Baron's Bloody Library

Now Playing => Eternal Land => Eternal Realm => Fantasy 101 => Topic started by: Observer on November 25, 2015, 11:38:15 AM

Title: [Motherland] Appendix ภาคผนวก
Post by: Observer on November 25, 2015, 11:38:15 AM
(http://i.imgur.com/Qf3d597.png)
Appendix - ภาคผนวก

จัดทำขึ้นเพื่อเป็นบทอ่านนอกเหนือจากตัวเกม สำหรับผู้เล่นที่ต้องการเนื้อหาเพิ่มเติมของจักรวาล Motherland

Index - ดัชนี
Arsenal - สรรพวุธ
Rifle - ปืนยาว (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165542)
Sniper Rifle - ปืนยาวซุ่มยิง (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165543)
Assault Rifle - ปืนยาวจู่โจม (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165544)
Sub-Machine Gun - ปืนกลมือ (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165545)
Machine Gun - ปืนกล (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165546)
Shotgun - ปืนลูกซอง (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165547)
Anti-Tank - อาวุธต่อต้านรถถัง (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165548)
Pistol - ปืนพก (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165549)
Flamethrower - เครื่องพ่นไฟ (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165550)
Grenade Launcher - เครื่องยิงลูกระเบิด (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165551)
Mortar - ปืนครก (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165552)

Historical Figure - บุคคลสำคัญ
บุคคลสำคัญฝ่ายราชอาณาจักรไลรัน - Lyran (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165561)
บุคคลสำคัญฝ่ายสาธารณรัฐที่หนึ่ง - Republic (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165573)
บุคคลสำคัญฝ่ายสหภาพโซเลียริส - Union (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165574)

History - ประวัติศาสตร์
มหาสงครามครั้งที่หนึ่ง - First Great War (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165639)
มหาสงครามครั้งที่สอง - Second Great War (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165667)
การสังหารหมู่ที่โคลเดนไฮล์ม - Koldenheim's Massacre (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165657)
ค่ายกักกันคาลกัว - Kalgua Concentration Camp (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165673)

Glossary - อภิธาน
ความเชื่อและศาสนาในมหาทวีป - Belief and Religion (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165686)
ชาววินดัล - Windal (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165676)
การทหารในราชอาณาจักร - Military in Kingdom of Lyran (http://baron.wudthipan.com/forum/index.php?topic=1781#msg165693)

Battlefield - สมรภูมิ
-

Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:47:31 PM
Rifle - ปืนยาว


M1 Flora ระดับ ★ - Lyran
ปืนยาวมาตรฐานของราชอาณาจักรไลรัน ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงปลายของมหาสงครามครั้งที่ 1 เพื่อแจกจ่ายให้กับทหารราบในแนวหน้า เป็นปืนยาวกึ่งอัตโนมัติ ขนาดลำกล้องอยู่ที่ .30 นิ้ว และระยะยิงหวังผลอยู่ที่ 400-500 เมตร ถูกผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกโดยคลังแสงส่วนกลางในปี 1918 ก่อนจะได้รับความนิยมในทั้งการใช้งานในด้านการสงครามและพลเรือน จึงขยายกำลังผลิตให้กับกลุ่มเอกชนหลังสงคราม
เนื่องจากมีกลไกที่ค่อนข้างเป็นแม่แบบมาตรฐานและดูแลรักษาง่าย ทำให้เป็นปืนยาวที่มักจะถูกใช้เป็นต้นแบบสำหรับการปรับแต่งต่าง ๆ รวมทั้งสามารถรับกระสุนขนาดที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐานของอาณาจักรไลรัน ทำให้ M1 Flora เป็นปืนมาตรฐานที่ถูกบรรจุในหลักสูตรฝึกทหารสำหรับราชอาณาจักร

M1 Flora-A1 ระดับ ★★ - Lyran
ปืนยาวที่ต่อยอดการออกแบบของ M1 Flora สำหรับใช้ในการสงครามโดยเฉพาะ กลไกการดีดกระสุนและการขึ้นลำปืนแบบใหม่ถูกคิดค้นโดย Sir. Alfred Higg (อัลเฟรด ฮิกก์) นายช่างหลวงที่ดูแลการออกแบบและผลิตปืนยาวขององครักษ์ในวัง ทำให้เป็นปืนที่มีพลังยิงสูงกว่า M1 Flora และลดปัญหาการขัดลำกล้องของปลอกกระสุนในบางครั้งหลังจากที่ไม่ได้รับการดูแลรักษานาน ๆ

M1 Rosewill ระดับ ★★★ - Lyran
ปืนยาวกึ่งอัตโนมัติที่พัฒนาต่อมาจาก M1 Flora-A1 โดยกลุ่มช่างหลวงรุ่นหลังมหาสงคราม ผลิตขึ้นเป็นตัวทดลองครั้งแรกหลังจากไลรันถูกสาธารณรัฐรุกรานในปี 1940 ด้วยระบบกลไกบรรจุและขับกระสุนออกแบบใหม่ทำให้ปืนนี้สามารถยิงต่อเนื่องเป็นชุดได้ทีละ 3 นัด และสามารถบรรจุซองกระสุนขนาด .30 นิ้ว x10 นัดได้โดยไม่มีปัญหาการขัดลำกล้องเมื่อยิงต่อเนื่องอีกต่อไป

Gorwin 98-B ระดับ ★★★ - Republic
ปืนยาวมาตรฐานของสาธารณรัฐที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนมหาสงครามครั้งแรกและได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโดยเทคโนโลยีวิศวกรรมสงคราม รุ่นล่าสุดที่เป็นปืนยาวมาตรฐานในปัจจุบันคือรุ่น B (พัฒนาขึ้นมาเป็นรุ่นที่ 11) ขนาดลำกล้อง 7.9 มม. ความยาวจากปลายลำกล้องถึงพานท้ายราว 1.3 ม. และมีน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับปืนที่มีขนาดใกล้เคียงกัน (4 กก.)
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:48:45 PM
Sniper Rifle - ปืนยาวซุ่มยิง


M1 Flora-S ระดับ ★ - Lyran
ปืนยาว M1 Flora ที่ถูกปรับแต่งให้รองรับสำหรับการยิงระยะไกล แลกกับแรงดีดที่สูงขึ้นและลูกเลื่อนที่รองรับการยิงต่อเนื่องได้น้อยลง รูปลักษณ์โดยรวมไม่ต่างจาก M1 Flora มากนัก จุดสังเกตุสำหรับมือใหม่นอกจากกล้องปืนซุ่มยิงแล้วก็เห็นจะเป็นลูกเลื่อนและลำปืนที่มีรูปร่างต่างไปจากรุ่นปรกติเล็กน้อย

M1924 Snowthorn ระดับ ★★ - Lyran
ปืนยาวซุ่มยิงที่ถูกออกแบบมาเพื่อซุ่มยิงโดยเฉพาะรุ่นแรกของราชอาณาจักรไลรัน ออกแบบโดยช่างเทคนิคชาววินดัลไม่ทราบนามในปี 1924 Snowthorn เป็นปืนแบบยิงซ้ำ(Repeating Rifle) ซึ่งเป็นกลไกบรรจุกระสุนแบบเก่า ต่างจากปืนยาวอัตโนมัติที่ถูกออกแบบขึ้นมาในสมัยใหม่ แต่เนื่องจากกลไกการบรรจุกระสุนที่ลดลงทำให้สามารถติดตั้งกลไกอื่น ๆ ที่ช่วยให้ปืนสเถียรและเหมาะกับการใช้งานของพลซุ่มยิงที่ไม่เน้นความคล่องตัวมากนักได้สูงขึ้น


1937 S-Anderson ระดับ ★★★ - Lyran
พัฒนาต่อยอดโดยการนำระบบกึ่งอัตโนมัติของ Bindeross มาปรับให้เข้ากับปืน Snowthorn ส่งผลให้เกิดปืนซุ่มยิงกึ่งอัตโนมัติเฉพาะทางของราชอาณาจักรกระบอกแรก ตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียตริให้กับครูทหารที่สอนหลักสูตรพิเศษพลซุ่มยิงของไลรันมานานกว่า 40 ปี Leeroy Anderson สามารถยิงกระสุนได้ทั้งแบบ .30 นิ้วของราชอาณาจักรและ 7.9มม. ของสาธารณรัฐด้วยระบบเลี้ยงกระสุนพิเศษ

Bindeross ระดับ ★★★ - Republic
ปืนยาวซุ่มยิงกึ่งอัตโนมัติของสาธารณรัฐ ด้วยเทคโนโลยีกลไกและความสามารถในการผลิตที่สูงกว่าราชอาณาจักร Bindeross นับเป็นปืนยาวที่ทรงพลังอย่างแท้จริง ขนาดลำกล้องของมันอยู่ที่ 7.9 มม. และระยะหวังผลสูงสุดถึงเกือบ 800 เมตร แต่เนื่องจากปัญหาทางการผลิตและการขนส่ง รวมทั้งสงครามติดพันกับสหภาพโซเรียลิสทางตอนใต้ ทำให้มี Bindeross จำนวนไม่มากนักที่ถูกบรรจุเข้ามาใช้งานในสงครามไลรัน
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:49:38 PM
Assault Rifle - ปืนยาวจู่โจม


MI14-P ระดับ ★★ - Lyran
ปืนยาวจู่โจมนับเป็นไอเดียใหม่สำหรับราชอาณาจักรไลรัน รวมทั้งทั่วโลกด้วย แต่ความพยายามในการผนวกรวมความคล่องตัวของปืนยาวและพลังการยิงของปืนกลนั้นเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น MI14-P เป็นตัวทดลองตัวแรกที่ถูกสั่งผลิตและอนุมัติให้นำมาทดลองใช้ในสนามรบครั้งแรกหลังจากสาธารณรัฐบุกโจมตีเข้ามาในไลรัน ด้วยความหวังที่ว่าปืนจู่โจมนี้จะสามารถต่อกร หรืออย่างน้อยก็เพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับทหารราบของไลรันต่อปืนจู่โจมที่มีศักยภาพเหนือกว่าของสาธารณรัฐได้ เนื่องจากเป็นปืนในสายการผลิตที่ต่างจาก M1 Flora อย่างสิ้นเชิง ทำให้ MI14-P ต้องใช้กระสุนรูปแบบใหม่เพื่อรองรับขนาดลำกล้อง .308 นิ้ว

