-
(http://i.imgur.com/ZfCPv2w.png)
Character Database
Theme : แฟนตาซียุคกลาง (Medieval Fantasy)
Genre : เกมสวมบทบาท (Role-playing)
สารบัญ
★ ศัพท์ที่ควรทราบ - Glossary (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170504#msg170504)
★ ระบบคลาส - Class System (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170505#msg170505)
★ ทักษะการรบ - Martial Skill (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170506#msg170506)
★ ทักษะการเอาตัวรอด - Survival Skill (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170507#msg170507)
★ ทักษะความรู้ - Knowledge Skill (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170508#msg170508)
★ การจำแนกประเภทอาวุธ - Weapon Type (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170509#msg170509)
★ พื้นเพตัวละคร - Customary (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170510#msg170510)
★ เทวาและศาสนา - Deities and Religions (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170511#msg170511)
★ ปาฏิหารย์ - Miracle Domain (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170512#msg170512)
★ เวทมนตร์ - Arcane Magic (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170513#msg170513)
★ ภูมิธาติหลัก - Major Plane (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170514#msg170514)
★ ภูมิธาติรอง - Minor Plane (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170515#msg170515)
★ สิ่งของและอุปกรณ์ - Item and Equipment (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170516#msg170516)
★ ตัวอย่างข้อมูลตัวละคร (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1841.msg170517#msg170517)
-
Glossary - ศัพท์ที่ควรทราบ
Level
ระดับของผู้เล่นโดยรวม เป็นตัวกำหนดค่า MP สูงสุดของผู้เล่น เพิ่มขึ้นจากการสะสมค่า EXP จากการผจญภัย
MP
หรือ Mana Point เป็นตัวกำหนดค่ามนตราของตัวละคร ใช้กับทั้งปาฏิหารย์ของ Cleric, เวทมนตร์ของ Mage และ พลังยุทธของคลาสอื่น ๆ (เพลงยุทธได้มาจากการเรียนรู้ปละฝึกฝนตามเนื้อเรื่อง) บางครั้งสามารถใช้เป็นค่าเงินให้กับมอนส์เตอร์ด้วย (เช่น จ่ายให้กับพันธสัญญาปีศาจ)
Rank
ระดับของคลาสที่ผู้เล่นมี จากทั้งหมด 4 คลาส ได้แก่ นักสู้(Fighter), คนจร(Rogue), นักบวช(Cleric) และ จอมเวท(Mage)
Skill
ทักษะของตัวละคร แบ่งเป็นสามประเภท ได้แก่ Martial, Survival และ Knowledge ในแต่ละความสามารถแบ่งเป็น 4 ระดับ คือ Lesser, Minor, Greater และ Major
เมื่ออัพ rank แล้วได้รับskill สามารถอัพทักษะทับไปให้มีระดับเพิ่มขึ้นได้ โดยที่ระดับเดิมจะสามารถเปลี่ยนไปอัพทักษะอื่น ๆ ที่อยู่ในสายเดียวกัน
เช่น มี Lesser Alchemy อยู่แล้ว เมื่อถึงเลเวล 4 และ ต้องการ Minor Alchemy สามารถอัพให้เป้น Minor ได้ โดยที่ Lesser จะถูกดันไปให้ทักษะอื่นในสายเดียวกัน
Miracle
ปาฏิหารย์ เป็นประเภทหนึ่งของมนตรา ใช้โดยคลาส Cleric เป็นมนตราที่ได้รับจากเทวาที่ตนนับถือ แบ่งเป็น อาณา(Domain)
Arcane
เวทมนตร์ เป็นประเภทหนึ่งของมนตรา ใช้โดยคลาส Mage เป็นมนตราที่ได้จากการเชื่อมต่อเข้ากับภูมิธาติ(Elemental Plane)
Mastery
ความชำนาญอาวุธ แบ่งตามประเภทอาวุธ หากใช้อาวุธที่ไม่มีความชำนาญ จะต้อง -1 เต๋าความสำเร็จ เมื่อทำการโจมตี
Dice
ค่าเต๋า เป็นจำนวนที่ระบุความสามารถ มีด้วยกันสี่ค่าคือ กายภาพ(Physical), ประสาทสัมผัส(Sense), ความรู้(Lore), จิตวิญญาณ(Mind) วิธีการใช้งานคือ เมื่อบอกให้ทอยเต๋า (ชื่อ) Test จะทำการทอยเต๋าตามจำนวนดังกล่าว และนับเฉพาะเต๋าที่ออกค่า 8, 9 หรือ 10 เป็นเต๋าที่ "สำเร็จ"
เช่น ตัวละครมี 4 Physical จะทอยเต๋า 1d10x4 และนับจำนวนที่ออก 8 9 หรือ 10 ในการสรุปผล
-
ระบบคลาส - Class System
Level และ Rank
Level คือระดับโดยรวมของตัวละคร เป็นตัวประเมินค่าความสามารถและกำหนด MP สูงสุดของผู้เล่น การเพิ่ม Level เกิดขึ้นจากการเก็บค่า EXP จากการผจญภัยต่าง ๆ เมื่อค่า EXP มีมากกว่าหรือเท่ากับ (เลเวลปัจจุบัน x 2) + เลเวลถัดไป ค่านั้นจะถูกหักลบเป็นศูนย์และตัวละครจะอัพเวลต่อไปทันที
ตัวอย่าง ตัวละครเลเวล 2 มีค่า EXP 8 (8/7) ตัวละครจะขึ้นสู่เลเวล 3 โดยมี EXP 1 ทันที (1/10)
Rank คือระดับของคลาสที่ผู้เล่นมี แยกเป็นทั้งหมด 4 สายด้วยกัน ทุก ๆ ครั้งที่ตัวละครมีเลเวลเพิ่มขึ้น ผู้เล่นจะสามารถเพิ่ม Rank ของคลาสได้ ซึ่งผลประโยชน์จากการเพิ่ม Rank ดังกล่าว มีดังตารางต่อไปนี้
Fighter ---------------------------------------- Rank 1 + Lesser Martial Skill + สามารถสวมใส่ชุดเกราะ [Light] ได้ + Weapon Mastery
Rank 2 +1 Physical Dice + สามารถสวมใส่ชุดเกราะ [Heavy] ได้
Rank 3 + Lesser Martial Skill + Weapon Mastery
Rank 4 + Minor Martial Skill +1 Physical Dice
Rank 5 + Minor Martial Skill + Weapon Mastery
Rank 6 +1 Physical Dice + Weapon Mastery
Rank 7 + Greater Martial Skill
Rank 8 + Greater Martial Skill
Rank 9 + Major Martial Skill
Rank 10 + Major Martial Skill
| Rogue ---------------------------------------- Rank 1 + Lesser Survival Skill + เลือก Customary + Weapon Mastery (อาวุธเบา)
Rank 2 +1 Sense Dice + Lesser Survival Skill
Rank 3 + Minor Survival Skill + Weapon Mastery (อาวุธเบา)
Rank 4 + Minor Survival Skill +1 Sense Dice
Rank 5 + Minor Survival Skill + เลือก Customary
Rank 6 + Greater Survival Skill +1 Sense Dice
Rank 7 + Greater Survival Skill
Rank 8 + Greater Survival Skill
Rank 9 + Major Survival Skill
Rank 10 + Major Survival Skill
| Cleric ---------------------------------------- Rank 1 + Lesser Knowledge Skill + เลือกสังกัดเทพที่ตนนับถือ + Level 1 Domain Spell
Rank 2 +1 Lore Dice + ได้รับพรประจำเทพที่นับถือ
Rank 3 + Minor Knowledge Skill + Level 2 Domain Spell
Rank 4 +1 Lore Dice + ได้รับ Domain ที่สองของเทพที่นับถือ
Rank 5 + Minor Knowledge Skill + Level 3 Domain Spell
Rank 6 + Level 4 Domain Spell +1 Lore Dice
Rank 7 + ได้รับ Domain ที่สามของเทพที่นับถือ
Rank 8 + Greater Knowledge Skill
Rank 9 + Greater Knowledge Skill
Rank 10 + Major Knowledge Skill
| Mage ---------------------------------------- Rank 1 + Lesser Knowledge Skill + เลือกความถนัดของภูมิเวท 1 ภูมิ + Level 1 Arcane Spell
Rank 2 +1 Mind Dice + เลือกความถนัดของภูมิเวท 1 ภูมิ
Rank 3 + สามารถใช้เวทย์จากภูมิย่อยได้ + Level 2 Arcane Spell
Rank 4 + Minor Knowledge Skill +1 Mind Dice
Rank 5 + เลือกความถนัดของภูมิเวท 1 ภูมิ + Level 3 Arcane Spell
Rank 6 + Minor Knowledge Skill +1 Mind Dice
Rank 7 + Level 4 Arcane Spell
Rank 8 + Greater Knowledge Skill
Rank 9 + Greater Knowledge Skill
Rank 10 + Major Knowledge Skill
|
**นอกจากนี้**
ทุก ๆ เลเวลที่หาร 3 ลงตัว (3,6,9,12,15,18)
ผู้เล่นจะสามารถเลือกเพิ่มระดับ Martial Skill, Survival Skill หรือ Knowledge Skill ที่มีอยู่ขึ้น 1 ระดับ หรือ เพิ่ม 1 Skill ที่ตัวละครไม่รู้จักขึ้นมาในระดับ Lesser
ทุก ๆ เลเวลที่หาร 4 ลงตัว (4,8,12,16,20)
ผู้เล่นจะสามารถเลือกเพิ่มลูกเต๋าของตัวละครได้ 1 เต๋า (Physical, Sense, Lore, Mind)
มนตรา - Spell
มนตรามีสองประเภทคือ ปาฏิหารย์(Miracle) และ เวทมนตร์(Arcane) ค่าที่เป็นตัวกำหนดการใช้เวทมนตร์คือ MP หรือ Mana Point บางครั้งเรียกแค่มาน่าในเนื้อเรื่อง การร่ายมนตราแต่ละครั้งจะหักค่า MP ตามระดับ(Level) ของมนตรา ตัวละครจะใช้มนตราต่าง ๆ ได้อย่างอิสระจนกระทั้ง MP ไม่พอต่อการใช้งาน
ผู้เล่นยังสามารถใช้มนตราต่อไปได้แม้ค่า MP จะเป็นศูนย์ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ผู้เล่นจะต้องทอย Lore Test หรือ Mind Test (ขึ้นอยู่กับประเภทของมนตรา) ให้มีค่าความสำเร็จมากกว่าค่า MP ที่ไม่พอต่อการใช้มนตรานั้น ๆ หากสำเร็จผู้เล่นจะสามารถใช้มนตราได้ตามปกติ หากผิดพลาดจะถือว่ามนตรานั้นไม่สามารถร่ายได้สำเร็จ ทำให้ผู้เล่นเสียโอกาสทันที
-
ทักษะการรบ - Martial Skill
♞Animal Handling
ความสามารถในการควบคุม ดูแล หรือฝึกฝนสัตว์ใช้งาน อาทิ ม้า สุนัข เหยี่ยว หรือสัตว์เลี้ยงอย่างแมว นก หนู รวมไปถึงการฝึก/สยบสัตว์ป่าหรือมอนสเตอร์ประเภทสัตว์ที่พบในดันเจี้ยนอีกด้วย ระดับที่สูงขึ้นหมายถึงสามารถดูแลและฝึกฝนสัตว์ที่มีความยากขึ้นหรือสัตว์ที่แปลกประหลาดขึ้นได้ด้วย
ตัวอย่าง สุนัขบ้านค่อนข้างจะฝึกและดูแลง่าย อาจจะใช้แค่ระดับ Lesser ในการดูแลและฝึกฝน ขณะที่ม้าศึกแม้จะถูกเลี้ยงมาในสภาพที่คุ้นกับคน แต่ก็ยังต้องการการดูแลและความรู้ในด้านปศุสัตว์มากกว่า จึงต้องใช้อย่างน้อย ๆ ที่ระดับ Minor เป้นต้น
♞Battle Continuation
ความสามารถในการต่อสู้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือการต่อสู้ต่อเนื่องกับศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าฝ่ายของตน ส่งผลโดยตรงกับประสิทธิภาพการต่อสู้ของผู้เล่นเมื่อต้องฝ่าฟันอุปสรรค์ต่าง ๆ นานา ในดันเจี้ยน ตัวละครที่มีทักษะนี้จะต้องการการพักแรมน้อยกว่าตัวละครอื่น ๆ และสามารถต่อสู้ได้นานกว่าก่อนที่สมรรถนะทางกายจะเริ่มอ่อนลง
ตัวอย่าง ในบางครั้งเมื่อต่อสู้ไปนาน ๆ โดยไม่ได้พักผ่อน ตัวละครจะได้รับสถานะเหนื่อยล้าซึ่งจะลดจำนวนเต๋า Body และ Sense ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ตัวละครที่มีสกิลระดับนี้อย่างน้อย ๆ ที่ Lesser จะสามารถยื้อไม่ให้ตนเองเกิดอาการนี้ระหว่างต่อสู้ได้อย่างน้อย ๆ 2-3 นาที และในระดับ Greater อาจจะทนต่อสู้ไปก่อนได้ถึง 10-20 นาที ก่อนที่ร่างกายจะพ่ายแพ้ให้กับความเหนื่อยล้าสะสม
♞Discipline
ทักษะในด้านระเบียบวินัย เกี่ยวข้องกับการควบคุมสภาพจิตใจทั้งของตนเองในสภาวะที่จวนตัว เสียขวัญ หรืออ่อนแรง ส่งผลโดยตรงต่อการต่อต้านสถานะผิดปรกติหลาย ๆ อย่างที่อาจพบระหว่างเดินทางในดันเจี้ยน รวมถึงการต่อสู้ทางจิตใจกับการสะกดจิต เคลิบเคลิ้ม หรือหวาดกลัว เป็นต้น
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีค่านี้ในระดับ Lesser จะสามารถทอยเต๋า Body หรือ Mind (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์) เพื่อต่อต้านความผิดปกติที่เกี่ยวกับจิตใจได้ก่อนที่มันจะส่งผล ขณะที่ตัวละครที่มีทักษะนี้ในระดับสูงขึ้น อาจจะต้านความผิดปรกติบางอย่างโดยสิ้นเชิง
