Post by: Johan on August 24, 2016, 09:56:42 AM
(http://wudthipan.com/fucko/_images/3ab8fb6e15f63ee46e035744850990ec/4097%20-%20Event.jpg)
สงครามครูเสดคือสงครามศาสนา เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 เมื่อชาวคริสต์เปิดฉากการรบกับมุสลิม
มันเป็นเกียรติยศ เป็นความถูกต้องชอบธรรม และเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
เมื่อนั้นการฆ่าฟันจึงไม่ผิดบาป ผู้พลีชีพเพื่อพระเจ้าจะได้ขึ้นสวรรค์
สงครามครูเสดคือสงครามศาสนา เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 เมื่อชาวคริสต์เปิดฉากการรบกับมุสลิม
มันเป็นเกียรติยศ เป็นความถูกต้องชอบธรรม และเป็นพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
เมื่อนั้นการฆ่าฟันจึงไม่ผิดบาป ผู้พลีชีพเพื่อพระเจ้าจะได้ขึ้นสวรรค์
Post by: Johan on August 24, 2016, 10:25:33 AM
อารยธรรมเมโสโปเตเมียเป็นดินแดนที่อยู่ลุ่มแม่น้ำไทกริสและยูเฟรทิส
อารยธรรมอียิปต์มีความเก่าแก่เทียบเท่าได้กับอารยธรรมเมโสโปเตเมีย อยู่บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำไนล์ของอียิปต์
พวกเขาประดิษฐ์ตัวอักษรภาพ และพีระมิด
2000 ปีก่อนคริสตกาล อารยธรรมกรีกมีความเจริญรุ่งเรื่องในบริเวณคาบสมุทรบอลข่าน
ในสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชสามารถขยายอาณาเขตไปถึงเอเชียไมเนอร์ เปอร์เซีย อียิปต์ จนถึงอินเดีย
แต่หลังสมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชกรีกก็แตกแยกออกเป็นอาณาจักรต่างๆและตกอยู่ใต้การยึดครองของโรมัน
700 ปีก่อนคริสต์ศักราช กำเนิดอารยธรรมโรมัน ชาวโรมันซึ่งเป็นกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในคาบสมุทรอิตาลีและได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมกรีก
กระทั่งแสนยานุภาพของโรมันแผ่ออกอย่างกว้างขวาง
(http://wudthipan.com/fucko/_images/8aea7a84ff25289ce4d0221949b52ed3/4098%20-%20Event.jpg)
ดินแดนที่กว้างใหญ่เกินไปนั้นยากแก่การปกครอง จักรวรรดิโรมันถูกแบ่งเป็นตะวันตกและตะวันออก
จักรวรรดิโรมันตะวันออกไม่ได้รับผลกระทบจากการรุกรานของชนเผ่าเยอรมัน ตรงกันข้ามกับจักรวรรดิโรมันตะวันตกที่เสื่อมลง
และจักรวรรดิโรมันตะวันตกก็ล่มสลายลงอย่างสมบูรณ์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5
Quote
เมื่อได้รับกระทู้ของตนเอง ให้เลือกและตอบในกระทู้นั้นแบบ Hide
การเลือกจะมีผลกับ Bonus ของตัวละคร แต่ไม่มีผลกับเนื้อเรื่อง
- มันช่างเป็นบทเรียนที่น่าเบื่อเหลือเกิน ท่านไม่ได้สนใจมัน
- ท่านรู้สึกสนใจมัน
Post by: Johan on August 25, 2016, 07:02:49 PM
Quote
คริสต์ศตวรรษที่ 7 อียิปต์ได้ยึดครองนครเยรูซาเลมซึ่งเดิมเป็นของชาวคริสต์ และพวกเติร์กก็เข้ายึดครองในเวลาต่อมา
พวกเติร์กเริ่มรุกรานเข้ามายังอนาโตเลีย หรือดินแดนภายใต้การปกครองของจักรวรรดิไบแซนไทน์ (โรมันตะวันออก หรือโรมันแห่งยุคกลาง)
ชัยชนะตกเป็นของพวกเติร์ก ความปราชัยของกองทัพไบแซนไทน์เปิดทางให้ชาวเติร์กจากเอเชียกลางหลั่งไหลเข้าสู่อนาโตเลีย
การรุกรานของชาวเติร์กส่งผลให้ให้จักรพรรดิ Alexios I แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ร้องขอความช่วยเหลือไปยังพระสันตปาปา Urban II
([url]http://wudthipan.com/fucko/_images/a0c92a68fb6069ee4d22ed534d059d90/4107%20-%20Event.jpg[/url])
สงครามครูเสดเปิดฉากขึ้นในปี ค.ศ. 1096
โดยมีเป้าหมายคือ ดินแดนศักดิสิทธิ์ หรือเยรูซาเลม
แต่กองทัพครูเสดที่กำลังเดินทัพไปยังเยรูซาเลมกลับถูกซุ่มโจมตีโดยกองทัพเติร์ก
พวกเราถูกโจมตีหลังออกจากไบแซนไทน์ พวกเติร์กรู้เส้นทางการเดินทัพของเรา
คมดาบผ่าน Mary ไป เขาเอี้ยวตัวหลบแล้วฟาดมือใส่ศัตรูจนหงายหลังล้มลง
ดาบของ Steph ต้านรับเอาไว้ได้โดยใช้คันธนูเบี่ยงวิถีดาบ แล้วเสียบคอเป้าหมายด้วยคมธนูที่ดึงออกมาจากซอง
ไม่ไกลกันนัก Lulua ยกดาบต้านรับการโจมตีที่รวดเร็วนั้นไว้ก่อนที่มันจะถึงตัวเพียงไม่กี่คืบ
แขนเรียวที่ดูแทบไม่ออกว่าจับอาวุธเป็นบัดนี้กำด้ามอาวุธประจำกายอย่างมั่นคงโดยไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย
แต่ยังไม่ทันที่อัศวินสาวจะลงมือสังหารเป้าหมายที่พลาดท่า กลับเป็นเธอที่ต้องเบี่ยงตัวแล้วก้มหลบธนูเพลิงที่สาดลงมา
การเลี่ยงการปะทะโดยตรงเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงและคาดเดายาก
Muirenn ปัดป้องเบี่ยงวิถีอาวุธอีกฝ่ายออกพร้อมทั้งถอยฉากเปิดทางให้พลธนูยิงสังหารเป้าหมาย
แต่พลธนูนายนั้นก็ถูกสังหารด้วยธนูเพลิงของข้าศึกแทบจะทันที
(http://wudthipan.com/fucko/_images/60dbd9fb4327bb145bea9630c826153b/4106%20-%20Event.jpg)
เสียงโห่ร้องและเสียงเอ็นดังเป็นประวิงจากสองฟากของผา เมื่อแหงนมองขึ้นไปก็ต้องพบกับกองทหารของข้าศึกจำนวนหลายร้อย
และสองฝั่งในช่องผาก็ถูกปิดล้อมโดยกองทหารม้าเบาและทหารราบจนเกิดเป็นการปะทะกันขึ้นในพื้นที่ปิดอันแห้งแล้งของไนเซีย (Nicea)
Post by: Johan on August 25, 2016, 07:13:43 PM
เสียงตะโกนของหัวหน้าอัศวินอีกคนที่น่าจะเป็นแม่ทัพของกองทัพครูเสดนี้ดังขึ้นอย่างไม่เป็นภาษา
เขาชี้ดาบมายัง Diethelm แล้วร้องบอกว่า
(http://i.imgur.com/kTMVTvO.jpg)
"จอห์นได้ไปรับใช้พระเจ้าแล้ว เจ้าได้เป็นรองแม่ทัพ ณ บัดนี้!"