MI14-A ระดับ ★★★ - Lyran
หลังจากทดลองใช้ในสนามรบกับสาธารณรัฐยาวนานหลายเดือน ประกอบกับการ reverse-engineer ปืน Stormfall ของสาธารณรัฐ ทำให้ไลรันสามารถปรับแต่งปืนยาวจู่โจมของตนเองได้สำเร็จ และชื่อ -P ที่หมายถึง Prototype ก็ถูกถอดออกเป็นปืนประจำการอย่างแท้จริง

Stormfall-42 ระดับ ★★★ - Republic
ปืนยาวจู่โจมบุคคลของสาธารณรัฐ ถูกพัฒนาขึ้นหลังจากมีการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการกับสหภาพโซเรียลิส เป็นปืนที่กล่าวขานต่อกันว่าทำให้สาธารณรัฐรุกคืบเข้าไปในดินแดนของสหภาพอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนหน้าจะมีชื่ออย่างเป็นทางการ มันคือปืน Prototype-42 แต่หลังจากความสำเร็จในยุทธการณ์ Stormfall มันก็ได้รับชื่อใหม่ในทันที ขนาดลำกล้องมารตฐานสาธารณรัฐ 7.9 มม. แต่สามารถบรรจุกระสุนในรังเพลิงและยิงต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 750 นัดต่อนาที ทำให้มันกลายเป็นปืนกลตะลุมบอนไปโดยปริยาย
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:50:18 PM
Sub-Machine Gun - ปืนกลมือ


Viperian-1 ระดับ ★ - Lyran
ปืนกลมือขนาดที่พัฒนาด้วยพื้นฐานมาจากปืนกลมือในมหาสงครามครั้งที่ 1 ตอนปลายของฝ่ายสหภาพโซเลียริส เนื่องจากพื้นฐานโครงสร้างที่ต่างจากปืนยาวทั่วไป Viperian ใช้กระสุนที่รองรับกับลำกล้องขนาด 9 มม. และสามารถยิงได้สูงสุดประมาณ 500 นัดต่อนาที ขึ้นอยู่กับการรักษา แต่เนื่องจากความคงทนของโครงสร้างแล้ว ในคู่มือของส่วนกลางมักจะย้ำเสมอว่าไม่ควรยิงกระสุนเกินนาทีละ 100 นัดหรือยิงต่อเนื่องจนหมดซองกระสุนแบบกลม(Drum Magazine) โดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจจะทำให้กลไกการดีดปลอกกระสุนเสียหายและนำไปสู่การติดขัดในอนาคต

Viperian-2 ระดับ ★★ - Lyran
รุ่นที่สองของปืน Viperian เสิรมความคงทนให้กับโครงสร้างเล็กน้อยแลกกับน้ำหนักที่มากขึ้นเล็กน้อย จากการประยุกต์กลไกลำปืนใน M1 Flora-A1 ของ Sir. Alfred Higg มาใช้ในปืนกลมือ ทำให้ Viperian-2 สามารถยิงเป็นชุดได้ต่อเนื่องมากขึ้นโดยไม่ทำความเสียหายกับกลไกภายใน อย่างไรก็ตามการยิงแบบ Burst ก็ยังคงไม่แนะนำหากไม่อยู่ในสถานการณ์จำเป็นจริง ๆ

V-3 Type A ระดับ ★★★ - Lyran
ปืนในตระกูล Viperian ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อต่อต้านการโจมตีของสาธารณรัฐ ประจำการในกองกำลังครั้งแรกในต้นปี 1940 เพื่อใช้ในการป้องกันที่สะพาน Rughbridge เป็นปืนกลมืออัตโนมัติที่พัฒนาด้านความคงทนและคล่องตัวด้วยโลหะอัลลอยด์สูตรใหม่ของวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ไลรัน ทำให้มันสามารถรองรับแรงดีดกระสุนและความร้อนได้มากขึ้นโดยไม่สร้างความเสียหาย เป็นปืนกลมือตัวแรกของราชอาณาจักรที่สามารถยิงแบบ burst จากซองกระสุ่นแบบลำกลมได้จริง ๆ

Landmaster 38 ระดับ ★★★ - Republic
ปืนกลมือของสาธารณรัฐ ถูกออกแบบและผลิตในปี 1938 ก่อนที่จะประกาศสงครามอย่างเป็นทางการได้ไม่นานนัก เป็นปืนที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นอัจฉริยะในทางวิศวกรรมอย่างแท้จริง ด้วยน้ำหนักที่เบาและกลไกการขึ้นลำและดีดกระสุนต่อเนื่องภายในทำให้มันกลายเป็นปืนประจำการของกองทัพสาธารณรัฐอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แม้จะใช้กระสุนขนาดเล็กกว่าขนาดมาตรฐานของสาธารณรัฐก็ตาม(ขนาดลำกล้องอยู่ที่ 7.6 มม.) สามารถยิงได้สูงสุด 600 นัดต่อนาทีและมีระยะหวังผลที่ 100 เมตร ทำให้มันกลายเป็นปืนตะลุมบอนชั้นเยี่ยม
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:51:58 PM
Machine Gun - ปืนกล

Loller Gun ระดับ ★ - Lyran
ปืนกลที่ราชอาณาจักรไลรันใช้มาตั้งแต่ยุคมหาสงครามครั้งแรก มีจุดแดนที่ตลับกระสุนทรงกลมที่ถูกติดตั้งบนตัวปืนในแนวนอนและใช้กระสุน .30 แบบพิเศษที่ยาวกว่ากระสุนของ M1 Flora เล็กน้อย มีน้ำหนักไม่รวมกระสุนอยู่ที่ 13 กก. และยาวจากปลายกระบอกถึงพานท้ายถึง 1.4 ม. สามารถยิงได้ต่อเนื่อง 500 นัดต่อนาทีและมีระยะหวังผลถึง 800 เมตร แต่แน่นอนว่าด้วยแรงดีดมหาศาลทำให้ไม่สามารถยิงโดยไม่ตั้งบนขาหยั่งได้และความแม่นยำต่ำมากถึงมากที่สุด อย่างไรเสียมันก็เป็นปืนที่ประจำการในกองทัพมาอย่างยาวนานและทำหน้าที่ของปืนกลได้ดีที่สุดเท่าที่มันจะทำได้แล้ว

Bernell Mk.1 ระดับ ★★ - Lyran
ปืนกลเบารุ่นแรกของราชอาณาจักรไลรัน เริ่มแรกผลิตโดยโรงงานอาวุธเอกชนชื่อ Bernell & Barnes Co. โดยมีความช่วยเหลือเรื่องงบประมาณจากวิทยาลัยทหารของรัฐบาล ทำให้เกิดเป็นปืนกลที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับปืนกลของสหภาพและสาธารณรัฐในช่วงก่อนเริ่มมหาสงครามครั้งที่สอง ตัวปืนสามารถถอดและประกอบได้สำหรับการขนย้ายระยะไกลและการดูแลรักษาที่ง่ายขึ้น ประกอบกับระบบขับแก๊ซภายในและน้ำหนักเบา(10 กก.)ทำให้มันสามารถใช้งานในสนามรบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า Loller Gun สามารถบรรจุกระสุนได้ด้วยตลับกระสุนแบบกลมหรือแบบแท่งเท่านั้น ทำให้มันค่อนข้างเสียเปรียบปืนกลต่อต้านบุคคลของสาธารณรัฐเล็กน้อยเพราะไม่สามารถใช้สายพานเลี้ยงกระสุนได้

Bernell Mk.2 ระดับ ★★★ - Lyran
ปืนกลเบาของ Bernell & Barnes Co. ที่พัฒนาต่อจากรุ่นก่อนให้สามารถรับกระสุนจากสายพานเลี้ยงได้และเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงต่อเนื่องได้ถึง 600 นัดต่อนาที ในระยะหวังผล 1 กม. ความสามารถในการถอดประกอบยังคงอยู่เหมือนกับรุ่นก่อน นอกจากนี้ยังสามารถถอดประกอบลำกล้องสำหรับใช้เฉพาะทางเช่นลำกล้องลงแรงดีดหรือลำกล้องพรางแสง(ลดประกายไฟจากปากกระบอก) ได้

MeGezth 34 ระดับ ★★★ - Republic
ผลิตขึ้นและแจกจ่ายให้กับกรมกองทหารของสาธารณรัฐในปี 1934 เพื่อเป็นปืนกลเบาอเนกประสงค์ที่ใช้ได้ตั้งแต่ยิงต่อต้านบุคคล รถถัง และอากาศยาน กลไกซับซ้อนภายในตัวปืนและรังเพลิงทำให้มันเป็นปืนกลบุคคลกระบอกแรกที่สามารถยิงได้จากกระสุนทั้งแบบซองกระสุนและแบบสายพาน มันสามารถยิงได้สูงสุด 600-700 นัดต่อนาทีในระยะหวังผลถึง 1.2 กม. ถือว่าเป็นปืนบุคคลที่มีระยะหวังผลสูงที่สุดก่อนเริ่มมหาสงครามครั้งที่สอง
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:55:19 PM
Shotgun - ปืนลูกซอง