♞Inventory Management
ทักษะในการบริหารจัดการสัมภาระ มีประโยชน์ในการเดินทางไกลและผจญภัยพอสมควร ตัวละครที่มีทักษะนี้จะสามารถบรรจุของลงในกระเป๋า กระบอก หรือถุงที่มีติดตัวได้มากกว่าคนทั่วไปและเป็นระบบระเบียบมากกว่า ทำให้เมื่อถึงเวลาค้นหาสิ่งของที่ต้องการใช้งานหรือต้องการจะกักตุนอะไรสำหรับการเดินทาง จะมีปัญหาเกี่ยวกับสัมภาระน้อยลง
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครอาจจะสามารถหาช่องว่างในกระเป๋าสะพายในการใส่ของชิ้นเล็ก ๆ และจัดเรียงพวกข้าวของเครื่องใช้ได้อย่างเป็นระเบียบมากขึ้น ในระดับที่สูงขึ้นตัวละครจะเริ่มจัดแจงสัมภาระได้ดีขึ้นทำให้ของที่หอบไว้ไม่พะรุงพะรังรบกวนการเคลื่อนที่เวลาเดินทาง และลดเวลาเก็บข้าวของหลังจากนำออกมาใช้เวลาพักแรม
♞Leadership
ทักษะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการกระตุ้น ปลุกปั่น โน้มน้าว และควบคุมผู้คนในกลุ่มหรือทีมเดียวกัน ตัวละครที่มีทักษะนี้สามารถควบคุมสภาพจิตใจของคนในกลุ่มได้ดีเมื่อเกิดปัญหาไม่คาดฝันหรือถูกความผิดปรกติทางจิตใจ รวมถึงการแก้ปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกภายในกลุ่มที่ตนอยู่ได้อีกด้วย
ตัวอย่าง จะเริ่มเห็นผลเมื่อคนในกลุ่มเริ่มมีการไม่ลงรอยกัน เมื่ออยู่ในการดูแลตัวละครที่มีสกิลนี้ในระดับ Lesser อาจจะยอมร่วมมือกันในบางเรื่องเป็นครั้งคราวแม้จะไม่ถูกบีบบังคับ ตัวละครที่มีระดับ Minor ขึ้นไปจะสามารถทอยเต๋าเพื่อรู้ถึงปัญหาหรือเรียกสติของเพื่อนร่วมทีมที่มีความผิดปรกติได้
♞Machinery
ทักษะเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ส่งผลโดยตรงต่อความเข้าใจในเครื่องกลของตัวละคร อาทิเช่น ปืนไฟ จักรกลสงคราม กลไกฟันเฟือง หรือ ยานพาหนะ ตัวละครที่มีความสามารถนี้นอกจากจะใช้งานเครื่องจักรกลได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว อาจจะยังมีความสามารถในการซ่อมแซม บุรุงรักษา หรือประดิษฐ์จักรกลเหล่านั้นขึ้นมาอีกด้วย
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะมีความเข้าใจเครื่องจักรกลเหนือกว่าคนทั่ว ๆ ไป และสามารถซ่อมแซมเครื่องกลง่าย ๆ ได้ ที่ระดับ Minor ตัวละครจะเริ่มมีความรู้พอในการประดิษฐ์เครื่องกลของตัวเอง และในระดับที่สูงขึ้นไปอีกอาจจะสามารถสร้างเครื่องยนต์กลไกที่แปลกประหลาดที่มีการทำงานเฉพาะทางได้
♞Martial Art
ทักษะศิลปะการต่อสู้ เกี่ยวข้องกับความเข้าใจในการต่อสู้รูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะด้วยอาวุธสงคราม มือเปล่า หรือแม้กระทั่งศาสตร์พิเศษที่คิดค้นขึ้นเอง ตัวละครที่มีความสามารถนี้จะมีความเข้าใจศาสตร์การต่อสู้ต่าง ๆ มากกว่าคนทั่วไปและสามารถประเมินการต่อสู้ของศัตรูและมิตรที่มีสติปัญญาได้ในระดับหนึ่ง ร่วมถึงการเรียนรู้ คิดค้น หรือสอน ศาสตร์วิชาศิลปะป้องกันตัวต่าง ๆ กับผู้อื่นอีกด้วย
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะเริ่มเข้าใจศิลปะการต่อสู้ และสามารถทอยเต๋า Sense หรือ Lore เพื่อระบุเจาะจงถึงประวัติศาสตร์ จุดแข็งจุดอ่อนคร่าว ๆ ของศาสตร์การต่อสู้ที่เห็นได้ ในระดับที่สูงขึ้นไปอีกตัวละครจะสามารถประมวลและสังเคราะห์กระบวนท่าหรือวิชาการต่อสู้แบบใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับเชิงการต่อสู้ของตนเองได้อีกด้วย
♞Metalsmith
ทักษะงานช่างโลหะ มีความสัมพันธ์โดยตรงกับความสามารถของตัวละครเกี่ยวกับงานโลหะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการถลุงสินแร่และสังเคราะห์โลหะ ความรู้เรื่องชนิดของโลหะต่าง ๆ และความเหมาะสมในการเอามาใช้งาน การผลิตเครื่องมื่อเครื่องใช้ อาวุธหรือเครื่องป้องกันจากโลหะ รวมไปถึงงานฝีมือและเครื่องประดับที่ทำจากโลหะ เช่น ถ้วย มีด แหวน และ สร้อย เป็นต้น
ตัวอย่าง ในระดับ Lesser ตัวละครสามารถทำงานกับโลหะพื้นฐานอย่างดีบุก เหล็ก ทองแดง และสามารถสร้างเครื่องเมือเครื่องใช้ง่าย ๆ จากโลหะ เช่นหัวค้อน ใบขวาน มีด หรือคีม ในระดับที่สูงขึ้น ตัวละครจะเรียนรู้ถึงการผลิตอุปกรณ์และโลหะในระดับขั้นต่อไป รวมถึงโลหะที่มีคุณสมบัติพิเศษบางชนิด เช่นเหล็กเย็น อดาแมนเที่ยม มิทรัล หรือ ออโรรัม เป็นต้น
♞Poison Tolerance
เทคนิคการฝึกฝนร่างกายให้ทนต่อพิษโดยการค่อย ๆ เสพพิษชนิดต่าง ๆ ทีละน้อย ๆ และเพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถต่อต้านและทนผลกระทบต่อพิษชนิดต่าง ๆ ได้เหนือกว่าคนทั่วไป ตัวละครที่มีทักษะนี้จะสามารถทนพิษชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะรับมาจากทางอาหาร บาดแผล หรืออากาศ แม้จะไม่ได้ป้องกันความเสียหายต่อร่างกายอย่างสมบูรณ์ก็ตาม
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถทนพิษอ่อน ๆ ของพืชหรือเห็กบางชนิด หรือลดอาการแพ้จากแมลงกัดต่อย ในระดับที่สูงขึ้นไปตัวละครจะเริ่มป้องกันและต่อต้านพิษที่มักพบบ่อยในดันเจี้ยนที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
♞Warfare
ทักษะการสงคราม ส่งผลโดยตรงเกี่ยวกับความรู้ความสามารถในการสู้รบกับศัตรูหมู่มากและวางแผนทางยุทธศาสตร์ของตัวละคร ทักษะนี้จะทำให้ตัวละครสามารถอ่านสถานการณ์ในความวุ่นวายของการต่อสู้และรับรู้แผนการของศัตรูได้ดีกว่าคนทั่วไป เหมาะสำหรับตัวละครที่ต้องการต่อสู้กับศัตรูหมู่มากหรือการต่อสู้ที่ต้องการระบบระเบียบในการวางแผนรับมือ
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะเริ่มอ่านการเคลื่อนไหวและคาดเดาขั้นต่อไปของกลุ่มศัตรูที่ต่อก่อนได้ ในระดับ Minor ตัวละครจะสามารถให้ข้อมูลของแผนการกับคนในทีมหรือทหารรับจ้างใต้การควบคุม ที่ระดับสูงขึ้นไปอีกกลยุทธ์ต่าง ๆ และตัวแปรเช่นชัยภูมิ สภาพพื้นที่ กำลังรบ และเทคนิคสำคัญ ๆ จะปรากฏต่อตัวละครแม้จะไม่ได้ครุ่นคิดอย่างจริงจัง
♞Wound Treatment
ทักษะทางการแพทย์ จริงอยู่ที่เวทมนตร์อาจจะรักษาแผล ถอดพิษ หรือฟื้นพลังชีวิตได้อย่างฉับพลัน แต่ศาสตร์การแพทย์นั้นเน้นที่การดูแลรักษาอย่างยั่งยื่น เวทมนตร์อาจจะเชื่อมกระดูกได้แต่ไม่ดูแลดี ๆ กระดูกก็กลับมาเปราะหัก แผลอาจจะสมานจากยาวิเศษแต่การดูแลเรื่องติดเชื้อและหนองนับเป็นศาสตร์การแพทย์ทั้งสิ้น ตัวละครที่มีทักษะนี้จะสามารถรักษาเยียวยาและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ ตั้งแต่เย็บแผลเล็ก ๆ ไปจนถึงการผ่าตัดที่ซับซ้อน
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะรู้ถึงการปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้งหมด รวมถึงการเย็บแผลหรือเข้าเฝือกเบื้องต้น ในระดับที่สูงขึ้นไปตัวละครจะมีความรู้ความสามารถพอที่จะรักษาดูแลอาการหรือแผลเรื้อรังจากเหตุร้ายระหว่างการผจญภัยต่าง ๆ ด้วยอุปกรณ์เท่าที่มี
-
ทักษะการเอาตัวรอด - Survival Skill
☘Acrobatic
ทักษะกายกรรมโลดโผน มีผลโดยตรงกับการเคลื่อนที่และทรงตัวของตัวละครในพื้นที่หรือสถานการณ์ที่คนทั่วไปอาจจะทำได้ยาก อาชิเช่น การทรงตัวบนเส้นเชือก การโหนหรือไต่ต้นไม้ ทรงตัวด้วยแขนและมือแทนที่จะเป้าเท้า หรือการกระโดดโลดโผนผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เป็นต้น
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะเริ่มทรงตัวและปีนป่ายเคลื่อนที่ได้ดีกว่าคนทั่ว ๆ ไปที่มีทักษะทางกายภาพใกล้เคียงกัน ที่ระดับ Minor การเคลื่อนที่ผ่านอุปสรรคยาก ๆ จะเริ่มไม่เป็นปัญหา ตัวละครจะสามารถปากัวร์(Parkour) บนเส้นทางต่าง ๆ ที่อาจเข้าถึงยากสำหรับคนทั่วไป ในระดับที่สูงขึ้นไปอีกตัวละครจะมีทักษะกายกรรมเหนือชั้นและแทบจะเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ตามใจนึก
☘Artisan
ทักษะงานช่างฝีมือ เกี่ยวของกับความเข้าใจในงานฝีมือและความสามารถในการซ่อมแซม ประกอบ หรือประดิษฐ์งานฝีมือบางชนิด ทักษะนี้ครอบคลุมงานเกี่ยวกับไม้ หนัง และผ้า เป็นหลัก ตัวละครจะเข้าใจถึงวัสดุเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุแบบธรรมดา หรือวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษที่อาจพบได้ในดันเจี้ยน และสามารถนำมาใช้ในงานประดิษฐ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่าง ในระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถทำงานประดิษฐ์จากวัสดุเบื้องต้นได้ เช่นไม้ไผ่ ขนสัตว์ หนังสัตว์ ผ้าฝ้าย กระดูก และสามารถใช้เวลาผลิตหรือซ่อมแซมเครื่องมือจากวัสดุเหล่านั้นอย่างง่าย ๆ ได้ เช่นลูกดอกหน้าไม้ ลูกธนู ถุงผ้า/หนัง ในระดับที่สูงขึ้นไปตัวละครจะเริ่มมีความรู้ในการนำวัสดุมาใช้ในงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป้นวัสดุระดับสูงอย่างไม้เนื้อแข็ง หรือผ้าฝ้าย หรือวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษหรือเวทมนตร์ เช่นไอร่อนวู้ด ดาร์กวู้ด หนังมอนสเตอร์ ใยแมงมุม เป็นต้น
☘Artistry
ทักษะงานศิลปะ ครอบคลุมในส่วนของงานวาดเขียน จิตรกรรม และ งานปั้น เป็นหลัก ตัวละครที่มีทักษะนี้จะมีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะหรือประยุกต์ใช้ความสามารถนั้นกับงานที่ต้องการ เช่น การเขียนแผนที่ หรือหนังสือ เป็นต้น นอกจากนี้ตัวละครที้มีความสามารถในด้านนี้ยังสามารถเข้าใจงานศิลปะและทฤษฏีที่เกี่ยวข้องกับการสร้างผลงานได้ดีกว่าคนทั่วไป
ตัวอย่าง ที่ระดับต้น ๆ ตัวละครจะสามารถวิเคราะห์ชิ้นงานศิลปะได้ละเอียดกว่าคนอื่น ๆ และสามารถสร้างผลงานของตัวเองได้ในระดับหนึ่งหากมีเวลามากพอ ยิ่งระดับสูงขึ้น ตัวละครก็ยิ่งสามารถถ่ายทอดความคิดลงไปสู่ชิ้นงานได้ละเอียดมากยิ่งขึ้นไปอีก
☘Brewing
ทักษะความสามารถในการกลั่นต้ม ใช้สำหรับการทำสุราเป็นหลัก แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการสกัดสรรพคุณของพืชต่าง ๆ เช่นตัวยาพิษ ยานอนหลับ หรือการทำเครื่องใช้บางอย่างเช่นสบู่ น้ำมัน หรือกาว เป็นต้น ตัวละครที่มีความสามารถนี้จะสามารถเข้าใจถึงธรรมชาติของวัสดุในสิ่งรอบ ๆ ตัวและสามารถดึงสรรพคุณต่าง ๆ ออกมาใช้ได้แม้จะไม่พึ่งความสามารถทางเวทมนตร์ก็ตาม
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีระดับ Lesser จะสามารถสกัดและผลิตยาหรือเครื่องอุปโภคขั้นต้นได้ ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่มี แต่จะไม่สามารถทำอะไรซับซ็อนมากนัก ตัวละครที่มีทักษะนี้ระดับสูงขึ้นและมีอุปกรณ์พร้อมจะสามารถสร้างเครื่องใช้และอุปโภคต่าง ๆ จากวัตถุดิบระดับสูงขึ้นได้แม้จะอยู่ในดันเจี้ยน
☘Culinary
ทักษะในการปรุ่งและแปรรูปอาหาร ใช้ในการปรุงแต่งอาหารจากวัตถุดิบที่ผู้เล่นมี การปรุงแต่งอาหารมีความสำคัญในการผจญภัยระยะยาวเนื่องจากการทานอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ตามหลักโภชนาการนั้นเป็นไปได้ลำบากเมื่ออยู่นอกเขตแดนของเมือง ตัวละครที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้จะสามารถแปรรูปวัตถุดิบต่าง ๆ ที่อาจจะซื้อมาจากร้านค้า เก้บเกี่ยวจากการผจญภัย หรือแล่ออกมาจากมอนสเตอร์ มาเปลี่ยนเป็นอาหารได้