เขาคือ Walter Sans-Avoir หรือ Walter the Penniless ซึ่งตามชื่อที่เรียกคืออัศวินตกยากผู้ไม่ขึ้นกับลอร์ดและไม่มีดินแดนปกครอง
และเขาคือแม่ทัพของกองทัพครูเสดนี้ที่ประกอบไปด้วยชาวบ้านมากกว่า 90%
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
"...เป็นเกียรติยิ่งนัก"
(http://i.imgur.com/kTMVTvO.jpg)
"จงแสดงเกียรตินั้น!" อัศวินหนุ่มลั่นเสียงแล้วหันไปร้องสั่งอัศวินอีกคน
แต่ลับหลัง Diethelm ไปเขาก็พลีชีพอย่างสมเกียรติในสมรภูมิรบอันศักดิ์สิทธิ์ ศรหน้าไม้ยิงเข้าไปที่ร่างของเขาถึงเจ็ดดอก
Post by: Johan on August 25, 2016, 07:16:47 PM
คมดาบโค้งเงื้อขึ้นพร้อมกับที่เสียงกรีดร้องและเสียงสวดอ้อนวอนพระเป็นเจ้าดังระงมในเวลาเดียวกันกับแสงอาทิตย์ที่สะท้อนลงมาบนคมดาบเป็นประกาย
เบื้องหน้าของนักรบเติร์กคือนักพรตที่ไร้ทางสู้ซึ่งห่างออกไปจากจุดที่เพิ่งเข้ามาถึงราว 20 เมตร
แต่ขณะนั้นเอง
"ช้าก่อนเจ้าคนนอกรีต" ชาวนาชื่อคล้ายขุนนางผู้หนึ่งปรากฎตัวขึ้นอย่างผ่าเผยพร้อมกับสหาย
"อย่าได้ทำร้ายผู้บริสุทธิ์อีกเลย ข้าคือนักพรตปีเตอร์แห่งศาสนจักร หากต้องการศีรษะของข้าก็มานำไปเถิด"
ไม่มีใครเชื่อเขา
ชาวนาไร้ชื่อผู้มีร่างกายกำยำอีกคนหนึ่งตะโกนออกมา "หยุดนะเจ้าโจรใจทราม"
เขาตวาดก้องและใช้แรงช้างสารพุ่งคราดในมือต่างแหลนเข้าหาโจรที่เงื้อดาบ แต่แหลนที่ว่าพุ่งไปกระแทกทหารคนหนึ่งแทน
เรื่องราวที่เกือบจะบัดซบพลิกผันไปเมื่อมีชาวนาอีกคนยิงศรหน้าไม้พุ่งเข้าเสียบข้อมือทหารที่เงื้อดาบอยู่
และชาวนาอีกคนที่วิ่งเข้าไปก็ดึงเอานักพรต Peter ให้ลุกขึ้นและพาหนีออกจากความวุ่นวายเมื่ออัศวินอีกหลายคนเข้ามาคุ้มกันท่านนักพรตได้ทันการ
Post by: Johan on August 26, 2016, 11:30:03 AM
ด้วยบัญชาของพระเจ้า ให้เจ้าหยุดยั้งการทำสงครามกันเอง
และให้เขาเหล่านั้นหันมาถืออาวุธมุ่งหน้าไปทำลายผู้ปฏิเสธ
(http://i.imgur.com/wRXHMAy.jpg)
ปี ค.ศ. 1095 สมเด็จพระสันตะปาปา Urban II แห่งกรุงโรม ได้จัดประชุมกันที่เคลมองต์
เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทำสงครามครูเสด เพื่อกอบกู้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทวงคืนเยรูซาเลมคืนจากมุสลิม
มีผู้ตอบรับถึง 150000 คน เป็นอัศวินถึง 50000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส
สงครามครั้งนี้นำโดย Godfrey of Buillon, Reymond of Toulous และ Bohemund
กองทัพทั้งสามเดินทางมารวมพลกันที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล จักรวรรดิไบแซนไทน์ ในปี ค.ศ. 1097 มีประมาณ 300,000 คน
ประกอบด้วยกองทัพของประชาชนที่มีศรัทธาแรงกล้า บรรดาเจ้าชายที่ต้องการดินแดนเพิ่ม
อัศวินที่ต้องการแสดงความกล้าหาญ นักเดินทางที่ต้องการการผจญภัย
ทาสที่ต้องการความเป็นไท และสามัญชนธรรมดาที่ต้องการความร่ำรวย
และให้เขาเหล่านั้นหันมาถืออาวุธมุ่งหน้าไปทำลายผู้ปฏิเสธ
(http://i.imgur.com/wRXHMAy.jpg)
ปี ค.ศ. 1095 สมเด็จพระสันตะปาปา Urban II แห่งกรุงโรม ได้จัดประชุมกันที่เคลมองต์
เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนทำสงครามครูเสด เพื่อกอบกู้สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทวงคืนเยรูซาเลมคืนจากมุสลิม
มีผู้ตอบรับถึง 150000 คน เป็นอัศวินถึง 50000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส
สงครามครั้งนี้นำโดย Godfrey of Buillon, Reymond of Toulous และ Bohemund
กองทัพทั้งสามเดินทางมารวมพลกันที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล จักรวรรดิไบแซนไทน์ ในปี ค.ศ. 1097 มีประมาณ 300,000 คน
ประกอบด้วยกองทัพของประชาชนที่มีศรัทธาแรงกล้า บรรดาเจ้าชายที่ต้องการดินแดนเพิ่ม
อัศวินที่ต้องการแสดงความกล้าหาญ นักเดินทางที่ต้องการการผจญภัย
ทาสที่ต้องการความเป็นไท และสามัญชนธรรมดาที่ต้องการความร่ำรวย
แต่ก่อนหน้านั้นไม่นาน กองทัพของชาวนาและขุนนางระดับต่ำที่ไม่ได้อยู่ในแผนก่อตัวกันขึ้นเองและออกเดินทางไปยังเยรูซาเลมก่อน
ประชาชนที่รวบรวมตัวกันไปเหล่านี้มาจากผู้ที่ได้รับผลกระทบกระเทือนจากความแห้งแล้ง ความอดอยาก และโรคระบาดเป็นเวลาหลายปี
