดยมีเวลาให้ล่าถอยมากพอจะเก็บเอาศพทหารเติร์กกลับไปได้เกือบหมด
- เข้าเมือง
- พบเจ้าเมืองดามัสกัส
เส้นทางไปยังทริโปลีค่อนข้างคึกคักจนกระทั่งถึงเวลานี้ที่มีกำลังทหารจำนวนหนึ่งใช้มันมุ่งหน้าไปยังทริโปลีและเข้าปะทะกับนักรบครูเสดระหว่างเส้นทางไปยังทริโปลี
เกิดการรบกันขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ลูกดอกหน้าไม้และลูกธนูบินสวนกันไปมาจนผู้สัญจรแทบหลบไม่ทัน ระวังบาดเจ็บได้หากจะไปทางนี้
Steph และ Jason ก็อยู่ในสถานการณ์นี้และไม่พบว่าจะมีทางเลี่ยงไปได้
(เหตุการณ์นี้จะจบลงเมื่อมีคนทำเควสบทที่ 4 จบ)
คาราวานเดินทางมาจากทริโปลี ผ่านเอเคอร์ และมายังเยรูซาเล็ม
ไม่มีคนคุ้มกันเพราะอยู่ในพื้นที่ของอาณาจักรเยรูซาเล็มพวกคาราวานจะได้รับการคุ้มครอง (เว้นแต่ซวย)
เท่าไหร่ก็ช่างเถอะอย่ารู้เลย ไม่สำคัญ
เมืองอัลเครัคเป็นเมืองมุสลิมมาก่อนแต่ถูกนักรบครูเสดยึดเอามาและฆ่าชาวมุสลิมหมดทั้งเมือง ปัจจุบันจึงเป็นเมืองมุสลิมที่ผสมผสานวัฒนธรรมไปกับชาวคริสต์
ดูชาวคริสต์จากยุโรปจะชื่นชอบศิลปะวัฒนธรรมของอาหรับเอามากๆ บ้านเมือง การแต่งกาย เครื่องประดับ พวกเขายอมรับว่าล้าหลังชาวอาหรับราวกับพวกเขาเป็นคนป่า
การได้มาเห็นความศิวิไลซ์ของชาวอาหรับได้เปิดหูเปิดตาชาวคริสต์มากทีเดียว
ในเมืองเห็นทหารเทมพลาร์จำนวนมากคล้ายกับมันเป็นเมืองของพวกเขา
-
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
ไม่แปลกละนะ เติร์กจะทำที่ไม่สำเร็จ ดูท่ามันก็ยากอยู่แล้ว...
มาถึงแล้วก็ไปเดินดูในเมืองหน่อยละกัน
- เข้าเมือง
-
Chao สังเกตการทำงานหรือพฤติกรรมของทหารเทมพลา มีใครบังคับบัญชาพวกเขาหรือไม่ ยึดอาคารใดในเมืองที่เป็นที่บัญชาการ
-
-รอคนทำเควสจบ...
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/e03415d18bf50053da417d4f55957753/4125%20-%20Background.jpg)
เหล่านักรบครูเสดเข้าเมืองไปได้ก็ตาโตกับเมืองดามัสกัสที่งดงามในแบบอาหรับไม่ต่างจากเมื่อครั้งเข้าสู่กรุงคอนสแตนติโนเปิล
บ้านเมืองที่ดูเป็นระเบียบ การตกแต่งประดับประดาที่แปลกตา และอีกหลายสิ่งหลายอย่างของนครดามัสกัสที่ดึงดูดสายตาของพวกเขา
ข้าเชื่อว่าพวกเขากำลังอยากได้มัน
เสียงนั้นทำให้ Diethelm หันตามไปเห็นหลังไวๆของใครสักคนที่คุ้นตา เขารีบติดตามไปทันทีโดยที่อีกฝ่ายเลี้ยวเข้าตรอกโน้นทะลุออกตรอกนี้
กระทั่งไปถึงยังตรอกตัน อีกฝ่ายเปิดผ้าคลุมหัวออกแล้วหันมาพร้อมกับชายฉกรรจ์สองคนที่โผล่ขึ้นมาเบื้องหลังของ Diethelm
ส่วนเบื้องหน้าของเขาคือ
(http://i.imgur.com/Ev1aqoW.jpg)
"ที่สุดแล้วพวกเขาจะช่วงชิงมันไปเป็นของตน" ซังกียิ้มให้กับอีกฝ่ายที่อุตส่าห์ตามเธอมา
"ท่านลอร์ดมีธุระอันใดกับข้าหรือ"
เทมพลาร์มาประจำและตรวจตราในเมือง ฐานบัญชาการอยู่ที่ปราสาทเครัค
แต่หากหมายถึงผู้ดูแลเมืองนั่นคือหัวหน้าหน่วยเทมพลาร์ (Master Templar) เขาพักอยู่ที่บ้านที่จวนเจ้าเมือง
-
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
"ก็เปล่านี่ เห็นว่าเจ้ากำลังทำการใหญ่อยู่เลยมาดูว่าสำเร็จมั้ยเท่านั้นเอง"
"แต่คนส่วนใหญ่ดูกำลังมองพลาด ข้าไม่คิดแต่แรกแล้วว่าเจ้าตั้งใจจะยึดที่นี่ขนาดนั้น"
"นี่เป็นเพียงแผนให้พวกครูเสดเข้ามาสนใจที่นี่สินะ?"