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะรู้วิธีการปรุงอาหารสำหรับเอาตัวรอดทั่วไป เช่น ต้ม ปิ้ง ย่าง จากวัตถุดิบที่ไม่ซับซ้อนนัก เช่น ผักป่า เนื้อสัตว์ ในระดับที่สูงขึ้น ตัวละครจะสามารถปรุงอาหารด้วยวิธีการที่ซับซ้อนขึ้นได้แม้จะมีอุปกรณ์จำกัด และยังสามารถปรุงอาหารจากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์ได้อีกด้วย
☘Escape Artist
ทักษะการหลบหนีออกจากพันธนาการ ตัวละครที่มีทักษะนี้มีความรู้และความเข้าใจในศาสตร์ของการหลบหนีกว่าคนทั่วไป ทำให้สามารถปลดร่างตัวเองจากพันธนาการต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนเชือก กุณแจมือ บ่วงบาศก์ โซ่ หรือแม้กระทั่งหลบหนีออกจากการรัดกุมของมอนสเตอร์
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถปลดพันธนาการของมือทั้งสองข้างออกจากเชือกได้ ในระดับยิ่งสูงขึ้นตัวละครก็จพสามารถปลดตัวเองจากพันธนาการที่ซับซ้อนขึ้นตามลำดับ
☘Gathering
ทักษะการเก็บเกี่ยว มีผลโดยตรงกับความรู้ความสามารถของตัวละครในการเก็บเกี่ยวสิ่งของที่อยู่ตามธรรมชาติมาเพื่อใช้งาน สิ่งของเหล่านี้ครอบคลุมถึง พืชผักในป่า ไม้ฟืน ก้อนหิน รังสัตว์หรือแมลง และวัตถุดิบต่าง ๆ ที่อาจจะเป็นประโยชน์ในการประดิษฐ์หรือผลิตสิ่งต่าง ๆ ในสถานการณ์จำเป็น
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถเก็บเกี่ยวอาหารและวัตถุดิบเบื้องต้นจากสิ่งแวดล้อมได้ เช่นเห็ด ไม้ฟืน พืชสมุนไพรง่าย ๆ ในระดับที่สูงขึ้นตัวละครจะมีความรู้ความสามารถพอที่จะเก็บเกี่ยววัสดุและวัตถุดิบระดับสูงขึ้น เช่น รังผึ้ง เป็นต้น
☘Hunting
ทักษะการล่าสัตว์ มีผลต่อความรู้ความสามารถของตัวละครในการล่าสัตว์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการล่าด้วยอาวุธ หรือวางกับดักก็ตาม ตัวละครที่มีทักษะนี้จะสามารถเข้าใจถึงพฤติกรรมของสัตว์ป่าและรู้วิธีในการล่าสัตว์ป่าได้ดีกว่าคนทั่วไป
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถล่าสัตว์เล็ก ๆ เช่นกระรอก หนู หรือกระต่าย ได้ด้วยการทำกับดัก ที่ระดับสูงขึ้นมาอีกตัวละครจะเริ่มมีความสามารถในการมองหาช่องโหว่ของสัตว์หรือมอนสเตอร์ประเภทสัตว์ได้
☘Lockpicking
ทักษะการสะเดาะกลอน มีผลต่อความสามารถในการปลดกลอนหรือกุญแจต่าง ๆ ด้วยอุปกรณ์ที่ตนมี ไม่ว่าจะเป็นกลอนประตู กุญแจหีบสมบัติ หรือกลไกต่าง ๆ นานา ที่สามารถปลดให้เปิดออกได้ ยิ่งมีทักษะนี้ในระดับสูงขึ้นเท่าไหร่ ตัวละครก็สามารถปลดล๊อคที่ซับซ้อนได้มากขึ้นเท่านั้น
☘Perform
ทักษะการแสดง ครอบคลุมความรู้ความสามารถในด้านการแสดงเช่นการเล่นเครื่องดนตรี เต้นระบำ เล่าเรื่อง หรือการโชว์มายากลเป็นหลัก มีผลต่อความรู้ความเข้าใจในศาสตร์นาฏยกรรมของตัวละคร ทั้งการแสดงด้วยตนเองหรือวิเคราะห์การแสดงของตัวละครอื่น ๆ
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครอาจจะมีการแสดงที่ตนถนัด 1 อย่าง และสามารถเรียนรู้วิชาการแสดงจากการฝึกฝนได้ แต่ต้องใช้เวลานาน ยิ่งในระดับที่สูงขึ้น ตัวละครก็อาจจะมีความถนัดทางการแสดงหลายด้านและมีฝีมือมากยิ่งขึ้นจนสามารถผสมผสานการแสดงเข้ากับเวทมนตร์หรือการต่อสู้ได้
☘Speechcraft
วาทศิลป์ มีผลต่อการพูดโน้มน้าว ยั่วยุ เจรจา หรือหลอกลวง ตัวละครที่มีทักษะนี้สูงขึ้นมีโอกาสที่จะทำให้คู่สนทนาเชื่อในคำพูดและดำเนินตามจุดประสงค์ของตนได้ง่ายขึ้นมากกว่าตัวละครทั่วไป
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถผูกมิตรกับสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาหรือคนอื่น ๆ ที่ไม่เป็นศํตรูได้อย่างง่ายดาย ที่รัดับสูงขึ้นไปอีกตัวละครก็อาจจะโน้มน้าวจิตใจของตัวละครที่ระแวงผู้เล่นอยู่หรือเป็นศัตรูได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
☘Stealth
ทักษะการพรางกาย ตัวละครที่มีความสามารถนี้จะมีความรู้ความสามารถในการอำพรางร่างกายให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่าคนทั่วไป มีประโยชน์ทั้งในการต่อสู้และการหลบเลี่ยงการต่อสู้ ยิ่งตัวละครที่มีทักษะนี้มากก้ยิ่งมีความสามารถในการพรางตัวสูง อาจจะพรางตัวในที่ ๆ คนทั่วไปไม่สามารถทำได้
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครอาจจะไม่มีปัญหาในการอำพางร่างกายในพื้นที่รกชัฏหรือในความมืด ที่ระดับสูงขึ้น ตัวละครอาจจะซ่อนตัวและสามารถเคลื่อนที่ไปในสิ่งแวดล้อมที่ตนซ่อนตัวอยู่ได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตได้ทัน
☘Tracking
ทักษะการตามรอยและสะกดรอย มีประโยชน์ทั้งกับการล่าสัตว์เพื่อเอาตัวรอด และการตามหาคน สัตว์ สิ่งของที่ต้องการ ตัวละครที่มีทักษะนี้จะรู้จักการมองหาร่องรอยของสิ่งที่ตนกำลังตามหาและวิเคราะห์ถึงร่องรอยต่าง ๆ ที่อาจะหลงเหลือไว้ และสามารถคาดคะเนเรื่องราวในอดีตได้จากร่องรอยดังกล่าว
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser การตามรอยสัตว์จะค่อนข้างง่ายและไม่เป็นปัญหา ที่ระดับ Minor ตัวละครอาจจะสามารถพบเห็นร่องรอยแม้จะมีการปิดบังหรือปกปิดเอาไว้ไม่ว่าจะด้วยการกลบเกลื่อนหลอกตาหรือด้วยเวทมนตร์ก็ดี ในระดับที่สูงขึ้นไปอีกตัวละครจะสัมผัสและรับรู้เรื่องราวคร่าว ๆ ได้จากร่องรอยที่หลงเหลือเอาไว้
☘Trap Disarming
ทักษะการปลดกับดัก เกี่ยวข้องกับความรู้ความสามารถในการมองเห็นและปลดกับดักของตัวละคร ตัวละครที่มีความสามารถนี้จะเข้าใจกับดักต่าง ๆ ได้ดีกว่าตัวละครทั่วไปเป็นพิเศษ และรู้วิธีกระตุ้นและทำลายกับดักนั้น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นกับดักที่พบในดันเจี้ยน การผจญภัย หรือกับดักทั่ว ๆ ไปอย่างกับดักสัตว์ป่าก็ตาม
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีความสามารถนี้ในระดับ Lesser จะสามารถมองเห็นและปลดกับดักทั่ว ๆ ไปเล่นกับดักตามโถงทางเดินในดันเจี้ยน กับดักสัตว์ ที่ระดับสูงยิ่งขึ้น ตัวละครอาจจะปลดกับดักที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้ เช่น กับดักหีบสมบัติ กับดักพ่นไฟ เป็นต้น
-
ทักษะความรู้ - Knowledge Skill
♾Alchemy
ความรู้ในด้านการเล่นแร่แปรธาตุ ตัวละครที่มีความสามารถนี้จะมีความรู้เรื่องสิ่งที่จำเป็นในการส้รางน้ำยาวิเศษ และจะสามารถสร้างน้ำยาวิเศษที่ส่งผลต่าง ๆ ทางเวทมนตร์ได้หากมีวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่จำเป็นเพียงพอ ยิ่งมีระดับสูงขึ้นก็ยิ่งสามารถสร้างน้ำยาเวทมนตร์ที่ส่งผลซับซ้อนขึ้นได้
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะรู้สูตรของน้ำยาเวทมนตร์ทั่ว ๆ ไป เช่นยาฟื้นพลังชีวิต ระเบิดขวด กรด เป็นต้น ที่ระดับสูงขึ้นไปอีกตัวละครก็จะมีความรู้ในการผลิตน้ำยาวิเศษมากขึ้น เล่นน้ำยาที่เปลี่ยนไม้หรือเหล็กให้กลายเป็นเงินชั่วคราวเพื่อปราบปีศาจ หรือเปลี่ยนตะกั่วเป็นทอง เป็นต้น
♾Arcane
ความรู้ในศาสตร์เวทย์ลี้ลับ ไม่ได้มีผลโดยตรงในการใช้เวทมนตร์ แต่ตัวละครที่มีความรู้ในด้านนี้จะสามารถวิเคราะห์พื้นฐานร่องรอยเวทมนตร์หรือสัตว์ประหลาดเวทมนตร์ได้ดีกว่าคนทั่ว ๆ ไป ร่วมทั้งการวิเคราะห์และหาช่องโหว่ของกับดักเวทมนตร์ อาคมเวทย์หรือขอบข่ายเวทมนตร์ต่าง ๆ อีกด้วย
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะมีความรู้มากพอที่จพแยกแยะได้ว่าอะไรที่เกิดจากเวทมนตร์หรือไม่ และสามารถตามร่องรอยของเวทมนตร์ไปยังต้นกำเนิดได้ ที่ระดับสูงยิ่งขึ้น ตัวละครก็จะยิ่งมีความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์ที่ซํบซ้อนขึ้นได้
♾Architecture
ความรู้ทางด้านสถาปัตยากรรม และสิ่งปลูกสร้าง ตัวละครที่มีความรู้ในด้านนี้จะสามารถวิเคราะห์และตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารต่าง ๆ ได้ละเอียดกว่าคนทั่ว ๆ ไปและมีโอกาสรับรู้ว่าสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ นั้นถูกสร้างขึ้นจากจุดประสงค์อะไรจากการวิเคราะห์สิ่งที่เห็นด้วยตาเปล่าเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผลต่อการตีความปริศนาทางสถาปัตยกรรมอีกด้วย
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถมองออกว่าสิ่งปลูกสร้างที่ตนสำรวจอยู่เกิดจากอารยธรรมใดและถูกสร้างขึ้นทำไม ยิ่งมีระดับสูงขึ้นก็ยิ่งทำให้มีความรู้เกี่ยวกับอารยธรรมที่เก่าแก่หรือลี้ลับมากยิ่งขึ้นได้
♾Artificer
ความรู้ในการสังเคราะห์เวทมนตร์ มีผลต่อการประดิษฐ์วัตถุเวทมนตร์ที่ส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวละครที่มีความรู้ด้านนี้จะสามารถจำลองหรือประจุเวทมนตร์ต่าง ๆ ลงในไอเทมสำหรับการใช้งานได้ หากมีวัตถุดิบหรืออุปกรณ์เพียงพอที่จะสร้างมัน นอกจากนี้ยังมีผลกับการประจุเวทมนตร์ลงบนอุปกรณ์สวมใส่หรืออาวุธอีกด้วย
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครอาจจะประดิษฐ์ไอเทมเวทมนตร์ง่าย ๆ ที่สามารถเลียนแบบเวทมนตร์ธาตุต่าง ๆ ในขั้นต้น ในระดับ Minor ตัวละครจะสามารถทำให้อาวุธธรรมดามีผลทางเวทมนตร์ได้หากวัตถุดิบเพียงพอ ยิ่งมีระดับสูงขึ้นความซํบซ็อนของชิ้นงานก็ยิ่งมากขึ้นไปด้วย
♾Cryptography
ความรู้ด้านการถอดรหัส มีผลต่อความเร็วและระดับความซับซ้อนของรหัสที่ตัวละครจะถอดได้ ความสามารถนี้คลอบคลุมทั้ง รหัสลับ จดหมายที่ใช้ภาษาแฝง คำใบ้ และปริศนาคำทาย ตัวละครที่มีความรู้ในด้านนี้จะสามารถทั้งถอดรหัสและสร้างรหัสลับขึ้นมาเอง
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถอ่านจดหมายที่ใส่รหัสอย่างง่าย ๆ ได้หากใช้เวลาสักหน่อย หรือสามารถถอดรหัสจากปริศนาคำทายที่พบได้ ในระดับที่สูงขึ้นตัวละครจะสามารถแก้รหัสและปริศนาที่มีระดับสูงขึ้นได้ไวกว่าคนทั่วไป
♾Dungeoneering
ความรู้ในศาสตร์ของการสร้างดันเจี้ยน ตัวละครที่มีความรู้ในด้านนี้จะสามารถอ่านดันเจียนที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะได้ดีกว่าคนทั่วไปก รวมถึงความรู้ในเรื่องมอนสเตอร์ที่จะพบได้จากการมีอยู่ของดันเจี้ยนเท่านั้น เช่นสไลม์ เป้นต้น ยิ่งมีความรู้ในด้านนี้มากเท่าไหร่ ตัวละครก็จะคาดเดาและวิเคราะห์ดันเจี้ยนได้เร้วขึ้นเท่านั้น
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถวิเคราะห์สไลม์ระดับต้น ๆ หรือมองหาช่องโหว่ของดันเจี้ยนหรือสามารถรับรู้ถึงจุดประสงค์คร่าว ๆ ของดันเจี้ยนนั้น ๆ ได้จากการสำรวจแบบพิมพ์ที่มันถูกสร้างตามขึ้นมา ในระดับที่สูงขึ้น ตัวละครก็จะสามารถเข้าใจดันเจี้ยนที่ซับซ็อนขึ้นได้อีก
♾Geography