พวกเขามองเห็นว่าการเดินทางไปร่วมการทำสงครามครูเสดอาจจะเป็นทางออกจากความทุกข์ยาก
“สงครามครูเสดคนยาก” หรือ “สงครามครูเสดชาวนา”
กองทัพนี้มีนักพรต Peter คือผู้นำกองทัพครูเสดนี้ และมี Walter Sans-Avoir ซึ่งเป็นอัศวินไร้นายเป็นแม่ทัพ
ประกอบด้วยไพร่พลชาวนา ผู้ยากไร้ นักบวช และอัศวินระดับล่างอีกจำนวนหนึ่งที่พอมีฝีมือต่อสู้อยู่บ้าง
ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นก่อนการประชุมที่เคลมองต์เสียอีก
(http://wudthipan.com/fucko/_images/64d1404ccbe238066bf88df217154c56/4108%20-%20Event.jpg)
มันเป็นไปได้ยากเหลือเกินที่กองกำลังชาวบ้านจำนวนไม่ถึง 5000 คน จะต้านรับกองทัพเติร์กซึ่งเป็นทหารอาชีพได้
ท่านล่ะคิดอ่านสิ่งใดอยู่หรือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์รออยู่เบื้องหน้าของท่านแล้วนั่นปะไร
ธนูที่ยิงลงมาจากสองฟากของผาคร่าชีวิตนักรบครูเสดไปมากมาย กองม้าที่ชาร์จเข้ากลางกองทัพยิ่งสร้างความตื่นตระหนก
อัศวินหลายคนปกป้องผู้อื่นจนตัวตาย แต่บ้างก็หลบหนีออกไปตามช่องทางที่เปิดออก
เหล่าชาวบ้านที่ไร้ฝีมือไม่อาจทำสิ่งใดได้ หลายคนต้องคมอาวุธล้มลง และอีกหลายคนก็เริ่มสวดมนตร์ภาวนา
นานหลายนาที ที่สุดแล้วกองทัพครูเสดชาวนาก็ถูกกำจัดแทบหมดสิ้น เหลือเพียงนักรบครูเสดบางคนที่ยังคงต่อสู้อย่างสุดชีวิตท่ามกลางซากศพเกลื่อนช่องผา
นักพรต Peter นั่งคุกเข่าสองมือกุมแนบอก ใบหน้าที่ก้มอยู่ไม่แจ้งกล่าวถึงอากัปใด
แต่หากได้เห็นแววตาของนางแล้วล่ะก็
เราเชื่อ แล้วท่านล่ะเชื่อหรือไม่
(http://wudthipan.com/fucko/_images/95c15aed0d8d82e469735ceee03e1a3f/4109%20-%20Event.jpg)
เสียงย่ำเท้าที่อยู่ไกลออกไปของกองทัพครูเสดนับแสนได้ขับไล่เอากองทหารเติร์กหลบลี้หนีหายไปหมดสิ้นในเวลาต่อมา
ธงสารพัดกางเขนในรูปแบบต่างๆกันโบกสะบัด มีทั้งกษัตริย์ ขุนนาง อัศวิน นักบวช และสามัญชน
พวกเขาคือกองทัพแห่งพระเจ้าที่รวมเอาผู้ศรัทธาจำนวนมากมายเข้าด้วยกันภายใต้ธงกางเขน
เสียงย่ำเท้าที่อยู่ไกลออกไปของกองทัพครูเสดนับแสนได้ขับไล่เอากองทหารเติร์กหลบลี้หนีหายไปหมดสิ้นในเวลาต่อมา
ธงสารพัดกางเขนในรูปแบบต่างๆกันโบกสะบัด มีทั้งกษัตริย์ ขุนนาง อัศวิน นักบวช และสามัญชน
พวกเขาคือกองทัพแห่งพระเจ้าที่รวมเอาผู้ศรัทธาจำนวนมากมายเข้าด้วยกันภายใต้ธงกางเขน
Post by: Johan on August 26, 2016, 11:33:59 AM
Quote
([url]http://i.imgur.com/hv8mEbF.jpg[/url])
แผนที่การเดินทัพของสามกองทัพก่อนจะมาบรรจบที่คอนสแตนติโนเปิล
หลังการรวมทัพกันจนได้ไพร่พลมหาศาล ดยุก Raymond หนึ่งในผู้นำกองทัพครูเสดนี้ได้เสนอว่าเราควรรับเอากองทัพครูเสดชาวบ้านที่เหลือเข้าร่วม
และเขายังเสนอแต่งตั้งให้ Peter เป็นผู้นำสูงสุดของกองทัพครูเสดแทน ทั้งที่เขามีบรรดาศักดิ์สูงกว่าใคร แต่ Bohemond เจ้าชายแห่งนอร์มันปฏิเสธ
Bohemond ยืนกรานจะให้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นผู้นำ นั่นจึงเหมาะสมที่สุด ซึ่งเดิมเราก็สรุปกันมาแล้วว่าเป็น Godfrey
ในขณะที่ Godfrey เองกลับไม่ได้เสนอความเห็นใดและใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพยาบาลดูแลคนเจ็บในกองทัพร่วมกับนักพรต Peter
(http://i.imgur.com/sVOAbCf.jpg)
"ท่านไม่ต้องช่วยเหลือข้า ท่านเป็นกษัตริย์ ข้าเป็นเพียงสามัญชน" นักพรต Peter หรือจะเรียกว่านักบวช Peter ก็ได้
กองทัพครูเสดไม่ได้หยุดพัก แต่นำคนเจ็บขึ้นเกวียนแล้วแบกลากเดินทางต่อไปตามคำสั่งของ Godfrey
Chapter I
พวกท่านที่รอดชีวิตมาได้ก็รวมอยู่ในกองทัพนี้และรู้เห็นเหตุการณ์ข้างต้น พวกท่านยังได้ยินอีกว่าองค์หญิงแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์กำลังเสด็จติดตามมาร่วมทัพครูเสด
นางมีสิริโฉมเช่นไรกันนะ งดงามและเก่งกาจดังเช่นสามผู้นำของกองทัพครูเสดหรือไม่
Quote
จุดสำรวจและสถานที่
- Peter และ Godfrey
- Raymond
- Bohemond
- พวกอัศวิน
- ทหารราบสามัญชน
- สหายของท่านเอง (ต้องมีสหาย)
Post by: Lu on August 26, 2016, 12:28:45 PM
(http://wudthipan.com/fucko/_images/148f656ff456d400a10c4072e01880d9/4095%20-%20lu.png)