เขานึกถึงใบหน้าของทหารที่ได้เข้ามาที่นี่แล้วก็อดคิดไม่ได้เลย ว่ามันประสบความสำเร็จไปเกินครึ่งแน่
-
/คุยกับคนในเมือง แวะร้านน้ำชาฟังข่าว พวกเขารู้สึกยังไงกับอัศวินเทมพลาและชาวยุโรป มีวี่แววการก่อจราจลบ้างไหม และคนที่ชาวเมืองนับถือคือใคร
-
(http://i.imgur.com/Ev1aqoW.jpg)
"ข้าหาใช่ผู้หยั่งรู้ จริงอยู่ข้าย่อมคาดหวังในชัยชนะ แต่ข้าคงต้องนอนฝันร้ายเพราะความมุทะลุของข้า"
"ข้ารู้จักเมืองนี้ดีเพราะข้าเคยใช้มันเป็นสถานที่ลี้ภัย ข้าสำนึกในบุญคุณนั้น"
"มันไม่มีค่าอะไรหากชัยชนะนั้นอยู่บนกองซากศพ ของชาวดามัสกัส... นักรบครูเสด... และพวกเราเอง"
สุลต่านซังกีไม่ได้วางแผนมา แต่เปลี่ยนแผนในทันทีเมื่อทราบข่าว
ทุกอย่างไม่ใช่การวางหมากแต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งก็อย่างที่ Diethelm เข้าใจ
ค่อยมายึดเอาทีหลังเมื่อมันตกเป็นของพวกครูเสดก็ยังไม่สาย มันน่าจะง่ายกว่ายึดจากผู้ปกครองเดิมเสียอีก
(ตัดเข้าสู่บทที่ 4 ต่อได้เลย)
ชาวเมืองทั้งหมดเป็นชาวคริสต์ ย่อมไม่มีปัญหาอะไร พวกเขาใช้ชีวิตกันตามอัตภาพ
อัศวินเทมพลาร์มีข่าวไม่ดีเรื่องปล้นชิง แต่ก็ไม่มีใครปล้นชาวเมืองของตัวเองแน่
ชาวเมืองนับถือพระเจ้า ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/67b53208cbc10561f871f8637ddb65cc/3994%20-%20Background.jpg)
งานเลี้ยงที่ระดมทุนทรัพย์จำนวนมากมาจัดเพื่อเฉลิมฉลองนี้ดูโง่เขลาเบาปัญญาในสายพระเนตรของกษัตริย์ Raymond อย่างเห็นได้ชัด
ศรัทธาของเขาสั่นคลอนและถูกเขย่าจนโยกไหวเมื่อพระสันตะปาปา (Pope Innocent II) สนับสนุนเคานท์ Baldwin ในเรื่องนี้
(http://i.imgur.com/LhW1OjP.jpg)
"โฮะ โฮะ โฮะ สนุกสนานรื่นเริงกันให้เต็มอิ่มเลยนาจ้า"
เคานท์ Baldwin หรือ Baldwin the Happiness of Holy Land (บรรดาศักดิ์ตั้งเอง)
ระหว่างการเดินทางกลับโดยรถม้าแยกย้ายกันไปคนละทาง ลอร์ดบางคนอาจครุ่นคิดอะไรมากมายหลายต่อหลายอย่าง
และในเวลาเดียวกันกับที่ลอร์ดบางคนอาจจะม่อยหลับไปเพราะไม่เคยจะคิดอะไรเลย แต่ก็ยังคงดีกว่าลอร์ดที่เมาแอ๋หลับหมดสภาพ
ไม่ใช่ทุกคนจะถูกเลือก มันเป็นการสุ่มลงมือเพื่อหวังผลกว้างๆโดยการสังหารผู้นำกลุ่มชนที่ทำได้ง่ายที่สุด
เมื่อวัฒนธรรมการใช้มือสังหารแพร่มาจากอียิปต์สู่เติร์ก การลอบสังหารจึงเริ่มปรากฎออกมาหนาตามากขึ้น
([url]http://image.free.in.th/v/2013/iu/160905053706.jpg[/url]) ([url]http://picture.in.th/id/1e0d35c39f832869ec6e36971c287389[/url])
คมมีดเสียบเข้าที่จุดตายก่อนที่เหยื่อจะทันระวังตัวและได้จับอาวุธต่อสู้ นั่นแหละคือการลงมือของมือสังหาร
โครม!