ความรู้ในด้านภูมิศาสตร์ ตัวละครที่มีความรู้ในด้านนี้จะสามารถเข้าใจถึงพื้นที่ทางธรรมชาติได้ดีกว่าคนอื่น ๆ ตัวละครจะมีความรู้ความเข้าใจทั้งด้านภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ทรัพยากรและสัตว์ในพื้นที่ รวมถึงจุดที่น่าสนใจต่าง ๆ ในธรรมชาติอีกด้วย
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีความรู้นี้ระดับ Lesser จะสามารถมองหาลำน้ำและรู้ถึงระดับความสูงของภูเขาที่อยู่ไกล ๆ หรือเข้าใจสภาพของป่าไม้ ในระดับที่สูงขึ้นไปตัวละครอาจจะสามารถวิเคราะห์สิ่งที่ซับซ็อนขึ้นไปอีกได้เช่นเส้นอุโมงค์ในภูเขา วงจรของถ้ำต่าง ๆ และปรากฏการณ์ประหลาดทางธรรมชาติ
♾Herbalism
ความรู้ด้านพืชสมุนไพร ตัวละครที่มีความรู้ด้านนี้จะสามารถจดจำลักษณะของพืชพรรณต่าง ๆ รวมทั้งองค์ประกอบทางสมุนไพรของพืชแต่ละชนิด พภร้อมทั้งความสามารถในการอ่านสรรพคุณและการผสมผสานสัดส่วนต่าง ๆ ของพืชสมุนไพรเพื่อให้มันแสดงผลทางยาหรือทางเวทมนตร์ออกมาได้
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีทักษะนี้ในระดับ Lesser จะเข้าใจถึงลักษณะของโรคภัยต่าง ๆ และตัวยาในการบรรเท่า เยียวยา หรือรักษาอาการเบื้องต้น ในระดับที่สูงขึ้น ตัวละครสามารถสร้างตัวยาที่แสดงผลอย่างซับซ้อนหรือรักษาโรคที่ร้ายแรงได้
♾History
ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ครอบคลุมทั้งด้านสังคมวิทยา การเมือง สงคราม และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มีการบันทึกในอดีต ตัวละครที่มีความรู้ในด้านนี้จะสามารถจดจำและเข้าใจเหตุการณ์ในอดีตเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ จากบันทึกหลักฐานในอดีต นอกจากนั้นยังรวมถึงพวกเรื่องราวของ สัตว์ประหลาดหรือมอนสเตอร์ที่ถูกบันทึกในตำนานหรือจารึกต่าง ๆ อีกด้วย
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีทักษะนี้อย่างน้อยในระดับ Lesser จะสามารถจดจำเรื่องราวเหตุการณ์ในอดีตคร่าว ๆ ของสถานที่ส่วนมากได้ ยิ่งมีความรู้ด้านนี้สูงขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งรู้ถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในอดีตมากยิ่งขึ้น
♾Linguistics
ความรู้ด้านภาษาศาสตร์ ตัวละครที่มีความรู้ด้านนี้จะสามารถพูดคุย อ่าน เขียน ภาษานอกจากภาษาแต่กำเนิดของตนได้ดีและสามารถเรียนรู้ภาษาใหม่ ๆ ได้เร็วกว่าคนทั่วไป รวมถึงการถอดอักขระและแปลถ้อยคำจากจารึก บันทึก ของภาษาโบราณซึ่งมักพบเห็นได้บ่อยในโบราณสถานและดันเจี้ยนต่าง ๆ
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีทักษะนี้ในระดับ Lesser จะรู้ภาษาของเผ่าพันธุ์ทั่ว ๆ ไปในระดับที่พูดคุยได้ ที่ระดับ Minor จะสามารถสื่อสารด้วยภาษาต่าง ๆ และเริ่มรู้จักภาษาโบราณต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น
♾Mercantile
ความรู้ในด้านเศรษฐศาสตร์และการค้าขาย ตัวละครที่มีความรู้ความสามารถด้านนี้จะสามารถประเมิณคุณค่าของสินค้าต่าง ๆ และเข้าใจถึงระบบกลไกการตลาดคร่าว ๆ ได้จากการสำรวจตลาด นอกจากนี้ตัวละครยังมีความสามารถในการทำบัญชีและบริหารธุรกิจระดับต้น ๆ
ตัวอย่าง ที่ระดับ Lesser ตัวละครจะสามารถประเมินราคากลางของวัตถุที่ตนมีอยู่ได้ โดยอ้างอิงจากวัสดุและราคาของวัสดุในตลาด ในระดับที่สูงขึ้นตัวละครจะเริ่มมีความรู้มากพอที่จะประเมินราคาของวัตถุนั้น ๆ โดยการเอาตัวแปรของอุปสงค์ อุปทาน แลพคุณค่าทางจิตใจต่าง ๆ นานามาใช้ในการประเมินด้วย
♾Religion
ความรู้ในด้านศาสนาและเทววิทยา ตัวละครที่มีความรู้ในเรื่องนี้จะสามารถวิเคราะห์ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติต่าง ๆ ว่ามันเกิดจากปาฏิหารย์ของสิ่งศํกดิ์สิทธิ์หรือไม่ และสามารถวิเคราะห์พิธีกรรมหรือสถานที่ทางศาสนาในสถานที่ต่าง ๆ รวมทั้งองค์ความรู้เกี่ยวกับเทพที่มีผู้คนนับถือ ทั้งในวงศาสนาและพวกนอกรีต
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีทักษะนี้อย่างน้อยในระดับ Lesser จะมีความรู้เกี่ยวกับเทพเด่น ๆ มากพอที่จะรู้ได้ว่าพิธีกรรมหรือปาฏิหารย์ใดเป็นของเทพองค์ไหนเพียงแค่ใช้สายตามอง ในระดับที่สูงยิ่งขึ้นก็ยิ่งสามารถถอดรายละเอียดและลงลึกถึงปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักได้
♾Spellcraft
ความรู้ในด้านพิธีกรรมเวทมนตร์ ตัวละครที่มีความรู้ในด้านนี้จะสามารถระบุพื้นฐานของอักขระเวทมนตร์หรือพิธีกรรมเวทมนตร์ต่าง ๆ ซึ่งมักจะมีความเกี่ยวเนื่องกับปีศาจ หากมีความรู้ในด้านนี้สูงพอ ตัวละครอาจจะมีความรู้ความสามารถมากเพียงพอที่จะประกอบพอธีกรรมหรือสร้างอักษรเวทมนตร์ด้วยตนเอง
ตัวอย่าง ตัวละครที่มีความรู้นี้ในระดับ Lesser จะสามารถรับรู้แลัตรวจสอบพิธีกรรมเวทมนตร์ต่าง ๆ ในระดับที่สูงขึ้นไปตัวละครอาจจะสามารถรู้ถึงขั้นตอนการประกอบพิธีกรรมหรือสร้างม้วนตำราเวทมนตร์ขึ้นมาสำหรับใช้งาน
-
การจำแนกประเภทอาวุธ - Weapon Type
Martial อาวุธสงคราม
⚔Axe อาวุธประเภทขวาน สร้างความเสียหายแบบทุบและเฉือนในเวลาเดียวกัน ทำความเสียหายสูงพอตัว แต่ความคล่องตัวค่อนข้างต่ำ
⚔Curved sword อาวุธประเภทดาบโค้ง สร้างความเสียหายแบบเฉือนเป็นหลัก มีความคล่องตัวค่อนข้างสูง
⚔Flail อาวุธประเภทโซ่และลูกตุ้ม สร้างความเสียหายแบบทุบ ระยะขึ้นอยู่กับความยาวของโซ่ ใช้ความสามารถในการใช้งานพอสมควร ความคล่องตัวต่ำ
⚔Halberd อาวุธประเภทง้าว มีระยะมากกว่าอาวุธทั่วไป สร้างความเสียหายแบบเฉือนเป็นหลัก มีความคล่องตัวปานกลาง
⚔Hammer อาวุธประเภทค้อน สร้างความเสียหายแบบทุบอย่างรุนแรง มีความคล่องตัวต่ำ
⚔Bow อาวุธประเภทธนู ยิงระยะไกล ใช้ลูกธนู สร้างความเสียหายแบบแทง ต้องใช้ทักษะพอสมควรในการใช้งาน
⚔Mace อาวุธประเภทคฑา สร้างความเสียหายแบบทุบตี ระยะค่อนข้างต่ำ มีความคล่องตัวค่อนข้างสูง
⚔Scythe อาวุธประเภทเคียว มีระยะมากกว่าอาวุธทั่วไป สร้างความเสียหายแบบเฉือน สามารถใช้เกี่ยวเพื่อรบกวนศัตรู มีความคล่องตัวค่อนข้างต่ำ
⚔Shield อาวุธประเภทโล่ ใช้ป้องกันเป็นหลัก สร้างความเสียหายแบบทุบตี ความคล่องตัวปานกลาง
⚔Spear อาวุธประเภทหอก มีระยะมากกว่าอาวุธทั่วไป สร้างความเสียหายแบบแทงเป็นหลัก ความคล่องตัวค่อนข้างสูง
⚔Straight Sword อาวุธประเภทดาบตรง สามารถสร้างความเสียหายได้ทั้งแบบแทงและเฉือน ความคล่องตัวค่อนข้างสูง
Civilian อาวุธเบา
⚔Dagger อาวุธประเภทมีดสั้น ระยะต่ำ สร้างความเสียหายแบบแทงเป็นหลัก เฉือนเป็นรอง มีความคล่องตัวสูง
⚔Crossbow อาวุธประเภทหน้าไม้ ยิงระยะไกล ใช้ลูกดอก สร้างความเสียหายแบบแทง
⚔Gauntlet อาวุธประเภทสนับ ระยะต่ำ สร้างความเสียหายแบบทุบเป็นหลัก ความเสียหายรองขึ้นอยู่กับประเภท มีความคล่องตัวสูง
⚔Rapier อาวุธประเภทดาบแทง สร้างความเสียหายแบบแทง มีความคล่องตัวค่อนข้างสูง
⚔Staff อาวุธประเภทกระบอง มีระยะมากกว่าอาวุธทั่วไป สร้างความเสียหายแบบทุบตี ความคล่องตัวปานกลาง
⚔Throwing อาวุธประเภทปา โจมตีระยะไกล(น้อยกว่าหน้าไม้และธนู) สร้างความเสียหายแล้วแต่ประเภท
⚔Whip อาวุธประเภทแส้ สร้างความเสียหายแบบเฉือนเป็นหลัก มีระยะมากกว่าอาวุธทั่วไป ความคล่องตัวต่ำ
-
พื้นเพตัวละคร - Customary
♟Aristocrat
ตัวละครที่มีพื้นเพนี้จะเข้าใจถึงขนบธรรมเนียมของชนชั้นสูงและการปฏิบัติตัวภายในสังคมชั้นสูงเป็นพิเศษ และสามารถเข้าถึงชนชั้นสูงได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
♟Commoner
ตัวละครที่มีพื้นเพนี้จะเข้าใจถึงธรรมเนียมปฏิบัติของชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปและค่อนข้างมีไหวพริบเกี่ยวกับสังคมเมือง(streetwise)
♟Nomad
ตัวละครที่มีพื้นเพนี้จะสามารถรู้ถึงวัฒนธรรมและประเพณีของกลุ่มคนเร่ร่อนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชาวทะเลทราย พ่อค้าจร และสามารถเข้ากับคนกลุ่มนี้ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
♟Outlaw
ตัวละครที่มีพื้นเพนี้จะสามารถเข้าใจและรับรู้ถึงวัฒนธรรมของพวกคนนอกกฏหมาย และสามารถเอาตัวรอดในคนกลุ่มนี้ได้ดีเป็นพิเศษ
♟Peasant
ตัวละครที่มีพื้นเพนี้จะเข้าใจถึงวัฒนธรรม ประเพณี และได้รับความไว้วางใจจากพวกชาวบ้านตามชนบทและชาวนาเป็นพิเศษ
♟Primitive
ตัวละครที่มีพื้นเพนี้จะรับรู้ถึงสังคม ประเพณี และวัฒนธรรมของพวกคนเถื่อนได้ดีกว่าคนทั่วไป และจะได้รับความไว้ใจจากคนเหล่านี้เป็นพิเศษ
-
เทวาและศาสนา - Deities and Religions
ศาสนาหลักที่มีอิทธิพลสูงสุดในโลกของ Fantasy101 มีชื่อว่า มหาจำนง (Great Wills) เป็นศาสนาแบบพหุเทวนิยม ประกอบด้วยเทวาทั้งหมด 10 องค์ หลักฐานทางประวัติศาสตร์และบันทึกโบราณชี้ชัดให้เห็นว่าตัวตนของเทพเหล่านี้นั้นเดิมทีอาจจะเป็นผู้กล้าหรือกลุ่มบุคคลที่ทรงพลังในอดีตซึ่งก้าวข้ามภพภูมิของโลกนี้ไป แต่พลังของคนเหล่านั้นยังคงมีเสียงสะท้อนทางเวทมนตร์ (Magic Echoes) ซึ่งส่งผลกับโลกอยู่ แต่ละนิกายความเชื่อก็มีการเติมแต่งคำสอนต่าง ๆ ลงไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางการเมืองการปกครอง หรือปรัชญาต่าง ๆ นานา ก็ตาม ผู้ศึกษาและศรัทธาในแนวทางของเทพแต่ละองค์มักจะได้รับพลังพิเศษในการสร้างปาฏิหารย์ต่าง ๆ จากพลังส่วนหนึ่งของเทพที่ตนนับถือได้ นอกจากเทวา 10 องค์นี้แล้ว ในความเป็นจริงยังมีความเชื่อ ลัทธิ และศาสนาอื่น ๆ อีก แต่อาจจะมีอิทธิพลไม่เท่าความเชื่อเหล่านี้นัก
(http://i.imgur.com/Fh3O69v.png)
Yheva, Goddess of Nature (ยีห์วา เทพีแห่งธรรมชาติ)
Boon สามารถสื่อสารกับสัตว์หรือต้นไม้ได้ราวกับใช้ภาษาของตน
Alignment True Neutral
Domain หลัก [Animal Domain]
Domain รอง [Plant Domain] และ [Life Domain]
ตำนานส่วนมากเล่าว่ายีห์ว่าเป็นแม่ของเอล์ฟสมัยใหม่ หลังจากที่อาณาจักรเอล์ฟโบราณที่ชั่วร้ายล่มสลายลงไปพร้อมกับโลกเก่า นางได้ให้กำเนิดชีวิตและป่าไม้ในโลกใหม่ด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ของนาง
นิกายสำคัญ หมู่คณะแห่งแดนดิน (Circle of Land) และ ผู้พิทักษ์แห่งอุดรทิศ(Protector of the North)
คำสอนสำคัญ "วีถีของธรรมชาติ คือวิถีแท้ของชีวิต"
ผู้นับถือ ผู้ที่นับถือนางส่วนมากมักจะเป็นเอล์ฟ หรือไม่ก็มนุษย์ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติของป่าไม้ ผู้นำทางศาสนาคือ ดรูอิด(Druid) หรือ คนทรง(Shaman)
(http://i.imgur.com/ExCH6fk.png)
Farus, God of Afterlife (ฟารุส เทพแห่งชีวิตหลังความตาย)
Boon เมื่อสัมผัสกับร่างที่เสียชีวิต สามารถสัมผัสรู้ถึงสาเหตุการตาย ช่วงเวลาก่อนตาย และที่อยู่ปัจจุบันของวิญญาณนั้น ๆ ได้
Alignment Lawful-Evil
Domain หลัก [Death Domain]
Domain รอง [War Domain] และ [Time Domain]
ไม่มีใครทราบตำนานของฟารุสนัก บ้างก็ว่าเขาเคยเป็นนักรบ บ้างก็ว่าเป็นปีศาจร้ายที่ผันตัวกลับมาเพื่อทำสัญญากับผู้กล้าในการทำลายล้างโลกเก่า ฟารุสมีผู้นับถือพอ ๆ กับผุ้ต่อต้าน