"มา ข้าช่วยท่านเอง ออกไปๆ" Lulou โบกมือไล่Goddfrey เธอจะช่วยคนเจ็บเอง
Post by: Chao on August 26, 2016, 12:34:40 PM
- พวกอัศวิน
Post by: Johan on August 26, 2016, 12:50:18 PM
"ท่านไม่ต้องช่วยเหลือข้า ท่านเป็นกษัตริย์ ข้าเป็นเพียงสามัญชน" นักพรต Peter หรือจะเรียกว่านักบวช Peter ก็ได้
(http://i.imgur.com/KFVFavy.jpg)
เวลาท่านนักบวชก้มๆเงยๆ มักจะมีอัศวินหนุ่มตาถลนสักหลายๆครั้ง
เวลาท่านนักบวชก้มๆเงยๆ มักจะมีอัศวินหนุ่มตาถลนสักหลายๆครั้ง
(http://i.imgur.com/bBYDQZh.jpg)
"ข้าไม่ใช่กษัตริย์" Godfrey พยายามบอกนักบวชไม่รู้หนังสือที่แยกแยะไม่ออกว่าขุนนางกับกษัตริย์ต่างกันตรงไหน
แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจสักเท่าไรนัก ทั้งจาก Peter และอัศวินอีกคนที่เบียดตัวเข้ามา
ดูเหมือน Peter จะมีความสามารถด้านรักษาพยาบาล เธอเป็นหมอด้วยหรือนี่
กลุ่มอัศวินมีหลากหลายกลุ่มที่รวมทัพกัน ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งเศสที่เย่อหยิ่งถือตน พวกเขาคุยกันถึงความจองหองของพวกไบแซนไทน์
"แค่บ้านเมืองศิวิไลซ์กว่า พวกมันเองที่อ้อนวอนพวกเรา"
"นางคนนั้นมันมองหน้าข้าแล้วถอยหนีอย่างรังเกียจ ข้าคิดว่าตัวข้าก็ไม่ได้เหม็นอะไรนะ"
"เจ้ารู้ไหม องค์หญิงนั่น"
"มันกล่าวหาว่าคนของข้าไปปล้นชิงพวกมัน"
"พวกมันละเมอเพ้อพกอะไรอยู่ มันคิดว่านั่นคือโรมัน แผ่นดินที่เราเผาจนพินาศ"
มีหลายหัวข้อหลายเรื่องราวที่พวกเขาคุยกัน บางครั้งก็เปลี่ยนหัวข้อราวกับต่างคนต่างก็อยากคุยมากกว่าจะฟัง
Post by: Pooto Dio Guerrero on August 26, 2016, 01:20:14 PM
Post by: lostlance on August 26, 2016, 01:21:35 PM
Post by: falconzero on August 26, 2016, 01:37:15 PM
Post by: Johan on August 26, 2016, 01:45:20 PM
มีคนหลากหลายในกลุ่มสามัญชนคนทั่วไป พวกเขามีทั้งที่เป็นมิตรและดูไม่น่าคบหา หากถามพวกเขาว่าใครที่เก่งกาจที่สุดที่พระเจ้าได้ทรงเลือก แทบทั้งหมดจะตอบว่า Godfrey
Godfrey ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในหลายๆด้านที่เป็นด้านบวก นอกจากเรื่องของ Godfrey แล้วคนเหล่านี้ยังถกและพูดถึงกรุงคอนสแตนติโนเปิลที่งดงามศิวิไลซ์อย่างเหลือเชื่อ
Bohemond ยืนกรานจะให้ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นผู้นำ นั่นจึงเหมาะสมที่สุด ซึ่งเดิมเราก็สรุปกันมาแล้วว่าเป็น Godfrey
เธอไล่อัศวินที่ Raymond ส่งมาให้กลับไป กำชับหนักหนาว่าเธอไม่ตอบรับคำขอนั้น
(http://i.imgur.com/WhTsd0c.jpg)
"ข้ารู้ความนัยของท่าน แต่ท่านควรเคารพมติของหมู่คณะ" Bohemond เป็นนักรบชาวนอร์มัน ลูกหลานชนชาวไวกิ้ง
หากกล่าวถึงไวกิ้ง เรารู้ดีว่าพวกเขาคือชนชาติที่แข็งแกร่ง ชาญฉลาด และมีไหวพริบเรียนรู้สูง (ชาวไวกิ้งค้นพบอเมริกาก่อนโคลัมบัส 500 ปี)
เช่นกัน ชาวนอร์มันนับว่าเป็นชนชาติที่แข็งแกร่ง เหี้ยมหาญ มีฝีมือในการรบสูง ก็ขนาดที่ยึดเอาตอนใต้ของอิตาลีกับอังกฤษได้
Quote
([url]http://i.imgur.com/skIGjfrt.png[/url]) ([url]http://imgur.com/skIGjfr[/url])
กองทัพครูเสดแข็งแกร่งขึ้นมาได้เพราะกองทหารนอร์มันมากกว่าจะเป็นอัศวินของฝรั่งเศส
แม้ว่าพวกนอร์มันจะมีเป็นส่วนน้อยในกองทัพก็ตาม
Post by: falconzero on August 26, 2016, 01:50:37 PM
"หรือบางทีพวกท่านน่าจะเล่าวีรกรรมของท่าน Godfray ให้ข้าได้ฟังบ้าง"
Post by: noel on August 26, 2016, 01:53:04 PM
Post by: Lu on August 26, 2016, 02:08:25 PM
"ท่านปีเตอร์ ท่านจะใหญ่ เอ้ย รักษาผู้คนได้ เป็นวิชาพยาบาลหรือว่าพลังวิเศษ" Lulou ถามด้วยความสนใจ เพราะขนาดแยกระหว่างกษัตริย์กับขุนนางไม่ออก คงไม่ใช่คนเรียนหมอมาหรอก
"อ้อ ท่านไม่ใช่กษัตริย์ โอเค งั้นเข้ามาช่วยๆ มีคนเยอะๆดีกว่า" Lulou เรียก Godfrey มาช่วยหิ้วปีกคนเจ็บขึ้นเกวียน
Post by: lostlance on August 26, 2016, 02:09:58 PM
Steph กล่าวกับBohemond เธอหวังว่าบุรุษผู้นี้จะช่วยเธอได้
Post by: LazyRabbit on August 26, 2016, 02:10:52 PM
(http://i.imgur.com/8QiAFQ0.png)
"...ขอประทานโทษด้วย ข้าตามหาWalterอยู่ ไม่ทราบว่าพวกเจ้ารู้มั้ยว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน?"
