-
เมืองแห่งการศึกษาและเทคโนโลยี ในเมืองมีมหาวิทยาลัยมากกว่า 20 แห่ง สถาบันวิจัยต่าง ๆ อีกนับไม่ถ้วน ถือเป็นแหล่งผลิตมันสมองของประเทศ ทุกปีจะมีเด็กวัยเรียนจากทั่วประเทศหลั่งไหลกันมาเรียนที่เมืองนี้ เศรษฐกิจของเมืองนี้จึงขึ้นกับการใช้จ่ายของเยาวชนที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของเมือง
-
สัปดาห์ที่ 1
(http://wudthipan.com/fucko/_images/cf8e0b745a27b71d515641decf0264d9/2448%20-%20Magicle.jpg)
(http://wudthipan.com/fucko/_images/fcab96c9de921e084620cf270df96c19/2033%20-%20Galactica.jpg)
Famida กับ Porfast โคจรมาพบกันในงานเปิดตัวที่ตักศิลา พวกเขาจะใช้วิธีไหนถึงจะเรียกคะแนนจากคนที่ชมการสัมภาษณ์ได้มากกว่ากันกันนะ
จะแนะนำหรือใช้ทักษะอย่างไรดี จึงจะทำคะแนนได้เหนือกว่าอีกฝ่าย
(http://wudthipan.com/fucko/_images/075dd3b71f1af0216fc8671ff6944a3b/557%20-%20Spirit_of_heroes.jpg)
"ลืมผมก็แย่สิ" Lemuel เป็นอีกคนที่เดินเข้ามาร่วมชิงชัย
-
ใช้สกิล สืบสวน : ค้นพบเงื่่อนงำในสถานที่หรือเหตุการณ์ที่พบ
"มันน่าจะมีปัญหาบางอย่างในเมืองนี้ ที่ใช้ในการซื้อใจคนที่นี่ได้"
เอลซิทบอกกับทางผู้นำของเขา ยังไงเสียก็ยังมีผู้นำคนอื่นอยู่ที่นี่ จะปราศัยช้าเป็นลำดับสุดท้ายก็ไม่เป็นไร
"กรุณารอสักครู่ผมขอตรวจสอบอะไรบางอย่างก่อน"
-
(http://i.imgur.com/5ZlCL2n.jpg)
"บางครั้งคำพูดและความเห็นของผมอาจจะตรงเกินไป หรือสร้างความไม่พอใจให้กับท่าน ต้องขอโทษและขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ"
"นี่เป็นคำแนะนำที่ผมพอจะให้ท่านได้สำหรับการทำให้ท่านได้คะแนนนิยมมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของท่านเองด้วยว่าจะนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้หรือไม่ครับ"
- เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองแห่งการศึกษาและเทคโนโลยี รวมถึงมีมหาวิทยาลัย และสถาบันวิจัยอีกมากมาย ดังนั้น นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการศึกษา งานวิจัย และเทคโนโลยีจึงน่าจะเป็นนโยบายที่ได้ความสนใจเป็นพิเศษ หากเป็นไปได้ ควรที่จะเน้นนโยบายนี้เป็นหลัก
- อย่างไรก็ตาม ในการปราศรัย ก็ควรที่จะแสดงให้เห็นถึงการยึดมั่นในเรื่องของความซื่อสัตย์ ซื่อตรง ความจริงใจ ให้ผู้คนที่มาเข้าชมงานครั้งนี้ได้เห็น
- หากฝ่ายตรงข้ามมีข้อขัดแย้ง หรือยกเรื่องในอดีตมาใช้ในการโจมตี หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์ในการปะทะ หากจำเป็นที่จะต้องตอบโต้กลับ ให้ใช้เหตุผลในการโต้แย้งกลับ
- ในงานเปิดตัวครั้งนี้อาจจะมีวัยรุ่น หรือคนในสาขาวิชาชีพอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางด้านการเมืองการปกครองมาร่วมฟัง ภาษาที่ใช้ในการปราศรัยจึงควรจะเป็นภาษาที่เป็นทางการ แต่เข้าใจง่าย หากผู้เข้าร่วมฟังมีความเข้าใจในสิ่งที่แถลง ก็มีโอกาสที่จะได้คะแนนเสียงจากการแถลงในครั้งนี้เพิ่มขึ้น
หลังจากที่ให้คำแนะนำก่อนการขึ้นเปิดตัวเสร็จแล้ว ชายหนุ่มได้โค้งให้กับ Lemuel เพื่อขอตัวที่จะออกไปจัดการกับอะไรบางอย่าง
(หากสามารถทำได้ เพราะไม่แน่ใจเรื่องขอบเขตการใช้งานของสกิล) ใช้สกิลสะกดรอย : สะกดรอยติดตาม เอลซิท คูลเลจ
(หากไม่สามารถทำได้ จะเปลี่ยนเป็นการคอยสแตนด์บายอยู่ใกล้ๆกับ Lemuel เพื่อให้คำแนะนำหรือช่วยเหลือ ทำตามคำสั่งที่ได้รับค่ะ)
-
"ฮึ่ม...การมัดใจลูกค้ากับการมัดใจผู้ลงคะแนนเสียงมีจุดร่วมคือ...อย่าแสดงท่าทีในแง่ลบ..."
"ถ้าเป็นที่แบบนี้ล่ะก็น๊า~"
แคลร์เริ่มคิดซักพัก จากนั้นจึงเริ่มอธิบายสิ่งที่เขาคิดให้ผู้นำของเขาฟัง
- ให้วางตัวเป็นกลาง อย่าโจมตีหรือจี้จุดคู่แข่งในตอนนี้ การเริ่มต้นด้วยความไม่พอใจไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆ
- เนื่องจากในเมืองนี้เป็นเมืองเทคโนโลยีที่มีเด็กๆวันรุ่นแและผู้เกี่ยวข้องกับด้านนี้อยู่ การที่มีตำแหน่งเป็นเจ้าของธุรกิจไอทีอยู่แล้ว บางทีการเสนอที่จะสนับสนุนการศึกษาและวิจัยในด้านนี้ให้มากยิ่งขึ้นน่าจะช่วยเรียกคะแนนได้ รวมถึงการสนับสนุนเรื่องการติดต่อเช่นโซเชียลเน็ทเวิร์คต่างๆ ก็ดูไม่เลว แถมยังได้ประโยชน์ในด้านธุรกิจอีกด้วย---
- ให้ระวังตัวฝั่งของLemuel ไว้สักนิด เพราะแคลร์รู้สึกว่าคนที่ไม่มีที่มาที่ไปเป็นใครก็ไม่รู้จะมาแค่เพื่อช่วยเรื่องคะแนนจริงๆเหรอ..
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/cf8e0b745a27b71d515641decf0264d9/2448%20-%20Magicle.jpg)
เอลซิท ไปรวบรวมข้อมูลมาไม่นานก็พบเงื่อนงำ เขาพบว่าคนเมืองนี้ได้รับความเดิือดร้อนจากปัญหาของวัยรุ่นไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาท การซิ่งรถ แหล่งอบายมุข หรือการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรเยอะมาก ที่สำคัญกำลังมีปัญหายาเสพติดที่มีคนนำมาจำหน่ายให้เด็ก ๆ ด้วย นี่มันเหมือนรื้อพรมแล้วเจอรังแมลงร้ายชัด ๆ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/cf8e0b745a27b71d515641decf0264d9/2448%20-%20Magicle.jpg)
"ไม่ได้นะคะ เราจะปล่อยให้อนาคตของชาติตกอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้" Famida ตกใจลนลานกับเงื่อนงำที่เอลซิทพบ เธอรีบนำเสนอให้การเปิดตัว นั่นทำให้เธอดูเป็นผู้นำที่รู้ถึงปัญหาดีมาก
Famida ได้รับชื่อเสียง 20+20
เอลซิท ได้รับ 2 point
(http://wudthipan.com/fucko/_images/075dd3b71f1af0216fc8671ff6944a3b/557%20-%20Spirit_of_heroes.jpg)
ชาโดวสะกดรอยตามเอลซิทตลอดเวลาจนถึงตอนที่ส่งข้อมูลให้ Famida เขาจึงได้ข้อมูลแบบเดียวกันไปรายงาน Lemuel
(http://wudthipan.com/fucko/_images/075dd3b71f1af0216fc8671ff6944a3b/557%20-%20Spirit_of_heroes.jpg)
"นั่นสินะครับ ผมก็ได้ข้อมูลมาแบบเดียวกัน ผมขอเสริมตรงนี้หน่อยละกันนะ" Lemuel แถลงข้อมูลปัญหาเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับ Famida ก็แหงอยู่แล้ว ลอกการบ้านกันมาขนาดนี้ ยัยFamida ยังซื่อ เข้าใจว่า Lemuel เป็นคนเก่ง ทำการบ้านจนเห็นปัญหาเหมือนที่เธอรับมาจากเอลซิทเสียอีกแน่ะ
Lemuel ได้รับชื่อเสียง 20+20
ชาโดว ได้รับ 2 point
(http://wudthipan.com/fucko/_images/fcab96c9de921e084620cf270df96c19/2033%20-%20Galactica.jpg)
Porfast Mac Dhubhghaill เป็นคนหัวก้าวหน้าเจ้าของโครงการใหญ่กำไรมหาศาลมากมาย คนที่เห็นผลงานแล้วศรัทธาในตัวเขาทันทีก็มีเยอะ โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่ใช้สินค้าของเขาในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องการเปิดตัวด้วยการใช้ความถนัดทางธุรกิจของตัวเองเป็นจุดขายก็เป็นวิธีที่ถูกต้อง แต่ก็ใช่ว่าจะดีเท่าอีกสองคนที่เหลือนะ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/fcab96c9de921e084620cf270df96c19/2033%20-%20Galactica.jpg)
"ผมจะเปลี่ยนประเทศน้ี้ให้ดู"
Porfast ได้รับชื่อเสียง 20+10
แคล ได้รับ 1 point
---------------------สิ้นสุดสัปดาห์------------------------------
-
(http://aphs.worldnomads.com/safetyhub/12392/09_05_01_ulm_nazis.jpg)
เมื่อสัปดาห์ก่อนเป้นวันสถาปนาของสถาบันการศึกษาเก่าแก่สองสถาบันซึ่งเป็นคู่อริกันในเมืองนี้ โชคร้ายที่ปีนี้มีเด็กนักเรียนของหนึ่งในสองสถาบันข้างต้นเสียชีวิตจากการถูกยิง ซึ่งมีคนที่เชื่อว่า การตายครั้งนี้เป็นฝีมือของสถาบันคู่อริ ทำให้ทั้งสองสถาบันกระทบกระทั่งกันอย่างหนักตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้
และ Lemuel Unkle กับ Ace ก็มาที่นี่ขณะที่นักเรียนสถาบันเจ้าทุกข์กำลังยืนเกาะรั้วเหลือเพื่อเล็งจะเอาคืนคู่กรณีทุกเมื่อ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/075dd3b71f1af0216fc8671ff6944a3b/557%20-%20Spirit_of_heroes.jpg)
"ก็แปลว่าต้องหาคนร้ายให้เจอหรือไม่ก็หาหลักฐานมายืนยันสินะ"
-
เมื่อเข้ามาภายในเมืองเขาก็เห็นบรรยากาศของวัยรุ่นของสองสถาบันที่พร้อมจะมีเรื่องกันตลอดเวลา
"ผมจะไปถามให้แน่ใจว่านักเรียนจากที่ไหนเป็นคนถูกยิง"
ว่าแล้วเขาก็ทิ้งให้ท่านผู้นำอยู่กับเหล่าผู้ติดตาม แล้วตนเองก็ออกไปสืบข่าว
-
นักเรียนที่โดนยิงมาจากสถาบันคนถ้ำ ดาโกต้าโดเนท
ส่วนผู้ต้องสงสัยคือนักเรียนสักคนของโรงเรียนมายากลบัวเอก แต่ไม่รู้ว่าใคร ที่เป้นผู้ต้องสงสัยเพราะสองโรงเรียนนี้เป็นอริกันมาแต่ไหนแต่ไร แถมมีวันสถาปนาอยู่ในสัปดาห์เดียวกันอีก
-
"ความบาดหมางที่มีมานานนี้ จะให้แก้ไขภายในวันเดียวคงจะแก้ไม่ได้ อย่างน้อยก็คงต้องหาตัวคนร้ายที่ยิงนักเรียนนั่นก่อน"
"ดูท่าแล้ว..อาจจะเป็นมือที่สามที่ต้องการสร้างสถานการณ์นี้หรือเปล่านะ"
เขาคิดในใจ....แล้วไปยังสถานที่เกิดเหตุที่นักเรียนคนนั้นถูกยิง
-
(http://img.moosuper.com/i/ic/c7012.jpg)