นิกายสำคัญ ภารดาแห่งสุสาน(Brothehood of Burial) และ คณะบาดาล (Clergy Underneath)
คำสอนสำคัญ "มีเพียงผู้ตายเท่านั้นที่มีเกียรติ"
ผู้นับถือ ผู้นับถือส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เนื่องจากเป็นเผ่าที่มีชีวิตสั้นและโลกหลังความตายมักมีอยู่ในตำนานของมนุษย์เสมอ ผู้ถักทอความตาย(Necromancer) ส่วนมากนับถือฟารุสเพื่อพลังอำนาจ
(http://i.imgur.com/ZCFFMBx.png)
Yogtol, God of Chaos (ยอกโทล เทพแห่งความปั่นป่วน)
Boon ผู้ได้พรจะได้รับคาถาพิเศษ เมื่อใช้แล้วเป้าหมายที่ต้องการจะรู้สึกสับสน ปั่นป่วนและมึนงงทันที ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่ายและเป้าหมาย ใช้ได้วันละ 1 ครั้ง
Alignment Chaotic-Evil
Domain หลัก [Illusion Domain]
Domain รอง [Travel Domain] และ [Knowledge Domain]
ยอกโทลเป็นอสูรกายตาเดียวที่เป็นหนึ่งในเทพของโลกเก่า ไม่มีใครทราบว่ามันรอดจากการกวาดล้างของเทวาทั้งหลายได้อย่างไร บางตำนานก็ว่ามันเป็นผู้ทรยศพวกเทพในโลกเก่าแลกกับการไว้ชีวิต
นิกายสำคัญ Order of Masked Madman (ภาคีผู้บ้าคลั่งใต้หน้ากาก)
คำสอนสำคัญ "ม̷̦̘̯̞̳͚̤̭̙̆̊̾̀̚͞ี̷̡̥͚̯̟̲̖̫͈͙̽ͨ̒̆̄͘เ͚͔̯͓̻̞̞̫̃ͧ̇͊͞พ͉̘̫̞̘͙̔̋̆ͧ̓͆̆ͬ̚ี͈̜̳̫͎ͥ̈́̽ͦͮ̈̑͘͟ͅย̸̹͎̬̺͂ͤ̋̔ง̛͉͓̆͑ข̴้̩̹͖͍̙̤͑͑̓̓̓ͮ͊͂͌̓ͯา̴̣̟͕̺̺̬̍̍̓ͫ͟ท͈͛ͧ͢ี̸่̟̫͈̩̘̻̞̹̽͒ͦͤ̿̚͘̕จ̶͕̗̯̤͇ͦ̽̀ะ̤̩̟̫̜̦̺̲̑̓ค̸̤̽͒ͥ͂̿ง̧̤̼̣̠̏̃͌อ̋ͩ͌̉҉͏̠͓̫̤͟ยู่̯͈̰͖̻̱͖̝̲͍͇̺̞ͭͪ̌̑̎̐ͫ̊̐͊̒ͣ͐͛͜ต̴̷͈̪̮̲̞̱̩̓ͬ̋̍́̀̋̌͡ล̦́̑́อ̷͍̝̦͎͋͒͋͂́ด̗͓̯̉͆̄̂͗̑ก̛͔̥̗̘͍͈͈͓̈̓̿̚า̌͋̿̿̐ͥ̚҉͔̻̟͉̱͈͜ล̭̮̣͓̜̊ͪ͒́͟"
ผู้นับถือ ค่อนข้างอยู่ในสถานะเทพต้องห้ามสำหรับคนส่วนมาก แต่บางครั้งก็ถูกนับถือในฐานะเทพแห่งโจรและเทพแห่งการแลกเปลี่ยนในหมู่คนนอกกฏหมาย โจรป่า และคนเถื่อน
(http://i.imgur.com/1cQvCXo.png)
Raciel, Empress of Literature (ราซิเอล จักรพรรดินีแห่งงานประพันธ์)
Boon เมื่ออ่านถ้อยคำ รหัส หรือตำราใด ๆ มีโอกาสที่จะสามารถซึมซับและได้รับข้อมูลเกี่ยวกับชิ้นงานนั้น ๆ มากกว่าคนทั่วไป
Alignment Lawful-Neutral
Domain หลัก [Knowledge Domain]
Domain รอง [Death Domain] และ [Time Domain]
ไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับนาง กล่าวกันว่านางมีความเกี่ยวข้องกับความล่มสลายของโลกเก่ามากที่สุดในหมู่ 10 เทวา แต่ว่าก็ไม่มีเรื่องเล่า บันทึก หรือตำนานใด ๆ ที่เกี่ยวกับนาง แม้ว่านางจะเป็นเทพีแห่งเรื่องเหล่านี้ก็ตาม
นิกายสำคัญ บัญฑิตแห่งมหาหอสมุด(Sage of Great Library) และ ผู้แสวงหาสีชาด (Crimson Seeker)
คำสอนสำคัญ "มีเพียงผู้ค้นหาความจริงเท่านั้นที่จะพบมัน"
ผู้นับถือ วิหารของราซิเอลส่วนมากแล้วจะเป็นหอสมุดซึ่งมีทั้งที่อยู่ในเมืองและตั้งอยู่โดดเดี่ยวกลางป่าเขา ผู้นำทางศาสนาคือนักปราชญ์ซึ่งมีหน้าที่เฝ้าดูแลและสั่งสอนความรู้ให้แก่ผู้ต้องการ
(http://i.imgur.com/fD0QDQA.png)
Mazsan, Life Giver (มัสซาน ผู้มอบชีวิต)
Boon สามารถรักษาเยียวยาโรคภัยต่าง ๆ ด้วยการบริกรรมคาถาและสัมผัสเป้าหมาย
Alignment Neutral-Good
Domain หลัก [Life Domain]
Domain รอง [Protection Domain] และ [Animal Domain]
มัสซานคือชายชาวฮาฟลิ้งผู้เดินทางไปยังดินแดนต่าง ๆ ของโลกใหม่เพื่อเผยแผ่คำสอนของมหาจำนง เขาถูกคนสนิททรยศในช่วงสุดท้ายของชีวิตและถูกประหารอย่างโหดเหี้ยมโดยราชาที่เชื่อในเทวาของโลกเก่า ก่อนที่เขาจะกลายเป็นสัญลักษณ์และวิญญาณของเขาก้าวเข้าสู่แดนเทพ
นิกายสำคัญ อัศวินผู้เสียสละ(Martyr Knight) และ นักแสวงบุญแห่งทะเลทราย(Desert Pilgrims)
คำสอนสำคัญ "จงใช้ชีวิตเพื่อผู้อื่น แล้วชีวิตของเจ้าจะมีความหมาย"
ผู้นับถือ นักบวชของมัสซานเป็นกลุ่มคนที่สามารถใช้ปาฏิหารย์ในการรักษาเยียวยาได้ พวกเขาจึงได้รับการตอนรับจากคนทั่ว ๆ ไป แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นศาสนาที่กระจายไปในวงกว้างและมีผู้คนต้อนรับ แต่ด้วยคำสอนที่ให้ใช้ชีวิตอย่างสมถะ นักบวชของมัสซานจึงมักอยู่อย่างเรียบง่ายในอารามเล็ก ๆ หรือโบสถ์ขนาดเล็กเท่านั้น
(http://i.imgur.com/GYiqGjN.png)
La-Wu, the Old God (ลาหวู่ เทพผู้เฒ่า)
Boon สามารถประจุเวท Domain หรือ Arcane ที่รู้ลงได้แท่งไม้ กลายเป็นไอเทมที่มีผลเหมือนเวทนั้น ๆ สำหรับใช้ 1 ครั้ง ได้ ใช้ MP เป็นสองเท่าของเวทนั้น ๆ ในการประจุ
Alignment Chaotic-Neutral
Domain หลัก [Plant Domain]
Domain รอง [Illusion Domain] และ [Death Domain]
ลาหวู่เป็นเทวาองค์สุดท้ายของมหาจำนงทั้งสิบ ที่ก้าวเข้าสู่แดนเทพ เขาบำเพ็ญตบะใต้ต้นไม้จนร่างรวมเป็นหนึ่งเดียวกับต้นไทร และเผยแผ่คำสอนของกลุ่มเทวาใหม่อยู่นานถึง 600 ปีก่อนจะหายสาบสูญไปจากกาลเวลา
นิกายสำคัญ ฤๅษีแห่งไพร(Hermits in the Woods) และ คณะรากไทร(Root Clergy)
คำสอนสำคัญ "มีเพียงผู้ที่ยอมสูญเสียเพื่ออิสระเท่านั้นที่จะได้รับอิสระที่แท้จริง"
ผู้นับถือ กลุ่มผู้นับถือลาหวู่นั้นมักจะเป็นฤๅษีและผู้บำเพ็ญตนที่ไม่สนใจทรัพย์สินหรือความเป็นไปของประวัติศาสตร์ พวกเขาพยายามบำเพ็ญต้นเพื่อหลุดพ้นแบบที่ลาหวู่เคยทำ
(http://i.imgur.com/HKVpUFy.png)
Psasi, the Great Lion (พชาซิ มหาราชสีห์)
Boon ผู้ได้พรจะมีสัตว์ประจำตัว 1 อย่าง เมื่ออยู่ในสภาวะลำบากหรือตกอยู่ในภัยอันตราย วิญญาณสัตว์ประจำตัวจะปรากฏให้ผู้ได้พรเห็น และจะพาไปสู่ความปลอดภัย
Alignment Chaotic-Good
Domain หลัก [Protection Domain]
Domain รอง [Animal Domain] และ [War Domain]
ไม่ทราบที่มาของความเชื่อแน่ชัด รูปปั้นและเครื่องรางของพชาซิมักจะมีรูปลักษณ์ของสิงโตหรือินทรีย์ แต่ความจริงแล้วพชาซิปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ในแทบทุกร่างของสรรพสัตว์ เพียงแต่ร่างของสิงโตมักจะปรากฏขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้นำที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากกว่า
นิกายสำคัญ เผ่าแห่งสรรพสัตว์ (Animal Totems) และ ผู้นำทางแห่งกษัตริย์ (Pathfinder of the King)
คำสอนสำคัญ "คนสำคัญที่สุดในตัวเรา คือตัวเรานั่นเอง"
ผู้นับถือ ผู้นับถือของพชาซิมักจะเป็นชนเผ่าเร่ร่อนหรือไม่ก็คนป่าที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติ มีบ้างที่บางอาณาจักรจะนับถือพชาซิ ส่วนมากจะเป็นอาณาจักรที่มีเรื่องราวของมหาราชสีห์นำพากษัตย์สู่บัลลังค์ ผู้นำศาสนาส่วนมากคือคนทรงเจ้า(shaman)
(http://i.imgur.com/EeGvSkv.png)
Cyulthi, Queen of the Moon(ชยุลติ ราชินีแห่งดวงจันทร์)
Boon สามารถรับรู้ช่วงเวลาของวันแม้ไม่เห็นท้องฟ้า ในเวลากลางคืนสามารถล่องหนพรางกายได้ราวกับร่างกายทำจากอากาศ
Alignment Neutral-Evil
Domain หลัก [Time Domain]
Domain รอง [Illusion Domain] และ [Travel Domain]
หนึ่งในสองเทพแฝดแห่งสวรรค์ ตัวแทนของกลางคืนและดวงจันทร์ นางเป็นเทพที่มีร่างสีเผือกและถือดาบหยก เชื่อว่านางเป็นเทพแห่งโชคชะตา การทำลายล้าง และฤดูหนาวในบางนิกายเช่นกัน
นิกายสำคัญ ภารดาแห่งหอคอย(Brotherhood of Tower) และ คณะสงค์แห่งจันทรา(Lunatic Bishop)
คำสอนสำคัญ "ในวงจรของเวลา ทุกสิ่งสูญสิ้นและเกิดใหม่"
ผู้นับถือ ผู้นับถือส่วนมากมักจะทำพิธีกรรมทางศาสนาในเวลาเที่ยงคืน และสวมผ้าคลุมสีขาวสว่างเดินไปมาตามท้องถนน มักเป็นเหยื่อของตำนานเรื่องหลอกเด็กเวลาที่เด็กไม่เชื่อฟัง
(http://i.imgur.com/eVg9yQ0.png)
Hrita, King of the Sun(หริตาห์ ราชาแห่งดวงอาทิตย์)
Boon สามารถรับรู้ทิศทางได้แม้จะไม่เห็นทองฟ้า เมื่อมองไปยังทางทิศที่ดวงอาทิตย์อยู่ จะมองเห็นราวกับมีแสงกลางวันเสมอ
Alignment Neutral-Good
Domain หลัก [Travel Domain]
Domain รอง [Life Domain] และ [Plant Domain]
หนึ่งในสองเทพแฝดแห่งสวรรด์ แฝดผู้พี่ กล่าวกันว่าเขาเป็นตัวแทนของกลางวันและแสงอาทิตย์ มีผิวกายสีแดงชาด ไม่มีขาทั้งสองข้าง และมีดวงอาทิตย์อยู่ข้างหลังเสมอ ในบางความเชื่อเขาก็เป็นเทพแห่งการเก็บเกี่ยวและความอุดมสมบูรณ์ด้วย
นิกายสำคัญ คณะนักรบศักดิ์สิทธิ์แห่งอุษา(Paladin of the East) และ คณะแสงตะวัน(Circle of Solaire)
คำสอนสำคัญ "การให้ชี้นำทางสู่ความดีเป็นจุดสูงสุดของความดีงาม"
ผู้นับถือ ผู้นับถือของหริตาส่วนมากแล้วเป็นนักรบแห่งแสงและนายพราน บางครั้งจะถูกใช้ในทางการเมืองของรัฐในการล่าโจรผู้ร้าย
(http://i.imgur.com/IHqFVCD.png)
Waros, the First Great King (วารอส ปฐมราชัน)
Boon ผู้ได้พรจะมีคาถาพิเศษที่เมื่อบริกรรมแล้วจะทำให้ไม่ว่าจะจับอาวุธใด ๆ ก็จะสามารถใช้ได้ราวกับมี Mastery ชั่วคราว ระยะเวลาขึ้นอยู่กับการใช้งานและระดับของผู้ร่าย
Alignment Lawful-Good
Domain หลัก [War Domain]
Domain รอง [Protection Domain] และ [Knowledge Domain]
เทพสงครามและอาวุธ กล่าวกันว่าเขาเป็นเทพองค์แรกที่ก้าวเข้าสู่แดนเทพหลังจากโลกเก่าล่มสลาย เป็นราชาและผู้ให้กำเนิดมังกรทั้งมวล รูปปั้นของเขามักมีหลายมือและถืออาวุธต่าง ๆ เอาไว้ ที่ปรากฏให้เห็นบ่อยชัดคือ หอก โล่ โซ่ และเปลวไฟ
นิกายสำคัญ คณะนักรบสวรรค์(Heaven's Warrior) และ ลัทธิแห่งเทพมังกร(Cult of Dragon God)
คำสอนสำคัญ "ความชั่วร้ายเกิดจากการที่คนดีเพิกเฉยต่อมัน"
ผู้นับถือ ผู้นำของดินแดนและกษัตริย์ส่วนมากมักประกาศตัวว่านับถือเทพวารอส เนื่องจากในฐานะเทวาเขาเป็นเทพผุ้ปกครองสวรรค์และเป็นปฐมกษัตริย์ของโลกใหม่ ผู้ติดตามของเขามักเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์(Paladin)
-
ปาฏิหารย์ - Miracle Domain
Animal DomainLevel 1
✦Calm Animal : ทำให้สัตว์ที่มีระดับต่ำกว่าตนสงบลงทันที ผลหมดลงหากสัตว์ตัวนั้นถูกโจมตีหรือได้รับความเสียหาย
✦Control Beast : สามารถสั่งการสัตว์ที่ไม่เป็นศัตรูผ่านทางจิตได้ จำกัดแค่คำสั่งง่าย ๆ สัตว์ที่ถูกบงการจะเมินคำสั่งที่เสี่ยงหรือพามันเข้าสู่ความตาย
✦Nature's Speech : ทำให้เป้าหมายหรือตนเองสนทนากับสัตว์ที่สัมผัสอยู่ได้
Level 2
✦Vermin Swarm : เรียกฝูงสัตว์ขนาดเล็กหรือแมลงออกมาจากดิน สามารถควบคุมบงการฝูงสัตว์นั้น ๆ ได้
✦Call Animal : เรียกสัตว์ป่าที่อยู่ในบริเวณนั้นในสภาพเป็นมิตรทันที สัตว์ตัวนั้นจะเป็นมิตรนาน 1-3 ชม.
Level 3
✦Animal Shapes : แปลงกายเป็นสัตว์ชั่วคราว ความสามารถทางกายของผู้ร่ายจะเป็นหมือนสัตว์นั้น ๆ ทันที
✦Commune with Nature : เพ่งจิตและรับรู้ถึงทุกสิ่งรอบตัวในระยะ 1 กม. ผ่านสายตาของสัตว์ต่าง ๆ ในรัศมีนั้น ๆ
Level 4
✦Spirit Animal : ประจุวิญญาณสรรพสัตว์ที่ต้องการใส่เป้าหมายหรือตนเอง เป้าหมายจะได้รับความสามารถทางกายของวิญญาณสัตว์นั้น ๆ และเปลี่ยนสภาพเป็นสัตว์เวทมนตร์ชั่วคราว
✦Giant Beast : อัญเชิญสัตว์ยักษ์ออกมาจากมิติสรรพสัตว์ในสถานะเป็นมิตร เวทมนตร์มีผล 1 ชม.