รถม้าตกหล่มและกระแทกอย่างรุนแรง
(http://i377.photobucket.com/albums/oo216/2fishdontfly/Baron%20board/the%20knight-120x120_zpsjrrfs9rl.jpg)
Le' Pla ตกใจโวยวายไล่ให้ Enna สายลับคนสนิทออกไปดูเหตุการณ์เมื่อรถม้าหยุดจอด และ Enna ก็ต้องพบว่าคนขับรถม้านั่งฟุบมีลูกดอกหน้าไม้ปักที่คอ
พลันอีกฝั่งก็มีมือสังหารโจนจากผาลงมาบนหลังคารถม้า หอกในมือเสียบทะลุหลังคาเกือบปักเข้าที่ศีรษะของ Le' Pla ที่ยังนั่งในรถ
Enna ชักดาบออกไล่ต้อนมือสังหารลงไปจากหลังคารถแล้วขึ้นรถม้ากระตุกบังเหียนจนวิ่งไปต่ออีกไกล
ที่สุดรถก็หยุดลง Le' Pla รีบออกมาจากรถแล้วก็พบว่า Enna นั่งฟุบมีหอกซัดเสียบที่หลังทะลุอกสิ้นใจไปแล้ว
Le' Pla ก้มหลบลูกธนูทันควันแล้วรีบขึ้นไปกระตุกบังเหียนพยายามควบม้าหนีไปต่อภายใต้การไล่ล่าของม้าที่ควบไล่หลังอีกสองตัว
เพื่อมุ่งหน้าสู่แมเนอร์ของตน หวังว่าจะมีใครสักคนออกมารอรับพร้อมทหารของเขาที่อาจจะนอนหลับอุตุไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนายหัว
จบบทที่ 4
-
Chapter V
ข่าวการเสียชีวิตของเจ้าผู้ครองนครดามัสกัสสร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับชาวเมืองเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่เพราะผู้นำคนเก่งของพวกเขาถูกเอาชีวิตได้แม้จะอยู่ในคฤหาสน์ที่การป้องกันดีเยี่ยม หากแต่เป็นวิธีการฆ่าที่โหดร้าย
มีผู้อ้างว่าเป็นฝีมือของสุลต่านซังกีที่มีใจคอโหดเหี้ยมเพื่อต้องการข่มขวัญให้ชาวดามัสกัสรู้สึกหวาดผวาที่เข้าร่วมกับฝ่ายครูเสด
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ชาวดามัสกัสเกลียดชังและต่อต้านจักรวรรดิเติร์ก กระทั่งผู้นำคนใหม่ถูกเลือกขึ้นมาและมีสัมพันธไมตรีที่ดีกับฝ่ายคริสเตียน
แต่คณะอัศวินเทมพลาร์ก็ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายและกลับตาลปัตร พวกเขานำกำลังเข้ายึดเอาดามัสกัสเป็นของตน และสังหารผู้นำคนใหม่ของดามัสกัสทิ้ง
ชาวเมืองต่อต้านพฤติกรรมของพวกเทมพลาร์ ที่สุดแล้วกลุ่มอัศวินเทมพลาร์ก็ถอนตัวออกไป
นั่นคือจุดเริ่มที่ทำให้ชาวเมืองดามัสกัสหันไปหาจักรวรรดิเติร์กและชักนำให้กองทัพเติร์กโจมตีดามัสกัส
นักรบครูเสดที่อยู่ในเมืองดามัสกัสทุกคนถูกสังหารไม่เหลือแม้แต่คนเดียว พร้อมกับที่ชาวเมืองยกให้ซังกีเป็นเจ้าผู้ครองเมือง
แต่ซังกีกล่าวว่าชาวดามัสกัสมีสิทธิ์ในดินแดนของตน และแต่งตั้งเจ้าเมืองคนใหม่ที่เป็นสายเลือดผู้ปกครองเดิม ก่อนจะยกทัพกลับไปเนื่องจากมีการคุกคามจากพวกมองโกล
ความสัมพันธ์ระหว่างคณะอัศวินเทมพลาร์และกษัตริย์ Raymond แห่งอาณาจักรเยรูซาเล็มสะบั้นลงเมื่อพระองค์ตัดสินพิพากษาหัวหน้าคณะอัศวินเทมพลาร์
การปล้นชิงชาวคริสต์ด้วยกันเองเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ โดยเฉพาะนักรบผู้สาบานตนต่อพระเจ้า อัศวินที่เป็นผู้รับผิดชอบและอัศวินที่ก่อการทั้งหมดถูกแขวนคอ
ในขณะที่หัวหน้าอัศวินเทมพลาร์ถูกส่งไปอยู่ในคุกรอโทษประหาร แม้ว่าจะมีบรรดาศักดิ์เป็นถึงมาร์ควิสแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขา
(http://wudthipan.com/fucko/_images/7aad28163bc22d1f6514433a5564b764/4126%20-%20Background.jpg)
ภาพเหล่านั้นถูกเฝ้ามองโดยประชาชนที่รับรู้ได้ถึงความไม่มั่นคงและทิศทางที่ไม่มีความแน่นอน
-
ได้ข่าวว่าพวกมองโกลส่วนหนึ่งที่ถูกกองทัพเติร์กโจมตีแตกพ่ายได้ข้ามทะเลทรายและโซซัดโซเซมาถึงเขตแดนของเรา