เขามาถึงสถานที่เกิดเหตุ มันเป็นบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใกล้สถาบัน
-
เมื่อมาถึงหน้าสถานที่เกิดเหตุ เขาก็สอบถามพยานที่อยู่ละแวกนั้น
ว่าในช่วงที่เกิดเหตุ เจอใครน่าสงสัย แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง
-
พนักงานร้านบอกว่า ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ 3 ทุ่ม เขาขายของอยู่ ได้ยินเสียงเอะอะในจังหวะที่ประตูอัตโนมัติเปิด จากนั้นก็มีเสียงปืนดังราว 3 นัด แล้วเด็กที่ตายก็กระเสือกกระสนคลานมาจนถึงประตูร้าน คงกะจะเข้ามาหลบข้างใน แต่มีคนใส่หมวกกันน็อค ใส่เสื้อเชิ๊ตกางเกงยีนส์สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ เดินตามมายิงเข้ากลางหลังเด็กที่ตายอีกเป็นชุดจนได้ยินเสียงแชะ ๆ แบบปืนหมดแม็ก
"จริง ๆ ตั้งแต่มันเริ่มรัวปืน ผมก็ก้มหลบหลังเคาเตอร์แล้วล่ะ ไม่โผล่หน้าออกไปหรอก " พนักงานบอก
หลังจากนั้น พนักงานก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้ามาใกล้ เสียงบอกให้ขึ้นรถ พอพนักงานร้านโผล่ขึ้นมาแอบมอง ก็เห็นมือปืนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์วิ่งไปทางสี่แยก ตอนนั้นเขารีบไปดูเด็กที่โดนยิง เลยไม่ทันดูว่ารถมอเตอร์ไซค์เลี้ยวไปทางไหน
"อยู่ที่นี่มานาน ไม่เคยเห็นเด็กตีกันโหดขนาดนี้มาก่อนเลย" พนักงานส่ายหัว
-
หลังจากเขาพูดคุยกับพนักงานในร้านสะดวกซื้อ ก็ถามออกไปว่าขอดูหล้องวงจรปิดของร้านที่เกิดเหตุวันนั้นได้ไหม
เขามาที่นี่เพื่อต้องการให้ความบาดหมางนี้ยุติลง เพื่อที่ทั้งสองสถาบันจะได้ไม่ต้องมาเข่นฆ่ากันอีก
-
พนักงานร้านทุบมือปุ มีสิ เออเนอะ ตำรวจก็ไม่เห็นมาเอาไปเลย
ว่าแล้วทุกคนก็ไปดูเทปกล้องวงจรปิดพร้อมกัน
ในเทป ผู้ตายเดินมาคนเดียวเหมือนคุยโทรศัพท์ มีรถมอเตอร์ไซค์ผ่านมา คนขับไม่ใส่หมวกกันน็อค แต่คนซ้อนใส่
"หมอนี่แหละ ผมจำหมวกกันน็อคมันได้" พนักงานชี้ชายนั่งซ้อนที่สวมหมวกกันน็อค
ผู้ตายยืนอยู่หน้าร้านสักพัก ก็เห็นชายสวมหมวกเดินเข้ามาหา เหมือนชายสวมหมวกจะเปิดกระจกบังลมของหมวกขึ้น ทั้งคู่คุยอะไรกันบางอย่าง ก่อนที่ฝ่ายผู้ตายจะออกท่าทางชี้หน้าอีกฝ่ายเหมือนจะโวยวาย ก่อนที่อีกฝ่ายก็ชี้หน้าเขาแล้วล้วงปืนจากหลังเอวออกมาแล้วยิงไปหนึ่งนัด ผู้ตายหันหลังหนี แต่ก็โดนยิงอีกสองนักจนถลามาถึงประตูเซเว่น จากนั้นคนใส่หมวกก็ตามมายิงซ้ำเข้ากลางหลังผู้ตายที่ล้มไปแล้วอีกหลายนัด ก่อนจะขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์คันเดิมวิ่งไปทางแยกไฟแดง น่าเสียดายที่มองเห็นป้ายทะเบียนไม่ชัด
-
หมวกกันน๊อคแบบนั้นคงมีเกลื่อนเมือง...อย่างน้อยก็เห็นมอเตอร์ไซด์ที่คนร้ายใช้หลบหนี ถ้าสามารถตามหามอเตอร์ไซด์คันนี้ได้ เขาก็น่าจะพบตัวคนร้าย
เอซกล่าวขอบคุณพนักงานในร้านและพยานที่เขาสอบถาม
น่าจะเริ่มจากที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซด์ในสถาบันก่อน...เขาจ้ำจี้แล้วเลือกมาสถาบันหนึ่ง
"โรงเรียนมายากลบัวเอก"
-
(http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2015/05/18/01/28CCFB8D00000578-3085546-image-a-27_1431909679290.jpg)
โรงเรียนมายากลบัวเอก เป็นโรงเรียนทีตั้งขึ้นมาเพื่อเหล่าเด็กที่มีความฝันที่อยากเป็นนักมายากล
ที่เห็นในรูปคือเด็กนักเรียนโรงเรียนนี้ที่กำลังเข้าแถวรับการอบรมกับตำรวจที่มาควบคุมความสงบ
-
ในระหว่างที่เหล่านักเรียนถูกตำรวจอบรม เขาก็เดินหามอเตอร์ไซด์ของผู้ต้องสงสัย
-
เขาหามอเตอร์ไซค์ที่ตรงกับรูปพรรณไม่พบ
-
เมื่อหาไม่พบ จึงย้ายไปที่อีกสถาบันทันที
-
เขาเดินมาถึงอีกหน้าสถาบัน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ระเบิดปิงปองลูกหนึ่งก็ลอยละลิ่วมาตกตรงหน้าเขาพอดี
(http://www.bankruptcylawnetwork.com/wp-content/uploads/2012/09/Bomb.jpg)
ผลจากระเบิดทำให้โอกาสที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสองสถาบันเป็นผุยผง คงหวังให้เกิดการสมานฉันท์ยากเสียแล้ว
Lemuel ล้มเหลวในการสะสางความบาดหมาง ชื่อเสียงเสียหาย
เลือกว่าจะทำ event ใดต่อ
- การแก้แค้น
- งานระดมทุน
- ไม่ทำ
-
- ไม่ทำ
-
Lemuel ได้รับชื่อเสียง 20 - 10
Ace ได้รับ 0 point
---------------------สิ้นสุดสัปดาห์--------------------
-
สัปดาห์ที่ 4
(http://wudthipan.com/fucko/_images/43a8e0a7be536070200520adae8a7f5e/3021%20-%20officer%20warlord.jpg)
"เจ้าสวะดีแต่พูด เจ้านักสร้างภาพ วันนี้แหละ พวกชั้นจะทำให้แกรู้สำนึก" สุเรยาบุกมาถึงตักศิลา เมืองแห่งการศึกษา เธอตรงเข้าไปถึงสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในเมืองที่ได้ข่าวว่ามีคนมาหาเสียง
(http://yakuzaweb.com/wp-content/uploads/2015/01/X-Men-Evolution.jpg)
"หืมมมมม ?"
L0L
"อุ๋ย" ดูท่าข่าวของเธอจะผิดพลาดมาก
-
สัปดาห์ที่ 6
Marcius - เจมม่า , Famida - คูลเลจ และ สุเรยา - Rei คิดจะซื้อใจวัยรุ่น จึงเข้าพักในหอพักเก่าของมหาวิทยาลัย แต่โดนวางยาให้เข้าพักในหอพักผีสิง
(http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2015/10/03/01/228BAEA900000578-3258312-image-m-104_1443830770128.jpg)
คืนนั้นก็ได้เรื่องเลย ลงบันไดมาละ
-
(http://i.imgur.com/EiaEvR6.png)
"............." เจมม่าเห็นเหตุการณ์เธอก็ NOPE NOTHING TO DO HERE GTFO
- เจมม่าพาผู้นำของเธออกจากหอพักมหาวิทยาลัย แล้วไปใช้ทักษะ "17 - นักขับ : ขับขี่ยานพาหนะได้ดีเยี่ยมทุกประเภท" ขับรถพาไปพักที่อื่นซะไกลๆผี (พักที่ใหม่ดีกว่าต้องเจอผีหนีหัวฟูละฟะ)
- สุ่มใหม่เลย
-
ใช้ ทักษะคุ้มครองพาออกจากหอพัก
-สุ่มใหม่
-
เรย์คิดว่าต้องมีใครสักคนที่ต้องเสียสละเป็นตัวล่อ ว่าแล้วก็ ..
(ขัดขาใครสักคนแล้ววิ่งไปพร้อมกับสุเรยา)
Skill : 02 - ลอบทำร้าย : ทำร้ายเป้าหมายโดยไม่มีคนรู้
สุ่มไปแล้วกัน
1. Famida
2. Jemma
3. Marcius
4. cooledge

Rolled 1d4 : 2, total 2
-
เจมม่าหัวใส กะพา Marcius หนีด้วยรถ ถ้าสำเร็จ เธอก็รอดแน่ ๆ
คูลเลจเองแม้จะไปถูกโรคกับผี แต่เขาก็กะจะพยายามคุ้มครอง Famida ให้ถึงที่สุด บางทีเขาก็อาจจะรวด
แต่คนที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปคือ Rei
เธอคิดไม่ผิด ถ้าใครสักคนไม่หนี คนคนนั้นก็จะตกเป็นเหยื่อของวิญญาณระหว่างที่คนอื่น ๆ หนีไป
และคนที่โชคร้ายอยู่ใกล้ Rei คือเจมม่า
ยังไม่ทันที่เจมม่าจะดึง Marcius วิ่งตามแผน เธอก็มีอันได้ถลาพุ่งเข้าหาผีจากแรงถีบของใครสักคน
^-^ "กรี๊ดดดดดดดดดด" เจมม่าร้องลั่นขณะที่เธอพุ่งชนผี
L0L "หงะ ทำอะไรของเธอ" Marcius ตะลึงตีหน้าไม่ถูก
ทันทีที่ตัวเจมม่าพุ่งเข้าซ่อนกับร่างของผีที่โปร่งใส เธอก็ถูกผีตนนั้นสิงแล้วหันมายิ้มแสยะให้ Marcius
L0L ๐"เฮ้ ๆ อย่าทำเป็นเล่นนะ มุกนี้ไม่ขำนา" นักวิชาการหนุ่มพูดได้เท่านั้นก่อนจะโดนเจมม่าที่ถูกผีสิงโดดเข้าตะครุบ
แต่เหตุการณืหลังจากนั้นจะเป้นอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ได้ เพราะทุกคนหนีหายจากรัศมีหลอกหลอนของผีตนนี้หมดแล้ว
Marcius และเจมม่า โดนผีหลอก
คูลเลจเนียนพา Famida หนีออกมาได้ โดยยังไม่เสียทักษะ
สุเรยา - Rei หนีออกมาได้
(http://aphs.worldnomads.com/safetyhub/12392/09_05_01_ulm_nazis.jpg)
เมื่อสัปดาห์ก่อนเป้นวันสถาปนาของสถาบันการศึกษาเก่าแก่สองสถาบันซึ่งเป็นคู่อริกันในเมืองนี้ โชคร้ายที่ปีนี้มีเด็กนักเรียนของหนึ่งในสองสถาบันข้างต้นเสียชีวิตจากการถูกยิง ซึ่งมีคนที่เชื่อว่า การตายครั้งนี้เป็นฝีมือของสถาบันคู่อริ ทำให้ทั้งสองสถาบันกระทบกระทั่งกันอย่างหนักตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้
Famida - คูลเลจ และ สุเรยา - Rei มาที่นี่ขณะที่นักเรียนสถาบันเจ้าทุกข์กำลังยืนเกาะรั้วเหลือเพื่อเล็งจะเอาคืนคู่กรณีทุกเมื่อ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/43a8e0a7be536070200520adae8a7f5e/3021%20-%20officer%20warlord.jpg)
"ก็แปลว่าต้องหาคนร้ายให้เจอหรือไม่ก็หาหลักฐานมายืนยันสินะคะ"
(http://wudthipan.com/fucko/_images/cf8e0b745a27b71d515641decf0264d9/2448%20-%20Magicle.jpg)
"เราต้องหยุดการทำร้ายกันของนักเรียนที่นี่ให้ได้นะคะ"
-
เอลซิทหลบออกไป ใช้ทักษะ สืบสวน เพื่อหาหลักฐานที่จะนำไปสู่ตัวคนร้าย เรื่องนี้เป็นความถนัดของเขาอยู่แล้ว
ถึงแม้จะได้ใช้แค่วันแรกก็ตาม เดี้ยงก่อนทุกที
-
"เราจะหาคนร้ายให้เจอทำไมละ ?" Rei เอ่ยถามสุเรยาก่อนที่จะเข้าไปกระซิบด้วยหน้าตาของบอสลับพร้อมเป่าหูว่า "ถ้าเป็นเจ๊ใหญ่ของทั้งสองสถาบันเธอจะได้คะแนนเสียงเยอะเลยนะ"
แต่การจะเป็นเจ๊ใหญ่จริง ๆ มันต้องใช้ทักษะพิเศษหลาย ๆ อย่างเยอะเกินไป แต่ถ้าจะแก้ปัญหาไม่ให้ใครเสียชีวิตหรือนักเรียนตีกัน ก็แค่ส่งนักเรียนที่มีปัญหาไปนอนปรับทุกข์ที่โรงพยาบาลก็พอนิ
ว่าแล้วก็ ..