Death DomainLevel 1
✦Death Knell : สังหารศัตรูที่เจียนจะตายทันทีและฟื้นฟูพลังชีวิตของตนเล็กน้อย
✦Fatigue Touch : ร่ายเวทมนตร์บนฝ่ามือ ทำให้เป้าหมายที่ถูกสัมผัสรู้สึกอ่อนล้าทันที
✦Cause Fear : ทำให้ศัตรูที่ระดับต่ำกว่าตนสลบหรือหนีไปด้วยความหวาดกลัว
Level 2
✦Death Ward : สร้างข่ายคุ้มกัน(ward) ป้องกันเวทมนตร์สายความตายที่มีระดับต่ำกว่าตน
✦Animate Dead : สร้างบริวารโครงกระดูกหรือซากศพชั่วคราวจากซากศพของสิ่งมีชีวิต (Skeleton, Zombie, Ghoul)
Level 3
✦Death Touch : ร่ายเวทบนฝ่ามือ เมื่อเป้าหมายถูกสัมผัสจะสร้างความเสียหายต่อพลังชีวิตอย่างรุนแรงทันที
✦Soulbind : ร่ายเวทมนตร์เพื่อกักขังวิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่เพิ่งตาย ป้องกันการจากคืนชีพหรือถูกชุบชีวิต
Level 4
✦Create Undead : สร้างบริวารวิญญาณจากซากศพของสิ่งมีชีวิตที่ยังมีประจุวิญญาณเข้มข้น (Shadows, Wraiths, Spectres)
✦Wail of Dead God : กรีดร้องด้วยเสียงของความตาย สิ่งมีชีวิตรอบตัวในรัศมี 10 เมตรที่มีระดับต่ำกว่าผู้ร่าย มีโอกาศเสียชีวิตทันที
Illusion DomainLevel 1
✦Fake Light : สร้างแสงสว่างจุดเล็ก ๆ บนวัตถุ มีผลเหมือนกับคบไฟ
✦Disguise : ปลอมแปลงหน้าตาของตนเองให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
✦Silent Image : สร้างภาพลวงตาไม่มีเสียงในระยะมองเห็นเป็นรูปร่างใดก็ได้
Level 2
✦Invisibility : ทำให้เป้าหมายล่องหน ผลจะหมดไปเมื่อเป้าหมายเริ่มการต่อสู้หรือถูกโจมตี
✦Minor Image : สร้างภาพลวงตาในระยะมองเห็น สามารถเพิ่มเสียงระดับง่าย ๆ ได้
Level 3
✦Illusory Wall : สร้างม่านกำบังการมองเห็น หรือแปรเปลี่ยนพื้นที่เป็นภาพลวงตา
✦Major Image : สร้างภาพลวงตาในระยะมองเห็น มีกลิ่น เสียง สัมผัส ประกอบ
Level 4
✦Mirage : สร้างพื้นที่จำลองหรือมิติจำลองรอบ ๆ ตัว สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะมองเห็นและสัมผัสมิติจำลองนั้น ๆ
✦Simulacrum : สร้างร่างเสมือนของเป้าหมายขึ้นมา ร่างเสมือนนี้จะทำอะไรทุกอย่างแทบจะเหมือนตัวต้นแบบ
Knowledge DomainLevel 1
✦Seeing Eyes : รับรู้ถึงสิ่งผิดปรกติหรือแปลกประหลาดของเป้าหมาย ให้ข้อมูลเล็กน้อยเท่านั้น
✦Detect Thoughts : อ่านความคิดระดับผิวเผินของเป้าหมายที่มีระดับต่ำกว่าหรือเท่ากับตน
✦Comprehend Languages : สามารถรับรู้และสื่อสารได้ทุกภาษาชั่วคราว
Level 2
✦Clairvoyance : มองเห็นวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตที่ซ่อนอยู่ด้วยเวทมนตร์หรือกลไกเวทมนตร์
✦Scrying : รับรู้และได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานที่ ๆ ผู้ใช้คุ้นเคย หรืออยู่ในระยะมองเห็น
Level 3
✦Legend Lore : ตั้งสมาธิ รับรู้ถึงประวัติและที่มาของสิ่งที่สัมผัสทันที
✦True Seeing : มองเห็นความเป็นจริงของสิ่งรอบ ๆ ตัวชั่วคราว
Level 4
✦Discern Location : ระบุและรับรู้ตำแหน่งของสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตที่ต้องการอย่างเจาะจง
✦Foresight : ตั้งสมาธิ รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องร้าย ๆ
Life DomainLevel 1
✦Curing Touch : สมานแผลเล็ก ๆ และถอนพิษบางชนิดออกจากร่างกาย
✦Hypnotism : กล่อมประสาทเป้าหมายที่มีระดับต่ำกว่าหรือเท่ากับตน ไม่มีผลกับเป้าหมายที่เป็นศัตรู
✦Animate Object : ประจุชีวิตลงบนวัตถุเล็ก ๆ สามารถบงการให้วัตถุเคลื่อนไหวได้ตามใจนึก
Level 2
✦Detect Life : ตั้งสมาธิและจับสัมผัสของสิ่งมีชีวิตในระยะ 100 เมตรรอบตัว
✦Lullaby : ทำให้เป้าหมายที่มีระดับต่ำกว่าหรือเท่ากับผู้ร่ายหมดสติและหลับไหล มีผลกับเป้าหมายที่หลับได้เท่านั้น
Level 3
✦Heal : ส่งพลังชีวิตไปยังเป้าหมาย สมานแผลและฟื้นฟูเป้าหมายดังกล่าว
✦Construct Life : สร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาจากวัตถุไร้ชีวิต ยิ่งการทำงานของชีวิตนั้นซับซ้อนเท่าไหร่ยิ่งใช้เวลานานเท่านั้น
Level 4
✦Regenerate : สมานแผลขนาดใหญ่หรือฟื้นฟูอวัยวะที่เสียหายหรือถูกตัดขาดไป
✦Resurrection : ฟื้นคืนชีพเป้าหมายที่ยังคงมีวิญญาณอยู่ภายในร่าง(ถูกกักวิญญาณหรือเพิ่งเสียชีวิต)
Plant DomainLevel 1
✦Goodberry : เสกเบอร์รี่หรือผลไม้ในมือให้กลายเป็นของวิเศษ สามารถช่วยรักษาอาการบาดเจ็บหรือถอนพิษอ่อน ๆ ได้
✦Tree Shape : เปลี่ยนร่างกายของตนหรือเป้าหมายที่ไม่เป็นศัตรูให้เหมือนกันต้นไม้ชั่วคราว ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Entangle : บงการให้วัชพืชและเถาวัลย์ต่าง ๆ เกี่ยวพันเป้าหมายเอาไว้
Level 2
✦Plant Growth : ทำให้เมล็ดพืชโตขึ้นหรือทำให้พืชที่มีอยู่แล้วโตขึ้น มีผลจำกัดต่อต้น
✦Repel Wood : แหวกกำแพงหรือผลักวัตถุที่ทำจากไม้ออกไปจากผู้ร่าย
Level 3
✦Wood Shape : เปลี่ยนรูปร่างของวัตถุที่ทำจากไม้ตามใจนึก
✦Wall of Thorns : ร่ายกำแพงขวากหนามและต้นไม้ขึ้นตรงหน้าผู้ใช้ ระดับของผู้ใช้มีผลต่อชนิดของขวากหนาม
Level 4
✦Animate Plants : ประจุเวทมนตร์ลงไปในพืช สร้างบริวารจากต้นพืชช่วยในการทำสิ่งต่าง ๆ หรือต่อสู้
✦Ironwood : เปลี่ยนไม้ที่สัมผัสให้มีความแข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า
Protection DomainLevel 1
✦Mending : สมานรอยแตกหรือขาดของวัตถุชิ้นหนึ่ง ๆ
✦Detect Undead : ตั้งสมาธิ รับรู้ถึงพลังชีวิตด้านลบของ Undead ในรัศมี 100 เมตรรอบตัว
✦Shield Other : ผู้ร่ายป้องกันการโจมตีให้กับเป้าหมาย รับความเสียหายครึ่งหนึ่งจากการโจมตี
Level 2
✦Purify : ลบล้างเวทมนตร์ชั่วร้ายหรือสารพิษที่ระดับต่ำกว่าผู้เล่นออกจากวัตถุหรือสิ่งมีชีวิต
✦Endure Elements : ป้องกันหรือทุเลาผลจากสภาพอากาศเลวร้าย(เช่น พายุทราย, หิมะ, อากาศร้อน)ให้แก่เป้าหมาย
Level 3
✦Dispel Magic : ต้านหรือยุติผลของเวทมนตร์ที่ระดับเท่ากับหรือต่ำกว่าผู้ร่ายทันที
✦Spell Resistance : สร้างข่ายคุ้มกับเวทมนตร์ให้กับเป้าหมาย ลดความเสียหายจากเวทมนตร์ชนิดใด ๆ ก็ตาม
Level 4
✦Tranquility : ป้องกันเป้าหมายจากเวทมนตร์ที่มีผลกับจิตใจหรือสมองโดยสมบูรณ์
✦Magic Barrier : สร้างข่ายคุ้มกันที่ไม่มีอะไรข้ามผ่านเข้ามาได้ตรงหน้าผู้ร่าย ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับและค่าจิตใจของผู้ร่าย
Time DomainLevel 1
✦Haste : เร่งความเร็วของเป้าหมายขึ้นเป็นสองเท่า ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Feather Fall : ลดความเร็วในการร่วงของเป้าหมาย ทำให้ไม่ได้รับผลจากการตกจากที่สูง
✦Continual Flame : ทำให้เปลวไฟไม่มีวันดับมอดจนกว่าผู้ร่ายจะต้องการ เปลวไฟดังกล่าวจะสูญเสียความร้อนทั้งหมดไปแลกกับแสงสว่าง
Level 2
✦Wither : ประจุเวทมนตร์ที่ฝ่ามือเมื่อสัมผัสจะเร่งการชราหรือเน่าเสียของสิ่งนั้น ๆ มีผลเฉพาะกับสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งที่เคยมีชีวิตที่ระดับต่ำกว่าผู้เล่นเท่านั้น
✦Slow : ลดความเร็วของเป้าหมายลงครึ่งหนึ่ง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
Level 3
✦Blink : เคลื่อนที่ร่ายใช้ไปยังตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงได้ทันที เสมือนว่าผู้ใช้วิ่ง เดิน ไปยังจุดนั้น ๆ ในพริบตา
✦Displacement : เคลื่อนตำแหน่งของเป้าหมายกลับไปมาตามกระแสเวลา ทำให้เป้าหมายหลบหลีกการโจมตีได้
Level 4
✦Temporal Stasis : หยุดเป้าหมายชั่วคราว ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่ายและเป้าหมาย
✦Time Stop : หยุดกระแสเวลาทั่วโลกชั่วขณะหนึ่ง ผู้ร่ายเป็นสิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวได้ในเวลานั้น ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
Travel DomainLevel 1
✦Longstrider : ทำให้การก้าวเท้าของเป้าหมายกินระยะทางมากขึ้น เพิ่มความเร็วในการเดินทางของเป้าหมาย
✦Traceless Step : ทำให้เป้าหมายหรือตนเองไม่ทิ้งร่องรอยไว้ในการเดินทาง ทำให้ไม่สามารถตามรอยได้
✦Find the Path : ตั้งสมาธิและนึกถึงสถานที่ จิตของผู้ร่ายจะบ่งบอกเส้นทางที่สั้นที่สุดและ/หรือปลอดภัยที่สุดขึ้นมา
Level 2
✦Glyph of Waterwalk : สลักตราเวทมนตร์บนสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตทำให้สามารถย่ำบนน้ำได้ มีผลประมาณ 20-24 ชม.
✦Dimension Door : เปิดประตูมิติตรงหน้าของผู้ร่ายและอีกจุดหนึ่งในระยะมองเห็น วัตถุหรือสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ สามารถผ่านประตูมิตินี้ได้
Level 3
✦Fly : ทำให้ผู้ร่ายหรือเป้าหมายบินได้ดั่งใจนึก ระยะเวลาและความเร็วขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Phase Door : สร้างประตูมิติขึ้นบนพื้นผิวหรือกำแพง สามารถทะลุไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้
Level 4
✦Teleport : ส่งผู้ร่ายและเป้าหมายที่สัมผัสไปยังสถานที่ที่รู้จักหรือเคยไปมาแล้ว มีโอกาศที่จะส่งเคลื่อนจากจุดเป้าหมายพอสมควรขึ้นอยู่กับระยะทาง
✦Etherealness : เปลี่ยนร่างของผู้ร่ายเป้นกายละเอียด สามารถเดินทางผ่านมิติวิญญาณไปยังจุดต่าง ๆ ได้
War DomainLevel 1
✦Magic Weapon : ประจุพลังเวทมนตร์ลงในอาวุธที่ถืออยู่ ทำให้อาวุธมีคุณสมบัติเวทมนตร์ชั่วคราว
✦Divine Armor : สร้างเกราะมนตราขึ้นมาจากอากาศรอบตัว เพิ่มพลังป้องกันของผู้ร่ายชั่วคราว
✦Protection from Arrows : ร่ายให้เป้าหมาย เป้าหมายจะได้รับการป้องกันจากอาวุธระยะไกลที่ไม่มีฤทธิ์เป็นเวทมนตร์
Level 2
✦Spiritual Weapon : สร้างอาวุธขึ้นมาในอากาศข้างกายผู้ใช้ อาวุธดังกล่าวมีคุณสมบัติเวทมนตร์และโจมตีด้วยตนเองตามแต่ผู้ใช้สั่งการ
✦Smite : อัญเชิญอาวุธของเทพที่นับถือมาโจมตีเป้าหมาย ความเสียหายแรงขึ้นหากเป้าหมายมี Alignment ตรงข้ามกับเทพเจ้าองค์นั้น ๆ
Level 3
✦Blade Barrier : สร้างข่ายคุ้มกันรอบตัวระยะ 3 เมตร จากคมดาบมนตรา ศัตรูที่เข้ามาในข่ายนี้จะถูกความเสียหายเหมือนถูกดาบฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง
✦Destruction : ประจุเวทย์ลงบนมือ เป้าหมายที่สัมผัสได้รับความเสียหายไร้ธาตุเป็นแรงระเบิดในจุดนั้น ๆ ทันที
Level 4
✦God's Avatar : อัญเชิญร่างอวตารของเทพที่นับถือลงมาในการต่อสู้ชั่วคราว ร่างดังกล่าวมีความสามารถและรูปลักษณ์ขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Phantom Arms : เรียกอาวุธมายาขึ้นมารอบตัวผู้ร่าย ผู้ร่ายสามารถใช้อาวุธเหล่านั้นในการโจมตีได้อย่างอิสระ จำนวนและระยะเวลาของอาวุธมายาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
-
เวทมนตร์ - Arcane Magic
"อาจารย์สอนวิชาเวทมนตร์ท่านหนึ่งของผมเคยกล่าวไว้ว่า การจะเป็นนักเวทนั้น ไม่ว่าคุณต้องการจะใช้มันทำอะไรก็ตาม คุณจะต้องหยุดมองโลกในมุมมองของสามมิติเสียก่อน กล่าวคือ สำหรับคนภายนอกแล้วพวกเราดูเหมือนจะสร้างเวทมนตร์ออกมาจากความว่างเปล่า
แต่แท้จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น โลกของเรา-ไม่สิ จักรวาลของเรา ถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยมิติที่ทับซ้อนไปอีกมิติหนึ่ง ซึ่งมิตินั้นอาจจะถูกทับซ้อนในอีกมิติก็ได้ ใครจะไปรู้ แต่ก็นั่นล่ะ พื้นฐานก็คือ จอมเวท ไม่ว่าจะสายไหนหรือสำนักใดก็ตาม ดึงเอาพลังจากมิตินั้น ๆ เพื่อมาใช้งาน
หากมองในมุมนักเศรษฐศาสตร์และพ่อค้าแล้ว เวทมนตร์ก็เป็นทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด เพียงแต่มันมากมายมหาศาลจนถึงขนาดที่ว่าเราจินตนาการไม่ออกว่ามันจะหมดไปได้อย่างไรเท่านั้นเอง"
--- จากการบรรยาย "ว่าด้วยทฤษฏีเวทมนตร์และความเข้าใจต่อเวทมนตร์ในหมู่นักเวทยุคใหม่" ของศาสตราจารย์ นิโคล่า อัลเดน, มหาวิทยาลัยเวทมนตร์ อาร์คานัม
ธาตุภูมิ (Elemental Plane)
เมื่อพูดถึง"ภูมิ" เรามักนึกถึงดินแดน ประเทศ ขอบเขต หรืออาณาจักร แต่เมื่อพูดถึงธาตุภูมิมันคือพื้นที่สามมิติในความว่างเปล่าที่เหนือจากอวกาศขึ้นไปอีก นักทฤษฏีเวทมนตร์มักเรียกพื้นที่ว่างเหล่านั้นว่า อีเธอร์ (Aether) ไม่ต่างจากโลกของเราลอยอยู่ในอวกาศโล่ง ๆ ภูมิธาตุเหล่านี้ก็ลอยอยู่ในชั้น Aether โล่ง ๆ เช่นกัน
จนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครสรุปได้ว่าธาตุภูมิเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนหรือหลังจักรวาลใน 3 มิติของเรา เป็นมีความเป็นไปได้ในทั้งสองทางว่าอีเธอร์และธาตุภูมิเกิดจากการขยายตัวของจักรวาลทำให้เกิด"พื้นที่"แบบใหม่ที่สั่งสมพลังงานจากพื้นที่เก่า อีกสายความคิดหนึ่งก็เชื่อว่าอีเธอร์และภูมิธาตุเกิดขึ้นก่อนจักรวาล 3 มิติของเราและเป็นธาตุเริ่มต้นของจักรวาลนี้ ในปัจจุบันนักเวทค้นพบธาตุภูมิเหล่านี้เพียงแค่ 6 ธาตุภูมิเท่านั้น ได้แก่ ดิน, น้ำ, ลม, ไฟ, พลังงาน และ ความปั่นป่วน
(http://i.imgur.com/LdJMuh1.png)
Earth (ดิน) เป็นเวทมนตร์เก่าแก่ที่สุดที่มนุษย์รู้จัก กล่าวคือ ไม่นานหลังจากการกำเนิดของเกษตรกรรม มนุษย์ก็เริ่มมีความสามารถในการควบคุมเวทมนตร์ในภูมิธาตุนี้แทบจะในทันที และทั้งสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตบนโลกก็ล้วนกำเนิดโดยใช้โครงสร้างที่มีอยู่ในธาตุภูมินี้เป็นหลักทั้งสิ้น
- ทำปฏิกิริยากับธาตุน้ำ ก่อให้เกิด โคลน(Mud) - ทำปฏิกิริยากับธาตุไฟ ก่อให้เกิด แมกม่า(Magma) - ทำปฏิกิริยากับพลังงาน ก่อให้เกิด โลหะ(Metal) - ทำปฏิกิริยากับความปั่นป่วน ก่อให้เกิด ฝุ่น(Dust)
| Water (น้ำ) เป็นเวทมนตร์ที่กล่าวกันว่าเป็นพื้นฐานของการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต เป็นธาตุที่พบในทุกสิ่งมีชีวิตบนโลกและมีมากที่สุดบนผิวโลกทั้งหมด
- ทำปฏิกิริยากับธาตุดิน ก่อให้เกิด โคลน(Mud) - ทำปฏิกิริยากับธาตุลม ก่อให้เกิด น้ำแข็ง(Ice) - ทำปฏิกิริยากับพลังงาน ก่อให้เกิด ไอน้ำ(Steam) - ทำปฏิกิริยากับความปั่นป่วน ก่อให้เกิด เกลือ(Salt)
|
Air (ลม) ธาตุโบราณที่มนุษย์มักไม่มีพลังในการควบคุม เป็นตัวแปรสำคัญของการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศและภูมิอากาศบนโลก แต่หลังจากการกำเนิดของจอมเวท มนุษย์ก็เรียนรู้ที่จะควบคุมมันได้ดีขึ้น
- ทำปฏิกิริยากับธาตุน้ำ ก่อให้เกิด น้ำแข็ง(Ice) - ทำปฏิกิริยากับธาตุไฟ ก่อให้เกิด ควัน(Smoke) - ทำปฏิกิริยากับพลังงาน ก่อให้เกิด สายฟ้า(Lightning) - ทำปฏิกิริยากับความปั่นป่วน ก่อให้เกิด สุญญากาศ(Vacuum)
| Fire (ไฟ) ไฟอยู่คู่กับการพัฒนาของมนุษย์และอารยธรรมมาอย่างยาวนาน แต่เนื่องจากความอันตรายของมัน นักเวทโบราณจึงมักไม่เสี่ยงที่จะศึกษามันมากนัก ในปัจุบัน การศึกษาภูมิธาตุไฟเป็นพื้นฐานที่สุดของนักเวท เพื่อสอนให้รู้จักการควบคุมพลังของตนเอง
- ทำปฏิกิริยากับธาตุดิน ก่อให้เกิด แมกม่า(Magma) - ทำปฏิกิริยากับธาตุลม ก่อให้เกิด ควัน(Smoke) - ทำปฏิกิริยากับพลังงาน ก่อให้เกิด แสงสว่าง(Radiance) - ทำปฏิกิริยากับความปั่นป่วน ก่อให้เกิด เถ้าถ่าน(Ash)
|
Energy (พลังงาน) เดิมทีมีความเชื่อว่าธาตุภูมิต่าง ๆ นั้นมีการเปลี่ยนรูปลักษ์ได้ด้วยตัวมันเอง แต่จากการค้นคว้าก็พบว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นผลมาจากการทำปฏิกิริยาของธาตุภูมิพลังงาน
- ทำปฏิกิริยากับธาตุดิน ก่อให้เกิด โลหะ(Metal) - ทำปฏิกิริยากับธาตุน้ำ ก่อให้เกิด ไอน้ำ(Steam) - ทำปฏิกิริยากับธาตุลม ก่อให้เกิด สายฟ้า(Lightning) - ทำปฏิกิริยากับธาตุไฟ ก่อให้เกิด แสงสว่าง(Radiance)
| Entropy (ความปั่นป่วน) ธาตุภูมิใหม่สุดที่ถูกค้นพบ ไม่ค่อยมีประโยชน์ในเชิงปฏิบัติมากนัก แต่เป็นคำอธิบายได้ดีสำหรับเรื่องที่ว่าทำไมสสารที่เกิดจากเวทมนตร์ถึงสูญสลายไป
- ทำปฏิกิริยากับธาตุดิน ก่อให้เกิด ฝุ่น(Dust) - ทำปฏิกิริยากับธาตุน้ำ ก่อให้เกิด เกลือ(Salt) - ทำปฏิกิริยากับธาตุลม ก่อให้เกิด สุญญากาศ(Vacuum) - ทำปฏิกิริยากับธาตุไฟ ก่อให้เกิด เถ้าถ่าน(Ash)
|
-
ภูมิธาติหลัก - Major Plane
Air PlaneLevel 1
✦Wind Wall : สร้างกำแพงลมขึ้นตรงหน้าผู้ใช้ พัดและปัดป้องอาวุธระยะไกลและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กออกไป
✦Gaseous Form : เปลี่ยนร่างผู้ร่ายให้กลายเป็นก้อนหมอกควัน สามารถลอยในอากาศได้อย่างอิสระ ผลสิ้นสุดเมื่อถูกโจมตีหรือได้รับความเสียหาย
Level 2
✦Air Walk : ร่ายเวทมนตร์ใส่เป้าหมาย เป้าหมายสามารถเดินและย่ำอากาศได้ราวกับของแข็ง
✦Control Winds : เปลี่ยนทิศทางและความเร็วของลม
Level 3
✦Air Elemental : ประจุพลังเวท สร้างโกเลมลมขึ้นมา ระดับของโกเลมและระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ใช้
✦Whirlwind : สร้างลมบ้าหมู่ขนาดย่อม ๆ สามารถยก ทุ่ม หรือเหวี่ยงเป้าหมายระดับกลางได้ในระยะหนึ่ง
Level 4
✦Control Weather : ควบคุมลมฟ้าอากาศดั่งใจนึก มีผลชั่วคราวตามระดับของผู้ร่าย
✦Tornado : สร้างกรวยลมพายุขนาดใหญ่พลังทำลายสูง เป้าหมายที่ถูกพัดผ่านได้รับความเสียหายอย่างมาก
Earth PlaneLevel 1
✦Soften Earth : เปลี่ยนหินหรือดินตรงหน้าที่ผู้ร่ายสัมผัสให้กลายเป็นโคลน
✦Stone Shape : ดัดแปลงรูปร่างของหินที่ผู้ใช้สัมผัสตามใจนึก มวลของหินดังกล่าวยังคงเดิม
Level 2
✦Burrow : ผู้ร่ายสามารถดำดินได้ราวกับแหวกว่ายอยู่ในน้ำในระยะเวลาหนึ่ง
✦Spike Stones : สร้างหอกแหลมจำนวนมากแทงขึ้นมาจากพื้นผิวดินหรือหิน
Level 3
✦Wall of Stone : เสกกำแพงหินขนาดใหญ่ขึ้นมาจากความว่างเปล่าในทิศทางที่ผู้ใช้กำลังหันหน้าไป
✦Earth Elemental : ประจุพลังเวท สร้างโกเลมดินขึ้นมา ระดับของโกเลมและระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ใช้
Level 4
✦Earthquake : ทำให้พื้นดินเคลื่อนตัวอยู่รุนแรง สร้างแผ่นดินแยกและแผ่นดินไหวรอบตัวผู้ร่าย
✦Flesh to Stone : เปลี่ยนเนื้อหนังของเป้าหมายให้กลายเป็นหิน ผลลัพท์ขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่ายและเป้าหมาย
Fire PlaneLevel 1
✦Burning Hands : ประจุเวทที่ฝ่ามือ ทำให้ไฟลุกใหม้บนฝ้ามือ สร้างความเสียหายให้กับศัตรูที่สัมผัส
✦Fireball : สร้างลูกไฟและโยนหรือยิงใส่เป้าหมาย จำนวนลูกไฟขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
Level 2
✦Control Fire : ควบคุมเปลวไฟได้อย่างอิสระ เมื่อเปลวไฟดังกล่าวอยู่ในผลของเวทมนตร์นี้จะทำให้ดับยากขึ้นหลายเท่า
✦Flaming Spear : ประจุหอกไฟขึ้นบนมือของผู้ร่าย สร้างความเสียหายธาตุไฟอย่างมากให้กับเป้าหมายที่ถูกซัดใส่
Level 3
✦Wall of Fire : สร้างกำแพงเปลวไฟขนาดใหญ่ตรงหน้าของผู้ร่าย อะไรก็ตามที่ผ่านเข้ามาในกำแพงไฟจะได้รับความเสียหาย
✦Fire Elemental : ประจุพลังเวท สร้างโกเลมไฟขึ้นมา ระดับของโกเลมและระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ใช้
Level 4
✦Infernal Pillars : สร้างเสาพายุไฟความร้อนสูงขึ้นจากพื้นรอบ ๆ ตัว จำนวนเสาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Implosion : ประจุเวทลงบนนิ้วมือและชี้ออกไป เมื่อลำแสงจากนิ้วมือไปกระทบกับพื้นผิวใด ๆ จะเกิดการระเบิดรุนแรงขึ้นในจุดนั้นทันที
Water PlaneLevel 1
✦Control Water : ควบคุมน้ำได้ดั่งใจนึก น้ำดังกล่าวจะเคลื่อนไหวออกห่างจากตัวผู้ร่ายได้ไม่มากนัก
✦Water Spring : เสกน้ำพุขนาดย่อมขึ้นมาจากพื้นดิน น้ำจากน้ำพุนี้จะเป็นน้ำบริสุทธิ์
Level 2
✦Healing Stream : ประจุเวทขึ้นที่ปลายนิ้วของผู้ร่าย สร้างน้ำวิเศษที่มีฤทธิ์ในการรักษาออกมา
✦Water Breathing : ทำให้เป้าหมายสามารถหายใจในน้ำได้ มีฟทธิ์ประมาณ 20-24 ชม.
Level 3
✦Hydro Bullet : สร้างกระสุนน้ำแรงดันสูงยิงใส่เป้าหมาย จำนวนกระสุนน้ำขึ้นอยู่กับระดับของผู้ใช้
✦Water Elemental : ประจุพลังเวท สร้างโกเลมน้ำขึ้นมา ระดับของโกเลมและระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ใช้
Level 4
✦Tidal Wave : สร้างคลื่นยักษ์จากความว่างเปล่าขึ้นมาตรงหน้าผู้เล่น น้ำจากคลื่นดังกล่าวจะคงอยู่จนกว่าผู้ร่ายจะต้องการ สูงสุด 24 ชม.