Crowing-5 ระดับ ★ - Lyran
ปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติที่ถูกผลิตตั้งแต่สมัยก่อนมหาสงครามครั้งที่ 1 โครงสร้างและการออกแบบค่อนข้างนับว่าล้าสมัยเมื่อเทียบกับปืนกึ่งอัตโนมัติในยุคปัจจุบัน แต่เนื่องจากเป็นปืนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในส่วนของพลเรือนและการฝึกทหาร ทำให้ Crowing เป็นปืนแรก ๆ ที่ผู้คนส่วนใหญ่เคยจับต้องหรือใช้งานมาก่อนและความหลากหลายของกระสุนที่สามารถบรรจะและยิงได้ ทำให้มันยังคงเป็นปืนเบื้องต้นที่ถูกจำหน่ายให้กับทหารในกรมกองของราชอาณาจักร

Windling 1912 ระดับ ★★ - Lyran
ปืนลูกซองแบบโยนลำ(Pump Action) ที่ผลิตขึ้นในช่วงระหว่างมหาสงครามครั้งที่ 1 (1912) เป็นปืนที่นำเอาแบบและเทคโนโลยีการผลิตมาจากปืนลูกซองของสหาภาพมาปรับแต่งและเพิ่มเติมให้เข้ากับการใช้งานทั่วไป สามารถบรรจุกระสุนลูกซองแบบ 12ga, 16ga 20ga และ 28ga ได้ และเป็นปืนที่เป็นทีนิยมมากสำหรับการล่าสัตว์และป้องกันตัวในเขตชายแดนของราชอาณาจักรไลรัน

Windling 31 ระดับ ★★★ - Lyran
ปืนลูกซองแบบโยนลำรุ่นที่ได้รับการผลิตต่อมาจาก 1912 ผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1931 แต่ไม่เป็นที่นิยมในหมู่พลเรือนนักเนื่องจากน้ำหนักที่มากขึ้นและแรงยิงที่สูงเกินกว่าจำเป็นจะใช้งาน ถูกเอามาใช้งานในกองทัพอย่างไม่แผร่หลายนัก แม้จะสามารถยิงทำลายสิ่งกีดขวาง ประตู หรือแม้กระทั่งเกราะของรถถังเบาได้ก็ตาม ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นตัวเลือกที่นิยมในหมู่ทหารหน่วยพิเศษที่ใช้การตะลุมบอนหรือต่อสู้ในสภาพตัวเมืองหรือสนามเพาะเป็นหลัก
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:56:02 PM
Anti-Tank - อาวุธต่อต้านรถถัง


Ironfist ระดับ ★ - Lyran
ปืนต่อต้านรถถังที่ราชอาณาจักรผลิตขึ้นหลังจบมหาสงครามครั้งแรก  เกิดขึ้นจากความคิดพื้นฐานที่ว่าต้องการปืนครกที่สามารถให้กำลังพลใช้ในสถานการณ์เร่งด่วนหรือเคลื่อนที่ระหว่างต่อกรกับยานเกราะได้ มีหน้าตาเหมือนกระบอกปืนขนาดกลางที่มีหัวระเบิดอยู่ตรงปลายปืน ตัวปืนจริง ๆ มีหน้าทีแค่ดีดหัวจรวดออกไปยังทิศทางเป้าหมายเท่านั้น เป็นปืนต่อต้านรถถังที่ใช้งานยากเป็นพิเศษและต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยนานพอสมควร

Bazkar-M1 ระดับ ★★ - Lyran
เนื่องจาก Ironfist ใช้งานยากเกินไปจึงมีการคิดค้นเครื่องยิงจรวดแบบใหม่ขึ้นมา ถูกคิดค้นโดยบริษัท Baz Armoury มันเป็นแท่งทรงกระบอกเรียบ ๆ กลไกภายในมีเพียงระบบจุดชนวนและประคองตัวหัวรบขนาดเล็กเท่านั้น อานุภาพของมันรุนแรงน้อยกว่าปืนครก แต่ถ้าหากใช้ในจังหวะและเป้าหมายที่พอเหมาะก็สามารถทำลายยานเกราะ ป้อมปราการ หรืออากาศยานได้อย่างไม่ยากเย็น

Bazkar-M1A ระดับ ★★★ - Lyran
รุ่นปรับแต่งของ Bazkar-M1 ทั่วไป เพิ่มความเสถียรให้กับกระบอกปล่อยจรวดและลดการแกว่งของหัวจรวดเมื่อออกจากกระบอกด้วยการหล่อเกลียวภายในแบบพิเศษทำให้จรวดพุ่งออกไปในแนวตรงได้ไกลกว่าเดิม

Zoloris-1 ระดับ ★★★ - Republic
ปืนยิงจรวดไร้แรงสะท้อนถอยหลัง(Recoil-less Gun)ของสาธารณรัฐ ถูกออกแบบมาเป็นตัวจุดชนวนให้กับจรวดที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษและตัดปัญหาของแรงสะท้อนกำลังสูงของจรวดที่มีพลังทำลายสูงขึ้น ด้วยการปล่อยให้มี "ไอเสีย" ความร้อนสูงออกจากหลังตัวปืนเมื่อจุดชนวนเร่งความเร็ว และปล่อยจรวดออกไปเมื่อความเร็วขึ้นถึงขีดที่ต้องการ ส่งผลให้ตัวจรวดพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเร่งความเร็วในอากาสและทำให้วิถีของจรวดเป็นเส้นตรงจนถึงเป้าหมาย
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:56:38 PM
Pistol - ปืนพก


FiN10 ระดับ ★ - Lyran
ถูกผลิตขึ้นก่อนมหาสงครามครั้งที่หนึ่ง FiN10 เป็นปืนพกมาตรฐานของทหารของราชอาณาจักรไลรันมาตั้งแต่มันออกมาจากสายพานการผลิต ด้วยระบบแก๊ซและลูกเลื่อนที่ค่อนข้างสเถียรและเป็นพื้นฐานทำให้มันถูกบรรจุเป็นอาวุธคู่กายมายาวนานกว่า 40 ปี และเป็นอาวุธที่ผู้ผ่านการฝึกทหารและมีใบอนุญาตสามารถพกติดตัวได้หลังสงคราม ใช้กระสุนขนาด 9 มม. เป็นหลัก

Crowling-H1 ระดับ ★★ - Lyran
ผลิตโดยบริษัท Crowling ที่ผันตัวจากผู้ผลิตปืนลูกซองมาผลิตอาวุธขนาดเล็กหลังจากหมดช่วงมหาสงครามครั้งที่หนึ่ง Crowling-H1 เป็นปืนพกที่ใช้อย่างแผร่หลายก่อนมหาสงครามครั้งที่สองจะเริ่มขึ้นจนถึงขนาดที่ว่าต้องทำการส่งออกไปให้กับกำลังพลในต่างแดน เป็นปืนที่ใช้งานและดูแลรักษาง่ายประกอบกับระยะยิงหวังผลที่ค่อนข้างสูงสำหรับปืนพก(50 ม.) ทำให้มันเป็นปืนที่เป็นที่นิยมพอตัว

Crowling-38 ระดับ ★★★ - Lyran
ผลิตโดยบริษัท Crowling ในปี 1938 เป็นปืนพกที่แรกเริ่มเดิมที่หวังจะออกสู่ท้องตลาดในฐานะปืนพกที่มีดีไซน์เรียบหรูและเหมาะเอาไว้โชว์ฐานะของผู้ใช้ แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำเนื่องจากการปะทุขึ้นของมหาสงครามครั้งที่สอง จึงต้องเปลี่ยนแผนการตลาดมาเน้นไปในทางป้องกันตัวประจำบ้านและรับสัมปทานส่วนหนึ่งมาผลิตให้กับราชการแทน อย่างไรก็ตาม ปืนรุ่นนี้ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าออกแบบมาอย่างดีทั้งด้านการใช้งานและดีไซน์

Tungrov-30 ระดับ ★★★ - Republic
ปืนพกกึ่งอัตโนมัติมาตรฐานของสาธารณรัฐ ใช้กระสุนขนาด 7.6มม และมีอัตราการยิงต่อนาทีสูงกว่าปืนพกทั่วไปของราชอาณาจักรพอสมควร โครงของปืนแข็งแกร่งและทนสามารถใช้งานต่อเนื่องโดยไม่ได้รับดูแลรักษาได้นาน ๆ เหมาะกับการสงครามยืดเยื้อนอกเขตแดนอย่างมาก
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:57:35 PM
Flamethrower - เครื่องพ่นไฟ


Falros-1 ระดับ ★ - Lyran
เครื่องพ่นไฟบุคคลประจำการของราชอาณาจักร ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโต้การจู่โจมของสหภาพและสาธารณรัฐในช่วงปลายมหาสงครามครั้งแรก ใช้สำหรับการเผาทำลายที่ตั้งของศัตรูเป็นหลัก มีหัวฉีดน้ำมันและสายสะพายกับถังน้ำมันขนาดใหญ่เทอะทะ ในปัจจุบันมันถูกใช้เพียงในภารกิจจำเพาะเท่านั้น

Falros-2 ระดับ ★★ - Lyran
เครื่องพ่นไฟที่พัฒนาต่อมาจากรุ่นแรก ลดขนาดและเพิ่มความคงทนของถังน้ำมันพร้อมกับปรับปรุงหัวฉีดใหม่ให้ฉีดน้ำมันออกไปได้ไกลขึ้นในวงแคบ ทำให้ Falros กลายเป็นตัวเลือกที่สามารถนำมาใช้ในสมรภูมิทั่วไปได้อีกครั้ง

Falros-SF ระดับ ★★★ - Lyran
เครื่องพ่นไฟที่ออกแบบมาเพื่อหน่วยทหารคอมมาโดโดยเฉพาะ ลดความยุ่งยากในการใช้งานและเพิ่มแรงฉีดสำหรับใช้ในสมรภูมิขนาดใหญ่มากขึ้น

ข้อมูลปกปิด
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:58:30 PM
Grenade Launcher - เครื่องยิงลูกระเบิด