Skill : 02 - ลอบทำร้าย : ทำร้ายเป้าหมายโดยไม่มีคนรู้
จัดการนักเรียนแกนนำที่มีปัญหาทั้งหมด+สร้างตำนานเมืองเรื่องใหม่ขึ้นแล้วค่อยพาสุเรยาไปหาพวกแกนนำที่โรงพยาบาลเพื่อดำเนินแผนขั้นต่อไป
-
ด้วยเหตุนี้ สัปดาห์นั้นทั้งสัปดาห์จึงเป็นตำนานสยองของเมืองนี้ โดยเฉพาะกับนักเรียนทั้งสองโรงเรียน เฉพาะคืนวันแรก มีนักเรียนของทั้งสองโรงเรียนกว่า 20 คน โดนลอบทำร้ายเข้าโรงพยาบาล พวกนักเรียนที่ไปเยี่ยมและประกาศว่าจะแก้แค้นแทนเพื่อน วันต่อมาก็ถูกหามเข้าโรงพยาบาลหมด และก็เป็นแบบนี้ซ้ำกันทุกวันตลอดสัปดาห์ จนแม้กระทั่งศิษย์เก่าก็ออกมาประกาศแก้แค้นแทนรุ่นน้องยังโดนถล่มเข้าโรงพยาบาลยกแก๊งส์ สุดท้ายเมื่อครบสัปดาห์ โรงเรียนทั้งสองแห่งก็แทบจะกลายเป็นโรงเรียนร้าง นักเรียนถ้าไม่อยู่ที่โรงพยาบาลก็ขังตัวเองอยู่ในบ้านเพราะเกรงว่าตัวเองจะเป็นเหยื่อรายต่อไปของยัยยมฑูตเถื่อน (ชื่อที่หลุดจากปากเหยื่อรายหนึ่งก่อนหมดสติ ก็ไม่รู้ว่าเห็นอะไรมาหรือเพ้อไปเอง)
เมื่อครบ 7 วัน สุเรยาก็นำกระเช้าไปพบเหล่านักเรียนร่วม 300 คน ที่แทบจะเรียกได้ว่าเหมาโรงพยาบาลรักษาตัว
(http://wudthipan.com/fucko/_images/43a8e0a7be536070200520adae8a7f5e/3021%20-%20officer%20warlord.jpg)
"สวัสดีค่ะ ทุกคน" สุเรยามาเยี่ยมแล้ว
-
Rei แนะให้สุเรยาพูดคุยหาเสียงกับเหล่าพยาบาลและคุณหมอในโรงพยาบาล พลางให้สุเรยาพูดคุยเพื่อสอบถามถึง
เหยื่อลองสกิลนักศึกษาหรือศิษย์เก่าที่ทำตัวมีปัญหาในโรงพยาบาลก่อน
ก่อนที่เธอจะแยกตัวออกไปจัดการด้วยทักษะ'ลอบทำร้าย'ที่เธอมี เอาให้พวกมันไม่สามารถทำอะไรตุ๊กตาสุเรยาตัวโปรดของเธอ เว้นก็แต่พวกศิษย์เก่าและแกนนำที่น่าจะสามารถชักจูงพวกนักศึกษาได้
ที่เธอจะใช้ทักษะ'ต่อยตี'จัดการเอาให้ต้องเข้าเฝือกจนขยับไม่ได้ทั้งตัวไปเลย ถ้ามีศิษย์เก่าหรือแกนนำคนไหนเกิดกลัวเธอขึ้นมาแล้ววิ่งหนี ก็ใช้ทักษะ'ลอบทำร้าย'ตามไปเก็บเหมือนเช่นเคย
เมื่อจัดการหมดทุกอย่างแล้วก็ใช้ 1 Point สุ่มทักษะพิเศษใหม่
(ขอดูทักษะที่ได้ก่อน ถ้าสามารถใช้ข่มขู่หรือชักจูงพวกมีปัญหาได้ ก็จะโรลเพิ่มเติ่มแต่ถ้าไม่ ให้โรลแค่ว่าเดินตามสุเรยาหาเสียงแล้วยิ้มหวาน ๆ ให้คนไข้ที่ตัวเองเป็นคนจัดการเพียงแค่นั้นก็น่าจะเกินพอ)
อันนี้สุ่มทักษะพิเศษใหม่

Rolled 1d30 : 28, total 28
-
เอลซิทหลบออกไป ใช้ทักษะ สืบสวน เพื่อหาหลักฐานที่จะนำไปสู่ตัวคนร้าย เรื่องนี้เป็นความถนัดของเขาอยู่แล้ว
ถึงแม้จะได้ใช้แค่วันแรกก็ตาม เดี้ยงก่อนทุกที
คูลเลจพบว่าจากกล้องวงจรปิดคดียิงกันหน้าร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นชนวนของความขัดแย้งต่อ ๆ มา ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าคนยิง แต่คนที่ขับรถมอเตอร์ไซค์มารับไม่ใส่หมวกกันน็อค จึงเห้นหน้าชัดเจน ที่สำคัญยังเห็นทะเบียนรถด้วย เมื่อนำทะเบียนรถไปเช็คก็พบชื่อเจ้าของ และเมื่อเช็คใบหน้าเจ้าของก็พบว่าตรงกับคนที่ขับรถให้มือปืนในกล้องวงจรปิด
คูลเลจ พบเบาะแสที่จะพาไปถึงตัวคนร้ายแล้ว
Rei อัดนักเลงที่เป็นศิษย์เก่าโชว์นักเรียนคนอื่น สร้างความสะพรึงกลัวถึงขั้วกระดูกให้เหล่านักเรียนทั้งสองโรงเรียน ทุกคนจึงยอมหันหน้ามาคุยกัน และพบข้อพิรุจหลายอย่างในคดีฆาตกรรมร้านสะดวกซื้อ โดยฝ่ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายยิงยืนยันหนักแน่นว่าไม่ใช่ฝีมือของฝ่ายตัวเอง และจากสถานการณ์ ก็คิดว่าพวกเด็ก ๆ คงไม่กล้าโหกหก Rei
หมายว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือคนนอกรึ?
-
เอลซิทนำข้อมุลนั้นไปให้กับตำรวจดำเนินการต่อทันทีโดยใช้ชื่อ famida เป็นผู้ให้ความร่วมมือ พร้อมกับส่งfamidaไปกับตำรวจด้วยในฐานะเจ้าของผลงาน
ในขณะที่ตัวเองค่อยๆปั่นป่วนกลุ่มนักเรียนด้วยทักษะยุแยงให้แสดงอาการต่อต้านสุเรยา
"คนที่ทำให้พวกนายต้องเข้าโรงบาลเป็นคนของสุเรยานะ ถึงเวลาอย่าไปเลือกล่ะ"
หลักฐานเรอะ...เอาสกิลสืบสวนหาสิ
-
"พวกแกไม่แค้นไอคนที่มันสร้างเรื่องให้พวกแกตีกันบางหรอ ? ไม่แน่มันอาจเป็นนักเรียนจากสถาบันอื่นนอกตัวเมืองก็เป็นได้ คงสมใจพวกมันที่เห็นพวกแกตีกันจนเข้าโรงพยาบาลมาหมดแบบนี้
ปานนี้พวกมันคงนั้งฉลองกันพร้อมกับคุยเรื่องที่พวกแกโดนมันหลอกจนต้องมาเข้าโรงพยาบาลแบบนี้แน่ ๆ"
Rei ทำหน้าสมเพชนักศึกษาทั้งสองสถาบัน ก่อนที่จะแสยะยิ้มพร้อมกับยืนข้อเสนอให้ปีศาจให้คนร่วม 300 กว่า ๆ ด้วยสีหน้าของตัวโกงที่ตอนนี้ลืมจุดประสงค์ที่ต้องหาคะแนนเสียงงี่เง่าว่า
"เอาแบบนี้เป็นไง ? พวกแกทั้งหมดสั่งลูกน้องหรือคนในกลุ่มไปหาข้อมูลเรื่องของไอคนที่ว่ามาให้กับฉัน รับรองว่าฉันจะจัดการพวกมันเป็นสองเท่าให้หนักกว่าที่พวกแกโดนฉันจัดการเลยเป็นไง ?
แต่เป็นการแลกเปลี่ยนในระหว่างที่ฉันอยู่ที่นี้ พวกแกต้องช่วยตุ๊กตาผู้แสนน่ารักที่ฉันควบคุมอยู่หาเสียงจากคนในพื้นที่ แน่นอนว่าพวกแกจะข่มขู่หรือใช้วิธีการไหนก็ได้เพื่อให้ตุ๊กตาของฉันได้คะแนนเสียงก็ได้
และฉันก็ไม่ได้สนเรื่องเด็กนักศึกษาตีกันอยู่แล้ว หากมันจะไม่ทำให้ชื่อเสียงของตุ๊กตาของฉันมันเพิ่มมากขึ้น เพราะงั้น .. รีบ ๆ ไปหาตัวไอคนร้ายงี่เง่านั้นแล้วระบุตัวคนที่ว่าให้ฉันได้แล้ว !!