ไกลสุดสายตาพบทหารม้าจำนวนไม่ถึง 5 คนพยายามควบม้าหนีการไล่ล่าจากอีกฝ่ายที่น่าจะมีถึง 10 คน
(http://i.imgur.com/36pbMyx.jpg) (http://i.imgur.com/36pbMyx.jpg) (http://i.imgur.com/36pbMyx.jpg)
ศัตรูที่ไล่ล่ามาคือกองทหารม้านักรบเติร์กที่มีทั้งดาบโค้งและธนูเป็นอาวุธประจำกายทั้งยังสวมเกราะอ่อนอีกด้วย
แต่ไม่ใช่แค่พวกนี้ที่ควบติดตามมา มองไปในกลุ่มยังเห็นคนที่ดูโดดเด่นกว่า และน่าจะเป็นระดับผู้นำ
Steph สั่งตั้งแถวแล้วยิงธนูใส่อีกฝ่ายที่ชาร์จเข้ามาแล้วควบถอยพร้อมทั้งยิงซ้ำ
แม้ว่ากองทหารม้าของเติร์กจะชำนาญการรบกับพวกมองโกลแล้วแต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะมีชาวคริสต์ใช้ยุทธวิธีนี้
ผู้นำอีกฝ่ายหยุดทหารที่เริ่มอ่อนล้าแล้วปล่อยให้ทหารมองโกลหนีเข้าไปยังที่ดินของ Steph แล้วชี้ดาบมายัง Steph เป็นการท้าทาย
(http://i.imgur.com/ElnlXhq.jpg)
"หากข้าพ่ายแพ้แก่เจ้าจงเอาชีวิตข้าไปเสีย" ขุนศึกชาวเติร์กชักดาบโค้งออกมาแกว่งไกวบนหลังอาชาเผชิญหน้ากับอัศวินสาวก่อนจะควบม้าเข้าใส่
การต่อสู้จบลงด้วยผลชนะของ Steph ที่ใช้ด้ามดาบฟาดจนอีกฝ่ายตกจากหลังม้า
"เราแค่ต้องการช่วยคนในที่ของเรา และนี่เป็นหลักประกันว่าพวกเจ้าจะไม่มาเขตนี้อีก"
"นามของข้าคือชิกูร์ ข้าหวังว่าข้าจะได้ตอบแทนท่านในสักวัน" นักรบมุสลิมค้อมตัวให้หลังมีบุตรผู้หลานของเขามารับตัว
-
"เราจะช่วย"
Peter ยกค้อนเงื้อขึ้นแล้วก็ปลิวหลุดมือบินผ่านหน้าของ Jason ที่แบกเอาน้ำมาให้พวกนายช่างและขุนนางที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้าง
เจ้าหน้าที่การก่อสร้างคุยกันถึงลัทธิบูชาซาตานและแม่มดทำให้การก่อสร้างโบสถ์ในหลายแห่งดำเนินไปได้ยากลำบาก
Jason ที่นั่งเอกเขนกฟังไปพลางมองดูท่านนักบุญที่ไม่ละความพยายามจนเขาเองเกือบหัวแตกอีกรอบ
(http://i1338.photobucket.com/albums/o697/PhoenixSD1/37be7eee2998836587aaa0675e07f7eb_zpsgmenenig.jpg)
"ท่านมีความเห็นอย่างไรกับลัทธินอกรีตเหล่านี้"
(http://i.imgur.com/sVOAbCf.jpg)
"ทุกคนล้วนเท่าเทียม พระเจ้าให้ความเท่าเทียมกับทุกผู้ทุกนาม" ท่านนักบุญว่า
"พวกเขามีอิสระทางความคิด พวกเขามีอิสระ พวกเขาจะทำอะไรก็ได้ที่ไม่ก่อความเดือดร้อน"
ความคิดอ่านของ Peter ดูแล้วมีเหตุผลและอารี แต่เชื่อเถอะว่าผู้คนส่วนใหญ่ในยุคสมัยนี้จะมองว่าความคิดนี้เป็นความคิดนอกรีต
และความคิดเช่นนี้มันจะนำพาความเดือดร้อนมาให้เธอแน่
(http://i.imgur.com/RmUHmw1.jpg)
Blair Sindy Amira ยืนมองเมืองของตนที่พัฒนามาถึงขนาดอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
อย่าว่าแต่พวกเธอเลย Lisette เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ นั่นปราสาทเหรอ
เราจะได้อยู่ในปราสาทที่ไม่ใช่ป้อมแคบๆ มีคนคอยรับใช้ ปลอดภัย และสุขสบาย จริงเหรอ เราไม่ได้ฝันไป
(http://wudthipan.com/fucko/_images/249f58b833ec582d4842b64c884eb126/4102%20-%20Character.jpg)
"ปราสาทลิเซ็ต ♥"
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/88ce4917a751b290058145095a4e4953/4127%20-%20Event.jpg)
พวกมันเป็นกองโจรติดอาวุธที่ดูคล้ายกับอัศวินนี่แหละ เพราะเมื่อมันจัดการศัตรูของพวกมันแล้วมันก็เอาอาวุธชุดเกราะไม่ใช้ต่อ
"พวกโจรมีเท่าไหร่"
"ประมาณ 200 คนได้...."