Post by: Pooto Dio Guerrero on August 26, 2016, 02:35:19 PM
"สิ่งสำคัญสำหรับกองทัพครูเสดมิใช่ความเก่งกาจ แต่เป็นศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าต่างหาก"
"สำหรับพวกท่านนักพรต Peter เป็นอย่างไร"
เจสันถามเหล่าสามัญชน
Post by: Johan on August 26, 2016, 03:01:31 PM
"ปารีส ลอนดอน และโรม ดูเหมือนตลาดของกรุงคอนสแตนติโนเปิล" พวกเขาหมายถึงเมืองหลวงของชาติใหญ่ๆในยุโรปที่มีสภาพเป็นได้แค่ตลาดสดของคอนสแตนติโนเปิล
มันล้าหลัง ดูไม่จืดเลยเมื่อเทียบกับกรุงคอนสแตนติโนเปิล เมืองหลวงของจักรวรรดิโรมันตะวันออก
ทั้งถนนปูเรียบทั่วเมือง ยามค่ำคืนก็สว่างไสว มีร้านค้าอยู่เรียงราย มีสวนสาธารณะ โรงละคร มีสนามม้าหนึ่งแห่ง มีคฤหาสถ์ของเศรษฐี อาคารอยู่อาศัยของคนงาน
โบสถ์ที่งดงามจนไม่อาจเปรียบเทียบได้ และพระราชวังของจักรพรรดิ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยหินอ่อน หินขัด เพชร พลอย ผ้าทอหรูหรา
ความมั่งคั่งของผู้คนที่แต่งตัวงดงามอย่างกับอยู่ในงานเทศกาล แล้วก็พระธิดาคนงามของจักรพรรดิ Anna
มีคนเอาของที่ปล้นชิงมาได้ออกมาอวด เป็นของมีค่าจำพวกเพชรนิลจินดาที่ชาวเมืองสวมใส่กันเป็นปกติ
Raymond มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงดยุก ถ้านึกไม่ออกก็นึกถึงตำแหน่งสูงสุดของขุนนางที่ประกอบไปด้วยเอิร์ล เคานต์ บารอน ฯลฯ
เขาเป็นขุนนางชาวแฟรงก์ที่ศรัทธาอย่างยิ่งยวด เขาเชื่อว่าสงครามนี้คือการขานรับต่อพระเป็นเจ้าของชาวคริสต์ เขาเป็นคนแรกที่ตอบรับต่อการเรียกร้องของพระสันตะปาปา
(http://i.imgur.com/eyTnoTqt.jpg)
"จัดเตรียมให้เรียบร้อย พระนางแอนนาจะไม่มีวันได้เห็นธงกางเขนอีกเป็นครั้งที่สอง" เขาบอกอัศวินคนสนิทที่ผงกหัวให้
(http://i.imgur.com/sVOAbCf.jpg)
"ข้ามีวิชาแพทย์ ข้ารักษาอาการเจ็บป่วยได้" Peter กล่าวตอบ นางมีความสามารถในการรักษาแบบหมอชาวบ้าน จึงไม่เกี่ยวกับความรู้ด้านการเมือง
ในยุคนี้ศาสตร์การแพทย์เข้าขั้นวิกฤติพอๆกับสุขอนามัยของผู้คน พวกอนารยะที่รุกรานโรมันและครอบครองยุโรปไม่ได้สืบสานองค์ความรู้ของโรมันมาด้วย มันถูกเผาทำลายไปมากมาย
วิชาแพทย์แบบหมอชาวบ้านนี่แหละคือระดับหมอที่มีฝีมือที่สุดเท่าที่จะพบเจอได้ทั่วไป เช่น เอาไฟลนฟันผุเพื่อเผาแมงกินฟันที่ทำให้ฟันผุ หรือตัดนิ้วที่เป็นหูดทิ้งเพื่อป้องกันการลุกลามของเนื้อร้าย
Godfrey มีความพยายามจะช่วย แต่เขาซุ่มซ่ามทำไอ้โน่นตก ไอ้นี่ล้ม ไอ้นั่นหก จน Peter ขอให้เขาอยู่เฉยๆสักพัก
เช่นกัน ดูเหมือน Lulua ก็จะไม่ได้ดีไปกว่า เธอเงอะงะเพราะชุดเกราะที่สวม ดาบที่สะพาย แล้วก็เหม็นกลิ่นสาบในพื้นที่นี้จนสมาธิกระเจิง ยังอยากช่วยอยู่ไหมล่ะ
(http://i.imgur.com/uHGkgyqt.jpg) (http://imgur.com/uHGkgyq)
Bohemond เป็นนักรบหญิง มีบรรดาศักดิ์เป็น Prince งานอดิเรกของเธอคือการสะสมและลับคมขวาน
เธอไม่ถือตัวและยินดีที่จะแนะนำอัศวินที่มุ่งมั่นเรียนรู้ Steph
"ท่านสนใจเรื่องใด" เธอเอาขวานมาแนบอิงใบหน้าแล้วถามเขา
"Walter? ท่านหมายถึงเซอร์วอลเตอร์? นั่น ศพของเขา" ทหารคนหนึ่งที่เคยเป็นหนึ่งในนักรบแห่งกองทัพครูเสดชาวนาชี้ไปในทิศทางหนึ่งของจุดพัก มีคนนั่งอยู่หน้าหลุมศพคนหนึ่ง
Walter เป็นอัศวินไร้นาย ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร การตายของเขาแทบไม่มีใครจดจำเลย แม้ว่าเขาจะเคยเป็นผู้นำของกองทัพครูเสดชาวบ้านก็ตาม
นักรบครูเสดที่ร่วมทัพมาด้วยก็ตายเสียเกือบหมด จึงแทบไม่มีใครสนใจเขานัก ที่หน้าหลุมศพเป็นทหารคนสนิทของเขาที่ยังรอดชีวิตมาได้
เขาจำ Diethelm ได้และบอกว่าจะเสนอชื่อ Diethelm เป็นผู้นำกองหน้า
"ข้ารู้ ท่านนักบุญมีญาณวิเศษล่วงรู้คำทำนาย"
"ท่านปีเตอร์ติดต่อกับพระเจ้าได้"
ทหารทั่วไปรู้เรื่องราวของ Peter ที่รับรู้ถึงสงครามครูเสดได้ล่วงหน้า และยังออกปลุกเร้าเชิญชวนผู้คนก่อนหน้าที่สันตะปาปาจะประกาศสงครามครูเสดเสียอีก
ภาพของ Peter คือนักบุญ แม้ว่าจะเป็นเพียงนักบวชยากไร้ในสายตาพวกอัศวิน พวกชาวบ้านให้การยอมรับ Peter มากพอๆกับ Godfrey