อ๋อแล้วก็ !? ห้ามนำเรื่องที่พูดอยู่นี้ไปบอกต่อให้คนภายนอกรู้โดยเด็ดขาด .. ไม่งั้น คงรู้สินะว่าไม่ใช่แค่พวกแก แต่ครอบครัวหรือคนรักของพวกแก่ก็อาจจะถูกส่งมาโรงพยาบาลโดยไม่ทราบสาเหตุก็เป็นได้ ♪ ~"
-
คูลเลจใช้สกิลยุแยง ทำให้เหล่านักเรียนไม่พอใจสุเรยาและ Rei
Rei ข่มขู่แบบไม่ใช้สกิล แต่การส่งนักเรียน 300 คนเข้าโรงพยาบาลได้ ถึงไม่มีสกิลข่มขู่ก็ให้ผลเหมือนกัน
เหล่านักเรียนเลยไม่กล้าหือกับสุเรยาและ Rei แม้จะไม่พอใจก็ตาม สรุปคือ Rei สั่งให้ทำอะไร พวกนี้ก็จะทำให้ด้วยความกลัว แต่ลับหลังหรือเวลากาบัตรลงคะแนน พวกนี้ไม่เอาสุเรยาแน่ ๆ
:o "ไหงพวกเราดวงซวยงี้แนี่ย" นักเรียนคนหนึ่งอุทานลับหลัง
ทั้งหมดนี้ก็เพราะพวกนายเอาแต่ตีกันนั่นแหละ
ผลการค้นหาต้นเหตุความขัดแย้ง ในที่สุดตำรวจก็เชิญตัวคนขับมาให้ข้อมูล เค้นไม่นานก็รู้ทั้งหน้าและชื่อของมือปืน ที่แท้หมอนั่นเป็นนักเรียนของโรงเรียนช่างอุตสาหกรรมเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง สาเหตุที่ทำก็แค่แค้นทั้งสองโรงเรียนคู่กรณี แต่ฝ่ายตัวเองคนน้อยเกินไป หือกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ไหว คนที่โดนยิงตายนั่นก็เป็นหัวโจกคนหนึ่งที่เคยรังแกมือปืน ดังนั้นทั้งคู่เลยคิดแผนให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายผิดใจกัน
เมื่อรู้ชื่อและหน้าตาคนร้าย ก็ไม่ยากที่เครือข่ายนักเรียนและศิษย์เก่าของสองสถาบันจะควานหาคนร้ายจนเจอ
<o> โดนมาน่วมเลย
ฟามิดาและสุเรยาได้ชื่อเสียงจากการคลี่คลายทั้งคดีและความขัดแย้งของสองสถาบัน
ทั้งRei และคูลเลจ เลือก event พิเศษ เลือกซ้ำกันหรือไม่ก็ได้
- งานวิจัยที่หายไป
- ฮีโร่สวมหน้ากาก
- ไม่เลือก
-
- งานวิจัยที่หายไป
-

Rolled 1d3 : 2, total 2
-
งานวิจัยที่หายไป
(http://www.curbsideclassic.com/wp-content/comment-image/53145.jpg)
Mark Thunder นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเครื่องกลได้ประกาศว่า เขาสามารถสร้างเครื่องยนต์พลังอนันต์สำเร็จ เครื่องยนต์นี้เมื่อเริ่มเดินเครื่อง มันจะทำงานต่อไปได้เองแม้ไม่มีแหล่งพลังงานภายนอก ซึ่งหมายความว่าเครื่องยนต์ของเขาจะพลิกโฉมโลกอย่างสิ้นเชิง โลกนี้จะไม่ต้องการน้ำมันอีกต่อไป แม่แต่เขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้ายังไม่จำเป็นเลย
แต่ทว่าตอนนี้ เครื่องต้นแบบที่ว่าหายไปแล้ว
::) "ต้องเป็นพวกที่เสียประโยชน์จากเครื่องยนต์ของผมแน่ ๆ ผมมั่นใจ" Mark กล่าว ไม่เท่านั้น กระทั่งข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของ Mark ก็ยังหายไปด้วย ห้องวิจัยของเขาก็ถูกวางเพลิงเผาจนแทบไม่เหลืออะไร
จะทำยังไงดีล่ะ Famida
- ฮีโร่สวมหน้ากาก
ฮีโร่ลึกลับปรากฏตัวไล่ถล่มบรรดาวายร้ายและบรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีข่าวฉาวเกี่ยวกับการทุจริต เขาไปทุกที่ และไล่ขจัดความชั่วร้ายด้วยวิธีรุนแรงแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ปัญหาคือ บางครั้งก็ยังไม่แน่ว่าคนที่เขาเล่นงานไปจะทำเรื่องทุจริตจริง
เช่นกรณีนี้ มหาวิทยาลัยศาสนาชั้นสูงแห่งหนึ่ง ภราดาอธิการบดี ถูกสภามหาวิทยาลัยลงคะแนนเสียงสั่งปลดเนื่องจากเห็นว่าพัวพันกับการใช้จ่ายงบมหาวิทยาลัย ปัญหาคือยังไม่มีการสอบสวนว่าภราดาอธิการทำผิดจริงหรือไม่ และกลุ่มคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการหว่านล้อมให้สมาชิกสภามหาวิทยาลัยลงคะแนนเสียงเช่นนั้นก็คือสามภราดาที่ขัดแย้งกับภราดาอธิการมาแต่เก่าก่อน จึงมีความเป็นไปได้ว่านี่คือการกลั่นแกล้งเพื่อยึดอำนาจของภราดาอธิการ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/e1545e0d46e281919fc197761496e761/952%20-%20The_Memory_Wars.jpg)
"ได้โปรดเถอะคะ ช่วยท่านด้วย ลำพังแค่โดนปลดก็แย่แล้ว นี่ยังมีการตั้งศาลเตี้ยจะเอาชีวิตอีก" ลำยอง เลขาสาวของภราดาอธิการคือคนที่หอบเรื่องมาขอความช่วยเหลือจากสุเรยา เพราะตอนนี้มีจดหมายเปิดผนึกจากฮีโร่สวมหน้ากากที่ใช้ชื่อว่า "ผู้ลงทัณฑ์" เขียนบรรยายความผิดของภราดาอธิการและลงท้ายว่าจะมาประหารเข้าเพื่อผดุงความยุติธรรม
อีกอาทิตย์นึงจะถึงวันที่ผู้ลงทัณฑ์กำหนด จะช่วยยังไงดีนะ
- สืบสวนหาความจริง
- ปกป้องภราดาอธิการบดี
- อื่น ๆ
-
ใช้ความสามารถด้านการสืบสวน ตรวจสอบหาหลักฐาน จากคำให้การที่นาย mark กล่าวว่าเป้นกลุ่มผู้เสียประโยชน์
นอกจากนี้รวมไปถึงตรวจสอบสืบหาพยานแวดล้อมอย่างพวกกล้องวงจรปิดด้วย ลากนาย (mark ไปหาตำรวจขอดูกล้อง)
และแน่นอนสืบสวนคำให้การของนาย mark อย่างละเอียดด้วย ทั้งก่อนไฟไหม้ การที่เขทราบว่ามีบุคคลเสียประโยชน์ และอีกหลายอย่าง
-
- อื่น ๆ : "ย้ายไปต่างจังหวัดสิ ไม่ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ แค่นี้ก็ไม่โดนฆ่าแล้ว" Rei ตอบแบบเรียบ ๆ
-
ใช้ความสามารถด้านการสืบสวน ตรวจสอบหาหลักฐาน จากคำให้การที่นาย mark กล่าวว่าเป้นกลุ่มผู้เสียประโยชน์
นอกจากนี้รวมไปถึงตรวจสอบสืบหาพยานแวดล้อมอย่างพวกกล้องวงจรปิดด้วย ลากนาย (mark ไปหาตำรวจขอดูกล้อง)
และแน่นอนสืบสวนคำให้การของนาย mark อย่างละเอียดด้วย ทั้งก่อนไฟไหม้ การที่เขทราบว่ามีบุคคลเสียประโยชน์ และอีกหลายอย่าง
คูลเลจพบว่า มีผู้เสียผลประโยชน์มากมายหากเครื่องยนต์นั้นทำงานได้จริง ผลกระทบของมันเพียงพอที่จะทำให้หลาย ๆ ประเทศล่มสลายเลยทีเดียว
กล้องวงจรปิดไม่พบผู้ต้องสงสัย แต่พบหลักฐานว่าห้องทดลองถูกรื้อค้น อุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลการวิจัยถูกรื้อมากองรวมกันที่กลางห้องก่อนราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผา จากนั้นไฟได้ลามตามทางน้ำมันที่เตรียมไว้จนลุกลามทั่วห้องวิจัย
การสอบปากคำ Mark ยืนกระต่ายขาเดียวว่าเขาไม่รู้ว่าใครทำ แต่ต้องเป็นฝีมือของคนที่เสียประโยชน์แน่ ๆ
ด้วยทักษะขั้นเทพ คูลเลจ สาวลึกไปถึงขั้นตอนการสร้างเครื่องยนต์ เขาพบว่าหลักฐานทั้งหมดหายไปแบบเกลี้ยงเกลา เรียกว่าไม่มีหลักฐานว่าเครื่องยนต์นั้นเคยถูกสร้างสำเร็จเหลืออยู่เลย
มันออกจะแปลกเกินไป
- อื่น ๆ : "ย้ายไปต่างจังหวัดสิ ไม่ก็ไปเที่ยวต่างประเทศ แค่นี้ก็ไม่โดนฆ่าแล้ว" Rei ตอบแบบเรียบ ๆ
T--T "ถ้าแค่นั้นรอด ก็คงไม่เดือดร้อนแล้วล่ะค่ะ" เมื่อเห็นว่าสุเรยาไม่ช่วย ลำยองก็ขนแฟ้มเอกสารเดินน้ำตานองกลับไป
เอาไงดีนะ
- ไปช่วยก็ได้ ด้วยวิธี....
- ตามนั้นแหละ บายย
-
- ไปช่วยก็ได้ ด้วยวิธี....
(ให้สุเรยาแจ้งตำรวจว่าจะโดนลอบทำร้าย ก่อนที่จะใช้ความสามารถของตัวเองไปลอบทำร้ายโดยไม่ให้ใครรู้ แล้วพอเป้าหมายบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว
ก็ให้สุเรยาออกหน้าไปเลยว่าจะปกป้องด้วยตัวเอง ก่อนที่เรย์จะไปพูดกับตำรวจพลางสมเพชว่า โอกาสสุดท้ายของพวกคุณแล้วนะ ที่จะกู้หน้าโดยการปกป้องให้พ้นสัปดาห์น่ะ)
-
- ไปช่วยก็ได้ ด้วยวิธี....