"....เฮนริค"
(http://i.imgur.com/JXRYcSY.png)
"ขอรับ นายหัว" Henrik ทุบเกราะกู่ร้องให้กำลังใจทหารแล้วรบพุ่งที่หน้าประตู
กองโจรไม่ได้มีผู้นำที่เก่งกาจอะไร ถึงแม้จะมีจำนวนมากแต่ก็ละลายหายไปราวกับปราสาททรายที่ถูกคลื่นซัด
ธนูและลูกดอกหน้าไม้ถูกยิงลงมาจากบนแนวกำแพงและหอรบเสียบทะลุร่างของผู้บุกรุกด่าวดิ้นล้มตายเป็นอันมาก
พวกโจรจำนวนหนึ่งแตกหนีไป Henrik ขอคำสั่งและเขาก็ได้รับคำสั่งให้ออกไล่ล่าพวกโจรไปจนถึงชายป่า
(http://wudthipan.com/fucko/_images/169ae7899d4bc5417fc18ae918bc2585/4128%20-%20Event.jpg)
คมดาบถูกเหวี่ยงผ่านไป โล่ฟาดสวนกลับจนอีกฝ่ายหงายหลัง ลูกดอกหน้าไม้พุ่งเฉี่ยวเกราะชั้นดีของนักรบชาวเยอรมันไปก่อนที่เขาจะก้มหยิบหน้าไม้จากศพยิงสวนไปยังทิศทางนั้น
หลังการรบ Henrik ที่นำทหารบุกเข้าฟาดฟันกองโจรที่เหลืออีกร่วมหนึ่งร้อยพบว่าพวกนี้ไม่ได้มีทรัพย์อะไรเก็บเอาไว้ในค่ายโจรของพวกมันเพราะปล้นมาแล้วก็กินหมดไป
เขาคิดอย่างนั้นแล้วเหวี่ยงตัวขึ้นหลังม้า แต่ทหารที่เข้าไปสำรวจในปราสาทใต้ดินของพวกโจรก็กลับขึ้นมารายงานว่ามีสมบัติพอสมควรที่หัวหน้าโจรกลุ่มนี้เก็บเอาไว้
-
สายข่าวได้รายงานกับ Raymond เกี่ยวกับการรบทางตะวันออก และมันไม่ใช่ข่าวที่ดีเลย
พวกมองโกลปราชัยต่อกองทัพจักรวรรดิเติร์ก ในขณะที่กองทหารของจักรวรรดิไบแซนไทน์ถอนกำลังออกไปจากเยรูซาเล็มแทบหมดสิ้น
พวกท่านเชื่อเถิดว่านี่คือสมรภูมิสุดท้ายของพวกเรา ทั้งท่าน และข้า
(http://wudthipan.com/fucko/_images/249f58b833ec582d4842b64c884eb126/4102%20-%20Character.jpg)
"ปราสาทหลังนี้เป็นของเรา! เราจะไม่หนีไปไหนทั้งนั้น" Lisette แหกปากนั่งกอดรูปภาพของตนเองที่เพิ่งสั่งวาดหวังจะเอามาติดผนัง
"รออะไรอยู่ พวกเจ้าไปเตรียมเกวียนสิ! เร่งขนทรัพย์สินของเรากลับยุโรป" เธอเริ่มสับสนสติแตกคว้าเอาหมอนมากอดไว้แน่น
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/b70eed7080b2c7cc2194acc6b33f7a84/4111%20-%20Event.jpg)
สงครามเปิดฉากขึ้นบนเนินเขาอันเป็นที่ตั้งของนครเยรูซาเล็ม สารพัดอุปกรณ์ถูกนำมาประชันกัน
หอคอยล้อมเมือง (Siege Tower) เคลื่อนที่เข้าหากำแพงเมืองอย่างต่อเนื่องแม้หอที่เคลื่อนเข้ามาก่อนจะถูกบัลลิสต้ายิงหินกระแทกพังไปหลายหอ
รถกระทุ้งประตูที่เคลื่อนเข้ามาพังไปแล้วหกคัน แต่มันมีมากกว่านั้นและยังคงพยายามที่จะเคลื่อนเข้ามาโดยมีเป้าหมายคือประตูเมืองที่เปราะบางกว่ากำแพง
คาตาพัลต์ของนครเยรูซาเล็มเหวี่ยงลูกไฟเข้าใส่ข้าศึกอย่างต่อเนื่อง
แต่ข้าศึกชาวเติร์กก็เหวี่ยงลูกไฟยักษ์ที่ใหญ่กว่ากลับมาด้วยเครื่องเหวี่ยงหินที่ทันสมัยกว่า (trebuchet)
นานกว่าครึ่งวันที่นักรบครูเสดต้านทานเอาไว้ กระทั่งรถกระทุ้งประตูคันสุดท้ายพังเสียหาย
ได้ยินฝีเท้าม้าที่ทรงพลังควบฝ่าสายฝนธนูมุ่งหน้ามายังประตูเมืองพร้อมโลหะทรงกลมทึบแสงในอุ้งมือ
ข้าควรขอบคุณชาวกรีกที่คิดค้นมัน
(http://i.imgur.com/Ev1ne9P.jpg)
ประตูเมืองเยรูซาเล็มถูกทำลาย
-
เราจะได้เจอกันอีกในวันที่ประตูเมืองเยรูซาเล็มถูกทำลายอีกครา