WS.36 ระดับ ★ - Lyran
เครื่องยิงลูกระเบิดแบบบุคคลรุ่นแรกที่ราชอาณาจักรใช้โดยออกแบบโดยมีพื้นฐานมาจากพิมพ์เขียวของสาธารณรัฐในช่วงหลังมหาสงครามครั้งแรก ถูกจำหน่ายให้กับกองทัพครั้งแรกในปี 1936 มีรูปร่างเหมือนกระบอกที่มีไกบิดตรงปลายใช้สำหรับปล่อยลูกระเบิดขนาด 44 มม. ติดชนวนออกไป สามารถยิงได้ในระยะประมาณ 200 เมตร

SE.Ven-1 ระดับ ★★ - Lyran
เครื่องยิงลูกระเบิดของราชอาณาจักรที่ถูกออกแบบโดยปรับปรุงจาก WS.36 เนื่องจากรุ่นก่อนมีปัญหาในการขนย้ายและลำบากในการจัดเก็บเมื่อไม่ได้ใช้งาน ทำให้ต้องมีการผลิตเครื่องยิงลูกระเบิดแบบใหม่ที่สามารถพกพาได้สะดวกกว่า จึงเกิดเป็นเครื่องยิงลูกระเบิดแบบติดใต้ลำกล้องปืนหลักขึ้น เนื่องจากไม่สามารถทำให้เครื่องยิงและตัวลูกระเบิดมีน้ำหนักเกินไปจนเป็นภาระเวลาไม่ใช้งานได้ ตัวระเบิดและลำกล้องเองจึงเล็กลงเหลือเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 22 มม. ทำให้ความรุนแรงของระเบิดน้อยลง แต่แลกมาด้วยระยะและความเสถียรที่มากขึ้น สามารถยิงได้ไกลสุด 300 เมตร.

SE.Ven-2 ระดับ ★★★ - Lyran
พัฒนาต่อจากรุ่นก่อน SE.Ven-2 เป็นเครื่องยิงลูกระเบิดใต้ลำปืนที่มีลำกล้องพิเศษที่สามารถรองรับลูกกระสุนระเบิดได้หลาดขนาด ตั้งแต่ลูกระเบิด 22 มม. ของราชอาณาจักร 30 มม. ของสาธารณรัฐ และ 33 มม. ของสหภาพ ทำให้มันสามารถใช้กระสุนระเบิดมาตรฐานที่อาจพบเจอในเขตแดนศัตรูได้อย่างไม่มีปัญหา

Scheisser M1 ระดับ ★★★ - Republic
เครื่องยิงลูกระเบิดแบบติดใต้ลำกล้องปืนของสาธารณรัฐ สามารถยิงลูกระเบิดที่มีพลังทำลายล้างพอที่จะหยุดยานเกราะเบาและสนามเพาะบุคคลได้ ใช้ในแนวหน้าที่ต่อสู้กับสหภาพเป็นหลัก แต่ก็มีบางส่วนถูกจำหน่ายมาใช้ในการโจมตีไลรันด้วย ขนาดปากลำกล้อง 30 มม. และยิงได้ไกลสุด 300 เมตร
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 12:59:59 PM
Mortar - ปืนครก


Stockade ระดับ ★ - Lyran
ปืนครกบุคคลที่ราชอาณาจักรไลรันใช้ในมหาสงครามครั้งแรกเพื่อป้องกันชายแดนทางใต้ ในสงครามสนามเพาะกับสหภาพ สามารถยิงกระสุนระเบิดขนาดสูงสุด 8 มม. แต่เนื่องจากขนาดใหญ่เทอะทะและหน้าปัดองศาการยิงที่ถูกผลิตอย่างเร่งรีบทำให้ความเสถียรและมาตรฐานของแต่ละกระบอกแตกต่างกันออกไปมาก

Ferdinal-1 ระดับ ★★ - Lyran
ตั้งชื่อตามวีรบุรุษสงครามสมัยมหาสงครามครั้งแรกที่เชี่ยวชาญการรบแบบสนามเพาะ ปืนครก Ferdinal ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อแทนที่ Stockade ที่ไม่ได้มาตรฐาน ขาพับและหน้าปัดของปืนครกกระบอกนี้ถูกออกแบบมาให้มีสปริงและสามารถกางออกได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องการใช้งาน สามารถยิงได้ไกลถึง 1.6 กม.

Ferdinal-2 ระดับ ★★★ - Lyran
เพื่อแข่งขันระยะกับปืนครกของสาธารณรัฐ Ferdinal-2 จึงพัฒนาขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับ GWR 36 ที่ระยะยิงสูงสุด 2 กม. เท่ากัน แม้จะไม่สามารถติดตั้งกลไกฟันเฟืองที่มีหน้าปัดองศาซับซ้อนได้ แต่ Ferdinal-2 ได้ทดแทนด้วยการขันระดับลวดดีด เพื่อปรับระยะยิงและความหลากหลายสำหรับสถานการณืมาแทน แม้จะต้องใช้เวลาทำความคึ้นเคยและฝึกฝนบ้างก็ตาม

GWR 36 ระดับ ★★★ - Republic
ปืนครกมาตรฐานของสาธารณรัฐ ถูกผลิตในจพนวนมากออกมาต่อสู้ในสงครามสนามเพาะกับสหภาพโซเลียริสทางตอนใต้ของดินแดน มีอาณุภาพสูงและแม่นยำพอสมควร พร้อมกับกลไกลานและฟันเฟืองพิเศษที่ทำให้สามารถปรับองศาได้ละเอียดขึ้น สามารถยิงลูกระเบิดขนาด 8 มม. ได้ไกลถึง 2 กม.
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 03:23:17 PM
บุคคลสำคัญ: ราชอาณาจักรไลรัน

King Edin IV พระเจ้าเอดินที่สี่ (1892 - 1931)
พระเจ้าเอดินที่สี่ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดาซึ่ง สิ้นพระชนม์ด้วยโรคมะเร็งปอด เมื่อทรงมีพระชนม์ได้เพียง 17 ปี ในปี 1909 ในเวลานั้นราชอาณาจักรไลรันยังเป็นหัวเมืองให้กับจักรวรรดิอยู่ ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองของจักรวรรดิไม่สู้มั่นคงนัก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมและความเพิกเฉยต่อบ้านเมือง รวมทั้งประเทศรอบข้างที่เริ่มแยกตัวจากจักรวรรดิที่ดูเหมือนจะล่มสลาย ในปี 1911 เมื่อมหาสงครามครั้งแรกอุบัติขึ้น นำโดยจอมพลวิคเตอร์ผู้รวบรวมดินแดนที่แตกออกจากจักรวรรดิและลุกขึ้นปฏิวัติในนามของกองทัพสหภาพประชาชน (Army of People Union) พระองค์ทรงเลือกที่จะภักดีต่อพระมหาจักรพรรดิอเล็กซิสที่เจ็ดต่อไป เนื่องจากบ้านเมืองหลังผัดเปลี่ยนกษัตริย์ไม่อาจพร้อมรับสงครามจากสองด้านได้

ด้วยพระปีชาทางด้านการคมนาคมและภูมิศาสตร์  ราชอาณาจักรไลรันภายใต้การนำของพระองค์สามารถต้านกองกำลังของจอมพลวิคเตอร์ได้อย่างเฉียบขาด จนกระทั่งจักรวรรดิได้พ่ายแพ้ต่อสหภาพในปี 1918 ทำให้พระองค์จำต้องยอมแพ้และร่วมเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับเอกราชหลังจากจบมหาสงครามครั้งแรกและจักรวรรคิล่มสลายไป หลังสงคราม พระองค์ทรงทุ่มเทให้กับการพัฒนาการคมนาคมและสาธารณูปโภคภายในราชอาณาจักร ก่อนจะอภิเษกกับพระนางยอร์ดิน่าในปี 1928 ซึ่งในเวลานั้นเป็นเพียงขุนนางระดับล่าง สร้างความไม่พอใจให้กับสกุลขุนนางระดับสูงหลายตระกูล

พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ในปี 1931 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ในขณะนั้นมีพระชนมายุได้เพียง 36 ปี และไม่มีทายาทสืบบัลลังค์

Queen Yordina พระนางยอร์ดิน่า (1908 - ปัจจุบัน)
เดิมชื่อยอร์ดิน่า วอนเซนเบิร์ก เป็นลูกสาวของขุนนางที่สืบสายมาจากตระกูลผู้ดีในชายแดนทางเหนือของราชอาณาจักร เมื่อครั้งเยาว์วัยพระนางสูญเสียบิดาไปในสงคราม และใช้ชีวิตในยุคข้าวยากหมากแพงจากสงคราม ต่างจากขุนนางที่มีระดับสูงขึ้นไปซึ่งอยู่ดีกินดีแม้ในยามสงคราม เมื่ออายุได้ 14 ปี นางได้สูญเสียครอบครัวอีกครั้งจากโรคร้าย ทำให้มรดกและที่ดินทั้งหมดตกอยู่ที่ตัวของนาง เนื่องจากในครอบครัวและญาติใกล้ชิดไม่มีคนมารับภาระดังกล่าว ทำให้นางต้องเริ่มศึกษาเศรษฐศาสตร์และพยายามประคับประคองสมบัติของตระกูล

เมื่อมีอายุ 20 ปี นางได้อภิเษกกับพระเจ้าเอดินที่สี่ ไม่มีใครทราบว่าทั้งสองเริ่มคบหาดูใจกันตั้งแต่เมื่อไหร่ เนื่องจากพระนางขึ้นสู่สถานะสูงอย่างรวดเร็ว ทำให้ขุนนางระดับสูงไม่ถูกกับนางมากนัก เมื่อถึงปี 1931 พระเจ้าเอดินทรงสิ้นพระชนม์ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวและไม่มีรัชทายาท ทำให้นางต้องนั่งบัลลังค์ครองราชย์ต่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในปี 1938 เมื่อเศษซากของจักรวรรดิเก่าเริ่มก่อตัวขึ้นมาเป็นสาธารณรัฐที่หนึ่งและประกาศสงครามกับสหภาพ พระนางเลือกที่จะทำให้ราชอาณาจักรไลรันเป้นกลางต่อทั้งสองมหาอำนาจ

แต่เมื่อสาธารณรัฐบุกโจมตีขึ้นมาอย่างฉับพลัน พระนางก็ไม่มีทางเลือก...