(ให้สุเรยาแจ้งตำรวจว่าจะโดนลอบทำร้าย ก่อนที่จะใช้ความสามารถของตัวเองไปลอบทำร้ายโดยไม่ให้ใครรู้ แล้วพอเป้าหมายบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาลไปแล้ว
ก็ให้สุเรยาออกหน้าไปเลยว่าจะปกป้องด้วยตัวเอง ก่อนที่เรย์จะไปพูดกับตำรวจพลางสมเพชว่า โอกาสสุดท้ายของพวกคุณแล้วนะ ที่จะกู้หน้าโดยการปกป้องให้พ้นสัปดาห์น่ะ)
ขอยืนยันอีกทีว่าเข้าใจถูกไหม
- สุเรยาไปแจ้งความเรื่องผู้ลงทัณฑ์ประกาศประหารภราดาอธิการ
- Rei ไปทำร้ายภราดาอธิการให้บาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล
- ยุให้ตำรวจคุ้มครองภราดาที่อยู่ในโรงพยาบาล
แบบนี้เหรอ
-
- สุเรยาแจ้งว่าจะมีเหตุลอบทำร้ายกับตำรวจ ว่าภราดาอธิการจะถูกลอบทำร้าย 2 ครั้งโดยครั้งหลังจะเอาชีวิตจริง ๆ
- Rei ไปลอบทำร้ายภราดาอธิการให้บาดเจ็บ
- ยุให้ตำรวจเสียหน้า จนกว่าตำรวจจะรับปากว่าปกป้องด้วยกำลังที่มี (แล้วก็ให้ข้อมูลการลอบทำร้ายของผู้ลงทัณฑ์ว่าจะทำการลอบทำร้ายหวังเอาชีวิตในรอบที่ 2)
ปล. เหมือนกับว่าโยนความผิดที่ Rei ลอบทำร้ายครั้งแรกไปให้ ผู้ลงทัณฑ์ ที่ว่าด้วยเลย
-
ตามนั้น
ตำรวจและลำยองเข้าใจว่าภราดาอธิการถูกผู้ลงทัณฑ์ทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล จึงจัดเวรยามมาปกป้องภราดาอธิการอย่างเต็มที่
แต่นั่นก็ยังไม่ดีพอ
อ๊ากกกกกก
(http://www.themovienetwork.com/sites/themovienetwork.com/files/u269/big_hero_villain.jpg)
"ความยุติธรรมต้องรวดเร็ว คนร้ายต้องถูกลงโทษ" ดูท่าทางน่าจะปะปนมากับตำรวจอารักขาหรือเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เมื่อสบโอกาสจึงปรากฏตัวและลงมือสังหาร จากนั้นจึงใช้ระเบิดสร้างความวุนวายและหลบหนีไป
ภราดาเสียชีวิต
หลักฐานหลังจากนั้น พบว่าภราดาอธิการบดีไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการทุจริต แต่นั่นก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว
------------------------สิ้นสุดสัปดาห์------------------------------
(รอสรุปคะแนนพร้อมคูลเลจ)
-
เอลซิทเริ่มไม่ไว้ใจนาย mark ขึ้นมาเอาเถอะมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ เขาเลยลองหยั่งเชิงนาย mark ดู
-เสนอให้สร้างใหม่โดยมี famida เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่าย ถ้านาย mark ปฏิเสธก็คาดคั้นถึงเหตุผล และเช็คกับหลักฐานว่ามีอะไรที่นาย mark ให้ข้อมูลไม่ตรงกันมั้ย
-ตรวจเช็คการเคลื่อนไหวของผู้เสียผลประโยชน์ ที่น่าจะมีอำนาจในการเคลื่อนไหวในประเทศ ว่าพวกนั้นทำอะไรผิดปกติมั้ยช่วงนี้ (ใช้สกิล)
-
Mark บ่ายเบี้ยงที่จะสร้าง บอกว่าข้อมูลทั้งหมดหายไปแล้ว จะสร้างใหม่ก็ต้องวิจัยใหม่เท่านั้นเอง ดูมีพิรุธมาก อีกเรื่องที่พบคือ วันที่ไฟไหม้นั้น ไม่สามารถหาภาพจากกล้องวงจรปิดหรือพยานในที่เกิดเหตุที่สามารถยืนยันได้เลยว่ามีการบุกรุก แต่กลับพบว่าในวันนั้น Mark ได้มาที่ Lab ก่อนที่จะมีไฟไหม้ และเขาเป็นคนแรกที่พบว่า Lab ไฟไหม้
ไม่พบการเคลื่อนไหวผิดปรกติของกลุ่มผู้เสียประโยชน์ ดูเหมือนไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ
-
รวมหลักฐานทั้งหมดมาจับผิดนาย mark เพื่อสอบถามเป็นครั้งสุดท้าย
"คุณสร้างมันมาจริงๆนะ?"
ในกรณีนี้ที่ยังปากแข็งปฏิเสธเราจะเปิดห้องสืบสวนหาข้อมูลตามคำแก้ตัวทีละอย่างเลย..
-
Mark ยังปากแข็ง แต่จากการสืบของคูลเลจ ก็ไม่พบหลักฐานไหนเลยที่แสดงว่าได้มีการสร้างเครื่องยนต์สำเร็จ มิหนำซ้ำยังพบว่าน้ำมันที่ใช้จุดไฟ เป็นน้ำมันของห้องวิจัยที่เก็บไว้ใช้เป็นเชื้อเพลิง ส่วนในช่วงเวลาที่ไฟไหม้ ก็มีMark อยู่ที่นั่นคนเดียว สุดท้ายจากการสอบถามเหล่าผู้ช่วย ก็ไม่มีใครเคยเห็นตอนที่เครื่องยนตฺ์ทำงานสำเร็จสักคน
-
ในเมื่อจำกัดวงผู้ต้องสงสัยได้แล้วเขาเลยสรุปอีกครั้งว่าคนเผาห้องวิจัยต้องเป็นคนที่มีส่วนร่วมกำการวิจัยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
อาจจะเป็นยาม ผู้ช่วยหรือนาย mark เองก็ได้
โอเคเราจะไม่สนใจเครื่องยนต์ไปก่อน เราดูกันก่อนว่าใครเผาห้องวิจัย
-นาย mark น่าสงสัยสุด
-ตรวจสอบคนอื่นๆที่เกี่ยวว่ามีหลักฐานยืนยันตัวตนในเวลาที่เกิดเหตุมั้ย
แต่เอลซิทคิดว่านาย mark นั้นแหละทำ...
-
คนอื่นไม่มีใครเชื่อมโยงกับที่เกิดเหตุเลย ทุกคนมีพยานยืนยันขณะเกิดเหตุ มีแต่นาย Mark นี่แหละ ที่หาคนยืนยันตัวเขาเองไม่ได้
:o "เฮ้ย ผมจะเผาห้องวิจัยตัวเองไปทำไมเล่า"
-
"เงินประกันล่ะ? คุณได้ทำประกันไว้รึเปล่า?"
เอาจริงๆการทำลายทรัพย์สินของตัวเองมีหลายอย่างเช่นต้องการเงินประกัน ทำลายหลักฐาน หรือหนีความผิด
อย่างเช่นถ้ามันมีเอกสารที่เป็นหลักฐานว่าเครื่องยนต์ไม่มีอยู่จริง หรือว่าหลักฐานอาชญากรรมที่นาย mark เก็บเอาไว้
คำถามคือเอกสารอะไรหายไปบ้างมีเอกสารอย่างอื่นนอกจากการวิจัยมั้ย
ถ้าไม่ก็น่าจะมีเหตุผลเดียวคือ เขาไม่มีงานวิจัยตัวจริงเขาจึงต้องสร้างเรื่องขึ้นมาให้คนสนใจงานของเขา
-ตรวจสอบหาหลักฐานที่น่าจะเป็นแรงจูงใจของนาย mark โดยให้ความสำคัญกับเรื่องข้างบนก่อน
-
ห้องแล็ปถูกประกันไว้โดยมหาวิทยาลัยในวงเงินที่สมน้ำสมเนื้อ
คูลเลจตรวจพบว่า Mark ได้รับเงินทุนวิจัยจำนวนมากจากทางมหาวิทยาลัย แตเขายังไม่ได้แสดงผลงานการวิจัยให้เป็นที่ประจักษ์เลย และกำหนดแสดงผลงานก็คือปลายอาทิตย์นี้นี่เอง ตามสัญญาหากเขาทำไม่สำเร็จและคณะกรรมการประเมินลงความเห็นว่าเขาไม่สามารถสร้างผลงานได้จริงอย่างที่เสนอโครงการไว้ เขาจะต้องถูกเรียกเงินค่าวิจัยคืน
ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีจ่ายแหง ๆ
-
-เอาข้อมูลทั้งหมดไปคาดคั้นความจริงจากนาย mark
-
:-X "ผมถูกปรักปรำ" เจ้านี่ไม่มีข้อแก้ตัวแถมยืนกระต่ายขาเดียวไม่ยอมรับ เอาไงดีนะ
- เอาเรื่องไปแจ้งสภามหาวิทยาลัย
- ยอมรับ ยืนยันขนาดนี้เขาคงบริสุทธ์
- อื่น ๆ
-
- เอาเรื่องไปแจ้งสภามหาวิทยาลัย แล้วให้ทางนั้นดำเนินการทางกฎหมายต่อ
(ขี้เกียจแล้ววว)
-
สภามหาวิทยาลัยตกใจกับข้อมูลที่ได้มาก ที่แท้เจ้าMark หลอกลวงสภาเบิกเงินงบประมาณไปใช้ พอทำไม่สำเร็จก็กลบเกลื่อนความผืดด้วยการเผาทุกอย่างทิ้งแล้วอ้างว่าถูกขโมยผลงานรึ ร้ายกาจมาก คิดว่าแค่ยืนกระต่ายขาเดียวแล้วคนสติดีเขาจะเชื่อรึไงกัน
สภาแจ้งความลาก Mark เข้าตะรางและฟ้องเรียกเงินคืนจากเขา ดีจริง ๆ ที่ Famida สืบจนรู้ความจริงและนำมาบอกสภา ถ้านักข่าวรู้ก่อนแล้วเป็นฝ่ายเปิดโปง ก็ไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
Famida คลี่คลายคดีงานวิจัยที่หายไป
(ทำแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ววววว)
Famida ได้รับชื่อเสียง 60 + 20 + 60 + 60
คูลเลจ ได้รับ 3 point
Marcius ได้รับชื่อเสียง 60 - 20
เจมม่า ได้รับ 0 point
สุเรยา ได้รับชื่อเสียง 60 + 20 + 60
Rei ได้รับ 4 point
---------------------สิ้นสุดสัปดาห์------------------------
-
สัปดาห์ที่ 7
Lemuel กับชาโดว และ Porfast กับแคลร์ มาหาเสียงที่นี่ พวกเขารู้สึกถึงความแปลกไปของเมืองตักศิลา ที่มักจะได้เห็นกิจกรรมของวัยรุ่นอย่างแฟชั่น กีฬา การละเล่น การถกเถียง การรณรงค์ หรือการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะ ถึงแม้มันจะดูวุ่นวายแต่มันก็งดงาม
ทว่าวันนี้กลับไม่เห็นสิ่งเหล่านั้น ผู้คนรอบตัวดูเหมือนต่างคนต่างมาทำธุระ เสร็จแล้วก็ตรงดิ่งกลับไปกันหมด ไร้กิจกรรมใด ๆ ในเมือง ราวกับว่าพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์หายไปจากเมืองนี้แล้ว เกิดอะไรขึ้นกันนะ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/1f980503a6857dbd5c8fb96389826f53/3151%20-%20MW.jpg)
"ความสงบเงียบนี่แหละ เหมาะกับการเรียนรู้ เชื่อผมสิ ผมเป็นผู้อำนวยการนะ" ใช่แล้ว หมอนี่โดนเด้งออกมาจากเกาะ แต่ไม่รู้ทำอีท่าไหนถึงได้ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการเมือง ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเมืองการศึกษานี้ ใหญ่กว่าผู้ว่าการเมืองทั่ว ๆ ไปอีกนะ
พวกเขาจะทำยังไงกับเมืองที่เงียบสงัดนี้ดีล่ะ
- ไปหาผู้อำนวยการ
- ไปหาเสียงในโรงเรียน
-
- ไปหาเสียงในโรงเรียน
-
ในโรงเรียนเงียบสงัดมาก ทุกคนหลบหน้าหลบตาคนแปลกหน้า ไมมีใครเข้ามายืนฟังการหาเสียงของ Lemuel เลย
(http://wudthipan.com/fucko/_images/075dd3b71f1af0216fc8671ff6944a3b/557%20-%20Spirit_of_heroes.jpg)
"แปลกจริง ทำไมพวกนักเรียนไม่ยอมเข้ามาฟังเราเลย"
-
แบบนี้มันแปลกๆอยู่นะ...