✦Whirlpool : สร้างวังน้ำวนขนาดยักษ์โดนมีศูนย์กลางในระยะมองเห็นของผู้ร่าย ทุกอย่างจะถูกดูดและกักไว้ใต้วังวนจนกว่าเวทย์จะหมดฤทธิ์
Energy PlaneLevel 1
✦Magic Missile : ยิงประจุพลังงานเวทย์ออกไปเป็นลูกศรใส่เป้าหมาย จำนวนลูกศรขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Flare : สร้างแสงจ้าฉับพลันขึ้นจากฝ่ามือของผู้ร่าย ทำให้ศัตรูมึนงงหรือตาพร่า
Level 2
✦Mage Hand : ส่งพลังงานจากฝ่ามือผู้ร่ายไปในระยะมองเห็น สามารถควบคุมได้เสมือนมือของผู้ร่ายเอง
✦Glass Barrier : สร้างเกราะป้องกันเวทมนตร์ตรงหน้าผู้ร่าย บอบบางต่อการโจมตีทางกายภาพ แต่ป้องกันเวทมนตร์ที่มีระดับต่ำกว่าส่วนมากได้
Level 3
✦Forcecage : ตรึงร่างของเป้าหมายเอาไว้ราวกลับมีกรงตาข่ายขนาดใหญ่ยึดกับพื้นผิวอยู่ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ใช้และเป้าหมาย
✦Telekinesis : ควบคุมวัตถุรอบตัวได้ดั่งใจนึก สามารถ ทุ่ม เหวี่ยง ผลัก ได้มากกว่ากำลังของผู้ร่ายหลายเท่า
Level 4
✦Reflect Force : สร้างข่ายคุ้มกันที่จะสะท้อนพลังงานที่กระทบกับมัน สามารถป้องกันพลังงานได้แทบจะทุกรูปแบบ
✦Etherealness : เปลี่ยนผู้ร่ายให้กลายเป็นพลังงานในมิติอื่นชั่วขณะ ผู้ร่ายสามารถทะลวงผ่านทุกสิ่งที่อยู่ในมิติปกติได้และสร้างความเสียหายธาตุพลังงานให้กับสิ่งที่ทะลุผ่าน
Entropy PlaneLevel 1
✦Enervation : เป้าหมายที่สัมผัสจะรู้สึกเหนื่อยอ่อนชั่วขณะหนึ่ง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่ายและเป้าหมาย
✦Energy Release : ปลดปล่อยพลังงานจำนวนหนึ่งออกจากเป้าหมาย ทำให้เป้าหมายดังกล่าวอ่อนแอลง
Level 2
✦Eyebite : ยิงลำแสงจากดวงตาของผู้ใช้ สร้างความผิดปรกติหรือขัดข้องให้กับเป้าหมายที่ถูกลำแสงดังกล่าว
✦Shatter : สร้างคลื่นความถี่สูงทำลายวัตถุแข็งที่ผู้ร่ายสัมผัส วัตถุที่เปราะจะได้รับผลเป้นพิเศษ
Level 3
✦Energy Drain : ดูดพลังงานจากเป้าหมาย สร้างความเสียหายและมีโอกาสเล็กน้อยที่จะฟื้นพลังของผู้ร่าย
✦Implosion : ประจุเวทมนตร์ ทำให้เป้าหมายระเบิดออกจากภายใน ผลลัพท์ขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่ายและเป้าหมาย
Level 4
✦Horrid Wilting : ประจุพลังที่มือของผู้ร่าย เมื่อสัมผัสกับเป้าหมาย จะทำให้เป้าหมายค่อย ๆ ร่วงโรยหรือเสื่อมสลายไปราวกับผ่านกาลเวลายาวนาน
✦Disintegration Ray : ยิงลำแสงพลังสูงใส่เป้าหมาย ทำให้ส่วนที่สัมผัสกับลำแสงนี้ย่อยกลายเป็นผุยผงในทันที
-
ภูมิธาติรอง - Minor Plane
Smoke Plane (Air + Fire)Level 2
✦Smokescreen : เสกกลุ่มควันไฟจำนวนมากไปยังจุดที่ผู้ใช้ต้องการ บดบังการมองเห็นและรบกวนการหายใจของสิ่งมีชีวิต
✦Conjure Wisp : สร้างกลุ่มควันลอยไปมาในอากาศ เมื่อถูกสัมผัสจะระเบิดออกเป็นเปลวไฟ จำนวนขึ้นอยู่กับระดับผู้ร่าย
Level 3
✦Firewhirl : ยิงประแสพายุเปลวไฟที่บิดเบี้ยวออกจากมือของผู้ร่าย สร้างความเสียหายให้กับทุกสิ่งที่สัมผัส
Level 4
✦Charred Wind : ปล่อยกระแสคลื่นความร้อนสูงออกรอบตัวหรือตรงหน้าของผู้ร่าย เผาผลาญทุกสิ่งที่สำผัสคลื่นนี้
Ice Plane (Air + Water)Level 2
✦Cone of Frost : แผ่รังสีความเย็นออกจากฝ่ามือของผู้ร่ายเป็นทรงกรวยตรงหน้า ลดอุณภูมิของสิ่งที่สัมผัสอย่างรวดเร็ว
✦Wall of Ice : สร้างกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ทนความร้อนสูง ระยะเวลาขึ้นอยู่กับรพดับของผู้ร่าย
Level 3
✦Ice Spear : สร้างหอกน้ำแข็งเข้าซัดเป้าหมาย หอกดังกล่าวจะกระทบกับเป้าหมายและแตกออกเป็นไอเย็นที่แช่แข็งจุดที่ตกกระทบในพริบตา
Level 4
✦Frozen Hail : ร่ายพายุลูกเห็บแหลมคมลงมาจากอากาศใส่ในรัศมีที่ผู้ร่ายต้องการ สร้างความเสียหายและแช่แข็งทุกสิ่งในรัศมี
Lightning Plane (Air + Energy)Level 2
✦Lightning Bolt : ยิงลูกศรสายฟ้าเข้าใส่เป้าหมาย จำนวนลูกศรขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Shocking Grasp : ประจุเวทลงบนฝ่ามือ เมื่อสัมผัสไฟฟ้าแรงสุงจะถูกส่งผ่านไปยังเป้าหมาย
Level 3
✦Chain Lightning : ยิ่งสายฟ้าใส่เป้าหมาย มีโอกาสที่สายฟ้าดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังเป้าหมายใกล้เคียงตามระดับของผู้ร่าย
Level 4
✦Electric Sphere : สร้างรัศมีข่ายสายฟ้าขึ้นในจุดที่ผู้ใช้ต้องการ ทุกสิ่งที่อยู่ในข่ายนี้จะถูกความเสียหายธาตุสายฟ้าอย่างรุนแรง
Vacuum Plane (Air + Entropy)Level 2
✦Hold Item : ตรึงเป้าหมายขนาดเล็กถึงกลางให้อยู่กับที่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Suction : ดูด ดึง หรือผลักเป้าหมายขนาดเล็กด้วยแรงมหาศาล สามารถสั่งทิศทางได้แต่ไม่สามารถควบคุมแบบละเอียดนัก
Level 3
✦Vacuum Choke : ดูดอากาศออกจากร่างสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ๆ ทำให้เป้าหมายไม่สามารถหายใจได้ ผลลัพท์ขึ้นอยู่กับระดับของผู้ใช้และเป้าหมาย
Level 4
✦Void Sphere : ส้รางข่ายสุญญากาศและตรึงมันเอาไว้ในระยะเวลาหนึ่ง วัตถุไม่สามารถผ่านเข้าออกได้หากไม่สามารถทนแรงดันได้สูงพอ
Magma Plane (Earth + Fire)Level 2
✦Molten Bullet : ยิงหินลาวาใส่เป้าหมาย สร้างความเสียหายทั้งธาตุไฟและกายภาพ จำนวนหินลาวาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
✦Eruption : ดันลาวาออกจากพื้นดินจุด ๆ หนึ่งด้วยแรงดันสูง
Level 3
✦Obsidian Encase : สร้างเกราะคุ้มกันให้กับวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตเป้าหมายจากแร่หินภูเขาไฟ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
Level 4
✦Molten Rain : สาดห่าฝนลาวาใส่ในรัศมีหนึ่ง ๆ ทีผู้ร่ายต้องการ สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับเป้าหมายภายในรัสมี
Mud Plane (Earth + Water)Level 2
✦Magic Clay : ทำให้โคลนตมหรือดินจำนวนหนึ่งกลายเป็นดินวิเศษ มีฤทธิ์ในการถอนพิษและต้านเวทมนตร์เล็กน้อย
✦Earthskin : สร้างเกราะป้องกันจากดินโคลนให้กับเป้าหมาย หากเป้าหมายติดไฟอยู่ ไฟจะดับลงทันที
Level 3
✦Quagmire : สร้างพื้นโคลนดูดขนาดใหญ่ตรงหน้าผู้ร่าย ลดความเร็วของทุกสิ่งที่เคลื่อนที่ด้วยพื้นดินภายในรัศมี
Level 4
✦Entombing Mud : สูบเป้าหมายลงไปในดินโคลนเวทมนตร์ก่อนจะเปลี่ยนให้พื้นดินกลับมาเป้นเหมือนเดิม ตรึงเป้าหมายดังกล่าวไว้กับพื้น
Metal Plane (Earth + Energy)Level 2
✦Piecing Dust : พ่นฝุ่นโลหะแหลมคมออกจากฝ่ามือของผู้ใช้เป็นรูปกรวย สร้างความเสียหายแบบตัดเฉือนและทิ่มแทงในเวลาเดียวกัน
✦Steel Body : หุ้มร่างกายของเป้าหมายด้วยเหล็กเวทมนตร์ชั่วคราว ป้องกันจากการโจมตีประชิดเกือบทั้งหมด แต่จะถูกความเสียหายจากธาตุไฟและสายฟ้าเพิ่มขึ้น
Level 3
✦Lead Pillar : เสกให้มีเสาตะกั่วขนาดใหญ่งอกแทงออกมาจากพื้นผิวในพริบตา ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับผู้ใช้
Level 4
✦Midas Finger : ประจุเวทมนตร์ลงบนนิ้วของผู้ร่าย เมื่อสัมผัสกับเป้าหมายใด ๆ เป้าหมายนั้นจะถูกแช่แข็งและเปลี่ยนเป็นทองคำชั่วคราว ระยะเวลาขึ้นอยู่กับระดับผู้ใช้
Dust Plane (Earth + Entropy)Level 2
✦Glitterdust : สาดผงฝุ่นสะท้อนแสงใส่เป้าหมาย ทำให้เป้าหมายตาบอดหรือเกาะติดกับเป้าหมายที่ล่องหนหายตัวเพื่อระบุตำแหน่ง
✦Sandstream : ควบคุมฝุ่นทรายรอบตัวผู้ร่าย สามารถสั่งการทางจิตถึงการเคลื่อนไหว ความเร็ว และความหนาแน่นอย่างอิสระ
Level 3
✦Sandstorm : สร้างพายุทรายขนาดใหญ่ปกคลุมพื้นที่ สร้างความเสียหายแบบตัดเฉือนให้กับเป้าหมายในรัศมี
Level 4
✦Crumbling to Dust : ทำให้หิน ดิน หรือโลหะที่ผู้ใช้สัมผัสสลายเป็นฝุ่นผง ผลลัพท์ขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่ายและเป้าหมาย
Radiance Plane (Fire + Energy)Level 2
✦Ray of Light : ยิงลำแสงพลังงานสูงใส่เป้าหมาย มีผลมากเป็นพิเศษกับศัตรูประเภท Undead
✦Cleansing Flame : สร้างเปลวไฟที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตขึ้น มีคุณสมบัติในการรักษาและสมานบาดแผล
Level 3
✦Sunburst : ระเบิดแสงอาทิตย์ออกจากร่างของผู้ใช้ ทำให้ศัตรูรอบตัวตาบอดหรือพร่าลงทันทีและถูกความเสียหายธาตุแสง
Level 4
✦Radiance Meteor : สร้างห่าฝนดาวตกในรัศมีที่ต้องการ แผดแผาทุกสิ่งในรัศมีด้วยความเสียหายธาตุไฟและแสง
Ash Plane (Fire + Entropy)Level 2
✦Roasting Ashes : พ่นเถ้าถ่านร้อนระอุออกมาจากฝ่ามือของผู้ร่ายเป้นทรงกรวย สร้างความเสียหายจากความร้อนให้กับเป้าหมาย
✦Amber Bolts : ยิงลูกศรที่ก่อตัวขึ้นจากเปลวไฟสุดท้ายของเถ้าถ่าน นอกจากจะสร้างความเสียหายธาตุไฟแล้วยังรับกวนประสาทสัมผัสของเป้าหมายอีกด้วย
Level 3
✦Ashen Cloak : สร้างม่านปกคลุมจากเถ้าควันรอบตัว หากอยู่ในที่ ๆ มีแสงน้อยหรือไม่มีแสง จะอำพรางเสมือนล่องหนได้ทันที
Level 4
✦Last Flame : ปลุกเปลวไฟจากเถ้าถ่านสุดท้าย ระเบิดไอร้อนออกจากร่างของผู้ร่าย แผดเผาศัตรูรอบตัวด้วยความร้อนสูง
Steam Plane (Water + Energy)Level 2
✦Obscuring Mist : กระจายหมอกควันขึ้นรอบตัวผู้ร่าย บดบังการมองเห็นของทุกสิ่งทั้งภายในและภายนอกกลุ่มควัน
✦Scorching Steam : พ่นไอน้ำแรงดันสูงออกจากฝ่ามือของผู้ร่าย สร้างความเสียหายให้กับสิ่งที่มันสัมผัส
Level 3
✦Rainbow Ray : ยิงลำแสงสีรุ้งที่ควบแน่นด้วยธาตุน้ำและพลังงาน สร้างความเสียหายเป็นพิเศษต่อ Undead และ Elemental
Level 4
✦Incendiary Cloud : พ่นละอองไอน้ำความร้อนสูงออกจากฝ่ามือทั้งสองข้างของผู้ใช้ สร้างความเสียหายให้กับทุกสิ่งที่มันสัมผัส
Salt Plane (Water + Entropy)Level 2
✦Rust : ประจุเวทมนตร์ลงบนฝ่ามือของผู้ร่าย ทำให้โลหะที่ผู้ใช้สัมผัสขึ้นสนิมอย่างรุนแรง
✦Grease : ทำให้พื้นผิวของวัตถุหรือพื้นที่มีความลื่นภายในตัว
Level 3
✦Acid Arrow : ยิงลูกศรจากน้ำกรดเข้มข้นใส่เป้าหมาย จำนวนลูกศรขึ้นอยู่กับระดับของผู้ร่าย
Level 4
✦Acid Fog : พ่นหมอกกรดออกจากฝ่ามือทั้งสองของผู้ร่าย ปกคลุมพื้นที่ครุ่หนึ่ง ทุกอย่างที่อยู่ในรัศมีกรดได้รับความเสียหายจากการกัดกร่อน
-
สิ่งของและอุปกรณ์ - Item and Equipment
ระดับไอเทม จำแนกด้วยสีตามระดับความหายาก ดังนี้ทั่วไป(Common), ไม่ธรรมดา(Uncommon), ชั้นดี(Fine), ยอดเยี่ยม(Excellent), หายาก(Rare), เหนือคำบรรยาย(Epic), ตำนาน(Legendary)
❖ ของทั่วไป-สินค้า
ไอเทมสินค้าหรือของทั่ว ๆ ไปที่อาจจะพบเจอได้ เช่นถ้วย ไห จานชาม ผ้า หนังสัตว์ ไม้ฟืน เป็นต้น
✤ อาหาร-ยา-วัตถุดิบ
ไอเทมสำหรับกิน-ดื่มและวัตถุดิบในการทำอาหารและยาเป็นหลัก เช่น ขนมปัง เนื้อสัตว์ หัวหอม ใบมินต์ เป็นต้น
✱ ของใช้งาน-วัสดุ
ไอเทมสำหรับใช้งานเช่นหรือวัสดุที่ใช้ในการประดิษฐ์สิ่งต่าง ๆ เช่น ระเบิด ดินปืน กรด เหล็ก ทองแดง เป็นต้น
⚒ เครื่องมือ-เครื่องใช้
ไอเทมประเภทอุปกรณ์ไว้สำหรับใช้งานต่าง ๆ เช่น กุญแจผี จอบ อีเต้อ ขวานตัดไม้ หม้อ ถุงนอน เป็นต้น
⚔ อาวุธ-ยุทโธปกรณ์
ไอเทมประเภทอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ สามารถสวมใส่ไว้กับตัวได้ อาวุธทุกชนิดนอกจากจะระบุชื่อและประเภทเอาไว้แล้ว ยังมีการระบุค่าสถานะที่ใช้ในการทอยเพื่อโจมตีอีกด้วย
ตัวละครที่ไม่มี Mastery ของอาวุธที่ใช้โจมตี เมื่อทอยเต๋าจะถูกหักลบค่าความสำเร็จลง 1 ค่าเสมอ
♦ เครื่องป้องกัน-เครื่องแต่งกาย
เครื่องป้องกันหรือเครื่องแต่งกายต่าง ๆ สามารถสวมใส่ไว้กับตัวได้ เครื่องป้องกันมีด้วยกัน 4 ส่วนคือ [Head],[Body],[Arms] และ [Legs] เครื่องป้องกันมีอยู่ 3 ประเภทคือ [Normal] ➜ [Light] ➜ [Heavy] หากไม่มีความสามารถที่เพียงพอในการสวมใส่(ความสามารถของสาย Fighter) ตัวละครจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้สะดวกนัก
❂ เครื่องประดับ-ของวิเศษ
เครื่องประดับและไอเทมวิเศษต่าง ๆ สามารถสวมใส่ไว้กับตัวได้
♛ วัตถุล้ำค่า
วัตถุล้ำค่าต่าง ๆ ซึ่งอาจจะได้มาจากมอนสเตอร์หรือดันเจี้ยน เช่น หน้ากากทองคำ กล่องสมบัติ อัญมณี เป็นต้น
-
ตัวอย่างข้อมูลตัวละคร
(http://i.imgur.com/Vm7BLiM.png) Wildethorne - Magic Knight - Level 3 MP 3/3 | Fighter Rank-2 | Mage Rank-1Physical 2 -------------------- | Sense 1 -------------------- | Lore 1 -------------------- | Mind 2 -------------------- |
อุปกรณ์สวมใส่ ⚔[S.Sword] ดาบสั้นสำริด (Physical : Slash) ⚔[Crossbow] หน้าไม้เบา (Sense : Pierce) ♦[Head] มงคลเงิน ♦[Body] เกราะหนังฟอก (Light) ♦[Leg] กางเกงผ้าฝ้าย
|
Skills♟Nomad
Lesser ♞Animal Handling
Lesser ☘Hunting
Lesser ♾Spellcraft
SpellsLevel 1
✦Wind Wall : สร้างกำแพงลมขึ้นตรงหน้าผู้ใช้ พัดและปัดป้องอาวุธระยะไกลและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กออกไป
✦Gaseous Form : เปลี่ยนร่างผู้ร่ายให้กลายเป็นก้อนหมอกควัน สามารถลอยในอากาศได้อย่างอิสระ ผลสิ้นสุดเมื่อถูกโจมตีหรือได้รับความเสียหาย
Inventory⚒ ถุงเหรียญ(ผ้าป่าน)
70 ◎
♛ ทับทิมแดง
⚒ กระเป๋าสะพายหนังสัตว์(กลาง)
2 ✤ห่อเสบียง (เนื้อแห้ง/หัวหอม/ขนมปังกรอบ)
2 ❖ไม้ฟืน
✱ คบไฟ
⚒ ถุงน้ำ (10/10)
⚒ หม้อสนาม
⚒ ขวานตัดไม้
⚒ กระบอกลูกศร(ไผ่)
20 ⚔ลูกดอกหน้าไม้