Cpt. Ferdinal Zanreef ร้อยเอกเฟอดินัล ซานรีฟ (1882 - 1918)
ร้อยเอกเฟอดินัลมีพื้นเพมาจากครอบครัวที่อพยพมาจากเมืองมาลัคเข้ามายังอาณาจักรไลรัน และเป็นลูกชายคนโตของพ่อค้าที่มีฐานะปานกลาง เฟอดินัลจบวิทยาลัยมาด้วยคะแนนสูงสุดของชั้นปีในปี 1900 ก่อนจะเริ่มทำงานสายอาชีพทหารและไต้เต้าขึ้นมาจนถึงระดับนายร้อย เมื่อสงครามครั้งใหญ่ปะทุขึ้น เขาอาสาไปประจำการในชายแดนทางใต้ ห่างจากเมืองหลวงในทันทีที่ได้ข่าว คำพูดที่เขาพูดกับผู้บัญชาการในขณะนั้นคือ "แม้ครอบครัวของผมจะไม่ใช่สายเลือดของไลรัน ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะปกป้องไลรันไม่ได้"

ในสงครามสนามเพาะที่ยืดเยื้อถึง 7 ปี ร้อยเอกเฟอดินัลเป็นคนคิดค้นและวางแผนยุทธการใหม่ ๆ สำหรับรบในสภาพสนามเพาะ จนทหารสหภาพเรียกเขาอย่างรังเกียจว่า "เจ้าไส้เดือนดิน" หลังจากปฏิบัติการกล้าตายและชัยชนะอย่างต่อเนื่อง เฟอดินัลถูกลอบยิงและเสียชีวิตท่ามกลางความหนาวเหน็บของเดือนมกรา ก่อนที่สหภาพจะรุกคืบเข้าไปในดินแดนของจักรวรรดิและประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการ ร้อยเอกเฟอดินัลได้รับเลื่อนขั้นย้อนหลังให้เป็นพันโท แต่ผู้คนก็ยังคงติดปากเรียกด้วยยศเดิมของเขาอยู่ดี

Sir. Alfred Higg อัลเฟรด ฮิกก์ (1888 - ปัจจุบัน)
ลูกชายของข้าหลวงในพระราชวังชั้นใน อัลเฟรด ฮิกก์เป็นนายช่างอาวุโสในคลังแสงส่วนกลาง ก่อนจะถูกทาบทามโดยสำนักราชวังให้มาทำงานเรื่องการควบคุมดูแลยุทโธปกรณ์พิเศษของทหารองครักษ์ในปี 1907 เขาเป็นผู้คิดค้นระบบลูกเลื่อนและลำปืนแบบใหม่สำหรับใช้รองรับการยิงต่อเนื่องในสงครามยุคใหม่และเป็นหัวเรือหลักในการพัฒนายุทโธปกรณ์และยานยนตร์สำหรับสงคราม นอกจากนี้เขายังมีชื่อเสียงในฐานะผู้สนับสนุนพลโทเฟอดินัล(ในขณะนั้นเป็นยศร้อยเอก) และอนุมัติให้เขาย้ายไปยังแนวหน้าอีกด้วย

ปัจจุบัน อัลเฟรดยังคงทำงานให้กับหน่วยวิจัยและพัฒนาของกองทัพ แม้จะได้รับการเกษียณไปแล้ว
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 05:41:52 PM
บุคคลสำคัญ: สาธารณรัฐที่หนึ่ง

Kaiser Alexis VII พระมหาจักรพรรดิอเล็กซิสที่เจ็ด (1866 - 1920)
พระมหาจักรพรรดิอเล็กซิสที่ 7 เป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของมหาจักรวรรดิซึ่งรุ่งเรืองมาเกือบศตวรรษหนึ่ง พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดาเมื่ออายุได้ 32 ปี แม้กระทั่งในขณะนั้น พระองค์ก็ทรงเล็งเห็นแล้วว่ามหาจักรวรรดิกำลังอยู่ในช่วงขาลงของอำนาจและคงจะเป็นไปได้ยากที่จะฟืนตัวกลับขึ้นมา พระองค์จึงไม่ได้คิดจะยื้อยุดดินแดนต่าง ๆ ที่เริ่มทยอยประกาศเอกราชของตน

แต่แล้วเหตการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อมีนายพลคนหนึ่งของพระองค์เองแยกตัวออกไปซ่องสุมกำลังและผนวกรวมดินแดนที่แยกออกจากจักรวรรดิในเวลานั้นเป็นหนึ่งเดียว ชื่อของนายพลคนนั้นคือวิคเตอร์ ซึ่งต่อมาเขาได้ตั้งตัวเป็นจอมพลของกองทัพสหภาพประชาชน (Army of People Union) และประกาศสงครามกับจักรวรรดิอย่างเต็มรูปแบบ มหาสงครามครั้งที่หนึ่งจึงปะทุขึ้น หลังจากการสงครามยืดเยื้อยาวนานถึง 7 ปี

ในเดือนมีนาคม ปี 1918 โคลเดนไฮล์ม(Koldenheim) ถูกกองกำลังประชาชนบุกเข้าโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว บ้านเมืองถูกระดมยิงด้วยห่าฝนปืนใหญ่ ผู้คนจำนวนมากที่ไม่สามารถอพยพได้ทันถูกสังหารหมู่อย่างเลือดเย็น พระองค์เห็นว่าการฆ่าฟันเช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีและอาจจะเกิดขึ้นอีกหากยังยืนยันจะสู้ต่อไป จึงประกาศยอมแพ้อย่างเป็นทางการ ก่อนจะถูกขับไล่ไปยังเกาะมาลัค พระองค์เสียชีวิตอย่างสามัญชนในอีก 2 ปีถัดมา

Emperor Kolden จักรพรรดิโคลเดน (1909 - ปัจจุบัน)
ผู้นำหนุ่มของกองกำลังลึกลับที่ปรากฏตัวขึ้นมาท่ามกลางความสงบสุขในปี 1930 และอ้างตัวว่าเป็นลูกชายนอกสมรสของพระมหาจักรพรรดิอเล็กซิสที่เจ็ด ก่อนจะค่อย ๆ ขยายกำลังและดินแดนไปตามประเทศทางตอนเหนือที่เคยเป็นจักรวรรดิเก่าก่อนเกิดมหาสงครามมาก่อนอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครทราบได้ว่าทำไมเขาถึงสามารถรวบรวมดินแดนที่แตกออกได้รวดเร็วเช่นนี้

ในปี 1935 ดินแดนที่ร่วมมือกับเขาก็รวมตัวกันเป็นสาธารณรัฐที่หนึ่ง(The First Republic) ก่อนจะเริ่มแผ่ขยายอิทธิพลไปเรื่อย ๆ และประกาศสงครามกับสาธารณรัฐอย่างเป็นทางการในปี 1938 และบุกยึดเมืองโคลเดนไฮล์มที่เมืองเป็นเมืองหลวงเก่าของจักรวรรดิมาได้สำเร็จในสมรภูมิที่ถูกเรียกว่า "ยุทธการล่มพายุ" (Operation Stormfall)

Crown Prince Volken มหาอุปราชโวลเคน (1915 - ปัจจุบัน)
น้องชายและทหารคนสนิทของจักรพรรดิโคลเดน เขามีฐานะเป็นจอมพลของสาธารณรัฐและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของจักรพรรดิโคลเดน แม้จะไม่มีข้อมูลอื่น ๆ ของเขามากนัก แต่เขาเป็นผู้ควบคุมการรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไลรันที่วางตัวเป็นกลางอย่างกระทันหันในปี 1940
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 25, 2015, 05:56:31 PM
บุคคลสำคัญ: สหภาพโซเลียริส

Marshal Victor of the Union จอมพลวิคเตอร์แห่งสหภาพ (1874 - ปัจจุบัน)
จอมพลวิคเตอร์ เดิมเป็นนายพลระดับสูงรับใช้อยู่ภายใต้ธงของจักรวรรดิ ก่อนจะแยกตัวออกมาพร้อม ๆ กับรวบรวมพันธมิตรจากดินแดนที่แยกออกมาจากจักรวรรดิเพื่อล้มล้างอำนาจของจักรวรรดิอย่างถาวร ในปี 1911 เขาก็เริ่มเผนการที่วางไว้และประกาศสงครามเต็มรูปแบบกับจักรวรรดิ เกิดเป็นมหาสงครามครั้งที่หนึ่ง

หลังจากการสงครามยืดเยื้อยาวนานถึง 7 ปี เขาก็ได้นำกองทัพของสหภาพประชาชนเข้ายึดเมืองหลวงของจักรวรรดิ ก่อนจะบีบให้จักรพรรดิยอมสละอำนาจ เมื่อจบสงคราม เขาเปลี่ยนชื่อสหภาพจาก สหภาพประชาชน เป็น สหภาพโซเลียริส ซึ่งในภาษาบ้านเกิดของเขาแปลว่า สหภาพแห่งพี่น้อง และคอยควบคุมดูแลเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัฐที่ก่อตัวขึ้นมาใหม่หลังจากจักรวรรดิล่มสลาย

ในปี 1935 ดินแดนกว่าครึ่งในการควบคุมของเขาแปรพรรคอย่างฉับพลันและก่อตั้งเป็นสาธารณรัฐขึ้น จอมพลวิคเตอร์ที่ไม่ทันตั้งตัวกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ต้องรับศึกหนักจากสงครามย่อย ๆ ก่อนที่กองกำลังของสาธารณรัฐจะบุกยึดเมืองหลวง Koldenheim ได้สำเร็จ ผลักให้จอมพลวิคเตอร์ต้องเข้าสู่สงครามอีกครั้ง
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 26, 2015, 10:21:26 AM
The First Great War - มหาสงครามครั้งที่หนึ่ง