เมื่อเห็นอย่างนั้น ชาโดวจึงลองไปสืบดู โดยการลองลงไปสอบถามนักเรียนหรือใครสักคนที่พอจะให้คำตอบได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองนี้ เหตุใดถึงได้เงียบสงัดและมีบรรยากาศที่ดูแปลกๆเช่นนี้
-
ชาโดวแยกไปล้อคคอนักเรียกลากไปถามที่มุมตึก ก็ได้ความว่า ผู้อำนวยการเมืองได้ออกกฎใหม่หลายข้อโดยอ้างเรื่องความสงบเรียบร้อย หนึ่งในจำนวนนั้นคือการชุมนุมทางการเมือง นักเรียนในตักศิลาห้ามเข้าฟังการชุมนุมทางการเมืองที่ไม่ได้จัดขึ้นโดยที่ทำการเมือง ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกลงโทษ
:-\ "เมื่อก่อนก็มีนะ พวกกฎเนี่ย แต่ผู้อำนวยการคนนี้เข้มงวดจริง ๆ คนที่ลองของโดนไปหลายคนแล้ว เลยไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน" นักเรียนเล่าว่าแรก ๆ ก็มีคนหืน แต่ก็โดนกวาดจับไปจนหมด ซึ่งสถานเบาก็ดดนคุมขัง สถานหนักก็โดนเพิกถอนสถานะนักศึกษาและเตะโด่งออกจากเมือง ซึ่งนั่นหมายความว่าหมดโอกาสเล่าเรียนหนังสืออีก เด็กในเมืองนี้ถึงจะมีพวกเฮี้ยว ๆ ไม่น้อย แต่ก็มาเมืองนี้เพราะใส่ใจการศึกษา ถึงที่สุดแล้วก็ไม่มีใครอยากโดนไล่ออก พอถูกเชือดไก่ให้ลิงดูหลายคนเข้าก็ไม่มีใครกล้าทำอีก
จะทำยังไงดีนะ
- ปลุกระดมให้นักเรียนลุกขึ้นสู้
- กลับไปคุยกับผู้อำนวยการ
- อื่น ๆ
-
มันต้องมีสาเหตุอะไรถึงทำให้ผู้อำนวยการคนนี้ออกกฎแบบนี้สิ
- กลับไปคุยกับผู้อำนวยการ
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/1f980503a6857dbd5c8fb96389826f53/3151%20-%20MW.jpg)
"ก็เพราะเมืองนี้มันห่วยแตกไงเล่า" ผู้อำนวยการสวนตรง ๆ เขาอธิบายว่า เมืองนี้มีแต่คนที่อยากจะพูด ไม่มีคนอยากจะฟัง ทุกคนทำตามใจอยากจนไม่สนใจระเบียบ เขาแค่อยากจะทำให้เมืองนี้มีระเบียบ สงบสุข เหมาะกับการศึกษา
"ดูอย่างห้องสมุดสิ คุณเองคงไม่พอใจใช่ไหม ถ้ามีคนมาทำอะไรเสียงดังน่ารำคาญเวลาคุณอ่านหนังสือ" ผู้อำนวยการเลยจัดการสอยแกนนำ เชือดไก่ให้ลิงดู ตอนนี้ทั้งเมืองเลยสงบเงียบเหมือนห้องสมุดสมใจเขา
-
"หืม...เงียบจนน่าประหลาดเลยนะเนี่ย...."
แคลร์ที่อู้หลับสำรวจเมืองที่เงียบผิดปรกติตัดสินใจตามไป
- ไปหาผู้อำนวยการ
-
(http://wudthipan.com/fucko/_images/1f980503a6857dbd5c8fb96389826f53/3151%20-%20MW.jpg)
"เมืองนี้มันห่วยแตก" ผู้อำนวยการอธิบายว่า เมืองนี้มีแต่คนที่อยากจะพูด ไม่มีคนอยากจะฟัง ทุกคนทำตามใจอยากจนไม่สนใจระเบียบ เขาแค่อยากจะทำให้เมืองนี้มีระเบียบ สงบสุข เหมาะกับการศึกษา
"ดูอย่างห้องสมุดสิ คุณเองคงไม่พอใจใช่ไหม ถ้ามีคนมาทำอะไรเสียงดังน่ารำคาญเวลาคุณอ่านหนังสือ" ผู้อำนวยการเลยจัดการสอยแกนนำ เชือดไก่ให้ลิงดู ตอนนี้ทั้งเมืองเลยสงบเงียบเหมือนห้องสมุดสมใจเขา
-
"มันน่าจะดีกว่าหากมีการแบ่งพื้นที่ให้ผู้คนได้แสดงความคิดเห็นและได้ทำในสิ่งที่ต้องการอย่างพอเหมาะ"
"นั่นจะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณผู้อำนวยการดูดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย จากความใจกว้างในการให้อิสระแก่ผู้คนในเมืองอย่างเหมาะสมในการที่จะทำอะไร"
หากผู้อำนวยการเมืองไม่พอใจ ใช้สกิลปรนนิบัติในการทำให้ผู้อำนวยการเมืองพอใจขึ้นมา
-
"อะไรก็ตามมากเกินหรือน้อยเกินมันก็ไม่ดีนะครับ... ใช่อยู่ครับที่ว่าความสงบเป็นสิ่งจำเป็น แต่ก็ใช่ว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้เสมอไปนี่ครับ?"
แคลร์ได้ยินผู้อำนวยการพุดแล้วรู้สึกตงิดขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามวางท่าทีที่สุขุมอยุ่
"ความคึกคักถ้ามากเกินไปก็จะเป็นความวุ่นวาย แต่ความสงบถ้ามากเกินไปก็คือการหยุดนิ่ง เมื่อความคิดเห็นและการแลกเปลี่ยนหยุดนิ่ง ก็ทำให้เมืองไร้การพัฒนา เหมือนเมืองที่ตายแล้วนะครับ"
"ผมคิดว่า กฏระเบียบเป็นสิ่งที่ดีนะครับ แต่ถ้าคุณเปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นบ้างมันน่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ? ให้เมืองเป็นไปในรูปแบบที่ทั้งคุณ และคนในเมืองพอใจน่ะ?"
"ระเบียบที่มัดมากเกินไป ก็จะกลายเป็นการผเด็จการ แต่การปล่อยมากเกินไปก็จะเละเทะไร้ระเบียบ ทุกอย่างจะต้องอยู่ในจุดที่พอดีครับ..."
-
แคลร์และชาโดวชักแม่น้ำทั้งห้า แตก็ไม่ได้ผล จนกระทั่งชาโดวล้วงไม้ตายออกมา
:-[ "อร่อย! คุ้กกี้ธรรมดาอร่อยได้ขนาดนี้เชียวเรอะ เข้ากับชาได้เยี่ยมไปเลย" ชาโดวเอาคุ้กกี้ที่เขาทำเองออกมาให้ผู้อำนวยการชิม มันอร่อยมากจนผู้อำนวยการชมไม่หยุด เขาอารมณ์ดีจนยอมฟังชาโดว
O0 "ก็ได้ จะยอมให้สักครั้งเป็นกรณีพิเศษนะ แต่อย่าให้วุ่นวายมากนักล่ะ"
ผู้อำนวยการยอมให้มีการชุมนุมแสดงความเห็นเป็นกรณีพิเศษโดยเจ้าหน้าที่ของเมืองจะไม่เข้าไปสอดส่อง
ในการชุมนุมนั้น นักเรียนที่เก็บกดมานานต่างแย่งกันฟ้อง Lemuel และ Porfast การได้อิสระในการพูดคืนมาหนึ่งวันไม่เพียงพอ พวกเขาจะต้องปลดแอกเมืองนี้จากการคุมขังของผู้อำนวยการ
แต่ด้วยวิธีไหนดีนะ
- บุกเข้าควบคุมตัวและแถลงความผิดของผู้อำนวยการจนเป็นข่าวใหญ่ เมืองหลวงและผู้คนจะได้สนใจ
- รวบรวมหลักฐานความผิด แล้วนำไปมอบให้สื่อภายนอกเมืองเผยแพร่ เมืองหลวงและผู้คนจะได้สนใจ
- อื่น ๆ
-
เห็นแก่กินนี่หว่า!!!! โด่ววววววววววววววววววววว!!!
แคลร์เริ่มวางแผนอะไรสักอย่าง
"ถ้าทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ดีแน่ๆครับ ภายใต้กฏรัดแน่นขนาดนี้ถ้าพวกเราใช้วิธีบุกเสียเปรียบแน่ๆ..."
"คุณ Porfastครับ ผมคิดว่าถ้าเกิดพวกเราลองรวบรวมหลักฐานต่างๆมาน่าจะดีกว่านะครับ ในภาวะนี้ดำเนินการอย่างเงียบๆน่าจะดีกว่า"
- รวบรวมหลักฐานความผิด แล้วนำไปมอบให้สื่อภายนอกเมืองเผยแพร่
-
ในสถานการณ์นี้ การใช้กำลังนอกจากจะทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดีแล้ว ยังอาจทำให้ผู้อำนวยการเมืองมีข้ออ้างที่จะออกกฎบังคับอะไรเพิ่มเติมและใช้ความรุนแรงในการจัดการได้อีกต่างหาก
- ใช้ทักษะสะกดรอย แอบติดตามผู้อำนวยการเมืองไป จากนั้นจึงรวบรวมหลักฐานความผิดของผู้อำนวยการเพิ่มเติมไปมอบให้สื่อภายนอกเผยแพร่
-
เห็นแก่กินนี่หว่า!!!! โด่ววววววววววววววววววววว!!!
แคลร์เริ่มวางแผนอะไรสักอย่าง
"ถ้าทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ดีแน่ๆครับ ภายใต้กฏรัดแน่นขนาดนี้ถ้าพวกเราใช้วิธีบุกเสียเปรียบแน่ๆ..."
"คุณ Porfastครับ ผมคิดว่าถ้าเกิดพวกเราลองรวบรวมหลักฐานต่างๆมาน่าจะดีกว่านะครับ ในภาวะนี้ดำเนินการอย่างเงียบๆน่าจะดีกว่า"
- รวบรวมหลักฐานความผิด แล้วนำไปมอบให้สื่อภายนอกเมืองเผยแพร่
ตัวแทนนักเรียนเห็นด้วย พวกเขาจะเริ่มแผนรวบรวมหลักฐาน แต่จะใช้วิธีไหนดีนะ
- สะกดรอยตามผู้อำนวยการ
- ลอบค้นเอกสารสำคัญ
- ล้วงความลับจากคนสนิท
- อื่น ๆ
ในสถานการณ์นี้ การใช้กำลังนอกจากจะทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดีแล้ว ยังอาจทำให้ผู้อำนวยการเมืองมีข้ออ้างที่จะออกกฎบังคับอะไรเพิ่มเติมและใช้ความรุนแรงในการจัดการได้อีกต่างหาก
- ใช้ทักษะสะกดรอย แอบติดตามผู้อำนวยการเมืองไป จากนั้นจึงรวบรวมหลักฐานความผิดของผู้อำนวยการเพิ่มเติมไปมอบให้สื่อภายนอกเผยแพร่
ฝ่ายนักเรียนเห็นด้วยกับแผนรวบรวมหลักฐาน ระหว่างที่ทุกคนกำลังประชุมหาวิธี ชาโดวก็เร้นกายออกไปสะกดรอยตามผู้อำนวยการ และถ่ายภาพพฤติการไม่นาไว้วางใจของเขามาเพียบ ซึ่งรวมถึงการนัดพบกับตัวแทนขายอุปกรณ์การศึกษารายใหญ่ที่โรงแรมด้วย หายเข้าห้องสวีทโรงแรมกันไปร่วมสามชั่วโมงก็กลับออกมาพร้อมถุงขนม ชาโดวแอบหาโอกาสเปิดดูก็พบว่าข้างในมีคุ้กกี้กล่องแดง แต่เมื่อเปิดกล่องก็พบธนบัตรอัดเป็นฟ่อน
Lemuel ได้หลักฐานจะจะตามาก เขานำมาโชว์ให้นักเรียนดูและส่งต่อให้สื่อมวลชนนอกเมือง
ที่นี้เอาไงต่อ
- ออกจากเมือง
- หาข้อมูลต่อ
- อื่น ๆ
-
- ใช้ทักษะสะกดรอยให้เป็นประโยชน์ในการสืบหาข้อมูลต่อ
- ขอใช้ 1 แต้มสุ่มทักษะพิเศษใหม่ด้วยค่ะ
-
แคลร์เริ่มคิดว่าจะเริ่มสืบหาข้อมูลจากจุดไหน
เมื่อเขาเห็นฝั่งชาโดว์เคลื่อนไหวแล้วเขาคิดว่าบางทีเขาอาจจะต้องไปหาหลักฐานจากอีกทางหนึ่ง
บางทีคนที่ทำงานให้เขาก็อาจจะกุมความลับบางอย่างก็ได้....