นักบุญผู้อารีที่มีพลังในการรักษาเยียวยา นั่นแหละคือ Peter
Post by: lostlance on August 26, 2016, 03:09:31 PM
Steph กล่าวกับ Bohemond เธอเสริมด้วยว่าตัวเธอเองมีความเชี่ยวชาญในการใช้ธนูมากกว่าด้านอื่น
Post by: LazyRabbit on August 26, 2016, 03:12:14 PM
ไดร์เฮมไม่ได้แปลกใจ เขาได้ทราบมาว่าเบื้องหลังการคุมทัพของเขา เซอร์วอลเตอร์ออกไปรบอย่างเด็ดเดี่ยว พลีชีพสละกายอย่างเต็มที่
"ข้าตั้งใจมาแค่เพื่อเคารพศพของวอลเตอร์... การต่อสู้ของเขาน่าชื่นชม" เขากล่าว
"แต่หากท่านเห็นว่าข้าคู่ควรแก่การสืบทอดเจตนารมณ์ของเขา เขาก็ยินดีที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ"
Post by: Chao on August 26, 2016, 03:12:24 PM
- เจ้าหญิง ขอข้อมูลของเจ้าหญิงเท่าที่รู้
- พวกไบเซนไทน์ ขอทุกอย่างที่รู้ โดยเฉพาะพวกนี้เป็นอย่างไร แตกต่างจากพวกเราอย่างไร เป็นมิตรหรือศัตรู
- เรื่องที่มีคนกล่าวหาว่าคนของอัศวินไปปล้นชิงพวกเขา คนกล่าวหาคือใคร แล้วจริงหรือเปล่า
Post by: Lu on August 26, 2016, 03:14:23 PM
(http://wudthipan.com/fucko/_images/148f656ff456d400a10c4072e01880d9/4095%20-%20lu.png)
"ข้าว่าเราควรทำงานที่ตนถนัดมากกว่า ตามสำนวน Put right man on the right job " ลูลูวส่ายศรีษะ อัศวินมีหน้าที่อย่างอัศวิน ทำแบบนี่จะยิ่งยุ่งมากกว่าเดิมอีก
Lds เยอะ Godfrey ก็เป็นผู้นำ ออกไปดูสิว่ามีสิ่งใดที่ช่วยได้บ้าง ถามน้กบุญด้วยว่ามีสิ่งใดให้ช่วยนอกจากการพยาบาลคนเจ็บ
Post by: falconzero on August 26, 2016, 03:15:02 PM
"ข้าอยากจะไปเห็นมันด้วยตาตัวเองบ้างเหลือเกิน แต่อย่างน้อยๆ ข้าคงต้องเอาตัวรอดจากสงครามนี่ให้ได้ก่อน" เธอพูดติดตลก
"ว่าแต่พวกท่านมีใครมีอาวุธหรือชุดเกราะเหลือให้ข้ายืมใช้ไหม?" เธอขอพวกอุปกรณ์หรือไอเทมอะไร ของคนที่ตายไปแล้วก็ได้
Post by: fishdontfly on August 26, 2016, 04:12:57 PM
Post by: Pooto Dio Guerrero on August 26, 2016, 04:41:54 PM
"พวกท่านมาเข้าร่วมครูเสดเพื่อสิ่งใดกัน ไม่กลัวตายหรีือ?"
Post by: noel on August 26, 2016, 05:01:46 PM
"นี่นี่พี่ชาย ท่านดยุคสั่งให้ท่านจัดเตรียมอะไรหรือ มีอะไรให้ข้าช่วยไหม?"
Post by: Johan on August 26, 2016, 05:31:57 PM
"ฮืมม์..." Bohemond วางขวานลงแล้วกล่าวว่า "การยิงธนูเป็นศาสตร์ชั้นสูงไม่ต่างไปจากการขี่ม้าแทงทวน"
"ท่านเชื่อหรือไม่ว่าทหารม้าเติร์กแม้ไม่ใช่อัศวินแต่กลับใช้ธนูบนหลังอาชาได้อย่างเชี่ยวชาญยิ่งกว่าอัศวินคนใด"
เธอบอกว่าเธอแนะนำได้ทีละอย่าง (ต่อที่กระทู้ตัวเอง แต่ไม่ Hide คนอื่นสามารถไปดูได้ถ้าไม่งง)
1. พื้นฐานการรบ
2. การต่อสู้และบัญชาการในสนามรบ
ทหารคนสนิทของ Walter บอกว่าเดิมทีหากท่าน Peter ร้องขอ จะเป็น Walter ที่ได้ทำหน้าที่กองหน้า
แต่ในเมื่อ Walter ตายไปแล้วรองแม่ทัพอย่าง Diehelm ก็สมควรได้รับหน้าที่นี้
และเขาจะให้ดาบของ Walter เป็นสัญลักษณ์สืบทอดอุดมการณ์
กองหน้าจะต้องมีทักษะในการสั่งการ และรู้เรื่องการรบ (Attack) หรือก็คือจะเลี่ยงการรบไม่ได้นั่นเอง
แต่สามารถสอบถามและทดสอบเดินหมากกับทหาร A คนนี้ได้ก่อนเข้า Quest ไม่ก็ไปทำอย่างอื่นถ้ามั่นใจแล้ว
Anna Comnena เป็นองค์หญิงเลอโฉมที่เฉลียวฉลาด มีฝีมือในการรบ เป็นธิดาสุดที่รักของจักรพรรดิ Alexios แห่งไบแซนไทน์
เธอน่าฟัดมาก ถ้าจับได้ล่ะก็จะXXXXและYYYYกับZZZZ !#@$#$%^% ...ดูพวกอัศวินจะอยากปล้ำเธอมากแบบไม่ปิดบัง
อาจเพราะนิสัย ท่าทางที่จองหอง เย่อหยิ่ง และงดงาม เก่งกาจ ตามสไตล์นักรบแห่งโรมัน
ได้ข่าวว่า Anna จะนำทัพตามมาสมทบเพราะไม่ไว้ใจพวกครูเสด แต่กองทหารของไบแซนไทน์นั่นท่าดีทีเหลว
ม้าศึกดูสง่างาม ชุดเกราะที่ทันสมัยและวาววับนั่นไม่มีค่าอะไร ไม่อย่างนั้นจะร้องขอให้พวกเรามาช่วยเหรอ ฮ่าๆๆ
700 ปีก่อนคริสต์ศักราช กำเนิดอารยธรรมโรมัน ชาวโรมันซึ่งเป็นกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในคาบสมุทรอิตาลีและได้รับอิทธิพลจากอารยธรรมกรีก