Decline of the Great Empire ความเสื่อมถอยของมหาจักรวรรดิ
หลังจากปกครองมหาทวีปมากว่า 800 ปี มหาจักรวรรดิที่แผ่ขยายดินแดนไปแทบจะดูไม่สิ้นสุดก็เริ่มเสื่อมถอยลงอย่างช้า ๆ เนื่องจากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น การเมืองภายในระหว่างรัฐ ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ภายในอาณาเขตและการเข้าถึงทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกันภายในจักรวรรดิ ทำให้หลาย ๆ ดินแดนเริ่มตีตัวออกห่างและค่อย ๆ ประกาศอธิปไตยของดินแดนตนออกมาเรื่อย ๆ ก่อนสงครามจะเริ่ม ราชวงศ์ที่ปกครองจักรวรรดิอยู่คือราชวงศ์อเล็กซานเดรียน นำโดยพระมหาจักรพรรดิอเล็กซิสที่ 7 ซึ่งขึ้นครองราชย์ในช่วงที่จุดเสื่อมถอยของอาณาจักร พระองค์ทรงเห็นว่าการไปยื้อยุดดินแดนที่ไม่อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอีกต่อไปไม่เป็นผลดีกับทั้งตัวจักรวรรดิเองและประชาชนในดินแดนนั้น ๆ

Army of People Union กองทัพสหภาพประชาชน
นายพลวิคเตอร์เป็นนายพลกลุ่มแรก ๆ ที่แยกตัวออกจากจักรวรรดิกลับไปยังบ้านเกินตนเอง ในปี 1910 เขาเริ่มรวบรวมไพร่พลและติดต่อเจรจากับกลุ่มประเทศที่แยกตัวออกมาจากจักรวรรดิ มีหลายดินแดนที่ปฏิเสธแนวทางของวิคเตอร์และเห็นว่าไม่มีเหตผลที่จะเป็นศัตรูกับจักรวรรดิแม้จะแยกตัวเป็นเอกราชออกมาแล้ว แต่ก็มีหลายดินแดนที่ร่วมมือกับเขา ก่อตั้งกองทัพสหภาพประชาชนขึ้นมา และในปี 1911 วิคเตอร์ก็นำกองทัพประชนเข้าสู่สงครามกับจักรวรรดิเต็มรูปแบบ เริ่มจากการโจมตีดินแดนเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เข้าร่วมกับเขาก่อนเพื่อกลืนกินดินแดนและทรัพยากร ก่อนจะเปิดฉากสงครามอันยาวนานกับจักรวรรดิอย่างเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคม ปี 1911

7 Years War สงครามเจ็ดปี
กองกำลังของสหภาพประชาชนเริ่มเข้าโจมตีจักรวรรดิทางดินแดนตอนใต้เป็นหลัก ราชอาณาจักรไลรันในเวลานั้นยังคงอยู่ใต้การปกครองของจักรววรดิ แม้จะมีกษัตริย์เป็นของตนเองก็ตาม จึงทำให้ต้องรับศึกทางตอนใต้ด้วยเช่นกัน สงครามครั้งนี้กินเวลายาวนานถึง 7 ปี และเป็นสงครามที่เน้นไปทางการรุกคืบด้วยสนามเพาะเป็นหลัก ยานเกราะถูกนำมาใช้ในการรบครั้งแรกในสงครามนี้และออกแบบให้สามารถขับข้ามร่องของสนามเพาะเพื่อเดินทางไปยังเขตแดนของศัตรู นอกจากนี้ยังมีการใช้ปืนใหญ่ยิงสนับสนุนทหารราบที่มีหน้าที่ยึดและป้องกันสนามเพาะอีกด้วย ในช่วงปลายสงครามมีการคิดค้นยานบินขึ้น แต่ก็ถูกนำมาใช้ในการสอดแนมเป็นหลัก

Battle of Koldenheim สมรภูมิโคลเดนไฮล์ม
หลังจากการรบและรุกคืบยาวนาน สหภาพก็สามารถหาจังหวะบุกเข้าไปในเมืองหลวงได้ในช่วงปลายของฤดูหนาวซึ่งมีพิธีกรรมขอบคุณพระแม่ ซึ่งเป็นเทศกาลประจำจักรดิวรรดิ ในยามค่ำคืนนั้นที่หิมะสุดท้ายโปรยลงมาในเดือนมีนาคม ทหารของสหภาพเขข้าโจมตีเมืองโคลเดนไฮล์มและเปลี่ยนเมืองทั้งเมืองให้กลายเป็นสนามรบ ในอีก 7 วันถัดมาหลังการต่อสู้ที่ดุเดือด สหภาพก็ยึดเอาเมืองโคลเดนไฮล์มได้สำเร็จและจับตัวพระมหาจักรพรรดิหลังจากนั้นก็ประกาศชัยชนะอย่างเป็นทางการ

Aftermath ผลพวงจากมหาสงคราม
หลังจากที่จักรวรรดิยอมแพ้อย่างเป็นทางการ หัวเมืองต่าง ๆ จึงจำต้องยอมแพ้ด้วย และเข้าร่วมการประชุมตกลงสนธิสัญญาว่าด้วยเรื่องความเป้นไปของจักรวรรดิ นายพลวิคเตอร์เสนอให้จักรวรรดิยุบตัวลงและให้หัวเมืองทั้งหลายกลายเป็นดินแดนที่มีอธิปไตยของตนเอง และเสนอให้เข้าร่วมกับสหภาพ โดยประเทศที่ไม่เข้าร่วมใต้ธงของสหภาพจะต้องจ่ายค่าปฏิกรสงครามเต็มจำนวน สร้างความไม่พอใจให้กับผู้นำหลาย ๆ ดินแดน โดยเฉพาะพระเจ้าเอดินที่สี่ ผู้นำของราชอาณาจักรไลรันกล่าวว่า "สหภาพเป็นผู้เริ่มสงครามและสร้างความวุ่นวายในดินแดนบ้านเกิดของข้าพเจ้า บัดนี้จักรวรรดิก็ล่มสลายตามที่ท่านหวังแล้ว เหตุใดเราจึงต้องให้สิ่งใดกับท่านอีก?" ซึ่งถือเป็นการหักหน้าจอมพลวิคเตอร์และสหภาพอย่างรุนแรง แต่เนื่องจากแรงกดดันจากผู้นำสหภาพและผู้นำของประเทศเล็ก ๆ น้อย ๆ อื่น ๆ สหภาพจึงจำต้องรับตกลงจ่ายค่าปฏิกรสงครามส่วนหนึ่งและให้เอกราชกับประเทศที่แพ้สงคราม
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 26, 2015, 11:29:21 AM
Koldenheim's Massacre - การสังหารหมู่ที่โคลเดนไฮล์ม

ไม่มีบันทึกที่แน่ชัดนักจากจดหมายเหตุของฝั่งสหภาพประชาชน และบันทึกส่วนมากของฝ่ายจักรวรรดิก็เสียหายหรือถูกทำลายไปจนหมด แต่มีการคาดการณ์และคำจากผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์สัปดาห์นั้นว่า ในวันที่สหภาพประชาชนเข้าโจมตีเมืองโคลเดนไฮล์มอย่างเฉียบพลันนั้น ไม่มีการประกาศเตือนจากจักรวรรดิให้อพยพพลเรือนจนกระทั่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่สหภาพจะเข้าโจมตี ไม่มีใครทราบในวันนั้นว่าทำไมจึงไม่มีการประกาศเตือนหรือทำไมถึงไม่สามารถประกาศเตือนได้

ประชาชนเพียงไม่ถึงครึ่งหนึ่ง หนีรอดออกจากเขตการสู้รบได้ทันเวลา ทำให้ทหารของสหภาพสังหารประชาชนไร้ทางสู้ของโคลเดนไฮล์มเป็นจำนวนมาก ผู้นำของสหภาพหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามในประเด็นนี้ และทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าทำไมถึงมีคำสั่งให้โจมตีประชาชนไร้ทางสู้ นักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนสหภาพบางกลุ่มอ้างว่าความผิดพลาดครึ้งนี้เกิดขึ้นเพราะความประมาทของจักรวรรดิที่ไม่อพยพพลเรือนไปก่อนเกิดเหตุให้นานกว่านี้ ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามก็ให้เหตุผลว่าสหภาพไม่ควรจะฉวยโอกาสโจมตีในวันเทศกาลอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ต้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากอะไร ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเฉพาะที่เป็นพลเรือนเกือบ 5 หมื่นคน จากการกระทำของทั้งสองฝ่าย
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 26, 2015, 01:45:19 PM
The Second Great War - มหาสงครามครั้งที่สอง

(http://i.imgur.com/urx8gTt.png)

Formation of the First Republic การก่อตัวของสาธารณรัฐที่หนึ่ง
หลังจบมหาสงครามครั้งที่หนึ่งสหภาพประชาชนที่เคยรวมตัวก็ก็เริ่มแยกย้ายออกไป เหลือเพียงไม่กี่ดินแดนเท่านั้นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของจอมพลวิคเตอร์แห่งสหภาพ ภายในดินแดนที่เหลืออยู่นั้นถูกแต่งตั้งให้เป็นสหภาพโซเลียริส คำว่า Solear มาจากภาษาท้องถึงของบ้านเกิดจอมพลวิคเตอร์ แปลว่าพรคคพวกพี่น้อง สหภาพเป็นมหาอพนาจอยู่ในทวีปอยู่ได้ไม่ถึง 20 ปี ก็เริ่มเกิดปัญหาขึ้น เนื่องจากการก่อตัวขึ้นอย่างกระทันหันของกลุ่มต่อต้านสหภาพและสนับสนุนการกลับมาของจักรวรรดิ นำโดยชายผู้อ้างตัวว่าเป็นบุตรนอกสมรสของพระมหาจักรพรรดิอเล็กซิสที่ 7