ข้าศึกกรูกันเข้ามาดั่งน้ำป่าไหลหลาก แม้คมหอกจะพยายามเสียบดันก็ไม่อาจทานไหว ที่สุดแล้วกองทัพเติร์กก็ทะลักและหลั่งไหลเข้ามาภายในเมืองได้สำเร็จ
ใครบางคนหนึ่งในนั้นควบม้าทะลวงเข้ามา มือหนึ่งถือง้าวที่ดูแปลกตา พกพาธนู โล่ ขวานสั้น หน้าไม้ และดาบโค้ง
(http://i.imgur.com/Ev1aqoW.jpg)
"อิมาดุดดิน ซังกี อยู่ที่นี่แล้ว!!" สุลต่านชาวเติร์กตะโกนก้องแล้วชูดาบขึ้น สายตาประสานมองตรงไปยัง Diethelm ที่ยืนม้าอยู่ราวกับรู้ล่วงหน้าถึงวันนี้ที่จะมาถึง
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
"ข้ารออยู่แล้ว"
ระลึกอดีตได้เพียงอึดใจเวลาก็หมุนเดินต่อ สุลต่านชาวเติร์กเอี้ยวหลบธนูที่ถูกยิงมาโดย Steph พร้อมกับเหนี่ยวไกหน้าไม้ยิงสวนไปจนมือธนูอีกฝ่ายเกือบสิ้นชื่อ
โล่ถูกยกมาบังลูกดอกหน้าไม้และเหวี่ยงฟาดอริร้าย ง้าวยกขึ้นมารับดาบและฟาดฟันอัศวินที่ถาโถมเข้ามากระเด็นกระดอน
(http://i.imgur.com/JXRYcSY.png)
"อึ่ก" มันเป็นความจริงที่ยอดนักรบไร้พ่ายอย่าง Henrik ต้องตกจากหลังม้าเมื่อเข้าปะทะกับซังกีที่มีฉายาว่าอสูรสงคราม
Baron ที่นำทหารเข้าจู่โจมก็เกือบหัวหลุดจากบ่าไปพร้อมอัศวินอีกหลายคน หากแต่นักฆ่าของเขาที่ลอบเล่นงานจากมุมอับก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง
ขวานซัดบินร่อนมาจากทิศทางที่คาดเดาได้ยากและปักเข้าที่หลังของซังกี พร้อมกับวินาทีนั้นที่ Mary ควบม้าพุ่งเข้ามาแล้วแทงด้วยทวนยาวจนสุลต่านชาวเติร์กลอยตกไปจากหลังม้า
ได้ยินเสียงโห่ร้องเหนือกำแพงแทบจะทันทีเมื่อกองทัพเติร์กบุกขึ้นกำแพงได้สำเร็จ ขวัญกำลังใจของนักรบครูเสดแทบจะจมลงดินเมื่อข้าศึกจำนวนมากมายหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/1022.jpg)
"เพื่อพระเจ้าที่ศรัทธา แม้ชีวาข้าก็ยอมพลี ปาฏิหาริย์แห่งพระผู้เป็นเจ้าจะปกป้องเราและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้"
Baron หอบหิ้วเอาร่างที่บอบช้ำขึ้นไปรบบนกำแพงร่วมกับนักฆ่าประจำกาย มันโกลาหลวุ่นวายนัก
ไม่ง่ายเลยที่จะต้านทานข้าศึกที่ปีนป่ายขึ้นมาจนเนืองแน่น และเจ้าเครื่องเหวี่ยงหินที่คอยเหวี่ยงลูกไฟเข้ามาเป็นระลอกนั่นอีก
มองไปเห็น Raymond ที่ฟาดฟันไปพร้อมกับสั่งการและปลุกเร้าทหาร
(http://i.imgur.com/aFoLIgF.jpg)
"พวกเจ้าจะไม่มีวันพรุ่งนี้หากพวกเจ้าหยุดแกว่งดาบ" เขาแทงนักรบคนหนึ่งแล้วหมุนตัวฟันอีกคน
แต่ชั่วขณะที่จอมกษัตริย์ร้องสั่งการ
(http://i.imgur.com/3500AMBm.jpg)
-
Peter ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการรบและสงคราม เธอมุ่งหน้าทำกิจของสงฆ์และรักษาพยาบาลผู้คนตลอดเวลา
เรามีพันธมิตรคือราชรัฐแอนติออกที่นับเป็นมหานครของนักรบครูเสด เพราะเป็นเมืองแรกที่นักรบครูเสดยึดมาได้
ที่นี่มีกำลังรบอยู่ถึงสองหมื่นแต่พวกเขาอาจจะต้องปกป้องแอนติออกจนมาช่วยเหลือเราไม่ได้
ส่วนทริโปลี เอเดสซา กำลังรบน้อยนิด และคงช่วยอะไรเราไม่ได้เลย
ผู้นำคือกษัตริย์ Raymond ส่วน Peter มีที่ดินคือเมืองเอเคอร์ทางเหนือเยรูซาเล็ม
([url]http://i.imgur.com/sVOAbCf.jpg[/url])
"ติดตาม Blessed ไปยังเอเคอร์ นั่นคือสถานที่ลี้ภัยของพวกท่านทั้งหลาย"
-