เขาเริ่มค่อยๆคิดแผนที่จะสืบข้อมูล หรือควรจะบอกว่าชิงข้อมูลดู
- ล้วงความลับจากคนสนิท
-
- ใช้ทักษะสะกดรอยให้เป็นประโยชน์ในการสืบหาข้อมูลต่อ
- ขอใช้ 1 แต้มสุ่มทักษะพิเศษใหม่ด้วยค่ะ
ข่าวที่เขาส่งออกไปได้ออกทีวี นั่นทำให้ผู้อำนวยการเต้นผาง และเพราะในกลุ่มของนักเรียนมีบางคนที่เป็นสายของผู้อำนวยการ บรรดาการ์ดของผู้อำนวยการเลยบุกมาไล่ล่า Lemuel และชาโดว ถึงจตุรัสกลางเมืองเพื่อควบคุมตัวพวกเขา
(https://ghostline.files.wordpress.com/2008/09/gestapo1.png?w=510&h=368)
"หยุดนะ! ไปกับพวกเราเสียดี ๆ" คนของผู้อำนวยการตะโกนมาแต่ไกล จะเอาไงดีล่ะ
- หนี (บอกวิธีมา)
- ยอมแพ้
- อื่น ๆ
แคลร์เริ่มคิดว่าจะเริ่มสืบหาข้อมูลจากจุดไหน
เมื่อเขาเห็นฝั่งชาโดว์เคลื่อนไหวแล้วเขาคิดว่าบางทีเขาอาจจะต้องไปหาหลักฐานจากอีกทางหนึ่ง
บางทีคนที่ทำงานให้เขาก็อาจจะกุมความลับบางอย่างก็ได้....
เขาเริ่มค่อยๆคิดแผนที่จะสืบข้อมูล หรือควรจะบอกว่าชิงข้อมูลดู
- ล้วงความลับจากคนสนิท
ผู้อำนวยการมีคนสนิททำหน้าที่เป็นเลขาหน้าห้องคอยกลั่นกรองงานและไปไหนมาไหนด้วย 1 คน เขาไว้ใจให้ชายคนนี้ทำอะไรแทนเยอะมาก ถ้าจะมีคนที่รู้ความลับของผู้อำนวยการ ก็ต้องเขาคนนี้แหละ
:-X "....."
จะใช้วิธีไหนล้วงความลับดี
-
การ์ดของผู้อำนวยการมาเหรอ... เผ่นสิจะรอทำไมล่ะ!
- ถ้ายังอยู่ห่าง ก็ลาก Lemuel หนีเลย หนีไปตามทางที่การ์ดน่าจะตามมายาก และน่าจะใช้หลบออกจากเมืองหรือไปที่ที่ปลอดภัยได้เร็วที่สุด
แต่ถ้าจวนตัวแล้วแบบพาหนีไม่ทัน ก็ลองใช้สกิลปรนนิบัติในการทำให้การ์ดพอใจก่อน จากนั้นค่อยกล่อมและตะล่อมให้การ์ดปล่อยไป หรือไม่งั้นก็หาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของการ์ด (เช่น ชี้ให้ดูทางอื่น (....)) แล้วก็ลาก Lemuel หนีทันทีที่ได้โอกาส
-
"...ก่อนอื่นผมอยากจะรู้ว่าเวลาที่เขาไม่ได้อยู่กับผู้อำนวยการเขาทำอะไรบ้าง...แต่นั่นก็เป็นงานใหญ่ใช่น้อย"
- ขอสุ่มสกิลใหม่ก่อนค่ะ
-
การ์ดของผู้อำนวยการมาเหรอ... เผ่นสิจะรอทำไมล่ะ!
- ถ้ายังอยู่ห่าง ก็ลาก Lemuel หนีเลย หนีไปตามทางที่การ์ดน่าจะตามมายาก และน่าจะใช้หลบออกจากเมืองหรือไปที่ที่ปลอดภัยได้เร็วที่สุด
แต่ถ้าจวนตัวแล้วแบบพาหนีไม่ทัน ก็ลองใช้สกิลปรนนิบัติในการทำให้การ์ดพอใจก่อน จากนั้นค่อยกล่อมและตะล่อมให้การ์ดปล่อยไป หรือไม่งั้นก็หาวิธีเบี่ยงเบนความสนใจของการ์ด (เช่น ชี้ให้ดูทางอื่น (....)) แล้วก็ลาก Lemuel หนีทันทีที่ได้โอกาส
Lemuel และชาโดวหนีลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอย และในจังหวะที่จำนวนคนที่ไล่ตามมากระจายไป ชาโดวก็คว้าคอการ์ดคนนึงที่หลงเข้ามาใกล้ที่ซ่อนไว้จากนั้น....
:-X "เข้าใจแล้ว รถจอดอยู่ที่ถนนด้านหน้า นี่กุญแจ" ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำยังไง แต่การ์ดคนนี้ไม่ใช่แค่ยอมเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ แต่ให้ยืมรถสำหรับหนีด้วย ทาทางคงพอใจมาก ๆ
เมื่อได้กุญแจ ทั้ง Lemuel และชาโดวก็ใช้รถเป็นพาหนะเผ่นหนีออกจากเมืองอย่างลอยนวล
(รอฝั่งแคลร์)
"...ก่อนอื่นผมอยากจะรู้ว่าเวลาที่เขาไม่ได้อยู่กับผู้อำนวยการเขาทำอะไรบ้าง...แต่นั่นก็เป็นงานใหญ่ใช่น้อย"
- ขอสุ่มสกิลใหม่ก่อนค่ะ
นอกเวลาทำงาน ชายคนนี้ก็ทำเหมือนเจ้าหน้าที่ทั่ว ๆ เลิกงานก็กลับบ้านที่เป็นหอพักพนักงาน เสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่ถูกตามตัวก็ทำความสะอาดห้อง ซักผ้า ไปซื้อของ ดูหนัง เดินเล่น ชีวิตปกติมาก
-
Lemuel และชาโดวหนีออกจากเมืองสำเร็จ แม้จะไม่ได้ข้อมูลเพิ่ม แต่ลำพังข้อมูลที่พวกเขาหามาได้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้อำนวยการโดนเด้งแล้ว
(http://wudthipan.com/fucko/_images/1f980503a6857dbd5c8fb96389826f53/3151%20-%20MW.jpg)
"เด้งเรอะ คิดว่าฉันจะยอมโดนเด้งซ้ำซากรึไง"
ชาโดว เลือกภารกิจพิเศษ
- ความดื้อดึงของผู้อำนวยการ
- เหล่านักวิชาการที่หายไป
- ไม่เลือก
เนื่องจากแคลร์ป่วย Porfast เลยอยู่ดูแลเขาจนไม่เป็นอันทำงาน
(http://upic.me/i/1a/ipic1.jpg)
"ขอโทษนะ เพราะผมแท้ ๆ ..."
(http://wudthipan.com/fucko/_images/fcab96c9de921e084620cf270df96c19/2033%20-%20Galactica.jpg)
"เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องกังวลหรอก"
ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะพัฒนาไปอีกขั้น แต่นั่นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับการหาเสียงหรอกนะ
แคลร์ และ Porfast จบภารกิจประจำสัปดาห์
-
- ความดื้อดึงของผู้อำนวยการ
(ขอสุ่มทักษะพิเศษใหม่ด้วยค่ะ)
-
ถึงแม้จะมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ผู้อำนวยการก็ยังไม่ยอมรับ เขายึดอาคารอำนวยการเป็นป้อมปราการสุดท้าย และไม่ยอมให้ใครบุกเข้าไป มันคือปราสาทของเขา
::) "แบบนั้นก็แย่สิ ถ้าเราเข้าอาคารไม่ได้ ก็ทำงานไม่ได้นะ" เจ้าหน้าที่ของเมืองบ่น
(https://c2.staticflickr.com/4/3073/3019184850_97d6de51e9.jpg)
อาคารอำนวยการเดิมเป็นปราสาทเก่า ตั้งอยู่กลางน้ำ ทางเข้าปกติทางเดียวคือสะพานหิน ปลายสุดของสะพานคือประตูขนาดใหญ่ที่นำเข้าสู่ชั้นร่างของอาคาร แต่ตอนนี้มันถูกปิดด้วยประตูลูกกรงเหล็ก
Lemuel และชาโดวคงต้องหาทางเข้าไปข้างในให้ได้ แต่จะทำอย่างไรดีล่ะ
-
ช่างเลือกที่หลบได้ดีจริงๆ
ชาโดวคิดก่อนที่จะลองเดินสำรวจให้ทั่วบริเวณภายนอก ลองมองสำรวจให้ทั่วทุกซอกทุกมุม เผื่อว่าจะมีช่องทางอื่นที่จะสามารถใช้เข้าไปได้ (เช่น รอยแตก หรือว่ารูโหว่ตามที่ต่างๆ)
ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องหาทางเข้าไปด้วยวิธีปกตินี่นา
-
เขาพบว่าสะพานหินจริง ๆ มีประตูลูกกรงทั้งสองฝั่ง แต่ท่าทางคนข้างในคงออกมาปิดไม่ทัน ประตูเชิงสะพานด้านนอกจึงไม่ได้ปิดไว้ ถ้าจะเดินไปบนสะพานเพื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็ทำได้
เมื่อลองใช้เวลาเดินดูรอบ ๆ บึงน้ำที่ตั้งปราสาท ก็พบว่าที่นี่เป้นบึงน้ำที่มีขอบบึงกลมได้รูป ปราสาทตั้งอยู่กลางบึงพอดี รอบปราสาทมีพื้นดินและสนามหญ้าเล็ก ๆ ล้อม ด้านหลังปราสาทมีลานเล็ก ๆ ริมน้ำที่น่าจะเป็นที่ทานน้ำจาหรือเดินเล่นกลางแจ้ง เขามองเห็นประตูไม้ที่เปิดเข้าไปในปราสาทได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะล็อคไหม นอกจากนี้ยังพบว่าแม้หน้าต่างของปราสาทนี้จะอยู่สูงจากระดับพื้นด้านนอกมากอยู่ แต่ผิวของกำแพงเป็นอิฐที่มีร่องให้เหยียบหรือไต่ได้ถ้ามือเหนียวพอ
ปัญหาคือเขาสังเกตด้วยว่าบนบนยอดของป้อมเหนือปราสาท มีคนของผู้อำนวยการเดินไปมาคอยสอดส่องอยู่
-
ชาโดวลองสังเกตดูอีกสักระยะหนึ่ง ดูว่าจะมีคนที่ผ่านเข้าออกที่นี่หรือไม่ เผื่อว่าจะสามารถปลอมตัวหรือเนียนแฝงตัวเข้าไปในนั้นได้ แต่ถ้ารอแล้วไม่มีใครที่เข้า-ออกจากที่นี่เลย ก็ค่อยคิดแผนขั้นต่อไปในการแอบเข้าไป
-
ตอนนี้ฝ่ายผู้อำนวยการยึดอาคารไว้ ไม่ให้ใครเข้าไป และแน่นอนว่าไม่มีใครออกมาด้วย
คงต้องคิดแผนแอบเข้าไปแล้วล่ะ
-
มีสองที่ที่เหมาะกับการจะแอบเข้าไป ไม่ทางหน้าต่าง ก็เป็นประตูไม้ที่ไม่รู้ว่าล็อกหรือเปล่า
ชาโดวดูว่าเจ้าหน้าที่ของเมืองที่มาที่นี่มีกี่นาย (คงไม่ใช่ว่ามีแค่คนนี้คนเดียวหรอกนะ..) จากนั้น อาจจะต้องใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจจากคนที่สังเกตอยู่บนป้อมให้ไปสนใจอย่างอื่น (เช่น ควันไฟในบริเวณใกล้กับปราสาทในจุดที่สังเกตได้ยาก)
หากมีคนไปด้วยเยอะ ก็แบ่งเป็นสองทีม ทีมหนึ่งให้ไปทางประตูไม้ อีกทีมให้เข้าทางหน้าต่าง
แต่ถ้ามีกันไม่กี่คน ก็เข้าไปทางหน้าต่างเลย อย่างน้อยหน้าต่างอาจจะเปิดอยู่ และทุบกระจกให้แตกน่าจะง่ายกว่าพังประตูไม้
-
ชาโดวหาอาสาสมัครได้ถึง 2 คน คนนึงคือ Lemuel
(http://wudthipan.com/fucko/_images/075dd3b71f1af0216fc8671ff6944a3b/557%20-%20Spirit_of_heroes.jpg)
"มันเป็นเกาะกลางน้ำไม่ใช่เหรอ เราจะไปถึงตัวอาคารยังไงล่ะ"
- สะพานนี่ไง วิ่ง ๆ ลุยเข้าไปเลย ถึงฟากนู้นก็อ้อมไปที่หน้าต่าง
- ดำน้ำไปขึ้นเกาะสิ ไปโผล่ใกล้ ๆ หน้าต่างแล้วก็ปีนขึ้นไปเลย
- อื่น ๆ (ระบุ)
-
ความจริงเขาก็อยากใช้วิธีดำน้ำไปขึ้นที่เกาะนั้นนะ... แต่ ....