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อกองกำลังของกลุ่มนี้มีมากขึ้น ๆ และเริ่มมีการประกาศเป็นอริกับสหภาพอย่างชัดเจน เมื่อกองกำลังใหญ่ขึ้นและมีการจัดการภายในที่ซํบซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปี 1938 กลุ่มที่เรียกตนเองว่าสาธารณรัฐที่หนึ่ง ซึ่งหวังจะนำความยิ่งใหญ่และรุ่งเรืองของจักรวรรดิกลับมาก็ประกาศสงครามอย่างเป็นทางการกับสหภาพโซเลยริส ก่อให้เกิดมหาสงครามครั้งที่สองขึ้น

Operation Stormfall ยุทธการล่มพายุ
ปลายปี 1938 โคลเดนไฮล์ม เมืองหลวงที่กำลังพยายามจะฟื้นตัวอีกครั้งของสหภาพก็ตกเป็นเป้าหมายอีกครั้งโดยกองกำลังของสาธารณรัฐ ด้วยการโจมตีแบบผสมผสานระหว่างทหารราบ ยานเกราะ และอากาศยานอย่างรวดเร็วและเฉียบขาด ประกอบด้วยวิทยาการทางการทหารที่เหนือกว่าของกองกำลังทางเหนือ ทำให้เมืองโคลเดนไฮล์ทตกเป็นของสาธารณรัฐอย่างรวดเร็วบีบให้จอมพลวิคเตอร์ต้องถอยทัพหนีไปยังเมืองยุลต่าน(Yuldahn) และตั้งรับการโจมตีของสาธารณรัฐที่นั่น

(http://i.imgur.com/GHbo5Rb.png)
Lyran Invasion การรุกรานไลรัน
หลังจากสงครามกับสหาภาพตามแนวชายแดนของยุลต่านเริ่มมีท่าทียืดเยื้อขึ้น และท่าทีไม่เลือกข้างของราชอาณาจักรไลรัน ส่งผลให้กองกำลังของสาธารณรัฐเริ่มหาช่องทางใหม่ในการโจมตี และดินแดนของราชอาณาจักรไลรันมีช่องทางการขนส่งทั้งทางบกและทางเรือ ในปี 1940 นำโดยมหาอุปราชโวลเคน กองทัพของสาธารณรัฐบุกเข้าตีชายแดนฝั่งตะวันตกและเข้ายึดสถานีรถไฟ ทางเนือและเมืองโดยรอบทั้งหมด ประชากรแถบชายแดนอพยพเข้ามาในตอนกลางของดินแดนเพื่อหลบภัยสงคราม

...
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 26, 2015, 03:56:24 PM
Kalgua Concentration Camp - ค่ายกักกันคาลกัว
(http://i.imgur.com/DSxIval.jpg)

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีข่าวหนาหูเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างประหลาดที่ชานเมืองคาลกัว ห่างไกลจากความเจริญทั้งมวล กำแพงคอนกรีตสูงยิ่งกว่าบ้านหลังไหนและรายล้อมด้วยทหารยามบนกำแพง กล่าวกันว่าทหารของสหภาพนำชาววิลดัลจำนวนมากมากักขังไว้หลังกำแพงนี้ บังคับให้พวกเขาทำงานหนัก และทำงานทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ แต่ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าหลังประตูบานนั้น มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง รัญบาลของสหภาพปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้กับสื่อและประชาชนของตน ยิ่งทำให้เรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับที่แห่งนี้กลายเป็นเรื่องลึกลับน่าสงสัยเข้าไปอีก

กล่าวกันว่าทุก ๆ เดือนจะมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ ขนเอาชาววินดัลที่รัฐบาลจับกุมได้เพิ่มเข้าไปยังสถานที่นั้น แต่ไม่เคยมีชาววินดัลคนไหนออกมา
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 26, 2015, 04:29:37 PM
Windal - ชาววินดัล
(http://i.imgur.com/sBgrtXK.png)

ชาววินดัลเป็นชนเผ่าโบราณที่ใช้ชีวิตเร่ร่อนภายในทวีปนี้ก่อนที่ชนเผ่าอื่น ๆ จะเข้ามาตั้งรกรากเมื่อหลายพันปีก่อน บันทึกเกี่ยวกับชาววินดัลนั้นมีอยู่น้อยนิด แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่มักโดดเด่นขึ้นมาคือเรื่องของโรคร้าย ภัยพิบัติ และพลังลึกลับที่จะตามมาเมื่อชาววินดัลอาศัยอยู่ที่ใดที่หนึ่ง ในศาสนาหลักของทวีปนี้กล่าวว่าชาววินดัลเป็นชนชาติที่ทอดทิ้งพระแม่เมื่อพระนางต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และเป็นผู้ที่นำเรื่องราวของพระแม่ไปบอกกล่าวกับราชาผู้ชั่วร้ายที่ไม่เชื่อในปาฏิหารย์ของพระนาง ทำให้นางถูกประหารในฐานะแม่มด

ชาววินดัลมักถูกเหยียดหยามอยู่เสมอจากชนเผ่าอื่น ๆ และการเหยียดชาติพันธุ์วินดัลถือเป็นเรื่องธรรมดาสามัญของทุกฝ่าย ด้วยเหตนี้เอง ชาววินดัลมักไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งเนื่องจากไม่มีเอกสารที่สามารถระบุตัวตนหรือชนชาติได้ตามกฏหมาย พวกเขาไม่มีนามสกุลที่ถูกต้องตามกฏหมายและไม่สามารถทำงานได้หลาย ๆ อย่าง เช่นแพทย์ นักวิจัย หรือแม้กระทั่งครูหรืออาจายร์ในวิทยาลัยของรัฐ สำหรับราชอาณาจักรไลรันแล้ว ชาววินดัลสามารถร้องขอสิทธิและเอกสารยืนยันสัญชาติและตัวตนได้ แต่ต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด และแม้จะมีเอกสารก็ยังไม่สามารถหางานที่มั่นคงได้อยู่ดี เนื่องจากความเชื่อของบริษัท ห้างร้าน หรือรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่มักจะเก็บผู้สมัครชาววินดัลไว้พิจารณาเป็นอันดับท้าย ๆ

ลักษณะเด่นของชาววินดัลคือมีผมสีขาวเหมือนผมหงอกทั้งหัว รวมทั้งขนตามร่างกายเช่นบนผิวหนัง และดวงตาที่มักมีสีสดจัด เช่นสีแดงเข้ม น้ำเงินเข้ม หรือดวงตาที่มีสีดำสนิทไร้แววตา รูปร่างเล็กแกร็นและผอมแห้งกว่าเผ่าอื่น ๆ และดูเหมือนจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่และวัยชราช้ากว่าชนเผ่าทั่วไป ส่วนเรื่องพลังลึกลับหรือการนำโชคร้ายมาสู่ที่ ๆ ตนอาศัยอยู่นี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ไหนมารองรับได้
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 26, 2015, 05:28:37 PM
Belief and Religion - ความเชื่อและศาสนาในมหาทวีป

The Holy Mother พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์
เป็นศาสนาหลักที่แพร่กระจายในมหาทวีป เกี่ยวกับเรื่องราวของหญิงพรหมจรรย์ที่สามารถพูดคุยกับ "โลก" ได้ และเรื่องราวการเดินทางไปยังดินแดนต่าง ๆ และช่วยเหลือผู้คนด้วยปาฏิหารย์ของเธอเมื่อราว ๆ 2000 ปีก่อน ไม่มีใครบันทึกชื่อของนางเอาไว้แต่มีชื่อเล่าขานเกี่ยวกับตำนานของหญิงผู้มีพลังวิเศษที่คอยช่วยเหลือผู้คนในที่ต่าง ๆ เหมือน ๆ กัน ภายหลังจึงมีนิกายศาสนาที่เชื่อในปาฏิหารย์ของเธอและเขียนคำสอนเกี่ยวกับความรัก ความเมตตา คุณธรรม ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเล่าที่มีเธออยู่ในนั้นและเรียกเธอว่า พระแม่ผู้ศักดิ์สิทธิ์(Holy Mother)

เรื่องราวในหนังสือจบลงที่นางเดินทางไปในอาณาจักรไม่ระบุนามของราชาผู้ชั่วร้ายเพื่อช่วยเหลือผู้คน แต่กลับถูกตามล่าและประหารในข้อหาแม่มดในที่สุด บางนิกายก็กล่าวว่าชาววินดัลเป็นผู้นำเธอไปมอบตัวให้พระราชาเพื่อหวังรางวัล ในปัจจุบันความเชื่อในศาสนานี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้น

Holy Mother Day วันขอบคุณพระแม่
เทศกาลประจำปีที่จัดขึ้นทุก ๆ ปลายฤดูหนาว ถึงจะบอกว่าเป็น "วัน" แต่ความจริงแล้วเทศกาลนี้มีการเตรียมการล่วงหน้า 3-4 สัปดาห์ และเฉลิมฉลองกันเป็นเวลา 5 วัน 5 คืน และจบวันสุดท้ายที่เรียกว่า "คืนหิมะสุดท้าย" (Last Snow) ในความเชื่อกล่าวว่าในศตวรรษหนึ่งในสมัยของพระแม่ มีช่วงหนึ่งที่ฤดูหนาวไม่ยอมจบไปและผู้คนอดหยาก และไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ แต่พระแม่เดินทางฝ่าพายุหิมะเข้ามาในเมืองหนึ่งและทำให้หิมะหยุดลง พร้อมกับเรียกฤดูใบไม้ผลิให้กลับมา