ซังกีลุกขึ้นมาตะโกนสั่งทหาร มือก็ดึงงัดเอาขวานที่ปักแน่นออกจากหลังแล้วขว้างใส่ทหารเคราะห์ร้ายที่สบตาไปเห็นจนหัวแบะ
แต่มือสังหารของ Mary ก็โจนเข้ามาต่อสู้พัวพันจนซังกีบัญชาการไม่ได้ คล้ายกับแสงสว่างแห่งความหวังถูกจุดประกายขึ้น
(http://i.imgur.com/MMn3baO.jpg) (http://i.imgur.com/gYrH63z.jpg) (http://i.imgur.com/fku6so0.jpg) (http://i.imgur.com/fku6so0.jpg) (http://i.imgur.com/fku6so0.jpg)
Chao ออกรบพร้อมภรรยาโลลิ เขาสั่งพลธนูตั้งแถวยิงอย่างไม่ลดละคร่าชีวิตทหารเติร์กไปมากมาย
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png) (http://i.imgur.com/JXRYcSY.png) (http://i.imgur.com/6tLirus.jpg) (http://i.imgur.com/6tLirus.jpg) (http://i.imgur.com/LWj1e6B.jpg)
Diethelm สั่งการ Henrik ที่โดนดึงตกจากหลังม้าให้เข้าตะลุมบอนพร้อมชุดเกราะโกธิคที่ขุดค้นพบจากอารยธรรมเมโสโปเตเมียร์
Henrik ชักดาบออกและเข้าไปต้านรับองครักษ์มือฉกาจอย่างที่คอยคุ้มกันรอบกายซังกีเปิดทางให้กับ Diethelm ทะลวงเข้าไปยังจุดที่ซังกีหายไป
นักรบศักดิ์สิทธิ์สามคนลอยออกมาคล้ายถูกไจแอนท์สวิงเหวี่ยงโยน
(http://i.imgur.com/Ev1aqoW.jpg) (http://i.imgur.com/hzlmlN6.jpg) (http://i.imgur.com/hzlmlN6.jpg) (http://i.imgur.com/lSkrfje.jpg) (http://i.imgur.com/BCtoF2E.jpg)
"ข้าจะไม่สั่งให้พวกเจ้ายอมจำนนหรือทิ้งอาวุธ" ซังกีกระชับด้ามง้าวเหวี่ยงฟันตัดคอทหารที่โถมเข้ามาแล้วยกดาบโค้งรับการโจมตีของมือสังหาร
"พวกเจ้าตัดสินใจได้ พวกเจ้าเลือกทางเดินให้กับตนเองได้"
ยื้อได้ไม่นานมือสังหารก็โดนซังกีจับขาเหวี่ยงลอยละลิ่วออกไปจากเมือง
ก่อนที่นางจะพลิกดาบรับคมดาบของ Diethelm ที่โถมตัวเข้ามาพร้อมกับ Mary และอัศวินของเขา
(http://wudthipan.com/fucko/_images/55ae13fc816d288d59046429b9b6258c/4103%20-%20Character.jpg) (http://i.imgur.com/l6xv2LV.jpg) (http://i.imgur.com/7rdaVXJ.jpg) (http://i.imgur.com/SJiryer.jpg) (http://i.imgur.com/SJiryer.jpg)
Mary และ Alice ขุนพลของเขาเข้าเล่นงานซังกีได้ไม่กี่เพลงอาวุธก็ถูกม้าธนูระดมยิงจนต้องถอยฉากอกมา
Alice ได้รับคำสั่งให้ทำลายกองม้าธนู ส่วน Mary ก็ไปรับมือกับทหารเอกของซังกี
(http://i.imgur.com/ElnlXhq.jpg)
"เศาะลาฮุดดิน เจ้าอยู่ที่นี่คอยรับคำสั่ง" Shirkuh สั่งนักรบเติร์กผู้หลานให้คุมสถานการณ์ที่ริมกำแพงก่อนจะวิ่งออกไปหยุด Mary ที่เข้าไปรุมสุลต่านเหนือหัวของตน
-
(http://i1338.photobucket.com/albums/o697/PhoenixSD1/37be7eee2998836587aaa0675e07f7eb_zpsgmenenig.jpg) (http://i1338.photobucket.com/albums/o697/PhoenixSD1/ChoFreya1_zpserw61czi.png) (http://i.imgur.com/cbWJj6e.jpg) (http://i.imgur.com/cbWJj6e.jpg) (http://i.imgur.com/cbWJj6e.jpg)
Jason และ Freya อัศวินของเขารับหน้าที่คุมกองอัศวินฮอสพิทาลเลอร์เข้าโจมตีกองทหารราบที่มีมากมายเหลือคณา
อัศวินในชุดสีดำพุ่งเข้าชาร์จข้าศึกล้มตายเป็นอันมาก เสียงโห่ร้องของฝ่ายครูเสดยิ่งทำลายขวัญของข้าศึก