ชายหนุ่มลองมองสำรวจดู พลางลองแหย่มือลงไปในน้ำดูก่อน หากมีพวกอาหารหรืออะไรก็ลองหย่อนลงไปดู (ถ้าไม่ได้มีกฎห้าม แต่ถ้ามีกฎห้ามทิ้งอะไรลงน้ำก็แค่ลองแหย่มือลงไปในน้ำดู)
ถ้าลองดูแล้วไม่มีอะไรผิดปกติน่าสงสัยก็ดำน้ำไปที่เกาะเลย โดยที่ไม่ลืมที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของคนบนป้อมปราสาทนั้นก่อน
-
ป่านนี้แล้วใครจะมาสนกฎหยุมหยิม อยากเอาอะไรลงน้ำก็เอาเลย และทันทีที่ชาโดวโยนขนมปังลงน้ำ พวกมันก็ขึ้นมา....
(http://f.ptcdn.info/518/027/000/1421428125-22097-o.jpg)
ไม่มีอะไรหรอก ที่นี่ห้ามจับปลาและก็มีคนให้อาหารพวกมันเป็นปกติน่ะ ประชากรเลยเยอะหน่อย ลงไปก็ระวังปลาตอดละกัน
เรื่องคนดึงความสนใจไม่มีปัญหา มีคนจัดการให้ แค่ว่าพร้อมจะดำน้ำรึยัง
- พร้อม
- คิดใหม่
- อื่น ๆ
-
เห็นแล้วผมนี่อยากจับปลาไปขายเลย
ก็แค่ปลาเอง แค่นั้นเองงง
- พร้อม ดำเลย
-
ด้านสะพาน คนของมหาวิทยาลัยที่มาช่วยดึงความสนใจ พากันขึงป้ายผ้าโวยวายตำหนิพฤติกรรมณ์ของผู้อำนวยการคนเดิม โดยมีเหล่าไทยมุงคอยเป็นลูกคู่ให้ เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มได้ที่ คนของมหาวิทยาลัยก็ขึ้นมาบนสะพานแล้วแล้วเดินไปที่อาคารอำนวยการกลางน้ำ
"วันนี้ล่ะ! พวกเราจะ แอ็บ!" o>
พูดไม่ทันขาดคำ ฝนก้อนหินก็ลอยมาจากป้อมของอาคาร กลุ่มม็อบแตกกระเจิงกันไปคนละทิศละทาง
แต่นั่นคือโอกาสของชาโดว
เขาและLemuel ดำน้ำไปโผล่ที่หลังเกาะ
ตอนนี้ยังไม่มีใครเห็นพวกเขา เอาไงต่อ
-
หลังจากที่ดำหลบมาถึงหลังเกาะได้แล้ว ชายหนุ่มก็มองหาลู่ทางที่น่าจะใช้เข้าตึกได้เร็วที่สุด และสามารถหลบการมองเห็นจากคนทั้งในตึกและบนป้อมด้วย
- ขึ้นจากน้ำแล้ววิ่งไปหาที่หลบการสังเกตจากคนของ ผ.อ. ก่อน แล้วหาทางเข้าตึก ถ้าใกล้ประตูไม้ก็ลองไปเปิดประตูไม้ดูก่อนว่าล็อกหรือเปล่า ถ้าใกล้หน้าต่างและไม่มีคนอยู่ในนั้นตอนนั้นก็ปีนเข้าไปเปิด(หรือทุบหน้าต่าง)เข้าไปเลย
-
ชาโดวมุดใต้โต๊ะ โผเข้าพุ่มไม้ กลิ้งตัวแนบกำแพงอาคารไปจนถึงประตูไม้ เขาพบว่ามันล็อค แต่ทั้งตัวล็อคและประตูดูไม่แข็งแรง ถ้าช่วยกันกับ Lemuel ถีบแรง ๆ มันคงพัง เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไป เขาเห็นหน้าต่างที่เปิดไว้ แต่มันก็สูงตั้งชั้นครึ่ง โดดขึ้นไปไม่ถึง ถ้าจะขึ้นไปคงต้องหาวิธีปีน
ประตู
(http://texturelib.com/Textures/doors/wood%20doors/doors_wood_doors_0182_01_preview.jpg)
หน้าต่าง
(http://img09.deviantart.net/ace9/i/2009/017/c/7/castle_window_battle_abbey_by_xnickixstockx.jpg)
เอาไงดี
- พังประตู แล้วรีบเข้าไปให้เร็วที่สุด
- ปีนเข้าทางหน้าต่าง (ระบุวิธีปีน)
- อื่น ๆ
-
คิดไปคิดมา...ไม่ต้องเสียเวลาปีนหน้าต่างหรอก พังประตูเลยนี่แหละ!
- พังประตู แล้วรีบเข้าไปให้เร็วที่สุด
-
สองหนุ่มรุมถีบประตู
ปึง! ปึง! ปึง! โครมมมมมมม!!!!!!!!!
ประตูพังจนได้ แต่เสียงก็ดังมาก พวกเขาจะทำยังไงกันต่อ
- บุกขึ้นไปห้องผู้อำนวยการ
- บุกขึ้นป้อมบนดาดฟ้า
- บุกไปที่ประตูหน้า
- แอบหลบอยู่แถวนี้
- อื่น ๆ
-
ในเมื่อเข้ามาได้แล้ว ..การไปที่ประตูหน้าเพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้ามาข้างในได้ก็น่าจะดีกว่า
- บุกไปที่ประตูหน้า
(ใช้ทักษะคุ้มครองคอยคุ้มกัน Lemuel ไว้ด้วย)
-
เป็นการตัดสินใจที่ดี มากันแค่สองคน จะไปสู้กับรปภ.ทั้งอาคารได้อย่างไร แต่ถ้าแค่เปิดประตูให้กองหนุนที่รออยู่ข้างนอกเข้ามาล่ะก็ ถึงจะมีสองคนก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่
ทั้งคู่วิ่งไปถึงประตูหน้าซึ่งมีคนเฝ้าแค่ 3 คน เนื่องจากมันถูกล็อคไว้อยู่แล้ว รปภ.ส่วนใหญ่จึงขึ้นไปอยู่ที่สูงเพื่อรอขว้างปาก้อนอิฐก้อนหินใส่คนที่ข้ามสะพานมาเป็นหลัก
ทั้งสามคนมัวแต่จ้องไปที่สะพานจึงไม่ทันได้หันมาดูเมื่อ Lemuel กับชาโดววิ่งมาถึง คนที่ยืนอยู่หลังจึงถูก Lemuel ฟาดหัวด้วยแจกันที่ฉวยมาระหว่างทางร่วงไป จากนั้นเขาก็หยิบกุญแจที่แขวนไว้ที่โต๊ะยามวิ่งไปยังประตูเพื่อปลดล็อคระหว่างที่ชาโดวช่วงคุ้มกันเขาจากรปภ.อีกสองคน
แกร๊ก ประตูเปิดแล้ว
>:( >:( >:( >:( >:( >:(
"ประตูเปิดแล้ว บุกเลย!" รปภ.ด้านนอกที่รอเวลามานานเฮโลข้ามสะพานวิ่งเข้าตัวอาคารรวดเดียว สุดที่ฝ่ายตั้งรับจะยับยั้งได้ด้วยการปาก้อนหิน ในที่สุดแนวต้านรับก็แตก รปภ.ของตักศิลายึดอาคารอำนวยการคืนมาได้แล้ว
แต่ผู้อำนวยการหายไปไหนนะ
- ในห้องผู้อำนวยการ
- บนดาดฟ้า
- ในบ่อน้ำของห้องครัว
-
ผู้อำนวยการคงไม่อยู่ๆวิ่งขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อรวมปาหินด้วยแหงๆ...
แต่ก็คงไม่โง่จะอยู่ในห้องผู้อำนวยการเพื่อรอให้โดนจับล่ะมั้ง
- ในบ่อน้ำของห้องครัว
-
ปราสาทเก่าล้วนมีบ่อน้ำเพื่อใช้ในปราสาท ถึงแม้ตอนนี้จะใช้ระบบประปาแล้วก็เถอะ อย่างไรก็ตาม บ่อน้ำนี้ไม่ได้เป็นบ่อน้ำธรรมดา แต่เป็นเส้นทางลับที่มีไว้เข้าออกจากปราสาทด้วย เรื่องแบบนี้ภารโรงของอาคารรู้ดี แต่ไม่มีใครไปถาม ส่วนผู้อำนวยการก็คงรู้จากการแบบแปลนของอาคารนั่นแหละ
(http://wudthipan.com/fucko/_images/1f980503a6857dbd5c8fb96389826f53/3151%20-%20MW.jpg)
"แย่ที่สุด แต่อย่านึกนะวาชั้นจะยอมแพ้" ตอนที่ชาโดวไปถึง เขาเห็นผู้อำนวยการกำลังก้มๆ เงย ๆ ที่ขอบบ่อเพื่อโรยบันไดเชือกลงไปในบ่อ คงคิดจะปีนลงไปแล้วหนีด้วยทางลับ เขายังไม่รู้ว่ามีคนตามมาทันแล้ว
เอาไงดีนะ
- ร้องเรียกให้มอบตัว
- ถีบลงไปเลย
- สะกดรอยตามไป
- อื่น ๆ
-
ถึงเวลาใช้ทักษะสะกดรอยให้เป็นประโยชน์อีกแล้ว
- ใช้ทักษะสะกดรอย สะกดรอยตามไป โดยก่อนจะสะกดรอยตามและในขณะที่สะกดรอยก็แจ้งข่าวให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทราบไปด้วย จะได้ไปตามดักจับที่ปลายทางได้
-
หากเป็นคนทั่วไปคงไม่มีทางสะกดรอยตามในทางลับแคบ ๆ แบบนี้ได้ แต่เพราะนี่คือชาโดว เขาตามไปดุจเงา เดินในจังหวะเดียวกับผู้อำนวยการ หายใจในจังหวะเดียวกับผู้อำนวยการ เขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับเงาผนัง เพดานหรือพื้น เมื่อผู้อำนวยการเหลียวกลับมามอง ไม่มีทางที่เหยื่อจะมองเห็นเขา เพราะเขาคือ ชาโดว
อันที่จริงก็ไม่ต้องทำยุ่งยากแบบนั้นหรอก แค่กดโทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ก็ไปรอดักอยุ่ที่ทางออกอุโมงค์แล้ว พอผู้อำนวยการออกไปก็...
ตุ้บ ตั้บ ผลั่ก บึ้ก !
<o>
"ช..ชั้นไม่ยอมจบแค่นี่ แอ้บ!" o>
ผู้อำนวยการโดนจับได้โดยละม่อม อดเห็นไม้ตายของเขาเลย
Lemuel ได้รับชื่อเสียง 40 + 40 + 40
ชาโดว ได้รับ 5 point
Porfast ได้รับชื่อเสียง 40
แคลร์ ได้รับ 0 point
-------------------สิ้นสุดสัปดาห์------------------------