ในช่วงเทศกาล ครอบครัวทุกครอบครัวจะอาศัยอยู่ในบ้านและจัดเลี้ยงอาหารพร้อมกับร้องเล่นเต้นระบำกัน ครอบครัวของหัวหน้าหมู่บ้านหรือเจ้าเมืองจะเป็นกลุ่มแรกที่จะออกมาข้างนอกพร้อมกับร้องเพลงและเล่นดนตรีบนถนน และคนที่เห็นว่ามีคนเล่นดนตรีบทถนนก็จะออกมานอกบ้านและร้องเล่นเต้นระบำไปพร้อมกัน ก่อนจะตระเวนไปทั่วเมืองทำให้เกิดงานเฉลิมฉลองใหญ่ บางครั้งประเพณีนี้ก็เปลี่ยนไปบ้างตามท้องที่และกาลเวลา แต่เนื้อความหลัก ๆ คือเป็นงานฉลองที่มีการร้องเล่นเต้นระบำกับครอบครัวและคนในชุมชน

Windal Belief ความเชื่อของชาววินดัล
ชาววินดัลมีความเชื่อเกี่ยวกับพระแม่ผู้ศักด์สิทธิ์เช่นกัน แต่ในเรื่องราวที่ต่างออกไป กล่าวคือ ชาววินดัลเชื่อว่าพระแม่ที่ชาวทวีปนี้นับถือนั้นเป็นพระแม่คนที่สองของโลก พระแม่คนแรกเป็นหญิงสาวชาววินดัลที่เดินทางมายังทวีปนี้และเสกสรรสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นอย่างที่เป็นอยู่ ชาววินดัลเรียกพระแม่องค์แรกนี้ว่า "พระแม่ผู้สร้าง" (Creation Mother) ส่วนพระแม่องค์ที่สองนี้คือ "พระแม่ผู้รักษา" (Protection Mother) ในบางกลุ่มเผ่าของชาววินดัลมีความเชื่อว่าพระแม่องค์ที่สามกำลังจะเกิดขึ้นมาในอีกเร็ววัน และนางจะมีชื่อว่า "พระแม่ผู้ทำลาย" (Destruction Mother)

อย่างไรก็ตามชาววินดัลไม่มีตำราหรือการบันทึกที่แน่นอนนักเนื่องจากเป็นคนเผ่าเร่ร่อนมาก่อน เรื่องราวความเชื่อของชาววินดัลจึงเป็นความเชื่อปากต่อปากที่อาจจะผิดเพี้ยนไปได้สูงมากจากต้นกำเนิด
Title: Re: [Motherland] Appendix
Post by: Observer on November 26, 2015, 06:30:28 PM
Military in Kingdom of Lyran - การทหารในราชอาณาจักร

Mandatory Military Program หลักสูตรการทหารภาคบังคับ
ประชาชนไลรันจะได้เรียนวิชาทหารเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 13 ปีเมื่อขึ้นชั่นมัธยมศึกษา ซึ่งบรรจุในหลักสูตรการศึกษาทั่วไป โดยจะเริ่มจากความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโครงสร้างของกรมกองทหาร ก่อนที่จะเริ่มมีการฝึกทหารเป็นจริงเป็นจังเมื่อขึ้นชั้น ม.3 ซึ่งนักเรียนแต่ละคนจะทำแบบทดสอบทั้งทางร่างกายและจิตใจเพื่อบรรจุลงในกลุ่มของหลักสูตรทหารแต่ละประเภท หลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมต้น จะมีการเข้าค่ายเพื่อฝึกเนื้อหาตามกลุ่มสายของตน หลังจากนี้นักศึกษาจะนับเป็นกำลังพลสำรองของกองทัพ

หลังจากนั้นนักศึกษาที่ตัดสินใจเรียนต่อในชั้นมัธยมปลายหรือเทียบเท่าจะมีหลักสูตรทหารสอดแทรกเข้ามาในทุก ๆ ปี หลังจากจบหลังสูตรทหารของมัธยมปลาย ผู้เรียนจะได้รับยศว่าที่สิบตรี หากนักศึกษาเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ก็จะมีหลักสูตรทหารพิเศษและหลักสูตรควบคุมกำลังพล ระหว่างนี้ผู้เรียนอาจจะสอบเพื่อรับตำแหน่งว่าที่ร้องโทหรือร้อยเอก ตามลำดับ

(http://i.imgur.com/mdbyCLw.jpg)
ซ้าย-เครื่องแบบนายทหารชั้นประทวน(ผู้เล่นและตัวละครมียศ), กลาง-เครื่องแบบสนามพลทหาร, ขวา-ชุดป้องกันแรงระเบิด

Military Academy วิทยาลัยทหาร
วิทยาลัยทหารเปิดรับนักศึกษาหรือบุคคลทั่วไปที่สนใจจะเป็นทหารอาชีพ โดยจะสามารถสมัครได้เมื่อจบหลักสูตรทหารในชั้นมัธยมต้น และมีอายุไม่เกิน 25 ปี หลักสูตรทหารจะเป็นการเรียนการสอนเพื่อเป็นทหารอาทีพโดยเฉพาะ โดยนักเรียนประเภทนี้จะเรียกว่านะเรียนทหาร(cadet) และมียศว่าที่สิบตรีระหว่างการศึกษา เมื่อจบหลักสูตรผู้เรียนจะได้รับยศชั้นประทวน (สิบตรี - จ่าสิบเอก ตามความเหมาะสมและความสามารถทางการบัญชาการของนักศึกษา) อย่างเต็มตัวและมีสิทธิ์สอบรับยศสัญญาบัตรประจำปีได้ (ยศร้อยตรีขึ้นไป)

วิทยาลัยทหารหลัก ๆ ของไลรันคือ วิทยาลัยทหารส่วนกลางไลรัน ที่เมืองหลวงไลเรีย, วิทยาลัยทหารสามัญเซนเบิร์ก เมือนเซนเบิร์กทางตอนเหนือ และ โรงเรียนเตรียมทหารศูนย์ฝึกเฟอดินัล ในศูนย์ฝึกเฟอดินัลทางตอนใต้ ไม่ห่างจากชายแดนไลรัน-สหภาพมากนัก

Universal Conscription การเกณฑ์กำลังพลสามัญ
ในไลเรีย ประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปถึง 50 ปี ที่ไม่มีการพิการทางร่างกายสาหัส(ไม่มีแขนหรือขา หรือไม่สามารถใช้แขนหรือขาได้, ตาบอดสนิททั้งสองข้าง, หูหนวก เป็นต้น) นับว่าเป็นกำลังพลสำรองทั้งหมด ไม่ว่าจะชายหรือหญิง เมื่อมีการเรียกกำลังพลในแต่ละครั้ง จะต้องรายงานตัวที่ศูนย์ฝึกใกล้ชุมชน กำลังสำรองสามารถทำเรื่องผ่อนผันเมื่อถูกเรียกได้สูงสุด 1 ปี และสามารถทำเรื่องลาจากทหารได้ในกรณีฉุกเฉิน(เช่น ตั้งครรถ์หรือประสบอุบัติเหตุ) นอกจาดข้อยกเว้นดังกล่าว กำลังพลสำรองจะต้องเตรียมพร้อมกับการเรียกรวมพลในสถานการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลา

โดยปรกติแล้วไลรันค่อนข้างเป็นประเทศที่สงบ ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมามีการเรียกรวมกำลังพลเพียงสามครั้ง คือในปี 1911 เมื่อเกิดมหาสงคราม, ปี 1915 เพื่อเสริมกำลังรบระหว่างมหาสงคราม และในปี 1940 เมื่อถูกรุกรานโดยสาธาณรัฐ

Military Rank ชั้นยศและระดับทหารในไลรัน
ยศภาษาไทย
----------------------------------------
จอมพล

ชั้นสัญญาบัตร

พลเอก (พล.อ)
พลโท (พล.ท)
พลตรี (พล.ต)
พันเอก (พ.อ.)
พันโท (พ.ท.)
พันตรี (พ.ต.)
ร้อยเอก (ร.อ.)
ร้อยโท (ร.ท.)
ร้อยตรี (ร.ต.)

ชั้นประทวน

จ่าสิบเอก (จ.ส.อ.)
จ่าสิบโท (จ.ส.ท.)
จ่าสิบตรี (จ.ส.ต.)
สิบเอก (ส.อ.)
สิบโท (ส.ท.)
สิบตรี (ส.ต.)
พลทหาร
ยศภาษาอังกฤษ
----------------------------------------
Marshal

Commissioned Officer

General (Gen.)
Lieutenant General (Lt.Gen)
Major General (M.Gen)
Colonel (Col.)
Lieutenant Colonel (Lt.Col.)
Major (Maj.)
Captain (Cpt.)
Lieutenant (Lt.)
Sub Lieutenant (S.Lt.)

Enlisted

Chief Warrant Officer (C.WO.)
Master Warrant Officer (M.WO.)
Warrant Officer (WO.)
Sergeant (Sgt.)
Corporal (Cpl.)
Lance Corporal (L.Cpl.)
Private (Pvt.)

Army Division การแบ่งลำดับสั่งการในกองทัพ

1 หมู่(Squad) มีทหาร 5-8 นาย ควบคุมโดยทหารตั้งแต่ยศสิบเอกหรือสิบโท
5 หมู่ เป็น 1 หมวด(Platoon) มีทหารราว 25-40 นาย ตามแต่ประเภทหมวด ควบคุมโดยทหารตั้งแต่ยศจ่าสิบโทขึ้นไป
5 หมวด เป็น 1 กองร้อย(Company) มีทหารราว 125-200 นาย ควบคุมโดยทหารตั้งแต่ยศร้อยเอกขึ้นไป
5 กองร้อย (Company) เป็น 1 กองพัน(Battalion) มีทหารราว 700-1000 นาย ควบคุมโดยทหารตั้งแต่ยศพันโทขึ้นไป
5 กองพัน เป็น 1 กรม(Regiment) มีทหารราว 5000 นาย ควบคุมโดยทหารตั้งแต่ยศพลตรีขึ้นไป
5 กรม เป็น 1 กองพล(Division) มีทหารมากกว่า 2 หมื่น นาย ควบคุมโดยทหารตั้งแต่ยศพลโทขึ้นไป


ข้อมูลปกปิด