(http://wudthipan.com/fucko/_images/9b5983eea0cba306cba98902615afd83/4100%20-%20Character.jpg) (http://i.imgur.com/tdAxHnG.jpg) (http://i.imgur.com/SJiryer.jpg)
ศรหลายดอกถูกยิงมาจากบนหลังคาที่มุงกระเบื้องโดย Steph Spencer มือขมังธนูชาวอังกฤษ
เธอมองดู Athela อัศวินของเธอที่รับหน้าที่เข้าตั้งรับที่หน้าประตูซึ่งกำแพงได้พังถล่มลงมาพร้อมหอรบแล้ว
(http://wudthipan.com/fucko/_images/148f656ff456d400a10c4072e01880d9/4095%20-%20lu.png) (http://i.imgur.com/SJiryer.jpg) (http://i.imgur.com/SJiryer.jpg) (http://i.imgur.com/SJiryer.jpg) (http://i.imgur.com/SJiryer.jpg)
Lulou ปลดผ้าคลุมแล้วชักดาบออกมาสั่งพลทหารชาวนาจำนวนมากให้เข้าร่วมกับกองทหารของ Steph
สายตาของ Lulou มองเห็นในสิ่งเดียวกับ Steph นั่นคือชาวนาเป็นได้เพียงกำแพงมนุษย์ที่ไปค้ำยันและขัดขวางไม่ให้ข้าศึกเข้ามาได้ง่ายนัก
มันคล้ายกับการเอาศพไปถมทับที่ทางเข้ามากกว่าที่พวกเขาจะเข้าไปต่อสู้ ชาวนาหลายคนหันหลังหนีก่อนจะเข้าเผชิญหน้ากับกองทหารเติร์กด้วยซ้ำไป
และธนูดอกหนึ่งก็บินมาปักไหล่ของ Luluo อีกดอกพุ่งมาเสียบเข้าที่หลังของเธอคล้ายเป็นสัญญาณบางอย่าง
วูบหนั่งนั้นเธอมองเห็นภาพของนักบุญเปโตรอัครสาวกผู้เป็นพระสันตปาปาพระองค์แรกผ่านหน้าไป
(http://image.free.in.th/v/2013/il/160910040442.jpg) (http://picture.in.th/id/b170ff4416f8bbeddbf211917440a05e)
-
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/1022.jpg)
Baron ฉวยเอาหอกที่ตกอยู่แทงเข้าใส่ข้าศึกแล้วโจนเข้าไปประคองร่างของ Raymond ที่ชุ่มโลหิต
พระองค์พยายามเอื้อนเอ่ยสิ่งใดกับเขาพร้อมทั้งส่งดาบประจำกายให้กับเขา
ข้าหาได้สั่งท่านด้วยวาจาสิทธิ์ของกษัตริย์ แต่ข้าร้องขอต่อพระเป็นเจ้าให้สถิตย์ในหัวใจของท่าน
Baron ชาวนาบรรดาศักดิ์ลุกขึ้นแล้วชูดาบทองประดับเพชรพลอยขึ้นเหนือศีรษะพร้อมกู่ก้องตะโกนให้ต่อสู้และรักษานครศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ด้วยชีวิต
"ผู้พลีชีพเพื่อพระเจ้าจะได้ขึ้นสวรรค์"
-
(http://i.imgur.com/LhW1OjP.jpg)
"ห้ามเปิดประตูเมืองเด็ดขาด ไล่พวกมันไป มาทางไหนไปทางนั้นนาจ้า"
ท่านเคานท์ Baldwin ที่มาลี้ภัยอยู่ทริโปลีไม่ยอมเปิดประตูเมือง
แต่ Blessed ก็ส่งกองอัศวินฮอสพิทาลเลอร์มาคุ้มกันผู้อพยพลี้ภัยกลับไปยังเอเคอร์ได้หมด
ดูเหมือนสุลต่านซังกีจะไม่ได้หวังกวาดล้างพวกครูเสดมากไปกว่าชิงเอาเยรูซาเล็มคืนมา กองทหารที่ยกมาโจมตีทริโปลีจึงเป็นแค่กองกำลังสกัดกั้น
-
สงครามได้จบลงในช่วงย่ำรุ่ง ตะวันที่ทอแสงจากขอบฟ้าฉายให้เห็นภาพของไฟสงครามที่กำลังมอดดับ
กษัตริย์ Raymond สิ้นพระชนม์ในสนามรบ กองอัศวินฮอสพิทาลเลอร์ถอนตัวออกไปก่อนที่เยรูซาเล็มจะแตกพร้อมกลุ่มขุนนางกลุ่มเล็กๆ
หลังกองทัพมุสลิมเข้ายึดนครศักดิสิทธิ์ได้ สิ่งที่แตกต่างกันคงเป็นการปฏิบัติต่อผู้แพ้
สุลต่านซังกีไม่อนุญาตให้เข่นฆ่าชาวเมืองและนักรบครูเสดที่ยอมแพ้หรือหมดทางสู้
มีผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่านักบุญ Peter ได้เข้าเผชิญหน้ากับสุลต่านซังกีเพื่อขอร้องและอ้อนวอนให้ละเว้นชีวิตชาวคริสต์
เพื่อแลกกับชีวิตของท่านเอง