กระทั่งแสนยานุภาพของโรมันแผ่ออกอย่างกว้างขวาง
(http://i.imgur.com/jC23yHJ.jpg)
ดินแดนที่กว้างใหญ่เกินไปนั้นยากแก่การปกครอง จักรวรรดิโรมันถูกแบ่งเป็นตะวันตกและตะวันออก (ขอบเขตสีแดงคือโรมันตะวันออก)
โรมันตะวันตกที่เสื่อมลงถูกรุกรานซ้ำโดยพวกอนารยชนจนกระทั่งล่มสลายลงอย่างสมบูรณ์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 เหลือเพียงโรมันตะวันออก
ไบแซนไทน์คือจักรวรรดิโรมันตะวันออกที่ยังเหลืออยู่ เป็นชาวคริสต์นิกายออโธดอกซ์
องค์สันตะปาปาอยากให้รวมนิกายกันกับคาทอลิก นั่นอาจเป็นอีกเหตุผลที่สันตะปาปาตอบรับการร้องขอของไบแซนไทน์
วัฒนธรรม และอารยธรรมของไบแซนไทน์สืบสานมาจากโรมันเมื่อราว 500 ปีก่อน กองทหารจึงมีระบบระเบียบมากกว่าชาวยุโรป
ชาวยุโรปส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นอนารยชนที่มารุกรานและครอบครองยุโรป หนึ่งในต้นเหตุการล่มสลายของโรมันตะวันตก
จึงไม่น่าแปลกใจที่ชาวไบแซนไทน์รังเกียจชาวยุโรป ก็เหมือนพวกคนป่าที่มาบุกรุกเผาบ้านเมืองที่ศิวิไลซ์ดีอยู่แล้วกระทั่งแสนยานุภาพของโรมันแผ่ออกอย่างกว้างขวาง
(http://i.imgur.com/jC23yHJ.jpg)
ดินแดนที่กว้างใหญ่เกินไปนั้นยากแก่การปกครอง จักรวรรดิโรมันถูกแบ่งเป็นตะวันตกและตะวันออก (ขอบเขตสีแดงคือโรมันตะวันออก)
โรมันตะวันตกที่เสื่อมลงถูกรุกรานซ้ำโดยพวกอนารยชนจนกระทั่งล่มสลายลงอย่างสมบูรณ์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5 เหลือเพียงโรมันตะวันออก
ไบแซนไทน์คือจักรวรรดิโรมันตะวันออกที่ยังเหลืออยู่ เป็นชาวคริสต์นิกายออโธดอกซ์
องค์สันตะปาปาอยากให้รวมนิกายกันกับคาทอลิก นั่นอาจเป็นอีกเหตุผลที่สันตะปาปาตอบรับการร้องขอของไบแซนไทน์
วัฒนธรรม และอารยธรรมของไบแซนไทน์สืบสานมาจากโรมันเมื่อราว 500 ปีก่อน กองทหารจึงมีระบบระเบียบมากกว่าชาวยุโรป
ชาวยุโรปส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นอนารยชนที่มารุกรานและครอบครองยุโรป หนึ่งในต้นเหตุการล่มสลายของโรมันตะวันตก
ไบแซนไทน์ไม่ใช่มิตรและศัตรู เพียงแค่ต้องการให้พวกครูเสดช่วยขับไล่พวกเติร์กออกไปให้พ้นจักรวรรดิของตน
(http://i.imgur.com/sVOAbCf.jpg)
"ถอดชุดเกราะและวางอาวุธของพวกท่านเสียก่อน" Peter บอก
Godfrey ส่ายหน้า เขาไม่เห็นด้วย ถ้าข้าศึกจู่โจมมาจะทำอย่างไร
แต่เขายังยืนกรานที่จะช่วยจนน่ารำคาญ ใช่ หากจะช่วยต้องถอดเกราะและวางอาวุธ จากนั้นเธอจะสอนการทำแผล
มันจะง่ายเข้าเมื่อมี Skl อย่างน้อย 1 แต่ระวัง Lds อาจลดลงได้
Godfrey คิดหนัก แต่สุดท้ายก็วางอาวุธ แล้ว Lulua ล่ะยังอยากช่วยอยู่ไหม (ตัดเข้า Quest เลย)
ทหารราบมีหลายชนชั้น พวกระดับสามัญชนที่พอมีฐานะจะมีม้า หอก โล่ และเกราะกันด้วย
แต่พวกชาวนาก็ตามมีตามเกิด ไม่มีใครให้อาวุธกันหรอก อาวุธหายาก พวกที่ตายไปก็ถิอคราดกันทั้งนั้น
ถ้ากลัวตายก็ไปเป็นกองหลังสิ ทหารคนหนึ่งบอก
(http://i.imgur.com/eyTnoTq.jpg)
"ไม่ใช่เรื่องของเจ้า" Raymond เบือนหน้าไปอีกด้านเมื่อสาวชาวนาคนหนึ่งเข้ามาถามไถ่ แต่สักครู่เขาก็หันมา
"เจ้าได้ยินอะไรหรือ?" เขาถามแล้วลุกขึ้นมา มือแตะดาบที่เอว
ทหาร 10 คน ตอบแทบไม่เหมือนกัน บ้างก็ว่าอยากไปเหยียบดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก่อนตาย บ้างก็ว่าอยากร่ำรวยมีชีวิตใหม่ หรือบ้างก็ต้องการตอบรับเสียงจากพระเจ้า
พวกเขามีศรัทธาแรงกล้า แต่ก็มองเห็นคนที่หวังผลประโยชน์อยู่บ้าง คนกลุ่มหลังนี้มักจะรอดตายอยู่เสมอ
Post by: Lu on August 26, 2016, 06:25:00 PM
แต่เธอก็อยากช่วยคนเจ็บจริงๆ สุดท้ายจึงยอมถอดเกราะออก แม้จะอิดออดเหมือน Godfrey ก็ตาม
ทำเควสช่วย Peter
Post by: LazyRabbit on August 26, 2016, 06:32:47 PM
"ขอบพระคุณมาก ข้าจะรักษามันไว้อย่างดี" ไดร์เฮมกล่าวเมื่อรับดาบมา
"ข้ารู้ดีข้ายังไม่เจนสนามรบนัก" สำหรับเขานี่ไม่ใช่การถ่อมตน การรู้จุดอ่อนของตนเองคือสิ่งที่จำเป็น "ข้ายังต้องเรียนรู้อีกมากมาย..."
- เรียนรู้และทดสอบการเดินหมากกับทหาร A กันเถอะ!
Post by: Pooto Dio Guerrero on August 26, 2016, 07:25:52 PM
"ข้าเองก็คิดเหมือนพวกท่าน"
"แล้วใครเป็นคนนำพวกท่านออกรบ หัวหน้ากองน่ะ"
Post by: Baron on August 26, 2016, 07:42:44 PM
"สงครามช่างโหดร้ายนัก ในฐานะสาวกของพระเป็นเจ้า ข้าต้องการจบมันให้เร็วที่สุด"
"ช่วยเป็นกำลังให้ข้าทีนะไบรอัน"
Post by: falconzero on August 26, 2016, 08:38:48 PM
- Peter และ Godfrey
Post by: Johan on August 26, 2016, 09:46:41 PM
นายกองจะต้องเป็นอัศวิน หากไม่ใช่อัศวินต้องผ่านการทดสอบเสียก่อน เงื่อนไขมีแค่นี้ อ้อ ต้องสั่งการและบัญชาการเป็นด้วยนะ
แต่ทหารพวกนี้สอนไม่ได้หรอก
(http://wudthipan.com/fucko/index.php?q=/image/439.JPG)
"เป้าหมายของเราคือเยรูซาเล็ม" หมอนี่ชี้ไปทางเหนือที่เป็นทิศตรงข้าม
"เมื่อทวงคืนเยรูซาเลมกลับมาได้ทุกคนจะได้พบกับสันติสุขที่แท้จริง"
Brian เป็น NPC เพื่อนยาก เขาจะมีบทในช่วง Chapter 2 แต่ช่วงนี้เขาก็สามารถพูดคุยให้คำปรึกษาได้ทุกอย่างเท่าที่ทหารทั่วไปจะพึงมี
และ Brian ยังเดินตามอยู่ตลอดเวลา ใช้ในการ Role-play ได้ด้วย แต่ข้อควรระวังคือเขาตายได้
ด้านของ Peter ยังคงง่วนกับงาน ส่วน Godfrey ก็อาสามาช่วยเหลือแล้วพร้อมกับ Lulua อยากช่วยพวกเขาหรือเปล่าล่ะ
Post by: falconzero on August 26, 2016, 09:53:53 PM
Post by: fishdontfly on August 26, 2016, 10:25:07 PM
Le' Pla ที่ไม่มีบทบาทอะไร ทำตัวตื่นเต้นไปตามสถานะการณ์
"Raymond ได้ยินเสียงอะไรหรือ?"
Post by: Pooto Dio Guerrero on August 26, 2016, 10:37:34 PM
เจสันนั่งคุยสัพเพเหระกับเหล่าสามัญชนไปเรื่อยๆ
Post by: Baron on August 26, 2016, 10:50:51 PM
"ท่านนักบุญ ข้าขอถวายชีพนี้แก่พระเจ้า ได้โปรดรับข้าเป็นนักบวชในสังกัดของท่านด้วยเถิด"
Post by: noel on August 27, 2016, 12:11:24 AM
"ข้าได้ยินไม่ชัด แต่ได้ยินชื่อของพระนางแอนนา และคำสั่งว่าให้จัดเตรียมอะไรบางอย่าง... จึงคิดเอาเองว่าอาจจะเป็นการเตรียมต้อนรับพระนาง"
"ข้าทำงานเป็นคนรับใช้ในปราสาท คิดว่าอาจพอทำประโยชน์ได้จึงเสนอตัวช่วยงาน หากข้าเข้าใจผิดไปก็ขออภัย"
(ขอใช้ Feat เผื่อด้วยค่ะแง อย่าฟันหนู)
Rolled 2d10 : 9, 5, total 14
Post by: Johan on August 27, 2016, 12:45:14 AM
"ข้าไม่เคยมีศิษย์ แลข้าหาได้เคยกล่าวอ้างว่าตนคือนักบวช" ท่านนักพรตพูดอะไรน่ะ ทำเอา Baron งง
เมื่อเขาได้ลองคุยสอบถามจึงรู้ว่า แท้ที่จริงแล้วนักพรต Peter ไม่ได้เป็นคนระดมพลชาวบ้านมาทำสงคราม คนที่ทำหน้าที่นั้นคือ Walter อัศวินยากไร้ที่ตายไป
Peter มีความสามารถในการรักษาพยาบาล เธอติดตามมาเพียงเพราะต้องการรักษาผู้แสวงบุญที่ต้องเดินทางไกล แต่ผู้คนคิดไปเองว่าเธอเป็นผู้นำกองทัพครูเสดชาวนา
นั่นคือสาหตุที่เธอมาอยู่ที่นี่ รู้สึกอยากทำเควสกับเธอขึ้นมาแล้วหรือยังล่ะ
(http://i.imgur.com/eyTnoTq.jpg)
".........." ท่านดยุกละมือจากดาบหลังพิจารณาอยู่พักหนึ่งแล้วจึงเดินเข้ามายืนเบื้องหน้ามองลงไปที่สาวชาวบ้าน
"นายของเจ้าโชคดีนักที่มีสาวใช้จอมขยัน" เขากล่าวแล้วมองไปทาง Le' Pla อัศวินระดับล่างๆที่ไม่มีสัมมาคารวะแต่ก็มิได้สนใจนัก
เขาเดินไปหลังจากพูดออกมาว่า "ทุกคนมีบาป และข้าจะชดใช้มัน"
ทั้ง Le' Pla และ Lesette ถูกตัดเข้า Quest
Jason ทำตัวไร้สาระไปเรื่อยจนกระทั่งถึงเวลา Quest
ทุกคนที่นี่รอ Quest
Post by: Chao on August 27, 2016, 05:59:09 AM
Post by: Johan on August 27, 2016, 10:27:35 AM
อยากลองไปสมัครกับเขาก้ได้ แต่ตอนนี้จบช่วงนี้แล้ว ไปเลือก Quest ได้เลย
Post by: Johan on August 27, 2016, 02:29:24 PM
การโจมตีของเติร์กในหลายเดือนที่ผ่านมานี้ส่งผลให้ดินแดนที่กว้างขวางของจักรวรรดิลดลงอย่างน่าใจหาย ประมาณได้ถึง 60% ที่สูญเสียไป
และการโจมตีของเติร์กก็เปิดฉากขึ้นอีกครั้ง ธนูเพลิงยิงนำมาก่อนพร้อมกับที่กองหน้าค้นพบตำแหน่งของพวกเติร์ก
ตามด้วยกองม้าเบาซึ่งเป็นกำลังรบหลักของพวกเติร์กที่โอบมาจากปีกทั้งสองในพื้นที่หุบเขาอันแสนจะกันดาร
(http://image.free.in.th/v/2013/ig/160827043922.jpg) (http://picture.in.th/id/f4b4aa178c839350423ddecb32228386)
สุลต่านของชาวเติร์กได้ร่วมเข้าสู้รบในครั้งนี้ด้วย ภาพที่เห็นคือสตรีที่แข็งแกร่งห้าวหาญยิ่ง
นางควบม้าและน้าวสายยิงธนูก่อนจะเหวี่ยงตัวลงมาฟาดฟันด้วยขวานศึก